หน้าหลัก / โรแมนติก / หมอขาอย่าทำร้ายหัวใจ / ตอนที่ 10 ไม่ปฏิเสธก็คือตกลง

แชร์

ตอนที่ 10 ไม่ปฏิเสธก็คือตกลง

ผู้เขียน: จินต์พิชา
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-02-26 00:13:13

 

จากเลี้ยงอาหารมื้อเย็นเพื่อเป็นการขอบคุณที่หมอกรัณย์กรช่วยเขียนประวัติให้ในครั้งนั้น ตอนนี้หมอกรัณย์กรก็ได้กลายเป็น แขกประจำที่มักจะแวะเวียนมาทานอาหารที่บ้านของปิ่นปินัทธ์บ่อยๆ จนคุณยายละมัยเริ่มสงสัยว่าทั้งสองคนกำลังคบกัน

“เขาก็แค่มากินข้าวเองค่ะยาย ไม่มีอะไรหรอก” ปิ่นปินัทธ์ตอบเมื่อถูกถามว่าตอนนี้กำลังคบกับหมอกรัณย์กรหรือเปล่า

“แต่ปกติยายไม่เห็นหนูพาเพื่อนที่ไหนมากินข้าวที่บ้านนะ”

“ก็เพื่อนส่วนใหญ่เขาเป็นคนแถวนี้นี่คะยาย เลิกงานเขาก็กลับบ้าน แต่หมอเขาเป็นคนกรุงเทพไม่ค่อยมีเพื่อนที่นี่เท่าไหร่”

“แต่ยายว่าหมอเขาต้องจีบหลานสาวของยายแน่ๆ เลยนะ”

“ไม่หรอกค่ะยายปิ่นก็แค่ครูธรรมดาคนหนึ่งคนอย่างหมอเขาต้องมีแฟนเป็นหมอด้วยกันสิคะ”

“ทำไมเป็นคิดแบบนั้นล่ะลูก”

“ก็มันจริงนี่คะส่วนใหญ่หมอก็จะเป็นแฟนกับหมอหรือไม่ก็เป็นแฟนกับเภสัชหรือพยาบาล พวกเขาทำงานลักษณะเดียวกันคุยกันรู้เรื่องมากกว่าค่ะ”

“เท่าที่ยายสังเกตยายว่าหมอรัณย์เขาต้องชอบหลานสาวของยายแน่ แล้วถ้าเกิดมันเป็นแบบนั้นจริงปิ่นคิดว่ายังไงล่ะ”

“ปิ่นไม่กล้าคิดหรอกค่ะยาย”

“ปิ่นตอบว่าไม่กล้าคิดแสดงว่าเคยคิดใช่ไหมล่ะ”

“มันก็มีนิดหน่อยค่ะยาย หมอเขาเป็นคนหน้าตาดีพูดจาสุภาพ เวลาที่ปิ่นคุยกับเขาแล้วรู้สึกดี รู้สึกสบายใจดีค่ะ”

“แสดงว่าปิ่นจะไม่ปิดกั้นตัวเองถ้าหากเขาจะขอเป็นแฟนใช่ไหมลูก”

“ปิ่นว่าเราอย่าคิดไปไกลเลยค่ะ ปิ่นกับเขาต่างกันมากแค่ได้เป็นเพื่อนกันก็ดีแล้วค่ะ”

“แต่ยายว่าตอนนี้ปิ่นก็โตพอที่จะมีแฟนแล้วนะ เท่าที่ดูก็เห็นว่าหมอเขาเป็นคนนิสัยดีคนหนึ่ง เขามาบ้านยายไม่ใช่จะคุยกับปิ่นแค่คนเดียวเหมือนคนที่เคยมาจีบเป็นคนก่อนๆ แต่หมอเขาถามสารทุกข์สุกดิบของยายด้วยมันเลยทำให้ยายรู้สึกว่าเขาใส่ใจปิ่นและคนรอบข้างดี”

“เขาอาจจะถามแบบนั้นเพราะเขามีอาชีพเป็นหมอหรือเปล่าคะ”

“ยายก็ไม่รู้นะ แต่เท่าที่สังเกตยายว่าเขาน่าจะชอบหลานสาวของยายบ้างล่ะ”

“ปิ่นก็ไม่รู้เหมือนกันค่ะ และไม่อยากคิดอะไรมากด้วยค่ะ”

“แล้วเสาร์นี้เขาจะมากินข้าวที่บ้านเราอีกไหม”

“ไม่ค่ะ วันเสาร์เขามีงานค่ะ แต่วันอาทิตย์เขาชวนปิ่นเข้ากรุงเทพค่ะ ปิ่นขอไปกับเขาได้ไหมคะ”

“ได้สิ ปิ่นโตแล้วไม่ต้องขออนุญาตยายก็ได้ ว่าแต่ปิ่นจะไปค้างด้วยไหม”

“ไม่หรอกค่ะ เราไปเช้าเย็นก็กลับ”

“จะกินข้าวเช้าก่อนไปไหมละยายจะได้ทำกับข้าวให้”

“ขอเป็นแค่ข้าวเหนียวหมูทอดก็พอค่ะยาย ง่ายดี”

“ได้จ้ะปิ่นอย่าลืมเตือนยายอีกทีหนึ่งนะ ยายจะได้หมักหมูไว้ตั้งแต่คืนวันเสาร์เช้ามาจะได้ทอดเลย”

“ค่ะยาย ถ้ายังงั้นปิ่นขอตัวไปทำงานก่อนนะคะ ยายดูละครจบแล้วก็รีบเข้านอนนะคะ”

เมื่อเข้ามาในห้องนอนแล้วปิ่นปินัทธ์ก็นึกถึงคำพูดที่ตัวเองคุยกับยายเธอไม่รู้ว่าสถานะตัวเองกับหมอกรัณย์กรตอนนี้คืออะไรแต่ถ้าถามหัวใจตัวเองก็รู้สึกหวั่นไหวเวลาที่อยู่ใกล้เขา

หมอกรัณย์กรเป็นผู้ชายที่สุภาพอ่อนโยนคุยด้วยแล้วรู้สึกสบายใจเอามากๆ อีกทั้งการแสดงออกของเขาเธอก็พอจะมองออกอยู่บ้างว่าชายหนุ่มเข้ามาจีบ เพราะการขอบคุณที่ช่วยเรื่องออมสินมันน่าจะจบไปตั้งแต่การทานอาหารครั้งแรกแล้ว

หลังจากนั้นเขาก็ยังโทรมาคุยอยู่เกือบทุกวัน หรือเสาร์ไหนว่างเขาก็จะมาทานข้าวที่บ้านและบางครั้งก็ยังจะมาทานอาหารด้วยในตอนเย็น ซึ่งถือว่ามันค่อนข้างผิดปกติมากสำหรับคนที่งานยุ่งอย่างเขา แล้ววันอาทิตย์นี้เขาชวนเธอเข้าไปเที่ยวในกรุงเทพ ซึ่งปกติแล้วปิ่นปินัทธ์ไม่ค่อยเข้าไปกรุงเทพเท่าไหร่ถึงแม้ระยะทางจากสุพรรณบุรีไปกรุงเทพจะไม่ไกลแต่ที่ห้างสรรพสินค้าในเมืองก็มีครบทุกอย่างเธอก็ไม่มีความจำเป็นเข้าไปในเมืองที่วุ่นวาย

