ทุกคนต่างก็หันไปมองเมื่อเห็นหลินเซียงเดินเข้ามา ใบหน้าซีดเซียว แต่ดวงตากลับเย็นชาเหลือเกิน เธอกวาดตามองทุกคนที่อยู่ในห้อง "ก่อนหน้านี้จะด่าฉันลับหลังก็ช่าง ถือซะว่าฉันไม่ได้ยิน แต่พอมาได้ยินเต็มสองหูแบบนี้ ฉันว่าคุณควรขอโทษฉันสักหน่อยหรือเปล่า?"เธอจ้องมองคนที่เพิ่งรวมหัวกันด่าเธอสองสามคนอย่างแข็งกร้าวสายตาของคนเหล่านั้นเริ่มเลิ่กลั่ก ชายคนหนึ่งลุกขึ้นยืนแล้วพูดว่า "ทำไมต้องขอโทษด้วย? ข้อมูลโครงการที่คุณรับผิดชอบรั่วไหล ไม่มีใครแตะต้องโต๊ะทำงานของคุณเลยสักคน จะไม่ให้พวกเราสงสัยว่าคุณเป็นคนทำเลยรึ!"หลินเซียงมองเขาด้วยสายตาเย็นชา "เห็นไหม? คุณก็พูดเองว่าเป็นแค่การสงสัย ไม่ได้มีหลักฐานที่ชัดเจนซะหน่อยนี่?"ชายคนนั้นพูดไม่ออก สีหน้ากระอักกระอ่วนไปหมดหลินเซียงมองพวกเขา "ไม่ขอโทษเหรอ หน้าด้านใช้ได้เลยนะ"เมื่อพูดออกมาแบบนั้น คนเหล่านั้นทำท่าโกรธขึ้นมาทันที"หลินเซียง คุณเป็นคนผิดแท้ ๆ ทำไมพวกเราต้องขอโทษ?""ใช่ พวกเราไม่ได้ทำอะไรผิดเลย""ในเมื่อคุณบอกว่าคุณไม่ได้ทำ แล้วคุณหายหัวไปไหนไม่ยอมแก้ปัญหา?""...""ปัง!"หลินเซียงวางแฟ้มเอกสารในมือลงบนโต๊ะทันที "นี่ไง ฉันไปเจรจากับเฉิง
"ว้าว เกินคาดเป็นบ้าเลย"หลินเซียงหัวเราะในลำคอแผ่วเบา สายตาจ้องไปยังใบหน้าของหัวหน้าแผนกทุกคนต่างก็หันไปมองหัวหน้าด้วยสายตาไม่เชื่อ"ทำไมถึงเป็นคุณไปได้?!""ทำไมถึงทำแบบนี้?""โครงการนี้สำคัญกับพวกเรามากนะ ทำไมคนทุจริตดันเป็นคุณ?""..."จากความไม่เชื่อในตอนแรก ก็กลายเป็นความโกรธที่เริ่มระงับไว้ไม่อยู่ ทุกคนต่างกรูเข้าไปล้อมรอบหัวหน้าที่กำลังจะออกไป แล้วเรียกร้องให้เขาอธิบายหัวหน้าไม่คิดว่าความผิดตัวเองจะถูกเปิดโปงขึ้นมาง่าย ๆ แบบนี้ ตอนนี้เขาแก้ตัวอะไรไม่ออกเลย!หลักฐานอยู่ตรงหน้าแล้ว จะให้แก้ตัวอะไรได้อีกด้านนอกร่างสูงของลู่สือเยี่ยนยืนอยู่หน้ากระจก ดวงตาดำขลับลึกลับของเขาจับจ้องไปที่หลินเซียงตลอดเวลา เมื่อเห็นใบหน้าซีดเซียวของเธอ คิ้วของเขาก็ขมวดเข้าหากันซ่งจั่วที่อยู่ข้าง ๆ พูดว่า "นึกไม่ถึงเลยนะครับ ว่าเธอจะติดกล้องไว้ตรงโต๊ะทำงาน"ริมฝีปากบางของลู่สือเยี่ยนเม้มเข้าหากันเป็นเส้นตรง แล้วก็หันหลังเตรียมจะเดินจากไปในเวลานั้น ซ่งจั่วก็อุทานด้วยความตกใจขึ้นมาทันที "คุณหนูลู่เป็นลม!"หลินเซียงสะสางปัญหาใหญ่ ๆ ไปได้แล้ว ความตึงเครียดในใจของเธอผ่อนคลายลงทันที ทันทีที่
