แชร์

ตอนที่ 2 มันผิดนะครับ

ผู้เขียน: จินต์พิชา
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-02-26 00:10:46

 

เมื่อวางสายจากมารดาของเด็กชายออมสินแล้วปิ่นปินัทธ์ก็รีบขึ้นไปยังห้องฉุกเฉินซึ่งตอนนี้พยาบาลกำลังช่วยกันทำความสะอาดแผลของออมสินที่ยังร้องไห้ไม่หยุด

“แผลลึกไหมคะคุณพยาบาล”

“ไม่ลึกค่ะแต่อาจจะต้องเย็บเดี๋ยวเราจะตามหมอให้นะคะ”

“ไม่ทราบว่าน้องโดนอะไรมาคะ”

“น้องหกล้มหัวกระแทกก้อนหินค่ะ”

ขณะที่พยาบาลกำลังทำความสะอาดแผลบนศีรษะหมอประจำห้องฉุกเฉินก็เข้ามาพอดี

“หัวเด็กไปโดนอะไรมาครับ”

“หกล้มกระแทกก้อนหินค่ะ”

“หมอขอดูแผลหน่อยนะครับ” คุณหมอหนุ่มเดินไปตรวจแผลแล้วบอกพยาบาลให้เตรียมอุปกรณ์เย็บแผลไว้รอ

“แผลเปิดแต่ไม่ลึกมากคงต้องเย็บนะครับ ผู้ปกครองเซ็นชื่อแล้วใช่ไหมครับ”

“ฉันไม่ใช่ผู้ปกครองค่ะ ฉันเป็นครู”

เสียงที่ตอบฟังอ่อนหวานจนคุณหมอหนุ่มที่กำลังดูแผลอยู่รีบหันหน้ามามอง ผู้หญิงคนนี้นอกจากจะเสียงหวานแล้วใบหน้าเธอก็ยังสวยหวานมากๆ อีกด้วย เธอคือผู้หญิงในสเปกของเขาชัดๆ

“คุณครูเหรอครับ” เขาถามแล้วยิ้มให้อย่างเป็นมิตร

“ค่ะ”

“แล้วผู้ปกครองของเด็กจะมาถึงเมื่อไหร่”

“คงอีกสักพักค่ะ ให้ฉันเซ็นชื่อแทนได้ไหม”

“ได้ครับ ถ้าเซ็นชื่อแล้วก็รอด้านนอกก่อนก็ได้”

“ไม่เอาผมไม่อยากอยู่คนเดียว ครูปิ่นอย่าไปไหนนะ ห้ามทิ้งผมไปไหนนะ” เมื่อได้ยินว่าคุณหมอจะให้คุณครูออกไปนอกห้องออมสินก็ร้องไห้ขึ้นมาหลังจากที่เพิ่งเงียบไปเมื่อครู่

คุณหมอหนุ่มกำลังลังเลเพราะปกติแล้วเขาไม่ชอบให้ใครจ้องเวลาตัวเองกำลังทำงานอยู่แต่ถ้าจะมีเสียงเด็กร้องโวยวายอยู่แบบนี้ก็คงไม่ค่อยมีสมาธิเท่าไหร่

“หนุ่มน้อยไหนบอกหมอสิชื่ออะไร”

“ผมชื่อเด็กชายออมสินครับ” เด็กชายตอบพร้อมเสียงสะอื้น

“หมอจะให้คุณครูอยู่กับออมสินนะ แต่ออมสินจะต้องสัญญากับหมอก่อนว่าจะไม่ร้องจะไม่ดิ้นหมอจะได้เย็บแผลให้สวยๆ”

“เย็บแผลคืออะไร เหมือนเย็บเสื้อขาดหรือเปล่า หรือเปล่าใช้เข็มเย็บผ้าใช่ไหมผมกลัว”

“มันก็คล้ายๆ เย็บผ้าที่ขาดนั่นแหละ แต่เราใช้เข็มอีกแบบ แต่เดี๋ยวหมอจะฉีดยาชาก่อนตอนเย็บออมสินจะได้ไม่เจ็บไงครับ”

“ฉีดยาเหรอ ไม่เอาออมสินไม่ฉีดครูปิ่นครับ ผมไม่อยากฉีดยาผมกลัวเจ็บ”

“ออมสินครับหนูฟังครูนะ ฉีดยาชาแค่นิดเดียวเองจากนั้นออมสินก็จะไม่เจ็บอีกเลย” ปิ่นปินัทธ์ปลอบลูกศิษย์

“แต่ฉีดยามันเจ็บ”

“เจ็บนิดเดียวเองนะ เชื่อหมอสิ”

“แต่ผมกลัว”

“ออมสินเป็นคนเก่งเดี๋ยวคุณครูจะไปเล่าให้เพื่อนๆ ที่โรงเรียนฟังว่ายอมให้คุณหมอฉีดยาชาและให้คุณหมอเย็บตั้งหลายเข็มโดยไม่ร้องไห้เลย เพื่อนๆ จะต้องชมแน่เลยว่าออมสินเป็นเด็กที่เก่ง”

“ครูจะบอกชมพู่ด้วยไหมครับ”

“บอกสิครูจะบอกชมพู่ว่าออมสินอดทนมากๆ เลยดีไหม”

“แต่คุณครูอยู่กับผมได้ไหมครับ”

“หมอคะขอฉันอยู่กับออมสินได้ไหม”

“ก็ได้ครับ” เพราะเห็นว่าเขาคงคุยกับเด็กไม่รู้เรื่องแน่ๆ การให้คุณครูของเด็กชายอยู่ด้วยน่าจะเป็นสิ่งที่ดีที่สุด

“เจ็บนิดหนึ่งนะออมสิน” คุณหมอหนุ่มบอกเด็กชายขณะที่ฉีดยาชาลงไป

“ผมเจ็บ ผมเจ็บ”

“ไม่ได้นะคะออมสินไม่ดิ้นนะ”

ออมสินที่นอนตะแคงอยู่ดิ้นจนพยาบาลต้องเขามาช่วยกันจับศีรษะไว้ ขณะที่คุณครูก็กอดเด็กชายแล้วใช้มือลูบไปบนหลังเบาๆ คุณหมอหนุ่มยับเข้าใกล้มากขึ้นเพื่อจะฉีดยาบริเวณปากแผลอีกด้านและมันใกล้มากจนได้กลิ่นหอมอ่อนๆ ออกมาจากตัวของคุณครูกลิ่นที่ทำให้เขารู้สึกผ่อนคลายอย่างประหลาด

กรัณย์กรรีบสลัดความคิดฟุ้งซ่านออกจากศีรษะก่อนจะฉีดยาชาไปบนแผลจากนั้นก็เย็บจนเสร็จ