หญิงสาวนั่งทำใบงานและมองโทรศัพท์ไปด้วย เธอกำลังรอให้กรัณย์กรโทรมาหาซึ่งปกติแล้วถ้าคืนไหนเขาไม่เข้าเวรก็จะโทรมาคุยกับเธอประมาณสี่ทุ่ม ปิ่นปินัทธ์ไม่เคยคิดจะโทรหาเขาก่อนเพราะไม่รู้ว่าโทรไปแล้วจะเป็นการรบกวนทำงานของเขาหรือเปล่าทั้งที่ใจจริงก็อยากจะเป็นฝ่ายโทรหาชายหนุ่มบ้าง

เธอนั่งมองโทรศัพท์อยู่พักใหญ่ก็มีเสียงเรียกเข้าจากกรัณย์กรพอดี

“ขอโทษทีนะปิ่นที่โทรช้าไปให้หน่อยพอดีเมื่อกี้มีเคสฉุกเฉินเข้ามาติดๆ กันเลย” เขายุ่งตั้งแต่หัวค่ำกว่าจะได้พักก็เกือบห้าทุ่ม

“ถ้าคุณหมองานยุ่งไม่ต้องโทรหาปิ่นทุกวันก็ได้ ปิ่นเข้าใจค่ะ”

“แต่ผมอยากโทรหาหรือปิ่นรำคาญที่ผมโทรหาบ่อยๆ”

“ไม่ใช่หรอกค่ะ ปิ่นไม่ได้รำคาญแต่ปิ่นรู้ว่าหมอไม่ค่อยมีเวลาค่ะ”

“ปิ่นว่าเราคุยกันแบบนี้ทุกวันมันดีไหม”

“ค่ะ”

“ผมว่าปิ่นน่าจะรู้ว่าผมโทรหาปิ่น มาทานข้าวกับปิ่นก็หลายครั้งเพราะอะไร”

“แล้วมันเพราะอะไรล่ะคะ หมอไม่บอกปิ่นก็ไม่รู้หรอกค่ะ”

“ผมพูดตรงๆ เลยได้ไหม”

“หมอจะพูดอะไรล่ะคะ” หญิงสาวกำลังใจเต้นแรงเพราะอยากจะรู้ว่าสิ่งที่เขาพูดนั้นมันเป็นสิ่งเดียวกับที่เธอกำลังคิดอยู่หรือเปล่า

“ผมก็ไม่อยากอ้อมค้อมหรอกนะ เพราะเราต่างก็โตกันแล้ว แต่ก็กลัวปิ่นจะตกใจ”

“จะพูดอะไรเหรอคะ ไหนบอกจะไม่อ้อมค้อม ปิ่นรอฟังอยู่ตั้งนาน หมอยังไม่เห็นพูดสักที”

“ปิ่นก็อย่าเร่งผมสิ ผมตื่นเต้นไปหมด” แล้วกรัณย์กรรู้สึกตื่นเต้นอย่างที่บอกกับหญิงสาวจริงๆ เพราะมันนานมาแล้วที่เขาไม่เคยรู้สึกใจเต้นแรงเวลาคุยกับใครหรืออยู่ใกล้ใครเหมือนกับคุณครู ปิ่นปินัทธ์มาก่อน

“ถ้าคุณหมอลำบากใจไม่ต้องพูดก็ได้ค่ะ ปิ่นแค่แซว วันนี้หมอทำงานหนักมาทั้งวันแล้วไปพักผ่อนก็ได้ค่ะ”

“เดี๋ยวสิปิ่น ไม่ใช่ว่าผมจะไม่พูดสักหน่อยผมแค่กำลังรวบรวมคำพูดอยู่”

หญิงสาวได้ยินเสียงถอนหายใจก่อนที่เขาจะพูดต่อ

“คือแบบนี้นะ ผมชอบปิ่นเราเป็นแฟนกันไหม” กรัณย์กรพูดออกไปแล้วก็เป็นกังวลกลัวเธอจะไม่ตอบตกลง

“อะไรนะคะ”

“ก็ปิ่นให้ผมพูดตรงๆ ไงเพราะผมพูดตรงแล้ว ผมรู้สึกชอบปิ่นและอยากขอเป็นแฟน ผมว่าปิ่นก็น่าจะรู้นะว่าผมมีความรู้สึกดีๆ ให้”

“ปิ่นไม่แน่ใจเท่าไหร่ ปิ่นคิดว่าหมออาจจะรู้สึกดีกับปิ่น แต่ไม่คิดว่าหมอจะขอเป็นแฟน”

“ทำไมล่ะ”

“ปิ่นว่ามันเร็วไปหรือเปล่า”

“เร็วที่ไหนล่ะปิ่น เรารู้จักกันมาสองเดือนแล้วนะครับ ผมเข้านอกออกในบ้านคุณก็บ่อยบางคนอาจจะคิดว่าเราเป็นแฟนกันแล้วด้วยซ้ำ ปิ่นตกลงไหมล่ะ หรือว่าปิ่นคบกับใครอยู่ แต่ผมว่าปิ่นน่าจะยังโสดนะ”

“หมอรู้ได้ยังไงคะว่าปิ่นยังโสด”

“เอาเป็นว่าผมรู้ก็แล้วกัน ตกลงเราเป็นแฟนกันแล้วนะ”

“ปิ่นตอบตกลงไปตอนไหม”

“ก็ปิ่นไม่ปฏิเสธผมก็ถือว่าปิ่นตกลง เพราะฉะนั้นวันอาทิตย์นี้จะเป็นเดตแรกของเรานะ ผมต้องวางสายแล้วมีคนไข้เข้ามาบ๊ายบายนะครับปิ่นฝันดีครับ”

คุณหมอหนุ่มพูดเสร็จแล้วก็ตัดสายไปทิ้งให้ปิ่นปินัทธ์มองโทรศัพท์ด้วยความสับสน เธอรู้ว่าเขาชอบรู้ว่าเขารู้สึกดีๆ ด้วยแต่ไม่คิดว่าเขาจะขอเธอเป็นแฟนแบบนี้ หญิงสาวอยากจะบอกเรื่องนี้กับคุณยายแต่เมื่อมองนาฬิกาแล้วก็คิดว่าป่านนี้ท่านคงจะเข้านอนไปแล้วแต่ไม่เป็นไรพรุ่งนี้เธอยังมีเวลาคุยกับท่านในตอนเช้าก่อนไปทำงาน

