เขามีอาการเหมือนเกร็งทันที
“แม่ผมทำไมหรือ พรีม”
“เธอไม่ชอบพรีมนะคะ คุณยะลืมเหรอ”
คิ้วเขาขมวดหากัน “พรีมคิดมากไปหรือเปล่า”
“ไม่มากล่ะค่ะ เธอไม่ชอบพรีม” หล่อนยืนยัน แล้วหัวเราะแค่นๆ ออกมา “พรีมไม่อยากได้ยินอะไรรู้ไหมคะ คุณยะ”
“อะไรล่ะ”
“เคยได้ยินไหมคะ...คำพูดที่เค้าพูดกัน...ว่าแม่กับเมียน่ะจะทำให้คนกลางลำบากใจ...แล้วพรีมไม่อยากไปโดนแม่คุณกระแทกว่าเพราะพรีมนอนคุยนอน ทูลกับคุณ ทำให้คุณเข้าข้างพรีม”
เขาชะงัก...มองหน้าพิมสิริ หล่อนหัวเราะ บอกหน้าตาเฉยต่อมาว่า “พรีมพูดเล่น”
แต่ก็ทำให้เขาเงียบไป...
แม่กับพรีม...
เฮ้อ...เรื่องนี้ยากนักสำหรับเขา...ทำใจลำบาก...เขาเคยปรึกษากับทัสนาน้องสาวเขา หล่อนบอกว่า
...พี่ยะพร้อมแค่ไหนล่ะคะ หากรักเพียงพอ แม่ก็เข้าใจลูกชายเสมอ ไม่ใช่นาเข้าข้างแม่ แต่นาอยากบอกว่าแม่ยอมได้ทุกอย่าง ทีนี้ก็อยู่กับพรีมละ ว่าจะเข้าใจแม่บ้างไหม เข้าใจพี่ยะแค่ไหน นาไม่เชื่อนะคะว่าต่างไม่ต้องปรับตัวเข้าหากัน คนเราจะมาอยู่ด้วยกัน จะต้องปรับ ไม่ปรับเลยก็ไม่ได้ พรีมท่าทางแข็ง แม่เราก็เป็นผู้หญิงเก่ง คุมงานบริษัทที่พ่อทิ้งไว้ให้ แล้วดูแลเรามาจนป่านนี้ พี่ยะคิดให้ถี่ถ้วนก่อนก็ดีนะคะ...
“นะคะ รอพรีมก่อน” พิมสิริเอ่ยเมื่อชายหนุ่มไม่ยอมพูดอะไรออกมาอีกเลย
“ผมจะรออีกแค่ไหน”
“ก็ทำงานก่อน”
จริงซินะ...หล่อนพูดให้เขาได้คิดแล้วเขาก็ได้โอกาสบอกหล่อนบางเรื่อง
เรื่องนักร้องใหม่ที่เขาอยากจะปั้นเพิ่มมาอีกคน นักร้องหญิง
“ผมจะปั้นเด็กใหม่ เพิ่งจบมาจากมหาวิทยาลัยร้องเพลงดี เข้ารอบสุดท้ายการประกวด เรียกมาเทสต์เสียงกันแล้ว”
เท่านั้นเองพิมสิริก็ชักสีหน้า “ทำไมพรีมไม่รู้เรื่องนี้”
“ผมไม่ได้บอก ไม่อยากให้พรีมกังวลตอนทำเทปอยู่”
“กังวลแน่ๆ ทำไมต้องเป็นนักร้องหญิง”
“เพราะปั้นง่ายกว่า”
“ง่ายกว่าใครคะ” ถามเสียงกระด้าง ความรู้สึกบอกตัวเองว่าเหมือนจะมีคู่แข่งเข้ามาอย่างไรอย่างนั้น
“นักร้องชายไง”
“พรีมไม่อยากให้ปั้นใครมาทับรอยพรีม”
สัตยาหนักใจทันทีแต่เขาไม่ได้พูดอะไรมากนัก
“พรีมตามคุณมานะ คุณยะ...เชื่อมั่นคุณ...จะให้พรีมหมดหวังหรือไงคะ”
