หลินเซียงไม่สนใจที่จะคิดว่าลู่สือเยี่ยนมาหาตัวเองตั้งแต่ตอนไหน รีบวิ่งไปหาหานเฉิงต๋า"คุณหาน ขอโทษนะคะ ขอเวลาให้ฉันสักนาทีเดียว หลังจากนั้นคุณค่อยตัดสินใจว่าจะฟังฉันพูดต่อไหม"หานเฉิงต๋าจ้องมองหญิงสาวที่เข้ามาขวางหน้าเขาอีกครั้ง แอบรู้สึกคุ้นหน้าเล็กน้อย เมื่อมองเห็นว่าใบหน้าของเธอซีดเซียวแค่ไหน ในที่สุดเขาก็ไม่เดินเลี่ยงออกไป"ได้ หนึ่งนาทีนะ"อย่างไรก็ตาม เขาไม่มีความเมตตาเหลือเฟือ บอกว่าหนึ่งนาทีก็คือหนึ่งนาที เขายกนาฬิกาข้อมือขึ้นมาจับเวลาหลินเซียงสูดหายใจเข้าลึก ๆ จากนั้นก็เริ่มอธิบายมุมมองและแนวคิดของเธอออกมาเวลาค่อย ๆ ผ่านไป...ไม่รู้ว่าตั้งแต่วินาทีที่เท่าไหร่ หานเฉิงต๋าก็ไม่สนใจนาฬิกาข้อมือแล้ว แต่กลับมองหลินเซียงด้วยสีหน้าสนอกสนใจจนกระทั่งเธอหยุดพูดแล้วยิ้มด้วยความรู้สึกผิด "ขอโทษด้วยนะคะ ฉันตื่นเต้นไปหน่อย พูดเกินเวลาไปเยอะเลย..."ผ่านไปสิบนาที เธอพูดเฉพาะส่วนที่สำคัญและน่าสนใจที่สุดของโครงการเท่านั้น เพราะหากจะต้องอธิบายแผนงานและแนวคิดของแบบแปลนทั้งหมด คงต้องใช้เวลาตลอดทั้งช่วงเช้าหานเฉิงต๋าพยักหน้าด้วยความชื่นชม "แนวคิดดีจริง ๆ"หลินเซียงโค้งคำนับเขา "ขอบคุณ
ทุกคนต่างก็หันไปมองเมื่อเห็นหลินเซียงเดินเข้ามา ใบหน้าซีดเซียว แต่ดวงตากลับเย็นชาเหลือเกิน เธอกวาดตามองทุกคนที่อยู่ในห้อง "ก่อนหน้านี้จะด่าฉันลับหลังก็ช่าง ถือซะว่าฉันไม่ได้ยิน แต่พอมาได้ยินเต็มสองหูแบบนี้ ฉันว่าคุณควรขอโทษฉันสักหน่อยหรือเปล่า?"เธอจ้องมองคนที่เพิ่งรวมหัวกันด่าเธอสองสามคนอย่างแข็งกร้าวสายตาของคนเหล่านั้นเริ่มเลิ่กลั่ก ชายคนหนึ่งลุกขึ้นยืนแล้วพูดว่า "ทำไมต้องขอโทษด้วย? ข้อมูลโครงการที่คุณรับผิดชอบรั่วไหล ไม่มีใครแตะต้องโต๊ะทำงานของคุณเลยสักคน จะไม่ให้พวกเราสงสัยว่าคุณเป็นคนทำเลยรึ!"หลินเซียงมองเขาด้วยสายตาเย็นชา "เห็นไหม? คุณก็พูดเองว่าเป็นแค่การสงสัย ไม่ได้มีหลักฐานที่ชัดเจนซะหน่อยนี่?"ชายคนนั้นพูดไม่ออก สีหน้ากระอักกระอ่วนไปหมดหลินเซียงมองพวกเขา "ไม่ขอโทษเหรอ หน้าด้านใช้ได้เลยนะ"เมื่อพูดออกมาแบบนั้น คนเหล่านั้นทำท่าโกรธขึ้นมาทันที"หลินเซียง คุณเป็นคนผิดแท้ ๆ ทำไมพวกเราต้องขอโทษ?""ใช่ พวกเราไม่ได้ทำอะไรผิดเลย""ในเมื่อคุณบอกว่าคุณไม่ได้ทำ แล้วคุณหายหัวไปไหนไม่ยอมแก้ปัญหา?""...""ปัง!"หลินเซียงวางแฟ้มเอกสารในมือลงบนโต๊ะทันที "นี่ไง ฉันไปเจรจากับเฉิง
