เดือนพิลาส หรือ แอนนี่ ลูก แม่ดาวเรือง กับ พ่อลุคส์ หรือ เจ้ากุ๊ก หลาน ยายดวง
เดินทางกลับบ้านช่วงซัมเมอร์ หลังจากเกิดวิกฤต 911 เมื่อปี 2544
เธอตกบันไดพลอยโจนเป็น นักร้องหมอลำ เมื่ออินทิรา นักร้องวงพิณเพลินประสบอุบัติเหตุ
เธอต้องขึ้นเวที
ชีวิตจะสนุกสนานเฮฮาแค่ไหนกันหนอ ในนามเดือนเด่น แดนดาว
MOONLIGHT STARLAND
กับตำนานตำมั่วของยายดวง
กับตำนานเพลงหมอลำที่สาวฝรั่งลำได้เสนาะหูด้วยลูกคอสามชั้น
ช่วงเวลาซัมเมอร์ที่หัวใจเธอเผลอรัก จะทำให้เป็นรักนิรันดร์ไหม
ถามหาหัวใจ ได้เลย
นิยายสนุก ไม่เครียดค่ะ
-------------------------------------------------
หญิงสาวสวยอายุประมาณยี่สิบสองก้าวลงจากรถที่มาจอดให้ตรงทางเท้าเข้าสู่ร้านอาหารไทยขนาดใหญ่ที่คืนนี้จะมีการจัดงานเลี้ยงชุมนุมคนไทยที่มาอยู่ในละแวกย่านนี้ แม่ของหล่อน...ดาวเรือง เป็นผู้ประสานงานของงานที่จัดหาเงินหนนี้...เป็นงานหาทุนเพื่อจะส่งกลับไปยังประเทศบ้านเกิด...ก็ที่เมืองไทย
ตัวหล่อน เดือนพิลาส เป็นลูกครึ่งไทยอเมริกัน พ่อของหล่อน มิสเตอร์ลุคส์ เป็นวิศวกรที่ถูกส่งไปทำงานที่เมืองไทยก่อนหล่อนจะเกิด แล้วพบแม่ที่เป็นนางพยาบาลเพราะมิสเตอร์ลุคส์มีเหตุต้องเข้าโรงพยาบาลเรื่องไส้ติ่งอักเสบกะทันหันและแม่เป็นพยาบาลที่ดูแลพ่อตอนนั้นจนสานต่อเป็นความรักต่อกัน พ่อกับแม่แต่งงานกันเมื่อยี่สิบสามปีก่อน...โดยไม่ผ่านความเห็นชอบเต็มร้อยของยายหล่อน นางดวง เดชขาว...
นางดวงหรือยายดวงของหล่อนไม่ชอบฝรั่ง
...ไอ้เจ้ากุ๊กมันเป็นพวกต่างชาติ เป็นเมียฝาหรั่ง ดีตรงไหน...
ยายไม่เคยเรียกชื่อพ่อได้ถูกต้องสักหน...จากลุคส์เป็นกุ๊กเสมอ บางทีก็มีการต่อเติมว่า “เจ้ากุ๊กไก่”
พ่อรู้ตรงนั้นเหมือนกันแต่พ่อเป็นคนอารมณ์ดี มีอารมณ์ขันมากมายทำให้พ่อมองยายเหมือนมองหญิงแก่ที่ตลก และยายก็เป็นแบบนั้นจริงๆ ด้วย เพราะยายเท่าที่เดือนพิลาสรู้จักเป็นคนตลกมีเรื่องให้หัวเราะมากมาย...บางเรื่องหล่อนก็เข้าใจแบบไม่ลึกซึ้งแต่ก็ได้หัวเราะเสมอ
มีลุงหล่อน...ลุงวีระที่บอกว่า
...มีผัวฝาหรั่งน่ะเท่ออกนะ แม่ ทำตัวทันซาหมัยหน่อย ฝาหรั่งยังไงก็ไม่ใช่มะละกอ เสี่ยวบ้านเฮา...
ลุงอีกคนมีอารมณ์ขันร้ายกาจพอกันกับยาย...และลุงยังเป็นศิลปิน...แม่บอกว่า
...เกือบจะโดดเดี่ยวอยู่แล้ว แต่ดีว่าเอาจริงเอาจัง...