หล่อนเท้าความ เขาจำได้ว่าตอนเขาจะออกมานั้นเขาคุยกับพรีมไว้แค่ไหน...แล้วพรีมยอมตามมา...แต่สิ่งหนึ่งที่เขากับพรีมไม่ได้พูดกันตอนนี้ก็คือตอนนั้นซอลต้าเรคคอร์ดเรียกตัวพรีมมาคุยกันเรื่องทำเพลงก็จริง แต่พรีมยังไม่มีโอกาสไปถึงดวงดาว ที่นั่นมีนักร้องมาก คนขวักไขว่ไปหมด พรีมยังไม่มีคิวสำหรับการปั้น เขาเองที่เห็นแววในตัวพรีมได้ยินพลังเสียงของพรีมและมีเพลงที่เขาอยากแต่งให้พรีมร้อง วันที่เกิดปัญหาภายในของการทำงาน เขาตัดสินใจชวนพรีมออกมาเพราะเชื่อว่าเขาทำเพลงให้พรีมได้
แต่ความจริงคือเทปของพรีมชุดแรกไปได้ แต่ชุดอื่นนั้นยังไม่น่าพอใจ
เขาเป็นบริษัทเล็กๆ มีค่าใช้จ่ายแบกรับอยู่ทุกวัน เพราะฉะนั้นต้องหาทางออกลำพังเงินรายได้จากการทำโฆษณาก็มีเข้ามาบ้าง แต่การทำเทปให้นักร้องพร้อมกับทำซีดีด้วยนี้อาศัยเงินมากมายเหลือเกิน นั่นคือเงินของค่าโปรโมท แต่เขาไม่ได้พูดกับพิมสิริข้อนี้
“คุณยะ...อย่ารับใครมาซ้ำรอยพรีมนะ”
หล่อนบอก เขาไม่ได้ตอบอะไร
“ทำเพลงให้พรีมก่อน...”
“ผมมีเหตุผล...”
“พรีมไม่เอา...หรือไม่รักพรีมแล้ว จะเอาคนอื่นมาแทน”
เขาเหนื่อยตรงนี้ พิมสิริชอบเอาเรื่องนี้อ้างเสมอ
“ไม่ใช่นะ พรีม...คิดมากน่า...โอเค เดี๋ยวเราไปด้วยกัน”
เขากำลังจะเรียกเก็บเงินก็มีเสียงเรียกเข้ามือถือของพรีม...เขาเห็นหล่อนเบี่ยงตัวเองหลบ...และหันข้างมาทางเขาแทน ได้ยินเสียงหล่อนเบาๆ
“ค่ะ...ค่ะ...เดี๋ยวพรีมจะไป” ก่อนหล่อนจะบอกกับเขาว่า “คุณยะ พรีมไปกับคุณไม่ได้แล้ว แม่โทร.ให้กลับบ้านนะคะ”
เขาพยักหน้ารับ...เข้าใจเหตุผล ไม่ได้ทักท้วงเอาไว้ ไม่รู้ว่าพิมสิริผ่อนลมหายใจออกมาเบาๆ...ที่เขาเข้าใจง่ายแล้วยังอาสาว่า
“เดี๋ยวผมไปส่งพรีมที่บ้าน”
“ไม่เป็นไรค่ะ พรีมจะรีบไป นั่งแท็กซี่ไปเลย...พรีมไปนะคะ”
หล่อนลุกขึ้นทันทีเหมือนกัน ไม่ได้ดูว่าเขาจ่ายเงินค่าอาหารไปหรือยัง และเขาจะมีท่าทีอย่างไร....หล่อนอยู่นานไม่ได้...จำเป็นต้องออกมา...เพราะหากช้า...เขาคนที่รออาจจะไม่พอใจก็ได้
//////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////
เงาของกระจกที่ติดรายรอบห้องนี้ทำให้เห็นภาพของตัวเขาและตัวหล่อน...เขานอนนิ่งๆ มีหล่อนเกยคางบนอกเขาหลังจากช่วงเวลาอันเร่าร้อนไปแล้ว...
