หลินเซียงจ้องมองเขาอย่างแน่วแน่ แล้วพูดว่า “ลุงจ้าวไม่ใช่คนแบบนั้น”ลู่สือเยี่ยนหัวเราะเบา ๆ “อยากพนันกันไหมล่ะ?”หลินเซียงกำตะเกียบในมือแน่น ก่อนจะพยักหน้า “ได้ พนันอะไร?”ลู่สือเยี่ยนกล่าว “ถ้าเขาได้รับค่าชดเชยจากผม แล้วยอมออกจากเมืองอวิ๋นเฉิง คุณห้ามพูดถึงเรื่องหย่าอีก”หลินเซียงกัดฟัน พยักหน้ารับ “ได้ แต่ถ้าจนแล้วจนรอดเขาไม่ยอมรับค่าชดเชย เราหย่ากัน และคุณต้องปล่อยตัวจ้าวข่ายทันที”ลู่สือเยี่ยนพูดเสียงเรียบ “หลินเซียง นี่เป็นสองเงื่อนไขนะ”หลินเซียงลังเลเล็กน้อย แล้วพูดว่า “ปล่อยตัวจ้าวข่าย”ลู่สือเยี่ยนจ้องมองเธออย่างแน่วแน่ “ตกลง”หลินเซียงเชื่อว่าคนอย่างลุงจ้าวจะไม่ทิ้งลูกชายตัวเองไปเพราะเงิน แม้แต่ตัวเขาเองยังบอกเลยว่า นั่นคือลูกคนเดียวของเขา!หลังจากทานอาหารเสร็จ ลู่สือเยี่ยนก็จากไปทันทีส่วนหลินเซียงก็ติดต่อนายหน้าเพื่อหาบ้านนายหน้าทำงานได้รวดเร็วมาก ส่งบ้านมาให้ดูหลายหลัง หลินเซียงก็ไปดูทำเลทันทีสุดท้ายก็เลือกบ้านหลังเล็กสองห้องนอน เช่าเป็นระยะเวลาสามเดือนกว่าจะเสร็จธุระทุกอย่างก็บ่ายแล้วหลินเซียงโทรหาลุงจ้าวทันที“ลุงคะ ฉันหาบ้านได้แล้ว เดี๋ยวจะไปรับลุงนะ
แต่ทันทีที่เขาพูดจบ เสียงกริ่งประตูก็ดังขึ้นด้วยประสบการณ์ที่เคยถูกไล่ออกไปหลายครั้ง ลุงจ้าวไม่ได้เปิดประตูทันที แต่ไปดูที่ช่องส่องตาแมวมีผู้ชายสองคนแต่งตัวด้วยชุดสูทยืนอยู่ด้านนอกทางโทรศัพท์ หลี่ซูฮว๋าภรรยาของเขายังคงพูดตะกุกตะกักอย่างไม่เป็นศัพท์ เห็นได้ชัดว่าตกใจมากเสียงกริ่งประตูดังขึ้นอีกครั้ง ลุงจ้าวตกใจอย่างเห็นได้ชัด เขาพูดว่า “อย่าเพิ่งทำอะไรนะ ขอผมคุยธุระเดี๋ยว”พูดจบ เขาก็วางสาย แล้วเปิดประตูทันที“พวกคุณเป็นใคร?”หนึ่งในผู้ชายสวมชุดสูทยื่นมือออกมา ยิ้มแย้มแจ่มใส แล้วพูดว่า “คุณจ้าวครับ ผมเป็นผู้ช่วยประธานบริษัทดีเคกรุ๊ป ชื่อซ่งจั่ว ส่วนนี่คือทนายความเจียงหาน เราสองคนมาเพื่อคุยเรื่องบางอย่างกับคุณครับ ไม่ทราบว่าคุณสะดวกไหม?”ลุงจ้าวจ้องมองพวกเขาอย่างระมัดระวัง พวกเขาไม่ใช่เจ้าของบ้าน ไม่ได้มาไล่เขาออกไป งั้นพวกเขามาทำอะไร?ลุงจ้าวหลีกทางให้ “เชิญเข้ามาก่อนครับ”ซ่งจั่วพยักหน้าเล็กน้อย แล้วเข้าไปในบ้านพร้อมกับเจียงหานพอนั่งลงบนโซฟา เจียงหานหยิบเอกสารสองฉบับวางไว้บนโต๊ะลุงจ้าวถาม “นี่คืออะไร?”ซ่งจั่วยิ้มแล้วพูดว่า “คุณจ้าวครับ เชื่อว่าคุณคงรู้แล้ว เรื่องที่