การเย็บแผลใช้เวลาไม่ถึงสิบนาทีแต่ทำให้เขาเหงื่อตก ไม่ใช่เพราะเย็บยากแต่เพราะเขาตื่นเต้นที่สายตาของคุณครูคนจ้องอยู่ต่างหาก

เย็บแผลเสร็จก็ให้เด็กชายลุกขึ้นนั่งแต่ยังไม่ให้ลงจากเตียงเพราะเขายังต้องซักประวัติให้ละเอียด เพื่อมั่นใจว่าการล้มหัวกระแทกก้อนหินจะไม่กระทบกระเทือนถึงสมอง

“ออมสินไหนลองเล่าให้หมอฟังสิครับว่าออมสินลงได้ยังไง”

“ผมเล่นฟุตบอลกับเพื่อนครับแล้วก็ลื่นล้มหัวมันไปกระแทกก้อนหิน”

“ไม่ได้นะออมสินเราจะบอกหมอว่าเล่นฟุตบอลไม่ได้” คุณครูกระซิบ

“แล้วผมต้องบอกหมอว่ายังไงล่ะครับ” เด็กชายมองหน้าคุณครูอย่างไม่เข้าใจเพราะเขาเล่นฟุตบอลอยู่กับเพื่อนแล้วล้มจริงๆ

“ไม่ทันแล้วนะครับคุณครู เด็กเขาก็บอกแล้วว่าเล่นฟุตบอลจนหัวกระแทก” คุณหมอได้ยินอย่างชัดเจน

“หมอช่วยแก้ในประวัติได้ไหมว่าแค่วิ่งเล่น ตัดคำว่าฟุตบอลออก”

“ทำไมล่ะครับ” คุณหมอถามด้วยความไม่เข้าใจเพราะเขาไม่เคยรักษาเด็กแบบนี้มาก่อนถึงแม้จะมาทำงานที่โรงพยาบาลแห่งนี้หนึ่งปีแล้วก็ตาม

“คือเด็กมีประกันอุบัติเหตุไว้ค่ะแต่ถ้าเป็นการเล่นกีฬาบริษัทประกันเขาจะไม่จ่าย ครูขอคุยส่วนตัวกับคุณหมอได้มั๊ยคะ”

“ได้สิเดี๋ยวผมให้พยาบาลพาออมสินออกไปข้างนอกก็ได้”

ยังไม่ทันเรียกให้พยาบาลเข้ามาก็ได้ยินเสียงมารดาของออมสินถามลูกชายก่อน

“แม่มาแล้วครับครู”

“ถ้าอย่างนั้นให้เด็กออกไปอยู่กับผู้ปกครองก่อนนะครับผมขอคุยกับคุณครูเป็นการส่วนตัว” คุณหมอบอกกับพยาบาลที่เดินเข้ามาตามพอดี

เขาพาคุณครูมาในห้องตรวจที่อยู่ติดกับห้องฉุกเฉิน เชิญเธอนั่งลงตรงข้ามก่อนที่ตัวเองจะเดินอ้อมมานั่งเก้าอี้ของตัวเอง

“ที่ครูพูดครูก็เท่ากับว่าจะให้ผมทำทำผิดจรรยาบรรณ ด้วยการกรอกประวัติผู้ป่วยไม่ครบใช่มั้ย”

“คุณหมออย่าคิดมากแบบนั้นสิคะ มันก็แค่การช่วยเหลือเด็กผู้ปกครองเขาชำระค่าประกันมาแล้วและลูกเขาเจ็บตัวอย่างนี้ยังจะต้องให้เขาจ่ายเงินอีกเหรอคะ ถึงแม้โรงพยาบาลนี้จะเป็นโรงพยาบาลรัฐบาล แต่ออมสินไม่ใช่คนที่นี่เขาจึงใช้สิทธิ์บัตรทองไม่ได้ ค่าใช้จ่ายมันก็คงไม่น้อยเลยชาวบ้านหาเช้ากินค่ำเขาจ่ายเงินค่าประกันไปแล้วเขาก็หวังว่าจะได้ลูกของเขาจะได้ใช้สิทธิ์อย่างเต็มที่หมอไม่สงสารเด็กเลยเหรอคะ” ปิ่นปินัทธ์เคยไปเยี่ยมบ้านของนักเรียนทุกคนจึงพอจะรู้ว่าครอบครัวของใครเป็นยังไงบ้าง

“แต่มันผิดนะครับคุณครู ถ้าคนอื่นรู้ผมอาจจะต้องถูกยึดใบประกอบวิชาชีพและโดนสอบสวนเลยนะครับ”

“มันร้ายแรงขนาดนั้นเลยเหรอคะ แล้วที่นี่ฉันจะทำยังไงล่ะ”

บทที่เกี่ยวข้อง

  • หมอขาอย่าทำร้ายหัวใจ   ตอนที่ 3 เด็กกับการหกล้มมันของคู่กัน

    คุณครูสาวไม่รู้จะหาทางออกยังไงเธอจะจ่ายค่ารักษาให้ก็ได้แต่แม่ของออมสินก็คงไม่ยอม“ครูเคยทำแบบนี้บ่อยไหมครับ”“ไม่เลยค่ะปกติเราก็จะบอกไปตามตรงว่ากรณีไหนจะสามารถเบิกได้กรณีไหนผู้ปกครองต้องจ่ายเอง แต่กับเด็กคนนี้ครูขอเป็นกรณีพิเศษได้ไหมคะ”“ทำไมถึงขอให้เด็กคนนี้เป็นกรณีพิเศษ ครูไม่กลัวว่าขอให้คนนี้ได้แล้วคนอื่นจะทำตามอย่างเหรอ”“หมอคงมองว่าครูเป็นคนไม่ดีไม่ซื่อสัตย์ใช่ไหม แต่ออมสินเขาอยู่กับแม่และยายแก่ๆ แม่เขารับจ้างอ้อยค่าแรงวันหนึ่งไม่ถึงห้าร้อย ถ้าเอาเงินมารักษาแบบนี้เห็นทีจะลำบาก”“น่าเห็นใจเหมือนกันนะครับ”“ถ้างั้นคุณหมอไม่ช่วยครูจะจ่ายค่ารักษาให้เองก็ได้ค่ะ” แม้ว่าเงินเดือนจะไม่มากแต่มันก็คงมากว่ารายได้ของมารดาเด็กนักเรียนกรัณย์กรไม่เคยเจอกรณีแบบนี้มาก่อนเขาเองก็สงสารและเห็นใจเธออยู่มากแต่เรื่องที่จะทำมันก็เป็นเรื่องที่ผิด“ครูรอผมสักครู่นะครับ”คุณหมอหนุ่มบอกกับคุณครูก่อนที่ตัวเองจะเดินออกมานอกห้องตรวจ“พี่ต่ายครับผมมีเรื่องถามหน่อยครับ” กรัณย์กรเดินมาหาหัวหน้าพยาบาลประจำแผนกฉุกเฉิน“มีอะไรคะหมอ”คุณหมอหนุ่มเล่าเรื่องที่เขาคุยกับคุณครูในห้องตรวจให้กับพี่หัวหน้าพยาบาลฟังอย่างละเอ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-26
  • หมอขาอย่าทำร้ายหัวใจ   ตอนที่ 4 หลานรักของยาย