ลุงเคยเป็นครูสอนดนตรีในโรงเรียนมัธยมมาก่อนเพราะจบทางด้านนี้มา แต่ลุงฝันไปไกลกว่านั้น ลุงฝันจะมีวงดนตรีของตัวเอง...จากวงเล็กๆ ที่เดี๋ยวนี้แม่ก็บอกว่ายังเป็นวงเล็กๆ อยู่ ลุงก็สร้างความฝันได้ด้วยการทำวง “พิณเพลิน” ร้องเพลงหมอลำ ลูกทุ่ง...และล่าสุดหล่อนก็ได้ยินว่าลุงทำเพลงที่เรียกว่าเพลงขแมร์ด้วย..พวกร็อคขแมร์ที่กำลังเป็นวงโด่งดังทางเมืองไทย
ที่บ้านมีเทปเพลงจากเมืองไทยมากมาย แน่ละว่ามีเทปเพลงของบริษัทลุงรวมอยู่ด้วย
หนึ่งเพลงในอัลบั้มเพลงร็อคจากวงพิณเพลินคือเพลง “น้องนางบ้านนา”...มีอินทิรานักร้องสาวของวงเป็นนักร้อง...เดือนพิลาสจะร้องเพลงน้องนางบ้านนาหนึ่งในสองเพลงโชว์คืนนี้ อีกเพลง...เป็นเพลงชื่อ “ถามหาหัวใจ” เพลงแนวป๊อบของนักร้องดังอีกคนของเมืองไทย...เพลงของ พรีม หรือ พิมสิริ
หล่อนชอบเนื้อเพลงเพลงนั่นมากทีเดียว
คนเขียนเพลงเขียนเนื้อเพลงได้ดีมาก ๆ...
ตัวนักร้องสาวคนร้องก็สวย แต่เสียงก็ยังไม่ค่อยดีนัก...อาศัยว่าเพลงโดนใจเลยโด่งดังมาก...หล่อนมีเทปเพลงเพลงนี้หล่อนซื้อมาดู...ดูชื่อคนแต่งเพลง...เขาลงชื่อสั้นๆ ไว้เพียงว่า “สัตยา” ไม่มีนามสกุลต่อท้ายอะไรเลย...ไม่รู้แน่ว่าเป็นแค่นามปากกาหรือชื่อจริง แต่เพลงในอัลบั้ม พรีม...พิมพ์ใจ...ก็ปรากฏชื่อนี้แต่งเพลงด้วยกันรวมสี่เพลง
หล่อนชอบทุกเพลง...แต่เพลงที่เป็นชื่ออัลบั้มเป็นเพลงชอบสุดๆ
หล่อนจะร้องโชว์ในงานนี้สองเพลง...เตรียมเสื้อผ้ามาด้วยกันสองชุด...ชุดแรกหล่อนจะแต่งชุดผ้าซิ่นแค่เข่าและเสื้อแขนกระบอก...มีผ้าแถบคาดทับ...ชุดที่ยายส่งมาให้เมื่อตอนสงกรานต์ไปทำบุญที่วัดไทย หล่อนนุ่งผ้าซิ่นยาวไม่ถนัด
นัก และพอดีกับว่าชุดแบบนี้เป็นชุดทางอีสานแบบหนึ่ง...ก็หล่อนเป็นสาวอีสาน...แม่เป็นสาวอุบล...มาอยู่ไกลถึงนิวยอร์กก็ใช่ว่าจะทำให้หล่อนเปลี่ยนแปลงเป็นอื่น ยังนึกถึงความเป็นลูกไทย...แม้สัญชาติของหล่อนจะไม่ใช่แล้วก็ตามที หล่อนมีสัญชาติอเมริกันตามพ่อ และเพราะว่าหล่อนเกิดที่นี่ด้วย
ลูกแม่ดาวเรือง หลานยายดวง...จะเสียชื่อได้อย่างไรกัน
คืนนี้ร้องสองเพลง...จะร้องเพลง “น้องนางบ้านนา” นั่นก่อนแล้วค่อยร้องเพลง “ถามหาหัวใจ”...