ผู้หญิงที่นอนอยู่กับเขานี้คือพรีม...พิมสิริคนดัง
เขาลูบหัวหล่อนเบาๆ...รู้สึกเอาเองว่าเหมือนลูบหัวหมา...ความคิดแกมเยาะมีต่อมาว่าพรีมก็เหมือนหมาที่ต้องมาตามเสียงเรียกของเขาผู้เป็นเสมือนนายเสมอ
“เป็นไง เปิดตัวเทปใหม่วันนี้”
“ก็ดีนะคะ คุณกฤช”
“แล้วเรื่องที่ฉันชวนล่ะ พรีม”
พิมสิริทำท่าลังเล
“กลับมาเถิด ซอลต้าเรคคอร์ดยังคอยพรีมนะ”
“แต่คุณยะเขาก็ดีกับพรีมนะคะ”
“ดีหรือ” เสียงถามห้าวกระหึ่มในลำคอ “ดีแบบไหน...เมื่อไหร่เธอจะรู้ว่าหมอนั่นทำได้ดีแค่เทปชุดแรกของเธอ เพราะหมดเวลาของมันแล้ว”
“คุณกฤชหมายความว่าไงคะ” พิมสิริถามด้วยความหวั่นใจก่อนจะได้ยินเสียงตอบห้าวๆ ที่บอกถึงความอาฆาตมาดร้าย
“หมดเวลาหมอนั่นทำจองหองอวดดีไง...ฉันอยากเห็นมันซมซานกลับมาง้อของานหรือไม่ก็ทุเรศทุรังไม่มีงานจะทำ”
พิมสิริหน้าเสีย หล่อนห่วงสัตยาอยู่บ้าง แต่หล่อนก็ไม่กล้าพูดไปมากกว่านี้ กลัวคมกฤชไม่พอใจ...เขาจับคางของหล่อนบิดให้อยู่ตรงๆ ที่จะมองเห็นหน้าเขา ไม่กล้าบอกว่าหล่อนเจ็บ...
“ฉันเกลียดหมอนั่น เธอรู้ไหม พรีม”
สาวน้อยร่างโปร่งปราดเปรียวพาตัวเองเข้ามาในตัวบ้านและเจอกับลุงหมูเจ้าบ้านที่ยังไม่ได้ออกไปทำร้าน หล่อนเอ่ยร่าเริงว่า “วันนี้หยุดค่ะ จะมาคุยกับป้านิดซักหน่อยเรื่องให้ออกแบบห้องน้ำ”รอยยิ้มของหล่อนนำพาเอาความสดใสมาสู่ผู้รับทุกคน...อาจจะเพราะวัยและเพราะการมองโลกในแง่ดีของหล่อนด้วยก็เป็นได้ลุงหมูหรือทรงชัยบอกตัวเองว่าได้เห็นสาวน้อยคนนี้นับจากเยาว์วัยได้รู้เห็นในพัฒนาการของการเติบโตนั่นมาโดยตลอด อาจจะเพราะดาวเรืองนั้นแม้จะรักลูกสาวมากแค่ไหนก็ยังเข้มงวดกับเรื่องบางเรื่องกับเดือนพิลาสอยู่มากทีเดียว เขาไม่เคยได้เห็นหรือได้ยินคำบอกเล่าใดๆ ว่าเดือนพิลาสก็เหมือนลูกครึ่งไทยอเมริกันจำนวนหนึ่งที่แข็งกระด้างกับพ่อแม่ทำตัวไม่ค่อยจะน่ารักอะไรแบบนั้น หล่อนน่ารัก เรียนดีประพฤติดี และเขาก็รู้ว่าดาวเรืองต้องการส่งหล่อนกลับไปอยู่เมืองไทยในวันหน้า...แต่ก็ไม่อยากฝืนใจลูกสาว...ตามใจแอนนี่เสมอ ไม่ว่าจะตัดสินใจยังไง เรียนจบแล้ว แอนนี่เป็นผู้ใหญ่แล้ว ลุคส์กับดาวเรืองไม่อยากไปบังคับลูก...เขาเองยังมองไม่เห็นว่าทำไมเดือนพิลาสจะกลับบ้านนอกเสียจากว่าจะโดนทางบ้านยายขอให้กลับนางดวงยายของเดือนพิลาสอยากได้ตัวหลานสาวก