    “ครูเข้าใจค่ะคุณแม่ ครูก็เลยคุยกับหมอให้แล้วเดี๋ยวคุณแม่พาออมสินกลับบ้านได้เลย”“แล้วพรุ่งนี้ออมสินต้องมาโรงเรียนไหมคะครู”“คุณหมอบอกว่าแผลที่ศีรษะไม่ได้เป็นอะไรมากแต่ถ้ามีไข้หรือปวดแผลมากๆ ออมสินจะหยุดอยู่บ้านก็ได้” เธอบอกตามที่ได้รับฟังมาจากพยาบาล“คือแม่ต้องไปทำงานออมสินต้องอยู่บ้านกับยายค่ะ แม่กลัวว่ายายจะเอายาให้ออมสินไม่ถูกเพราะยายแกอ่านหนังสือไม่ออกค่ะ ถ้าจะให้หยุดงานแม่ก็เอาเงินค่าจ้างของเขามาแล้ว” ท่าทางวิตกกังวลของผู้เป็นมารดาทำให้ปิ่นปินัทธ์เห็นใจและคิดว่าตนเองจะอยู่เฉยกับเรื่องนี้ไม่ได้“เอาอย่างนี้ก็ได้ค่ะ คุณแม่ให้ออมสินมาที่โรงเรียนเอายามาด้วยนะคะเดี๋ยวครูจะช่วยดูให้ แล้วตอนเย็นคุณครูจะพามาล้างแผลและจะพาไปส่งที่บ้าน”“เกรงใจคุณครูจังเลยค่ะ เรื่องล้างแผลเลิกงานแล้วแม่พาออมสินมาเองก็ได้นะคะ”“ต้องเกรงใจอะไรกันล่ะคะแม่ เพราะยังไงเวลาครูกลับบ้านก็ต้องผ่านบ้านออมสินอยู่แล้วใช่ไหม” เธอหันมาถามลูกศิษย์“ใช่ครับ บ้านครูปิ่นเลยไปข้างในบ้านเรา” เด็กชายออมสินจำได้ว่าเพราะเธอเคยเล่าให้ฟังว่าทุกครั้งว่ากลับจากโรงเรียนก็จะผ่านบ้านของเด็กชาย“แม่ไม่รู้จะขอบคุณคุณครูยังไงเลย”“ไม่เป็นไ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-26
  • หมอขาอย่าทำร้ายหัวใจ   ตอนที่ 5 อยากเจอครูของคนไข้

    กรัณย์กรตรวจผู้ป่วยในห้องฉุกเฉินจนกระทั่งถึงเวลาห้าทุ่มจึงได้นั่งพักเหนื่อย เขานั่งอยู่หน้าจอเปิดคอมพิวเตอร์และดึงประวัติของเด็กชายออมสินขึ้นมาดูอีกครั้ง ไม่ใช่เพราะติดใจเรื่องการทำประวัติแต่เพราะเขาอยากได้เบอร์โทรศัพท์ของคุณครูสาวที่ชื่อปิ่นปินัทธ์มากกว่า เพราะตั้งแต่ย้ายมาเป็นแพทย์ใช้ทุนที่นี่สองปีกว่าก็เขายังไม่เคยเจอผู้หญิงคนไหนที่สวยและถูกใจเท่ากับคุณครูคนนี้มาก่อนชายหนุ่มยังต้องประจำอยู่ที่โรงพยาบาลนี้อีกครึ่งปี ถ้าหากระหว่างนี้เขาจะลองคบหากับเธอมันคงพอจะมีทางเป็นไปได้เท่าที่สังเกตดูเขาคิดว่าหญิงสาวคนนี้น่าจะยังไม่มีแฟนเพราะถ้าไม่อย่างนั้นเธอคงไม่ตอบรับการนัดเลี้ยงข้าวของเขาไว้ง่ายๆ แบบนี้กรัณย์กรบันทึกเบอร์โทรศัพท์ของของเธอลงเครื่องของตัวเองไว้และลังเลว่าจะแอดไลน์ไปดีหรือเปล่าแต่คิดว่าจะรอเจอเธอพรุ่งนี้แล้วค่อยขออนุญาตแอดไลน์เพราะตอนนี้มันก็เป็นเวลาดึกมากแล้วเขาบันทึกเบอร์โทรศัพท์ของลงเสร็จแล้วหย่อนโทรศัพท์ลงกระเป๋าเสื้อกาวน์โดยไม่ทันสังเกตว่ามือตัวเองเผลอกดเธอออก“หมอคะมีคนไข้ฉุกเฉินมากค่ะ” เสียงพยาบาลสาวทำให้เขาไม่ได้ยินเสียงปลายสายที่ตอบรับผู้ป่วยรายนี้มีอาการ ปวดท้องเกร

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-26
  • หมอขาอย่าทำร้ายหัวใจ   ตอนที่ 6 เขาไม่เรียกโชคดีหรอกค่ะ