หลินเซียงกลับถึงบ้าน ทันทีที่เปิดประตูก็ได้รับโทรศัพท์จากซ่งซ่ง“เซียงเซียงที่รัก ฉันกำลังจะกลับแล้ว มีอะไรอยากกินเป็นพิเศษไหม? ที่นี่ของกินอร่อยอยู่นะ” เสียงสดใสของซ่งซ่งดังขึ้นหลินเซียงเพิ่งนึกถึงเรื่องที่เธอได้รับบาดเจ็บอยู่ แต่พอได้ยินเสียงที่เปี่ยมไปด้วยพลังของซ่งซ่ง ใจเธอก็สงบลง“ซื้ออะไรมาก็ได้ ฉันกินได้หมดแหละ” หลินเซียงตอบพร้อมรอยยิ้มซ่งซ่ง “งั้นฉันจะเลือกของที่เธอชอบนะ”“ได้เลย”หลินเซียงตอบรับ ถือแก้วน้ำนั่งลงบนโซฟา เปิดลำโพงแล้วถามว่า “แผลหายสนิทแล้วเหรอ?”“อืม…” ซ่งซ่งตอบ “แหงสิ ฉันเล่นสนุกจนพอแล้ว ต้องกลับมาอยู่ข้าง ๆ เธอแล้ว ไม่งั้นเดี๋ยวข้างกายเธอจะมีนางฟ้าคนอื่นมาแย่งตำแหน่งฉันไปซะหมด?”หลินเซียงหัวเราะออกมา “ไม่มีหรอก ฉันมีเธอคนเดียว”ซ่งซ่ง “จริงเหรอ? ฉันบอกลู่สือเยี่ยนได้ไหม? ถ้าบอกเขา เขาจะฆ่าฉันหรือเปล่า?”หลินเซียงกล่าวว่า “เขาไม่กล้าหรอก”ซ่งซ่ง “เชอะ ๆ ฟังน้ำเสียงเธอแล้วเหมือนเธอควบคุมเขาได้เลยนะ เล่าให้ฉันฟังหน่อยสิว่าช่วงนี้เกิดอะไรขึ้นบ้าง?”สีหน้าของหลินเซียงดูเคร่งเครียดขึ้นเล็กน้อย “ไม่มีอะไรเกิดขึ้นทั้งนั้น ฉันไม่ได้ควบคุมเขา ฉันกับเขากำลัง
เมื่อได้ยินเช่นนั้น สีหน้าของลู่สือเยี่ยนเย็นชาลงอย่างสิ้นเชิงเธอคิดว่าเขาจะใช้คนอื่นมาขู่จ้าวต้าผิงให้ยอมจำนนเหรอ?เธอเห็นเขาเป็นคนแบบนั้นหรือไง?น้ำเสียงของลู่สือเยี่ยนแสนจะเย็นชา “หลินเซียง คุณเอาแต่พูดว่าผมไม่เชื่อใจคุณ แล้วคุณเองล่ะ?”“อะไรนะ?”หลินเซียงตกใจ แต่ลู่สือเยี่ยนไม่ได้ให้คำตอบ กลับวางสายไปดื้อ ๆหลินเซียงมองโทรศัพท์ที่ถูกวางสาย ก่อนจะกะพริบตาอย่างไม่เข้าใจเขาหมายความว่ายังไง?กำลังกล่าวหาว่าเธอไม่เชื่อใจเขาเหรอ?หลินเซียงกัดริมฝีปาก เธอไม่คิดว่าตัวเองผิดสิ่งที่เขาทำ มีครั้งไหนที่ทำให้เธอไว้ใจได้บ้าง?เธอยิ้มเยาะ แล้วก็เลิกคิดเรื่องนี้ไปท้องฟ้าค่อย ๆ มืดลงห้องทำงานของประธานบริษัทสว่างไสวเหมือนกลางวัน สีหน้าของลู่สือเยี่ยนดูไม่สู้ดีนักโทรศัพท์ของเขาดังขึ้น เขาไม่คิดจะรับมัน แต่พอคิดอะไรบางอย่างขึ้นมา ดวงตาของเขาก็เป็นประกายแต่เมื่อเห็นว่าเป็นโทรศัพท์จากลู่เจิ้งหรง ดวงตาของเขาก็กลับมามืดมนอีกครั้ง“ครับ พ่อ”น้ำเสียงของลู่เจิ้งหรงเย็นชา “ลู่สือเยี่ยน นี่มันหมายความว่ายังไง? ทำไมยังไม่จัดการกับไอ้หัวขโมยนั่นอีก? ทุกวันก็แค่สั่งให้คนตี แล้วเราจะได้อะไ
