Share

หน้าหนาวไร้ไออุ่น
หน้าหนาวไร้ไออุ่น
Author: หานชวน

บทที่ 1

Author: หานชวน
"คุณอัน คุณแน่ใจหรือว่าต้องการยกเลิกข้อมูลประจำตัวทั้งหมดของคุณงั้นเหรอ หลังจากที่คุณยกเลิกแล้ว บุคคลนี้จะไม่มีตัวตนในโลกนี้อีก และทุกคนจะไม่สามารถตามหาคุณเจอเลยนะ"

อันยีเซี่ยเงียบอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพยักหน้าอย่างแน่วแน่

"ค่ะ สิ่งที่ฉันต้องการก็คือไม่ให้ใครตามหาฉันเจอ"

ทางปลายสายนั้นรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย แต่ก็ตอบกลับทันทีว่า "ได้ค่ะ คุณอัน คาดว่าขั้นตอนการยกเลิกจะเสร็จสิ้นภายในครึ่งเดือน กรุณาอดทนรอหน่อยนะคะ"

หลังจากวางสายแล้ว อันยีเซี่ยก็หยิบโทรศัพท์มือถือออกมา และซื้อตั๋วเครื่องบินไปประเทศ F ของครึ่งเดือนข้างหน้า

ในขณะเดียวกัน ทางทีวีกำลังฉายงานแถลงข่าวของเซิ่งซื่อ กรุ๊ป

เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เซิ่งซืออวี้ ประธานของเซิ่งซื่อ กรุ๊ปได้เปิดตัวเครื่องประดับชิ้นหนึ่งโดยใช้เพชรและอัญมณีชั้นนำของโลกเพื่อทำเครื่องประดับชิ้นหนึ่งที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวให้กับภรรยาของเขา ซึ่งมีการตั้งชื่อชื่อว่า

【รักเซี่ย】

เขาใช้ชื่อของอันยีเซี่ยมาตั้งชื่อให้มัน ก็เพื่อบอกกับคนทั้งโลกว่าเซิ่งซืออวี้จะรักอันยีเซี่ยตลอดไป

ทันทีที่ [รักเซี่ย] เปิดตัว ก็ทำให้เกิดกระแสฮิตบนโซเชียลต่างๆ ทันที ติดเทรนด์ตลอด ชาวเน็ตต่างก็กำลังพูดถึงความรักอันแสนหวานระหว่างทั้งสอง หลังจากการแถลงข่าวจบการเรียบร้อย ทางทีวีก็เริ่มฉายภาพที่นักข่าวสัมภาษณ์ผู้สัญจรไปมา

"สวัสดีค่ะ ไม่ทราบว่าคุณผู้ชายท่านนี้รู้เกี่ยวกับความรักแสนโรแมนติกระหว่างคุณเซิ่งและคุณนายเซิ่งหรือเปล่าคะ"

ผู้หญิงในชุดกระโปรงลายดอกไม้เอ่ยปากพูดด้วยความอิจฉาว่า "มีใครบ้างที่ไม่รู้เรื่องความรักของพวกเขาล่ะ ก่อนหน้านี้คุณเซิ่งเคยออกหนังสือเลิ่มหนึ่งมาก่อน ซึ่งเนื้อหาในนั้นล้วนเป็นข้อมูลที่เกี่ยวกับคุณนายเซิ่ง ที่เขาปลูกต้นเชอร์รี่เต็มลานของวิลล่าไว้ก็เพราะคุณนายเซิ่งชอบกินเชอร์รี่ ฉันก็เลยให้สามีของฉันคอยเรียนรู้ด้วย แต่แล้วเขากลับบอกว่าผู้ชายอย่างเขาทำไม่เป็น เทียบไม่ติดเลย น่าโมโหซะเหลือเกิน"

จากนั้นนักข่าวก็ถามคนอื่นๆ อีกสองสามคน

นักศึกษาหญิงสาวคนหนึ่งยืนอยู่หน้าไมโครโฟน ประสานมือไว้ด้านหน้าหน้าอกพลางพูดด้วยสีหน้ามีความสุขว่า "พวกเขาเป็นพระเอกกับนางเอกจากนิยายรักเลย คุณเซิ่งเป็นเจ้าชายขี่ม้าขาวที่รักเดียวใจเดียวสุดๆ เลย เมื่อสี่ปีก่อนที่คุณนายเซิ่งเกิดภาวะไตวาย ชีวิตตกอยู่ในอันตรายและต้องการการปลูกถ่ายไตอย่างเร่งด่วน ตอนนั้นคุณเซิ่งเป็นกังวลอย่างมาก หลังจากได้รู้ว่าไตของตนเองเข้ากับอีกฝ่าย เขาก็ไม่สนใจคำคัดค้านของทุกคน และขึ้นเตียงผ่าตัดเพื่อบริจาคไตให้คุณนายเซิ่งในวันนั้นเลย เขาบอกว่าคุณนายเซิ่งก็คือชีวิตของเขา ถ้าเธอไม่อยู่แล้ว งั้นเขาก็ไม่อยากมีชีวิตอยู่ต่อ ทำไมโลกนี้มีผู้ชายแสนดีอะไรเช่นนี้เนี่ย"

……

นักข่าวถามผู้คนไปจำนวนมาก และทุกคนล้วนแต่อิจฉาความรักระหว่างเซิ่งซืออวี้กับอันยีเซี่ย

ข่าวนี้ถูกฉายซ้ำแล้วซ้ำเล่ามาหลายครั้ง แต่อันยีเซี่ยกลับยกมุมปากพร้อมยิ้มเยาะ

ตั้งแต่เด็กจนโต คนที่ตามจีบเธอมีไม่น้อยเพราะหน้าตาของเธอ

แต่เนื่องจากพ่อแม่ของเธอหย่ากันตั้งแต่เนิ่นๆ ดังนั้นอันยีเซี่ยจึงไม่เคยคาดหวังอะไรกับความรักเลย เธอปฏิเสธคำสารภาพรักมากมาย "ขอโทษนะ ฉันไม่อยากมีแฟน และฉันไม่สนใจเรื่องความรักด้วย"

จนกระทั่งที่เธอได้พบกับเซิ่งซืออวี้ฃ

มันต่างจากคนอื่นๆ เขาตามจีบเธออย่างไม่ลดละเป็นเวลาสามปี หลังจากถูกเธอปฏิเสธครั้งแล้วครั้งเล่า เขากลับยิ่งไม่ยอมแพ้ ถึงขนาดเสี่ยงชีวิตไปร่วมการแข่งรถเพื่อชิงสร้อยคออันโปรดของเธอ จนเกือบสูญเสียชีวิตไปเลย

