สีหน้าของหลินเซียงเย็นชา เธอคลานออกจากอ้อมแขนของเขา แต่เพียงเสี้ยววินาทีต่อมา เอวของเธอก็ถูกดึงกลับไปเรือนร่างแนบชิดกับแผงอกอันอบอุ่นของเขา ลมหายใจร้อนผ่าวของเขาระเรี่ยอยู่ใกล้ใบหูของเธอ ร้อนรุ่มจนแทบเผาไหม้“ทำไมตื่นเช้านักล่ะ?”เสียงของเขาในยามเช้าแหบพร่ากว่าปกติ และดูเหมือนว่าบางส่วนกำลังตื่นตัวหลินเซียงรู้สึกได้ถึงสิ่งนั้น ร่างกายของเธอแข็งทื่อ ไม่กล้าขยับเขยื้อนเพราะกลัวว่าเขาจะแสดงความต้องการทางเพศออกมาในทันที“ฉันหิว”เธอพูดเสียงเรียบเฉยลู่สือเยี่ยนกอดเธอแน่น ความร้อนแผ่ซ่านไปทั่วร่างกายของเธอ ราวกับจะหลอมละลายเธอไปเสีย“ผมก็หิวเหมือนกัน”เสียงของเขาแหบพร่าหนักกว่าเดิมหลินเซียงกะพริบตา ดูเหมือนจะนึกอะไรบางอย่างออกเขาไม่ยอมหย่า เพราะยังคงต้องการร่างกายของเธออยู่สินะ?หรือว่าเมื่อไหร่ที่เขาหมดความต้องการ ความสัมพันธ์ของพวกเขาก็จะจบลง?ความรู้สึกเศร้าสร้อยเข้าครอบงำเธอเธอพูดว่า “ลู่สือเยี่ยน ฉันไม่มีอารมณ์”ริมฝีปากของลู่สือเยี่ยนเคลื่อนไหวอยู่บนไหล่ของเธอ ฝ่ามือของเขาสัมผัสกับผิวหนังที่บอบบาง เขาหยอกเย้าเล่นกับมันเบา ๆเมื่อรู้สึกถึงความสั่นเทาของเธอ เขาก็เพิ
หลินเซียงมองเขา “คุณรู้ไหมว่าเมื่อคืนตอนฉันโดนผู้ชายคนนั้นไล่ล่า และถูกผู้หญิงสองคนหลอก ฉันกำลังคิดอะไรอยู่?”ลู่สือเยี่ยนหยุดการกระทำของเขา ริมฝีปากบางของเขาเม้มเป็นเส้นตรงหลินเซียงหัวเราะอย่างขมขื่น “ฉันคิดว่า ฉันบอกคุณแล้วแท้ ๆ ว่าฉันตกอยู่ในอันตราย ทำไมคุณถึงไม่มา? เราเป็นสามีภรรยากันมานาน คุณเองก็ยังมีจิตสำนึกของความเป็นอาเยี่ยนอยู่ ทำไมถึงไม่มา? ถ้า…ถ้าเป็นอาเยี่ยน เขาต้องมาแน่ แล้วเขาก็จะไม่ไล่ฉันลงจากรถอย่างหยาบคายแบบนั้น”ขณะที่เธอกำลังพูด น้ำตาของเธอไหลรินลงมาเป็นสาย ความหวาดกลัวเมื่อคืนนี้ย้อนกลับมาอีกครั้งดวงตาของเธอคลอไปด้วยน้ำตา“ลู่สือเยี่ยน บอกฉันสิ ทำไม? ทำไมฉันบอกคุณแล้วว่าฉันตกอยู่ในอันตราย แต่คุณกลับไม่มา?”ลมหายใจของลู่สือเยี่ยนติดขัดอีกครั้ง เขากอดเธอไว้แน่น พูดเสียงแหบพร่าว่า “ขอโทษ หลินเซียง”นั่นคือสิ่งเดียวที่เขาพูดได้ พอเขาได้รับโทรศัพท์จากเธอ เขารีบไปในทันที แต่แล้วเขาก็คิดถึงเรื่องหนึ่ง เธอเต็มใจที่จะลดท่าทีลงเพื่อขอร้องเรื่องจ้าวข่าย การที่เธอขอความช่วยเหลือจากเขาอาจเป็นการจงใจหรือเปล่า?จงใจให้เขากลับไปหา?ดังนั้นเมื่อเซี่ยหว่านโทรมา เขาจึงไปหา
