ในขณะนั้นเอง เธอได้ยินเสียงฝีเท้าจากด้านหลัง ไม่ไกลไม่ใกล้ แต่กลับทำให้หัวใจของเธอรู้สึกหวาดกลัวอย่างบอกไม่ถูก รอบ ๆ มีร้านค้ามีการติดกล้องวงจรปิด แต่เธอก็ยังรู้สึกไม่สบายใจการเผชิญหน้ากับเหตุการณ์สองครั้งก่อนหน้านี้ทำให้เธอระมัดระวังตัวมากขึ้น เธอเร่งฝีเท้าเดินเร็วขึ้น และฝีเท้าที่ตามมาก็เร่งขึ้นเช่นกันหลินเซียงไม่กล้าหันหลังกลับไปมอง!เธอมองเห็นร้านสะดวกซื้อแห่งหนึ่ง จึงรีบวิ่งไปที่นั่น!จนกระทั่งเมื่อเธอเข้าไปในร้านสะดวกซื้อและหันหลังกลับไปมอง ก็เห็นผู้ชายคนนั้นยังคงยืนอยู่ข้างนอก แต่เมื่อเห็นว่าเธอเข้ามาในร้าน เขาก็ไม่ได้ตามเข้ามาในตอนนี้ หลินเซียงรู้สึกหวาดกลัวจนไม่สามารถควบคุมตัวเองได้เธอไม่กล้าออกจากร้าน รีบไปนั่งข้างหน้าต่างและหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเพื่อติดต่อใครสักคน แต่จะโทรหาคนดีล่ะ?ท่าทางของลู่สือเยี่ยนเมื่อครู่นี้ดูน่ากลัว ชัดเจนว่าไม่อยากเจอหน้าเธออีก ถ้าโทรหาเขา เขาจะรับสายไหม?แต่ถ้าไม่ใช่ลู่สือเยี่ยน จะมีใครช่วยเธอได้อีก?หลินเซียงรู้สึกหมดหนทางเป็นครั้งแรกเมืองใหญ่ขนาดนี้ เธอเหมือนไม่มีใครให้ขอความช่วยเหลือเธอค่อย ๆ ผ่อนลมหายใจออก เมื่อเงยหน้าขึ้น ก็เห
“ตายแน่!”“วิ่ง!”หลินเซียงไม่กล้าเสียเวลา วิ่งสุดชีวิต!ไม่ไกลนักมีร้านสะดวกซื้อ เธอวิ่งไปขอเจ้าของร้านให้ช่วยโทรแจ้งตำรวจได้!แต่ในขณะนั้น มีผู้หญิงสองคนเดินออกมาจากทางโค้งดวงตาของหลินเซียงเป็นประกาย รีบวิ่งเข้าไปคว้าแขนพวกเธอ ก่อนจะพูดด้วยรอยยิ้ม “ทำไมพวกเธอถึงมาช้าจัง? ฉันรอพวกเธอตั้งนาน”ผู้หญิงสองคนมองเธอด้วยความประหลาดใจ “คุณ...”แต่หลินเซียงขยิบตาให้พวกเธอ ก่อนจะกระซิบว่า “มีคนสะกดรอยตามฉันค่ะ ช่วยฉันหน่อยได้ไหม?”เมื่อได้ยินเช่นนั้น สีหน้าของผู้หญิงทั้งสองคนก็ตึงเครียดทันทีผู้หญิงคนหนึ่งพูดขึ้นว่า “ใครบอกให้เธอมาเร็วล่ะ พวกเราต้องแต่งหน้าก่อนออกจากบ้านนะ”ผู้หญิงอีกคนพูดว่า “ไปกันเถอะ ไปที่ตลาดกลางคืนกันดีกว่า มีของอร่อยเยอะแยะเลย”หลินเซียงพยักหน้า “ได้ ๆ”พวกเธอคุยกันเหมือนเพื่อนสนิทตอนเลี้ยวโค้ง หลินเซียงหันไปมองด้านหลัง ผู้ชายคนนั้นไม่ได้ตามมาทันใดนั้น เธอถึงกับโล่งใจ!“ขอบคุณมากนะคะ”เธอมองผู้หญิงสองคนผู้หญิงคนหนึ่งพูดว่า “ไม่เป็นไรค่ะ ไปเถอะ รีบออกไปจากที่นี่ ไม่งั้นเขาก็จะตามคุณอีก”อีกคนก็พยักหน้า “ใช่ คุณอยู่คนเดียวอันตรายนะ ทำไมไม่โทรแจ้งตำรวจล