ในที่สุดเธอก็หวั่นไหว

หลังจากที่พวกเขาคบกัน ความรักของเขาที่มีต่อเธอก็ไม่ได้ลดลงเลยแม้แต่น้อย เขากลับยิ่งพยายามทำดีกับเธอให้ดีที่สุด และค่อยๆ ทำให้จิตใจที่แข็งกระด้างของเธออ่อนลง

แม้แต่เรื่องการขอแต่งงาน เขาถึงขนาดขอเธอแต่งงานไปห้าสิบสองครั้ง ก่อนที่เธอจะยอมตกลงที่เปิดใจให้อย่างกล้าหาญ และตกลงที่จะแต่งงานกับเขาในที่สุด

ในวันที่ขอเธอแต่งงาน อันยีเซี่ยมองไปยังแหวนบนนิ้วนางของตัวเองพลางพูดกับเซิ่งซืออวี้ด้วยน้ำตาคลอเบ้าว่า "เซิ่งซืออวี้ จากนี้ไปฉันจะพยายามเป็นภรรยาของคุณให้ดีที่สุด ไม่ว่าจะทุกข์หรือว่าจะสุขสันต์ จะไม่มีวันทอดทิ้งอีกฝ่ายเป็นอันขาด แต่มีข้อหนึ่ง คุณต้องจดจำเอาไว้ ฉันจะไม่ยอมรับการหลอกลวงใดๆ หากคุณโกหกฉัน ฉันจะหายตัวไปจากชีวิตของคุณตลอดไป!"

ความทรงจำที่สวยงามในอดีต ปัจจุบันกลับถูกชีวิตจริงอันโหดร้ายทำลายหมด จนกลายเป็นความว่างเปล่า

สามเดือนที่แล้ว เธอค้นพบว่าเซิ่งซืออวี้แอบมีผู้หญิงอยู่ข้างนอกเป็นเวลานาน ตอนกลางวันใช้เวลาอยู่กับตัวเอง พอตกค่ำก็ไปหาผู้หญิงคนนั้น หัวใจของเขาได้แบ่งแยกให้กับสองคนไปแล้ว

ตามอย่างที่ว่ากันว่าเลย ทำไมคนที่เอาใจใส่อย่างกระตือรือร้นตั้งแต่แรกนั้นเป็นฝ่ายที่เริ่มเย็นชาใส่ และคนที่เปิดใจให้ทีหลังนั้นกลับห้ามใจไม่ได้และยังกำลังมีใจให้อยู่...

อันยีเซี่ยยิ้มอย่างขมขื่น เธอปิดโทรทัศน์ จากนั้นพิมพ์ข้อตกลงการหย่าที่เธอเตรียมไว้มานาน และเซ็นชื่อในนั้นอย่างจริงจัง

เมื่อคำพูดที่เธอเคยพูดไปลอยๆ นั้นกลายเป็นเรื่องจริงขึ้นมา งั้นเธอจะทำตามที่ตัวเองเคยบอกไว้ และหายตัวไปจากชีวิตของเขาตลอดไป

หลังจากเซ็นชื่อเสร็จแล้ว เธอก็ใส่ข้อตกลงการหย่าลงในกล่องของขวัญอันประณีตก่อนห่อไว้

หนึ่งชั่วโมงต่อมา เซิ่งซืออวี้เปิดประตูเข้าไป

ก่อนที่เขาจะเปลี่ยนรองเท้า เขาก็รีบก้าวไปข้างหน้าเพื่อกอดเธอและกล่าวขอโทษด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาว่า "เซี่ยเซี่ย ผมขอโทษ วันนี้ผมไปเอาเครื่องประดับเลยกลับมาช้าหน่อย และพลาดวันครบรอบแต่งงานของเรา ได้โปรดอย่าโกรธเลยนะจะได้ไหม"

เซิ่งซืออวี้หยิบกล่องที่แพ็ค [รักเซี่ย] ออกมาเพื่อง้อเธอ คอเสื้อเชิ้ตสีดำเปิดออกเล็กน้อย และกระดุมด้านบนสุดได้ปลดออกไว้

ทันทีที่เธอก้มศีรษะลงก็ได้เห็นรอยจูบและรอยขีดข่วนมากมายบนผิวหนังใต้คอเสื้อ ซึ่งทำให้ตาของอันยีเซี่ยรู้สึกเจ็บปวดมาก

ตกลงไปเอาเครื่องประดับหรือไปมีอะไรกับหลินจินกันแน่?

เกรงว่าเขาเพิ่งลงจากเตียงของหลินจินสินะ

เซิ่งซืออวี้กลับไม่ได้สังเกตเห็นความผิดปกติจากเธอ และใส่เครื่องประดับให้เธอด้วยความเอ็นดูในดวงตาของเขา เครื่องประดับนั้นสะท้อนแสงแวววาว ทำให้ใบหน้าที่สวยงามของเธอดูน่าดึงดูดยิ่งขึ้น

"เซี่ยเซี่ย คุณสวยมาก" เซิ่งซืออวี้ชื่นชมอย่างจริงใจ ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความประทับใจ

ทว่าอันยีเซี่ยไม่ได้แสดงท่าทียินดีใดๆ จากนั้นยื่นกล่องของขวัญที่เก็บข้อตกลงการหย่าจากโต๊ะให้เขาด้วยตาสีแดงก่ำ "นี่ให้คุณ"

เซิ่งซืออวี้ยังคงงุนงง "อะไรเหรอ"

อันยีเซี่ยกระตุกริมฝีปากแล้วพูดว่า "ของขวัญ คุณเตรียมของขวัญวันครบรอบแต่งงานให้ฉัน เพราะฉะนั้นฉันก็ต้องให้ด้วย"

ดวงตาของเซิ่งซืออวี้เป็นประกายในทันที และเขาก็รีบร้อนเตรียมตัวจะแกะมันออกอย่างกับสมบัติล้ำค่า

ทว่าอันยีเซี่ยหยุดเขาไว้ "ค่อยเปิดในครึ่งเดือนข้างหน้า"

"ทำไมล่ะ" เขารู้สึกสับสนเล็กน้อย

อันยีเซี่ยพูดชัดถ้อยชัดคำว่า "เพราะเปิดดูของขวัญชิ้นนี้ในครึ่งเดือนข้างหน้าจะมีความหมายมากกว่า"

เมื่อได้ยินดังนั้น เซิ่งซืออวี้ก็สะดุ้งอยู่ครู่หนึ่ง และไม่ถามคำถามใดๆ เพิ่มเติมอีก เขาแค่จับมือเธอแล้วจูบอีกฝ่ายเบาๆ