เดือนพิลาส หรือ แอนนี่ ลูก แม่ดาวเรือง กับ พ่อลุคส์ หรือ เจ้ากุ๊ก หลาน ยายดวงเดินทางกลับบ้านช่วงซัมเมอร์ หลังจากเกิดวิกฤต 911 เมื่อปี 2544เธอตกบันไดพลอยโจนเป็น นักร้องหมอลำ เมื่ออินทิรา นักร้องวงพิณเพลินประสบอุบัติเหตุเธอต้องขึ้นเวทีชีวิตจะสนุกสนานเฮฮาแค่ไหนกันหนอ ในนามเดือนเด่น แดนดาวMOONLIGHT STARLANDกับตำนานตำมั่วของยายดวงกับตำนานเพลงหมอลำที่สาวฝรั่งลำได้เสนาะหูด้วยลูกคอสามชั้นช่วงเวลาซัมเมอร์ที่หัวใจเธอเผลอรัก จะทำให้เป็นรักนิรันดร์ไหมถามหาหัวใจ ได้เลยนิยายสนุก ไม่เครียดค่ะ ------------------------------------------------- หญิงสาวสวยอายุประมาณยี่สิบสองก้าวลงจากรถที่มาจอดให้ตรงทางเท้าเข้าสู่ร้านอาหารไทยขนาดใหญ่ที่คืนนี้จะมีการจัดงานเลี้ยงชุมนุมคนไทยที่มาอยู่ในละแวกย่านนี้ แม่ของหล่อน...ดาวเรือง เป็นผู้ประสานงานของงานที่จัดหาเงินหนนี้...เป็นงานหาทุนเพื่อจะส่งกลับไปยังประเทศบ้านเกิด...ก็ที่เมืองไทย ตัวหล่อน เดือนพิลาส เป็นลูกครึ่งไทยอเมริกัน พ่อของหล่อน มิสเตอร์ลุคส์ เป็นวิศวกรที่ถูกส่งไปทำงานที่เมืองไทยก่อนหล่อนจะเกิด แล้วพบแม่ที่เป็นนางพยาบาลเพราะมิสเ
เดือนพิลาสเข้ามา...ข้างหลังร้านชุลมุนเพราะไหนจะส่วนทำอาหาร ไหนจะส่วนแต่งตัว...ที่แบ่งกั้น...เพราะจะมีการแสดง...ที่จริงลุงหมูอยากจะไปจัดที่บ้าน แต่ก็จะไม่สะดวกเรื่องขนย้ายครัวใหญ่ไปด้วย...เพราะนี่เป็นงานระดับชุมนุมคนมาก ไม่ใช่แค่คนกันเองที่จะไปปาร์ตี้ที่บ้าน หล่อนเจอพ่อแล้ว พ่อเข้ามาตามหาหล่อนพอดี...หล่อนสูงไม่เท่าพ่อเพราะพ่อตัวสูงมาก...หล่อนสูงแค่ไหล่พ่อเท่านั้นเอง พ่อโอบกอดหล่อน“พร้อมหรือยัง เหนื่อยไหมลูก”“ไม่เหนื่อยค่ะ เดี๋ยวเปลี่ยนเสื้อผ้าแป๊บ...คิวเพลงแอนนี่มาถึงหรือยัง”หล่อนชอบร้องเพลง...ไม่ถึงขนาดอยากเป็นนักร้องมีเทปเพลงตัวเอง แต่หล่อนก็มีแววทางนี้อยู่พอตัว...หล่อนผลัดเสื้อผ้าชุดแรกออกแล้ว...ชุดสาวอีสาน...แม่เข้ามาพอดี ดาวเรืองพิศมองลูกสาว...แววตาบอกความรักและภูมิใจ“แอนนี่...เร้ว...ได้เวลาพอดี”หล่อนออกมาปรากฏตัวบนหน้าเวทีแล้วขึ้นเพลง “น้องนางบ้านนา” พร้อมกับลีลาที่ซ้อมมาก่อนหน้าแล้ว ก็หล่อนดูจากเทปเพลงของอินทิราในชุดน้องนางบ้านนา...หล่อนทำเลียนแบบอินทิราได้ทุกอย่างทีเดียว...และเพลงนี้หล่อนก็เรียกเสียงปรบมือได้เกรียวกราว...ก่อนจะถอยกลับลงมายังมีเพลงคั่นอีกสามเพลงแล้วจะเป็นคิ