ผู้หญิงสองคนมองผู้ชายคนนั้น ผู้ชายคนนั้นโบกมือ จากนั้นพวกเขาก็พาหลินเซียงไปตามทางเล็ก ๆปลายทางมีรถตู้คันหนึ่ง ถ้าหลินเซียงขึ้นรถตู้ เธอก็ไม่มีโอกาสรอดอีกแล้วตลอดทาง เธอไม่ได้ดิ้นรน ภายในใจเต็มไปด้วยความเศร้าโศก น้ำตาไหลไม่หยุด ราบกับสายลูกปัดที่ขาดวิ่นจนกระทั่งเห็นรถตู้ ขนตายาวของเธอก็สั่นไหวทันใดนั้นเธอก็ออกแรงที่มือ ก่อนจะบิดแขนของผู้หญิงสองคนนั้น“ว้าย!”ผู้หญิงทั้งสองคนร้องออกมา ก่อนจะรีบปล่อยหลินเซียง!บริเวณที่ถูกหลินเซียงบิดทิ้งรอยแผลเป็นฝังลึกเอาไว้!หลินเซียงใช้โอกาสนี้ หันหลังวิ่งหนี!ต้องวิ่ง!เธอจะไม่ยอมแพ้!“นังบ้าเอ๊ย รีบตามไป!”จากด้านหลัง เสียงด่าทอของผู้ชายดังขึ้นเป็ดที่ถึงปากกรงแล้วแต่กลับบินหนีไป เขาโกรธยิ่งกว่าอะไรซะอีก!ความกลัวและความปรารถนาที่จะมีชีวิตอยู่ ทำให้หลินเซียงมีแรงฮึดสู้มากขึ้น จนพวกเขาตามไม่ทัน!หลินเซียงกัดฟัน รู้สึกเจ็บแปลบที่หน้าอก!นั่นเป็นเพราะการออกกำลังกายอย่างหนัก ทำให้หายใจไม่สะดวกแต่ในขณะนั้น มีคนวิ่งตรงมาจากด้านหน้า!สีหน้าของหลินเซียงดูแย่ลงไปอีก!หรือว่าพวกเขายังมีพวกเดียวกันคอยดักอยู่?ไม่นานนักเธอก็เห็นหน้าคนที
ขณะนั้นเอง ประตูห้องก็เปิดออกอย่างฉับพลัน หลินเซียงปรากฏตัวขึ้น ใบหน้าปิดด้วยแผ่นมาส์ก ดวงตาเย็นชาจ้องมองพวกเขา“พวกคุณกำลังทำอะไรกัน?”ช่างปั๊มกุญแจชะงักไปชั่วขณะ ก่อนจะหันไปมองลู่สือเยี่ยนโดยสัญชาตญาณลู่สือเยี่ยนจ้องมองเธออย่างแน่วแน่ น้ำเสียงแหบพร่า “หลินเซียง ผมไม่รู้ว่าคุณจะเกิดเรื่อง ผม…”“ยังมีอะไรอีกไหม?”หลินเซียงตัดบทเขาด้วยน้ำเสียงเย็นชาริมฝีปากบางของลู่สือเยี่ยนเม้มเป็นเส้นตรง ความรู้สึกผิดในอกรุนแรงขึ้นเขาพูดว่า “ให้ผมเข้าไปหน่อย เรามาคุยกันดี ๆ”หลินเซียง “ฉันง่วงแล้ว อยากนอน”แต่ลู่สือเยี่ยนกลับกำประตูไว้แน่น ไม่ยอมให้เธอปิดหลินเซียงมองเขา แล้วถามขึ้นมาอย่างกะทันหัน “ลู่สือเยี่ยน ถ้าวันนี้คนมาช่วยฉันไม่ทัน ฉันถูกพาตัวไปขาย คุณจะเสียใจไหม?”ลู่สือเยี่ยน “ไม่มีทางเกิดเรื่องแบบนั้นขึ้นแน่ ผมจะตามหาคุณจนเจอ!”หลินเซียงถามย้ำ “แล้วคุณจะเสียใจไหม?”เธอโฟกัสอยู่กับคำตอบนี้แต่เธอก็รู้ดีว่ามันช่างไร้ความหมายเมื่อเขาก็รู้ว่าเธอตกอยู่ในอันตราย แต่กลับทิ้งเธอไปหาเซี่ยหว่าน หัวใจของเธอก็ตายด้านไปแล้วตายสนิทลู่สือเยี่ยนอดทนพูดว่า “หลินเซียง ผมบอกแล้วว่าไม่มีทา
