หลินเซียงออกไปซื้อของที่ตลาดแล้วรีบกลับมาบ้านทันที เธอกำลังรอข้อความตอบกลับจากลู่สือเยี่ยน แต่เมื่อส่งข้อความไปแล้ว กลับเงียบหายไปเหมือนหินจมลงสู่ทะเล ลู่สือเยี่ยนไม่ได้ตอบกลับเธอเลยเป็นอะไรอีกล่ะ?ตอนเช้าเขายังปกติดี ทำไมตอนนี้ถึงทำเหมือนเป็นคนละคนไปได้?เกิดปัญหาอะไรขึ้นกันแน่?หลินเซียงคิดไม่ออกตอนนี้บ่ายคล้อยแล้วเมื่อเห็นดวงอาทิตย์ค่อย ๆ ตกดิน ใจของเธอก็จมลงไปด้วยเธอไม่รู้ว่าตระกูลลู่คิดอะไร จับจ้าวข่ายไปทรมาน แถมยังขู่ว่าจะจับเขาติดคุก แต่กลับส่งรูปแบบนั้นให้ลุงจ้าวเป็นฝีมืออวิ๋นหลานหรือลู่เจิ้งหรง?พวกเขาต้องการทำอะไรกันแน่?ทำไมต้องเล่นงานคนขับรถคนธรรมดาคนนี้ด้วย?ขณะที่เธอกำลังครุ่นคิด เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นอีกครั้ง เธอรีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา คิดว่าเป็นลู่สือเยี่ยน แต่กลับกลายเป็นลุงจ้าว“ฮัลโหล ลุง เกิดอะไรขึ้นคะ?”หลินเซียงรับสายแล้วรีบถามเสียงของลุงจ้าวดังขึ้นอย่างร้อนรน “เซียงเซียง คนจากบ้านนั้นมาหาลุง บอกให้ลุงออกจากเมืองอวิ๋นเฉิง แถมยังให้เงินลุงด้วย ไม่ให้ลุงไปยุ่งกับจ้าวข่ายอีก ได้ยังไงกัน? จ้าวข่ายเป็นลูกชายคนเดียวของลุงนะ พอลุงไม่รับเงินพวกเขา พว
เธอไม่ยอมแพ้ กดกริ่งต่อไป แต่ก็ยังไม่มีใครออกมาเปิดประตู ท้องฟ้าเริ่มมืดลงเรื่อย ๆ บรรยากาศยามฤดูใบไม้ร่วงเต็มไปด้วยความเย็น ลมที่พัดมาก็พาเอาความหนาวเย็นมาแตะผิว หลินเซียงลดมือลงและถอนหายใจอย่างจนใจ ก่อนจะหันหลังกลับและเดินจากไปเธอไปที่โรงแรมทันที แต่พอเข้าไปก็เห็นผู้จัดการโรงแรมกำลังไล่ลุงจ้าว“คุณครับ ที่นี่กำลังจะปิดปรับปรุง รบกวนออกไปด้วยครับ”ลุงจ้าวพูดว่า “ตอนที่ผมมายังปกติดีอยู่เลย ทำไมไม่นานก็จะปิดปรับปรุงแล้วล่ะ?”ผู้จัดการพูดว่า “คุณครับ อย่าทำให้เราลำบากเลยครับ”หลินเซียงเดินเข้าไป พูดว่า “ที่นี่ปิดปรับปรุงจริง ๆ หรือว่ามีคนสั่งให้พวกคุณทำ? ถ้าไม่ยอมบอก ฉันจะทำให้พวกคุณต้องปิดปรับปรุงจริง ๆ!”ผู้จัดการเห็นเธอแล้วก็ตกใจเล็กน้อย พูดว่า “ขอโทษครับ เรื่องนี้ผมไม่มีสิทธิ์บอก ขอโทษจริง ๆ ครับ ค่าห้องที่คุณจ่าย เราจะคืนให้เต็มจำนวน”สีหน้าของหลินเซียงดูไม่ดีนัก เธอหันไปมองลุงจ้าว “ลุงคะ เราไปกันเถอะ”พนักงานโรงแรมเหล่านี้ก็ทำตามคำสั่งจากเบื้องบนเหมือนกันลุงจ้าวยกกระเป๋า เดินตามหลังหลินเซียง ถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่“ตอนนี้จะทำยังไงดี? ตระกูลนี้ชัดเจนแล้วว่าไม่ปล่อย