    กรัณย์กรเดินวนอยู่หน้าห้องตรวจฉุกเฉินจนถึงเวลาสิบเจ็ดนาฬิกาก็เห็นปิ่นปินัทธ์เดินมากับเด็กชายออมสิน“สวัสดีครับคุณหมอ” เด็กชายออมสินรีบยกมือไหว้คุณหมอคนที่เย็บแผลให้กับตนเองเมื่อวาน“เป็นไงบ้างครับออมสิน เจ็บแผลอยู่ไหม”“เจ็บนิดหน่อยครับ”“สวัสดีครับครูปิ่น”“สวัสดีค่ะหมอ” ปิ่นปินัทธ์ยกมือไหว้ทำให้เขารีบยกมือรับไหว้แทบไม่ทัน“ครูไม่ต้องไหวผมหรอกครับผมยังไม่อยากแก่”“ค่ะ ปิ่นขอตัวพาออมสินไปทำแผลก่อนนะคะ”“ผมก็จะเข้าไปดูเหมือนกันอยากรู้ว่าแผลที่เย็บไปเมื่อวานเป็นยังไงบ้าง”“ค่ะหมอ”หญิงสาวส่งบัตรนัดทำแผลให้กับผู้ช่วยพยาบาลจากนั้นก็พอออมสินไปนอนบนเตียงให้พยาบาลล้างแผล“แผลติดดีนะคะหมอ พี่ว่าไม่ต้องมาล้างทุกวันก็ได้มั้งคะ”“ถ้างั้นล้างพรุ่งนี้อีกวันก็ได้ครับแล้วก็มาอีกทีวันตัดไหมเลย”“จะไม่เป็นไรใช่ไหมคะ” ปิ่นปินัทธ์ถามเพราะเธอไม่ค่อยมีความรู้เรื่องนี้“ไม่หรอกหรอกครับ แต่ถ้าระหว่างนี้มีไข้หรือเลือดซึมก็ต้องพามาครับ”“เจ็บไหม” กรัณย์กรถามเด็กชายที่วันนี้นั่งนอนนิ่งให้พยาบาลทำแผลไม่ได้งอแงอย่างเมื่อวาน“ไม่เจ็บครับ”“ตั้งแต่กลับไปบ้านเมื่อวานล่ะเจ็บไหม”“เมื่อคืนเจ็บครับ” เด็กชายนึกอยู่นานก

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-26
  • หมอขาอย่าทำร้ายหัวใจ   ตอนที่ 7 แบ่งเวลา

    “แต่เด็กเขาหกล้มเองไม่ใช่เหรอครับ”“ใช่ค่ะแต่เด็กก็อยู่ในความรับผิดชอบของครู ตราบใดที่พ่อแม่เขายังไม่มารับก็เป็นหน้าที่ของครูค่ะ” ปิ่นปินัทธ์คิดว่าสิ่งที่ตนเองทำอยู่มันถูกต้องแล้ว ถ้าเธอดูแลนักเรียนดีกว่านี้ออมสินก็คงจะไม่เจ็บตัว“แต่ผมว่ามันไม่ใช่ความผิดของครูนะครับ เด็กก็ต้องซนเป็นธรรมดาอย่าคิดมากเลย หรือที่ปิ่นพูดแบบนี้เพราะแม่เขาหรือเปล่า”“เปล่าค่ะ แม่ของออมสินเขาเข้าใจค่ะ แต่ปิ่นรู้สึกผิดนิดหน่อยแค่นั้นเองค่ะ”“ผมว่าปิ่นทำดีที่สุดแล้วนะครับ”“ขอบคุณค่ะที่เข้าใจปิ่น”“เป็นครูนี่เหนื่อยเหมือนกันนะครับ”“แต่ปิ่นว่าคงเหนื่อยไม่เท่าหมอหรอกนะคะ ครูมีหน้าที่แค่สอนหนังสือและดูแลเด็กเอง ไม่เหมือนหมอที่ต้องรับผิดชอบชีวิตด้วย หมอทำงานหนักมากกว่าครูเยอะเลยค่ะ”“มันก็ถูกครับหมอเป็นอาชีพที่ทำงานหนักจริงๆ”“แต่คนก็ยังอยากเป็นหมอกันเยอะนะคะ”“ผมก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน”“น่าจะเพราะรายได้ดีและดูมีเกียรติมั้งคะ”“ผมว่าทุกอาชีพก็มีเกียรติเหมือนกันนะครับ ผมว่าการเป็นครูไม่ง่ายเลยนะครับ ถ้าไม่มีครูดีๆ สอนมาตั้งแต่เด็กๆ ผมจะโตมาเป็นหมอได้ยังไงจริงๆ แล้วผมว่าอาชีพครูเป็นอาชีพที่น่าชื่นชมและมีเกียรติมากอาช

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-26
  • หมอขาอย่าทำร้ายหัวใจ   ตอนที่ 8 นึกว่าจะได้เจอกัน

    หลังจากที่โทรศัพท์คุยกับปิ่นปินัทธ์ทุกคืน วันนี้กรัณย์กรก็รู้สึกตื่นเต้นมากที่จะได้เจอเธออีกครั้ง เพราะเธอบอกเขาว่าวันนี้จะต้องพาลูกศิษย์มาตัดไหมที่โรงพยาบาลชายหนุ่มตรวจคนไข้คนอื่นเสร็จแล้วก็นั่งรอว่าเมื่อไหร่หญิงสาวจะเดินเข้ามา แต่กรัณย์กรก็ต้องผิดหวังเพราะวันนี้คนที่พาออมสินมาตัดไหมเป็นมารดาของเด็กชายแทนที่จะเป็นคุณครูปิ่นปินัทธ์“สวัสดีครับคุณหมอ / สวัสดีค่ะคุณหมอ” ออมสินและมารดายกมือไหว้“สวัสดีครับ น้องเป็นยังไงบ้างครับคุณแม่มีอาการผิดปกติอะไรไหม”“ไม่มีค่ะ”“หมอขอดูแผลหน่อยนะครับ”กรัณย์กรตรวจบาดแผลแล้วก็เห็นว่าแผลติดสนิทดีชายหนุ่มตัดไหมออกทั้งหมดจากนั้นก็ปิดพลาสเตอร์กันน้ำไว้อย่างเดิม“อย่าเพิ่งให้แผลโดนน้ำนะครับ รอให้ครบสามวันก่อนแล้วค่อยแกะพลาสเตอร์ออก”“แล้วต้องมาทำแผลอีกมั้ยคะ”“ไม่แล้วครับระหว่างนี้ก็ดูว่ามีเลือดซึมออกมาจากพลาสเตอร์ที่ปิดไว้หรือเปล่าถ้ามีอาการผิดปกติหรือรู้สึกว่าบริเวณแผลบวมขึ้นหรือมีไข้ก็ให้มาหาหมอ”“ขอบคุณมากค่ะหมอ”“ไม่วิ่งซนอีกแล้วนะครับออมสิน”“ครับคุณหมอ”“วันนี้แม่พาน้องกลับบ้านได้เลยนะครับ”“มีค่าใช้จ่ายอะไรหรือเปล่าคะคุณหมอ”“ไม่มีครับเดี๋ยวพยาบา

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-26
  • หมอขาอย่าทำร้ายหัวใจ   ตอนที่ 9 ของโปรดที่เหมือนกัน