บทที่เกี่ยวข้อง

  • หมอขาอย่าทำร้ายหัวใจ   ตอนที่ 1 เรื่องวุ่นวัยรุ่นเก้าขวบ

    “ครูปิ่นคร้าบ ครูปิ่นคร้าบ ช่วยด้วย ช่วยออมสินด้วย ออมสินล้มหัวมีแต่เลือดเลยครับ” ไออุ่นเด็กชายวัยเก้าขวบวิ่งหน้าตื่นเข้ามาในห้องเรียนในเวลาสิบห้านาฬิกา“อะไรนะไออุ่น ค่อยๆ พูดแล้วนั่นทำไมเสื้อมีแต่เลือด” คุณครูสาวถามด้วยความตกใจ“ออมสินครับครูปิ่น ออมสินล้มหัวมีแต่เลือดเต็มเลย” เด็กชายตอบพร้อมกับหอบเหนื่อย“แล้วล้มอยู่ที่ไหน ไออุ่นพาครูไปหน่อย”“ล้มที่สนามฟุตบอลครับครูปิ่นครูต้องไปช่วยออมสินนะครับ”“ไออุ่นนำครูไปเลย”ปิ่นปินัทธ์ครูสาววัยยี่สิบห้าปีบอกกับลูกศิษย์ก่อนจะรีบวางการบ้านที่กำลังตรวจอยู่แล้ววิ่งตามเด็กชายไออุ่นไปยังบริเวณสนามฟุตบอลซึ่งตอนนี้เด็กๆ หลายคนกำลังมุงดูอะไรบางอย่างอยู่จนมองไม่เห็นว่าตรงกลางนั้นคืออะไร“หลบหน่อย ครูปิ่นมาแล้ว” ไออุ่นตะโกนบอกเพื่อนก่อนที่ตัวเองจะวิ่งมาถึงเมื่อเด็กๆ กระจายตัวกันออกแล้วปิ่นปินัทธ์ก็เห็นว่าตอนนี้เด็กชายออมสินนักเรียนห้องของเธอนั่งอยู่บนพื้นและกำลังร้องไห้ เสื้อนักเรียนสีขาวเปื้อนเลือดเต็มไปหมด“ออมสินเป็นอะไร เจ็บตรงไหน เอามือออกก่อนนะขอครูดูหน่อย” คุณครูสาวพยายามจะดึงมือออกแต่เด็กชายออมสินก็ไม่ยอมปล่อยมือของตนเอง“มันมีแต่เลือดเลยครับ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-26
  • หมอขาอย่าทำร้ายหัวใจ   ตอนที่ 2 มันผิดนะครับ

    เมื่อวางสายจากมารดาของเด็กชายออมสินแล้วปิ่นปินัทธ์ก็รีบขึ้นไปยังห้องฉุกเฉินซึ่งตอนนี้พยาบาลกำลังช่วยกันทำความสะอาดแผลของออมสินที่ยังร้องไห้ไม่หยุด“แผลลึกไหมคะคุณพยาบาล”“ไม่ลึกค่ะแต่อาจจะต้องเย็บเดี๋ยวเราจะตามหมอให้นะคะ”“ไม่ทราบว่าน้องโดนอะไรมาคะ”“น้องหกล้มหัวกระแทกก้อนหินค่ะ”ขณะที่พยาบาลกำลังทำความสะอาดแผลบนศีรษะหมอประจำห้องฉุกเฉินก็เข้ามาพอดี“หัวเด็กไปโดนอะไรมาครับ”“หกล้มกระแทกก้อนหินค่ะ”“หมอขอดูแผลหน่อยนะครับ” คุณหมอหนุ่มเดินไปตรวจแผลแล้วบอกพยาบาลให้เตรียมอุปกรณ์เย็บแผลไว้รอ“แผลเปิดแต่ไม่ลึกมากคงต้องเย็บนะครับ ผู้ปกครองเซ็นชื่อแล้วใช่ไหมครับ”“ฉันไม่ใช่ผู้ปกครองค่ะ ฉันเป็นครู”เสียงที่ตอบฟังอ่อนหวานจนคุณหมอหนุ่มที่กำลังดูแผลอยู่รีบหันหน้ามามอง ผู้หญิงคนนี้นอกจากจะเสียงหวานแล้วใบหน้าเธอก็ยังสวยหวานมากๆ อีกด้วย เธอคือผู้หญิงในสเปกของเขาชัดๆ“คุณครูเหรอครับ” เขาถามแล้วยิ้มให้อย่างเป็นมิตร“ค่ะ”“แล้วผู้ปกครองของเด็กจะมาถึงเมื่อไหร่”“คงอีกสักพักค่ะ ให้ฉันเซ็นชื่อแทนได้ไหม”“ได้ครับ ถ้าเซ็นชื่อแล้วก็รอด้านนอกก่อนก็ได้”“ไม่เอาผมไม่อยากอยู่คนเดียว ครูปิ่นอย่าไปไหนนะ ห้ามทิ้งผมไป

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-26
  • หมอขาอย่าทำร้ายหัวใจ   ตอนที่ 3 เด็กกับการหกล้มมันของคู่กัน

    คุณครูสาวไม่รู้จะหาทางออกยังไงเธอจะจ่ายค่ารักษาให้ก็ได้แต่แม่ของออมสินก็คงไม่ยอม“ครูเคยทำแบบนี้บ่อยไหมครับ”“ไม่เลยค่ะปกติเราก็จะบอกไปตามตรงว่ากรณีไหนจะสามารถเบิกได้กรณีไหนผู้ปกครองต้องจ่ายเอง แต่กับเด็กคนนี้ครูขอเป็นกรณีพิเศษได้ไหมคะ”“ทำไมถึงขอให้เด็กคนนี้เป็นกรณีพิเศษ ครูไม่กลัวว่าขอให้คนนี้ได้แล้วคนอื่นจะทำตามอย่างเหรอ”“หมอคงมองว่าครูเป็นคนไม่ดีไม่ซื่อสัตย์ใช่ไหม แต่ออมสินเขาอยู่กับแม่และยายแก่ๆ แม่เขารับจ้างอ้อยค่าแรงวันหนึ่งไม่ถึงห้าร้อย ถ้าเอาเงินมารักษาแบบนี้เห็นทีจะลำบาก”“น่าเห็นใจเหมือนกันนะครับ”“ถ้างั้นคุณหมอไม่ช่วยครูจะจ่ายค่ารักษาให้เองก็ได้ค่ะ” แม้ว่าเงินเดือนจะไม่มากแต่มันก็คงมากว่ารายได้ของมารดาเด็กนักเรียนกรัณย์กรไม่เคยเจอกรณีแบบนี้มาก่อนเขาเองก็สงสารและเห็นใจเธออยู่มากแต่เรื่องที่จะทำมันก็เป็นเรื่องที่ผิด“ครูรอผมสักครู่นะครับ”คุณหมอหนุ่มบอกกับคุณครูก่อนที่ตัวเองจะเดินออกมานอกห้องตรวจ“พี่ต่ายครับผมมีเรื่องถามหน่อยครับ” กรัณย์กรเดินมาหาหัวหน้าพยาบาลประจำแผนกฉุกเฉิน“มีอะไรคะหมอ”คุณหมอหนุ่มเล่าเรื่องที่เขาคุยกับคุณครูในห้องตรวจให้กับพี่หัวหน้าพยาบาลฟังอย่างละเอ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-26
  • หมอขาอย่าทำร้ายหัวใจ   ตอนที่ 4 หลานรักของยาย