หลินเซียงพยักหน้าซือเยี่ยนหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดโทรออก ไม่นานก็หันไปมองเธอ และพูดว่า “ผมจะพาคุณไปครับ”หลินเซียงยิ้มบาง ๆ “อืม”บาร์ [เจวี๋ยเซ่อ]หลินเซียงลงจากรถ หันไปถามซือเยี่ยน “ลู่สือเยี่ยนอยู่ที่นี่เหรอ?”ซือเยี่ยนพยักหน้า “ใช่ครับ”ดวงตาของหลินเซียงแน่วแน่ แล้วเดินตรงเข้าไปข้างในบาร์แห่งนี้มีขนาดใหญ่ แบ่งออกเป็นสามชั้นชั้นหนึ่งเป็นล็อบบี้ มีเวที มีโซฟา ชั้นหนึ่งคึกคักมากที่สุดชั้นสองและชั้นสามมีความเป็นส่วนตัวมากกว่า มักจะเป็นที่สังสรรค์ของคนรวยทั้งหลายหลินเซียงเดินไปที่เคาน์เตอร์ และถามว่า “ลู่สือเยี่ยนอยู่ชั้นไหนคะ?”พนักงานข้างหลังตกใจ ก่อนจะส่ายหัว “ฉันไม่รู้จักคนที่คุณพูดถึงค่ะ”ได้ยินดังนั้น คิ้วของหลินเซียงขมวดเข้าหากันคนคนนี้ไม่รู้จักลู่สือเยี่ยนจริงเหรอ?งั้นเธอต้องขึ้นไปชั้นบน ค้นหาทีละห้องสินะ?ดูเหมือนจะต้องทำอย่างนั้นหลินเซียงเดินไปที่ชั้นสอง แต่ตรงทางขึ้นบันได กลับถูกพนักงานรักษาความปลอดภัยสองคนรูปร่างกำยำขวางไว้“ไม่มีการนัดหมาย ห้ามขึ้นครับ!”หลินเซียง “…”เธอหันไปมองซือเยี่ยน ก่อนจะเอนหัวเล็กน้อยซือเยี่ยนเดินเข้ามาด้วยสีหน้าเรียบเฉย จัด
มือของหลินเซียงเย็นเยียบจนเหงื่อออก!เขาจะหย่าจริง ๆ เหรอ!แต่เมื่อเห็นท่าทีที่ดูไม่ใส่ใจของเขา หลินเซียงก็ไม่กล้าเชื่อว่าเป็นเรื่องจริง“ลู่สือเยี่ยน คุณจริงจังหรือเปล่า?”หลินเซียงถามหยั่งเชิงเพราะก่อนหน้านี้ เรื่องนี้ทำให้ทั้งสองทะเลาะกันบ่อยมากเขาพูดออกมาแบบนี้ เธอจึงไม่กล้าเชื่อง่าย ๆริมฝีปากบางของลู่สือเยี่ยนยังคงดูเย็นชา “แน่นอนว่าจริง”เขาสูบบุหรี่ครั้งหนึ่ง ควันบุหรี่บดบังสีหน้าหล่อเหลาของเขา “แต่ในเวลาเดียวกัน ถ้าไม่ คุณผู้หญิงลู่ คุณก็ไม่มีสิทธิ์มาปรากฏตัวต่อหน้าผม”หัวใจของหลินเซียงจมลงอย่างแรง!วันนี้เธอมาหาลู่สือเยี่ยน เพราะมีเรื่องอยากจะขอความช่วยเหลือถ้าเธอยอมหย่า เธอก็จะไม่ได้เจอเขาอีก!ไม่ต้องพูดถึงเรื่องขอความช่วยเหลือเลย!ลู่สือเยี่ยนมองเธออย่างขบขัน “ยังไงล่ะ? คิดดีแล้วหรือยัง?”นิ้วมือของหลินเซียงกำแน่น ก้มหน้าลงอยู่นานก่อนจะพูดว่า “ลู่สือเยี่ยน คุณจงใจใช่ไหม?”ลู่สือเยี่ยนเลิกคิ้ว “ผมไม่เข้าใจว่าคุณหมายความว่ายังไง ผมตกลงหย่ากับคุณแล้วแท้ ๆ ยังอยากได้อะไรอีก?”หัวใจของหลินเซียงจมดิ่งลงไปอีกลู่สือเยี่ยนจับคางเธอ บังคับให้เธอมองหน้าเขา “หรือว่