"เอาตามที่ที่รักบอกเลย ผมจะรอเซอร์ไพรส์นี้อยู่นะ"

หลังจากพูดอย่างนั้น เขาก็ฉีกกระดาษโน้ตแผ่นหนึ่งทันทีและเขียนข้อความไว้ก่อนติดบนกล่องของขวัญอย่างกับลูกสุนัขที่ว่าง่ายสอนง่าย

[ค่อยเปิดดูในครึ่งเดือนข้าหน้า]

อันยีเซี่ยมองดูเขาทำทั้งหมดนี้อย่างเงียบๆ

เซิ่งซืออวี้ หวังว่าเมื่อถึงวันนั้นคุณจะคิดว่ามันเป็นเซอร์ไพรส์จริงๆ

Related chapters

  • หน้าหนาวไร้ไออุ่น   บทที่ 2

    พอตื่นขึ้นมายามเช้า เซิ่งซืออวี้ก็จูบอันยีเซี่ยในยามเช้าตามปกติ"เซี่ยเซี่ย เมื่อวานผมพลาดวันครบรอบแต่งงานของเรา วันนี้ให้ผมชดเชยให้คุณได้ไหม""ไปสวนสนุกดีไหม ก่อนหน้านี้คุณไม่ได้บอกว่าอยากไปเที่ยวที่นั่นเหรอ?"อันยีเซี่ยหมดอารมณ์ ในขณะที่เธอกำลังจะปฏิเสธนั้น เซิ่งซืออวี้ก็จัดเก็บข้าวของที่ต้องการพกตัวไปด้วย แม้แต่เสื้อผ้าก็จัดเตรียมเรียบร้อยให้เธอแล้วหลังจากไปถึงสวนสนุก เขาก็ดูแลเธออย่างดีตลอดเวลาเธอเพิ่งเม้มริมฝีปากเล็กน้อย เขาก็เอาน้ำให้เธออย่างเอาใจใส่พอมองตุ๊กตาแวบหนึ่ง เขาก็ซื้อให้เธอทันทีม้าหมุน รถบั๊ม ชิงช้าสวรรค์...เซิ่งซืออวี้ไม่สนใจว่ารายการเหล่านั้นจะดูเด็กหรือไม่ ตราบใดที่เธอชอบ เขาจะเล่นเป็นเพื่อนกับเธอเซิ่งซืออวี้จับมือของเธอและแทบไม่เคยเอาออกเลย แม้ว่าเธอจะต่อต้านและต้องการที่จะหลุดมือจากเขา แต่เขาก็คงจะจับมันไว้อย่างแน่นถึงขนาดซื้อบอลลูนและแขวนไว้ในกระเป๋าของเธอ พูดด้วยใบหน้าเปื้อนรอยยิ้มว่า "เซี่ยเซี่ย ด้วยวิธีนี้ คุณจะไม่มีวันไปจากผมนะ"ไม่มีวันไปจากเขางั้นเหรอ...แต่คราวนี้ที่ที่เธอจะไปนั้น เขาไม่มีทางตามหาเจอเลยเซิ่งซืออวี้ คุณไปจากฉันไปตั้งนาน

  • หน้าหนาวไร้ไออุ่น   บทที่ 3

    อันยีเซี่ยเจ็บปวดอย่างรุนแรง เธอใช้มือขวากุมหน้าอกไว้แน่นและรู้สึกหายใจไม่ออกอยู่พักหนึ่งในที่สุด เซิ่งซืออวี้ก็สังเกตเห็นว่ามีบางอย่างผิดปกติ และรีบวิ่งไปข้างหน้า "เซี่ยเซี่ย เป็นอะไรไป"ความกังวลในดวงตาของเขาไม่ได้ดูเหมือนเสแสร้ง เหมือนกับว่าถ้ามีอะไรเกิดขึ้นกับเธอ เขาจะไม่อยากมีชีวิตอยู่ต่อด้วยแต่คนที่รักเธอสุดหัวใจนั้นกลับปิดบังเรื่องมากมายจากเธอเธอพยายามควบคุมอารมณ์ของตัวเอง "ไม่ได่เป็นอะไร... เมื่อกี้แค่หายใจไม่ออกอยู่นิดหน่อย"เซิ่งซืออวี้รีบช่วยเธอนวดหน้าอกทันที และหลังจากยืนยันว่าเธอไม่ได้เป็นอะไรก็รีบส่งเธอกลับไปพักผ่อนระหว่างทางกลับบ้าน เขาพยายามเล่าเรื่องที่ตลกเพื่อให้ฟัง เพื่อให้เะอมีความสุขแต่ไม่ว่าเขาจะพยายามมากแค่ไหน แต่เธอก็ไม่สามารถมีความสุขได้สักทีอันยีเซี่ยพิงหน้าต่างรถ มองทิวทัศน์ด้านนอกหน้าต่างอย่างเงียบๆ ด้วยสีหน้านิ่งเฉย"เซี่ยเซี่ย มีตรงไหนที่ผมทำไม่ดีหรือเปล่า" เขาถามอย่างหยั่งเชิง"เปล่า" ในที่สุดเธอก็เอ่ยปากพูด "ฉันแค่กำลังคิดถึงละครทีวีที่ฉันดูในวันนี้"เซิ่งซืออวี้ถอนหายใจด้วยความโล่งอกในทันทีทันใด และถามต่อไปด้วยรอยยิ้มว่า "ละครอะไรเหรอ"

  • หน้าหนาวไร้ไออุ่น   บทที่ 4

    [รักเซี่ย] มีมูลค่าไม่น้อย หากต้องการขาย วิธีเดียวที่จะนำมันไปขายก็คือเอไปประมูลเพราะฉะนั้นเซิ่งซืออวี้ได้เห็น [รักเซี่ย] ปรากฏตัวที่ร้านประมูลเหรอ?เธอไม่ได้ตอบคำถามของเขา แต่ถามกลับไปว่า "คุณไปร้านประมูลมาเหรอ"เซิ่งซืออวี้อึ้งไป จากนั้นแสดงสีหน้าผิดปกติเล็กน้อย เมื่อผ่านไปหลายวินาที เขาถึงตอบว่า "ผมอยากจะไปซื้อเครื่องประดับให้คุณไง"จะซื้อให้เธอหรือให้หลินจินกันแน่...หลินจินได้เตรียมเซอร์ไพรส์ชิ้นใหญ่ไว้ให้เขา ดังนั้นเขาจึงต้องมอบอะไรตอบแทนเธอสิท่าอันยีเซี่ยควบคุมอารมณ์ของตัวเองได้แล้ว และพูดด้วยน้ำเสียงสงบว่า "ฉันไม่ได้ขาย แต่ฉันบริจาคมัน"เมื่อได้ยินดังนั้น เซิ่งซืออวี้ก็กุมมือของเธอไว้อย่างจนใจ "เซี่ยเซี่ย ผมรู้ว่าคุณใจดี แต่ถ้าคุณต้องการบริจาค คุณสามารถใช้สิ่งอื่นได้ มีเพียงของชิ้นนี้จะบริจาคไม่ได้นะ"หลังจากพูดจบ เขาก็หยิบกล่องออกมาจากอ้อมแขนแล้ววางไว้ตรงหน้าอันยีเซี่ยกล่องกำมะหยี่สีดำถูกเปิดออก และมันก็คือ [รักเซี่ย] นั่นเองความแวววาวที่โดดเด่นของเครื่องประดับนั้นยังคงดีเหมือนเดิม"ผมซื้อมันกลับมาอีกแล้ว รักเซี่ยคือเครื่องพิสูจน์ความรักของผมที่มีต่อคุณ ไม่ว่าเม