ลู่สือเยี่ยนโอบกอดเธอไว้แน่นราวกับจะบดขยี้เธอเข้าไปในกระดูกและเลือดเนื้อ“เป็นไปไม่ได้”เสียงของเขาแหบพร่า โอบกอดเธอไว้แน่น “หลินเซียง ผมจะไม่หย่ากับคุณ”หลินเซียงหลับตาลง “งั้นก็ปล่อยตัวจ้าวข่ายซะ”ครั้งนี้ลู่สือเยี่ยนไม่ขยับตัว และไม่พูดอะไรความเงียบครอบงำพวกเขาอยู่เกือบนาที ก่อนที่เขาจะปล่อยเธอ และเอามือประคองใบหน้าเธอไว้ และพูดว่า “หลินเซียง ผมจะชดเชยให้คุณทุกอย่าง ไม่ว่าคุณอยากได้อะไรผมก็จะให้ แต่สองเรื่องนี้ ผมคงทำให้ไม่ได้จริง ๆ”หลินเซียงหัวเราะเยาะ “คุณนี่หน้าไหว้หลังหลอกจริง ๆ ปากพูดว่าจะให้ทุกอย่าง แต่เงื่อนไขที่ฉันเสนอ คุณกลับปฏิเสธทั้งหมด”ลู่สือเยี่ยนเม้มริมฝีปาก เขาไม่ได้ตอบโต้ต่อการตำหนิและการเยาะเย้ยของเธอเขาจ้องมองใบหน้าที่เปื้อนน้ำตาของเธอ ใช้มือเช็ดน้ำตาให้ พูดเสียงเบา “หลินเซียง ขอเรื่องอื่นเถอะ”หลินเซียงผลักมือเขาออก “ฉันไม่สนใจเรื่องอื่น”เขามองดูใบหน้าที่เย็นชาของเธอ ริมฝีปากของเธอแดงและบวมเพราะถูกเขาจูบ ดูเย้ายวน แต่สีหน้าของเธอกลับไร้อารมณ์ราวกับว่าเธอไม่ได้รู้สึกอะไรอีกแล้วเขามองเธอนานมากโดยไม่พูดอะไรหลินเซียงผลักเขาออก และพูดว่า “ออกไปได
สีหน้าของหลินเซียงเย็นชา เธอคลานออกจากอ้อมแขนของเขา แต่เพียงเสี้ยววินาทีต่อมา เอวของเธอก็ถูกดึงกลับไปเรือนร่างแนบชิดกับแผงอกอันอบอุ่นของเขา ลมหายใจร้อนผ่าวของเขาระเรี่ยอยู่ใกล้ใบหูของเธอ ร้อนรุ่มจนแทบเผาไหม้“ทำไมตื่นเช้านักล่ะ?”เสียงของเขาในยามเช้าแหบพร่ากว่าปกติ และดูเหมือนว่าบางส่วนกำลังตื่นตัวหลินเซียงรู้สึกได้ถึงสิ่งนั้น ร่างกายของเธอแข็งทื่อ ไม่กล้าขยับเขยื้อนเพราะกลัวว่าเขาจะแสดงความต้องการทางเพศออกมาในทันที“ฉันหิว”เธอพูดเสียงเรียบเฉยลู่สือเยี่ยนกอดเธอแน่น ความร้อนแผ่ซ่านไปทั่วร่างกายของเธอ ราวกับจะหลอมละลายเธอไปเสีย“ผมก็หิวเหมือนกัน”เสียงของเขาแหบพร่าหนักกว่าเดิมหลินเซียงกะพริบตา ดูเหมือนจะนึกอะไรบางอย่างออกเขาไม่ยอมหย่า เพราะยังคงต้องการร่างกายของเธออยู่สินะ?หรือว่าเมื่อไหร่ที่เขาหมดความต้องการ ความสัมพันธ์ของพวกเขาก็จะจบลง?ความรู้สึกเศร้าสร้อยเข้าครอบงำเธอเธอพูดว่า “ลู่สือเยี่ยน ฉันไม่มีอารมณ์”ริมฝีปากของลู่สือเยี่ยนเคลื่อนไหวอยู่บนไหล่ของเธอ ฝ่ามือของเขาสัมผัสกับผิวหนังที่บอบบาง เขาหยอกเย้าเล่นกับมันเบา ๆเมื่อรู้สึกถึงความสั่นเทาของเธอ เขาก็เพิ
หลินเซียงมองเขา “คุณรู้ไหมว่าเมื่อคืนตอนฉันโดนผู้ชายคนนั้นไล่ล่า และถูกผู้หญิงสองคนหลอก ฉันกำลังคิดอะไรอยู่?”ลู่สือเยี่ยนหยุดการกระทำของเขา ริมฝีปากบางของเขาเม้มเป็นเส้นตรงหลินเซียงหัวเราะอย่างขมขื่น “ฉันคิดว่า ฉันบอกคุณแล้วแท้ ๆ ว่าฉันตกอยู่ในอันตราย ทำไมคุณถึงไม่มา? เราเป็นสามีภรรยากันมานาน คุณเองก็ยังมีจิตสำนึกของความเป็นอาเยี่ยนอยู่ ทำไมถึงไม่มา? ถ้า…ถ้าเป็นอาเยี่ยน เขาต้องมาแน่ แล้วเขาก็จะไม่ไล่ฉันลงจากรถอย่างหยาบคายแบบนั้น”ขณะที่เธอกำลังพูด น้ำตาของเธอไหลรินลงมาเป็นสาย ความหวาดกลัวเมื่อคืนนี้ย้อนกลับมาอีกครั้งดวงตาของเธอคลอไปด้วยน้ำตา“ลู่สือเยี่ยน บอกฉันสิ ทำไม? ทำไมฉันบอกคุณแล้วว่าฉันตกอยู่ในอันตราย แต่คุณกลับไม่มา?”