หลินเซียงจ้องมองเขาอย่างแน่วแน่ แล้วพูดว่า “ลุงจ้าวไม่ใช่คนแบบนั้น”ลู่สือเยี่ยนหัวเราะเบา ๆ “อยากพนันกันไหมล่ะ?”หลินเซียงกำตะเกียบในมือแน่น ก่อนจะพยักหน้า “ได้ พนันอะไร?”ลู่สือเยี่ยนกล่าว “ถ้าเขาได้รับค่าชดเชยจากผม แล้วยอมออกจากเมืองอวิ๋นเฉิง คุณห้ามพูดถึงเรื่องหย่าอีก”หลินเซียงกัดฟัน พยักหน้ารับ “ได้ แต่ถ้าจนแล้วจนรอดเขาไม่ยอมรับค่าชดเชย เราหย่ากัน และคุณต้องปล่อยตัวจ้าวข่ายทันที”ลู่สือเยี่ยนพูดเสียงเรียบ “หลินเซียง นี่เป็นสองเงื่อนไขนะ”หลินเซียงลังเลเล็กน้อย แล้วพูดว่า “ปล่อยตัวจ้าวข่าย”ลู่สือเยี่ยนจ้องมองเธออย่างแน่วแน่ “ตกลง”หลินเซียงเชื่อว่าคนอย่างลุงจ้าวจะไม่ทิ้งลูกชายตัวเองไปเพราะเงิน แม้แต่ตัวเขาเองยังบอกเลยว่า นั่นคือลูกคนเดียวของเขา!หลังจากทานอาหารเสร็จ ลู่สือเยี่ยนก็จากไปทันทีส่วนหลินเซียงก็ติดต่อนายหน้าเพื่อหาบ้านนายหน้าทำงานได้รวดเร็วมาก ส่งบ้านมาให้ดูหลายหลัง หลินเซียงก็ไปดูทำเลทันทีสุดท้ายก็เลือกบ้านหลังเล็กสองห้องนอน เช่าเป็นระยะเวลาสามเดือนกว่าจะเสร็จธุระทุกอย่างก็บ่ายแล้วหลินเซียงโทรหาลุงจ้าวทันที“ลุงคะ ฉันหาบ้านได้แล้ว เดี๋ยวจะไปรับลุงนะ
แต่ทันทีที่เขาพูดจบ เสียงกริ่งประตูก็ดังขึ้นด้วยประสบการณ์ที่เคยถูกไล่ออกไปหลายครั้ง ลุงจ้าวไม่ได้เปิดประตูทันที แต่ไปดูที่ช่องส่องตาแมวมีผู้ชายสองคนแต่งตัวด้วยชุดสูทยืนอยู่ด้านนอกทางโทรศัพท์ หลี่ซูฮว๋าภรรยาของเขายังคงพูดตะกุกตะกักอย่างไม่เป็นศัพท์ เห็นได้ชัดว่าตกใจมากเสียงกริ่งประตูดังขึ้นอีกครั้ง ลุงจ้าวตกใจอย่างเห็นได้ชัด เขาพูดว่า “อย่าเพิ่งทำอะไรนะ ขอผมคุยธุระเดี๋ยว”พูดจบ เขาก็วางสาย แล้วเปิดประตูทันที“พวกคุณเป็นใคร?”หนึ่งในผู้ชายสวมชุดสูทยื่นมือออกมา ยิ้มแย้มแจ่มใส แล้วพูดว่า “คุณจ้าวครับ ผมเป็นผู้ช่วยประธานบริษัทดีเคกรุ๊ป ชื่อซ่งจั่ว ส่วนนี่คือทนายความเจียงหาน เราสองคนมาเพื่อคุยเรื่องบางอย่างกับคุณครับ ไม่ทราบว่าคุณสะดวกไหม?”ลุงจ้าวจ้องมองพวกเขาอย่างระมัดระวัง พวกเขาไม่ใช่เจ้าของบ้าน ไม่ได้มาไล่เขาออกไป งั้นพวกเขามาทำอะไร?ลุงจ้าวหลีกทางให้ “เชิญเข้ามาก่อนครับ”ซ่งจั่วพยักหน้าเล็กน้อย แล้วเข้าไปในบ้านพร้อมกับเจียงหานพอนั่งลงบนโซฟา เจียงหานหยิบเอกสารสองฉบับวางไว้บนโต๊ะลุงจ้าวถาม “นี่คืออะไร?”ซ่งจั่วยิ้มแล้วพูดว่า “คุณจ้าวครับ เชื่อว่าคุณคงรู้แล้ว เรื่องที่