หล่อนพร้อมแล้ว เดินเข้าทางหลังร้าน...เจอกับเพื่อนแม่...ลุงหมู...เจ้าของร้านนี้...ชายวัยแก่กว่าแม่สักห้าปีเห็นจะได้ ปีนี้แม่ดาวเรืองของหล่อนอายุสี่สิบห้า ลุงหมูก็ประมาณห้าสิบ เขาแต่งงานแล้ว มีภรรยาแต่ไม่มีลูก สนิทกับพ่อแม่หล่อนและพลอยมาถึงหล่อนด้วย...เพราะเขาเห็นหล่อนมาแต่เล็กๆ...เขามาปักหลักที่นิวยอร์กนานแล้วเช่นกัน ทำร้านอาหารจนเลื่องชื่อรวมทั้งเป็นที่ชุมนุมของผู้คนชาวไทย ทั้งรุ่นเก๋าและรุ่นเอ๊าะๆ ที่ทั้งมาเรียนและมาทำงานที่นี่ หล่อนหอบหิ้วถุงใส่ชุดเสื้อผ้ามาด้วย
“มาช้าไปนิดค่ะ ลุงหมู เพราะแอนนี่มีงานเข้ามาด่วน”
ตอนนี้หล่อนกำลังฝึกงานอยู่กับสำนักงานแห่งหนึ่งทางด้านสถาปัตยกรรม และอาจจะทำงานที่นี่เลย หล่อนยังไม่ได้วางแผนไว้มากนัก...เพราะรับปากกับยายว่าซัมเมอร์ปีนี้หล่อนจะกลับเมืองไทยอีกหน...เรียนจบ...หมดช่วงการฝึกงาน หล่อนไม่ต้องรีบร้อนกลับมาก็ได้...ยายอยากให้หล่อนลองอยู่เมืองไทยนานๆ สักหน่อย
“คุยกับลูกค้ากว่าจะลงตัว”
งานที่หล่อนทำเกี่ยวกับลูกค้าที่มีเงิน...และที่สำคัญทุกคนพกพาความเป็นตัวของตัวเองมาเต็มเปี่ยม เดือนพิลาสไม่อยากเรียกสิ่งนั้นว่าเป็นการเอาแต่ใจตัวเอง เพราะโดยนิสัยหล่อนเป็นคนประนีประนอมและมองในแง่ดีเสมอๆ
ลุงหมูของหล่อนหัวเราะฮ่า ๆ “คนมันมีกะตังค์ แล้วมันก็อยากได้อะไรแบบที่เรียกว่าตามหลักการหรือความสวยงามมันเป็นไปไม่ได้ใช่ไหม”
“นั่นแหละใช่เลยค่ะ”
“ป้านิดเค้ารอให้แอนนี่ไปทำห้องน้ำใหม่ให้นะ”
“ห้องน้ำหรือคะ” หล่อนหัวเราะคิกคัก “ได้เลย...งานถนัด...จะเอาแบบไหนดีคะ...”
“เอาแบบอาบเหมือนกลับไปยืนอาบกลางแจ้งบ้านเรา”
หล่อนทำตาโต “ไหวหรือคะ ตอนอากาศหนาวๆ...ได้หนาวตายกันพอดี แต่แอนนี่พอทำให้ได้นะคะ...ห้องน้ำกลางแจ้ง...แต่มีข้อแม้ข้อเดียว”
“อะไร”
“อย่าไปทำกลางแจ้งจริงๆ...หลบๆ ไว้ชั้นบน...แล้วทำต่อออกไป...งานนี้แอนนี่รับอยู่แล้ว”
เพราะลุงหมูคงจะถวิลหาชีวิตเมืองไทยนั่นเอง...เหมือนแม่หล่อน...หลายหนที่หล่อนฟังแม่เล่าเรื่องอาบน้ำข้างบ้าน...ให้ตาย...เดือนพิลาสบอกตัวเอง...หล่อนนึกภาพนั้นไม่ออก
...บ้านเราก็มีห้องน้ำ แต่แม่เป็นคนต่างจังหวัดใช่ไหม ตัวบ้านมีอาณาบริเวณ มีบ่อน้ำใหญ่ๆ มีท่อน้ำแบบโยก ต้องดูจากภาพ...