สัตยายืนอยู่ด้านข้างของมุมนี้ มองทอดตาไปบนเวทีที่ยกพื้นขึ้น พิมสิริอยู่บนนั้น อยู่กับความเป็นพรีมที่รู้จักกันติดปากไปทั่วเมือง เขามีส่วนเสริมสร้างหล่อนมาด้วยการชวนหล่อนออกจากค่ายเทปเก่ามาเปิดบริษัทเทปเล็กๆ แล้วให้พรีมได้ทำเพลงชุดแรกจะเรียกว่าเป็นดวงหรือความสามารถก็ยากจะเดาได้ แต่นั่นทำให้บริษัทเล็กๆ ของเขาสามารถผงาดเด่นขึ้นมาได้ พรีมโด่งดังไปทั่วประเทศและนอกประเทศ มีคิวโชว์ร้องเพลง มีงานเสริมเข้ามาและเขาก็สามารถทำรายได้ให้กับบริษัทได้สูงนอกเหนือจากงานอื่นที่รับอยู่...นักร้องเบอร์หนึ่งของบริษัทประสบความสำเร็จก็มีนักร้องคนอื่นเข้ามารอการปั้น...แต่เขายังรีรออยู่ ไม่ใช่เพราะไม่มีเงินทุนแต่เพราะพรีมไม่ยอมพิมสิริคิดว่ามีหล่อนก็เหลือจะพอ…จะมีคนอื่นอีกไม่ได้นะคะ คุณ…เขาไม่อยากขัดใจพรีม...หล่อนขอเขาและหล่อนทำท่าแง่งอน...เขาออกจะเอาใจหล่อน...ไม่เพียงเพราะหล่อนทำรายได้ให้บริษัทแต่เพราะเขารักหล่อนด้วยเขาชวนพรีมออกจากที่เก่าเพราะเรื่องของหัวใจ...เขารักพิมสิริ หวังจะส่งเสริมหล่อน...และความรักก็ดำเนินไปเงียบๆ ไม่เปิดเผยออกนอกหน้า...เขากับหล่อนมีความสัมพันธ์ทางกายกันแล้ว...เว้นแต่ว่ายังไปไม่ถึ
สาวน้อยร่างโปร่งปราดเปรียวพาตัวเองเข้ามาในตัวบ้านและเจอกับลุงหมูเจ้าบ้านที่ยังไม่ได้ออกไปทำร้าน หล่อนเอ่ยร่าเริงว่า “วันนี้หยุดค่ะ จะมาคุยกับป้านิดซักหน่อยเรื่องให้ออกแบบห้องน้ำ”รอยยิ้มของหล่อนนำพาเอาความสดใสมาสู่ผู้รับทุกคน...อาจจะเพราะวัยและเพราะการมองโลกในแง่ดีของหล่อนด้วยก็เป็นได้ลุงหมูหรือทรงชัยบอกตัวเองว่าได้เห็นสาวน้อยคนนี้นับจากเยาว์วัยได้รู้เห็นในพัฒนาการของการเติบโตนั่นมาโดยตลอด อาจจะเพราะดาวเรืองนั้นแม้จะรักลูกสาวมากแค่ไหนก็ยังเข้มงวดกับเรื่องบางเรื่องกับเดือนพิลาสอยู่มากทีเดียว เขาไม่เคยได้เห็นหรือได้ยินคำบอกเล่าใดๆ ว่าเดือนพิลาสก็เหมือนลูกครึ่งไทยอเมริกันจำนวนหนึ่งที่แข็งกระด้างกับพ่อแม่ทำตัวไม่ค่อยจะน่ารักอะไรแบบนั้น หล่อนน่ารัก เรียนดีประพฤติดี และเขาก็รู้ว่าดาวเรืองต้องการส่งหล่อนกลับไปอยู่เมืองไทยในวันหน้า...แต่ก็ไม่อยากฝืนใจลูกสาว...ตามใจแอนนี่เสมอ ไม่ว่าจะตัดสินใจยังไง เรียนจบแล้ว แอนนี่เป็นผู้ใหญ่แล้ว ลุคส์กับดาวเรืองไม่อยากไปบังคับลูก...เขาเองยังมองไม่เห็นว่าทำไมเดือนพิลาสจะกลับบ้านนอกเสียจากว่าจะโดนทางบ้านยายขอให้กลับนางดวงยายของเดือนพิลาสอยากได้ตัวหลานสาวก