หลินเซียงกลับถึงบ้าน ทันทีที่เปิดประตูก็ได้รับโทรศัพท์จากซ่งซ่ง“เซียงเซียงที่รัก ฉันกำลังจะกลับแล้ว มีอะไรอยากกินเป็นพิเศษไหม? ที่นี่ของกินอร่อยอยู่นะ” เสียงสดใสของซ่งซ่งดังขึ้นหลินเซียงเพิ่งนึกถึงเรื่องที่เธอได้รับบาดเจ็บอยู่ แต่พอได้ยินเสียงที่เปี่ยมไปด้วยพลังของซ่งซ่ง ใจเธอก็สงบลง“ซื้ออะไรมาก็ได้ ฉันกินได้หมดแหละ” หลินเซียงตอบพร้อมรอยยิ้มซ่งซ่ง “งั้นฉันจะเลือกของที่เธอชอบนะ”“ได้เลย”หลินเซียงตอบรับ ถือแก้วน้ำนั่งลงบนโซฟา เปิดลำโพงแล้วถามว่า “แผลหายสนิทแล้วเหรอ?”“อืม…” ซ่งซ่งตอบ “แหงสิ ฉันเล่นสนุกจนพอแล้ว ต้องกลับมาอยู่ข้าง ๆ เธอแล้ว ไม่งั้นเดี๋ยวข้างกายเธอจะมีนางฟ้าคนอื่นมาแย่งตำแหน่งฉันไปซะหมด?”หลินเซียงหัวเราะออกมา “ไม่มีหรอก ฉันมีเธอคนเดียว”ซ่งซ่ง “จริงเหรอ? ฉันบอกลู่สือเยี่ยนได้ไหม? ถ้าบอกเขา เขาจะฆ่าฉันหรือเปล่า?”หลินเซียงกล่าวว่า “เขาไม่กล้าหรอก”ซ่งซ่ง “เชอะ ๆ ฟังน้ำเสียงเธอแล้วเหมือนเธอควบคุมเขาได้เลยนะ เล่าให้ฉันฟังหน่อยสิว่าช่วงนี้เกิดอะไรขึ้นบ้าง?”สีหน้าของหลินเซียงดูเคร่งเครียดขึ้นเล็กน้อย “ไม่มีอะไรเกิดขึ้นทั้งนั้น ฉันไม่ได้ควบคุมเขา ฉันกับเขากำลัง
เมื่อได้ยินเช่นนั้น สีหน้าของลู่สือเยี่ยนเย็นชาลงอย่างสิ้นเชิงเธอคิดว่าเขาจะใช้คนอื่นมาขู่จ้าวต้าผิงให้ยอมจำนนเหรอ?เธอเห็นเขาเป็นคนแบบนั้นหรือไง?น้ำเสียงของลู่สือเยี่ยนแสนจะเย็นชา “หลินเซียง คุณเอาแต่พูดว่าผมไม่เชื่อใจคุณ แล้วคุณเองล่ะ?”“อะไรนะ?”หลินเซียงตกใจ แต่ลู่สือเยี่ยนไม่ได้ให้คำตอบ กลับวางสายไปดื้อ ๆหลินเซียงมองโทรศัพท์ที่ถูกวางสาย ก่อนจะกะพริบตาอย่างไม่เข้าใจเขาหมายความว่ายังไง?กำลังกล่าวหาว่าเธอไม่เชื่อใจเขาเหรอ?หลินเซียงกัดริมฝีปาก เธอไม่คิดว่าตัวเองผิดสิ่งที่เขาทำ มีครั้งไหนที่ทำให้เธอไว้ใจได้บ้าง?เธอยิ้มเยาะ แล้วก็เลิกคิดเรื่องนี้ไปท้องฟ้าค่อย ๆ มืดลงห้องทำงานของประธานบริษัทสว่างไสวเหมือนกลางวัน สีหน้าของลู่สือเยี่ยนดูไม่สู้ดีนักโทรศัพท์ของเขาดังขึ้น เขาไม่คิดจะรับมัน แต่พอคิดอะไรบางอย่างขึ้นมา ดวงตาของเขาก็เป็นประกายแต่เมื่อเห็นว่าเป็นโทรศัพท์จากลู่เจิ้งหรง ดวงตาของเขาก็กลับมามืดมนอีกครั้ง“ครับ พ่อ”น้ำเสียงของลู่เจิ้งหรงเย็นชา “ลู่สือเยี่ยน นี่มันหมายความว่ายังไง? ทำไมยังไม่จัดการกับไอ้หัวขโมยนั่นอีก? ทุกวันก็แค่สั่งให้คนตี แล้วเราจะได้อะไ
พอคิดถึงเซี่ยหว่านที่พอเจอหน้าลู่สือเยี่ยนก็พูดถึงแต่เรื่องอุบัติเหตุเมื่อสองปีก่อน ทำท่าทางเหมือนจะทวงบุญคุณ เขาก็รู้สึกขยะแขยงขึ้นมาทันทีบุญคุณชดใช้กันแบบนี้เหรอ?ยิ่งไปกว่านั้น เรื่องอุบัติเหตุในครั้งนั้น จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีข้อสรุปที่แน่ชัดทั้งสองคนตรงไปที่บาร์เจวี๋ยเซ่อผู้คนชั้นล่างกำลังสนุกสนานกับงานเลี้ยงยามค่ำคืน ลู่สือเยี่ยนนั่งอยู่ที่โต๊ะริมหน้าต่าง มองดูความครึกครื้นเบื้องล่าง นิ้วเรียวยาวสวยงามจับแก้วไวน์ ค่อย ๆ จิบทีละแก้ว ทีละแก้วฟู่จิ่นซิ่วเห็นท่าทางเย็นชาของเขา ก็อดไม่ได้ที่จะแซว "เป็นอะไรไป ถึงมานั่งดื่มเหล้าคนเดียวแบบนี้? มีเรื่องอะไรให้นายไม่สบายใจขนาดนั้น?"