แต่ดูจากภาพแล้วก็ยังดูไม่ออกอยู่นั่นเอง
“ไปไป๊ เดี๋ยวก็ได้คิวร้องเพลง”
เดือนพิลาสเข้ามา...ข้างหลังร้านชุลมุนเพราะไหนจะส่วนทำอาหาร ไหนจะส่วนแต่งตัว...ที่แบ่งกั้น...เพราะจะมีการแสดง...ที่จริงลุงหมูอยากจะไปจัดที่บ้าน แต่ก็จะไม่สะดวกเรื่องขนย้ายครัวใหญ่ไปด้วย...เพราะนี่เป็นงานระดับชุมนุมคนมาก ไม่ใช่แค่คนกันเองที่จะไปปาร์ตี้ที่บ้าน หล่อนเจอพ่อแล้ว พ่อเข้ามาตามหาหล่อนพอดี...หล่อนสูงไม่เท่าพ่อเพราะพ่อตัวสูงมาก...หล่อนสูงแค่ไหล่พ่อเท่านั้นเอง พ่อโอบกอดหล่อน“พร้อมหรือยัง เหนื่อยไหมลูก”“ไม่เหนื่อยค่ะ เดี๋ยวเปลี่ยนเสื้อผ้าแป๊บ...คิวเพลงแอนนี่มาถึงหรือยัง”หล่อนชอบร้องเพลง...ไม่ถึงขนาดอยากเป็นนักร้องมีเทปเพลงตัวเอง แต่หล่อนก็มีแววทางนี้อยู่พอตัว...หล่อนผลัดเสื้อผ้าชุดแรกออกแล้ว...ชุดสาวอีสาน...แม่เข้ามาพอดี ดาวเรืองพิศมองลูกสาว...แววตาบอกความรักและภูมิใจ“แอนนี่...เร้ว...ได้เวลาพอดี”หล่อนออกมาปรากฏตัวบนหน้าเวทีแล้วขึ้นเพลง “น้องนางบ้านนา” พร้อมกับลีลาที่ซ้อมมาก่อนหน้าแล้ว ก็หล่อนดูจากเทปเพลงของอินทิราในชุดน้องนางบ้านนา...หล่อนทำเลียนแบบอินทิราได้ทุกอย่างทีเดียว...และเพลงนี้หล่อนก็เรียกเสียงปรบมือได้เกรียวกราว...ก่อนจะถอยกลับลงมายังมีเพลงคั่นอีกสามเพลงแล้วจะเป็นคิ
สัตยายืนอยู่ด้านข้างของมุมนี้ มองทอดตาไปบนเวทีที่ยกพื้นขึ้น พิมสิริอยู่บนนั้น อยู่กับความเป็นพรีมที่รู้จักกันติดปากไปทั่วเมือง เขามีส่วนเสริมสร้างหล่อนมาด้วยการชวนหล่อนออกจากค่ายเทปเก่ามาเปิดบริษัทเทปเล็กๆ แล้วให้พรีมได้ทำเพลงชุดแรกจะเรียกว่าเป็นดวงหรือความสามารถก็ยากจะเดาได้ แต่นั่นทำให้บริษัทเล็กๆ ของเขาสามารถผงาดเด่นขึ้นมาได้ พรีมโด่งดังไปทั่วประเทศและนอกประเทศ มีคิวโชว์ร้องเพลง มีงานเสริมเข้ามาและเขาก็สามารถทำรายได้ให้กับบริษัทได้สูงนอกเหนือจากงานอื่นที่รับอยู่...นักร้องเบอร์หนึ่งของบริษัทประสบความสำเร็จก็มีนักร้องคนอื่นเข้ามารอการปั้น...แต่เขายังรีรออยู่ ไม่ใช่เพราะไม่มีเงินทุนแต่เพราะพรีมไม่ยอมพิมสิริคิดว่ามีหล่อนก็เหลือจะพอ…จะมีคนอื่นอีกไม่ได้นะคะ คุณ…เขาไม่อยากขัดใจพรีม...หล่อนขอเขาและหล่อนทำท่าแง่งอน...เขาออกจะเอาใจหล่อน...ไม่เพียงเพราะหล่อนทำรายได้ให้บริษัทแต่เพราะเขารักหล่อนด้วยเขาชวนพรีมออกจากที่เก่าเพราะเรื่องของหัวใจ...เขารักพิมสิริ หวังจะส่งเสริมหล่อน...และความรักก็ดำเนินไปเงียบๆ ไม่เปิดเผยออกนอกหน้า...เขากับหล่อนมีความสัมพันธ์ทางกายกันแล้ว...เว้นแต่ว่ายังไปไม่ถึ