"ว้าว เกินคาดเป็นบ้าเลย"หลินเซียงหัวเราะในลำคอแผ่วเบา สายตาจ้องไปยังใบหน้าของหัวหน้าแผนกทุกคนต่างก็หันไปมองหัวหน้าด้วยสายตาไม่เชื่อ"ทำไมถึงเป็นคุณไปได้?!""ทำไมถึงทำแบบนี้?""โครงการนี้สำคัญกับพวกเรามากนะ ทำไมคนทุจริตดันเป็นคุณ?""..."จากความไม่เชื่อในตอนแรก ก็กลายเป็นความโกรธที่เริ่มระงับไว้ไม่อยู่ ทุกคนต่างกรูเข้าไปล้อมรอบหัวหน้าที่กำลังจะออกไป แล้วเรียกร้องให้เขาอธิบายหัวหน้าไม่คิดว่าความผิดตัวเองจะถูกเปิดโปงขึ้นมาง่าย ๆ แบบนี้ ตอนนี้เขาแก้ตัวอะไรไม่ออกเลย!หลักฐานอยู่ตรงหน้าแล้ว จะให้แก้ตัวอะไรได้อีกด้านนอกร่างสูงของลู่สือเยี่ยนยืนอยู่หน้ากระจก ดวงตาดำขลับลึกลับของเขาจับจ้องไปที่หลินเซียงตลอดเวลา เมื่อเห็นใบหน้าซีดเซียวของเธอ คิ้วของเขาก็ขมวดเข้าหากันซ่งจั่วที่อยู่ข้าง ๆ พูดว่า "นึกไม่ถึงเลยนะครับ ว่าเธอจะติดกล้องไว้ตรงโต๊ะทำงาน"ริมฝีปากบางของลู่สือเยี่ยนเม้มเข้าหากันเป็นเส้นตรง แล้วก็หันหลังเตรียมจะเดินจากไปในเวลานั้น ซ่งจั่วก็อุทานด้วยความตกใจขึ้นมาทันที "คุณหนูลู่เป็นลม!"หลินเซียงสะสางปัญหาใหญ่ ๆ ไปได้แล้ว ความตึงเครียดในใจของเธอผ่อนคลายลงทันที ทันทีที่
ลู่สือเยี่ยนนั่งอยู่ด้านหลัง มองดูเธอที่กำลังดื่มน้ำเงียบ ๆ ดวงตาสีดำสนิทฉายแววอ่อนโยนแวบผ่าน แต่ก็หายวับไปในพริบตาหลังจากดื่มน้ำแล้ว หลินเซียงไม่ได้นอนต่อ แต่นั่งพิงหัวเตียง หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู มีหลายคนที่ส่งข้อความมาหา ส่วนใหญ่เป็นเพื่อนร่วมงานที่ทักมาสอบถามอาการเธอ รวมถึงข้อความจากซ่งซ่งด้วยเธอโทรหาซ่งซ่ง"เซียงเซียงคนสวย งานเสร็จแล้วเหรอจ๊ะ?" ซ่งซ่งรับสายอย่างรวดเร็ว เสียงหวาน ๆ ของเธอดังมาตามาสายหลินเซียง "อืม เสร็จแล้ว เธอเป็นผู้มีพระคุณรายใหญ่เลย อยากกินอะไรเป็นพิเศษไหม?"ซ่งซ่ง "งั้นฉันไม่เกรงใจแล้วนะ"หลินเซียง "เอาสิ"ซ่งซ่งหัวเราะคิกคัก "ฉันไม่ได้กินอาหารฝีมือเธอตั้งนานแล้ว อยากให้เธอเข้าครัวอีก เธอทำอะไรฉันก็กินได้หมด""ได้เลย"ซ่งซ่งช่วยเธอมากขนาดนี้ ไม่ว่าเธอร้องขออะไรเธอก็ยินดีทำตามซ่งซ่ง "เอ๊ะ ทำไมฉันว่าเสียงเธอแปลก ๆ ไป?"หลินเซียงตอบกลับ "ฉันเป็นหวัดน่ะ ฉัน..."แต่เธอยังพูดไม่ทันจบ โทรศัพท์ของเธอก็ถูกใครบางคนแย่งไป สายถูกตัดไปดื้อ ๆ ก่อนที่ผู้ชายคนนั้นจะหย่อนโทรศัพท์ลงในกระเป๋าของตัวเอง"ลู่สือเยี่ยน ทำบ้าอะไรน่ะ?"หลินเซียงจ้องเขาด้วยความโกรธลู่ส