ลู่สือเยี่ยนนั่งอยู่ด้านหลัง มองดูเธอที่กำลังดื่มน้ำเงียบ ๆ ดวงตาสีดำสนิทฉายแววอ่อนโยนแวบผ่าน แต่ก็หายวับไปในพริบตาหลังจากดื่มน้ำแล้ว หลินเซียงไม่ได้นอนต่อ แต่นั่งพิงหัวเตียง หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู มีหลายคนที่ส่งข้อความมาหา ส่วนใหญ่เป็นเพื่อนร่วมงานที่ทักมาสอบถามอาการเธอ รวมถึงข้อความจากซ่งซ่งด้วยเธอโทรหาซ่งซ่ง"เซียงเซียงคนสวย งานเสร็จแล้วเหรอจ๊ะ?" ซ่งซ่งรับสายอย่างรวดเร็ว เสียงหวาน ๆ ของเธอดังมาตามาสายหลินเซียง "อืม เสร็จแล้ว เธอเป็นผู้มีพระคุณรายใหญ่เลย อยากกินอะไรเป็นพิเศษไหม?"ซ่งซ่ง "งั้นฉันไม่เกรงใจแล้วนะ"หลินเซียง "เอาสิ"ซ่งซ่งหัวเราะคิกคัก "ฉันไม่ได้กินอาหารฝีมือเธอตั้งนานแล้ว อยากให้เธอเข้าครัวอีก เธอทำอะไรฉันก็กินได้หมด""ได้เลย"ซ่งซ่งช่วยเธอมากขนาดนี้ ไม่ว่าเธอร้องขออะไรเธอก็ยินดีทำตามซ่งซ่ง "เอ๊ะ ทำไมฉันว่าเสียงเธอแปลก ๆ ไป?"หลินเซียงตอบกลับ "ฉันเป็นหวัดน่ะ ฉัน..."แต่เธอยังพูดไม่ทันจบ โทรศัพท์ของเธอก็ถูกใครบางคนแย่งไป สายถูกตัดไปดื้อ ๆ ก่อนที่ผู้ชายคนนั้นจะหย่อนโทรศัพท์ลงในกระเป๋าของตัวเอง"ลู่สือเยี่ยน ทำบ้าอะไรน่ะ?"หลินเซียงจ้องเขาด้วยความโกรธลู่ส
[คุณหยุดพักผ่อนได้หนึ่งวัน พรุ่งนี้ค่อยกลับมาทำงาน]เหอะ!หลินเซียงหัวเราะเยาะในใจ ดวงตาไร้อารมณ์เมื่อคืน เธอต้องใช้ความกล้าอย่างมากในการพูดคำเหล่านั้น เพราะต้องการได้รับคำตอบจากเขา หรือไม่ก็คำอธิบายจากเขาแม้ว่าจะเป็นคำพูดที่ฟังแล้วรู้สึกแย่ก็ตามแต่ดูเหมือนว่าเขาไม่ได้สนใจคำพูดของเธอเลย เมื่อไหร่กันที่เขากลายเป็นคนไม่ใส่ใจเธออย่างนี้นั่นทำให้เธอรู้สึกว่าการถามคำถามเมื่อคืนเป็นเรื่องโง่เง่ามากทำให้ตัวเองอับอายซะเปล่าหลินเซียงข่มอารมณ์ของตัวเองไว้ จัดการทำเรื่องขอออกจากโรงพยาบาล จากนั้นก็กลับบ้าน เมื่อเห็นแฟ้มเอกสารบนตู้ เปิดออกดูก็พบว่าข้างในมีทั้งโฉนดบ้าน เช็ก และกุญแจเฟิงหลินหย่วนคอนโดกลางทำเลทองของเมืองอวิ๋น ตกแต่งพร้อมเข้าอยู่ สิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน มีทั้งหมด 25 ชั้น พื้นที่ใช้สอย 500 ตารางเมตรโอ้โฮ ทำไมถึงได้ใหญ่ขนาดนี้คิดว่าทำแบบนี้แล้วเธอจะรู้สึกซาบซึ้งใจเหรอ?ในดวงตาของหลินเซียงไร้อารมณ์ เธอหยิบเช็กออกมา จำนวนเงินสามสิบล้านปรากฏอยู่บนนั้นชัดเจน และด้านล่างก็เป็นลายเซ็นตวัดของลู่สือเยี่ยนหลินเซียงกำเช็คไว้ในมือเป็นเวลานานโดยไม่ตัวเธอเติบโตมาในสถานเลี