เขามีอาการเหมือนเกร็งทันที“แม่ผมทำไมหรือ พรีม”“เธอไม่ชอบพรีมนะคะ คุณยะลืมเหรอ”คิ้วเขาขมวดหากัน “พรีมคิดมากไปหรือเปล่า”“ไม่มากล่ะค่ะ เธอไม่ชอบพรีม” หล่อนยืนยัน แล้วหัวเราะแค่นๆ ออกมา “พรีมไม่อยากได้ยินอะไรรู้ไหมคะ คุณยะ”“อะไรล่ะ”“เคยได้ยินไหมคะ...คำพูดที่เค้าพูดกัน...ว่าแม่กับเมียน่ะจะทำให้คนกลางลำบากใจ...แล้วพรีมไม่อยากไปโดนแม่คุณกระแทกว่าเพราะพรีมนอนคุยนอน ทูลกับคุณ ทำให้คุณเข้าข้างพรีม”เขาชะงัก...มองหน้าพิมสิริ หล่อนหัวเราะ บอกหน้าตาเฉยต่อมาว่า “พรีมพูดเล่น”แต่ก็ทำให้เขาเงียบไป...แม่กับพรีม...เฮ้อ...เรื่องนี้ยากนักสำหรับเขา...ทำใจลำบาก...เขาเคยปรึกษากับทัสนาน้องสาวเขา หล่อนบอกว่า...พี่ยะพร้อมแค่ไหนล่ะคะ หากรักเพียงพอ แม่ก็เข้าใจลูกชายเสมอ ไม่ใช่นาเข้าข้างแม่ แต่นาอยากบอกว่าแม่ยอมได้ทุกอย่าง ทีนี้ก็อยู่กับพรีมละ ว่าจะเข้าใจแม่บ้างไหม เข้าใจพี่ยะแค่ไหน นาไม่เชื่อนะคะว่าต่างไม่ต้องปรับตัวเข้าหากัน คนเราจะมาอยู่ด้วยกัน จะต้องปรับ ไม่ปรับเลยก็ไม่ได้ พรีมท่าทางแข็ง แม่เราก็เป็นผู้หญิงเก่ง คุมงานบริษัทที่พ่อทิ้งไว้ให้ แล้วดูแลเรามาจนป่านนี้ พี่ยะคิดให้ถี่ถ้วนก่อนก็ดีนะคะ...“นะค
สาวน้อยร่างโปร่งปราดเปรียวพาตัวเองเข้ามาในตัวบ้านและเจอกับลุงหมูเจ้าบ้านที่ยังไม่ได้ออกไปทำร้าน หล่อนเอ่ยร่าเริงว่า “วันนี้หยุดค่ะ จะมาคุยกับป้านิดซักหน่อยเรื่องให้ออกแบบห้องน้ำ”รอยยิ้มของหล่อนนำพาเอาความสดใสมาสู่ผู้รับทุกคน...อาจจะเพราะวัยและเพราะการมองโลกในแง่ดีของหล่อนด้วยก็เป็นได้ลุงหมูหรือทรงชัยบอกตัวเองว่าได้เห็นสาวน้อยคนนี้นับจากเยาว์วัยได้รู้เห็นในพัฒนาการของการเติบโตนั่นมาโดยตลอด อาจจะเพราะดาวเรืองนั้นแม้จะรักลูกสาวมากแค่ไหนก็ยังเข้มงวดกับเรื่องบางเรื่องกับเดือนพิลาสอยู่มากทีเดียว เขาไม่เคยได้เห็นหรือได้ยินคำบอกเล่าใดๆ ว่าเดือนพิลาสก็เหมือนลูกครึ่งไทยอเมริกันจำนวนหนึ่งที่แข็งกระด้างกับพ่อแม่ทำตัวไม่ค่อยจะน่ารักอะไรแบบนั้น หล่อนน่ารัก เรียนดีประพฤติดี และเขาก็รู้ว่าดาวเรืองต้องการส่งหล่อนกลับไปอยู่เมืองไทยในวันหน้า...