[คุณหยุดพักผ่อนได้หนึ่งวัน พรุ่งนี้ค่อยกลับมาทำงาน]เหอะ!หลินเซียงหัวเราะเยาะในใจ ดวงตาไร้อารมณ์เมื่อคืน เธอต้องใช้ความกล้าอย่างมากในการพูดคำเหล่านั้น เพราะต้องการได้รับคำตอบจากเขา หรือไม่ก็คำอธิบายจากเขาแม้ว่าจะเป็นคำพูดที่ฟังแล้วรู้สึกแย่ก็ตามแต่ดูเหมือนว่าเขาไม่ได้สนใจคำพูดของเธอเลย เมื่อไหร่กันที่เขากลายเป็นคนไม่ใส่ใจเธออย่างนี้นั่นทำให้เธอรู้สึกว่าการถามคำถามเมื่อคืนเป็นเรื่องโง่เง่ามากทำให้ตัวเองอับอายซะเปล่าหลินเซียงข่มอารมณ์ของตัวเองไว้ จัดการทำเรื่องขอออกจากโรงพยาบาล จากนั้นก็กลับบ้าน เมื่อเห็นแฟ้มเอกสารบนตู้ เปิดออกดูก็พบว่าข้างในมีทั้งโฉนดบ้าน เช็ก และกุญแจเฟิงหลินหย่วนคอนโดกลางทำเลทองของเมืองอวิ๋น ตกแต่งพร้อมเข้าอยู่ สิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน มีทั้งหมด 25 ชั้น พื้นที่ใช้สอย 500 ตารางเมตรโอ้โฮ ทำไมถึงได้ใหญ่ขนาดนี้คิดว่าทำแบบนี้แล้วเธอจะรู้สึกซาบซึ้งใจเหรอ?ในดวงตาของหลินเซียงไร้อารมณ์ เธอหยิบเช็กออกมา จำนวนเงินสามสิบล้านปรากฏอยู่บนนั้นชัดเจน และด้านล่างก็เป็นลายเซ็นตวัดของลู่สือเยี่ยนหลินเซียงกำเช็คไว้ในมือเป็นเวลานานโดยไม่ตัวเธอเติบโตมาในสถานเลี
เขาให้สิ่งที่เธอต้องการไปแล้ว ตามหลักเธอควรจะมีความสุขจนยิ้มไม่หุบสิแต่เมื่อดูสีหน้าของเธอเมื่อครู่ คำว่าความสุขไม่ฉายอยู่บนใบหน้าเธอเลยสักนิดเพราะอะไร?ยิ่งลู่สือเยี่ยนคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้มากเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งหงุดหงิดมากขึ้นเท่านั้น ทันใดนั้นโทรศัพท์มือถือของเขาก็ดังขึ้น เขาหยิบมันออกมาดูจึงเห็นว่าเป็นสายเรียกเข้าจากซ่งจั่ว "คุณลู่ครับ ประธานหานมาถึงแล้ว"“อืม ผมจะรีบกลับ”ลู่สือเยี่ยนตอบกลับอย่างเย็นชาและกดวางสายเขามองไปทางบ้านของหลินเซียงอยู่นาน ก่อนจะขับรถออกไป…ตอนเย็นเมื่อซ่งซ่งมาถึง หลินเซียงก็ทำกับข้าวเสร็จไปสี่จานแล้ว แต่ยังเหลืออีกสองจาน และซุปอีกหนึ่งที่ยังไม่เสร็จ“เซียงเซียงคนสวย เล่นใหญ่เกินไปหรือเปล่าเนี่ย!”ซ่งซ่งกอดเธอด้วยความตื่นเต้น แถมยังเบียดกระแซะร่างกายด้วยความออดอ้อนหลินเซียง "ไม่เห็นเป็นไรเลย เอาล่ะ เธอออกไปรอข้างนอกเถอะ อีกไม่นานก็เสร็จแล้ว"ซ่งซ่ง "ได้ ฉันซื้อเหล้าติดมาด้วยนะ"หลินเซียงพูดอย่างนึกเสียดาย "ฉันดื่มไม่ได้น่ะสิ เพิ่งกินยาแก้หวัดเข้าไป"ซ่งซ่งประหลาดใจ “ทำไมอยู่ดี ๆ ถึงเป็นหวัดได้ล่ะ? แต่ฉันว่าเธอก็ดูปกติดีนะ”หลินเซียง "เดี
