เธอซื้อซี่โครงหมูและข้าวโพด รวมถึงผักอื่น ๆ อีกเล็กน้อยพอหลินเซียงกลับมาแล้วก็เริ่มตุ๋นซุปขณะนั่งอยู่บนโซฟา เธอหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาส่งข้อความหาซ่งซ่งหลินเซียง: [ฉันขายบ้านแล้ว ตอนนี้ขอมาพักอยู่บ้านเธอชั่วคราวนะ]ซ่งซ่ง: [ไม่เป็นไร อย่าพูดว่าชั่วคราวเลย อยู่ที่นี่ตลอดไปยังได้!]หลินเซียง: [แล้วเธอจะกลับมาเมื่อไหร่?]ซ่งซ่ง: [ฉันอาจจะอยู่ที่นี่อีกสักพัก ทิวทัศน์ที่เมืองถงเฉิงสวยมาก กลับไปแล้วจะซื้อของฝากให้เธอนะ]หลินเซียง: [ได้ จะรอนะ]…เพิ่งออกจากการแชทกับซ่งซ่ง โทรศัพท์ของลู่สือเยี่ยนก็โทรเข้ามาเธอรับสายด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ฮัลโหล?”ลู่สือเยี่ยนพูดว่า “จะกลับมาเมื่อไหร่?”หลินเซียงถาม “กลับไปไหน?”ลู่สือเยี่ยน “วิลล่าอ่าวสีคราม ผมอยู่ที่นี่ตลอด”หลินเซียง “แล้วเกี่ยวอะไรกับฉัน?”ลู่สือเยี่ยน “…”ลมหายใจของเขาหนักหน่วงขึ้นแม้จะอยู่ไกลกัน แต่ก็ยังรู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงอารมณ์ของเขาได้“หลินเซียง เรายังไม่ได้หย่ากันนะ”“หึ!” หลินเซียงหัวเราะเยาะ “กฎหมายข้อไหนกำหนดว่าคนที่แต่งงานกันต้องอยู่ด้วยกัน?”ลู่สือเยี่ยน “…”หลินเซียงพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ถ้าไม่มีอะไร
ลู่สือเยี่ยนเหลือบมองฉินโหย่วหานอย่างเย็นชา ริมฝีปากเผยรอยยิ้มเย้ยหยัน "มาดูว่าคุณชายฉินตายหรือยัง"รอยยิ้มบนใบหน้าของฉินโหย่วหานจางลงเล็กน้อย "น่ากลัวว่าจะทำให้คุณผิดหวังแล้วล่ะ""ไม่เป็นไร ครั้งหน้าผมจะลงมือให้หนักกว่านี้ คงไม่ทำให้ผิดหวังหรอก" ลู่สือเยี่ยนลากเก้าอี้มานั่งลง หยิบชามและตะเกียบขึ้นมากินอย่างไม่เกรงใจหลินเซียงรีบพูดขึ้นทันที "นี่ไม่ใช่ของของคุณ!"ลู่สือเยี่ยนเลิกคิ้วขึ้นมองเธอ "ทำกับข้าวไม่ใช่ให้คนกินเหรอ?""คุณ!" หลินเซียงโกรธจนหน้าเปลี่ยนสี ผู้ชายคนนี้ทำไมไร้ยางอายขนาดนี้ กล้ามาแย่งข้าวที่โรงพยาบาลกับฉินโหย่วหาน! ไม่รู้สึกขายหน้าบ้างหรือไง!เห็นได้ชัดว่าลู่สือเยี่ยนไม่ได้รู้สึกเช่นนั้น เขากินอย่างเอร็ดอร่อยด้วยซ้ำฉินโหย่วหานเห็นดังนั้นก็ไม่รอช้า หยิบตะเกียบขึ้นมากินบ้างอาหารที่เตรียมไว้สำหรับคนเดียว ถูกผู้ชายสองคนกินจนหมดในเวลาไม่นานหลินเซียงได้แต่อ้ำอึ้งจนพูดไม่ออก!ลู่สือเยี่ยนวางตะเกียบลง หยิบกระดาษทิชชู่เช็ดมุมปากอย่างสง่างาม ก่อนจะเหลือบมองหลินเซียงแล้วพูดว่า "ทำอร่อยดี"พูดจบก็หมุนตัวเดินออกไปหลินเซียง "..."เขาเป็นบ้าหรือไง!เธอหันไปมองฉิน
ฉินโหย่วหานพูด "คุณอายุยังน้อย ควรจะหางานทำเพื่อให้ตัวเองวุ่นวายและเติมเต็มชีวิต การอยู่เฉย ๆ ทุกวัน ทำให้จิตใจห่อเหี่ยวได้ง่าย"หลินเซียงตอบ "ค่ะ ฉันจะลองพิจารณาดู"ฉินโหย่วหานยื่นข้อเสนอโดยตรง "หรือไม่คุณมาทำงานที่บริษัทผมไหม ช่วงนี้ขาดคนอยู่พอดี"หลินเซียงหัวเราะ "พี่หาน อย่าล้อเล่นเลยค่ะ ความสามารถของฉันไม่ดีขนาดนั้น ถ้าทำงานของคุณพังขึ้นมาจะทำยังไง"เขากลับจ้องมองเธอแล้วพูดว่า "ไม่เป็นไร ต่อให้คุณจะทะลวงฟ้า ผมก็จะช่วยรับผิดชอบเอง"หลินเซียงชะงัก กำลังจะพูดอะไรบางอย่าง ประตูห้องพักก็ถูกผลักเปิดออกอีกครั้ง เฉียวหร่านก็เดินเข้ามา"ทำไมคุณมาอีกแล้ว?"