ในมุมมืดของห้อง บรรยากาศเต็มไปด้วยความเย้ายวนริมฝีปากของทั้งสองคนมีรสของเหล้าเจือปนลู่สือเยี่ยนลุกขึ้นยืน ดึงหลินเซียงออกจากห้องส่วนตัวทันทีพอออกไปแล้ว ก็เห็นซือเยี่ยนยืนอยู่ตรงนั้น เหมือนกับเทพเจ้าเฝ้าประตู จ้องมองเขาอยู่ลู่สือเยี่ยนเหลือบมองเขาอย่างเย็นชา ไม่สนใจด้วยซ้ำ ดึงหลินเซียงออกจากบาร์เจวี๋ยเซ่อไปทันทีพอขึ้นรถ ทุกอย่างก็เริ่มควบคุมไม่ได้ลู่สือเยี่ยนประคองใบหน้าเธอ บดจูบเธอด้วยความเร่งรีบและรุนแรง ทันทีที่กดปุ่ม แผงกั้นตรงกลางก็เลื่อนลงมา บังสายตาจากด้านหน้าพื้นที่ด้านหลังแคบลงทันทีหลินเซียงถูกจูบจนรับมือไม่ไหวเธอผลักเขาออกไปโดยไม่รู้ตัวลู่สือเยี่ยนก็ไม่ได้ต่อสู้กับการผลักของเธอ ดวงตาคมดุจเหยี่ยวของเขามองเธออย่างเย็นชา พลางเอนหลังพิงเบาะแล้ว พูดว่า “ลืมไป ต้องให้คุณเป็นฝ่ายรุกสิ”หลินเซียงหายใจไม่ทั่วท้องเธอจะรุกยังไง?เรื่องแบบนี้ ปกติเขาเป็นคนควบคุมเสมอไม่ว่าจะเป็นอดีตหรือปัจจุบัน เขาเป็นฝ่ายที่แข็งแกร่งกว่า ไม่มีโอกาสที่เธอจะตอบโต้ลู่สือเยี่ยนหยิบบุหรี่ออกมาอีกมวน ก่อนจะจุดไฟ พื้นที่ด้านหลังจึงคละคลุ้งไปด้วยกลิ่นบุหรี่หลินเซียงทนกลิ่นนี้ไม่ได้ จึ
แต่ใครจะรู้ว่า ทันทีที่คำพูดของหลินเซียงหลุดออกมา ลู่สือเยี่ยนก็จับคอเธอแน่นแล้วกดเธอลงที่เบาะรถ ดวงตาคมดุจเหยี่ยวจ้องมองเธออย่างเย็นชา “เรียกผมว่าไงนะ?”หลินเซียงตกใจ ไม่คิดว่าจู่ ๆ เขาจะโกรธขึ้นมาแบบนี้“คุณ... คุณเป็นอะไรไป?”ก่อนหน้านี้เธอเรียกเขาแบบนี้ตลอดสีหน้าของลู่สือเยี่ยนดูหม่นหมองและเย็นชา ก่อนจะพูดเสียงเย็นว่า “ต่อไปห้ามเรียกผมแบบนี้อีก!”หลินเซียงตกใจจนตัวสั่น!ลู่สือเยี่ยนปล่อยเธอ ก่อนจะกดปุ่ม รอจนแผงกั้นเลื่อนขึ้น แล้วพูดเสียงเย็นชา “จอดรถ!”คนขับรีบจอดรถทันทีลู่สือเยี่ยนไม่ได้มองหน้าหลินเซียงด้วยซ้ำ “ลงไป!”หลินเซียงไม่เข้าใจ มองใบหน้าที่ดูเย็นชาของเขา และถามว่า “ลู่สือเยี่ยน คุณเป็นอะไรกันแน่?”ความเย็นชาของลู่สือเยี่ยนยิ่งเพิ่มขึ้น “อย่าบังคับผมต้องโยนคุณลงไปนะ!”หลินเซียงตัวสั่น รู้ว่าเขาทำได้แน่ จึงเปิดประตูลงจากรถแต่โดยดี!ประตูรถถูกปิดลง จากนั้นรถก็ขับออกไปลมหนาวพัดโชยมา หลินเซียงรู้สึกหนาวเหน็บอย่างบอกไม่ถูก!เขาเป็นอะไรไปกันแน่?ทำไมถึงไม่ยอมช่วยเธอ?จ้าวข่ายขโมยอะไรไป?ในเมื่อแน่ใจแล้วว่าเขาขโมยของจริง ทำไมไม่ส่งไปสถานีตำรวจ กลับเก็บไว้ที่บ้
ในขณะนั้นเอง เธอได้ยินเสียงฝีเท้าจากด้านหลัง ไม่ไกลไม่ใกล้ แต่กลับทำให้หัวใจของเธอรู้สึกหวาดกลัวอย่างบอกไม่ถูก รอบ ๆ มีร้านค้ามีการติดกล้องวงจรปิด แต่เธอก็ยังรู้สึกไม่สบายใจการเผชิญหน้ากับเหตุการณ์สองครั้งก่อนหน้านี้ทำให้เธอระมัดระวังตัวมากขึ้น เธอเร่งฝีเท้าเดินเร็วขึ้น และฝีเท้าที่ตามมาก็เร่งขึ้นเช่นกันหลินเซียงไม่กล้าหันหลังกลับไปมอง!เธอมองเห็นร้านสะดวกซื้อแห่งหนึ่ง จึงรีบวิ่งไปที่นั่น!