“เข้ามาส่งยาให้ฉันหน่อย ฉันอาการไม่ค่อยดี”หลังจากพูดอย่างนั้น สายก็ถูกกดวางไปดื้อ ๆหลินเซียงมองดูโทรศัพท์ที่เพิ่งวางสายไปด้วยสีหน้าสับสนพร้อมกับขมวดคิ้วเขาโทรผิดจริงเหรอ?ไม่ได้ยินสิ่งที่เธอพูดจริงดิ?หลินเซียงเม้มริมฝีปากและกดโทรไปที่หมายเลขโทรศัพท์ของซ่งจั่ว“สวัสดีครับคุณหนูหลิน”ไม่นานอีกฝ่ายก็กดรับ เสียงดังขึ้นจากปลายอีกด้านหลินเซียงพูดว่า "เมื่อกี้คุณลู่โทรผิดมาที่เบอร์ฉัน เขาขอให้คุณช่วยไปส่งยาให้เขาหน่อย รบกวนไปที่นั่นตอนนี้เลยได้ไหมคะ?"“เกรงว่าจะไม่ได้ครับ” ซ่งจั่วตอบตามตรง “ผมกำลังเดินทางไปคุยธุรกิจ ตอนนี้อยู่ที่สนามบินแล้ว คุณหลิน ช่วยไปส่งของแทนผมหน่อยได้ไหมครับ เดี๋ยวผมจะบอกคุณทีละรายการ ยาพวกนั้นหาซื้อได้ตามร้านขายยาทั่วไป"หลินเซียงขมวดคิ้ว “คุณกำลังจะขึ้นเครื่องเหรอ?”“ใช่ครับ"ซ่งจั่วตอบ เสียงประกาศไฟล์ทบินจากสนามบินยังคงเล็ดลอดเข้ามาทางโทรศัพท์อย่างคลุมเครือ“คุณหลิน ผมจะส่งรายการยาไปให้คุณนะครับ คุณลู่ป่วยไข้ทีไรอาการของเขาจะค่อนข้างแย่และทรมานมาก ฝากนำยาไปส่งแทนผมด้วย ขอบคุณมากครับ”หลังจากเขาพูดจบก็วางสายไปดื้อ ๆ อีกคน"ไงนะคะ?"หลินเซียงสะดุ้ง
หลินเซียงตะลึง!เขาเป็นบ้าอะไรอีกเนี่ย?ป่วยจนไม่มีสติเลยหรือไง?หลินเซียงต่อสู้ดิ้นรนอย่างรุนแรง แต่ในเวลานี้ความแตกต่างด้านสรีระความแข็งแกร่งระหว่างชายและหญิงห่างชั้นเกินไป เธอพยายามดิ้นรนสองสามครั้ง ก็ยิ่งเป็นการกระตุ้นความดุร้ายของเขาโดยตรง เขาคว้าข้อมือทั้งสองของเธอรวบไว้ด้วยมือเดียว แล้วกดไว้เหนือศีรษะลมหายใจร้อนผ่าวระเรื่อยมาตามมุมปากของเธอ ความหนาวเย็นกระทบหน้าอกจนสั่นเทา ตามด้วยไอร้อนและความเปียกชื้นดวงตาหลินเซียงเบิกกว้าง "ลู่สือเยี่ยน คุณเป็นอะไรไป?"เขาไม่ได้ป่วยหรอกเหรอ?แต่เมื่อเธอเห็นท่าทางที่เต็มไปด้วยพละกำลังของเขา ดูเหมือนเขาไม่ได้ป่วยเลยสักนิดหรือเขานึกว่าเธอเป็นผู้หญิงคนอื่น?เซี่ยหว่าน?เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ หัวใจของหลินเซียงก็เจ็บปวดเล็กน้อย ทันใดนั้นเธอก็งอเข่าใช้เท้าถีบไปข้างหน้า!การเคลื่อนไหวทั้งหมดของลู่สือเยี่ยนหยุดชะงัก ร่างอันหนักอึ้งของเขาล้มลงนอนทับเธอโดยตรง"ออกไปเลย!"หลินเซียงบิดตัวอย่างไม่สบายใจลู่สือเยี่ยนขบเม้มกระดูกไหปลาร้าของเธอด้วยความโกรธ "หลินเซียง คุณอยากเป็นม่ายนักเหรอ?"ก็รู้นี่ว่าเธอเป็นใคร?ในเมื่อเป็นอย่างนั้น…“เข้าใจ