[คุณหยุดพักผ่อนได้หนึ่งวัน พรุ่งนี้ค่อยกลับมาทำงาน]เหอะ!หลินเซียงหัวเราะเยาะในใจ ดวงตาไร้อารมณ์เมื่อคืน เธอต้องใช้ความกล้าอย่างมากในการพูดคำเหล่านั้น เพราะต้องการได้รับคำตอบจากเขา หรือไม่ก็คำอธิบายจากเขาแม้ว่าจะเป็นคำพูดที่ฟังแล้วรู้สึกแย่ก็ตามแต่ดูเหมือนว่าเขาไม่ได้สนใจคำพูดของเธอเลย เมื่อไหร่กันที่เขากลายเป็นคนไม่ใส่ใจเธออย่างนี้นั่นทำให้เธอรู้สึกว่าการถามคำถามเมื่อคืนเป็นเรื่องโง่เง่ามากทำให้ตัวเองอับอายซะเปล่าหลินเซียงข่มอารมณ์ของตัวเองไว้ จัดการทำเรื่องขอออกจากโรงพยาบาล จากนั้นก็กลับบ้าน เมื่อเห็นแฟ้มเอกสารบนตู้ เปิดออกดูก็พบว่าข้างในมีทั้งโฉนดบ้าน เช็ก และกุญแจเฟิงหลินหย่วนคอนโดกลางทำเลทองของเมืองอวิ๋น ตกแต่งพร้อมเข้าอยู่ สิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน มีทั้งหมด 25 ชั้น พื้นที่ใช้สอย 500 ตารางเมตรโอ้โฮ ทำไมถึงได้ใหญ่ขนาดนี้คิดว่าทำแบบนี้แล้วเธอจะรู้สึกซาบซึ้งใจเหรอ?ในดวงตาของหลินเซียงไร้อารมณ์ เธอหยิบเช็กออกมา จำนวนเงินสามสิบล้านปรากฏอยู่บนนั้นชัดเจน และด้านล่างก็เป็นลายเซ็นตวัดของลู่สือเยี่ยนหลินเซียงกำเช็คไว้ในมือเป็นเวลานานโดยไม่ตัวเธอเติบโตมาในสถานเลี
เขาให้สิ่งที่เธอต้องการไปแล้ว ตามหลักเธอควรจะมีความสุขจนยิ้มไม่หุบสิแต่เมื่อดูสีหน้าของเธอเมื่อครู่ คำว่าความสุขไม่ฉายอยู่บนใบหน้าเธอเลยสักนิดเพราะอะไร?ยิ่งลู่สือเยี่ยนคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้มากเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งหงุดหงิดมากขึ้นเท่านั้น ทันใดนั้นโทรศัพท์มือถือของเขาก็ดังขึ้น เขาหยิบมันออกมาดูจึงเห็นว่าเป็นสายเรียกเข้าจากซ่งจั่ว "คุณลู่ครับ ประธานหานมาถึงแล้ว"“อืม ผมจะรีบกลับ”ลู่สือเยี่ยนตอบกลับอย่างเย็นชาและกดวางสายเขามองไปทางบ้านของหลินเซียงอยู่นาน ก่อนจะขับรถออกไป…ตอนเย็นเมื่อซ่งซ่งมาถึง หลินเซียงก็ทำกับข้าวเสร็จไปสี่จานแล้ว แต่ยังเหลืออีกสองจาน และซุปอีกหนึ่งที่ยังไม่เสร็จ“เซียงเซียงคนสวย เล่นใหญ่เกินไปหรือเปล่าเนี่ย!”ซ่งซ่งกอดเธอด้วยความตื่นเต้น แถมยังเบียดกระแซะร่างกายด้วยความออดอ้อนหลินเซียง "ไม่เห็นเป็นไรเลย เอาล่ะ เธอออกไปรอข้างนอกเถอะ อีกไม่นานก็เสร็จแล้ว"ซ่งซ่ง "ได้ ฉันซื้อเหล้าติดมาด้วยนะ"หลินเซียงพูดอย่างนึกเสียดาย "ฉันดื่มไม่ได้น่ะสิ เพิ่งกินยาแก้หวัดเข้าไป"ซ่งซ่งประหลาดใจ “ทำไมอยู่ดี ๆ ถึงเป็นหวัดได้ล่ะ? แต่ฉันว่าเธอก็ดูปกติดีนะ”หลินเซียง "เดี
“เข้ามาส่งยาให้ฉันหน่อย ฉันอาการไม่ค่อยดี”หลังจากพูดอย่างนั้น สายก็ถูกกดวางไปดื้อ ๆหลินเซียงมองดูโทรศัพท์ที่เพิ่งวางสายไปด้วยสีหน้าสับสนพร้อมกับขมวดคิ้วเขาโทรผิดจริงเหรอ?ไม่ได้ยินสิ่งที่เธอพูดจริงดิ?หลินเซียงเม้มริมฝีปากและกดโทรไปที่หมายเลขโทรศัพท์ของซ่งจั่ว“สวัสดีครับคุณหนูหลิน”ไม่นานอีกฝ่ายก็กดรับ เสียงดังขึ้นจากปลายอีกด้านหลินเซียงพูดว่า "เมื่อกี้คุณลู่โทรผิดมาที่เบอร์ฉัน เขาขอให้คุณช่วยไปส่งยาให้เขาหน่อย รบกวนไปที่นั่นตอนนี้เลยได้ไหมคะ?"