พอคิดถึงเซี่ยหว่านที่พอเจอหน้าลู่สือเยี่ยนก็พูดถึงแต่เรื่องอุบัติเหตุเมื่อสองปีก่อน ทำท่าทางเหมือนจะทวงบุญคุณ เขาก็รู้สึกขยะแขยงขึ้นมาทันทีบุญคุณชดใช้กันแบบนี้เหรอ?ยิ่งไปกว่านั้น เรื่องอุบัติเหตุในครั้งนั้น จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีข้อสรุปที่แน่ชัดทั้งสองคนตรงไปที่บาร์เจวี๋ยเซ่อผู้คนชั้นล่างกำลังสนุกสนานกับงานเลี้ยงยามค่ำคืน ลู่สือเยี่ยนนั่งอยู่ที่โต๊ะริมหน้าต่าง มองดูความครึกครื้นเบื้องล่าง นิ้วเรียวยาวสวยงามจับแก้วไวน์ ค่อย ๆ จิบทีละแก้ว ทีละแก้วฟู่จิ่นซิ่วเห็นท่าทางเย็นชาของเขา ก็อดไม่ได้ที่จะแซว "เป็นอะไรไป ถึงมานั่งดื่มเหล้าคนเดียวแบบนี้? มีเรื่องอะไรให้นายไม่สบายใจขนาดนั้น?"ลู่สือเยี่ยนมองเขาแวบหนึ่ง แล้วถามขึ้นมาทันทีว่า "ทำไมหลินเซียงถึงอยากหย่ากับฉันนัก?"สายตาของเขาจับจ้องอยู่ที่แก้วไวน์ น้ำเสียงทุ้มลึก "แต่งงานกับฉันมันไม่ดีตรงไหน?"เขาทำให้ฐานะของเธอสูงส่งขึ้น สามารถทำให้เธอได้ในสิ่งที่เธอเคยไขว่คว้า แล้วพวกเขาก็มีความสุขกันดีตอนทำกิจกรรมบนเตียงเขาคิดไม่ตก ทำไมถึงอยากหย่า?ฟู่จิ่นซิ่วเห็นเขาท่าทางเหมือนคนกำลังมีปัญหาเรื่องความรักก็ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะถามว่
เสียงเคาะประตูทำให้หลินเซียงไม่อยากเปิด เพราะยังจำการโทรศัพท์ที่ไม่พึงประสงค์เมื่อครู่ได้ แต่ตอนนี้ดึกมากแล้ว ท่าทางของเขาเหมือนจะเคาะไม่หยุดจนกว่าเธอจะเปิดประตูหลินเซียงเปิดประตูด้วยความจำใจ “คุณมาทำอะไรอีก…อื้อ…”แต่เธอยังพูดไม่จบ ร่างสูงใหญ่ของเขาก็โน้มตัวเข้ามา ฝ่ามือร้อนประคองใบหน้าเธอ แล้วจูบลงมาไม่ยั้งเขาตัวหนักมาก แรงกดทับทำให้เธอถอยหลังจนขาไปชนกับโซฟา เข่าอ่อนจนล้มนั่งลงไปตลอดเวลา ลู่สือเยี่ยนไม่ยอมปล่อยเธอ จูบร้อนแรง ลมหายใจพัวพันกันเป็นหนึ่ง เหมือนจะดูดพลังเธอออกไปจนหมดหลินเซียงเริ่มรับมือไม่ไหว ตาแดงก่ำ เนื้อตัวอ่อนระทวย รู้สึกว่าชุดนอนถูกถกขึ้นมาจนถึงเอว เธอจึงรู้สึกตัว“ลู่สือเยี่ยน…”เธอเรียกชื่อเขาด้วยเสียงอู้อี้ เขาเมาเหล้า กลิ่นเหล้าแรงมาก ลมหายใจร้อนผ่าวเผาผลาญเธอ ร่างกายสั่นเทาอย่างไม่รู้ตัว“หืม?”ลู่สือเยี่ยนตอบรับ จับมือเล็ก ๆ ของเธอไปวางบนเข็มขัด หัวเข็มขัดเย็นเฉียบ ปลายนิ้วหลินเซียงหดเกร็ง“ฉันไม่อยาก ฉันไม่เอา…”เธอต่อต้าน ไม่อยากทำอย่างนั้นกับเขา! สถานการณ์ตอนนี้ไม่ควรทำอย่างนั้นเลย!แต่ลู่สือเยี่ยนกดดันเธอ ลมหายใจร้อนแรงทำเอาผิวแทบไหม้ เสียงท
หลินเซียงดิ้นรนรุนแรงยิ่งขึ้น ไม่อยากอยู่ในท่านี้กับเขา ไม่อยากใกล้ชิดกับเขาขนาดนี้เขาไม่ใช่อาเยี่ยน!นับตั้งแต่เขาฟื้นความทรงจำ อาเยี่ยนก็ได้ตายไปแล้ว!