เขามีอาการเหมือนเกร็งทันที“แม่ผมทำไมหรือ พรีม”“เธอไม่ชอบพรีมนะคะ คุณยะลืมเหรอ”คิ้วเขาขมวดหากัน “พรีมคิดมากไปหรือเปล่า”“ไม่มากล่ะค่ะ เธอไม่ชอบพรีม” หล่อนยืนยัน แล้วหัวเราะแค่นๆ ออกมา “พรีมไม่อยากได้ยินอะไรรู้ไหมคะ คุณยะ”“อะไรล่ะ”“เคยได้ยินไหมคะ...คำพูดที่เค้าพูดกัน...ว่าแม่กับเมียน่ะจะทำให้คนกลางลำบากใจ...แล้วพรีมไม่อยากไปโดนแม่คุณกระแทกว่าเพราะพรีมนอนคุยนอน ทูลกับคุณ ทำให้คุณเข้าข้างพรีม”เขาชะงัก...มองหน้าพิมสิริ หล่อนหัวเราะ บอกหน้าตาเฉยต่อมาว่า “พรีมพูดเล่น”แต่ก็ทำให้เขาเงียบไป...แม่กับพรีม...เฮ้อ...เรื่องนี้ยากนักสำหรับเขา...ทำใจลำบาก...เขาเคยปรึกษากับทัสนาน้องสาวเขา หล่อนบอกว่า...พี่ยะพร้อมแค่ไหนล่ะคะ หากรักเพียงพอ แม่ก็เข้าใจลูกชายเสมอ ไม่ใช่นาเข้าข้างแม่ แต่นาอยากบอกว่าแม่ยอมได้ทุกอย่าง ทีนี้ก็อยู่กับพรีมละ ว่าจะเข้าใจแม่บ้างไหม เข้าใจพี่ยะแค่ไหน นาไม่เชื่อนะคะว่าต่างไม่ต้องปรับตัวเข้าหากัน คนเราจะมาอยู่ด้วยกัน จะต้องปรับ ไม่ปรับเลยก็ไม่ได้ พรีมท่าทางแข็ง แม่เราก็เป็นผู้หญิงเก่ง คุมงานบริษัทที่พ่อทิ้งไว้ให้ แล้วดูแลเรามาจนป่านนี้ พี่ยะคิดให้ถี่ถ้วนก่อนก็ดีนะคะ...“นะค
สัตยายืนอยู่ด้านข้างของมุมนี้ มองทอดตาไปบนเวทีที่ยกพื้นขึ้น พิมสิริอยู่บนนั้น อยู่กับความเป็นพรีมที่รู้จักกันติดปากไปทั่วเมือง เขามีส่วนเสริมสร้างหล่อนมาด้วยการชวนหล่อนออกจากค่ายเทปเก่ามาเปิดบริษัทเทปเล็กๆ แล้วให้พรีมได้ทำเพลงชุดแรกจะเรียกว่าเป็นดวงหรือความสามารถก็ยากจะเดาได้ แต่นั่นทำให้บริษัทเล็กๆ ของเขาสามารถผงาดเด่นขึ้นมาได้ พรีมโด่งดังไปทั่วประเทศและนอกประเทศ มีคิวโชว์ร้องเพลง มีงานเสริมเข้ามาและเขาก็สามารถทำรายได้ให้กับบริษัทได้สูงนอกเหนือจากงานอื่นที่รับอยู่...นักร้องเบอร์หนึ่งของบริษัทประสบความสำเร็จก็มีนักร้องคนอื่นเข้ามารอการปั้น...แต่เขายังรีรออยู่ ไม่ใช่เพราะไม่มีเงินทุนแต่เพราะพรีมไม่ยอมพิมสิริคิดว่ามีหล่อนก็เหลือจะพอ…จะมีคนอื่นอีกไม่ได้นะคะ คุณ…เขาไม่อยากขัดใจพรีม...หล่อนขอเขาและหล่อนทำท่าแง่งอน...เขาออกจะเอาใจหล่อน...ไม่เพียงเพราะหล่อนทำรายได้ให้บริษัทแต่เพราะเขารักหล่อนด้วยเขาชวนพรีมออกจากที่เก่าเพราะเรื่องของหัวใจ...เขารักพิมสิริ หวังจะส่งเสริมหล่อน...และความรักก็ดำเนินไปเงียบๆ ไม่เปิดเผยออกนอกหน้า...เขากับหล่อนมีความสัมพันธ์ทางกายกันแล้ว...เว้นแต่ว่ายังไปไม่ถึ