“เกรงว่าจะไม่ได้ครับ” ซ่งจั่วตอบตามตรง “ผมกำลังเดินทางไปคุยธุรกิจ ตอนนี้อยู่ที่สนามบินแล้ว คุณหลิน ช่วยไปส่งของแทนผมหน่อยได้ไหมครับ เดี๋ยวผมจะบอกคุณทีละรายการ ยาพวกนั้นหาซื้อได้ตามร้านขายยาทั่วไป"หลินเซียงขมวดคิ้ว “คุณกำลังจะขึ้นเครื่องเหรอ?”“ใช่ครับ"ซ่งจั่วตอบ เสียงประกาศไฟล์ทบินจากสนามบินยังคงเล็ดลอดเข้ามาทางโทรศัพท์อย่างคลุมเครือ“คุณหลิน ผมจะส่งรายการยาไปให้คุณนะครับ คุณลู่ป่วยไข้ทีไรอาการของเขาจะค่อนข้างแย่และทรมานมาก ฝากนำยาไปส่งแทนผมด้วย ขอบคุณมากครับ”หลังจากเขาพูดจบก็วางสายไปดื้อ ๆ อีกคน"ไงนะคะ?"หลินเซียงสะดุ้ง
หลินเซียงตะลึง!เขาเป็นบ้าอะไรอีกเนี่ย?ป่วยจนไม่มีสติเลยหรือไง?หลินเซียงต่อสู้ดิ้นรนอย่างรุนแรง แต่ในเวลานี้ความแตกต่างด้านสรีระความแข็งแกร่งระหว่างชายและหญิงห่างชั้นเกินไป เธอพยายามดิ้นรนสองสามครั้ง ก็ยิ่งเป็นการกระตุ้นความดุร้ายของเขาโดยตรง เขาคว้าข้อมือทั้งสองของเธอรวบไว้ด้วยมือเดียว แล้วกดไว้เหนือศีรษะลมหายใจร้อนผ่าวระเรื่อยมาตามมุมปากของเธอ ความหนาวเย็นกระทบหน้าอกจนสั่นเทา ตามด้วยไอร้อนและความเปียกชื้นดวงตาหลินเซียงเบิกกว้าง "ลู่สือเยี่ยน คุณเป็นอะไรไป?"เขาไม่ได้ป่วยหรอกเหรอ?แต่เมื่อเธอเห็นท่าทางที่เต็มไปด้วยพละกำลังของเขา ดูเหมือนเขาไม่ได้ป่วยเลยสักนิดหรือเขานึกว่าเธอเป็นผู้หญิงคนอื่น?เซี่ยหว่าน?เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ หัวใจของหลินเซียงก็เจ็บปวดเล็กน้อย ทันใดนั้นเธอก็งอเข่าใช้เท้าถีบไปข้างหน้า!การเคลื่อนไหวทั้งหมดของลู่สือเยี่ยนหยุดชะงัก ร่างอันหนักอึ้งของเขาล้มลงนอนทับเธอโดยตรง"ออกไปเลย!"หลินเซียงบิดตัวอย่างไม่สบายใจลู่สือเยี่ยนขบเม้มกระดูกไหปลาร้าของเธอด้วยความโกรธ "หลินเซียง คุณอยากเป็นม่ายนักเหรอ?"ก็รู้นี่ว่าเธอเป็นใคร?ในเมื่อเป็นอย่างนั้น…“เข้าใจ
ซ่งซ่งนอนไม่หลับ พลิกตัวไปมาอยู่บนเตียง ทั้งตื่นเต้นและกังวลใจ เมื่อคิดว่าตัวเองกำลังจะออกจากเมืองอวิ๋น ออกไปจากฟู่จิ่นซิ่ว คนที่น่ารังเกียจนั่น เธอก็รู้สึกตื่นเต้นแทบแย่แทบนับเวลาถอยหลัง“ปัง ปัง ปัง!”แต่ในขณะนั้นเอง เสียงเคาะประตูดังสนั่นก็ดังขึ้นซ่งซ่งตกใจ รีบลุกขึ้นมองออกไปข้างนอก เด็กผู้หญิงก็ตกใจตื่นเช่นกัน “ใครน่ะ?”ในใจของซ่งซ่งมีความรู้สึกไม่ดีแวบเข้ามา หรือว่าเขาจะตามทันแล้ว?เร็วขนาดนี้เลยเหรอ?เธอลุกจากเตียงพูดว่า “ฉันไปดูเอง พวกเธออย่าออกมาล่ะ”เด็กผู้หญิงกังวลใจ “ซ่งซ่ง จะไม่เป็นไรใช่ไหม?”