ลมหายใจของลู่สือเยี่ยนติดขัดอีกครั้ง เขากอดเธอไว้แน่น พูดเสียงแหบพร่าว่า “ขอโทษ หลินเซียง”นั่นคือสิ่งเดียวที่เขาพูดได้ พอเขาได้รับโทรศัพท์จากเธอ เขารีบไปในทันที แต่แล้วเขาก็คิดถึงเรื่องหนึ่ง เธอเต็มใจที่จะลดท่าทีลงเพื่อขอร้องเรื่องจ้าวข่าย การที่เธอขอความช่วยเหลือจากเขาอาจเป็นการจงใจหรือเปล่า?จงใจให้เขากลับไปหา?ดังนั้นเมื่อเซี่ยหว่านโทรมา เขาจึงไปหา
หลินเซียงจ้องมองเขาอย่างแน่วแน่ แล้วพูดว่า “ลุงจ้าวไม่ใช่คนแบบนั้น”ลู่สือเยี่ยนหัวเราะเบา ๆ “อยากพนันกันไหมล่ะ?”หลินเซียงกำตะเกียบในมือแน่น ก่อนจะพยักหน้า “ได้ พนันอะไร?”ลู่สือเยี่ยนกล่าว “ถ้าเขาได้รับค่าชดเชยจากผม แล้วยอมออกจากเมืองอวิ๋นเฉิง คุณห้ามพูดถึงเรื่องหย่าอีก”หลินเซียงกัดฟัน พยักหน้ารับ “ได้ แต่ถ้าจนแล้วจนรอดเขาไม่ยอมรับค่าชดเชย เราหย่ากัน และคุณต้องปล่อยตัวจ้าวข่ายทันที”ลู่สือเยี่ยนพูดเสียงเรียบ “หลินเซียง นี่เป็นสองเงื่อนไขนะ”หลินเซียงลังเลเล็กน้อย แล้วพูดว่า “ปล่อยตัวจ้าวข่าย”ลู่สือเยี่ยนจ้องมองเธออย่างแน่วแน่ “ตกลง”หลินเซียงเชื่อว่าคนอย่างลุงจ้าวจะไม่ทิ้งลูกชายตัวเองไปเพราะเงิน แม้แต่ตัวเขาเองยังบอกเลยว่า นั่นคือลูกคนเดียวของเขา!หลังจากทานอาหารเสร็จ ลู่สือเยี่ยนก็จากไปทันทีส่วนหลินเซียงก็ติดต่อนายหน้าเพื่อหาบ้านนายหน้าทำงานได้รวดเร็วมาก ส่งบ้านมาให้ดูหลายหลัง หลินเซียงก็ไปดูทำเลทันทีสุดท้ายก็เลือกบ้านหลังเล็กสองห้องนอน เช่าเป็นระยะเวลาสามเดือนกว่าจะเสร็จธุระทุกอย่างก็บ่ายแล้วหลินเซียงโทรหาลุงจ้าวทันที“ลุงคะ ฉันหาบ้านได้แล้ว เดี๋ยวจะไปรับลุงนะ
ซ่งซ่งนอนไม่หลับ พลิกตัวไปมาอยู่บนเตียง ทั้งตื่นเต้นและกังวลใจ เมื่อคิดว่าตัวเองกำลังจะออกจากเมืองอวิ๋น ออกไปจากฟู่จิ่นซิ่ว คนที่น่ารังเกียจนั่น เธอก็รู้สึกตื่นเต้นแทบแย่แทบนับเวลาถอยหลัง“ปัง ปัง ปัง!”แต่ในขณะนั้นเอง เสียงเคาะประตูดังสนั่นก็ดังขึ้นซ่งซ่งตกใจ รีบลุกขึ้นมองออกไปข้างนอก เด็กผู้หญิงก็ตกใจตื่นเช่นกัน “ใครน่ะ?”ในใจของซ่งซ่งมีความรู้สึกไม่ดีแวบเข้ามา หรือว่าเขาจะตามทันแล้ว?เร็วขนาดนี้เลยเหรอ?เธอลุกจากเตียงพูดว่า “ฉันไปดูเอง พวกเธออย่าออกมาล่ะ”เด็กผู้หญิงกังวลใจ “ซ่งซ่ง จะไม่เป็นไรใช่ไหม?”ซ่งซ่งพยักหน้า “ไม่ต้องห่วง ไม่มีอะไรหรอก”เธอสวมเสื้อผ้าออกจากบ้าน “ใคร?”