ดวงตาของหลินเซียงเริ่มร้อนผ่าว น้ำเสียงสั่นเครือ “ลู่สือเยี่ยน ลุกเดี๋ยวนี้”ลู่สือเยี่ยนได้ยินความผิดปกติในอารมณ์ของเธอ เขาเงยหน้าขึ้นมอง นิ้วมือแตะที่หางตาของเธอ แล้วเช็ดเบา ๆ“เซียงเซียง คุณร้องไห้”น้ำเสียงทุ้มต่ำอ่อนโยน ชั่วขณะหนึ่ง หลินเซียงรู้สึกเหมือนย้อนกลับไปเมื่อหกเดือนก่อน เพียงประโยคเดียวก็ทำลายกำแพงที่แข็งแกร่งในหัวใจของเธอ อารมณ์ของเธอปะทุออกมา น้ำตาไหลไม่หยุดลู่สือเยี่ยนตกใจเล็กน้อย ก่อนจะก้มลงพรมจูบน้ำตาของเธอทีละหยด ท่าทางอ่อนโยนอย่างเป็นอย่างมากแต่หลินเซียงใช้จังหวะนี้ผลักเขาออก วิ่งเข้าห้องนอนทันที!แล้วล็อกประตู เสียงหัวใจเต้นดังสนั่น!เธอยืนพิงประตู หายใจหอบ น้ำตายังคงไหลไม่หยุด ก่อนจะรีบไปห้องน้ำล้างหน้าด้วยน้ำเย็น เพื่อให้ตัวเองสงบลงต้องสงบสติอารมณ์เขาไม่ใช่อาเยี่ยนเขาฆ่าอาเยี่ยนของเธอเสียงเคาะประตูดังขึ้น เสียงไพเราะของลู่สือเยี่ยนดังขึ้น “เซียงเซียง เปิดประตู”หลินเซียงไม่ตอบ ตอนนี้อารม
หลินเซียงรู้สึกกระหายน้ำ จึงลุกขึ้นไปดื่มน้ำพอเปิดประตูออกไปก็เห็นว่าไฟในห้องนั่งเล่นยังเปิดอยู่ ร่างสูงใหญ่ของลู่สือเยี่ยนนอนอยู่บนโซฟา แขนของเขาวางพาดอยู่บนหน้าผาก บังใบหน้าไว้ครึ่งหนึ่งหลินเซียงตกใจ เขายังไม่ไปอีกเหรอ?โซฟาเป็นโซฟาสามที่นั่ง ความสูงของเขาพอนอนบนนั้นแล้วค่อนข้างอึดอัด ถ้าไม่ระวังก็อาจพลิกตัวตกลงมาได้หลินเซียงรินน้ำ ดื่มน้ำไปด้วย พลางมองเขาไปด้วยราวกับได้ยินเสียง ลู่สือเยี่ยนวางมือลง แล้วลืมตาขึ้นมองเธอหลินเซียงวางแก้วน้ำลง แล้วถามทันที “ลู่สือเยี่ยน ก่อนหน้านี้คุณพยายามหลีกเลี่ยงอดีตของเรา แต่ในวันนี้กลับแสดงด้านนั้นออกมา ตั้งใจจะให้ฉันยกเลิกการเดิมพัน ล้มเลิกความคิดเรื่องหย่าใช่ไหม?”ลู่สือเยี่ยนลุกขึ้นนั่ง เสื้อเชิ้ตของเขามีรอยยับเพิ่มขึ้น พอปรับสายตาเข้ากับแสงไฟได้แล้ว เขาก็หรี่ตามองเธอตรง ๆหลินเซียงรู้สึกหัวใจเริ่มหนักอึ้งริมฝีปากบางของลู่สือเยี่ยนโค้งขึ้นเล็กน้อย “คุณชอบแบบนี้ไม่ใช่เหรอ?”ก็ใช่น่ะสิ!เพื่อไม่ให้หย่า เขายอมใช้ทุกวิธีจริง ๆ!ดวงตาของหลินเซียงเต็มไปด้วยความโกรธลู่สือเยี่ยนหยิบบุหรี่ขึ้นมาจุดไฟ แล้วสูบเข้าไปคำหนึ่ง แก้มทั้งสองข้
ซ่งซ่งนอนไม่หลับ พลิกตัวไปมาอยู่บนเตียง ทั้งตื่นเต้นและกังวลใจ เมื่อคิดว่าตัวเองกำลังจะออกจากเมืองอวิ๋น ออกไปจากฟู่จิ่นซิ่ว คนที่น่ารังเกียจนั่น เธอก็รู้สึกตื่นเต้นแทบแย่แทบนับเวลาถอยหลัง“ปัง ปัง ปัง!”แต่ในขณะนั้นเอง เสียงเคาะประตูดังสนั่นก็ดังขึ้นซ่งซ่งตกใจ รีบลุกขึ้นมองออกไปข้างนอก เด็กผู้หญิงก็ตกใจตื่นเช่นกัน “ใครน่ะ?”ในใจของซ่งซ่งมีความรู้สึกไม่ดีแวบเข้ามา หรือว่าเขาจะตามทันแล้ว?เร็วขนาดนี้เลยเหรอ?เธอลุกจากเตียงพูดว่า “ฉันไปดูเอง พวกเธออย่าออกมาล่ะ”เด็กผู้หญิงกังวลใจ “ซ่งซ่ง จะไม่เป็นไรใช่ไหม?”