    “ครูเข้าใจค่ะคุณแม่ ครูก็เลยคุยกับหมอให้แล้วเดี๋ยวคุณแม่พาออมสินกลับบ้านได้เลย”“แล้วพรุ่งนี้ออมสินต้องมาโรงเรียนไหมคะครู”“คุณหมอบอกว่าแผลที่ศีรษะไม่ได้เป็นอะไรมากแต่ถ้ามีไข้หรือปวดแผลมากๆ ออมสินจะหยุดอยู่บ้านก็ได้” เธอบอกตามที่ได้รับฟังมาจากพยาบาล“คือแม่ต้องไปทำงานออมสินต้องอยู่บ้านกับยายค่ะ แม่กลัวว่ายายจะเอายาให้ออมสินไม่ถูกเพราะยายแกอ่านหนังสือไม่ออกค่ะ ถ้าจะให้หยุดงานแม่ก็เอาเงินค่าจ้างของเขามาแล้ว” ท่าทางวิตกกังวลของผู้เป็นมารดาทำให้ปิ่นปินัทธ์เห็นใจและคิดว่าตนเองจะอยู่เฉยกับเรื่องนี้ไม่ได้“เอาอย่างนี้ก็ได้ค่ะ คุณแม่ให้ออมสินมาที่โรงเรียนเอายามาด้วยนะคะเดี๋ยวครูจะช่วยดูให้ แล้วตอนเย็นคุณครูจะพามาล้างแผลและจะพาไปส่งที่บ้าน”“เกรงใจคุณครูจังเลยค่ะ เรื่องล้างแผลเลิกงานแล้วแม่พาออมสินมาเองก็ได้นะคะ”“ต้องเกรงใจอะไรกันล่ะคะแม่ เพราะยังไงเวลาครูกลับบ้านก็ต้องผ่านบ้านออมสินอยู่แล้วใช่ไหม” เธอหันมาถามลูกศิษย์“ใช่ครับ บ้านครูปิ่นเลยไปข้างในบ้านเรา” เด็กชายออมสินจำได้ว่าเพราะเธอเคยเล่าให้ฟังว่าทุกครั้งว่ากลับจากโรงเรียนก็จะผ่านบ้านของเด็กชาย“แม่ไม่รู้จะขอบคุณคุณครูยังไงเลย”“ไม่เป็นไ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-26
  • หมอขาอย่าทำร้ายหัวใจ   ตอนที่ 5 อยากเจอครูของคนไข้

    กรัณย์กรตรวจผู้ป่วยในห้องฉุกเฉินจนกระทั่งถึงเวลาห้าทุ่มจึงได้นั่งพักเหนื่อย เขานั่งอยู่หน้าจอเปิดคอมพิวเตอร์และดึงประวัติของเด็กชายออมสินขึ้นมาดูอีกครั้ง ไม่ใช่เพราะติดใจเรื่องการทำประวัติแต่เพราะเขาอยากได้เบอร์โทรศัพท์ของคุณครูสาวที่ชื่อปิ่นปินัทธ์มากกว่า เพราะตั้งแต่ย้ายมาเป็นแพทย์ใช้ทุนที่นี่สองปีกว่าก็เขายังไม่เคยเจอผู้หญิงคนไหนที่สวยและถูกใจเท่ากับคุณครูคนนี้มาก่อนชายหนุ่มยังต้องประจำอยู่ที่โรงพยาบาลนี้อีกครึ่งปี ถ้าหากระหว่างนี้เขาจะลองคบหากับเธอมันคงพอจะมีทางเป็นไปได้เท่าที่สังเกตดูเขาคิดว่าหญิงสาวคนนี้น่าจะยังไม่มีแฟนเพราะถ้าไม่อย่างนั้นเธอคงไม่ตอบรับการนัดเลี้ยงข้าวของเขาไว้ง่ายๆ แบบนี้กรัณย์กรบันทึกเบอร์โทรศัพท์ของของเธอลงเครื่องของตัวเองไว้และลังเลว่าจะแอดไลน์ไปดีหรือเปล่าแต่คิดว่าจะรอเจอเธอพรุ่งนี้แล้วค่อยขออนุญาตแอดไลน์เพราะตอนนี้มันก็เป็นเวลาดึกมากแล้วเขาบันทึกเบอร์โทรศัพท์ของลงเสร็จแล้วหย่อนโทรศัพท์ลงกระเป๋าเสื้อกาวน์โดยไม่ทันสังเกตว่ามือตัวเองเผลอกดเธอออก“หมอคะมีคนไข้ฉุกเฉินมากค่ะ” เสียงพยาบาลสาวทำให้เขาไม่ได้ยินเสียงปลายสายที่ตอบรับผู้ป่วยรายนี้มีอาการ ปวดท้องเกร

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-26
  • หมอขาอย่าทำร้ายหัวใจ   ตอนที่ 6 เขาไม่เรียกโชคดีหรอกค่ะ

    กรัณย์กรเดินวนอยู่หน้าห้องตรวจฉุกเฉินจนถึงเวลาสิบเจ็ดนาฬิกาก็เห็นปิ่นปินัทธ์เดินมากับเด็กชายออมสิน“สวัสดีครับคุณหมอ” เด็กชายออมสินรีบยกมือไหว้คุณหมอคนที่เย็บแผลให้กับตนเองเมื่อวาน“เป็นไงบ้างครับออมสิน เจ็บแผลอยู่ไหม”“เจ็บนิดหน่อยครับ”“สวัสดีครับครูปิ่น”“สวัสดีค่ะหมอ” ปิ่นปินัทธ์ยกมือไหว้ทำให้เขารีบยกมือรับไหว้แทบไม่ทัน“ครูไม่ต้องไหวผมหรอกครับผมยังไม่อยากแก่”“ค่ะ ปิ่นขอตัวพาออมสินไปทำแผลก่อนนะคะ”“ผมก็จะเข้าไปดูเหมือนกันอยากรู้ว่าแผลที่เย็บไปเมื่อวานเป็นยังไงบ้าง”“ค่ะหมอ”หญิงสาวส่งบัตรนัดทำแผลให้กับผู้ช่วยพยาบาลจากนั้นก็พอออมสินไปนอนบนเตียงให้พยาบาลล้างแผล“แผลติดดีนะคะหมอ พี่ว่าไม่ต้องมาล้างทุกวันก็ได้มั้งคะ”“ถ้างั้นล้างพรุ่งนี้อีกวันก็ได้ครับแล้วก็มาอีกทีวันตัดไหมเลย”“จะไม่เป็นไรใช่ไหมคะ” ปิ่นปินัทธ์ถามเพราะเธอไม่ค่อยมีความรู้เรื่องนี้“ไม่หรอกหรอกครับ แต่ถ้าระหว่างนี้มีไข้หรือเลือดซึมก็ต้องพามาครับ”“เจ็บไหม” กรัณย์กรถามเด็กชายที่วันนี้นั่งนอนนิ่งให้พยาบาลทำแผลไม่ได้งอแงอย่างเมื่อวาน“ไม่เจ็บครับ”“ตั้งแต่กลับไปบ้านเมื่อวานล่ะเจ็บไหม”“เมื่อคืนเจ็บครับ” เด็กชายนึกอยู่นานก