  • หน้าหนาวไร้ไออุ่น   บทที่ 5

    ทว่าอันยีเซี่ยยังคงเงียบตลอด และหลังจากอยู่เป็นเพื่อนเขามาพักหนึ่งก็ไม่อยากเล่นละครกับเขาอีกเลย"มันดึกแล้ว ฉันขอตัวไปก่อนล่ะ"เซิ่งซืออวี้ก็ยืนขึ้นเพื่อจะจากไป แต่เพื่อนๆ หลายคนก็รีบห้ามเขาไว้"พี่ยีเซี่ยมีสุขภาพไม่ดีเลยต้องพักผ่อนเยอะๆ พวกเราพี่น้องไม่ได้เจอกันมานานแล้ว คุณจะไปไหนไม่ได้นะ!""ใช่ ปล่อยให้พี่ยีเซี่ยกลับไปพักผ่อนเถอะ คุณอยู่เป็นเพื่อนเรา เรามาสนุกกันหน่อยนะ"อันยีเซี่ยดึงมือที่ถูกเซิ่งซืออวี้จับไว้ แล้วพูดช้าๆ ว่า "คนขับรถจะพาฉันกลับ คุณอยู่ต่อได้เลย"ทันทีที่เธอพูดจบก็หันหลังจากไปเธอเดินออกไปอย่างเร็วมากถึงขั้นเซิ่งซืออวี้ยังไม่ทันจะปฏิเสธแต่อย่างใดไม่นานหลังจากที่รถขับออกไป อันยีเซี่ยก็สัมผัสถึงโทรศัพท์มือถือที่ไม่ได้เป็นของเธอในแจ็กเก็ตเปลือกสีดำ เป็นของเซิ่งซืออวี้เธอขมวดคิ้วและสั่งให้คนขับกลับรถทันทีที่รถจอดอยู่ด้านนอกบาร์ อันยีเซี่ยก็เห็นหลินจินลงจากรถแท็กซี่คันหนึ่งเธอคอยเช็คดูการแต่งหน้าของตัวเองครั้งแล้วครั้งอีก จากนั้นก็เดินทางไปห้องวีไอพีอันยีเซี่ยกำโทรศัพท์ในมือของเธอโดยไม่รู้ตัวและเดินตามหลินจินไปก็ตามอย่างที่คาดไว้เธอหยุดอยู่ในห้องวีไ

  • หน้าหนาวไร้ไออุ่น   บทที่ 6

    หลังจากกลับบ้าน อันยีเซี่ยก็เกิดไข้สูงซึ่งไม่ลดสักทีเซิ่งซืออวี้กลับบ้านอย่างเมามาย และเมื่อเห็นเธอหมดสติด้วยแก้มแดงก่ำ และจู่ๆ ก็ตื่นตระหนกเขารีบอุ้มเธอขึ้นมาและพาเธอไปโรงพยาบาลเมื่อรู้สึกตัวอีกที อันยีเซี่ยขยับเปลือกตาหนักๆ ของเธอ และในที่สุดก็ลืมตาขึ้นด้วยความยากลำบากเมื่อเห็นเธอตื่นขึ้นมา นางพยาบาลที่กำลังเปลี่ยนยาให้นั้นก็ดีใจมาก "คุณนายเซิ่ง ในที่สุดคุณก็ตื่นแล้ว คุณตัวร้อนมาทั้งวันทั้งคืน คุณเซิ่งกังวลมากจนต้องเฝ้าอยู่หน้าเตียงตลอด จนกระทั่งเมื่อกี้ได้รับโทรศัพท์สายหนึ่งเลยออกไป จะให้ฉันไปเรียกเขาไหม ถ้าเขารู้ว่าคุณตื่นแล้วจะต้องดีใจมากแน่ๆ"อันยีเซี่ยส่ายหัวแล้วพูดด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง "ไม่ต้อง"พยาบาลไม่ได้พูดอะไรหลังจากได้ยินดังนั้น เธอจึงเปลี่ยนยาให้เสร็จแล้วก็จากไปอย่างเคารพทันใดนั้นห้องผู้ป่วยขนาดใหญ่ก็เงียบลง เงียบมากจนอันยีเซี่ยสามารถได้ยินเสียงโทรของเซิ่งซืออวี้ที่อยู่ข้างนอกด้วยซ้ำเขาเป็นคนเงียบอยู่เสมอ เขาจะสูญเสียการควบคุมก็ต่อเมื่ออยู่ต่อหน้าเธอเท่านั้นแต่ตอนนี้ เสียงของเขาในโทรศัพท์เต็มไปด้วยความสุขและความตื่นเต้นหลังจากนั้นไม่นาน เสียงฝีเท้าก็ห่างไ