ซ่งซ่งพยักหน้า “ไม่ต้องห่วง ไม่มีอะไรหรอก”เธอสวมเสื้อผ้าออกจากบ้าน “ใคร?”เธอถามอย่างระมัดระวัง“ซ่งซ่ง ฉันเอง รีบออกมาเร็ว!”เสียงของหลินเซียงดังขึ้นที่หน้าประตูซ่งซ่งชะงัก รีบไปเปิดประตู “ที่รัก กลับมาทำไม?”เธอไม่ได้กลับบ้านไปแล้วเหรอ?พอคำนวณเวลาแล้ว ตอนนี้ควรจะถึงเฟิงหลินหย่วนแล้วสิหลินเซียงจับข้อมือเธอ สีหน้ากระวนกระวาย “ฉันเห็นรถของฟู่จิ่นซิ่ว เขาหาเธอเจอแล้ว ไปกันเร็ว!”เมื่อได้ยินดังนั้น ซ่งซ่งก็ตกตะลึง “หาฉันเจอแล้ว? หาฉันเจอได้ยังไง?”การเคลื่อนไหวขอ
หลินเซียงใส่ขนมปังกรอบลงในถุง จัดเตรียมให้เรียบร้อย พลางพูดว่า “เวลาจำกัด ฉันเลยทำแค่อาหารที่เก็บรักษาง่ายและรสชาติใช้ได้ ให้เธอมีอะไรรองท้องระหว่างทาง”เมื่อได้ยินแบบนั้น ซ่งซ่งก็กะพริบตา แล้ววิ่งเข้ามากอดเธอ “ที่รัก ทำไมน่ารักแบบนี้นะ หรือพวกเราหนีไปด้วยกันเลยดีไหม!”หลินเซียงยิ้ม “พอแล้ว ไปล้างหน้าเร็ว ฉันจะไปส่งเธอที่ชานเมือง”รถบัสรอบแรกมาถึงพรุ่งนี้เช้า ซ่งซ่งต้องไปรอตั้งแต่คืนนี้แต่ซ่งซ่งส่ายหน้า “ไม่ต้อง ฉันติดต่อคนไว้แล้ว เธอพักผ่อนที่บ้านเถอะ ฉันไม่เป็นไร”หลินเซียงพูดว่า “ไม่ได้ ถ้าฉันไม่ไปส่งเธอด้วยตัวเอง ฉันไม่สบายใจ”ซ่งซ่งมองสีหน้าจริงจังของเธอ รู้ว่าเธอตัดสินใจแล้ว จึงกอดเธออีกครั้ง “ฮือ ฮือ ไม่อยากจากเธอเลย”หลินเซียงพาเธอไปที่ห้องน้ำ ดูแลเธอขณะล้างหน้าล้างตา ตรวจสอบสิ่งของที่จำเป็นอาหาร เครื่องดื่ม และของใช้ส่วนตัวง่าย ๆ ล้วนเป็นแบบใช้แล้วทิ้งอืม เกือบครบแล้วหลังจากจัดของเสร็จ ทั้งสองคนก็อยู่ด้วยกันอีกพักหนึ่ง ก่อนจะออกเดินทางตอนตีสองเมืองอวิ๋นในยามดึกเงียบสงบ ถนนแทบไม่มีรถสัญจร ผู้คนยิ่งไม่มีหลินเซียงขับรถไปทางชานเมือง ส่วนซ่งซ่งก็พูดถึงความหวังในอน
หลินเซียง “…”แม้ว่าครั้งที่แล้วจะสังเกตเห็นความผิดปกติของคนทั้งสอง แต่เมื่อได้ยินสิ่งที่ซ่งซ่งพูดออกมาในตอนนี้ เธอก็พูดอะไรไม่ออกการที่เรื่องราวพัฒนามาถึงจุดนี้ จริง ๆ แล้วมีร่องรอยให้เห็นฟู่จิ่นซิ่วให้ความสนใจกับซ่งซ่งมากเกินไป และซ่งซ่งก็ไม่ได้ระวังตัวเพียงแต่…ตอนนี้เพิ่งจะคิดได้ จะสายเกินไปหรือเปล่า?หลินเซียงพูดความกังวลของตัวเองออกมาซ่งซ่งเข้ามาใกล้ และกระซิบว่า “ที่รัก ฉันวางแผนไว้แล้ว ฉันจะไม่นั่งเครื่องบินหรือรถไฟ แต่จะนั่งรถบัสไป เป็นรถบัสแบบที่วิ่งตามท้องถนนในชนบท ตราบใดที่ฉันออกจากเมืองอวิ๋นไปได้อย่างปลอดภัย ถึงเขาจะอยากหาฉันก็หาไม่เจอ”หลินเซียงขมวดคิ้ว “แต่แบบนั้นไม่ปลอดภัยนะ”ซ่งซ่ง “ตอนนี้ฉันยังต้องสนใจเรื่องความปลอดภัยอยู่อีกเหรอ? ถ้ายังอยู่ในเมืองอวิ๋น ฉันก็ไม่ปลอดภัยอยู่ดี ฉันเลยต้องคิดแล้วตัดสินใจไปแบบกะทันหัน เขาคงเดาไม่ได้ว่าฉันจะไปเมื่อไหร่”หลินเซียงยังคงรู้สึกไม่ดี เปลี่ยนมาถามว่า “แล้วงานของเธอล่ะ?”ซ่งซ่งพูดว่า “ฉันขอลาออกแล้ว และวันนี้ก็เริ่มส่งใบสมัครงาน สร้างภาพลวงตาว่าฉันแค่อยากเปลี่ยนงานเฉยๆ”เธอวางแผนทุกอย่างไว้แล้ว หลินเซียงไม่รู้จะพูดอะ