เธอถามอย่างระมัดระวัง“ซ่งซ่ง ฉันเอง รีบออกมาเร็ว!”เสียงของหลินเซียงดังขึ้นที่หน้าประตูซ่งซ่งชะงัก รีบไปเปิดประตู “ที่รัก กลับมาทำไม?”เธอไม่ได้กลับบ้านไปแล้วเหรอ?พอคำนวณเวลาแล้ว ตอนนี้ควรจะถึงเฟิงหลินหย่วนแล้วสิหลินเซียงจับข้อมือเธอ สีหน้ากระวนกระวาย “ฉันเห็นรถของฟู่จิ่นซิ่ว เขาหาเธอเจอแล้ว ไปกันเร็ว!”เมื่อได้ยินดังนั้น ซ่งซ่งก็ตกตะลึง “หาฉันเจอแล้ว? หาฉันเจอได้ยังไง?”การเคลื่อนไหวขอ
หลินเซียงใส่ขนมปังกรอบลงในถุง จัดเตรียมให้เรียบร้อย พลางพูดว่า “เวลาจำกัด ฉันเลยทำแค่อาหารที่เก็บรักษาง่ายและรสชาติใช้ได้ ให้เธอมีอะไรรองท้องระหว่างทาง”เมื่อได้ยินแบบนั้น ซ่งซ่งก็กะพริบตา แล้ววิ่งเข้ามากอดเธอ “ที่รัก ทำไมน่ารักแบบนี้นะ หรือพวกเราหนีไปด้วยกันเลยดีไหม!”หลินเซียงยิ้ม “พอแล้ว ไปล้างหน้าเร็ว ฉันจะไปส่งเธอที่ชานเมือง”รถบัสรอบแรกมาถึงพรุ่งนี้เช้า ซ่งซ่งต้องไปรอตั้งแต่คืนนี้แต่ซ่งซ่งส่ายหน้า “ไม่ต้อง ฉันติดต่อคนไว้แล้ว เธอพักผ่อนที่บ้านเถอะ ฉันไม่เป็นไร”หลินเซียงพูดว่า “ไม่ได้ ถ้าฉันไม่ไปส่งเธอด้วยตัวเอง ฉันไม่สบายใจ”ซ่งซ่งมองสีหน้าจริงจังของเธอ รู้ว่าเธอตัดสินใจแล้ว จึงกอดเธออีกครั้ง “ฮือ ฮือ ไม่อยากจากเธอเลย”หลินเซียงพาเธอไปที่ห้องน้ำ ดูแลเธอขณะล้างหน้าล้างตา ตรวจสอบสิ่งของที่จำเป็นอาหาร เครื่องดื่ม และของใช้ส่วนตัวง่าย ๆ ล้วนเป็นแบบใช้แล้วทิ้งอืม เกือบครบแล้วหลังจากจัดของเสร็จ ทั้งสองคนก็อยู่ด้วยกันอีกพักหนึ่ง ก่อนจะออกเดินทางตอนตีสองเมืองอวิ๋นในยามดึกเงียบสงบ ถนนแทบไม่มีรถสัญจร ผู้คนยิ่งไม่มีหลินเซียงขับรถไปทางชานเมือง ส่วนซ่งซ่งก็พูดถึงความหวังในอน
หลินเซียง “…”แม้ว่าครั้งที่แล้วจะสังเกตเห็นความผิดปกติของคนทั้งสอง แต่เมื่อได้ยินสิ่งที่ซ่งซ่งพูดออกมาในตอนนี้ เธอก็พูดอะไรไม่ออกการที่เรื่องราวพัฒนามาถึงจุดนี้ จริง ๆ แล้วมีร่องรอยให้เห็นฟู่จิ่นซิ่วให้ความสนใจกับซ่งซ่งมากเกินไป และซ่งซ่งก็ไม่ได้ระวังตัวเพียงแต่…ตอนนี้เพิ่งจะคิดได้ จะสายเกินไปหรือเปล่า?หลินเซียงพูดความกังวลของตัวเองออกมาซ่งซ่งเข้ามาใกล้ และกระซิบว่า “ที่รัก ฉันวางแผนไว้แล้ว ฉันจะไม่นั่งเครื่องบินหรือรถไฟ แต่จะนั่งรถบัสไป เป็นรถบัสแบบที่วิ่งตามท้องถนนในชนบท ตราบใดที่ฉันออกจากเมืองอวิ๋นไปได้อย่างปลอดภัย ถึงเขาจะอยากหาฉันก็หาไม่เจอ”หลินเซียงขมวดคิ้ว “แต่แบบนั้นไม่ปลอดภัยนะ”ซ่งซ่ง “ตอนนี้ฉันยังต้องสนใจเรื่องความปลอดภัยอยู่อีกเหรอ? ถ้ายังอยู่ในเมืองอวิ๋น ฉันก็ไม่ปลอดภัยอยู่ดี ฉันเลยต้องคิดแล้วตัดสินใจไปแบบกะทันหัน เขาคงเดาไม่ได้ว่าฉันจะไปเมื่อไหร่”หลินเซียงยังคงรู้สึกไม่ดี เปลี่ยนมาถามว่า “แล้วงานของเธอล่ะ?”ซ่งซ่งพูดว่า “ฉันขอลาออกแล้ว และวันนี้ก็เริ่มส่งใบสมัครงาน สร้างภาพลวงตาว่าฉันแค่อยากเปลี่ยนงานเฉยๆ”เธอวางแผนทุกอย่างไว้แล้ว หลินเซียงไม่รู้จะพูดอะ