  • หน้าหนาวไร้ไออุ่น   บทที่ 7

    "เปล่า"อันยีเซี่ยมองออกไปนอกหน้าต่างด้วยตาแดงก่ำวินาทีต่อมา ดอกไม้ไฟจำนวนนับไม่ถ้วนก็เบ่งบานท่ามกลางท้องฟ้านอกหน้าต่าง ซึ่งมันงดงามมากอันยีเซี่ยนึกถึงสิ่งที่หลินจินพูดในกลางวัน โดยบอกว่าเซิ่งซืออวี้จะจุดพลุดอกไม้ไฟทั้งเมืองเพื่อเธอในคืนนี้เมื่อเห็นเธอมองดูดอกไม้ไฟข้างนอกอย่างเหม่อลอย ดวงตาของเซิ่งซืออวี้เต็มไปด้วยความรัก "ชอบดูดอกไม้ไฟเหรอ งั้นผมจะจัดดอกไม้ไฟให้กับคุณด้วย ต้องยิ่งใหญ่กว่านี้อีก เอาไหม?"เซิ่งซืออวี้กอดเธอไว้แน่นพลางเล้าโลมเบาๆอันยีเซี่ยยิ้ม แต่รอยยิ้มนั้นแฝงไปด้วยความขมขื่นพร้อมน้ำตาด้วย"เซิ่งซืออวี้ ฉันไม่ชอบของที่คนอื่นใช้ไปแล้ว"ไม่ว่าจะเป็นดอกไม้ไฟหรือผู้คนก็ตาม-ทั้งๆ ที่รู้ว่าเธอกำลังพูดถึงดอกไม้ไฟ ทว่าเขากลับใจเต้นแรงขึ้น และจู่ๆ เขาก็เกิดอาการตื่นตระหนกอย่างอธิบายไม่ถูกหลังจากเงียบไปครู่หนึ่ง เขาก็กอดเธอแน่นขึ้นกว่าเดิม"งั้นผมจะเตรียมเซอร์ไพรส์อื่นๆ ให้กับคุณ จะไม่ทำให้คุณต้องไปอิจฉาผู้หญิงคนอื่น"อันยีเซี่ยเงียบ แค่มองไปในระยะไกลอย่างเงียบๆ โดยไม่ตอบหลายวันต่อมา เซิ่งซืออวี้ออกไปแต่เช้าแล้วกลับดึกๆ มีท่าทางลึกลับมากแม้แต่คนรับใช้ก็สัง

  • หน้าหนาวไร้ไออุ่น   บทที่ 8

    ในวันแรก เมื่อหลินจินส่งรูปถ่ายที่เซิ่งซืออวี้ปอกเปลือกกุ้งให้เธอ ส่วนอันยีเซี่ยก็เตรียมเตาอั้งโล่และเผารูปถ่ายทั้งหมดที่ถ่ายกับเซิ่งซืออวี้วันรุ่งขึ้น หลินจินส่งรูปถ่ายที่เซิ่งซืออวี้จูบกับเธอในใต้ต้นมะเดื่อ ส่วนอันยีเซี่ยก็จ้างคนงานมาโค่นต้นเชอร์รี่ที่เขาปลูกในสวนหลังบ้านทีละต้นในวันที่สาม หลินจินส่งชุดคำสารภาพที่เซิ่งซืออวี้พูดในห้องถ่ายทอดสดของเธอ ส่วนอันยีเซี่ยตามหาจดหมายรักหลายร้อยฉบับที่เซิ่งซืออวี้เขียนถึงเธอในอดีตจดหมายรักกลายเป็นสีเหลืองเมื่อเวลาผ่านไป แต่ลายมือบนจดหมายยังคงชัดเจนอยู่เธอสัมผัสข้อความที่เขียนไว้ด้านบนนั้น จากนั้นเธอก็โยนจดหมายแต่ละฉบับลงในเครื่องทำลายเอกสารอย่างไร้ความรู้สึก……ยามเช้าในวันนี้เธอจะออกเดินทางอันยีเซี่ยเพิ่งลืมตาขึ้นและเห็นเซิ่งซืออวี้ที่ไม่ได้กลับมาเป็นเวลานานซึ่งยืนอยู่หน้าเตียงเขายืนอยู่หน้าเตียงโดยถือโทรศัพท์มือถือของเธอไว้ในมือ เมื่อเขาเห็นเธอตื่นขึ้นมา ก็ทำหน้าไม่สู้ดีนัก"เซี่ยเซี่ย ข้อความส่งมาที่โทรศัพท์ของคุณบอกว่าคุณยกเลิกสำเร็จ คุณกำลังยกเลิกอะไรเหรอ"เมื่อได้ยินเช่นนั้น หัวใจของอันยีเซี่ยก็เต้นรัวเธอรีบหยิบโทรศัพท์

  • หน้าหนาวไร้ไออุ่น   บทที่ 9

    อันยีเซี่ยนำใบรับรองประจำตัวชั่วคราวแล้วรีบไปสนามบินทันทีที่เครื่องบินขึ้น ทุกอย่างก็จบลงหลังจากลงเครื่องที่ประเทศ F เธอก็ได้มีตัวตนใหม่ในฐานะเจ้าของที่พักตามแนวชายฝั่งของประเทศ Fอย่างไรก็ตาม ในเวลาเดียวกัน เซิ่งซืออวี้ที่อยู่ในเมืองจิงนั้นก็แทบเป็นบ้าแล้วเวลาย้อนกลับไปไม่กี่ชั่วโมงก่อนหลังจากส่งหลินจินกลับบ้านแล้ว เธอก็ยังคงรั้งเขาเอาไว้ไม่ยอมปล่อย"ซืออวี้ ไหนๆ ก็มาที่นี่แล้ว ไม่ขึ้นไปนั่งสักพักเหรอ"ขณะที่เธอพูดก็วาดวงกลมคลุมเครือสองสามวงในมือของเขาเซิ่งซืออวี้รู้สึกลังเลเล็กน้อย ไม่รู้เพราะเหตุใด เขาเกิดความตื่นตระหนกอย่างอธิบายไม่ถูก"ไม่ขึ้นไปแล้ว คุณเข้าบ้านเถอะ ผมต้องการกลับไปอยู่กับเซี่ยเซี่ย"เขาผลักมือของหลินจิน และนึกถึงสิ่งที่เขาสัญญาไว้กับอันยีเซี่ยในเมื่อกี้นี้เขาไม่ได้อยู่เป็นเพื่อนเธอมานานแล้ว ไม่อย่างนั้นเธอคงไม่พอใจเอาเมื่อนึกถึงประเด็นนี้ มุมปากของเซิ่งซืออวี้ก็ยกขึ้นพร้อมกับความสุขหลินจินกอดเอวของเขาอีกครั้งแล้วพูดว่า "ซืออวี้ คุณไม่อยากเห็นฉันใส่ชุดนั้นเหรอ? ไหนๆ ก็มาแล้ว ครั้งนี้ไม่ดู ก็จะไม่มีโอกาสหน้าแล้วนะ"มือของเธอยังคงล้วงเข้าไปในเสื้