ลู่สือเยี่ยนมองเขาแวบหนึ่ง แล้วถามขึ้นมาทันทีว่า "ทำไมหลินเซียงถึงอยากหย่ากับฉันนัก?"สายตาของเขาจับจ้องอยู่ที่แก้วไวน์ น้ำเสียงทุ้มลึก "แต่งงานกับฉันมันไม่ดีตรงไหน?"เขาทำให้ฐานะของเธอสูงส่งขึ้น สามารถทำให้เธอได้ในสิ่งที่เธอเคยไขว่คว้า แล้วพวกเขาก็มีความสุขกันดีตอนทำกิจกรรมบนเตียงเขาคิดไม่ตก ทำไมถึงอยากหย่า?ฟู่จิ่นซิ่วเห็นเขาท่าทางเหมือนคนกำลังมีปัญหาเรื่องความรักก็ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะถามว่
เสียงเคาะประตูทำให้หลินเซียงไม่อยากเปิด เพราะยังจำการโทรศัพท์ที่ไม่พึงประสงค์เมื่อครู่ได้ แต่ตอนนี้ดึกมากแล้ว ท่าทางของเขาเหมือนจะเคาะไม่หยุดจนกว่าเธอจะเปิดประตูหลินเซียงเปิดประตูด้วยความจำใจ “คุณมาทำอะไรอีก…อื้อ…”แต่เธอยังพูดไม่จบ ร่างสูงใหญ่ของเขาก็โน้มตัวเข้ามา ฝ่ามือร้อนประคองใบหน้าเธอ แล้วจูบลงมาไม่ยั้งเขาตัวหนักมาก แรงกดทับทำให้เธอถอยหลังจนขาไปชนกับโซฟา เข่าอ่อนจนล้มนั่งลงไปตลอดเวลา ลู่สือเยี่ยนไม่ยอมปล่อยเธอ จูบร้อนแรง ลมหายใจพัวพันกันเป็นหนึ่ง เหมือนจะดูดพลังเธอออกไปจนหมดหลินเซียงเริ่มรับมือไม่ไหว ตาแดงก่ำ เนื้อตัวอ่อนระทวย รู้สึกว่าชุดนอนถูกถกขึ้นมาจนถึงเอว เธอจึงรู้สึกตัว“ลู่สือเยี่ยน…”เธอเรียกชื่อเขาด้วยเสียงอู้อี้ เขาเมาเหล้า กลิ่นเหล้าแรงมาก ลมหายใจร้อนผ่าวเผาผลาญเธอ ร่างกายสั่นเทาอย่างไม่รู้ตัว“หืม?”ลู่สือเยี่ยนตอบรับ จับมือเล็ก ๆ ของเธอไปวางบนเข็มขัด หัวเข็มขัดเย็นเฉียบ ปลายนิ้วหลินเซียงหดเกร็ง“ฉันไม่อยาก ฉันไม่เอา…”เธอต่อต้าน ไม่อยากทำอย่างนั้นกับเขา! สถานการณ์ตอนนี้ไม่ควรทำอย่างนั้นเลย!แต่ลู่สือเยี่ยนกดดันเธอ ลมหายใจร้อนแรงทำเอาผิวแทบไหม้ เสียงท
ซ่งซ่ง “สบายใจได้เลย ไอ้บ้านั่นแกล้งฉันไม่ลงหรอก พอฉันเบื่อก็จะถีบหัวส่งเอง”หลินเซียงรู้สึกไม่ค่อยดีกลัวที่สุดคือซ่งซ่งจะเล่นจนพลาด ทำให้ฟู่จิ่นซิ่วน้อยใจ เขาอาจจะเลวร้ายกว่าลู่สือเยี่ยนเสียอีกหลินเซียงบอกความกังวลของเธอ “ยังไงก็ระวังตัวด้วยนะ”ซ่งซ่ง “ได้ ๆ รู้แล้ว”หลินเซียง “งั้นฉันไม่รบกวนเวลาทำงานแล้ว ไปก่อนนะ บาย”“จุ๊บ จุ๊บ”…หลินเซียงกลับไปที่สตูดิโอโดยตรงสภาพจิตใจของเธอเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิงสวี่ซิงเย่เป็นคนแรกที่สังเกตเห็น จึงถามด้วยรอยยิ้มว่า “เรื่องอะไรทำให้คุณมีความสุขขนาดนี้ครับ?”