แต่ก็ไม่อยากฝืนใจลูกสาว...ตามใจแอนนี่เสมอ ไม่ว่าจะตัดสินใจยังไง เรียนจบแล้ว แอนนี่เป็นผู้ใหญ่แล้ว ลุคส์กับดาวเรืองไม่อยากไปบังคับลูก...เขาเองยังมองไม่เห็นว่าทำไมเดือนพิลาสจะกลับบ้านนอกเสียจากว่าจะโดนทางบ้านยายขอให้กลับนางดวงยายของเดือนพิลาสอยากได้ตัวหลานสาวก
สาวน้อยร่างโปร่งปราดเปรียวพาตัวเองเข้ามาในตัวบ้านและเจอกับลุงหมูเจ้าบ้านที่ยังไม่ได้ออกไปทำร้าน หล่อนเอ่ยร่าเริงว่า “วันนี้หยุดค่ะ จะมาคุยกับป้านิดซักหน่อยเรื่องให้ออกแบบห้องน้ำ”รอยยิ้มของหล่อนนำพาเอาความสดใสมาสู่ผู้รับทุกคน...อาจจะเพราะวัยและเพราะการมองโลกในแง่ดีของหล่อนด้วยก็เป็นได้ลุงหมูหรือทรงชัยบอกตัวเองว่าได้เห็นสาวน้อยคนนี้นับจากเยาว์วัยได้รู้เห็นในพัฒนาการของการเติบโตนั่นมาโดยตลอด อาจจะเพราะดาวเรืองนั้นแม้จะรักลูกสาวมากแค่ไหนก็ยังเข้มงวดกับเรื่องบางเรื่องกับเดือนพิลาสอยู่มากทีเดียว เขาไม่เคยได้เห็นหรือได้ยินคำบอกเล่าใดๆ ว่าเดือนพิลาสก็เหมือนลูกครึ่งไทยอเมริกันจำนวนหนึ่งที่แข็งกระด้างกับพ่อแม่ทำตัวไม่ค่อยจะน่ารักอะไรแบบนั้น หล่อนน่ารัก เรียนดีประพฤติดี และเขาก็รู้ว่าดาวเรืองต้องการส่งหล่อนกลับไปอยู่เมืองไทยในวันหน้า...แต่ก็ไม่อยากฝืนใจลูกสาว...ตามใจแอนนี่เสมอ ไม่ว่าจะตัดสินใจยังไง เรียนจบแล้ว แอนนี่เป็นผู้ใหญ่แล้ว ลุคส์กับดาวเรืองไม่อยากไปบังคับลูก...เขาเองยังมองไม่เห็นว่าทำไมเดือนพิลาสจะกลับบ้านนอกเสียจากว่าจะโดนทางบ้านยายขอให้กลับนางดวงยายของเดือนพิลาสอยากได้ตัวหลานสาวก
เขามีอาการเหมือนเกร็งทันที“แม่ผมทำไมหรือ พรีม”“เธอไม่ชอบพรีมนะคะ คุณยะลืมเหรอ”คิ้วเขาขมวดหากัน “พรีมคิดมากไปหรือเปล่า”“ไม่มากล่ะค่ะ เธอไม่ชอบพรีม” หล่อนยืนยัน แล้วหัวเราะแค่นๆ ออกมา “พรีมไม่อยากได้ยินอะไรรู้ไหมคะ คุณยะ”“อะไรล่ะ”“เคยได้ยินไหมคะ...คำพูดที่เค้าพูดกัน...ว่าแม่กับเมียน่ะจะทำให้คนกลางลำบากใจ...