จนกระทั่งเมื่อเธอเข้าไปในร้านสะดวกซื้อและหันหลังกลับไปมอง ก็เห็นผู้ชายคนนั้นยังคงยืนอยู่ข้างนอก แต่เมื่อเห็นว่าเธอเข้ามาในร้าน เขาก็ไม่ได้ตามเข้ามาในตอนนี้ หลินเซียงรู้สึกหวาดกลัวจนไม่สามารถควบคุมตัวเองได้เธอไม่กล้าออกจากร้าน รีบไปนั่งข้างหน้าต่างและหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเพื่อติดต่อใครสักคน แต่จะโทรหาคนดีล่ะ?ท่าทางของลู่สือเยี่ยนเมื่อครู่นี้ดูน่ากลัว ชัดเจนว่าไม่อยากเจอหน้าเธออีก ถ้าโทรหาเขา เขาจะรับสายไหม?แต่ถ้าไม่ใช่ลู่สือเยี่ยน จะมีใครช่วยเธอได้อีก?หลินเซียงรู้สึกหมดหนทางเป็นครั้งแรกเมืองใหญ่ขนาดนี้ เธอเหมือนไม่มีใครให้ขอความช่วยเหลือเธอค่อย ๆ ผ่อนลมหายใจออก เมื่อเงยหน้าขึ้น ก็เห
“ตายแน่!”“วิ่ง!”หลินเซียงไม่กล้าเสียเวลา วิ่งสุดชีวิต!ไม่ไกลนักมีร้านสะดวกซื้อ เธอวิ่งไปขอเจ้าของร้านให้ช่วยโทรแจ้งตำรวจได้!แต่ในขณะนั้น มีผู้หญิงสองคนเดินออกมาจากทางโค้งดวงตาของหลินเซียงเป็นประกาย รีบวิ่งเข้าไปคว้าแขนพวกเธอ ก่อนจะพูดด้วยรอยยิ้ม “ทำไมพวกเธอถึงมาช้าจัง? ฉันรอพวกเธอตั้งนาน”ผู้หญิงสองคนมองเธอด้วยความประหลาดใจ “คุณ...”แต่หลินเซียงขยิบตาให้พวกเธอ ก่อนจะกระซิบว่า “มีคนสะกดรอยตามฉันค่ะ ช่วยฉันหน่อยได้ไหม?”เมื่อได้ยินเช่นนั้น สีหน้าของผู้หญิงทั้งสองคนก็ตึงเครียดทันทีผู้หญิงคนหนึ่งพูดขึ้นว่า “ใครบอกให้เธอมาเร็วล่ะ พวกเราต้องแต่งหน้าก่อนออกจากบ้านนะ”ผู้หญิงอีกคนพูดว่า “ไปกันเถอะ ไปที่ตลาดกลางคืนกันดีกว่า มีของอร่อยเยอะแยะเลย”หลินเซียงพยักหน้า “ได้ ๆ”พวกเธอคุยกันเหมือนเพื่อนสนิทตอนเลี้ยวโค้ง หลินเซียงหันไปมองด้านหลัง ผู้ชายคนนั้นไม่ได้ตามมาทันใดนั้น เธอถึงกับโล่งใจ!“ขอบคุณมากนะคะ”เธอมองผู้หญิงสองคนผู้หญิงคนหนึ่งพูดว่า “ไม่เป็นไรค่ะ ไปเถอะ รีบออกไปจากที่นี่ ไม่งั้นเขาก็จะตามคุณอีก”อีกคนก็พยักหน้า “ใช่ คุณอยู่คนเดียวอันตรายนะ ทำไมไม่โทรแจ้งตำรวจล
ซ่งซ่ง “สบายใจได้เลย ไอ้บ้านั่นแกล้งฉันไม่ลงหรอก พอฉันเบื่อก็จะถีบหัวส่งเอง”หลินเซียงรู้สึกไม่ค่อยดีกลัวที่สุดคือซ่งซ่งจะเล่นจนพลาด ทำให้ฟู่จิ่นซิ่วน้อยใจ เขาอาจจะเลวร้ายกว่าลู่สือเยี่ยนเสียอีกหลินเซียงบอกความกังวลของเธอ “ยังไงก็ระวังตัวด้วยนะ”ซ่งซ่ง “ได้ ๆ รู้แล้ว”หลินเซียง “งั้นฉันไม่รบกวนเวลาทำงานแล้ว ไปก่อนนะ บาย”“จุ๊บ จุ๊บ”…หลินเซียงกลับไปที่สตูดิโอโดยตรงสภาพจิตใจของเธอเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิงสวี่ซิงเย่เป็นคนแรกที่สังเกตเห็น จึงถามด้วยรอยยิ้มว่า “เรื่องอะไรทำให้คุณมีความสุขขนาดนี้ครับ?”