หลินเซียงประหลาดใจ “เห็นได้ชัดขนาดนั้นเลยเหรอ?”สวี่ซิงเย่พยักหน้า “ชัดแจ๋วเลย ก่อนหน้านี้คุณทำงานไม่เคยยิ้ม วันนี้ยิ้มตลอดเวลา”หลินเซียงลูบหน้า แล้วพูดว่า “อืม ปิดการขายได้น่ะ เซ็นสัญญาเสร็จเรียบร้อย ใกล้จะรวยแล้ว ก็เลยมีความสุข”สวี่ซิงเย่ “งั้นก็ขอแสดงความยินดีด้วยนะครับ”“ขอบคุณ”หลินเซียงยิ้มเล็กน้อย แล้วหันไปเปิดคอมพิวเตอร์เธอมองไปรอบ ๆ ออฟฟิศ พบว่าวันนี้ซืออวี่ไม่ได้มา แต่เธอก็ไม่ได้ใส่ใจ แล้วเริ่มทำงานทันทีที่โรงพยาบาลลู่สือเยี่ยนโยนใบหย่าลงตรงหน้าคุณย่าลู่ ดึ
หลินเซียงรู้สึกสงสัยเล็กน้อย “ทำไมจดล็อบบี้ไม่ได้เหรอคะ?”เจ้าหน้าที่กล่าวว่า “คุณผู้หญิง วันนี้ที่ล็อบบี้คนเยอะ เชิญทั้งสองท่านไปชั้นบนดีกว่า”หลินเซียงเหลือบมองไปที่เคาน์เตอร์รับเรื่องหย่า เห็นว่าคนแน่นจริง ๆอย่างนี้นี่เอง สมัยนี้การแต่งงานส่วนใหญ่คงไปกันไม่รอดสินะ?เธอไม่คิดอะไรมาก รีบตามเจ้าหน้าที่ขึ้นไปชั้นบนในห้องทำงานของนายทะเบียน ทั้งสองคนกรอกเอกสารเพิ่มเติม แล้วก็เข้าสู่เรื่องการแบ่งทรัพย์สินลู่สือเยี่ยนหยิบสัญญาฉบับหนึ่งให้เธอ “นี่คือค่าชดเชยให้คุณ”หลินเซียงรับมาดู พอเห็นชื่อบางชื่อ ดวงตาของเธอก็เบิกกว้างบ้านที่เฟิงหลินหย่วน เขากลับยกให้เธอบ้านหลังนั้นเธอขายไปแล้วไม่ใช่เหรอ?เขาซื้อคืนมาเมื่อไหร่?หรือว่าเป็นอีกหลังหนึ่ง?นั่นเป็นบ้านหลังใหญ่หลังแรกที่เขาให้เธอ มีความทรงจำดี ๆ เธอยังคงชอบมันอยู่เธอมองลงไปด้านล่าง ยังมีค่าชดเชยการหย่าอีกห้าสิบล้านเยี่ยมไปเลย เธอกลายเป็นมหาเศรษฐีแล้วลู่สือเยี่ยนจ้องมองเธออย่างลึกซึ้ง “มีอะไรสงสัยไหม?”หลินเซียงส่ายหัว “ไม่มีค่ะ”จากนั้นก็ถึงขั้นตอนการเซ็นชื่อไม่นาน นายทะเบียนก็มอบใบหย่าให้ทั้งสองคนแต่ลู่สือเยี่ยนไม
หลินเซียงกลับไปที่สตูดิโอสวี่ซิงเย่เห็นสีหน้าที่ผิดปกติของเธอ จึงถามว่า “หลินเซียง คุณไม่สบายหรือเปล่าครับ?”หลินเซียงส่ายหัว “เปล่า อาจจะแค่พักผ่อนไม่เพียงพอ”สวี่ซิงเย่กังวลเล็กน้อย “ยังมีอะไรที่ยังทำไม่เสร็จอยู่ไหมครับ? ให้ผมช่วยก็ได้ ผมจะช่วยคุณเอง”หลินเซียง “ไม่มีแล้ว ขอบคุณมาก”สวี่ซิงเย่ยังอยากจะพูดอะไรอีก ซืออวี่ก็เดินเข้ามา “เสี่ยวสวี่ ออกไปข้างนอกกับฉันหน่อย!”สวี่ซิงเย่พยักหน้า “ได้ครับ”ช่วงนี้ ซืออวี่มักจะพาสวี่ซิงเย่ออกไปข้างนอก เขามีความสามารถ แถมยังดื่มเหล้าเก่ง ถนัดการเข้าร่วมงานเลี้ยงสังสรรค์ทางธุรกิจมากมาย ด้วยความสามารถของเขาทำให้ดึงดูดทรัพยากรได้มาก ตอนนี้เริ่มทำแบบร่างโครงการด้วยตัวเองแล้วหลินเซียงมองตามพวกเขาออกไป ในใจเกิดความสงสัยเล็กน้อยช่วงนี้งานเลี้ยงเยอะเกินไปหรือเปล่า?ก่อนหน้านี้ไม่เห็นจะเป็นแบบนี้เลยสวี่ซินหรานพูดขึ้นมาทันที “หึ ก่อนหน้านี้บอสมักจะพาเธอออกไป ให้ความสำคัญกับเธอมาก ตอนนี้เป็นไงล่ะ ดูเหมือนความสามารถของสวี่ซิงเย่จะโดดเด่นกว่าเธอนะ”หลินเซียง “งั้นเธอมีดีอะไรบ้างล่ะ?”สวี่ซินหรานอึ้ง ไม่คิดว่าเธอจะโต้กลับหลินเซียงมองเธออย่