บรรยากาศในลิฟต์ค่อนข้างแปลกประหลาดมีความเย็นชาปะปนกับความผ่อนคลาย บรรยากาศที่กดดันแผ่ซ่านไปทั่ว แต่เมื่อปะทะกับฉินโหย่วหานและหลินเซียง มันก็หายไปความรู้สึกแปลกประหลาดที่อธิบายไม่ได้ ทำให้รู้สึกอึดอัดลิฟต์เคลื่อนขึ้นไปอย่างราบรื่น ไม่นานประตูลิฟต์ก็เปิดออก ลู่สือเยี่ยนก้าวออกไปด้วยสีหน้าเย็นชาเป็นอย่างมากฉินโหย่วหานมองตามแผ่นหลังของเขา เลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยด้วยความประหลาดใจ เขาไม่ทำอะไรเลย นี่ไม่เหมือนนิสัยปกติของเขาหรือว่าเขาจะยอมปล่อยหลินเซียงแล้วจริง ๆ?ประตูลิฟต์ปิดลง สายตาของฉินโหย่วหานจับจ้องไปที่ใบหน้าของหลินเซียง แต่เห็นเธอมองประตูลิฟต์อย่างเหม่อลอยไม่ใช่สิ่งที่เธอมองน่าจะเป็นลู่สือเยี่ยนเพียงแต่ตอนนี้ประตูลิฟต์ปิดลง บดบังสายตาของเธอไว้ในดวงตาของฉินโหย่วหานมีความเย็นชาเพิ่มขึ้น เขาถามว่า “คิดอะไรอยู่?”ขนตาของหลินเซียงสั่นเล็กน้อย “ฉันแค่คิดว่า ในเรื่องนี้ เขากำลังรับบทบาทเป็นอะไร”ฉินโหย่วหานกล่าวว่า “ไม่ว่าเขาจะแสดงบทบาทไหน ก็ไม่เกี่ยวกับพวกเราแล้ว”หลินเซียงเหม่อลอยไปครู่หนึ่งแล้วพยักหน้า “คุณพูดถูก”เธอและลู่สือเยี่ยนหย่ากันแล้วดังนั้นจึงไม่มีความเกี่
ฉินโหย่วหานครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดว่า “บอกเรื่องที่คุณรู้ทั้งหมดให้ผมฟังหน่อย”หลินเซียงพยักหน้า เล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เขาฟังอย่างละเอียดครู่หนึ่ง ฉินโหย่วหานก็หัวเราะเบา ๆหลินเซียงมองเขา “เป็นอะไรไป?”ฉินโหย่วหานพูดว่า “หลินเซียง ผมขอเดาแบบบ้า ๆ เลยนะ”“พูดมาก่อนค่ะ” หลินเซียงมองเขาอย่างจริงจัง ในดวงตาเต็มไปด้วยความสงสัยฉินโหย่วหานจอดรถข้างทาง เอามือวางบนพวงมาลัย บนใบหน้าหล่อเหลาและอ่อนโยนปรากฏรอยยิ้มขบขัน “คุณว่ามีความเป็นไปได้ไหม ที่มีคนปลอมตัวเป็นจ้าวข่ายไปทำเรื่องพวกนั้น แล้วโยนความผิดให้เขา?”เมื่อได้ยินดังนั้น ดวงตาของหลินเซียงก็เบิกกว้างขึ้นเรื่อย ๆ มือของเธอกำขนมปังกรอบแน่นความเป็นไปได้นี้ เธอไม่เคยคิดถึงมาก่อน!เมื่อคิดดูให้ดี ไม่ว่าจะเป็นวิดีโอหรือรูปถ่ายที่ลู่สือเยี่ยนให้เธอดู ‘จ้าวข่าย’ คนนั้นสวมหมวกและหน้ากากตลอดเวลา มองจากรูปร่างก็คิดว่าเป็นจ้าวข่ายได้ไม่ยากแต่ถ้าไม่ใช่ล่ะ?ถ้าเป็นแค่คนที่มีรูปร่างคล้ายกับจ้าวข่ายมาก ๆ ล่ะ?เมื่อนึกถึงห้องใต้ดินที่มืดมิด จ้าวข่ายที่ล้มลุกคลุกคลานอยู่บนพื้น พยายามอธิบายด้วยความเจ็บปวดเขาพูดมาตลอดว่าเขาไม่ได้ขโมย เ