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-26
  • หมอขาอย่าทำร้ายหัวใจ   ตอนที่ 7 แบ่งเวลา

    “แต่เด็กเขาหกล้มเองไม่ใช่เหรอครับ”“ใช่ค่ะแต่เด็กก็อยู่ในความรับผิดชอบของครู ตราบใดที่พ่อแม่เขายังไม่มารับก็เป็นหน้าที่ของครูค่ะ” ปิ่นปินัทธ์คิดว่าสิ่งที่ตนเองทำอยู่มันถูกต้องแล้ว ถ้าเธอดูแลนักเรียนดีกว่านี้ออมสินก็คงจะไม่เจ็บตัว“แต่ผมว่ามันไม่ใช่ความผิดของครูนะครับ เด็กก็ต้องซนเป็นธรรมดาอย่าคิดมากเลย หรือที่ปิ่นพูดแบบนี้เพราะแม่เขาหรือเปล่า”“เปล่าค่ะ แม่ของออมสินเขาเข้าใจค่ะ แต่ปิ่นรู้สึกผิดนิดหน่อยแค่นั้นเองค่ะ”“ผมว่าปิ่นทำดีที่สุดแล้วนะครับ”“ขอบคุณค่ะที่เข้าใจปิ่น”“เป็นครูนี่เหนื่อยเหมือนกันนะครับ”“แต่ปิ่นว่าคงเหนื่อยไม่เท่าหมอหรอกนะคะ ครูมีหน้าที่แค่สอนหนังสือและดูแลเด็กเอง ไม่เหมือนหมอที่ต้องรับผิดชอบชีวิตด้วย หมอทำงานหนักมากกว่าครูเยอะเลยค่ะ”“มันก็ถูกครับหมอเป็นอาชีพที่ทำงานหนักจริงๆ”“แต่คนก็ยังอยากเป็นหมอกันเยอะนะคะ”“ผมก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน”“น่าจะเพราะรายได้ดีและดูมีเกียรติมั้งคะ”“ผมว่าทุกอาชีพก็มีเกียรติเหมือนกันนะครับ ผมว่าการเป็นครูไม่ง่ายเลยนะครับ ถ้าไม่มีครูดีๆ สอนมาตั้งแต่เด็กๆ ผมจะโตมาเป็นหมอได้ยังไงจริงๆ แล้วผมว่าอาชีพครูเป็นอาชีพที่น่าชื่นชมและมีเกียรติมากอาช

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-26
  • หมอขาอย่าทำร้ายหัวใจ   ตอนที่ 8 นึกว่าจะได้เจอกัน

    หลังจากที่โทรศัพท์คุยกับปิ่นปินัทธ์ทุกคืน วันนี้กรัณย์กรก็รู้สึกตื่นเต้นมากที่จะได้เจอเธออีกครั้ง เพราะเธอบอกเขาว่าวันนี้จะต้องพาลูกศิษย์มาตัดไหมที่โรงพยาบาลชายหนุ่มตรวจคนไข้คนอื่นเสร็จแล้วก็นั่งรอว่าเมื่อไหร่หญิงสาวจะเดินเข้ามา แต่กรัณย์กรก็ต้องผิดหวังเพราะวันนี้คนที่พาออมสินมาตัดไหมเป็นมารดาของเด็กชายแทนที่จะเป็นคุณครูปิ่นปินัทธ์“สวัสดีครับคุณหมอ / สวัสดีค่ะคุณหมอ” ออมสินและมารดายกมือไหว้“สวัสดีครับ น้องเป็นยังไงบ้างครับคุณแม่มีอาการผิดปกติอะไรไหม”“ไม่มีค่ะ”“หมอขอดูแผลหน่อยนะครับ”กรัณย์กรตรวจบาดแผลแล้วก็เห็นว่าแผลติดสนิทดีชายหนุ่มตัดไหมออกทั้งหมดจากนั้นก็ปิดพลาสเตอร์กันน้ำไว้อย่างเดิม“อย่าเพิ่งให้แผลโดนน้ำนะครับ รอให้ครบสามวันก่อนแล้วค่อยแกะพลาสเตอร์ออก”“แล้วต้องมาทำแผลอีกมั้ยคะ”“ไม่แล้วครับระหว่างนี้ก็ดูว่ามีเลือดซึมออกมาจากพลาสเตอร์ที่ปิดไว้หรือเปล่าถ้ามีอาการผิดปกติหรือรู้สึกว่าบริเวณแผลบวมขึ้นหรือมีไข้ก็ให้มาหาหมอ”“ขอบคุณมากค่ะหมอ”“ไม่วิ่งซนอีกแล้วนะครับออมสิน”“ครับคุณหมอ”“วันนี้แม่พาน้องกลับบ้านได้เลยนะครับ”“มีค่าใช้จ่ายอะไรหรือเปล่าคะคุณหมอ”“ไม่มีครับเดี๋ยวพยาบา