หลินเซียงประหลาดใจ “เห็นได้ชัดขนาดนั้นเลยเหรอ?”สวี่ซิงเย่พยักหน้า “ชัดแจ๋วเลย ก่อนหน้านี้คุณทำงานไม่เคยยิ้ม วันนี้ยิ้มตลอดเวลา”หลินเซียงลูบหน้า แล้วพูดว่า “อืม ปิดการขายได้น่ะ เซ็นสัญญาเสร็จเรียบร้อย ใกล้จะรวยแล้ว ก็เลยมีความสุข”สวี่ซิงเย่ “งั้นก็ขอแสดงความยินดีด้วยนะครับ”“ขอบคุณ”หลินเซียงยิ้มเล็กน้อย แล้วหันไปเปิดคอมพิวเตอร์เธอมองไปรอบ ๆ ออฟฟิศ พบว่าวันนี้ซืออวี่ไม่ได้มา แต่เธอก็ไม่ได้ใส่ใจ แล้วเริ่มทำงานทันทีที่โรงพยาบาลลู่สือเยี่ยนโยนใบหย่าลงตรงหน้าคุณย่าลู่ ดึ
หลินเซียงรู้สึกสงสัยเล็กน้อย “ทำไมจดล็อบบี้ไม่ได้เหรอคะ?”เจ้าหน้าที่กล่าวว่า “คุณผู้หญิง วันนี้ที่ล็อบบี้คนเยอะ เชิญทั้งสองท่านไปชั้นบนดีกว่า”หลินเซียงเหลือบมองไปที่เคาน์เตอร์รับเรื่องหย่า เห็นว่าคนแน่นจริง ๆอย่างนี้นี่เอง สมัยนี้การแต่งงานส่วนใหญ่คงไปกันไม่รอดสินะ?เธอไม่คิดอะไรมาก รีบตามเจ้าหน้าที่ขึ้นไปชั้นบนในห้องทำงานของนายทะเบียน ทั้งสองคนกรอกเอกสารเพิ่มเติม แล้วก็เข้าสู่เรื่องการแบ่งทรัพย์สินลู่สือเยี่ยนหยิบสัญญาฉบับหนึ่งให้เธอ “นี่คือค่าชดเชยให้คุณ”หลินเซียงรับมาดู พอเห็นชื่อบางชื่อ ดวงตาของเธอก็เบิกกว้างบ้านที่เฟิงหลินหย่วน เขากลับยกให้เธอบ้านหลังนั้นเธอขายไปแล้วไม่ใช่เหรอ?เขาซื้อคืนมาเมื่อไหร่?หรือว่าเป็นอีกหลังหนึ่ง?นั่นเป็นบ้านหลังใหญ่หลังแรกที่เขาให้เธอ มีความทรงจำดี ๆ เธอยังคงชอบมันอยู่เธอมองลงไปด้านล่าง ยังมีค่าชดเชยการหย่าอีกห้าสิบล้านเยี่ยมไปเลย เธอกลายเป็นมหาเศรษฐีแล้วลู่สือเยี่ยนจ้องมองเธออย่างลึกซึ้ง “มีอะไรสงสัยไหม?”หลินเซียงส่ายหัว “ไม่มีค่ะ”จากนั้นก็ถึงขั้นตอนการเซ็นชื่อไม่นาน นายทะเบียนก็มอบใบหย่าให้ทั้งสองคนแต่ลู่สือเยี่ยนไม
หลินเซียงกลับไปที่สตูดิโอสวี่ซิงเย่เห็นสีหน้าที่ผิดปกติของเธอ จึงถามว่า “หลินเซียง คุณไม่สบายหรือเปล่าครับ?”หลินเซียงส่ายหัว “เปล่า อาจจะแค่พักผ่อนไม่เพียงพอ”สวี่ซิงเย่กังวลเล็กน้อย “ยังมีอะไรที่ยังทำไม่เสร็จอยู่ไหมครับ? ให้ผมช่วยก็ได้ ผมจะช่วยคุณเอง”หลินเซียง “ไม่มีแล้ว ขอบคุณมาก”สวี่ซิงเย่ยังอยากจะพูดอะไรอีก ซืออวี่ก็เดินเข้ามา “เสี่ยวสวี่ ออกไปข้างนอกกับฉันหน่อย!”สวี่ซิงเย่พยักหน้า “ได้ครับ”ช่วงนี้ ซืออวี่มักจะพาสวี่ซิงเย่ออกไปข้างนอก เขามีความสามารถ แถมยังดื่มเหล้าเก่ง ถนัดการเข้าร่วมงานเลี้ยงสังสรรค์ทางธุรกิจมากมาย ด้วยความสามารถของเขาทำให้ดึงดูดทรัพยากรได้มาก ตอนนี้เริ่มทำแบบร่างโครงการด้วยตัวเองแล้วหลินเซียงมองตามพวกเขาออกไป ในใจเกิดความสงสัยเล็กน้อยช่วงนี้งานเลี้ยงเยอะเกินไปหรือเปล่า?