Latest chapter

  • หน้าหนาวไร้ไออุ่น   บทที่ 27

    "เซี่ยเซี่ย!"เซิ่งซืออวี้ตื่นขึ้นมาพร้อมกับตะโกนชื่ออันยีเซี่ยคุณท่านเซิ่งทำหน้าบูดบึ้งอยู่ข้างเตียง"เซิ่งซืออวี้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป แกให้ตั้งใจทำงาน ดูแลสุขภาพของตัวเองให้ดี และห้ามไปตามหาอันยีเซี่ยอีก!""อะแฮ่ม" เซิ่งซืออวี้กระแอมสองสามครั้งด้วยความสับสนและพูดด้วยเสียงแหบแห้งว่า "ทำไมล่ะ""เธอเป็นภรรยาของผม ถ้าผมไม่ได้เซ็นสัญญาหย่า เราก็ยังไม่ได้หย่า ตราบใดที่ผมมีความพากเพียรและจริงใจมากพอ เธอจะยกโทษให้ผมไม่ช้าก็เร็ว!""จริงๆ แล้วเธอเป็นคนใจอ่อนมาก หากผมง้อสักหน่อย เดี๋ยวเธอก็จะยกโทษให้ผม…""หุบปากซะ" คุณท่านเซิ่งขัดจังหวะเขาจากนั้นเขาก็หยิบเสียงบันทึกการสนทนากับอันยีเซี่ยออกมาแล้วเปิดให้เขาฟังเสียงที่ชัดเจนดังก้องไปทั่วห้อง ทำลายความมั่นใจของเซิ่งซืออวี้จนหมดสิ้นจนกระทั่งเสียงบันทึกจบลง ภายในห้องก็ยังคงเงียบสงัดหลังจากผ่านไปได้สักพัก เขาก็พึมพำต่อว่า "เป็นไปไม่ได้...เป็นไปไม่ได้...นี่ไม่จริง ผมอยากไปหาเซี่ยเซี่ย ผมอยากเจอเธอ!""ผมอยากจะบอกเธอว่าเธอคือคนเดียวที่ผมรัก และจะเป็นคนเดียวที่ผมรักในชีวิตนี้!"เซิ่งซืออวี้พยายามลุกขึ้นจากเตียงอย่างไม่สนใจอะไรทั้งนั้น

  • หน้าหนาวไร้ไออุ่น   บทที่ 26

    "ขอโทษที ฉันไม่อยากแต่งงานกับคุณ เลิกกันเถอะ ฉันไม่ได้รักคุณแล้ว"ในความฝัน อันยีเซี่ยหลบมือจากเขา แล้วเดินออกไปไกลเรื่อยๆ"เซี่ยเซี่ย! ไม่นะ! คุณทำแบบนี้ไม่ได้!""ผมจะทำดีกับคุณมาก ถ้าคุณชอบขนมข้าวเหนียวทางตะวันออกของเมือง ผมก็ซื้อให้คุณกินทุกวัน เครื่องประดับ อสังหาริมทรัพย์ หุ้น อะไรที่ผมให้ได้ผมก็จะให้กับคุณทั้งหมด คุณอยู่กับผมได้ไหม"เซิ่งซืออวี้ขอร้องอย่างจริงใจทว่าอันยีเซี่ยไม่ได้มองย้อนกลับไปเลยแม้แต่ครั้งเดียวเขาไล่ไปข้างหน้าอย่างสิ้นหวัง แต่ก็ไม่ได้อะไรเลยแม้แต่แหวนหมั้นสองวงในมือของเขาก็หายไปเลยเซี่ยเซี่ยไม่ต้องการเขาอีกแล้ว ไม่ต้องการความรักของเขา ไม่ต้องการอะไรทั้งนั้นอีกต่อไป"เซี่ยเซี่ย...เซี่ยเซี่ย..."เปลือกตาของเซิ่งซืออวี้ปิดสนิท มีเม็ดเหงื่อเย็นไหลออกมาจากใบหน้าที่ซีดเซียวของเขา และริมฝีปากของเขาก็โดนตัวเองกัดจนเกิดเลือดไหลออกมาไม่รู้ว่าได้พึมพำชื่ออันยีเซี่ยไปกี้ครั้งกันแล้วดวงตาที่ขุ่นมัวของคุณท่านเซิ่งเต็มไปด้วยความกังวลเขาถอนหายใจลึกๆ หลังจากตรวจสอบมาหลายวัน ในที่สุดผู้ช่วยของเขาก็พบข้อมูลติดต่อล่าสุดของอันยีเซี่ย"ฮัลโหล คุณอัน ฉันเอง ปู่ขอ

  • หน้าหนาวไร้ไออุ่น   บทที่ 25

    เพื่อล้างแค้นให้อันยีเซี่ย เซิ่งซืออวี้ใช้ทุกวิถีทางเพื่อสั่งสอนตระกูลของ "เพื่อนแสนดี" หลายคนที่พูดจาหยาบคายกับเธอในที่สุดก้ได้จับจุดอ่อนของเขาได้ พวกเขาจะไม่เล่นงานเขาได้อย่างไรหลินจินไม่สนใจว่าตัวเองถูกใช้เป็นเครื่องมือ ตราบใดที่เธอสามารถแก้แค้นได้ เธอก็ไม่สนใจอะไรทั้งนั้นแล้วเธอมีชีวิตที่ไม่ดีนัก แล้วทำไมเซิ่งซืออวี้จะมีชีวิตที่ดีด้วยล่ะ?แค่ร้องเรียนเขาอย่างเดียวก็ไม่พอ เธอยังเปิดบัญชีใหม่เพื่อถ่ายทอดสดให้ทุกคนสงสารเธอพร้อมแฉข่าวสารต่างๆ โดยเล่าเรื่องระหว่างเธอกับเซิ่งซืออวี้ให้ชาวเน็ตฟังอย่างละเอียดชั่วขณะหนึ่ง เซิ่งซื่อ กรุ๊ป ซึ่งเพิ่งมีชื่อเสียงที่ดีกลับมานั้นก็ก็พังทลายลงอีกครั้งแม้แต่ภาพลักษณ์ของเซิ่งซืออวี้ก็ได้รับความเสียหายครั้งแล้วครั้งเล่าเขาถูกบังคับให้กลับไปประเทศเพื่อสอบสวนโดยรัฐ และทำได้เพียงระงับการตามหาอันยีเซี่ยชั่วคราวเท่านั้นสิ่งต่างๆ ในประเทศก็วุ่นวายไปหมดในบริษัทยังพบผู้ทรยศหลายคนและในขณะนั้น เซิ่งซื่อ กรุ๊ปก็เท่ากับผีซ้ำด้ำพลอยบริษัทหลายบริษัทกำลังรอรับผลประโยชน์จากเซิ่งซืออวี้แม้ว่าเซิ่งซื่อ กรุ๊ปจะรอดมาได้ในครั้งนี้ แต่ก็ยังต้องสูญเสียค