บรรยากาศในลิฟต์ค่อนข้างแปลกประหลาดมีความเย็นชาปะปนกับความผ่อนคลาย บรรยากาศที่กดดันแผ่ซ่านไปทั่ว แต่เมื่อปะทะกับฉินโหย่วหานและหลินเซียง มันก็หายไปความรู้สึกแปลกประหลาดที่อธิบายไม่ได้ ทำให้รู้สึกอึดอัดลิฟต์เคลื่อนขึ้นไปอย่างราบรื่น ไม่นานประตูลิฟต์ก็เปิดออก ลู่สือเยี่ยนก้าวออกไปด้วยสีหน้าเย็นชาเป็นอย่างมากฉินโหย่วหานมองตามแผ่นหลังของเขา เลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยด้วยความประหลาดใจ เขาไม่ทำอะไรเลย นี่ไม่เหมือนนิสัยปกติของเขาหรือว่าเขาจะยอมปล่อยหลินเซียงแล้วจริง ๆ?ประตูลิฟต์ปิดลง สายตาของฉินโหย่วหานจับจ้องไปที่ใบหน้าของหลินเซียง แต่เห็นเธอมองประตูลิฟต์อย่างเหม่อลอยไม่ใช่สิ่งที่เธอมองน่าจะเป็นลู่สือเยี่ยนเพียงแต่ตอนนี้ประตูลิฟต์ปิดลง บดบังสายตาของเธอไว้ในดวงตาของฉินโหย่วหานมีความเย็นชาเพิ่มขึ้น เขาถามว่า “คิดอะไรอยู่?”ขนตาของหลินเซียงสั่นเล็กน้อย “ฉันแค่คิดว่า ในเรื่องนี้ เขากำลังรับบทบาทเป็นอะไร”ฉินโหย่วหานกล่าวว่า “ไม่ว่าเขาจะแสดงบทบาทไหน ก็ไม่เกี่ยวกับพวกเราแล้ว”หลินเซียงเหม่อลอยไปครู่หนึ่งแล้วพยักหน้า “คุณพูดถูก”เธอและลู่สือเยี่ยนหย่ากันแล้วดังนั้นจึงไม่มีความเกี่
ฉินโหย่วหานครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดว่า “บอกเรื่องที่คุณรู้ทั้งหมดให้ผมฟังหน่อย”หลินเซียงพยักหน้า เล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เขาฟังอย่างละเอียดครู่หนึ่ง ฉินโหย่วหานก็หัวเราะเบา ๆหลินเซียงมองเขา “เป็นอะไรไป?”ฉินโหย่วหานพูดว่า “หลินเซียง ผมขอเดาแบบบ้า ๆ เลยนะ”“พูดมาก่อนค่ะ” หลินเซียงมองเขาอย่างจริงจัง ในดวงตาเต็มไปด้วยความสงสัยฉินโหย่วหานจอดรถข้างทาง เอามือวางบนพวงมาลัย บนใบหน้าหล่อเหลาและอ่อนโยนปรากฏรอยยิ้มขบขัน “คุณว่ามีความเป็นไปได้ไหม ที่มีคนปลอมตัวเป็นจ้าวข่ายไปทำเรื่องพวกนั้น แล้วโยนความผิดให้เขา?”เมื่อได้ยินดังนั้น ดวงตาของหลินเซียงก็เบิกกว้างขึ้นเรื่อย ๆ มือของเธอกำขนมปังกรอบแน่นความเป็นไปได้นี้ เธอไม่เคยคิดถึงมาก่อน!เมื่อคิดดูให้ดี ไม่ว่าจะเป็นวิดีโอหรือรูปถ่ายที่ลู่สือเยี่ยนให้เธอดู ‘จ้าวข่าย’ คนนั้นสวมหมวกและหน้ากากตลอดเวลา มองจากรูปร่างก็คิดว่าเป็นจ้าวข่ายได้ไม่ยากแต่ถ้าไม่ใช่ล่ะ?ถ้าเป็นแค่คนที่มีรูปร่างคล้ายกับจ้าวข่ายมาก ๆ ล่ะ?เมื่อนึกถึงห้องใต้ดินที่มืดมิด จ้าวข่ายที่ล้มลุกคลุกคลานอยู่บนพื้น พยายามอธิบายด้วยความเจ็บปวดเขาพูดมาตลอดว่าเขาไม่ได้ขโมย เ