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-26

บทล่าสุด

  • หมอขาอย่าทำร้ายหัวใจ   ตอนที่ 10 ไม่ปฏิเสธก็คือตกลง

    จากเลี้ยงอาหารมื้อเย็นเพื่อเป็นการขอบคุณที่หมอกรัณย์กรช่วยเขียนประวัติให้ในครั้งนั้น ตอนนี้หมอกรัณย์กรก็ได้กลายเป็น แขกประจำที่มักจะแวะเวียนมาทานอาหารที่บ้านของปิ่นปินัทธ์บ่อยๆ จนคุณยายละมัยเริ่มสงสัยว่าทั้งสองคนกำลังคบกัน“เขาก็แค่มากินข้าวเองค่ะยาย ไม่มีอะไรหรอก” ปิ่นปินัทธ์ตอบเมื่อถูกถามว่าตอนนี้กำลังคบกับหมอกรัณย์กรหรือเปล่า“แต่ปกติยายไม่เห็นหนูพาเพื่อนที่ไหนมากินข้าวที่บ้านนะ”“ก็เพื่อนส่วนใหญ่เขาเป็นคนแถวนี้นี่คะยาย เลิกงานเขาก็กลับบ้าน แต่หมอเขาเป็นคนกรุงเทพไม่ค่อยมีเพื่อนที่นี่เท่าไหร่”“แต่ยายว่าหมอเขาต้องจีบหลานสาวของยายแน่ๆ เลยนะ”“ไม่หรอกค่ะยายปิ่นก็แค่ครูธรรมดาคนหนึ่งคนอย่างหมอเขาต้องมีแฟนเป็นหมอด้วยกันสิคะ”“ทำไมเป็นคิดแบบนั้นล่ะลูก”“ก็มันจริงนี่คะส่วนใหญ่หมอก็จะเป็นแฟนกับหมอหรือไม่ก็เป็นแฟนกับเภสัชหรือพยาบาล พวกเขาทำงานลักษณะเดียวกันคุยกันรู้เรื่องมากกว่าค่ะ”“เท่าที่ยายสังเกตยายว่าหมอรัณย์เขาต้องชอบหลานสาวของยายแน่ แล้วถ้าเกิดมันเป็นแบบนั้นจริงปิ่นคิดว่ายังไงล่ะ”“ปิ่นไม่กล้าคิดหรอกค่ะยาย”“ปิ่นตอบว่าไม่กล้าคิดแสดงว่าเคยคิดใช่ไหมล่ะ”“มันก็มีนิดหน่อยค่ะยาย หมอเขาเป็น

  • หมอขาอย่าทำร้ายหัวใจ   ตอนที่ 9 ของโปรดที่เหมือนกัน

    เช้าวันเสาร์ปิ่นปินัทธ์ตื่นนอนตั้งแต่เช้าเพื่อไปซื้อของสำหรับเตรียมทำอาหารต้อนรับหมอกรัณย์กรซึ่งจะมาทานในตอนเย็นส่วนตอนเช้าเธอคุยกับคุณยายแล้วว่าจะซื้อโจ๊กที่ตลาดเข้าไปคุณยายจะได้ไม่ต้องทำอาหารให้เหนื่อยแต่กลางวันก็คุยกันไว้แล้วว่าจะทำเย็นตาโฟทานกันหลังจากซื้อของเตรียมทำอาหารครบแล้วหญิงสาวก็แวะที่ร้านประจำร้านหนึ่งเพื่อซื้อซอสสำหรับทำเย็นตาโฟ“ซื้อของเยอะเลยนะคะครูปิ่น” เจ้าของร้านทักทาย“ค่ะพี่หนึ่ง ปิ่นซื้อของสดเข้าบ้านทุกวันเสาร์ก็เลยเยอะหน่อย พี่หนึ่งมีซอสเย็นตาโฟไหมคะ”“มีค่ะ ครูเอากี่ขวดค่ะ”“ขวดเดียวค่ะ”เมื่อแม่ค้าเอาซอสมาให้แล้วหญิงสาวก็เพิ่งนึกขึ้นได้ว่าตนเองลืมซื้อผักบุ้งสำหรับใส่เย็นตาโฟมาด้วย จะใช้ผักบุ้งที่ซื้อมาผัดก็กลัวจะไม่อร่อย“พี่หนึ่งมีผักบุ้งสำหรับใส่เย็นตาโฟไหม”“มีค่ะ เอาซอสเย็นตาโฟผักบุ้งแล้วเอาอะไรอย่างอื่นเพิ่มไหมคะครู”“เอาแค่นี้ค่ะ เท่าไหร่คะ”“สามสิบห้าบาทค่ะ คิดแค่ค่าซอสนะคะ ส่วนค่าผักบุ้งพี่ไม่คิดหรอกค่ะ”“ไม่คิดได้ยังไงล่ะคะ พี่ของซื้อของขายนะ”“แต่ผักบุ้งพวกนี้พี่ปลูกไว้เองที่กระบะหลังบ้านค่ะ ครูปิ่นเอาไปได้เลยไม่ต้องเกรงใจ”“ได้ยังไงกันแบบนี้ปิ่นก็

  • หมอขาอย่าทำร้ายหัวใจ   ตอนที่ 8 นึกว่าจะได้เจอกัน

    หลังจากที่โทรศัพท์คุยกับปิ่นปินัทธ์ทุกคืน วันนี้กรัณย์กรก็รู้สึกตื่นเต้นมากที่จะได้เจอเธออีกครั้ง เพราะเธอบอกเขาว่าวันนี้จะต้องพาลูกศิษย์มาตัดไหมที่โรงพยาบาลชายหนุ่มตรวจคนไข้คนอื่นเสร็จแล้วก็นั่งรอว่าเมื่อไหร่หญิงสาวจะเดินเข้ามา แต่กรัณย์กรก็ต้องผิดหวังเพราะวันนี้คนที่พาออมสินมาตัดไหมเป็นมารดาของเด็กชายแทนที่จะเป็นคุณครูปิ่นปินัทธ์“สวัสดีครับคุณหมอ / สวัสดีค่ะคุณหมอ” ออมสินและมารดายกมือไหว้“สวัสดีครับ น้องเป็นยังไงบ้างครับคุณแม่มีอาการผิดปกติอะไรไหม”“ไม่มีค่ะ”“หมอขอดูแผลหน่อยนะครับ”กรัณย์กรตรวจบาดแผลแล้วก็เห็นว่าแผลติดสนิทดีชายหนุ่มตัดไหมออกทั้งหมดจากนั้นก็ปิดพลาสเตอร์กันน้ำไว้อย่างเดิม“อย่าเพิ่งให้แผลโดนน้ำนะครับ รอให้ครบสามวันก่อนแล้วค่อยแกะพลาสเตอร์ออก”“แล้วต้องมาทำแผลอีกมั้ยคะ”“ไม่แล้วครับระหว่างนี้ก็ดูว่ามีเลือดซึมออกมาจากพลาสเตอร์ที่ปิดไว้หรือเปล่าถ้ามีอาการผิดปกติหรือรู้สึกว่าบริเวณแผลบวมขึ้นหรือมีไข้ก็ให้มาหาหมอ”“ขอบคุณมากค่ะหมอ”“ไม่วิ่งซนอีกแล้วนะครับออมสิน”“ครับคุณหมอ”“วันนี้แม่พาน้องกลับบ้านได้เลยนะครับ”“มีค่าใช้จ่ายอะไรหรือเปล่าคะคุณหมอ”“ไม่มีครับเดี๋ยวพยาบา