  • หน้าหนาวไร้ไออุ่น   บทที่ 24

    หลังจากเงียบไปครู่หนึ่ง เซิ่งซืออวี้ก็ขอโทษอย่างเชื่องช้าว่า"เซี่ยเซี่ย มันเป็นความผิดของผม ผมไม่ดีเอง ผมไม่ควรยุ่งกับผู้หญิงคนอื่น ผมให้หลินจินทำแท้งเด็กแล้ว และเธอก็ถูกผมขับไล่ออกไป โปรดยกโทษให้ผมด้วยดีไหม""คุณจะให้ผมทำอะไรก็ได้ แค่อย่าทิ้งผมไป"เขาขอร้องอย่างจริงใจ แต่อันยีเซี่ยยังคงเงียบเธอยิ้มเบาๆ และพูดช้าๆ ว่า"ได้ ฉันยกโทษให้คุณก็ได้"คำตอบนี้อยู่เหนือการคาดคิด เกือบจะทำให้เซิ่งซืออวี้ดีใจแทบไม่กล้าเชื่อ"จริงเหรอ"เขาแทบไม่มีเวลาคิดให้ลึกซึ้งเกี่ยวกับความหมายของคำพูดจากอันยีเซี่ยก่อนจะถามอย่างรวดเร็ว"เฮอะ" อันยีเซี่ยหัวเราะเยาะ "นี่ไม่ใช่คำตอบที่คุณต้องการเหรอ? ฉันจะไม่ถือสาเรื่องในก่อนหน้านี้ ฉันยกโทษให้คุณ""คุณพอใจหรือยัง หากพอใจแล้วก็พอแค่นี้เถอะ"มันเป็นเพียงคำให้ยกโทษเอง เขาอยากได้ยินก็เติมเต็มความต้องการของเขาเลยแต่ถ้าเขาต้องการให้กลับไปอย่างกับเมื่อก่อน มันเป็นไปไม่ได้กระจกที่แตกร้าวแล้วจะกลับมาให้เหมือนเดิมได้อย่างไร?แม้จะติดกาว ก็ไม่สามารถให้กลับมาเป็นรูปทรงเดิมได้หลังจากพูดอย่างนั้น อันยีเซี่ยก็วางสายโทรศัพท์โดยไม่เปิดโอกาสให้เซิ่งซืออวี้กล่าว

  • หน้าหนาวไร้ไออุ่น   บทที่ 23

    เซิ่งซืออวี้โทษตัวเองอย่างมากหากได้รับโอกาสอีกครั้ง เขาจะรักเดียวใจเดียวแน่ๆน่าเสียดายที่ชีวิตไม่สามารถย้อนเวลาได้เขายืนอยู่บนถนนแปลกหน้า ทำอะไรไม่ถูกเหมือนเด็กน้อยคุณต้องการค้นหาต่อไปหรือไม่?แน่นอนอยู่แล้วแต่จะเริ่มต้นที่ไหนล่ะ"สวัสดี ผมกับผู้หญิงในรูปเป็นสามีภรรยากัน แต่เธอโกรธผมและไปจากกับผม ผมกำลังตามหาเธออยู่ กรุณาให้ข้อมูลติดต่อของเธอกับผมได้ไหม"เซิ่งซืออวี้ถามอย่างจริงใจบริกรของโรงแรมลังเลอยู่นาน จนกระทั่งเขาหยิบเงินจำนวนมากออกมา เขาจึงยิ้มกว้างและรีบให้ข้อมูลติดต่อของอันยีเซี่ยหลังจากกดโทรศัพท์ออกไปแต่ก็ไม่มีใครรับสาย"อาจจะยังอยู่บนเครื่องก็ได้"เซิ่งซืออวี้ปลอบใจตัวเองเพื่อพิสูจน์ให้อันยีเซี่ยเห็นความตั้งใจในการยอมรับความผิด เขาจึงได้โพสต์จดหมายขอโทษบนอินเทอร์เน็ตทุกถ้อยคำได้อธิบายรายละเอียดว่าเขาทำผิดทีละขั้นตอนอย่างไรเขายังเขียนเกี่ยวกับวิธีรับรู้หัวใจของตัวเองและเข้าใจความผิดของเขาด้วยทัศนคติในการยอมรับความผิดนั้นจริงใจมากและมีการโพสจดหมายกล่าวขอโทษฉบับใหม่เกือบทุกวันโดยหวังว่าอันยีเซี่ยจะเห็นทัศนคติของชาวเน็ตบางคนค่อยๆ เปลี่ยนไป จากความเกลี

  • หน้าหนาวไร้ไออุ่น   บทที่ 22

    โทรศัพท์มือถือบนเตียงส่งเสียงดังตลอดเวลา ล้วนเป็นรูปถ่ายและที่อยู่ที่ชาวเน็ตส่งมาให้เขาด้วยข้อมูลจำนวนมหาศาล เซิ่งซืออวี้แทบจะไม่สามารถแยกแยะได้ว่าอันไหนมีประโยชน์และอันไหนไร้ประโยชน์คนที่มุ่งเป้าเพื่อค่ารางวัลนั้นมีเยอะมาก แม้ว่าได้จ้างคนมาช่วยในการคัดกรอง แต่ก็ยังมีภาระงานมหาศาลอยู่ในเวลานี้ เขาเสียใจกับการตัดสินใจของตัวเองเข้าแล้วแต่เขาไม่มีทางอื่นเลยยกเว้นการอาศัยความช่วยเหลือจากชาวเน็ตและการที่อันยีเซี่ยยอมปรากฏตัวเองแล้ว เขาแทบไม่มีวิธีหาข่าวของเธอได้เลยเซิ่งซืออวี้นั่งอยู่บนเตียง เกือบจะสิ้นหวังแล้วในเวลานี้ ผู้ช่วยหลายคนส่งรูปถ่ายที่แตกต่างกันหลายรูปมาให้"คุณเซิ่ง มีคนเปิดเผยว่าอันยีเซี่ยปรากฏตัวที่หน้าโบสถ์ในเมือง B แห่งประเทศ A ได้ส่งคนไปตามหาเธอแล้ว หวังว่าคุณจะไปที่นั่นมาโดยเร็วที่สุด"หลังจากได้รับข่าวนี้ เซิ่งซืออวี้ก็กลับมามีกำลังใจอีกครั้งไม่ว่าข่าวนั้นจะเป็นจริงหรือไม่ก็ตาม เขาจะลองดูอีกครั้งเขาไม่สามารถละทิ้งความหวังเดียวนี้ได้เขาแทบจะอยู่ไม่ได้หากไม่มีอันยีเซี่ยอยู่ข้างๆเธอเป็นดั่งสิ่งที่ขาดไม่ได้พอๆ กับน้ำและออกซิเจนที่เขาต้องการเพื่อความอยู