คุณย่าลู่ขู่จะตาย! สีหน้าของลู่สือเยี่ยนเปลี่ยนไปทันทีเซี่ยหว่านรีบเข้าไป พร้อมกับร้องไห้พูดว่า “คุณย่าลู่ค่ะ อย่าพูดอย่างนั้นเลย ไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าสุขภาพของคุณแล้วค่ะ เราไปตรวจกันก่อนดีไหมคะ?”คุณย่าลู่มองเธอด้วยความปลื้มปิติ “หว่านหว่าน เธอนี่เป็นเด็กดีจริง ๆ ตระกูลลู่เป็นหนี้เธอมากเกินไปแล้ว ถ้าฉันไม่ทำอะไรสักอย่าง สู้ตายไปยังไม่เจ็บช้ำเท่า”เซี่ยหว่านร้องไห้จนพูดไม่ออก!สถานการณ์ตึงเครียดขึ้นมาทันทีลู่สือเยี่ยนไม่ยอม คุณย่าลู่ก็ยิ่งหน้าซีดลงเรื่อย ๆ เธอจับจ้องราวกับจะคาดคั้นรอการตัดสินใจของเขาหลินเซียงเดินเข้าไป มองลู่สือเยี่ยนแล้วพูดว่า “เราไปหย่ากันก่อนเถอะ สุขภาพของย่าสำคัญกว่า”คุณย่าลู่มองลู่สือเยี่ยนด้วยความกระวนกระวายลู่สือเยี่ยนหันไปมองหลินเซียงอย่างรวดเร็ว กระตุกมุมปาก “ผลลัพธ์ที่เป็นอยู่ตอนนี้ คุณคงพอใจแล้วใช่ไหม?”หลินเซียงเม้มริมฝีปาก พูดว่า “แต่สุขภาพของย่าสำคัญกว่า”ลู่สือเยี่ยนพยักหน้า “ได้ หย่าก็หย่า”คุณย่าลู่ก็โล่งใจขึ้นมาทันที นอนลงบนเตียงแล้วหลับไปหมอและพยาบาลพาคุณย่าลู่ไปห้องตรวจเซี่ยหว่านเช็ดน้ำตาบนใบหน้า มองลู่สือเยี่ยนแล้วพูดว่า “สือเยี่
คุณย่าลู่ “จะมีใครทำร้ายเธอได้ยังไง? นั่นเป็นแค่การคาดเดาของเธอเท่านั้น”“เหอะ!”ลู่สือเยี่ยนหัวเราะเบา ๆ แล้วพูดต่อ “คุณย่าครับ คนคนหนึ่งที่เพิ่งฟื้นขึ้นมาแต่ความจำเสื่อม จะไปอยู่บนถนนได้ยังไง? คนดูแลที่บ้านเราล่ะ? หายหัวไปไหนหมด?”คุณย่าลู่เงียบไปลู่สือเยี่ยนพูดต่อ “ตอนนั้นเธอเป็นคนที่ช่วยผม พาผมกลับบ้าน ถ้าไม่ใช่เธอ วันนี้ย่าก็คงไม่ได้เจอหน้าผมแล้ว”คุณย่าลู่มองหลินเซียง แล้วพูดขึ้นมาทันทีว่า “ความจริงเป็นแค่เรื่องบังเอิญหรือเปล่า ตอนนี้ยังสรุปไม่ได้ ถ้าเกิดเธอรู้ตัวตนของหลานตั้งแต่แรกล่ะ?”“ฉันไม่รู้ค่ะ”หลินเซียงรู้สึกว่าเธอควรจะพูดอะไรสักอย่างเธอมองคุณย่าลู่อย่างสงบ “คุณย่าคะ ฉันไม่รู้ว่าทำไมคุณย่าถึงได้เกลียดฉันขนาดนี้ แต่เมื่อก่อนย่าไม่ใช่แบบนี้ แถมยังชอบฉันมาก ถึงกับบอกเขาว่า ถ้าเขาทำร้ายฉัน คุณย่าจะช่วยฉันตีเขา ฉันยังจำคำพูดพวกนั้นได้อยู่เลย”เธอหายใจออกเบา ๆ แล้วพูดต่อ “แต่แน่นอนค่ะ คุณย่าจำไม่ได้ งั้นก็ไม่สำคัญแล้ว ฉันไม่รู้จักตัวตนของเขาตั้งแต่แรก จนกระทั่งเขาได้ความทรงจำกลับมา แล้วมาเปิดตัวในที่ที่ฉันทำงานอยู่ ฉันถึงได้รู้จักตัวตนของเขา”คุณย่าลู่เงียบไป ใบหน้