"เซียงเซียง นอนต่ออีกหน่อยสิ"เสียงที่เป็นธรรมชาติและแสนจะสนิทสนมดังขึ้นจากด้านหลัง คางของชายหนุ่มยังคงถูอยู่บนกลางกระหม่อมเธอหลินเซียงตัวแข็งทื่อภาพแฟลชแบล็กสมัยพวกเขายังอยู่ร่วมกันก่อนหน้านี้ลอยขึ้นมาเมื่อก่อนเวลาเธอต้องตื่นเช้า อาเยี่ยนจะเป็นแบบนี้เสมอ ออดอ้อนออเซาะไม่ยอมห่าง แถมยังพูดประโยคเดียวกันนี้หลินเซียงนอนอยู่บนเตียงด้วยความมึนงง ชั่วครู่หนึ่งเกือบแยกไม่ออกแล้วว่านี่คืออดีตหรือปัจจุบันแต่จะให้เธอแยกแยะได้ยังไงล่ะ?เพราะไม่ว่าจะเป็นอดีตหรือปัจจุบัน คนที่พูดคำนี้ก็คืออาเยี่ยนคนเดิมหัวใจของเธอปวดหนึบและเต็มไปด้วยความอัดอึดคับข้อง ถึงอย่างนั้นกลับกัดนิ้วตัวเองไว้ ไม่ได้ลุกหนีเป็นไปได้เธอก็อยากจะกอดเก็บสิ่งนี้ไว้ให้นาน ๆซึมซับความอบอุ่น กลิ่นหอม และทุกสิ่งทุกอย่างที่เป็นเขาหวังให้เวลาหยุดเดินอยู่ที่ช่วงเวลานี้ ไม่มีการหย่าร้าง ไม่มีเซี่ยหว่าน ไม่มีลูกชายคนที่สามของตระกูลลู่...พวกเขายังคงเป็นสามีภรรยากันเหมือนเดิม...เมื่อตื่นขึ้นมาอีกครั้ง หลินเซียงลืมตาตื่นขึ้นมาก็ประสานเข้ากับสายตาสงสัยครึ่ง ๆ กลาง ๆ ของลู่สือเยี่ยนเธอเปลี่ยนสีหน้า "ทำไมมองฉันแบบนั้น?
ลู่สือเยี่ยนหยุดลงทันที แววตาของเธอทำให้เขารู้สึกไม่สบายใจ"ฉันไม่เข้าใจจริง ๆ ว่าคุณกำลังคิดอะไรอยู่" หลินเซียงถามเสียงเบา "ตกลงเราจะหย่าหรือไม่หย่ากันแน่"ลู่สือเยี่ยนเม้มริมฝีปากทันที ลุกขึ้นจากตัวเธอ ก้าวลงจากเตียงแล้วตรงไปที่ห้องน้ำหลินเซียงหลับตาลงแล้วถอนหายใจยาว ๆ ออกมางั้นก็อย่าทำแบบนี้สิในเมื่อตัดสินใจที่จะหย่ากันแล้ว ก็ช่วยเด็ดขาดกับฉันหน่อยพวกเราทั้งสองจะได้ไม่มีใครอึดอัดเมื่อลู่สือเยี่ยนออกมา หลินเซียงก็จากไปแล้ว แม้แต่ข้าวเช้าก็ยังไม่รอกินพร้อมกันเธอส่งข้อความมาให้เขาเพียงข้อความเดียวหลินเซียง : [ฉันรอคุณอยู่ที่หน้าสำนักงานเขต]สีหน้าของลู่สือเยี่ยนเหมือนถูกปกคลุมด้วยน้ำค้างแข็ง บรรยากาศโดยรอบเย็นยะเยือกและแผ่ออร่ากดดันพ่อบ้านเดินออกมา มองไปรอบ ๆ แล้วถามด้วยความสงสัย "คุณชายสาม คุณหนูหลินจากไปแล้วเหรอครับ?"เมื่อคืนที่หลินเซียงมา พ่อบ้านรับรู้ แต่ได้รับแจ้งล่วงหน้าว่าห้ามใครส่งเสียงดัง เดิมทีคิดว่าจะได้เห็นหลินเซียงในเช้าวันนี้ แต่กลับไม่พบใครลู่สือเยี่ยนเก็บโทรศัพท์ สีหน้าเย็นลงกว่าเดิมเล็กน้อย "คุณว่างมากเหรอ?"พ่อบ้านสัมผัสถึงความเย็นเยียบที่แผ่ออ
“คุณชายลู่เดินทางไปที่เมืองหลานเฉิงครับ”หลินเซียง “ส่งตารางงานโดยละเอียดของเขามาให้ฉันที”“ได้ครับ ไม่มีปัญหา”ซ่งจั่วตอบรับแล้ววางสายไป ไม่นานก็ส่งตารางงานของลู่สือเยี่ยนให้หลินเซียงหลินเซียงดูครู่เดียว จากนั้นก็เปิดแอปสายการบินแล้วกดจองตั๋วโดยตรง เธอไม่ลังเลเลย จองตั๋วเสร็จสรรพก็ตรงดิ่งไปที่สนามบินนั่งเครื่องจากเมืองอวิ๋นเฉิงไปเมืองหลานเฉิง