  • หน้าหนาวไร้ไออุ่น   บทที่ 21

    ความกังวลใจของเซิ่งซืออวี้เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และมีเหงื่อเย็นเล็กน้อยไหลออกมาบนฝ่ามือของเขาหลังจากรออยู่พักใหญ่ต่อก็ไม่มีใครมาเปิดประตูให้เขาก็เกิดกระวนกระวายใจขึ้นมาและไปผลักประตูแต่ไม่ได้คาดคิดว่าประตูจะถูกล็อกแน่นและไม่สามารถเปิดออกได้เลยบนกระดานดำเล็กๆ ที่อยู่ด้านข้างมีข้อความเขียนว่า "วันนี้ปิดร้าน"เดิมทีเขาคิดว่ากระดานดำนั้นคือบอกกับเขาว่าอันยีเซี่ยกำลังรอพบหน้ากับเขาอยู่ ดังนั้นจึงติดป้ายบอกหยุดงานไว้เป็นพิเศษและไม่รับลูกค้าแต่ไม่ได้คาดคิดว่ามันจะหมายถึงการปฏิเสธที่จะพบเขาในขณะนี้ เซิ่งซืออวี้ก็เข้าใจว่าอันยีเซี่ยหลอกเขาเธอไม่มีความตั้งใจที่จะพบเขาเลยมันก็เป็นเพียงวิธีที่จะปฏิเสธเขาทุกสิ่งทุกอย่างนี้กำลังบอกเขาว่า "ขอโทษ ฉันไม่คิดจะให้อภัยคุณ"เซิ่งซืออวี้มองไปที่รีสอร์ทนี้ด้วยความไม่อยากเชื่อตอนที่พวกเขายังคบกันในสมัยก่อน ก็เคยพูดว่าจะเปิดรีสอร์ทริมชายหาด รับลมทะเลบ้าง กอดกันทั้งอย่างนั้น ก็ถือว่าเป็นความสุขง่ายๆตอนนั้นเขารู้ว่าเธอชอบมัน จึงส่งคนไปซื้อรีสอร์ทหลายแห่งตามแนวชายฝั่งของประเทศ และพาเธอไปเที่ยวเป็นครั้งคราวเธอยิ้มอย่างมีความสุขทุกครั้ง และรู้ส

  • หน้าหนาวไร้ไออุ่น   บทที่ 20

    ในตอนแรก สาธารณชนก็แค่พูดเสียดสี แต่ก็มีหลายคนอิจฉารางวัลนี้ และจงใจให้ข้อมูลและหลักฐานที่ใช้ไม่ได้จนกระทั่งต่อมามีคนให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์จริงๆพอเห็นว่าได้เงินจริง ชาวเน็ตจำนวนมากก็เริ่มช่วยหาข้อมูลอย่างเมามันแม้แต่อันยีเซี่ยเองก็รู้ข่าวนี้เข้าแล้วผู้คนจำนวนมากอยากรู้ว่าเธออยู่ที่ไหน แต่เธอเองก็ไม่ได้รู้สึกประทับใจแม้แต่น้อยตรงกันข้าม เธอกลับรู้สึกหงุดหงิดเล็กน้อยเธอได้ยกเลิกข้อมูลประจำตัวของตัวเองไปแล้ว หรือว่ามันยังคงแสดงความมุ่งมั่นของเธอไม่มากพอเหรออันยีเซี่ยรู้อยู่ในใจว่าเธอไม่ใช่คนที่จะหันหลังกลับ และเธอไม่เคยคิดที่จะให้อภัยเมื่อดูคำขอโทษของเซิ่งซืออวี้ เธอก็รู้สึกไร้สาระสิ้นดีในเมื่อเขารู้ว่าตัวเองได้ทำผิด แล้วทำไมแต่ก่อนเขาถึงแสร้งทำเป็นว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นตลอดล่ะ?หลายครั้งแล้ว ที่เธอหวังว่าเขาจะบอกเธอได้อย่างชัดเจนว่าเขาหักหลัง และตกหลุมรักคนอื่นเข้าแล้วแบบนี้ทั้งสองคนก็สามารถจากกันโดยดีแต่เขาไม่คาดคิดว่าร่างกายและจิตใจของเขาถึงขั้นที่แยกจากกันได้ร่างกายกำลังเพลิดเพลินกับความรักของหลินจิน แต่ใจกลับบอกว่ารักเธอการหลอกลวงเธอเป็นเรื่องสนุกหรือไงงั

  • หน้าหนาวไร้ไออุ่น   บทที่ 19

    ข้อตกลงการหย่านั้นเป็นเพียงของขวัญชิ้นสุดท้ายที่ทิ้งไว้ให้กับเซิ่งซืออวี้ เพื่อแยกออกจากเขาอย่างสมบูรณ์สิ่งที่น่าขำก็คือเขากลับอยากใช้ข้อตกลงการหย่าเพื่อเอามาคิดถึงอันยีเซี่ยเขาเอากล่องมาใส่ข้อตกลงการหย่า มีแต่ทำแบบนี้ถึงได้มากพอที่ให้เขาเอามาอ่านดูได้หลายๆ ครั้งต่อวัน“เซี่ยเซี่ย คุณอยู่ไหนกันแน่? ผมสำนึกผิดจริงๆ ผมไม่ขอให้คุณยกโทษให้ ผมแค่อยากเจอหน้าคุณ”“เซี่ยเซี่ย ทุกคนที่รังแกคุณได้รับบทเรียนพอสมควรแล้ว แม้แต่ผมเอง...ก็ทรมานทั้งกายและใจมาก คุณมาหาผมสักหน่อยได้ไหม”“เซี่ยเซี่ย...”ไม่รู้ว่าเซิ่งซืออวี้พึมพำนานแค่ไหนก่อนที่ร่างกายของเขาจะทนไม่ไหวอีกต่อไป จากนั้นก็หมดสติไปสำหรับตระกูลของเพื่อนๆ พวกนั้น ตระกูลเซิ่งก็ไม่ได้จัดการง่ายๆ อย่างที่คิดทันทีที่ข่าวเรื่องหย่าของเซิ่งซืออวี้กับอันยีเซี่ยออกมา มีผู้คนนับไม่ถ้วนบอกว่าจะไม่เชื่อเรื่องความรักอีกต่อไปผู้คนเหล่านั้นเคยเป็นแฟนคลับคู่จิ้นพวกเขา เพราะชื่นชอบความรักของพวกเขา จึงกลายเป็นผู้ใช้ที่ภักดีต่อเซิ่งซื่อ กรุ๊ปทันทีที่ข่าวสารเรื่องหย่าออกมา คนเหล่านี้ก็เกิดไม่พอใจขึ้นมาทันทีทั้งตระกูลเซิ่ง เซิ่งซืออวี้และเซิ่งซื่

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status