ก่อนหน้านี้ไม่เห็นจะเป็นแบบนี้เลยสวี่ซินหรานพูดขึ้นมาทันที “หึ ก่อนหน้านี้บอสมักจะพาเธอออกไป ให้ความสำคัญกับเธอมาก ตอนนี้เป็นไงล่ะ ดูเหมือนความสามารถของสวี่ซิงเย่จะโดดเด่นกว่าเธอนะ”หลินเซียง “งั้นเธอมีดีอะไรบ้างล่ะ?”สวี่ซินหรานอึ้ง ไม่คิดว่าเธอจะโต้กลับหลินเซียงมองเธออย่
คุณย่าลู่ขู่จะตาย! สีหน้าของลู่สือเยี่ยนเปลี่ยนไปทันทีเซี่ยหว่านรีบเข้าไป พร้อมกับร้องไห้พูดว่า “คุณย่าลู่ค่ะ อย่าพูดอย่างนั้นเลย ไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าสุขภาพของคุณแล้วค่ะ เราไปตรวจกันก่อนดีไหมคะ?”คุณย่าลู่มองเธอด้วยความปลื้มปิติ “หว่านหว่าน เธอนี่เป็นเด็กดีจริง ๆ ตระกูลลู่เป็นหนี้เธอมากเกินไปแล้ว ถ้าฉันไม่ทำอะไรสักอย่าง สู้ตายไปยังไม่เจ็บช้ำเท่า”เซี่ยหว่านร้องไห้จนพูดไม่ออก!สถานการณ์ตึงเครียดขึ้นมาทันทีลู่สือเยี่ยนไม่ยอม คุณย่าลู่ก็ยิ่งหน้าซีดลงเรื่อย ๆ เธอจับจ้องราวกับจะคาดคั้นรอการตัดสินใจของเขาหลินเซียงเดินเข้าไป มองลู่สือเยี่ยนแล้วพูดว่า “เราไปหย่ากันก่อนเถอะ สุขภาพของย่าสำคัญกว่า”คุณย่าลู่มองลู่สือเยี่ยนด้วยความกระวนกระวายลู่สือเยี่ยนหันไปมองหลินเซียงอย่างรวดเร็ว กระตุกมุมปาก “ผลลัพธ์ที่เป็นอยู่ตอนนี้ คุณคงพอใจแล้วใช่ไหม?”หลินเซียงเม้มริมฝีปาก พูดว่า “แต่สุขภาพของย่าสำคัญกว่า”ลู่สือเยี่ยนพยักหน้า “ได้ หย่าก็หย่า”คุณย่าลู่ก็โล่งใจขึ้นมาทันที นอนลงบนเตียงแล้วหลับไปหมอและพยาบาลพาคุณย่าลู่ไปห้องตรวจเซี่ยหว่านเช็ดน้ำตาบนใบหน้า มองลู่สือเยี่ยนแล้วพูดว่า “สือเยี่
คุณย่าลู่ “จะมีใครทำร้ายเธอได้ยังไง? นั่นเป็นแค่การคาดเดาของเธอเท่านั้น”“เหอะ!”ลู่สือเยี่ยนหัวเราะเบา ๆ แล้วพูดต่อ “คุณย่าครับ คนคนหนึ่งที่เพิ่งฟื้นขึ้นมาแต่ความจำเสื่อม จะไปอยู่บนถนนได้ยังไง? คนดูแลที่บ้านเราล่ะ? หายหัวไปไหนหมด?”คุณย่าลู่เงียบไปลู่สือเยี่ยนพูดต่อ “ตอนนั้นเธอเป็นคนที่ช่วยผม พาผมกลับบ้าน ถ้าไม่ใช่เธอ วันนี้ย่าก็คงไม่ได้เจอหน้าผมแล้ว”คุณย่าลู่มองหลินเซียง แล้วพูดขึ้นมาทันทีว่า “ความจริงเป็นแค่เรื่องบังเอิญหรือเปล่า ตอนนี้ยังสรุปไม่ได้ ถ้าเกิดเธอรู้ตัวตนของหลานตั้งแต่แรกล่ะ?”“ฉันไม่รู้ค่ะ”หลินเซียงรู้สึกว่าเธอควรจะพูดอะไรสักอย่างเธอมองคุณย่าลู่อย่างสงบ “คุณย่าคะ ฉันไม่รู้ว่าทำไมคุณย่าถึงได้เกลียดฉันขนาดนี้ แต่เมื่อก่อนย่าไม่ใช่แบบนี้ แถมยังชอบฉันมาก ถึงกับบอกเขาว่า ถ้าเขาทำร้ายฉัน คุณย่าจะช่วยฉันตีเขา ฉันยังจำคำพูดพวกนั้นได้อยู่เลย”เธอหายใจออกเบา ๆ แล้วพูดต่อ “แต่แน่นอนค่ะ คุณย่าจำไม่ได้ งั้นก็ไม่สำคัญแล้ว ฉันไม่รู้จักตัวตนของเขาตั้งแต่แรก จนกระทั่งเขาได้ความทรงจำกลับมา แล้วมาเปิดตัวในที่ที่ฉันทำงานอยู่ ฉันถึงได้รู้จักตัวตนของเขา”คุณย่าลู่เงียบไป ใบหน้