ซ่งซ่งพยักหน้า “ไม่ต้องห่วง ไม่มีอะไรหรอก”เธอสวมเสื้อผ้าออกจากบ้าน “ใคร?”เธอถามอย่างระมัดระวัง“ซ่งซ่ง ฉันเอง รีบออกมาเร็ว!”เสียงของหลินเซียงดังขึ้นที่หน้าประตูซ่งซ่งชะงัก รีบไปเปิดประตู “ที่รัก กลับมาทำไม?”เธอไม่ได้กลับบ้านไปแล้วเหรอ?พอคำนวณเวลาแล้ว ตอนนี้ควรจะถึงเฟิงหลินหย่วนแล้วสิหลินเซียงจับข้อมือเธอ สีหน้ากระวนกระวาย “ฉันเห็นรถของฟู่จิ่นซิ่ว เขาหาเธอเจอแล้ว ไปกันเร็ว!”เมื่อได้ยินดังนั้น ซ่งซ่งก็ตกตะลึง “หาฉันเจอแล้ว? หาฉันเจอได้ยังไง?”การเคลื่อนไหวขอ
หลินเซียงใส่ขนมปังกรอบลงในถุง จัดเตรียมให้เรียบร้อย พลางพูดว่า “เวลาจำกัด ฉันเลยทำแค่อาหารที่เก็บรักษาง่ายและรสชาติใช้ได้ ให้เธอมีอะไรรองท้องระหว่างทาง”เมื่อได้ยินแบบนั้น ซ่งซ่งก็กะพริบตา แล้ววิ่งเข้ามากอดเธอ “ที่รัก ทำไมน่ารักแบบนี้นะ หรือพวกเราหนีไปด้วยกันเลยดีไหม!”หลินเซียงยิ้ม “พอแล้ว ไปล้างหน้าเร็ว ฉันจะไปส่งเธอที่ชานเมือง”รถบัสรอบแรกมาถึงพรุ่งนี้เช้า ซ่งซ่งต้องไปรอตั้งแต่คืนนี้แต่ซ่งซ่งส่ายหน้า “ไม่ต้อง ฉันติดต่อคนไว้แล้ว เธอพักผ่อนที่บ้านเถอะ ฉันไม่เป็นไร”หลินเซียงพูดว่า “ไม่ได้ ถ้าฉันไม่ไปส่งเธอด้วยตัวเอง ฉันไม่สบายใจ”ซ่งซ่งมองสีหน้าจริงจังของเธอ รู้ว่าเธอตัดสินใจแล้ว จึงกอดเธออีกครั้ง “ฮือ ฮือ ไม่อยากจากเธอเลย”หลินเซียงพาเธอไปที่ห้องน้ำ ดูแลเธอขณะล้างหน้าล้างตา ตรวจสอบสิ่งของที่จำเป็นอาหาร เครื่องดื่ม และของใช้ส่วนตัวง่าย ๆ ล้วนเป็นแบบใช้แล้วทิ้งอืม เกือบครบแล้วหลังจากจัดของเสร็จ ทั้งสองคนก็อยู่ด้วยกันอีกพักหนึ่ง ก่อนจะออกเดินทางตอนตีสองเมืองอวิ๋นในยามดึกเงียบสงบ ถนนแทบไม่มีรถสัญจร ผู้คนยิ่งไม่มีหลินเซียงขับรถไปทางชานเมือง ส่วนซ่งซ่งก็พูดถึงความหวังในอน
หลินเซียง “…”แม้ว่าครั้งที่แล้วจะสังเกตเห็นความผิดปกติของคนทั้งสอง แต่เมื่อได้ยินสิ่งที่ซ่งซ่งพูดออกมาในตอนนี้ เธอก็พูดอะไรไม่ออกการที่เรื่องราวพัฒนามาถึงจุดนี้ จริง ๆ แล้วมีร่องรอยให้เห็นฟู่จิ่นซิ่วให้ความสนใจกับซ่งซ่งมากเกินไป และซ่งซ่งก็ไม่ได้ระวังตัวเพียงแต่…ตอนนี้เพิ่งจะคิดได้ จะสายเกินไปหรือเปล่า?หลินเซียงพูดความกังวลของตัวเองออกมาซ่งซ่งเข้ามาใกล้ และกระซิบว่า “ที่รัก ฉันวางแผนไว้แล้ว ฉันจะไม่นั่งเครื่องบินหรือรถไฟ แต่จะนั่งรถบัสไป เป็นรถบัสแบบที่วิ่งตามท้องถนนในชนบท ตราบใดที่ฉันออกจากเมืองอวิ๋นไปได้อย่างปลอดภัย ถึงเขาจะอยากหาฉันก็หาไม่เจอ”หลินเซียงขมวดคิ้ว “แต่แบบนั้นไม่ปลอดภัยนะ”ซ่งซ่ง “ตอนนี้ฉันยังต้องสนใจเรื่องความปลอดภัยอยู่อีกเหรอ? ถ้ายังอยู่ในเมืองอวิ๋น ฉันก็ไม่ปลอดภัยอยู่ดี ฉันเลยต้องคิดแล้วตัดสินใจไปแบบกะทันหัน เขาคงเดาไม่ได้ว่าฉันจะไปเมื่อไหร่”หลินเซียงยังคงรู้สึกไม่ดี เปลี่ยนมาถามว่า “แล้วงานของเธอล่ะ?”