หลินเซียงมองคุณย่าลู่ด้วยความประหลาดใจไม่เคยคิดมาก่อนว่าคุณย่าที่เคยใจดีกับเธอ ในระดับที่เรียกว่าเอาใจใส่ กลับคิดร้ายกับเธอแบบนี้ แล้วยังมองเธอด้วยสายตาเย็นชาหลินเซียงรู้สึกเจ็บปวดในใจที่แท้ไม่ใช่แค่ตอนที่ลู่สือเยี่ยนทำร้ายเธอเท่านั้นถึงจะรู้สึกเจ็บปวดการถูกคนที่เคยสนิทสนมทำร้าย ใจก็เจ็บปวดเช่นกันเธอเม้มริมฝีปาก แล้วหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาลู่สือเยี่ยน“ฮัลโหล?”ไม่นานปลายสายก็รับ ได้ยินเสียงทุ้มต่ำของชายหนุ่มดังขึ้นหลินเซียงบอกว่า “คุณย่ามีเรื่องจะพูดกับพวกเรา ตอนนี้คุณช่วยมาโรงพยาบาลหน่อย”ลู่สือเยี่ยนถามว่า “เกิดอะไรขึ้นเหรอ?”หลินเซียง “มาถึงเดี๋ยวก็รู้เอง”พูดจบก็วางสายไปเรื่องหย่าควรจะพูดต่อหน้าทั้งสองคนจะดีกว่าบอกกับเธอแค่คนเดียวมีประโยชน์อะไร?เธออยากหย่า แต่ลู่สือเยี่ยนไม่ยอม คุณย่าลู่ก็ไม่เชื่อเธอทำผิดอะไร?ถึงได้ถูกปฏิบัติแบบนี้?หลินเซียงนั่งลงบนโซฟา ก้มหน้าลง ไม่มองคุณย่าลู่อีกนิสัยของเธอค่อนข้างแปลกถ้าคนคนนั้นทำร้ายเธอ ก็ยากที่จะเข้าไปอยู่ในใจเธอได้อีกคุณย่าลู่ไม่ค่อยชอบท่าทางของหลินเซียง จึงจับมือเซี่ยหว่านแล้วคุยต่อ เพราะชอบท่าทางอ่อนโยนขอ
หลังจากออกจากโรงพยาบาล ลู่สือเยี่ยนมองเธอ “อย่าคิดมาก คุณย่าแค่ลืมความทรงจำไปสองปีเท่านั้นเอง”หลินเซียงมองเขา แล้วถามว่า “แล้วถ้าคุณย่ายืนกรานจะให้คุณแต่งงานกับเซี่ยหว่านล่ะ?”ลู่สือเยี่ยนมองเธออย่างลึกซึ้ง “หลินเซียง เธอควรเลิกคิดเรื่องนี้นะ เพราะผมไม่หย่ากับคุณแน่”หลินเซียงอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ แล้วพูดว่า “จริง ๆ แล้ว เราหย่ากันก็ไม่เลวนะ ฉัน…”“หยุด!”ลู่สือเยี่ยนมองเธอด้วยความหงุดหงิด “ฟังที่ผมพูดไม่รู้เรื่องเหรอ? ถ้าพูดถึงเรื่องหย่าอีก ผมจับคุณขังไว้แน่!”ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความโกรธ รอบตัวเต็มไปด้วยออร่าเย็นชาหลินเซียงหยุดชะงัก ไม่พูดต่อเพราะเขาทำได้จริงเมื่อหันหลังเดินไป ใบหน้าเล็ก ๆ นั้นเย็นชายิ่งกว่าเก่าลู่สือเยี่ยนมองตามหลังเธอไป ริมฝีปากบางเม้มเป็นเส้นตรงเขาเปิดประตูแล้วก้าวขึ้นรถ สีหน้ามืดครึ้มอย่างที่สุดในขณะนั้น เสียงเรียกเข้าโทรศัพท์เขาดังขึ้น เขาหยิบขึ้นมาดู เป็นสายจากซืออวี่“พูดมา!”ซืออวี่ตกใจกับน้ำเสียงเย็นชาของเขา ก่อนจะกลืนน้ำลายอึกใหญ่ “พี่ใหญ่ ฉันสืบได้เรื่องบ้างแล้ว แต่คนคนนั้นฉลาดเป็นกรด ปกปิดตัวตนได้ดีมาก รู้แค่ว่าเป็นผู้ชาย”ลู่สือเยี