    เช้าวันเสาร์ปิ่นปินัทธ์ตื่นนอนตั้งแต่เช้าเพื่อไปซื้อของสำหรับเตรียมทำอาหารต้อนรับหมอกรัณย์กรซึ่งจะมาทานในตอนเย็นส่วนตอนเช้าเธอคุยกับคุณยายแล้วว่าจะซื้อโจ๊กที่ตลาดเข้าไปคุณยายจะได้ไม่ต้องทำอาหารให้เหนื่อยแต่กลางวันก็คุยกันไว้แล้วว่าจะทำเย็นตาโฟทานกันหลังจากซื้อของเตรียมทำอาหารครบแล้วหญิงสาวก็แวะที่ร้านประจำร้านหนึ่งเพื่อซื้อซอสสำหรับทำเย็นตาโฟ“ซื้อของเยอะเลยนะคะครูปิ่น” เจ้าของร้านทักทาย“ค่ะพี่หนึ่ง ปิ่นซื้อของสดเข้าบ้านทุกวันเสาร์ก็เลยเยอะหน่อย พี่หนึ่งมีซอสเย็นตาโฟไหมคะ”“มีค่ะ ครูเอากี่ขวดค่ะ”“ขวดเดียวค่ะ”เมื่อแม่ค้าเอาซอสมาให้แล้วหญิงสาวก็เพิ่งนึกขึ้นได้ว่าตนเองลืมซื้อผักบุ้งสำหรับใส่เย็นตาโฟมาด้วย จะใช้ผักบุ้งที่ซื้อมาผัดก็กลัวจะไม่อร่อย“พี่หนึ่งมีผักบุ้งสำหรับใส่เย็นตาโฟไหม”“มีค่ะ เอาซอสเย็นตาโฟผักบุ้งแล้วเอาอะไรอย่างอื่นเพิ่มไหมคะครู”“เอาแค่นี้ค่ะ เท่าไหร่คะ”“สามสิบห้าบาทค่ะ คิดแค่ค่าซอสนะคะ ส่วนค่าผักบุ้งพี่ไม่คิดหรอกค่ะ”“ไม่คิดได้ยังไงล่ะคะ พี่ของซื้อของขายนะ”“แต่ผักบุ้งพวกนี้พี่ปลูกไว้เองที่กระบะหลังบ้านค่ะ ครูปิ่นเอาไปได้เลยไม่ต้องเกรงใจ”“ได้ยังไงกันแบบนี้ปิ่นก็

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-26
  • หมอขาอย่าทำร้ายหัวใจ   ตอนที่ 10 ไม่ปฏิเสธก็คือตกลง

    จากเลี้ยงอาหารมื้อเย็นเพื่อเป็นการขอบคุณที่หมอกรัณย์กรช่วยเขียนประวัติให้ในครั้งนั้น ตอนนี้หมอกรัณย์กรก็ได้กลายเป็น แขกประจำที่มักจะแวะเวียนมาทานอาหารที่บ้านของปิ่นปินัทธ์บ่อยๆ จนคุณยายละมัยเริ่มสงสัยว่าทั้งสองคนกำลังคบกัน“เขาก็แค่มากินข้าวเองค่ะยาย ไม่มีอะไรหรอก” ปิ่นปินัทธ์ตอบเมื่อถูกถามว่าตอนนี้กำลังคบกับหมอกรัณย์กรหรือเปล่า“แต่ปกติยายไม่เห็นหนูพาเพื่อนที่ไหนมากินข้าวที่บ้านนะ”“ก็เพื่อนส่วนใหญ่เขาเป็นคนแถวนี้นี่คะยาย เลิกงานเขาก็กลับบ้าน แต่หมอเขาเป็นคนกรุงเทพไม่ค่อยมีเพื่อนที่นี่เท่าไหร่”“แต่ยายว่าหมอเขาต้องจีบหลานสาวของยายแน่ๆ เลยนะ”“ไม่หรอกค่ะยายปิ่นก็แค่ครูธรรมดาคนหนึ่งคนอย่างหมอเขาต้องมีแฟนเป็นหมอด้วยกันสิคะ”“ทำไมเป็นคิดแบบนั้นล่ะลูก”“ก็มันจริงนี่คะส่วนใหญ่หมอก็จะเป็นแฟนกับหมอหรือไม่ก็เป็นแฟนกับเภสัชหรือพยาบาล พวกเขาทำงานลักษณะเดียวกันคุยกันรู้เรื่องมากกว่าค่ะ”“เท่าที่ยายสังเกตยายว่าหมอรัณย์เขาต้องชอบหลานสาวของยายแน่ แล้วถ้าเกิดมันเป็นแบบนั้นจริงปิ่นคิดว่ายังไงล่ะ”“ปิ่นไม่กล้าคิดหรอกค่ะยาย”“ปิ่นตอบว่าไม่กล้าคิดแสดงว่าเคยคิดใช่ไหมล่ะ”“มันก็มีนิดหน่อยค่ะยาย หมอเขาเป็น

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-26

บทล่าสุด

  • หมอขาอย่าทำร้ายหัวใจ   ตอนที่ 10 ไม่ปฏิเสธก็คือตกลง

    จากเลี้ยงอาหารมื้อเย็นเพื่อเป็นการขอบคุณที่หมอกรัณย์กรช่วยเขียนประวัติให้ในครั้งนั้น ตอนนี้หมอกรัณย์กรก็ได้กลายเป็น แขกประจำที่มักจะแวะเวียนมาทานอาหารที่บ้านของปิ่นปินัทธ์บ่อยๆ จนคุณยายละมัยเริ่มสงสัยว่าทั้งสองคนกำลังคบกัน“เขาก็แค่มากินข้าวเองค่ะยาย ไม่มีอะไรหรอก” ปิ่นปินัทธ์ตอบเมื่อถูกถามว่าตอนนี้กำลังคบกับหมอกรัณย์กรหรือเปล่า“แต่ปกติยายไม่เห็นหนูพาเพื่อนที่ไหนมากินข้าวที่บ้านนะ”“ก็เพื่อนส่วนใหญ่เขาเป็นคนแถวนี้นี่คะยาย เลิกงานเขาก็กลับบ้าน แต่หมอเขาเป็นคนกรุงเทพไม่ค่อยมีเพื่อนที่นี่เท่าไหร่”“แต่ยายว่าหมอเขาต้องจีบหลานสาวของยายแน่ๆ เลยนะ”“ไม่หรอกค่ะยายปิ่นก็แค่ครูธรรมดาคนหนึ่งคนอย่างหมอเขาต้องมีแฟนเป็นหมอด้วยกันสิคะ”“ทำไมเป็นคิดแบบนั้นล่ะลูก”“ก็มันจริงนี่คะส่วนใหญ่หมอก็จะเป็นแฟนกับหมอหรือไม่ก็เป็นแฟนกับเภสัชหรือพยาบาล พวกเขาทำงานลักษณะเดียวกันคุยกันรู้เรื่องมากกว่าค่ะ”“เท่าที่ยายสังเกตยายว่าหมอรัณย์เขาต้องชอบหลานสาวของยายแน่ แล้วถ้าเกิดมันเป็นแบบนั้นจริงปิ่นคิดว่ายังไงล่ะ”“ปิ่นไม่กล้าคิดหรอกค่ะยาย”“ปิ่นตอบว่าไม่กล้าคิดแสดงว่าเคยคิดใช่ไหมล่ะ”“มันก็มีนิดหน่อยค่ะยาย หมอเขาเป็น