แล้วพรีมไม่อยากไปโดนแม่คุณกระแทกว่าเพราะพรีมนอนคุยนอน ทูลกับคุณ ทำให้คุณเข้าข้างพรีม”เขาชะงัก...มองหน้าพิมสิริ หล่อนหัวเราะ บอกหน้าตาเฉยต่อมาว่า “พรีมพูดเล่น”แต่ก็ทำให้เขาเงียบไป...แม่กับพรีม...เฮ้อ...เรื่องนี้ยากนักสำหรับเขา...ทำใจลำบาก...เขาเคยปรึกษากับทัสนาน้องสาวเขา หล่อนบอกว่า...พี่ยะพร้อมแค่ไหนล่ะคะ หากรักเพียงพอ แม่ก็เข้าใจลูกชายเสมอ ไม่ใช่นาเข้าข้างแม่ แต่นาอยากบอกว่าแม่ยอมได้ทุกอย่าง ทีนี้ก็อยู่กับพรีมละ ว่าจะเข้าใจแม่บ้างไหม เข้าใจพี่ยะแค่ไหน นาไม่เชื่อนะคะว่าต่างไม่ต้องปรับตัวเข้าหากัน คนเราจะมาอยู่ด้วยกัน จะต้องปรับ ไม่ปรับเลยก็ไม่ได้ พรีมท่าทางแข็ง แม่เราก็เป็นผู้หญิงเก่ง คุมงานบริษัทที่พ่อทิ้งไว้ให้ แล้วดูแลเรามาจนป่านนี้ พี่ยะคิดให้ถี่ถ้วนก่อนก็ดีนะคะ...“นะค
สัตยายืนอยู่ด้านข้างของมุมนี้ มองทอดตาไปบนเวทีที่ยกพื้นขึ้น พิมสิริอยู่บนนั้น อยู่กับความเป็นพรีมที่รู้จักกันติดปากไปทั่วเมือง เขามีส่วนเสริมสร้างหล่อนมาด้วยการชวนหล่อนออกจากค่ายเทปเก่ามาเปิดบริษัทเทปเล็กๆ แล้วให้พรีมได้ทำเพลงชุดแรกจะเรียกว่าเป็นดวงหรือความสามารถก็ยากจะเดาได้ แต่นั่นทำให้บริษัทเล็กๆ ของเขาสามารถผงาดเด่นขึ้นมาได้ พรีมโด่งดังไปทั่วประเทศและนอกประเทศ มีคิวโชว์ร้องเพลง มีงานเสริมเข้ามาและเขาก็สามารถทำรายได้ให้กับบริษัทได้สูงนอกเหนือจากงานอื่นที่รับอยู่...นักร้องเบอร์หนึ่งของบริษัทประสบความสำเร็จก็มีนักร้องคนอื่นเข้ามารอการปั้น...แต่เขายังรีรออยู่ ไม่ใช่เพราะไม่มีเงินทุนแต่เพราะพรีมไม่ยอมพิมสิริคิดว่ามีหล่อนก็เหลือจะพอ…จะมีคนอื่นอีกไม่ได้นะคะ คุณ…เขาไม่อยากขัดใจพรีม...หล่อนขอเขาและหล่อนทำท่าแง่งอน...เขาออกจะเอาใจหล่อน...ไม่เพียงเพราะหล่อนทำรายได้ให้บริษัทแต่เพราะเขารักหล่อนด้วยเขาชวนพรีมออกจากที่เก่าเพราะเรื่องของหัวใจ...เขารักพิมสิริ หวังจะส่งเสริมหล่อน...และความรักก็ดำเนินไปเงียบๆ ไม่เปิดเผยออกนอกหน้า...เขากับหล่อนมีความสัมพันธ์ทางกายกันแล้ว...เว้นแต่ว่ายังไปไม่ถึ