วันรุ่งขึ้น ทั้งสองคนไปที่โรงพยาบาลคุณย่าลู่ทานอาหารเช้าเสร็จแล้ว อวิ๋นหลานนั่งคุยกับเธออยู่“คุณย่าครับ”ลู่สือเยี่ยนเดินเข้าไปเรียกด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนคุณย่าลู่เห็นเขา ใบหน้าที่แก่ชราพลันมีรอยยิ้ม“สือเยี่ยน เธอมาแล้ว” คุณย่าลู่จับมือเขาไว้ มองใบหน้าหล่อเหลาของเขาแล้วพูดขึ้นมาทันทีว่า “สือเยี่ยน ทำไมดูเปลี่ยนไปจังเลย? ดูเหมือนจะโตขึ้นมากเลยนะ”ริมฝีปากบางของลู่สือเยี่ยนโค้งเป็นรอยยิ้ม “โตขึ้นแล้วไม่ดีเหรอครับ?”คุณย่าลู่พยักหน้า “ดี แน่นอนว่าดี แต่ฉันยังชอบเธอตอนเด็ก ๆ ที่ไร้เดียงสามากกว่า เอาแต่วิ่งตามหลังพี่ชายตลอดเวลา แล้วยังทำหน้าบึ้งใส่เขา มีแต่พี่ชายที่ตามใจ ถ้าเป็นคนอื่นคงตีเธอไปแล้ว”รอยยิ้มที่มุมปากของลู่สือเยี่ยนแข็งทื่อไปชั่วขณะคุณย่าลู่สังเกตเห็นหลินเซียงในตอนนี้ จึงถามว่า “แล้วเธอล่ะ มายังไง?”ลู่สือเยี่ยนบอกว่า “ย่าครับ เธอเป็นภรรยาผม หลินเซียง”หลินเซียงมองคุณย่าลู่ “คุณย่า”คิ้วของคุณย่าลู่ขมวดเข้าหากันทันที เธอปล่อยมือลู่สือเยี่ยน “ก่อนหน้านี้เธอบอกว่าจะแต่งงานกับหว่านหว่านไม่ใช่เหรอ? ฉันเห็นว่าเด็กคนนั้นก็ใช้ได้นะ ทำไมถึงแต่งงานกับคนอื่นล่ะ?”ท่าทีนั้
ใบหน้าของลู่สือเยี่ยนแสดงออกถึงความซับซ้อนเล็กน้อย เขาพูดอย่างสงบว่า “เรื่องนี้ยังบอกไม่ได้ ต้องรอผลตรวจของแพทย์”หลินเซียงพยักหน้า ตอนนี้คงทำได้แค่นี้ลู่เจิ้งหรงมองหลินเซียงด้วยสายตาไม่เป็นมิตร แล้วพูดกับลู่สือเยี่ยนว่า “อาการของย่าแกดูเหมือนจะดีขึ้น ความคิดของผู้ใหญ่ แกคงรู้ดี น่าจะอยากเห็นแกแต่งงานกับหว่านหว่าน ตอนนั้นแกเป็นคนพาหว่านหว่านไปหาท่านเอง ตอนนี้ถ้าท่านขอร้อง แกก็ปฏิเสธไม่ได้”อวิ๋นหลานกล่าวว่า “เจิ้งหรง แต่สือเยี่ยนกับหลินเซียงรักกันดี ทำแบบนี้ไม่ค่อยดีหรอกมั้ง?”“เหอะ!” ลู่เจิ้งหรงหัวเราะเยาะ “รักกันดี? หลินเซียงไม่ใช่เหรอที่อยากหย่ามาตลอด? ใช้โอกาสนี้หย่ากันไปซะสิ ไม่ต้องมีใครขัดขวางใคร!”อวิ๋นหลานมองหลินเซียงด้วยความกังวล กลัวว่าเธอจะเสียใจแต่หลินเซียงเหมือนไม่ได้ยิน ยืนอยู่มุมห้อง ก้มหน้าลง ปากสวยเม้มเป็นเส้นตรงลู่สือเยี่ยนไม่ได้สนใจคำพูดของลู่เจิ้งหรงเลยเขาตามหาลู่จิ้นหนานจนแทบคลั่ง ยังมีเวลาสนใจเรื่องของเขากับหลินเซียงอีกเหรอ?ดูเหมือนว่าเขาควรหาอะไรให้อีกฝ่ายทำบ้าง!ประมาณสองชั่วโมงผ่านไปผลการตรวจของคุณย่าลู่ออกมาแล้วแพทย์ถือรายงานผลการตรวจแล้วพูด