หลินเซียงมองคุณย่าลู่ด้วยความประหลาดใจไม่เคยคิดมาก่อนว่าคุณย่าที่เคยใจดีกับเธอ ในระดับที่เรียกว่าเอาใจใส่ กลับคิดร้ายกับเธอแบบนี้ แล้วยังมองเธอด้วยสายตาเย็นชาหลินเซียงรู้สึกเจ็บปวดในใจที่แท้ไม่ใช่แค่ตอนที่ลู่สือเยี่ยนทำร้ายเธอเท่านั้นถึงจะรู้สึกเจ็บปวดการถูกคนที่เคยสนิทสนมทำร้าย ใจก็เจ็บปวดเช่นกันเธอเม้มริมฝีปาก แล้วหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาลู่สือเยี่ยน“ฮัลโหล?”ไม่นานปลายสายก็รับ ได้ยินเสียงทุ้มต่ำของชายหนุ่มดังขึ้นหลินเซียงบอกว่า “คุณย่ามีเรื่องจะพูดกับพวกเรา ตอนนี้คุณช่วยมาโรงพยาบาลหน่อย”ลู่สือเยี่ยนถามว่า “เกิดอะไรขึ้นเหรอ?”หลินเซียง “มาถึงเดี๋ยวก็รู้เอง”พูดจบก็วางสายไปเรื่องหย่าควรจะพูดต่อหน้าทั้งสองคนจะดีกว่าบอกกับเธอแค่คนเดียวมีประโยชน์อะไร?เธออยากหย่า แต่ลู่สือเยี่ยนไม่ยอม คุณย่าลู่ก็ไม่เชื่อเธอทำผิดอะไร?ถึงได้ถูกปฏิบัติแบบนี้?หลินเซียงนั่งลงบนโซฟา ก้มหน้าลง ไม่มองคุณย่าลู่อีกนิสัยของเธอค่อนข้างแปลกถ้าคนคนนั้นทำร้ายเธอ ก็ยากที่จะเข้าไปอยู่ในใจเธอได้อีกคุณย่าลู่ไม่ค่อยชอบท่าทางของหลินเซียง จึงจับมือเซี่ยหว่านแล้วคุยต่อ เพราะชอบท่าทางอ่อนโยนขอ
หลังจากออกจากโรงพยาบาล ลู่สือเยี่ยนมองเธอ “อย่าคิดมาก คุณย่าแค่ลืมความทรงจำไปสองปีเท่านั้นเอง”หลินเซียงมองเขา แล้วถามว่า “แล้วถ้าคุณย่ายืนกรานจะให้คุณแต่งงานกับเซี่ยหว่านล่ะ?”ลู่สือเยี่ยนมองเธออย่างลึกซึ้ง “หลินเซียง เธอควรเลิกคิดเรื่องนี้นะ เพราะผมไม่หย่ากับคุณแน่”หลินเซียงอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ แล้วพูดว่า “จริง ๆ แล้ว เราหย่ากันก็ไม่เลวนะ ฉัน…”“หยุด!”ลู่สือเยี่ยนมองเธอด้วยความหงุดหงิด “ฟังที่ผมพูดไม่รู้เรื่องเหรอ? ถ้าพูดถึงเรื่องหย่าอีก ผมจับคุณขังไว้แน่!”ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความโกรธ รอบตัวเต็มไปด้วยออร่าเย็นชาหลินเซียงหยุดชะงัก ไม่พูดต่อเพราะเขาทำได้จริงเมื่อหันหลังเดินไป ใบหน้าเล็ก ๆ นั้นเย็นชายิ่งกว่าเก่าลู่สือเยี่ยนมองตามหลังเธอไป ริมฝีปากบางเม้มเป็นเส้นตรงเขาเปิดประตูแล้วก้าวขึ้นรถ สีหน้ามืดครึ้มอย่างที่สุดในขณะนั้น เสียงเรียกเข้าโทรศัพท์เขาดังขึ้น เขาหยิบขึ้นมาดู เป็นสายจากซืออวี่“พูดมา!”ซืออวี่ตกใจกับน้ำเสียงเย็นชาของเขา ก่อนจะกลืนน้ำลายอึกใหญ่ “พี่ใหญ่ ฉันสืบได้เรื่องบ้างแล้ว แต่คนคนนั้นฉลาดเป็นกรด ปกปิดตัวตนได้ดีมาก รู้แค่ว่าเป็นผู้ชาย”ลู่สือเยี