“ตกใจมากใช่ไหม?” ซ่งจั่วมองสีหน้าตกตะลึงของเขาแล้วยิ้มขมขื่น“แหงล่ะ พวกเราทุกคนคิดว่าเซี่ยหว่านเป็นคนช่วยท่านประธานลู่จริง ๆ ถือว่าเธอเป็นผู้มีบุญคุณอย่างมาก แต่ต่อมาพวกเราก็รู้ความจริง เพื่อให้บรรลุเป้าหมายของตัวเอง เธอทำได้ทุกวิถีทาง”ซ่งจั่วเก็บแท็บเล็ต “ซือเยี่ยน สิ่งที่นายยึดมั่นมานานผิดทั้งหมด”“ทำไมเป็นแบบนี้?” ซือเยี่ยนพึมพำกับตัวเอง “ทำไมเป็นแบบนี้ไปได้?”ลู่สือเยี่ยนมองเขาอย่างเย็นชา “อยู่กับฉันมานานขนาดนี้ หัวคิดไม่มีความก้าวหน้าเลยสักนิด”ซือเยี่ยนตัวสั่น มองลู่สือเยี่ยนด้วยสายตาอ้อนวอน “ท่านประธานลู่ครับ ผมรู้ตัวแล้วว่าผิด ผมสำนึกผิดจริง ๆ ได้โปรดให้โอกาสผมอีกครั้ง…”เสียงของเขาเริ่มสั่นเครือ ตัวสั่นสะท้านอย่างรุนแรงเพราะเขารู้ว่าลู่สือเยี่ยนจะไม่ให้โอกาสเขาอีกลู่สือเยี่ยนมองเขาอย่างเย็นชา แล้วพูดกับซ่งจั่วว่า “ตัดเอ็นข้อมือข้อเท้าเขาซะ แล้วเอาไปทิ้งที่สามเหลี่ยมปากแม่น้ำ”“ครับ”ซ่งจั่วรู้สึกสงสาร แต่นี่เป็นคำสั่งของลู่สือเยี่ยนลู่สือเยี่ยนหันหลังเดินจากไปซือเยี่ยนมองตามลู่สือเยี่ยนที่จากไปด้วยสีหน้าสิ้นหวัง ในดวงตาเต็มไปด้วยความเสียใจ!…หลินเซียงออกมา
สวีซินหรานหยิบโทรศัพท์ออกมากดโทรออก ในระหว่างนั้น สายตาของเธอมองไปยังหลินเซียงที่อยู่ไม่ไกลนัก ในดวงตาปรากฏความเคียดแค้น“ฮัลโหล คุณเซี่ย ช่วยฉันหน่อยได้ไหม? ฉันอยากฆ่าหลินเซียง นังสารเลวนั่น!”…ซืออวี่สังเกตเห็นความผิดปกติของหลินเซียงเธอเย็นชามาก ไม่สนใจอะไรเลย แต่ก็ยังคงทำงานที่ได้รับมอบหมายได้เป็นอย่างดีซืออวี่บอกข่าวนี้กับลู่สือเยี่ยนในขณะนั้น ลู่สือเยี่ยนกำลังดูสิ่งที่ซ่งจั่วได้มาจากการสืบสวน คิ้วขมวดแน่นฉินโหย่วหานจับเซี่ยหว่านขังไว้ในตู้คอนเทนเนอร์ ถือเป็นการแก้แค้นแทนหลินเซียง แต่สิ่งนี้เกี่ยวข้องอะไรกับการเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์ของเธอกัน?ลู่สือเยี่ยนพูดเสียงต่ำ “จับตาดูซือเยี่ยนไว้ เขาดูไม่ปกติ”ซ่งจั่วชะงัก “คงไม่ใช่มั้งครับ เขาคอยปกป้องคุณหลินมาตลอดไม่ใช่เหรอ?”ลู่สือเยี่ยนพูดอย่างเย็นชา “บอกให้ไปก็ไป ทำไมต้องพูดมาก?”ซ่งจั่ว “ครับ”การตรวจสอบพฤติกรรมของซือเยี่ยนเป็นเรื่องง่ายสำหรับเขา แต่เมื่อเขาเห็นสิ่งที่ได้จากการตรวจสอบ เขาก็ตกใจมากช่วงเย็น ซ่งจั่วก็นำหลักฐานที่ได้มาส่งให้ลู่สือเยี่ยนเขามองลู่สือเยี่ยนอย่างหวาดหวั่น มือที่กำแน่นมีเหงื่อออกลู่สือเยี่ย