  • หมอขาอย่าทำร้ายหัวใจ   ตอนที่ 9 ของโปรดที่เหมือนกัน

    เช้าวันเสาร์ปิ่นปินัทธ์ตื่นนอนตั้งแต่เช้าเพื่อไปซื้อของสำหรับเตรียมทำอาหารต้อนรับหมอกรัณย์กรซึ่งจะมาทานในตอนเย็นส่วนตอนเช้าเธอคุยกับคุณยายแล้วว่าจะซื้อโจ๊กที่ตลาดเข้าไปคุณยายจะได้ไม่ต้องทำอาหารให้เหนื่อยแต่กลางวันก็คุยกันไว้แล้วว่าจะทำเย็นตาโฟทานกันหลังจากซื้อของเตรียมทำอาหารครบแล้วหญิงสาวก็แวะที่ร้านประจำร้านหนึ่งเพื่อซื้อซอสสำหรับทำเย็นตาโฟ“ซื้อของเยอะเลยนะคะครูปิ่น” เจ้าของร้านทักทาย“ค่ะพี่หนึ่ง ปิ่นซื้อของสดเข้าบ้านทุกวันเสาร์ก็เลยเยอะหน่อย พี่หนึ่งมีซอสเย็นตาโฟไหมคะ”“มีค่ะ ครูเอากี่ขวดค่ะ”“ขวดเดียวค่ะ”เมื่อแม่ค้าเอาซอสมาให้แล้วหญิงสาวก็เพิ่งนึกขึ้นได้ว่าตนเองลืมซื้อผักบุ้งสำหรับใส่เย็นตาโฟมาด้วย จะใช้ผักบุ้งที่ซื้อมาผัดก็กลัวจะไม่อร่อย“พี่หนึ่งมีผักบุ้งสำหรับใส่เย็นตาโฟไหม”“มีค่ะ เอาซอสเย็นตาโฟผักบุ้งแล้วเอาอะไรอย่างอื่นเพิ่มไหมคะครู”“เอาแค่นี้ค่ะ เท่าไหร่คะ”“สามสิบห้าบาทค่ะ คิดแค่ค่าซอสนะคะ ส่วนค่าผักบุ้งพี่ไม่คิดหรอกค่ะ”“ไม่คิดได้ยังไงล่ะคะ พี่ของซื้อของขายนะ”“แต่ผักบุ้งพวกนี้พี่ปลูกไว้เองที่กระบะหลังบ้านค่ะ ครูปิ่นเอาไปได้เลยไม่ต้องเกรงใจ”“ได้ยังไงกันแบบนี้ปิ่นก็

  • หมอขาอย่าทำร้ายหัวใจ   ตอนที่ 8 นึกว่าจะได้เจอกัน

    หลังจากที่โทรศัพท์คุยกับปิ่นปินัทธ์ทุกคืน วันนี้กรัณย์กรก็รู้สึกตื่นเต้นมากที่จะได้เจอเธออีกครั้ง เพราะเธอบอกเขาว่าวันนี้จะต้องพาลูกศิษย์มาตัดไหมที่โรงพยาบาลชายหนุ่มตรวจคนไข้คนอื่นเสร็จแล้วก็นั่งรอว่าเมื่อไหร่หญิงสาวจะเดินเข้ามา แต่กรัณย์กรก็ต้องผิดหวังเพราะวันนี้คนที่พาออมสินมาตัดไหมเป็นมารดาของเด็กชายแทนที่จะเป็นคุณครูปิ่นปินัทธ์“สวัสดีครับคุณหมอ / สวัสดีค่ะคุณหมอ” ออมสินและมารดายกมือไหว้“สวัสดีครับ น้องเป็นยังไงบ้างครับคุณแม่มีอาการผิดปกติอะไรไหม”“ไม่มีค่ะ”“หมอขอดูแผลหน่อยนะครับ”กรัณย์กรตรวจบาดแผลแล้วก็เห็นว่าแผลติดสนิทดีชายหนุ่มตัดไหมออกทั้งหมดจากนั้นก็ปิดพลาสเตอร์กันน้ำไว้อย่างเดิม“อย่าเพิ่งให้แผลโดนน้ำนะครับ รอให้ครบสามวันก่อนแล้วค่อยแกะพลาสเตอร์ออก”“แล้วต้องมาทำแผลอีกมั้ยคะ”“ไม่แล้วครับระหว่างนี้ก็ดูว่ามีเลือดซึมออกมาจากพลาสเตอร์ที่ปิดไว้หรือเปล่าถ้ามีอาการผิดปกติหรือรู้สึกว่าบริเวณแผลบวมขึ้นหรือมีไข้ก็ให้มาหาหมอ”“ขอบคุณมากค่ะหมอ”“ไม่วิ่งซนอีกแล้วนะครับออมสิน”“ครับคุณหมอ”“วันนี้แม่พาน้องกลับบ้านได้เลยนะครับ”“มีค่าใช้จ่ายอะไรหรือเปล่าคะคุณหมอ”“ไม่มีครับเดี๋ยวพยาบา

  • หมอขาอย่าทำร้ายหัวใจ   ตอนที่ 7 แบ่งเวลา

    “แต่เด็กเขาหกล้มเองไม่ใช่เหรอครับ”“ใช่ค่ะแต่เด็กก็อยู่ในความรับผิดชอบของครู ตราบใดที่พ่อแม่เขายังไม่มารับก็เป็นหน้าที่ของครูค่ะ” ปิ่นปินัทธ์คิดว่าสิ่งที่ตนเองทำอยู่มันถูกต้องแล้ว ถ้าเธอดูแลนักเรียนดีกว่านี้ออมสินก็คงจะไม่เจ็บตัว“แต่ผมว่ามันไม่ใช่ความผิดของครูนะครับ เด็กก็ต้องซนเป็นธรรมดาอย่าคิดมากเลย หรือที่ปิ่นพูดแบบนี้เพราะแม่เขาหรือเปล่า”“เปล่าค่ะ แม่ของออมสินเขาเข้าใจค่ะ แต่ปิ่นรู้สึกผิดนิดหน่อยแค่นั้นเองค่ะ”“ผมว่าปิ่นทำดีที่สุดแล้วนะครับ”“ขอบคุณค่ะที่เข้าใจปิ่น”“เป็นครูนี่เหนื่อยเหมือนกันนะครับ”“แต่ปิ่นว่าคงเหนื่อยไม่เท่าหมอหรอกนะคะ ครูมีหน้าที่แค่สอนหนังสือและดูแลเด็กเอง ไม่เหมือนหมอที่ต้องรับผิดชอบชีวิตด้วย หมอทำงานหนักมากกว่าครูเยอะเลยค่ะ”“มันก็ถูกครับหมอเป็นอาชีพที่ทำงานหนักจริงๆ”“แต่คนก็ยังอยากเป็นหมอกันเยอะนะคะ”“ผมก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน”“น่าจะเพราะรายได้ดีและดูมีเกียรติมั้งคะ”“ผมว่าทุกอาชีพก็มีเกียรติเหมือนกันนะครับ ผมว่าการเป็นครูไม่ง่ายเลยนะครับ ถ้าไม่มีครูดีๆ สอนมาตั้งแต่เด็กๆ ผมจะโตมาเป็นหมอได้ยังไงจริงๆ แล้วผมว่าอาชีพครูเป็นอาชีพที่น่าชื่นชมและมีเกียรติมากอาช