วันรุ่งขึ้น ทั้งสองคนไปที่โรงพยาบาลคุณย่าลู่ทานอาหารเช้าเสร็จแล้ว อวิ๋นหลานนั่งคุยกับเธออยู่“คุณย่าครับ”ลู่สือเยี่ยนเดินเข้าไปเรียกด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนคุณย่าลู่เห็นเขา ใบหน้าที่แก่ชราพลันมีรอยยิ้ม“สือเยี่ยน เธอมาแล้ว” คุณย่าลู่จับมือเขาไว้ มองใบหน้าหล่อเหลาของเขาแล้วพูดขึ้นมาทันทีว่า “สือเยี่ยน ทำไมดูเปลี่ยนไปจังเลย? ดูเหมือนจะโตขึ้นมากเลยนะ”ริมฝีปากบางของลู่สือเยี่ยนโค้งเป็นรอยยิ้ม “โตขึ้นแล้วไม่ดีเหรอครับ?”คุณย่าลู่พยักหน้า “ดี แน่นอนว่าดี แต่ฉันยังชอบเธอตอนเด็ก ๆ ที่ไร้เดียงสามากกว่า เอาแต่วิ่งตามหลังพี่ชายตลอดเวลา แล้วยังทำหน้าบึ้งใส่เขา มีแต่พี่ชายที่ตามใจ ถ้าเป็นคนอื่นคงตีเธอไปแล้ว”รอยยิ้มที่มุมปากของลู่สือเยี่ยนแข็งทื่อไปชั่วขณะคุณย่าลู่สังเกตเห็นหลินเซียงในตอนนี้ จึงถามว่า “แล้วเธอล่ะ มายังไง?”ลู่สือเยี่ยนบอกว่า “ย่าครับ เธอเป็นภรรยาผม หลินเซียง”หลินเซียงมองคุณย่าลู่ “คุณย่า”คิ้วของคุณย่าลู่ขมวดเข้าหากันทันที เธอปล่อยมือลู่สือเยี่ยน “ก่อนหน้านี้เธอบอกว่าจะแต่งงานกับหว่านหว่านไม่ใช่เหรอ? ฉันเห็นว่าเด็กคนนั้นก็ใช้ได้นะ ทำไมถึงแต่งงานกับคนอื่นล่ะ?”ท่าทีนั้
ใบหน้าของลู่สือเยี่ยนแสดงออกถึงความซับซ้อนเล็กน้อย เขาพูดอย่างสงบว่า “เรื่องนี้ยังบอกไม่ได้ ต้องรอผลตรวจของแพทย์”หลินเซียงพยักหน้า ตอนนี้คงทำได้แค่นี้ลู่เจิ้งหรงมองหลินเซียงด้วยสายตาไม่เป็นมิตร แล้วพูดกับลู่สือเยี่ยนว่า “อาการของย่าแกดูเหมือนจะดีขึ้น ความคิดของผู้ใหญ่ แกคงรู้ดี น่าจะอยากเห็นแกแต่งงานกับหว่านหว่าน ตอนนั้นแกเป็นคนพาหว่านหว่านไปหาท่านเอง ตอนนี้ถ้าท่านขอร้อง แกก็ปฏิเสธไม่ได้”อวิ๋นหลานกล่าวว่า “เจิ้งหรง แต่สือเยี่ยนกับหลินเซียงรักกันดี ทำแบบนี้ไม่ค่อยดีหรอกมั้ง?”“เหอะ!” ลู่เจิ้งหรงหัวเราะเยาะ “รักกันดี? หลินเซียงไม่ใช่เหรอที่อยากหย่ามาตลอด? ใช้โอกาสนี้หย่ากันไปซะสิ ไม่ต้องมีใครขัดขวางใคร!”อวิ๋นหลานมองหลินเซียงด้วยความกังวล กลัวว่าเธอจะเสียใจแต่หลินเซียงเหมือนไม่ได้ยิน ยืนอยู่มุมห้อง ก้มหน้าลง ปากสวยเม้มเป็นเส้นตรงลู่สือเยี่ยนไม่ได้สนใจคำพูดของลู่เจิ้งหรงเลยเขาตามหาลู่จิ้นหนานจนแทบคลั่ง ยังมีเวลาสนใจเรื่องของเขากับหลินเซียงอีกเหรอ?ดูเหมือนว่าเขาควรหาอะไรให้อีกฝ่ายทำบ้าง!ประมาณสองชั่วโมงผ่านไปผลการตรวจของคุณย่าลู่ออกมาแล้วแพทย์ถือรายงานผลการตรวจแล้วพูด