เขาให้สิ่งที่เธอต้องการไปแล้ว ตามหลักเธอควรจะมีความสุขจนยิ้มไม่หุบสิแต่เมื่อดูสีหน้าของเธอเมื่อครู่ คำว่าความสุขไม่ฉายอยู่บนใบหน้าเธอเลยสักนิดเพราะอะไร?ยิ่งลู่สือเยี่ยนคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้มากเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งหงุดหงิดมากขึ้นเท่านั้น ทันใดนั้นโทรศัพท์มือถือของเขาก็ดังขึ้น เขาหยิบมันออกมาดูจึงเห็นว่าเป็นสายเรียกเข้าจากซ่งจั่ว "คุณลู่ครับ ประธานหานมาถึงแล้ว"“อืม ผมจะรีบกลับ”ลู่สือเยี่ยนตอบกลับอย่างเย็นชาและกดวางสายเขามองไปทางบ้านของหลินเซียงอยู่นาน ก่อนจะขับรถออกไป…ตอนเย็นเมื่อซ่งซ่งมาถึง หลินเซียงก็ทำกับข้าวเสร็จไปสี่จานแล้ว แต่ยังเหลืออีกสองจาน และซุปอีกหนึ่งที่ยังไม่เสร็จ“เซียงเซียงคนสวย เล่นใหญ่เกินไปหรือเปล่าเนี่ย!”ซ่งซ่งกอดเธอด้วยความตื่นเต้น แถมยังเบียดกระแซะร่างกายด้วยความออดอ้อนหลินเซียง "ไม่เห็นเป็นไรเลย เอาล่ะ เธอออกไปรอข้างนอกเถอะ อีกไม่นานก็เสร็จแล้ว"ซ่งซ่ง "ได้ ฉันซื้อเหล้าติดมาด้วยนะ"หลินเซียงพูดอย่างนึกเสียดาย "ฉันดื่มไม่ได้น่ะสิ เพิ่งกินยาแก้หวัดเข้าไป"ซ่งซ่งประหลาดใจ “ทำไมอยู่ดี ๆ ถึงเป็นหวัดได้ล่ะ? แต่ฉันว่าเธอก็ดูปกติดีนะ”หลินเซียง "เดี
“เข้ามาส่งยาให้ฉันหน่อย ฉันอาการไม่ค่อยดี”หลังจากพูดอย่างนั้น สายก็ถูกกดวางไปดื้อ ๆหลินเซียงมองดูโทรศัพท์ที่เพิ่งวางสายไปด้วยสีหน้าสับสนพร้อมกับขมวดคิ้วเขาโทรผิดจริงเหรอ?ไม่ได้ยินสิ่งที่เธอพูดจริงดิ?หลินเซียงเม้มริมฝีปากและกดโทรไปที่หมายเลขโทรศัพท์ของซ่งจั่ว“สวัสดีครับคุณหนูหลิน”ไม่นานอีกฝ่ายก็กดรับ เสียงดังขึ้นจากปลายอีกด้านหลินเซียงพูดว่า "เมื่อกี้คุณลู่โทรผิดมาที่เบอร์ฉัน เขาขอให้คุณช่วยไปส่งยาให้เขาหน่อย รบกวนไปที่นั่นตอนนี้เลยได้ไหมคะ?"“เกรงว่าจะไม่ได้ครับ” ซ่งจั่วตอบตามตรง “ผมกำลังเดินทางไปคุยธุรกิจ ตอนนี้อยู่ที่สนามบินแล้ว คุณหลิน ช่วยไปส่งของแทนผมหน่อยได้ไหมครับ เดี๋ยวผมจะบอกคุณทีละรายการ ยาพวกนั้นหาซื้อได้ตามร้านขายยาทั่วไป"หลินเซียงขมวดคิ้ว “คุณกำลังจะขึ้นเครื่องเหรอ?”“ใช่ครับ"ซ่งจั่วตอบ เสียงประกาศไฟล์ทบินจากสนามบินยังคงเล็ดลอดเข้ามาทางโทรศัพท์อย่างคลุมเครือ“คุณหลิน ผมจะส่งรายการยาไปให้คุณนะครับ คุณลู่ป่วยไข้ทีไรอาการของเขาจะค่อนข้างแย่และทรมานมาก ฝากนำยาไปส่งแทนผมด้วย ขอบคุณมากครับ”หลังจากเขาพูดจบก็วางสายไปดื้อ ๆ อีกคน"ไงนะคะ?"หลินเซียงสะดุ้ง