ใช้เวลาเพียงสามชั่วโมงไปดักเจอลู่สือเยี่ยนให้ได้ แล้วไปจัดการเรื่องหย่าโดยตรง แล้วค่อยบินกลับมา ไม่ถือว่าเสียเวลามากนักสองเมืองอยู่ใกล้กัน สภาพอากาศจึงไม่แตกต่างกันมาก หลินเซียงลงจากเครื่องบินแล้วก็โบกรถแท็กซี่ไปลงโรงแรมที่ลู่สือเยี่ยนพัก พอทำการเช็กอินจองห้องแล้วก็นั่งรออยู่ตรงล็อบบี้ชั้นหนึ่ง รอจนกว่าเขาจะโผล่หน้ามาให้เห็นเพราะผู้ชายคนนี้ไม่ยอมรับสายเธอเหอะ!คิดว่าหนีมาต่างเมืองแล้วจะหนีพ้นเหรอ?ฝันไปเถอะ!ถึงอย่างนั้นหลินเซียงก็ต้องรออยู่นานมาก จนกระทั่งท้องฟ้ามืดลง ร่างสูงสง่าของลู่สือเยี่ยนก็ค่อย ๆ เดินเข้ามาจากทางเข้าหลินเซียงตาปรือแทบจะลืมไม่ขึ้นอยู่แล้ว ตอนแรกที่เห็นเขายังรู้สึกมึนงงเล็กน้อย ต้องกะพริบตารัว ๆ เพื่อปรับ
ห้องของลู่สือเยี่ยนอยู่ชั้น 9 แต่เมื่อลิฟต์กำลังจะถึงชั้น 7 ลู่สือเยี่ยนก็กดปุ่มยกเลิกคำสั่งจอดชั้น 7 ทันที"ทำอะไรน่ะ?"หลินเซียงเห็นดังนั้นก็ขมวดคิ้วถามทันทีลู่สือเยี่ยนตอบกลับ "เมื่อกี้คนแถวนี้รู้กันหมดแล้วว่าเราเป็นสามีภรรยากัน นอนแยกห้องกันคงไม่เหมาะสม"หลินเซียง "ฉันไม่คิดว่าคนพวกนั้นจะสนใจชีวิตส่วนตัวของคุณขนาดนั้น"ลู่สือเยี่ยน "กันไว้ดีกว่าแก้"ตอนนี้หลินเซียงจะกดชั้น 7 อีกรอบแต่ก็ไม่ทันแล้ว เพราะลิฟต์ขึ้นมาจอดที่ชั้น 9 สีหน้าของเธอไม่ค่อยดีนักรอให้ลู่สือเยี่ยนเดินออกไปไกลประมาณหนึ่ง แล้วเธอจึงเดินออกไป แต่เธอไม่ได้เดินตามเขา กลับเดินตรงไปทางบันไดหนีไฟแทนลู่สือเยี่ยนมองการกระทำของเธอแล้วเอื้อมมือไปปลดเนกไท "หลินเซียง"หลินเซียงหยุดเดิน "ทำไม?"เธอไม่ได้หันกลับไปมอง จึงไม่เห็นแววตาที่ซับซ้อนระคนอาวรณ์ของเขาลู่สือเยี่ยนถอนหายใจเบา ๆ แล้วพูดว่า "จริง ๆ แล้วเราไม่ได้มีอะไรขัดแย้งกันเลย จะอยู่ด้วยกันแบบสงบสุขไม่ได้เลยเหรอ?"หลินเซียงกำหมัดแน่นทันที!ตอนนี้เขาเพิ่งจะมาพูดเรื่องอยู่ด้วยกันแบบสงบสุขกับเธองั้นเหรอ?ตอนแรกเธอคิดจะทำแบบนั้น แต่เขาทำกับเธอยังไง?เพราะตอ
คุณย่าลู่ “จะมีใครทำร้ายเธอได้ยังไง? นั่นเป็นแค่การคาดเดาของเธอเท่านั้น”“เหอะ!”ลู่สือเยี่ยนหัวเราะเบา ๆ แล้วพูดต่อ “คุณย่าครับ คนคนหนึ่งที่เพิ่งฟื้นขึ้นมาแต่ความจำเสื่อม จะไปอยู่บนถนนได้ยังไง? คนดูแลที่บ้านเราล่ะ? หายหัวไปไหนหมด?”คุณย่าลู่เงียบไปลู่สือเยี่ยนพูดต่อ “ตอนนั้นเธอเป็นคนที่ช่วยผม พาผมกลับบ้าน ถ้าไม่ใช่เธอ วันนี้ย่าก็คงไม่ได้เจอหน้าผมแล้ว”คุณย่าลู่มองหลินเซียง แล้วพูดขึ้นมาทันทีว่า “ความจริงเป็นแค่เรื่องบังเอิญหรือเปล่า ตอนนี้ยังสรุปไม่ได้ ถ้าเกิดเธอรู้ตัวตนของหลานตั้งแต่แรกล่ะ?”