  • หมอขาอย่าทำร้ายหัวใจ   ตอนที่ 7 แบ่งเวลา

    “แต่เด็กเขาหกล้มเองไม่ใช่เหรอครับ”“ใช่ค่ะแต่เด็กก็อยู่ในความรับผิดชอบของครู ตราบใดที่พ่อแม่เขายังไม่มารับก็เป็นหน้าที่ของครูค่ะ” ปิ่นปินัทธ์คิดว่าสิ่งที่ตนเองทำอยู่มันถูกต้องแล้ว ถ้าเธอดูแลนักเรียนดีกว่านี้ออมสินก็คงจะไม่เจ็บตัว“แต่ผมว่ามันไม่ใช่ความผิดของครูนะครับ เด็กก็ต้องซนเป็นธรรมดาอย่าคิดมากเลย หรือที่ปิ่นพูดแบบนี้เพราะแม่เขาหรือเปล่า”“เปล่าค่ะ แม่ของออมสินเขาเข้าใจค่ะ แต่ปิ่นรู้สึกผิดนิดหน่อยแค่นั้นเองค่ะ”“ผมว่าปิ่นทำดีที่สุดแล้วนะครับ”“ขอบคุณค่ะที่เข้าใจปิ่น”“เป็นครูนี่เหนื่อยเหมือนกันนะครับ”“แต่ปิ่นว่าคงเหนื่อยไม่เท่าหมอหรอกนะคะ ครูมีหน้าที่แค่สอนหนังสือและดูแลเด็กเอง ไม่เหมือนหมอที่ต้องรับผิดชอบชีวิตด้วย หมอทำงานหนักมากกว่าครูเยอะเลยค่ะ”“มันก็ถูกครับหมอเป็นอาชีพที่ทำงานหนักจริงๆ”“แต่คนก็ยังอยากเป็นหมอกันเยอะนะคะ”“ผมก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน”“น่าจะเพราะรายได้ดีและดูมีเกียรติมั้งคะ”“ผมว่าทุกอาชีพก็มีเกียรติเหมือนกันนะครับ ผมว่าการเป็นครูไม่ง่ายเลยนะครับ ถ้าไม่มีครูดีๆ สอนมาตั้งแต่เด็กๆ ผมจะโตมาเป็นหมอได้ยังไงจริงๆ แล้วผมว่าอาชีพครูเป็นอาชีพที่น่าชื่นชมและมีเกียรติมากอาช

  • หมอขาอย่าทำร้ายหัวใจ   ตอนที่ 6 เขาไม่เรียกโชคดีหรอกค่ะ

    กรัณย์กรเดินวนอยู่หน้าห้องตรวจฉุกเฉินจนถึงเวลาสิบเจ็ดนาฬิกาก็เห็นปิ่นปินัทธ์เดินมากับเด็กชายออมสิน“สวัสดีครับคุณหมอ” เด็กชายออมสินรีบยกมือไหว้คุณหมอคนที่เย็บแผลให้กับตนเองเมื่อวาน“เป็นไงบ้างครับออมสิน เจ็บแผลอยู่ไหม”“เจ็บนิดหน่อยครับ”“สวัสดีครับครูปิ่น”“สวัสดีค่ะหมอ” ปิ่นปินัทธ์ยกมือไหว้ทำให้เขารีบยกมือรับไหว้แทบไม่ทัน“ครูไม่ต้องไหวผมหรอกครับผมยังไม่อยากแก่”“ค่ะ ปิ่นขอตัวพาออมสินไปทำแผลก่อนนะคะ”“ผมก็จะเข้าไปดูเหมือนกันอยากรู้ว่าแผลที่เย็บไปเมื่อวานเป็นยังไงบ้าง”“ค่ะหมอ”หญิงสาวส่งบัตรนัดทำแผลให้กับผู้ช่วยพยาบาลจากนั้นก็พอออมสินไปนอนบนเตียงให้พยาบาลล้างแผล“แผลติดดีนะคะหมอ พี่ว่าไม่ต้องมาล้างทุกวันก็ได้มั้งคะ”“ถ้างั้นล้างพรุ่งนี้อีกวันก็ได้ครับแล้วก็มาอีกทีวันตัดไหมเลย”“จะไม่เป็นไรใช่ไหมคะ” ปิ่นปินัทธ์ถามเพราะเธอไม่ค่อยมีความรู้เรื่องนี้“ไม่หรอกหรอกครับ แต่ถ้าระหว่างนี้มีไข้หรือเลือดซึมก็ต้องพามาครับ”“เจ็บไหม” กรัณย์กรถามเด็กชายที่วันนี้นั่งนอนนิ่งให้พยาบาลทำแผลไม่ได้งอแงอย่างเมื่อวาน“ไม่เจ็บครับ”“ตั้งแต่กลับไปบ้านเมื่อวานล่ะเจ็บไหม”“เมื่อคืนเจ็บครับ” เด็กชายนึกอยู่นานก

  • หมอขาอย่าทำร้ายหัวใจ   ตอนที่ 5 อยากเจอครูของคนไข้

    กรัณย์กรตรวจผู้ป่วยในห้องฉุกเฉินจนกระทั่งถึงเวลาห้าทุ่มจึงได้นั่งพักเหนื่อย เขานั่งอยู่หน้าจอเปิดคอมพิวเตอร์และดึงประวัติของเด็กชายออมสินขึ้นมาดูอีกครั้ง ไม่ใช่เพราะติดใจเรื่องการทำประวัติแต่เพราะเขาอยากได้เบอร์โทรศัพท์ของคุณครูสาวที่ชื่อปิ่นปินัทธ์มากกว่า เพราะตั้งแต่ย้ายมาเป็นแพทย์ใช้ทุนที่นี่สองปีกว่าก็เขายังไม่เคยเจอผู้หญิงคนไหนที่สวยและถูกใจเท่ากับคุณครูคนนี้มาก่อนชายหนุ่มยังต้องประจำอยู่ที่โรงพยาบาลนี้อีกครึ่งปี ถ้าหากระหว่างนี้เขาจะลองคบหากับเธอมันคงพอจะมีทางเป็นไปได้เท่าที่สังเกตดูเขาคิดว่าหญิงสาวคนนี้น่าจะยังไม่มีแฟนเพราะถ้าไม่อย่างนั้นเธอคงไม่ตอบรับการนัดเลี้ยงข้าวของเขาไว้ง่ายๆ แบบนี้กรัณย์กรบันทึกเบอร์โทรศัพท์ของของเธอลงเครื่องของตัวเองไว้และลังเลว่าจะแอดไลน์ไปดีหรือเปล่าแต่คิดว่าจะรอเจอเธอพรุ่งนี้แล้วค่อยขออนุญาตแอดไลน์เพราะตอนนี้มันก็เป็นเวลาดึกมากแล้วเขาบันทึกเบอร์โทรศัพท์ของลงเสร็จแล้วหย่อนโทรศัพท์ลงกระเป๋าเสื้อกาวน์โดยไม่ทันสังเกตว่ามือตัวเองเผลอกดเธอออก“หมอคะมีคนไข้ฉุกเฉินมากค่ะ” เสียงพยาบาลสาวทำให้เขาไม่ได้ยินเสียงปลายสายที่ตอบรับผู้ป่วยรายนี้มีอาการ ปวดท้องเกร