“ตกใจมากใช่ไหม?” ซ่งจั่วมองสีหน้าตกตะลึงของเขาแล้วยิ้มขมขื่น“แหงล่ะ พวกเราทุกคนคิดว่าเซี่ยหว่านเป็นคนช่วยท่านประธานลู่จริง ๆ ถือว่าเธอเป็นผู้มีบุญคุณอย่างมาก แต่ต่อมาพวกเราก็รู้ความจริง เพื่อให้บรรลุเป้าหมายของตัวเอง เธอทำได้ทุกวิถีทาง”ซ่งจั่วเก็บแท็บเล็ต “ซือเยี่ยน สิ่งที่นายยึดมั่นมานานผิดทั้งหมด”“ทำไมเป็นแบบนี้?” ซือเยี่ยนพึมพำกับตัวเอง “ทำไมเป็นแบบนี้ไปได้?”ลู่สือเยี่ยนมองเขาอย่างเย็นชา “อยู่กับฉันมานานขนาดนี้ หัวคิดไม่มีความก้าวหน้าเลยสักนิด”ซือเยี่ยนตัวสั่น มองลู่สือเยี่ยนด้วยสายตาอ้อนวอน “ท่านประธานลู่ครับ ผมรู้ตัวแล้วว่าผิด ผมสำนึกผิดจริง ๆ ได้โปรดให้โอกาสผมอีกครั้ง…”เสียงของเขาเริ่มสั่นเครือ ตัวสั่นสะท้านอย่างรุนแรงเพราะเขารู้ว่าลู่สือเยี่ยนจะไม่ให้โอกาสเขาอีกลู่สือเยี่ยนมองเขาอย่างเย็นชา แล้วพูดกับซ่งจั่วว่า “ตัดเอ็นข้อมือข้อเท้าเขาซะ แล้วเอาไปทิ้งที่สามเหลี่ยมปากแม่น้ำ”“ครับ”ซ่งจั่วรู้สึกสงสาร แต่นี่เป็นคำสั่งของลู่สือเยี่ยนลู่สือเยี่ยนหันหลังเดินจากไปซือเยี่ยนมองตามลู่สือเยี่ยนที่จากไปด้วยสีหน้าสิ้นหวัง ในดวงตาเต็มไปด้วยความเสียใจ!…หลินเซียงออกมา
สวีซินหรานหยิบโทรศัพท์ออกมากดโทรออก ในระหว่างนั้น สายตาของเธอมองไปยังหลินเซียงที่อยู่ไม่ไกลนัก ในดวงตาปรากฏความเคียดแค้น“ฮัลโหล คุณเซี่ย ช่วยฉันหน่อยได้ไหม? ฉันอยากฆ่าหลินเซียง นังสารเลวนั่น!”…ซืออวี่สังเกตเห็นความผิดปกติของหลินเซียงเธอเย็นชามาก ไม่สนใจอะไรเลย แต่ก็ยังคงทำงานที่ได้รับมอบหมายได้เป็นอย่างดีซืออวี่บอกข่าวนี้กับลู่สือเยี่ยนในขณะนั้น ลู่สือเยี่ยนกำลังดูสิ่งที่ซ่งจั่วได้มาจากการสืบสวน คิ้วขมวดแน่นฉินโหย่วหานจับเซี่ยหว่านขังไว้ในตู้คอนเทนเนอร์ ถือเป็นการแก้แค้นแทนหลินเซียง แต่สิ่งนี้เกี่ยวข้องอะไรกับการเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์ของเธอกัน?ลู่สือเยี่ยนพูดเสียงต่ำ “จับตาดูซือเยี่ยนไว้ เขาดูไม่ปกติ”ซ่งจั่วชะงัก “คงไม่ใช่มั้งครับ เขาคอยปกป้องคุณหลินมาตลอดไม่ใช่เหรอ?”ลู่สือเยี่ยนพูดอย่างเย็นชา “บอกให้ไปก็ไป ทำไมต้องพูดมาก?”ซ่งจั่ว “ครับ”การตรวจสอบพฤติกรรมของซือเยี่ยนเป็นเรื่องง่ายสำหรับเขา แต่เมื่อเขาเห็นสิ่งที่ได้จากการตรวจสอบ เขาก็ตกใจมากช่วงเย็น ซ่งจั่วก็นำหลักฐานที่ได้มาส่งให้ลู่สือเยี่ยนเขามองลู่สือเยี่ยนอย่างหวาดหวั่น มือที่กำแน่นมีเหงื่อออกลู่สือเยี่ย