“ฉันไม่รู้ค่ะ”หลินเซียงรู้สึกว่าเธอควรจะพูดอะไรสักอย่างเธอมองคุณย่าลู่อย่างสงบ “คุณย่าคะ ฉันไม่รู้ว่าทำไมคุณย่าถึงได้เกลียดฉันขนาดนี้ แต่เมื่อก่อนย่าไม่ใช่แบบนี้ แถมยังชอบฉันมาก ถึงกับบอกเขาว่า ถ้าเขาทำร้ายฉัน คุณย่าจะช่วยฉันตีเขา ฉันยังจำคำพูดพวกนั้นได้อยู่เลย”เธอหายใจออกเบา ๆ แล้วพูดต่อ “แต่แน่นอนค่ะ คุณย่าจำไม่ได้ งั้นก็ไม่สำคัญแล้ว ฉันไม่รู้จักตัวตนของเขาตั้งแต่แรก จนกระทั่งเขาได้ความทรงจำกลับมา แล้วมาเปิดตัวในที่ที่ฉันทำงานอยู่ ฉันถึงได้รู้จักตัวตนของเขา”คุณย่าลู่เงียบไป ใบหน้
หลินเซียงมองคุณย่าลู่ด้วยความประหลาดใจไม่เคยคิดมาก่อนว่าคุณย่าที่เคยใจดีกับเธอ ในระดับที่เรียกว่าเอาใจใส่ กลับคิดร้ายกับเธอแบบนี้ แล้วยังมองเธอด้วยสายตาเย็นชาหลินเซียงรู้สึกเจ็บปวดในใจที่แท้ไม่ใช่แค่ตอนที่ลู่สือเยี่ยนทำร้ายเธอเท่านั้นถึงจะรู้สึกเจ็บปวดการถูกคนที่เคยสนิทสนมทำร้าย ใจก็เจ็บปวดเช่นกันเธอเม้มริมฝีปาก แล้วหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาลู่สือเยี่ยน“ฮัลโหล?”ไม่นานปลายสายก็รับ ได้ยินเสียงทุ้มต่ำของชายหนุ่มดังขึ้นหลินเซียงบอกว่า “คุณย่ามีเรื่องจะพูดกับพวกเรา ตอนนี้คุณช่วยมาโรงพยาบาลหน่อย”ลู่สือเยี่ยนถามว่า “เกิดอะไรขึ้นเหรอ?”หลินเซียง “มาถึงเดี๋ยวก็รู้เอง”พูดจบก็วางสายไปเรื่องหย่าควรจะพูดต่อหน้าทั้งสองคนจะดีกว่าบอกกับเธอแค่คนเดียวมีประโยชน์อะไร?เธออยากหย่า แต่ลู่สือเยี่ยนไม่ยอม คุณย่าลู่ก็ไม่เชื่อเธอทำผิดอะไร?ถึงได้ถูกปฏิบัติแบบนี้?หลินเซียงนั่งลงบนโซฟา ก้มหน้าลง ไม่มองคุณย่าลู่อีกนิสัยของเธอค่อนข้างแปลกถ้าคนคนนั้นทำร้ายเธอ ก็ยากที่จะเข้าไปอยู่ในใจเธอได้อีกคุณย่าลู่ไม่ค่อยชอบท่าทางของหลินเซียง จึงจับมือเซี่ยหว่านแล้วคุยต่อ เพราะชอบท่าทางอ่อนโยนขอ
หลังจากออกจากโรงพยาบาล ลู่สือเยี่ยนมองเธอ “อย่าคิดมาก คุณย่าแค่ลืมความทรงจำไปสองปีเท่านั้นเอง”หลินเซียงมองเขา แล้วถามว่า “แล้วถ้าคุณย่ายืนกรานจะให้คุณแต่งงานกับเซี่ยหว่านล่ะ?”ลู่สือเยี่ยนมองเธออย่างลึกซึ้ง “หลินเซียง เธอควรเลิกคิดเรื่องนี้นะ เพราะผมไม่หย่ากับคุณแน่”หลินเซียงอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ แล้วพูดว่า “จริง ๆ แล้ว เราหย่ากันก็ไม่เลวนะ ฉัน…”“หยุด!”ลู่สือเยี่ยนมองเธอด้วยความหงุดหงิด “ฟังที่ผมพูดไม่รู้เรื่องเหรอ? ถ้าพูดถึงเรื่องหย่าอีก ผมจับคุณขังไว้แน่!”ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความโกรธ รอบตัวเต็มไปด้วยออร่าเย็นชาหลินเซียงหยุดชะงัก ไม่พูดต่อเพราะเขาทำได้จริงเมื่อหันหลังเดินไป ใบหน้าเล็ก ๆ นั้นเย็นชายิ่งกว่าเก่าลู่สือเยี่ยนมองตามหลังเธอไป ริมฝีปากบางเม้มเป็นเส้นตรงเขาเปิดประตูแล้วก้าวขึ้นรถ สีหน้ามืดครึ้มอย่างที่สุดในขณะนั้น เสียงเรียกเข้าโทรศัพท์เขาดังขึ้น เขาหยิบขึ้นมาดู เป็นสายจากซืออวี่“พูดมา!”ซืออวี่ตกใจกับน้ำเสียงเย็นชาของเขา ก่อนจะกลืนน้ำลายอึกใหญ่ “พี่ใหญ่ ฉันสืบได้เรื่องบ้างแล้ว แต่คนคนนั้นฉลาดเป็นกรด ปกปิดตัวตนได้ดีมาก รู้แค่ว่าเป็นผู้ชาย”ลู่สือเยี
วันรุ่งขึ้น ทั้งสองคนไปที่โรงพยาบาลคุณย่าลู่ทานอาหารเช้าเสร็จแล้ว อวิ๋นหลานนั่งคุยกับเธออยู่“คุณย่าครับ”ลู่สือเยี่ยนเดินเข้าไปเรียกด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนคุณย่าลู่เห็นเขา ใบหน้าที่แก่ชราพลันมีรอยยิ้ม“สือเยี่ยน เธอมาแล้ว” คุณย่าลู่จับมือเขาไว้ มองใบหน้าหล่อเหลาของเขาแล้วพูดขึ้นมาทันทีว่า “สือเยี่ยน ทำไมดูเปลี่ยนไปจังเลย? ดูเหมือนจะโตขึ้นมากเลยนะ”ริมฝีปากบางของลู่สือเยี่ยนโค้งเป็นรอยยิ้ม “โตขึ้นแล้วไม่ดีเหรอครับ?”คุณย่าลู่พยักหน้า “ดี แน่นอนว่าดี แต่ฉันยังชอบเธอตอนเด็ก ๆ ที่ไร้เดียงสามากกว่า เอาแต่วิ่งตามหลังพี่ชายตลอดเวลา แล้วยังทำหน้าบึ้งใส่เขา มีแต่พี่ชายที่ตามใจ ถ้าเป็นคนอื่นคงตีเธอไปแล้ว”รอยยิ้มที่มุมปากของลู่สือเยี่ยนแข็งทื่อไปชั่วขณะคุณย่าลู่สังเกตเห็นหลินเซียงในตอนนี้ จึงถามว่า “แล้วเธอล่ะ มายังไง?”ลู่สือเยี่ยนบอกว่า “ย่าครับ เธอเป็นภรรยาผม หลินเซียง”หลินเซียงมองคุณย่าลู่ “คุณย่า”คิ้วของคุณย่าลู่ขมวดเข้าหากันทันที เธอปล่อยมือลู่สือเยี่ยน “ก่อนหน้านี้เธอบอกว่าจะแต่งงานกับหว่านหว่านไม่ใช่เหรอ? ฉันเห็นว่าเด็กคนนั้นก็ใช้ได้นะ ทำไมถึงแต่งงานกับคนอื่นล่ะ?”ท่าทีนั้
ใบหน้าของลู่สือเยี่ยนแสดงออกถึงความซับซ้อนเล็กน้อย เขาพูดอย่างสงบว่า “เรื่องนี้ยังบอกไม่ได้ ต้องรอผลตรวจของแพทย์”หลินเซียงพยักหน้า ตอนนี้คงทำได้แค่นี้ลู่เจิ้งหรงมองหลินเซียงด้วยสายตาไม่เป็นมิตร แล้วพูดกับลู่สือเยี่ยนว่า “อาการของย่าแกดูเหมือนจะดีขึ้น ความคิดของผู้ใหญ่ แกคงรู้ดี น่าจะอยากเห็นแกแต่งงานกับหว่านหว่าน ตอนนั้นแกเป็นคนพาหว่านหว่านไปหาท่านเอง ตอนนี้ถ้าท่านขอร้อง แกก็ปฏิเสธไม่ได้”อวิ๋นหลานกล่าวว่า “เจิ้งหรง แต่สือเยี่ยนกับหลินเซียงรักกันดี ทำแบบนี้ไม่ค่อยดีหรอกมั้ง?”“เหอะ!” ลู่เจิ้งหรงหัวเราะเยาะ “รักกันดี? หลินเซียงไม่ใช่เหรอที่อยากหย่ามาตลอด? ใช้โอกาสนี้หย่ากันไปซะสิ ไม่ต้องมีใครขัดขวางใคร!”อวิ๋นหลานมองหลินเซียงด้วยความกังวล กลัวว่าเธอจะเสียใจแต่หลินเซียงเหมือนไม่ได้ยิน ยืนอยู่มุมห้อง ก้มหน้าลง ปากสวยเม้มเป็นเส้นตรงลู่สือเยี่ยนไม่ได้สนใจคำพูดของลู่เจิ้งหรงเลยเขาตามหาลู่จิ้นหนานจนแทบคลั่ง ยังมีเวลาสนใจเรื่องของเขากับหลินเซียงอีกเหรอ?ดูเหมือนว่าเขาควรหาอะไรให้อีกฝ่ายทำบ้าง!ประมาณสองชั่วโมงผ่านไปผลการตรวจของคุณย่าลู่ออกมาแล้วแพทย์ถือรายงานผลการตรวจแล้วพูด