ซ่งซ่งพูดว่า “ฉันขอลาออกแล้ว และวันนี้ก็เริ่มส่งใบสมัครงาน สร้างภาพลวงตาว่าฉันแค่อยากเปลี่ยนงานเฉยๆ”เธอวางแผนทุกอย่างไว้แล้ว หลินเซียงไม่รู้จะพูดอะ
บรรยากาศในลิฟต์ค่อนข้างแปลกประหลาดมีความเย็นชาปะปนกับความผ่อนคลาย บรรยากาศที่กดดันแผ่ซ่านไปทั่ว แต่เมื่อปะทะกับฉินโหย่วหานและหลินเซียง มันก็หายไปความรู้สึกแปลกประหลาดที่อธิบายไม่ได้ ทำให้รู้สึกอึดอัดลิฟต์เคลื่อนขึ้นไปอย่างราบรื่น ไม่นานประตูลิฟต์ก็เปิดออก ลู่สือเยี่ยนก้าวออกไปด้วยสีหน้าเย็นชาเป็นอย่างมากฉินโหย่วหานมองตามแผ่นหลังของเขา เลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยด้วยความประหลาดใจ เขาไม่ทำอะไรเลย นี่ไม่เหมือนนิสัยปกติของเขาหรือว่าเขาจะยอมปล่อยหลินเซียงแล้วจริง ๆ?ประตูลิฟต์ปิดลง สายตาของฉินโหย่วหานจับจ้องไปที่ใบหน้าของหลินเซียง แต่เห็นเธอมองประตูลิฟต์อย่างเหม่อลอยไม่ใช่สิ่งที่เธอมองน่าจะเป็นลู่สือเยี่ยนเพียงแต่ตอนนี้ประตูลิฟต์ปิดลง บดบังสายตาของเธอไว้ในดวงตาของฉินโหย่วหานมีความเย็นชาเพิ่มขึ้น เขาถามว่า “คิดอะไรอยู่?”ขนตาของหลินเซียงสั่นเล็กน้อย “ฉันแค่คิดว่า ในเรื่องนี้ เขากำลังรับบทบาทเป็นอะไร”ฉินโหย่วหานกล่าวว่า “ไม่ว่าเขาจะแสดงบทบาทไหน ก็ไม่เกี่ยวกับพวกเราแล้ว”หลินเซียงเหม่อลอยไปครู่หนึ่งแล้วพยักหน้า “คุณพูดถูก”เธอและลู่สือเยี่ยนหย่ากันแล้วดังนั้นจึงไม่มีความเกี่
ฉินโหย่วหานครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดว่า “บอกเรื่องที่คุณรู้ทั้งหมดให้ผมฟังหน่อย”หลินเซียงพยักหน้า เล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เขาฟังอย่างละเอียดครู่หนึ่ง ฉินโหย่วหานก็หัวเราะเบา ๆหลินเซียงมองเขา “เป็นอะไรไป?”ฉินโหย่วหานพูดว่า “หลินเซียง ผมขอเดาแบบบ้า ๆ เลยนะ”“พูดมาก่อนค่ะ” หลินเซียงมองเขาอย่างจริงจัง ในดวงตาเต็มไปด้วยความสงสัยฉินโหย่วหานจอดรถข้างทาง เอามือวางบนพวงมาลัย บนใบหน้าหล่อเหลาและอ่อนโยนปรากฏรอยยิ้มขบขัน “คุณว่ามีความเป็นไปได้ไหม ที่มีคนปลอมตัวเป็นจ้าวข่ายไปทำเรื่องพวกนั้น แล้วโยนความผิดให้เขา?”เมื่อได้ยินดังนั้น ดวงตาของหลินเซียงก็เบิกกว้างขึ้นเรื่อย ๆ มือของเธอกำขนมปังกรอบแน่นความเป็นไปได้นี้ เธอไม่เคยคิดถึงมาก่อน!เมื่อคิดดูให้ดี ไม่ว่าจะเป็นวิดีโอหรือรูปถ่ายที่ลู่สือเยี่ยนให้เธอดู ‘จ้าวข่าย’ คนนั้นสวมหมวกและหน้ากากตลอดเวลา มองจากรูปร่างก็คิดว่าเป็นจ้าวข่ายได้ไม่ยากแต่ถ้าไม่ใช่ล่ะ?ถ้าเป็นแค่คนที่มีรูปร่างคล้ายกับจ้าวข่ายมาก ๆ ล่ะ?เมื่อนึกถึงห้องใต้ดินที่มืดมิด จ้าวข่ายที่ล้มลุกคลุกคลานอยู่บนพื้น พยายามอธิบายด้วยความเจ็บปวดเขาพูดมาตลอดว่าเขาไม่ได้ขโมย เ