  • หมอขาอย่าทำร้ายหัวใจ   ตอนที่ 6 เขาไม่เรียกโชคดีหรอกค่ะ

    กรัณย์กรเดินวนอยู่หน้าห้องตรวจฉุกเฉินจนถึงเวลาสิบเจ็ดนาฬิกาก็เห็นปิ่นปินัทธ์เดินมากับเด็กชายออมสิน“สวัสดีครับคุณหมอ” เด็กชายออมสินรีบยกมือไหว้คุณหมอคนที่เย็บแผลให้กับตนเองเมื่อวาน“เป็นไงบ้างครับออมสิน เจ็บแผลอยู่ไหม”“เจ็บนิดหน่อยครับ”“สวัสดีครับครูปิ่น”“สวัสดีค่ะหมอ” ปิ่นปินัทธ์ยกมือไหว้ทำให้เขารีบยกมือรับไหว้แทบไม่ทัน“ครูไม่ต้องไหวผมหรอกครับผมยังไม่อยากแก่”“ค่ะ ปิ่นขอตัวพาออมสินไปทำแผลก่อนนะคะ”“ผมก็จะเข้าไปดูเหมือนกันอยากรู้ว่าแผลที่เย็บไปเมื่อวานเป็นยังไงบ้าง”“ค่ะหมอ”หญิงสาวส่งบัตรนัดทำแผลให้กับผู้ช่วยพยาบาลจากนั้นก็พอออมสินไปนอนบนเตียงให้พยาบาลล้างแผล“แผลติดดีนะคะหมอ พี่ว่าไม่ต้องมาล้างทุกวันก็ได้มั้งคะ”“ถ้างั้นล้างพรุ่งนี้อีกวันก็ได้ครับแล้วก็มาอีกทีวันตัดไหมเลย”“จะไม่เป็นไรใช่ไหมคะ” ปิ่นปินัทธ์ถามเพราะเธอไม่ค่อยมีความรู้เรื่องนี้“ไม่หรอกหรอกครับ แต่ถ้าระหว่างนี้มีไข้หรือเลือดซึมก็ต้องพามาครับ”“เจ็บไหม” กรัณย์กรถามเด็กชายที่วันนี้นั่งนอนนิ่งให้พยาบาลทำแผลไม่ได้งอแงอย่างเมื่อวาน“ไม่เจ็บครับ”“ตั้งแต่กลับไปบ้านเมื่อวานล่ะเจ็บไหม”“เมื่อคืนเจ็บครับ” เด็กชายนึกอยู่นานก

  • หมอขาอย่าทำร้ายหัวใจ   ตอนที่ 5 อยากเจอครูของคนไข้

    กรัณย์กรตรวจผู้ป่วยในห้องฉุกเฉินจนกระทั่งถึงเวลาห้าทุ่มจึงได้นั่งพักเหนื่อย เขานั่งอยู่หน้าจอเปิดคอมพิวเตอร์และดึงประวัติของเด็กชายออมสินขึ้นมาดูอีกครั้ง ไม่ใช่เพราะติดใจเรื่องการทำประวัติแต่เพราะเขาอยากได้เบอร์โทรศัพท์ของคุณครูสาวที่ชื่อปิ่นปินัทธ์มากกว่า เพราะตั้งแต่ย้ายมาเป็นแพทย์ใช้ทุนที่นี่สองปีกว่าก็เขายังไม่เคยเจอผู้หญิงคนไหนที่สวยและถูกใจเท่ากับคุณครูคนนี้มาก่อนชายหนุ่มยังต้องประจำอยู่ที่โรงพยาบาลนี้อีกครึ่งปี ถ้าหากระหว่างนี้เขาจะลองคบหากับเธอมันคงพอจะมีทางเป็นไปได้เท่าที่สังเกตดูเขาคิดว่าหญิงสาวคนนี้น่าจะยังไม่มีแฟนเพราะถ้าไม่อย่างนั้นเธอคงไม่ตอบรับการนัดเลี้ยงข้าวของเขาไว้ง่ายๆ แบบนี้กรัณย์กรบันทึกเบอร์โทรศัพท์ของของเธอลงเครื่องของตัวเองไว้และลังเลว่าจะแอดไลน์ไปดีหรือเปล่าแต่คิดว่าจะรอเจอเธอพรุ่งนี้แล้วค่อยขออนุญาตแอดไลน์เพราะตอนนี้มันก็เป็นเวลาดึกมากแล้วเขาบันทึกเบอร์โทรศัพท์ของลงเสร็จแล้วหย่อนโทรศัพท์ลงกระเป๋าเสื้อกาวน์โดยไม่ทันสังเกตว่ามือตัวเองเผลอกดเธอออก“หมอคะมีคนไข้ฉุกเฉินมากค่ะ” เสียงพยาบาลสาวทำให้เขาไม่ได้ยินเสียงปลายสายที่ตอบรับผู้ป่วยรายนี้มีอาการ ปวดท้องเกร