เดือนพิลาสเข้ามา...ข้างหลังร้านชุลมุนเพราะไหนจะส่วนทำอาหาร ไหนจะส่วนแต่งตัว...ที่แบ่งกั้น...เพราะจะมีการแสดง...ที่จริงลุงหมูอยากจะไปจัดที่บ้าน แต่ก็จะไม่สะดวกเรื่องขนย้ายครัวใหญ่ไปด้วย...เพราะนี่เป็นงานระดับชุมนุมคนมาก ไม่ใช่แค่คนกันเองที่จะไปปาร์ตี้ที่บ้าน หล่อนเจอพ่อแล้ว พ่อเข้ามาตามหาหล่อนพอดี...หล่อนสูงไม่เท่าพ่อเพราะพ่อตัวสูงมาก...หล่อนสูงแค่ไหล่พ่อเท่านั้นเอง พ่อโอบกอดหล่อน“พร้อมหรือยัง เหนื่อยไหมลูก”“ไม่เหนื่อยค่ะ เดี๋ยวเปลี่ยนเสื้อผ้าแป๊บ...คิวเพลงแอนนี่มาถึงหรือยัง”หล่อนชอบร้องเพลง...ไม่ถึงขนาดอยากเป็นนักร้องมีเทปเพลงตัวเอง แต่หล่อนก็มีแววทางนี้อยู่พอตัว...หล่อนผลัดเสื้อผ้าชุดแรกออกแล้ว...ชุดสาวอีสาน...แม่เข้ามาพอดี ดาวเรืองพิศมองลูกสาว...แววตาบอกความรักและภูมิใจ“แอนนี่...เร้ว...ได้เวลาพอดี”หล่อนออกมาปรากฏตัวบนหน้าเวทีแล้วขึ้นเพลง “น้องนางบ้านนา” พร้อมกับลีลาที่ซ้อมมาก่อนหน้าแล้ว ก็หล่อนดูจากเทปเพลงของอินทิราในชุดน้องนางบ้านนา...หล่อนทำเลียนแบบอินทิราได้ทุกอย่างทีเดียว...และเพลงนี้หล่อนก็เรียกเสียงปรบมือได้เกรียวกราว...ก่อนจะถอยกลับลงมายังมีเพลงคั่นอีกสามเพลงแล้วจะเป็นคิ
เดือนพิลาส หรือ แอนนี่ ลูก แม่ดาวเรือง กับ พ่อลุคส์ หรือ เจ้ากุ๊ก หลาน ยายดวงเดินทางกลับบ้านช่วงซัมเมอร์ หลังจากเกิดวิกฤต 911 เมื่อปี 2544เธอตกบันไดพลอยโจนเป็น นักร้องหมอลำ เมื่ออินทิรา นักร้องวงพิณเพลินประสบอุบัติเหตุเธอต้องขึ้นเวทีชีวิตจะสนุกสนานเฮฮาแค่ไหนกันหนอ ในนามเดือนเด่น แดนดาวMOONLIGHT STARLANDกับตำนานตำมั่วของยายดวงกับตำนานเพลงหมอลำที่สาวฝรั่งลำได้เสนาะหูด้วยลูกคอสามชั้นช่วงเวลาซัมเมอร์ที่หัวใจเธอเผลอรัก จะทำให้เป็นรักนิรันดร์ไหมถามหาหัวใจ ได้เลยนิยายสนุก ไม่เครียดค่ะ ------------------------------------------------- หญิงสาวสวยอายุประมาณยี่สิบสองก้าวลงจากรถที่มาจอดให้ตรงทางเท้าเข้าสู่ร้านอาหารไทยขนาดใหญ่ที่คืนนี้จะมีการจัดงานเลี้ยงชุมนุมคนไทยที่มาอยู่ในละแวกย่านนี้ แม่ของหล่อน...ดาวเรือง เป็นผู้ประสานงานของงานที่จัดหาเงินหนนี้...เป็นงานหาทุนเพื่อจะส่งกลับไปยังประเทศบ้านเกิด...ก็ที่เมืองไทย ตัวหล่อน เดือนพิลาส เป็นลูกครึ่งไทยอเมริกัน พ่อของหล่อน มิสเตอร์ลุคส์ เป็นวิศวกรที่ถูกส่งไปทำงานที่เมืองไทยก่อนหล่อนจะเกิด แล้วพบแม่ที่เป็นนางพยาบาลเพราะมิสเ