“ตกใจมากใช่ไหม?” ซ่งจั่วมองสีหน้าตกตะลึงของเขาแล้วยิ้มขมขื่น“แหงล่ะ พวกเราทุกคนคิดว่าเซี่ยหว่านเป็นคนช่วยท่านประธานลู่จริง ๆ ถือว่าเธอเป็นผู้มีบุญคุณอย่างมาก แต่ต่อมาพวกเราก็รู้ความจริง เพื่อให้บรรลุเป้าหมายของตัวเอง เธอทำได้ทุกวิถีทาง”ซ่งจั่วเก็บแท็บเล็ต “ซือเยี่ยน สิ่งที่นายยึดมั่นมานานผิดทั้งหมด”“ทำไมเป็นแบบนี้?” ซือเยี่ยนพึมพำกับตัวเอง “ทำไมเป็นแบบนี้ไปได้?”ลู่สือเยี่ยนมองเขาอย่างเย็นชา “อยู่กับฉันมานานขนาดนี้ หัวคิดไม่มีความก้าวหน้าเลยสักนิด”ซือเยี่ยนตัวสั่น มองลู่สือเยี่ยนด้วยสายตาอ้อนวอน “ท่านประธานลู่ครับ ผมรู้ตัวแล้วว่าผิด ผมสำนึกผิดจริง ๆ ได้โปรดให้โอกาสผมอีกครั้ง…”เสียงของเขาเริ่มสั่นเครือ ตัวสั่นสะท้านอย่างรุนแรงเพราะเขารู้ว่าลู่สือเยี่ยนจะไม่ให้โอกาสเขาอีกลู่สือเยี่ยนมองเขาอย่างเย็นชา แล้วพูดกับซ่งจั่วว่า “ตัดเอ็นข้อมือข้อเท้าเขาซะ แล้วเอาไปทิ้งที่สามเหลี่ยมปากแม่น้ำ”“ครับ”ซ่งจั่วรู้สึกสงสาร แต่นี่เป็นคำสั่งของลู่สือเยี่ยนลู่สือเยี่ยนหันหลังเดินจากไปซือเยี่ยนมองตามลู่สือเยี่ยนที่จากไปด้วยสีหน้าสิ้นหวัง ในดวงตาเต็มไปด้วยความเสียใจ!…หลินเซียงออกมา
สวีซินหรานหยิบโทรศัพท์ออกมากดโทรออก ในระหว่างนั้น สายตาของเธอมองไปยังหลินเซียงที่อยู่ไม่ไกลนัก ในดวงตาปรากฏความเคียดแค้น“ฮัลโหล คุณเซี่ย ช่วยฉันหน่อยได้ไหม? ฉันอยากฆ่าหลินเซียง นังสารเลวนั่น!”…ซืออวี่สังเกตเห็นความผิดปกติของหลินเซียงเธอเย็นชามาก ไม่สนใจอะไรเลย แต่ก็ยังคงทำงานที่ได้รับมอบหมายได้เป็นอย่างดีซืออวี่บอกข่าวนี้กับลู่สือเยี่ยนในขณะนั้น ลู่สือเยี่ยนกำลังดูสิ่งที่ซ่งจั่วได้มาจากการสืบสวน คิ้วขมวดแน่นฉินโหย่วหานจับเซี่ยหว่านขังไว้ในตู้คอนเทนเนอร์ ถือเป็นการแก้แค้นแทนหลินเซียง แต่สิ่งนี้เกี่ยวข้องอะไรกับการเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์ของเธอกัน?ลู่สือเยี่ยนพูดเสียงต่ำ “จับตาดูซือเยี่ยนไว้ เขาดูไม่ปกติ”ซ่งจั่วชะงัก “คงไม่ใช่มั้งครับ เขาคอยปกป้องคุณหลินมาตลอดไม่ใช่เหรอ?”ลู่สือเยี่ยนพูดอย่างเย็นชา “บอกให้ไปก็ไป ทำไมต้องพูดมาก?”ซ่งจั่ว “ครับ”การตรวจสอบพฤติกรรมของซือเยี่ยนเป็นเรื่องง่ายสำหรับเขา แต่เมื่อเขาเห็นสิ่งที่ได้จากการตรวจสอบ เขาก็ตกใจมากช่วงเย็น ซ่งจั่วก็นำหลักฐานที่ได้มาส่งให้ลู่สือเยี่ยนเขามองลู่สือเยี่ยนอย่างหวาดหวั่น มือที่กำแน่นมีเหงื่อออกลู่สือเยี่ย