  • หมอขาอย่าทำร้ายหัวใจ   ตอนที่ 4 หลานรักของยาย

    “ครูเข้าใจค่ะคุณแม่ ครูก็เลยคุยกับหมอให้แล้วเดี๋ยวคุณแม่พาออมสินกลับบ้านได้เลย”“แล้วพรุ่งนี้ออมสินต้องมาโรงเรียนไหมคะครู”“คุณหมอบอกว่าแผลที่ศีรษะไม่ได้เป็นอะไรมากแต่ถ้ามีไข้หรือปวดแผลมากๆ ออมสินจะหยุดอยู่บ้านก็ได้” เธอบอกตามที่ได้รับฟังมาจากพยาบาล“คือแม่ต้องไปทำงานออมสินต้องอยู่บ้านกับยายค่ะ แม่กลัวว่ายายจะเอายาให้ออมสินไม่ถูกเพราะยายแกอ่านหนังสือไม่ออกค่ะ ถ้าจะให้หยุดงานแม่ก็เอาเงินค่าจ้างของเขามาแล้ว” ท่าทางวิตกกังวลของผู้เป็นมารดาทำให้ปิ่นปินัทธ์เห็นใจและคิดว่าตนเองจะอยู่เฉยกับเรื่องนี้ไม่ได้“เอาอย่างนี้ก็ได้ค่ะ คุณแม่ให้ออมสินมาที่โรงเรียนเอายามาด้วยนะคะเดี๋ยวครูจะช่วยดูให้ แล้วตอนเย็นคุณครูจะพามาล้างแผลและจะพาไปส่งที่บ้าน”“เกรงใจคุณครูจังเลยค่ะ เรื่องล้างแผลเลิกงานแล้วแม่พาออมสินมาเองก็ได้นะคะ”“ต้องเกรงใจอะไรกันล่ะคะแม่ เพราะยังไงเวลาครูกลับบ้านก็ต้องผ่านบ้านออมสินอยู่แล้วใช่ไหม” เธอหันมาถามลูกศิษย์“ใช่ครับ บ้านครูปิ่นเลยไปข้างในบ้านเรา” เด็กชายออมสินจำได้ว่าเพราะเธอเคยเล่าให้ฟังว่าทุกครั้งว่ากลับจากโรงเรียนก็จะผ่านบ้านของเด็กชาย“แม่ไม่รู้จะขอบคุณคุณครูยังไงเลย”“ไม่เป็นไ

  • หมอขาอย่าทำร้ายหัวใจ   ตอนที่ 3 เด็กกับการหกล้มมันของคู่กัน

    คุณครูสาวไม่รู้จะหาทางออกยังไงเธอจะจ่ายค่ารักษาให้ก็ได้แต่แม่ของออมสินก็คงไม่ยอม“ครูเคยทำแบบนี้บ่อยไหมครับ”“ไม่เลยค่ะปกติเราก็จะบอกไปตามตรงว่ากรณีไหนจะสามารถเบิกได้กรณีไหนผู้ปกครองต้องจ่ายเอง แต่กับเด็กคนนี้ครูขอเป็นกรณีพิเศษได้ไหมคะ”“ทำไมถึงขอให้เด็กคนนี้เป็นกรณีพิเศษ ครูไม่กลัวว่าขอให้คนนี้ได้แล้วคนอื่นจะทำตามอย่างเหรอ”“หมอคงมองว่าครูเป็นคนไม่ดีไม่ซื่อสัตย์ใช่ไหม แต่ออมสินเขาอยู่กับแม่และยายแก่ๆ แม่เขารับจ้างอ้อยค่าแรงวันหนึ่งไม่ถึงห้าร้อย ถ้าเอาเงินมารักษาแบบนี้เห็นทีจะลำบาก”“น่าเห็นใจเหมือนกันนะครับ”“ถ้างั้นคุณหมอไม่ช่วยครูจะจ่ายค่ารักษาให้เองก็ได้ค่ะ” แม้ว่าเงินเดือนจะไม่มากแต่มันก็คงมากว่ารายได้ของมารดาเด็กนักเรียนกรัณย์กรไม่เคยเจอกรณีแบบนี้มาก่อนเขาเองก็สงสารและเห็นใจเธออยู่มากแต่เรื่องที่จะทำมันก็เป็นเรื่องที่ผิด“ครูรอผมสักครู่นะครับ”คุณหมอหนุ่มบอกกับคุณครูก่อนที่ตัวเองจะเดินออกมานอกห้องตรวจ“พี่ต่ายครับผมมีเรื่องถามหน่อยครับ” กรัณย์กรเดินมาหาหัวหน้าพยาบาลประจำแผนกฉุกเฉิน“มีอะไรคะหมอ”คุณหมอหนุ่มเล่าเรื่องที่เขาคุยกับคุณครูในห้องตรวจให้กับพี่หัวหน้าพยาบาลฟังอย่างละเอ

  • หมอขาอย่าทำร้ายหัวใจ   ตอนที่ 2 มันผิดนะครับ

    เมื่อวางสายจากมารดาของเด็กชายออมสินแล้วปิ่นปินัทธ์ก็รีบขึ้นไปยังห้องฉุกเฉินซึ่งตอนนี้พยาบาลกำลังช่วยกันทำความสะอาดแผลของออมสินที่ยังร้องไห้ไม่หยุด“แผลลึกไหมคะคุณพยาบาล”“ไม่ลึกค่ะแต่อาจจะต้องเย็บเดี๋ยวเราจะตามหมอให้นะคะ”“ไม่ทราบว่าน้องโดนอะไรมาคะ”“น้องหกล้มหัวกระแทกก้อนหินค่ะ”ขณะที่พยาบาลกำลังทำความสะอาดแผลบนศีรษะหมอประจำห้องฉุกเฉินก็เข้ามาพอดี“หัวเด็กไปโดนอะไรมาครับ”“หกล้มกระแทกก้อนหินค่ะ”“หมอขอดูแผลหน่อยนะครับ” คุณหมอหนุ่มเดินไปตรวจแผลแล้วบอกพยาบาลให้เตรียมอุปกรณ์เย็บแผลไว้รอ“แผลเปิดแต่ไม่ลึกมากคงต้องเย็บนะครับ ผู้ปกครองเซ็นชื่อแล้วใช่ไหมครับ”“ฉันไม่ใช่ผู้ปกครองค่ะ ฉันเป็นครู”เสียงที่ตอบฟังอ่อนหวานจนคุณหมอหนุ่มที่กำลังดูแผลอยู่รีบหันหน้ามามอง ผู้หญิงคนนี้นอกจากจะเสียงหวานแล้วใบหน้าเธอก็ยังสวยหวานมากๆ อีกด้วย เธอคือผู้หญิงในสเปกของเขาชัดๆ“คุณครูเหรอครับ” เขาถามแล้วยิ้มให้อย่างเป็นมิตร“ค่ะ”“แล้วผู้ปกครองของเด็กจะมาถึงเมื่อไหร่”“คงอีกสักพักค่ะ ให้ฉันเซ็นชื่อแทนได้ไหม”“ได้ครับ ถ้าเซ็นชื่อแล้วก็รอด้านนอกก่อนก็ได้”“ไม่เอาผมไม่อยากอยู่คนเดียว ครูปิ่นอย่าไปไหนนะ ห้ามทิ้งผมไป

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status