เสียงของคุณย่าลู่ดังขึ้น ทุกคนในห้องนั่งเล่นต่างก็ตกตะลึง!สีหน้าของลู่สือเยี่ยนตึงเครียดขึ้น เขาคุกเข่าครึ่งตัวอยู่ข้างหน้าคุณย่าลู่แล้วถามว่า “คุณย่าครับ ตอนนี้คุณย่าจำอะไรได้แล้วเหรอครับ?”คุณย่าลู่เอามือลูบหัวเขา “ย่าต้องจำได้อยู่แล้วสิ ย่ายังไม่แก่จนความจำเลอะเลือนซะหน่อย ก่อนหน้านี้เธอบอกว่าจะแต่งงานกับหว่านหว่าน แล้วทำไมวันนี้ถึงไม่พาเธอมาด้วย?”ลู่สือเยี่ยนรู้สึกถึงความผิดปกติอย่างรวดเร็ว เขาชี้ไปที่หลินเซียงแล้วถามว่า “แล้วคุณย่าจำเธอได้ไหมครับ?”คุณย่าลู่มองตามนิ้วมือของเขาไป แล้วส่ายหัว “ไม่รู้จัก เธอเป็นใคร? คนใช้ใหม่ของบ้านเราเหรอ?”หลินเซียงได้ยินคำพูดของเธอ เหมือนกับถูกตบหน้าอย่างแรง ก่อนหน้านี้ตอนที่คุณย่าลู่ความจำเสื่อม เธอมักจะคิดว่าเซี่ยหว่านเป็นคนใช้ของบ้านตระกูลลู่ และยังดีกับหลินเซียงเป็นพิเศษแต่ตอนนี้กลับกัน!ลู่สือเยี่ยนลุกขึ้นยืนแล้วพูดว่า “ผมจะพาคุณย่าไปโรงพยาบาลครับ”คุณย่าลู่ขมวดคิ้ว ใบหน้าที่แก่ชราเต็มไปด้วยความไม่เข้าใจ “ไปโรงพยาบาลทำไม? ย่ารู้สึกว่าย่าสบายดีนะ”ลู่สือเยี่ยน “ตรวจร่างกายคุณย่านิดหน่อย เชื่อผมเถอะครับ”คุณย่าลู่ก็ยังไม่ค่อยเต็มใจ
หลังจากที่ลู่สือเยี่ยนพูดจบ เขาก็ไม่ได้วางสาย ได้ยินเสียงเขาเปิดประตูรถลงจากรถ ตามมาด้วยเสียงฝีเท้าที่เร่งรีบหลินเซียงกำโทรศัพท์แน่น ยื่นมือไปกดปุ่มปิดประตูอีกครั้งครั้งนี้ประตูลิฟต์ปิดลง หัวใจที่สั่นไหวก็ค่อยผ่อนคลายลงอย่างเฉียบพลัน"ประตูลิฟต์ปิดแล้ว" หลินเซียงพูด ตอนนี้เธอเพิ่งรู้ว่าขาของตัวเองอ่อนแรงแค่ไหน!ลู่สือเยี่ยนพูดว่า "อย่าออกจากลิฟต์ก่อนถึงชั้นหนึ่งนะ""อืม"หลินเซียงตอบ ยังไม่วางสายโชคดีที่ลิฟต์มาถึงชั้นหนึ่งอย่างรวดเร็ว ตอนนี้ไม่มีใครทำงานล่วงเวลาในตึกแล้วเมื่อประตูลิฟต์เปิดออก หลินเซียงก็เห็นลู่สือเยี่ยนยืนอยู่ที่ประตู เธอวิ่งออกไปทันที!ลู่สือเยี่ยนกอดเธอไว้พลางปลอบเบา ๆ "ไม่เป็นไร เดี๋ยวผมจะตรวจสอบให้ชัดเจน"ด้วยกลิ่นอายที่สดชื่นของเขา หลินเซียงจึงผ่อนคลายลง ตามมาด้วยความหวาดกลัวอย่างรุนแรง!จมูกของเธอรู้สึกแสบร้อน น้ำตาเกือบไหล แต่เธอก็อดทนไว้!ลู่สือเยี่ยนประกองกอดเธอแล้วออกจากอาคารพอก้าวขึ้นรถ ความอบอุ่นจากเครื่องทำความร้อนทำให้ร่างกายที่เย็นเยือกเริ่มอุ่นขึ้นลู่สือเยี่ยนจับมือเธอ ถามว่า "คุณเห็นใครหรือเปล่า?"หลินเซียงส่ายหัว "ไม่มีนะ"แล้วถา