เขามองซ่งจั่วอย่างเย็นชา “เธอเป็นอะไรไป?”ซ่งจั่วทำหน้างง “ผม ผมไม่รู้ครับ”ตอนเจอหลินเซียงที่โรงพยาบาลก่อนหน้านี้ เธอยังไม่เป็นแบบนี้ แต่หลินเซียงตอนนี้ เรียกได้ว่าเย็นชาและไม่เป็นมิตรอย่างมากช่วงนี้เกิดอะไรขึ้นกับเธอ?ลู่สือเยี่ยนพูดเสียงเย็น “ไปสืบมาให้ชัดเจน”“ครับ” ซ่งจั่วพยักหน้าลู่สือเยี่ยนไม่ออกไป แต่ไปที่ชั้นใต้ดิน ราวกับนึกอะไรขึ้นมาได้จึงพูดว่า “เรียกซือเยี่ยนมาพบฉัน”“ครับ”ดีเค กรุ๊ปทันทีที่ลู่สือเยี่ยนเข้าไปในห้องส่วนตัวของประธาน ซือเยี่ยนก็เคาะประตูห้อง“เข้ามา”ซือเยี่ยนเปิดประตูเข้าไป สีหน้าค่อนข้างเกร็ง “ท่านประธานลู่”ลู่สือเยี่ยนนั่งลงบนเก้าอี้ ถามด้วยเสียงเย็นชา “นายติดตามหลินเซียงมาตลอด เห็นความผิดปกติของเธอบ้างไหม?”ดวงตาของซือเยี่ยนกะพริบเล็กน้อย เมื่อคืนเขาไม่ได้ติดตามหลินเซียงตลอดเวลา แต่เรื่องก่อนหน้านี้ก็ยังพอจะตอบคำถามได้“ฉินโหย่วหานไปรับคุณหลิน แล้วทั้งสองคนไปที่ชายหาด ที่เดียวกับที่ที่คุณหลินถูกจับตัวไปครั้งก่อน” ซือเยี่ยนเริ่มเล่าเมื่อได้ยินดังนั้น ลู่สือเยี่ยนก็หรี่ตาลงเล็กน้อย “พวกเขาไปที่นั่นทำไม?”ซือเยี่ยน “ผม ผมไม่ทราบครับ ผมอย
สีหน้าของหลินเซียงชะงักไปเล็กน้อย นิ้วที่กำโทรศัพท์แน่นขึ้น เสียงพูดแห้งผาก “ฉันเหมือนจะไม่เคยพูดว่าเขารักฉันนี่คะ”เซี่ยซือซือถอนหายใจ “หลินเซียง พวกเราแพ้แล้ว”หลินเซียงหลับตาลง “ขอโทษนะคะ คุณเซี่ย แผนการฉันดันไปดึงคุณลงมาซวยด้วย ถ้ามันสร้างความเสียหายอะไรให้คุณ คุณบอกฉันได้เลย”เซี่ยซือซือหัวเราะขมขื่น “ไม่ ไม่มีอะไรเสียหาย ฉันเต็มใจร่วมมือกับคุณเอง ไม่ว่าผลที่ตามมาจะเป็นยังไง ฉันก็ต้องรับผิดชอบ”หลินเซียงพูดอะไรไม่ออก เพราะพวกเขาไม่เคยคิดว่าเรื่องราวจะดำเนินไปในทิศทางนี้ไม่เคยคิดเลยว่าลู่สือเยี่ยนจะยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือเซี่ยหว่านทำไมกัน?คำถามนี้ เธอคิดไม่ตกมาตลอดทำไมเขาต้องช่วยเซี่ยหว่าน?ในใจของหลินเซียง ตอนนี้มีความรู้สึกอยากจะไปหาลู่สือเยี่ยน ถามเขาว่านี่มันหมายความว่ายังไงกันแน่เสียงของเซี่ยซือซือดังขึ้น “หลินเซียง ฉันขอจัดการเรื่องของตัวเองก่อน มีความคืบหน้าอะไร เราค่อยติดต่อกันใหม่”“ค่ะ”หลังจากวางสายหลินเซียงยังคงอยู่ในสภาพเหม่อลอยไม่รู้ทำไม เสียงของเซี่ยซือซือถึงดังก้องอยู่ในหูเธอซ้ำแล้วซ้ำเล่าลู่สือเยี่ยนรักเธอจริงเหรอ?เคยรักจริง ๆ บ้างหรือเปล่า?