เขามองซ่งจั่วอย่างเย็นชา “เธอเป็นอะไรไป?”ซ่งจั่วทำหน้างง “ผม ผมไม่รู้ครับ”ตอนเจอหลินเซียงที่โรงพยาบาลก่อนหน้านี้ เธอยังไม่เป็นแบบนี้ แต่หลินเซียงตอนนี้ เรียกได้ว่าเย็นชาและไม่เป็นมิตรอย่างมากช่วงนี้เกิดอะไรขึ้นกับเธอ?ลู่สือเยี่ยนพูดเสียงเย็น “ไปสืบมาให้ชัดเจน”“ครับ” ซ่งจั่วพยักหน้าลู่สือเยี่ยนไม่ออกไป แต่ไปที่ชั้นใต้ดิน ราวกับนึกอะไรขึ้นมาได้จึงพูดว่า “เรียกซือเยี่ยนมาพบฉัน”“ครับ”ดีเค กรุ๊ปทันทีที่ลู่สือเยี่ยนเข้าไปในห้องส่วนตัวของประธาน ซือเยี่ยนก็เคาะประตูห้อง“เข้ามา”ซือเยี่ยนเปิดประตูเข้าไป สีหน้าค่อนข้างเกร็ง “ท่านประธานลู่”ลู่สือเยี่ยนนั่งลงบนเก้าอี้ ถามด้วยเสียงเย็นชา “นายติดตามหลินเซียงมาตลอด เห็นความผิดปกติของเธอบ้างไหม?”ดวงตาของซือเยี่ยนกะพริบเล็กน้อย เมื่อคืนเขาไม่ได้ติดตามหลินเซียงตลอดเวลา แต่เรื่องก่อนหน้านี้ก็ยังพอจะตอบคำถามได้“ฉินโหย่วหานไปรับคุณหลิน แล้วทั้งสองคนไปที่ชายหาด ที่เดียวกับที่ที่คุณหลินถูกจับตัวไปครั้งก่อน” ซือเยี่ยนเริ่มเล่าเมื่อได้ยินดังนั้น ลู่สือเยี่ยนก็หรี่ตาลงเล็กน้อย “พวกเขาไปที่นั่นทำไม?”ซือเยี่ยน “ผม ผมไม่ทราบครับ ผมอย
สีหน้าของหลินเซียงชะงักไปเล็กน้อย นิ้วที่กำโทรศัพท์แน่นขึ้น เสียงพูดแห้งผาก “ฉันเหมือนจะไม่เคยพูดว่าเขารักฉันนี่คะ”เซี่ยซือซือถอนหายใจ “หลินเซียง พวกเราแพ้แล้ว”หลินเซียงหลับตาลง “ขอโทษนะคะ คุณเซี่ย แผนการฉันดันไปดึงคุณลงมาซวยด้วย ถ้ามันสร้างความเสียหายอะไรให้คุณ คุณบอกฉันได้เลย”เซี่ยซือซือหัวเราะขมขื่น “ไม่ ไม่มีอะไรเสียหาย ฉันเต็มใจร่วมมือกับคุณเอง ไม่ว่าผลที่ตามมาจะเป็นยังไง ฉันก็ต้องรับผิดชอบ”หลินเซียงพูดอะไรไม่ออก เพราะพวกเขาไม่เคยคิดว่าเรื่องราวจะดำเนินไปในทิศทางนี้ไม่เคยคิดเลยว่าลู่สือเยี่ยนจะยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือเซี่ยหว่านทำไมกัน?คำถามนี้ เธอคิดไม่ตกมาตลอดทำไมเขาต้องช่วยเซี่ยหว่าน?ในใจของหลินเซียง ตอนนี้มีความรู้สึกอยากจะไปหาลู่สือเยี่ยน ถามเขาว่านี่มันหมายความว่ายังไงกันแน่เสียงของเซี่ยซือซือดังขึ้น “หลินเซียง ฉันขอจัดการเรื่องของตัวเองก่อน มีความคืบหน้าอะไร เราค่อยติดต่อกันใหม่”“ค่ะ”หลังจากวางสายหลินเซียงยังคงอยู่ในสภาพเหม่อลอยไม่รู้ทำไม เสียงของเซี่ยซือซือถึงดังก้องอยู่ในหูเธอซ้ำแล้วซ้ำเล่าลู่สือเยี่ยนรักเธอจริงเหรอ?เคยรักจริง ๆ บ้างหรือเปล่า?