เขามองซ่งจั่วอย่างเย็นชา “เธอเป็นอะไรไป?”ซ่งจั่วทำหน้างง “ผม ผมไม่รู้ครับ”ตอนเจอหลินเซียงที่โรงพยาบาลก่อนหน้านี้ เธอยังไม่เป็นแบบนี้ แต่หลินเซียงตอนนี้ เรียกได้ว่าเย็นชาและไม่เป็นมิตรอย่างมากช่วงนี้เกิดอะไรขึ้นกับเธอ?ลู่สือเยี่ยนพูดเสียงเย็น “ไปสืบมาให้ชัดเจน”“ครับ” ซ่งจั่วพยักหน้าลู่สือเยี่ยนไม่ออกไป แต่ไปที่ชั้นใต้ดิน ราวกับนึกอะไรขึ้นมาได้จึงพูดว่า “เรียกซือเยี่ยนมาพบฉัน”“ครับ”ดีเค กรุ๊ปทันทีที่ลู่สือเยี่ยนเข้าไปในห้องส่วนตัวของประธาน ซือเยี่ยนก็เคาะประตูห้อง“เข้ามา”ซือเยี่ยนเปิดประตูเข้าไป สีหน้าค่อนข้างเกร็ง “ท่านประธานลู่”ลู่สือเยี่ยนนั่งลงบนเก้าอี้ ถามด้วยเสียงเย็นชา “นายติดตามหลินเซียงมาตลอด เห็นความผิดปกติของเธอบ้างไหม?”ดวงตาของซือเยี่ยนกะพริบเล็กน้อย เมื่อคืนเขาไม่ได้ติดตามหลินเซียงตลอดเวลา แต่เรื่องก่อนหน้านี้ก็ยังพอจะตอบคำถามได้“ฉินโหย่วหานไปรับคุณหลิน แล้วทั้งสองคนไปที่ชายหาด ที่เดียวกับที่ที่คุณหลินถูกจับตัวไปครั้งก่อน” ซือเยี่ยนเริ่มเล่าเมื่อได้ยินดังนั้น ลู่สือเยี่ยนก็หรี่ตาลงเล็กน้อย “พวกเขาไปที่นั่นทำไม?”ซือเยี่ยน “ผม ผมไม่ทราบครับ ผมอย
สีหน้าของหลินเซียงชะงักไปเล็กน้อย นิ้วที่กำโทรศัพท์แน่นขึ้น เสียงพูดแห้งผาก “ฉันเหมือนจะไม่เคยพูดว่าเขารักฉันนี่คะ”เซี่ยซือซือถอนหายใจ “หลินเซียง พวกเราแพ้แล้ว”หลินเซียงหลับตาลง “ขอโทษนะคะ คุณเซี่ย แผนการฉันดันไปดึงคุณลงมาซวยด้วย ถ้ามันสร้างความเสียหายอะไรให้คุณ คุณบอกฉันได้เลย”เซี่ยซือซือหัวเราะขมขื่น “ไม่ ไม่มีอะไรเสียหาย ฉันเต็มใจร่วมมือกับคุณเอง ไม่ว่าผลที่ตามมาจะเป็นยังไง ฉันก็ต้องรับผิดชอบ”หลินเซียงพูดอะไรไม่ออก เพราะพวกเขาไม่เคยคิดว่าเรื่องราวจะดำเนินไปในทิศทางนี้ไม่เคยคิดเลยว่าลู่สือเยี่ยนจะยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือเซี่ยหว่านทำไมกัน?คำถามนี้ เธอคิดไม่ตกมาตลอดทำไมเขาต้องช่วยเซี่ยหว่าน?ในใจของหลินเซียง ตอนนี้มีความรู้สึกอยากจะไปหาลู่สือเยี่ยน ถามเขาว่านี่มันหมายความว่ายังไงกันแน่เสียงของเซี่ยซือซือดังขึ้น “หลินเซียง ฉันขอจัดการเรื่องของตัวเองก่อน มีความคืบหน้าอะไร เราค่อยติดต่อกันใหม่”“ค่ะ”หลังจากวางสายหลินเซียงยังคงอยู่ในสภาพเหม่อลอยไม่รู้ทำไม เสียงของเซี่ยซือซือถึงดังก้องอยู่ในหูเธอซ้ำแล้วซ้ำเล่าลู่สือเยี่ยนรักเธอจริงเหรอ?เคยรักจริง ๆ บ้างหรือเปล่า?