หลินเซียงตะลึง!เขาเป็นบ้าอะไรอีกเนี่ย?ป่วยจนไม่มีสติเลยหรือไง?หลินเซียงต่อสู้ดิ้นรนอย่างรุนแรง แต่ในเวลานี้ความแตกต่างด้านสรีระความแข็งแกร่งระหว่างชายและหญิงห่างชั้นเกินไป เธอพยายามดิ้นรนสองสามครั้ง ก็ยิ่งเป็นการกระตุ้นความดุร้ายของเขาโดยตรง เขาคว้าข้อมือทั้งสองของเธอรวบไว้ด้วยมือเดียว แล้วกดไว้เหนือศีรษะลมหายใจร้อนผ่าวระเรื่อยมาตามมุมปากของเธอ ความหนาวเย็นกระทบหน้าอกจนสั่นเทา ตามด้วยไอร้อนและความเปียกชื้นดวงตาหลินเซียงเบิกกว้าง "ลู่สือเยี่ยน คุณเป็นอะไรไป?"เขาไม่ได้ป่วยหรอกเหรอ?แต่เมื่อเธอเห็นท่าทางที่เต็มไปด้วยพละกำลังของเขา ดูเหมือนเขาไม่ได้ป่วยเลยสักนิดหรือเขานึกว่าเธอเป็นผู้หญิงคนอื่น?เซี่ยหว่าน?เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ หัวใจของหลินเซียงก็เจ็บปวดเล็กน้อย ทันใดนั้นเธอก็งอเข่าใช้เท้าถีบไปข้างหน้า!การเคลื่อนไหวทั้งหมดของลู่สือเยี่ยนหยุดชะงัก ร่างอันหนักอึ้งของเขาล้มลงนอนทับเธอโดยตรง"ออกไปเลย!"หลินเซียงบิดตัวอย่างไม่สบายใจลู่สือเยี่ยนขบเม้มกระดูกไหปลาร้าของเธอด้วยความโกรธ "หลินเซียง คุณอยากเป็นม่ายนักเหรอ?"ก็รู้นี่ว่าเธอเป็นใคร?ในเมื่อเป็นอย่างนั้น…“เข้าใจ
"เซียงเซียง นอนต่ออีกหน่อยสิ"เสียงที่เป็นธรรมชาติและแสนจะสนิทสนมดังขึ้นจากด้านหลัง คางของชายหนุ่มยังคงถูอยู่บนกลางกระหม่อมเธอหลินเซียงตัวแข็งทื่อภาพแฟลชแบล็กสมัยพวกเขายังอยู่ร่วมกันก่อนหน้านี้ลอยขึ้นมาเมื่อก่อนเวลาเธอต้องตื่นเช้า อาเยี่ยนจะเป็นแบบนี้เสมอ ออดอ้อนออเซาะไม่ยอมห่าง แถมยังพูดประโยคเดียวกันนี้หลินเซียงนอนอยู่บนเตียงด้วยความมึนงง ชั่วครู่หนึ่งเกือบแยกไม่ออกแล้วว่านี่คืออดีตหรือปัจจุบันแต่จะให้เธอแยกแยะได้ยังไงล่ะ?เพราะไม่ว่าจะเป็นอดีตหรือปัจจุบัน คนที่พูดคำนี้ก็คืออาเยี่ยนคนเดิมหัวใจของเธอปวดหนึบและเต็มไปด้วยความอัดอึดคับข้อง ถึงอย่างนั้นกลับกัดนิ้วตัวเองไว้ ไม่ได้ลุกหนีเป็นไปได้เธอก็อยากจะกอดเก็บสิ่งนี้ไว้ให้นาน ๆซึมซับความอบอุ่น กลิ่นหอม และทุกสิ่งทุกอย่างที่เป็นเขาหวังให้เวลาหยุดเดินอยู่ที่ช่วงเวลานี้ ไม่มีการหย่าร้าง ไม่มีเซี่ยหว่าน ไม่มีลูกชายคนที่สามของตระกูลลู่...พวกเขายังคงเป็นสามีภรรยากันเหมือนเดิม...เมื่อตื่นขึ้นมาอีกครั้ง หลินเซียงลืมตาตื่นขึ้นมาก็ประสานเข้ากับสายตาสงสัยครึ่ง ๆ กลาง ๆ ของลู่สือเยี่ยนเธอเปลี่ยนสีหน้า "ทำไมมองฉันแบบนั้น?