  • หมอขาอย่าทำร้ายหัวใจ   ตอนที่ 4 หลานรักของยาย

    “ครูเข้าใจค่ะคุณแม่ ครูก็เลยคุยกับหมอให้แล้วเดี๋ยวคุณแม่พาออมสินกลับบ้านได้เลย”“แล้วพรุ่งนี้ออมสินต้องมาโรงเรียนไหมคะครู”“คุณหมอบอกว่าแผลที่ศีรษะไม่ได้เป็นอะไรมากแต่ถ้ามีไข้หรือปวดแผลมากๆ ออมสินจะหยุดอยู่บ้านก็ได้” เธอบอกตามที่ได้รับฟังมาจากพยาบาล“คือแม่ต้องไปทำงานออมสินต้องอยู่บ้านกับยายค่ะ แม่กลัวว่ายายจะเอายาให้ออมสินไม่ถูกเพราะยายแกอ่านหนังสือไม่ออกค่ะ ถ้าจะให้หยุดงานแม่ก็เอาเงินค่าจ้างของเขามาแล้ว” ท่าทางวิตกกังวลของผู้เป็นมารดาทำให้ปิ่นปินัทธ์เห็นใจและคิดว่าตนเองจะอยู่เฉยกับเรื่องนี้ไม่ได้“เอาอย่างนี้ก็ได้ค่ะ คุณแม่ให้ออมสินมาที่โรงเรียนเอายามาด้วยนะคะเดี๋ยวครูจะช่วยดูให้ แล้วตอนเย็นคุณครูจะพามาล้างแผลและจะพาไปส่งที่บ้าน”“เกรงใจคุณครูจังเลยค่ะ เรื่องล้างแผลเลิกงานแล้วแม่พาออมสินมาเองก็ได้นะคะ”“ต้องเกรงใจอะไรกันล่ะคะแม่ เพราะยังไงเวลาครูกลับบ้านก็ต้องผ่านบ้านออมสินอยู่แล้วใช่ไหม” เธอหันมาถามลูกศิษย์“ใช่ครับ บ้านครูปิ่นเลยไปข้างในบ้านเรา” เด็กชายออมสินจำได้ว่าเพราะเธอเคยเล่าให้ฟังว่าทุกครั้งว่ากลับจากโรงเรียนก็จะผ่านบ้านของเด็กชาย“แม่ไม่รู้จะขอบคุณคุณครูยังไงเลย”“ไม่เป็นไ

  • หมอขาอย่าทำร้ายหัวใจ   ตอนที่ 3 เด็กกับการหกล้มมันของคู่กัน

    คุณครูสาวไม่รู้จะหาทางออกยังไงเธอจะจ่ายค่ารักษาให้ก็ได้แต่แม่ของออมสินก็คงไม่ยอม“ครูเคยทำแบบนี้บ่อยไหมครับ”“ไม่เลยค่ะปกติเราก็จะบอกไปตามตรงว่ากรณีไหนจะสามารถเบิกได้กรณีไหนผู้ปกครองต้องจ่ายเอง แต่กับเด็กคนนี้ครูขอเป็นกรณีพิเศษได้ไหมคะ”“ทำไมถึงขอให้เด็กคนนี้เป็นกรณีพิเศษ ครูไม่กลัวว่าขอให้คนนี้ได้แล้วคนอื่นจะทำตามอย่างเหรอ”“หมอคงมองว่าครูเป็นคนไม่ดีไม่ซื่อสัตย์ใช่ไหม แต่ออมสินเขาอยู่กับแม่และยายแก่ๆ แม่เขารับจ้างอ้อยค่าแรงวันหนึ่งไม่ถึงห้าร้อย ถ้าเอาเงินมารักษาแบบนี้เห็นทีจะลำบาก”“น่าเห็นใจเหมือนกันนะครับ”“ถ้างั้นคุณหมอไม่ช่วยครูจะจ่ายค่ารักษาให้เองก็ได้ค่ะ” แม้ว่าเงินเดือนจะไม่มากแต่มันก็คงมากว่ารายได้ของมารดาเด็กนักเรียนกรัณย์กรไม่เคยเจอกรณีแบบนี้มาก่อนเขาเองก็สงสารและเห็นใจเธออยู่มากแต่เรื่องที่จะทำมันก็เป็นเรื่องที่ผิด“ครูรอผมสักครู่นะครับ”คุณหมอหนุ่มบอกกับคุณครูก่อนที่ตัวเองจะเดินออกมานอกห้องตรวจ“พี่ต่ายครับผมมีเรื่องถามหน่อยครับ” กรัณย์กรเดินมาหาหัวหน้าพยาบาลประจำแผนกฉุกเฉิน“มีอะไรคะหมอ”คุณหมอหนุ่มเล่าเรื่องที่เขาคุยกับคุณครูในห้องตรวจให้กับพี่หัวหน้าพยาบาลฟังอย่างละเอ

  • หมอขาอย่าทำร้ายหัวใจ   ตอนที่ 2 มันผิดนะครับ

    เมื่อวางสายจากมารดาของเด็กชายออมสินแล้วปิ่นปินัทธ์ก็รีบขึ้นไปยังห้องฉุกเฉินซึ่งตอนนี้พยาบาลกำลังช่วยกันทำความสะอาดแผลของออมสินที่ยังร้องไห้ไม่หยุด“แผลลึกไหมคะคุณพยาบาล”“ไม่ลึกค่ะแต่อาจจะต้องเย็บเดี๋ยวเราจะตามหมอให้นะคะ”“ไม่ทราบว่าน้องโดนอะไรมาคะ”“น้องหกล้มหัวกระแทกก้อนหินค่ะ”ขณะที่พยาบาลกำลังทำความสะอาดแผลบนศีรษะหมอประจำห้องฉุกเฉินก็เข้ามาพอดี“หัวเด็กไปโดนอะไรมาครับ”“หกล้มกระแทกก้อนหินค่ะ”“หมอขอดูแผลหน่อยนะครับ” คุณหมอหนุ่มเดินไปตรวจแผลแล้วบอกพยาบาลให้เตรียมอุปกรณ์เย็บแผลไว้รอ“แผลเปิดแต่ไม่ลึกมากคงต้องเย็บนะครับ ผู้ปกครองเซ็นชื่อแล้วใช่ไหมครับ”“ฉันไม่ใช่ผู้ปกครองค่ะ ฉันเป็นครู”เสียงที่ตอบฟังอ่อนหวานจนคุณหมอหนุ่มที่กำลังดูแผลอยู่รีบหันหน้ามามอง ผู้หญิงคนนี้นอกจากจะเสียงหวานแล้วใบหน้าเธอก็ยังสวยหวานมากๆ อีกด้วย เธอคือผู้หญิงในสเปกของเขาชัดๆ“คุณครูเหรอครับ” เขาถามแล้วยิ้มให้อย่างเป็นมิตร“ค่ะ”“แล้วผู้ปกครองของเด็กจะมาถึงเมื่อไหร่”“คงอีกสักพักค่ะ ให้ฉันเซ็นชื่อแทนได้ไหม”“ได้ครับ ถ้าเซ็นชื่อแล้วก็รอด้านนอกก่อนก็ได้”“ไม่เอาผมไม่อยากอยู่คนเดียว ครูปิ่นอย่าไปไหนนะ ห้ามทิ้งผมไป

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status