เดือนพิลาสเข้ามา...ข้างหลังร้านชุลมุนเพราะไหนจะส่วนทำอาหาร ไหนจะส่วนแต่งตัว...ที่แบ่งกั้น...เพราะจะมีการแสดง...ที่จริงลุงหมูอยากจะไปจัดที่บ้าน แต่ก็จะไม่สะดวกเรื่องขนย้ายครัวใหญ่ไปด้วย...เพราะนี่เป็นงานระดับชุมนุมคนมาก ไม่ใช่แค่คนกันเองที่จะไปปาร์ตี้ที่บ้าน หล่อนเจอพ่อแล้ว พ่อเข้ามาตามหาหล่อนพอดี...หล่อนสูงไม่เท่าพ่อเพราะพ่อตัวสูงมาก...หล่อนสูงแค่ไหล่พ่อเท่านั้นเอง พ่อโอบกอดหล่อน“พร้อมหรือยัง เหนื่อยไหมลูก”“ไม่เหนื่อยค่ะ เดี๋ยวเปลี่ยนเสื้อผ้าแป๊บ...คิวเพลงแอนนี่มาถึงหรือยัง”หล่อนชอบร้องเพลง...ไม่ถึงขนาดอยากเป็นนักร้องมีเทปเพลงตัวเอง แต่หล่อนก็มีแววทางนี้อยู่พอตัว...หล่อนผลัดเสื้อผ้าชุดแรกออกแล้ว...ชุดสาวอีสาน...แม่เข้ามาพอดี ดาวเรืองพิศมองลูกสาว...แววตาบอกความรักและภูมิใจ“แอนนี่...เร้ว...ได้เวลาพอดี”หล่อนออกมาปรากฏตัวบนหน้าเวทีแล้วขึ้นเพลง “น้องนางบ้านนา” พร้อมกับลีลาที่ซ้อมมาก่อนหน้าแล้ว ก็หล่อนดูจากเทปเพลงของอินทิราในชุดน้องนางบ้านนา...หล่อนทำเลียนแบบอินทิราได้ทุกอย่างทีเดียว...และเพลงนี้หล่อนก็เรียกเสียงปรบมือได้เกรียวกราว...ก่อนจะถอยกลับลงมายังมีเพลงคั่นอีกสามเพลงแล้วจะเป็นคิ
เดือนพิลาส หรือ แอนนี่ ลูก แม่ดาวเรือง กับ พ่อลุคส์ หรือ เจ้ากุ๊ก หลาน ยายดวงเดินทางกลับบ้านช่วงซัมเมอร์ หลังจากเกิดวิกฤต 911 เมื่อปี 2544เธอตกบันไดพลอยโจนเป็น นักร้องหมอลำ เมื่ออินทิรา นักร้องวงพิณเพลินประสบอุบัติเหตุเธอต้องขึ้นเวทีชีวิตจะสนุกสนานเฮฮาแค่ไหนกันหนอ ในนามเดือนเด่น แดนดาวMOONLIGHT STARLANDกับตำนานตำมั่วของยายดวงกับตำนานเพลงหมอลำที่สาวฝรั่งลำได้เสนาะหูด้วยลูกคอสามชั้นช่วงเวลาซัมเมอร์ที่หัวใจเธอเผลอรัก จะทำให้เป็นรักนิรันดร์ไหมถามหาหัวใจ ได้เลยนิยายสนุก ไม่เครียดค่ะ ------------------------------------------------- หญิงสาวสวยอายุประมาณยี่สิบสองก้าวลงจากรถที่มาจอดให้ตรงทางเท้าเข้าสู่ร้านอาหารไทยขนาดใหญ่ที่คืนนี้จะมีการจัดงานเลี้ยงชุมนุมคนไทยที่มาอยู่ในละแวกย่านนี้ แม่ของหล่อน...ดาวเรือง เป็นผู้ประสานงานของงานที่จัดหาเงินหนนี้...เป็นงานหาทุนเพื่อจะส่งกลับไปยังประเทศบ้านเกิด...ก็ที่เมืองไทย ตัวหล่อน เดือนพิลาส เป็นลูกครึ่งไทยอเมริกัน พ่อของหล่อน มิสเตอร์ลุคส์ เป็นวิศวกรที่ถูกส่งไปทำงานที่เมืองไทยก่อนหล่อนจะเกิด แล้วพบแม่ที่เป็นนางพยาบาลเพราะมิสเ