หลินเซียงรู้สึกใจสั่นระรัวเสียงน้ำไหลในห้องน้ำดังขึ้น หลินเซียงจึงโล่งใจเล็กน้อยเธอค่อย ๆ ผ่อนคลายและกอดตัวเองขณะกำลังจะหลับ เตียงข้าง ๆ ก็ยุบลงไป ร่างกายของลู่สือเยี่ยนที่ยังเปียกชื้นจากน้ำ เข้ามากอดเธอแน่น หลินเซียงไม่ขยับหรือดิ้นรน ลู่สือเยี่ยนจูบที่ไหล่เธอเบา ๆ "ราตรีสวัสดิ์ ที่รัก"ขนตาของหลินเซียงกระตุกเล็กน้อย แต่เธอก็ยังไม่ตอบสนองอะไร…วันรุ่งขึ้น หลินเซียงไปทำงานก็พบว่าสวี่ซิงเย่มาถึงแล้ว เขาสวมเสื้อเชิ้ตสีขาวสะอาด ดูสดใสและมีเสน่ห์ เป็นหนุ่มน้อยที่สดใสสวี่ซินหรานกำลังคุยกับเขาอยู่และสวี่ซิงเย่ก็ตอบด้วยรอยยิ้มเมื่อเห็นเธอมาถึง สวี่ซิงเย่รีบลุกขึ้นยืนและเดินมาหาเธอ "คุณหลิน อรุณสวัสดิ์ครับ!"หลินเซียงยิ้มบาง "ตอนนี้เราเป็นเพื่อนร่วมงานกันแล้ว นายเรียกฉันว่าหลินเซียงก็ได้"สวี่ซิงเย่เกาจมูกด้วยความเขินอายเล็กน้อย "หลินเซียง""อืม อรุณสวัสดิ์ค่ะ" หลินเซียงพยักหน้าเล็กน้อยสวี่ซินหรานนั่งอยู่ที่โต๊ะทำงาน พูดด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย "ถ้าไม่รู้ว่าเธอแต่งงานแล้ว ฉันนึกว่าพวกเธอเป็นแฟนกันซะอีก"เมื่อได้ยินแบบนั้น สวี่ซิงเย่ขมวดคิ้ว พูดว่า "อย่าพูดอย่างนั้นเลยครับ ผมกั
“ลู่สือเยี่ยน คุณเป็นอะไรมากไหม?”หลินเซียงรู้สึกงงกับเขา!เธอไม่ได้ทำอะไรเลย แต่เขากลับจะยัดเยียดให้เธอไปเปิดห้องกับผู้ชายคนอื่น?เขาเป็นบ้าหรือเปล่า?ลู่สือเยี่ยนจ้องมองเธออย่างเงียบ ๆ แล้วพูดว่า “หลินเซียง ห้ามรับของจากผู้ชายคนอื่น และห้ามชอบผู้ชายคนอื่นด้วย ถ้าผมรู้ คุณอาจไม่ตาย แต่ผู้ชายคนนั้นต้องตายแน่!”เขาเตือนอย่างจริงจังด้วยความเคร่งขรึม ดวงตาของเขาแสดงความต้องการครอบครองเธออย่างไม่มีปิดบังหลินเซียงกัดริมฝีปาก มองเขาด้วยสายตาซับซ้อนถ้าเป็นก่อนหน้านี้ เขาแสดงออกแบบนี้เธอคงดีใจมาก!แต่หลังจากผ่านเรื่องราวต่าง ๆ มาแล้ว เมื่อได้ยินเขาพูดแบบนี้ เธอกลับไม่รู้สึกอะไร!เธอเงยหน้าขึ้นเล็กน้อย “ตอนนี้ฉันไปอาบน้ำได้แล้วใช่ไหม? ทำงานมาทั้งวัน เหนื่อยมากจริง ๆ”ลู่สือเยี่ยนมองเธออีกสักพัก แล้วปล่อยเธอไปหลินเซียงเดินไปที่ห้องน้ำลู่สือเยี่ยนเรียกคนใช้มาเก็บเค้กเมื่อหลินเซียงออกมา เธอก็เห็นเขานั่งอยู่บนโซฟา บนโต๊ะมีขี้ผึ้งวางอยู่“ทายา”เมื่อเห็นเธอหันมามอง เขาพูดเสียงต่ำหลินเซียงกัดริมฝีปาก แล้วพูดว่า “ฉันทาเองได้”พูดจบ เธอก็เดินไปหยิบขี้ผึ้งแต่ลู่สือเยี่ยนมือไวกว่