บนใบหน้าของเฉียวหร่านเดิมทีมีรอยยิ้ม แต่พอเห็นหลินเซียง รอยยิ้มก็หายวับไปกับตาแววตาของเธอเต็มไปด้วยความระแวดระวัง รีบเดินเข้ามาแล้วพูดว่า "ในเมื่อคุณแต่งงานแล้วก็อย่ามาที่นี่บ่อย ๆ เลย พี่หานยังโสด ถ้าคนอื่นเข้าใจผิดจะทำยังไง?""เฉียวหร่าน!"ฉินโหย่วหานไม่คาดคิดว่าเธอจะมา แต่ก็เข้าใจได้อย่างรวดเร็ว ต้องมีคนเรียกเธอมาแน่ และคนคนนั้นคงทนไม่ได้ที่เห็นเขากับหลินเซียงอยู่ด้วยกันแต่ครั้งนี้เฉียวหร่านไม่ได้ฟังคำพูดของฉินโหย่วหาน หัน
พูดจบ เธอก็หันหลังเดินออกไปทันที ฉินโย่วหานมองกล่องข้าวสีชมพูสวยหรูอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะละสายตาไปโดยไม่ขยับตัวแม้แต่น้อย ... หลินเซียงกลับมาถึงอะพาร์ตเมนต์ ขณะที่กำลังจะเข้าไปในตัวอาคาร เธอก็ได้กลิ่นควันบุหรี่จาง ๆ เป็นเรื่องปกติที่จะมีคนสูบบุหรี่ในอาคาร เธอจึงไม่ได้สนใจอะไร แต่เมื่อเธอขึ้นไปชั้นบน กดรหัสผ่าน และกำลังจะปิดประตู ก็มีมือข้างหนึ่งมาจับที่ขอบประตูแล้วออกแรงผลักจนเปิดออก เธอถูกผลักเข้าไปข้างใน "ปัง!" ประตูถูกปิดลง หลินเซียงเบิกตากว้างด้วยความตกใจ "ลู่สือเยี่ยน ทำอะไร?" ร่างสูงใหญ่ของลู่สือเยี่ยนเข้ามาประชิดตัวเธอที่ทางเข้า มือหนากุมเอวบางไว้แล้วออกแรงยกตัวเธอขึ้นไปวางบนตู้รองเท้า ปลายจมูกโด่งของเขาแตะอยู่ที่ปลายจมูกของเธอ เสียงทุ้มต่ำเอ่ย "ภรรยาของผมไปทำอาหารให้ผู้ชายคนอื่น ไปมอบความอบอุ่นให้ผู้ชายคนอื่น บอกซิว่าผมควรทำอะไรดี" ขณะที่เขาพูด มือหนาก็ออกแรงบีบเอวบางราวกับจะบดขยี้มัน "จะให้ผมไปฆ่าเขา หรือจะให้จัดการคุณตรงนี้ดี หืม?" พูดจบ ลู่สือเยี่ยนก็ประกบจูบลงบนริมฝีปากของเธอทันที! ริมฝีปากของเขายังคงมีกลิ่นควันบุหรี่ติดอยู่ รสชาติรุกรานคละคลุ้งไปท
นิ้วมือเรียวของหลินเซียงสั่นเทา ความกลัวผุดขึ้นมาในใจ มือหนาของลู่สือเยี่ยนเลื่อนลงมาที่เสื้อผ้าของเธอ ก่อนที่จะออกแรงดึงเบา ๆ ราวกับจะฉีกมันออก "ถ้าคุณกล้าทำบ้า ๆ ที่นี่ ฉันจะเกลียดคุณไปตลอดชีวิต!" เสียงหวานเอ่ยอย่างขุ่นเคือง การกระทำของลู่สือเยี่ยนชะงักลง เนื้อผ้าในมือทั้งนุ่มและบอบบาง เพียงแค่เขาออกแรงอีกนิด มันก็จะขาดวิ่นเป็นชิ้น ๆ แต่เมื่อเห็นแววเจ็บปวดที่เอ่อคลออยู่ในดวงตาคู่สวย เขากลับรู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก พวกเขาเป็นสามีภรรยากัน! จะใกล้ชิดกันหน่อยไม่ได้เชียวหรือ? ทำไมต้องทำท่าทางรังเกียจแบบนั้น? เขาก็ไม่ได้ทำให้เธอไม่พอใจสักหน่อย! ลู่สือเยี่ยนดับบุหรี่ คาบบุหรี่ไว้ที่มุมปาก หยิบไฟแช็กขึ้นมากำลังจะจุด แต่พอเห็นขนตางอนยาวสั่นระริก เขาก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มมุมปาก "จุดให้หน่อยสิ" เขาเอาไฟแช็กยัดใส่มือเธอ ดวงตาคมกริบหรี่ลงเล็กน้อย แววตากรุ้มกริ่ม หลินเซียงอยากเอาไฟแช็กปาใส่หน้าเขาใจจะขาด แต่ในเมื่อเขาเลิกทำบ้า ๆ แล้ว เธอก็ควรจะยอม เธอรับไฟแช็กมา กด "แชะ"เสียงดังขึ้นพร้อมกับเปลวไฟลุกโชน เธอยื่นไฟแช็กเข้าไปใกล้ เห็นใบหน้าหล่อเหลาของเขาสว่างไสวขึ้นมาภ
ที่โรงพยาบาลก็แย่งข้าวชาวบ้านกิน ยังจะมาแย่งเธอที่นี่อีก! ผู้ชายคนนี้เป็นผีตายอดตายอยากมาเกิดใหม่หรือไง?บนโต๊ะอาหาร บรรยากาศตึงเครียดกระดูกซี่โครงชิ้นสุดท้าย หลินเซียงรีบยื่นมือออกไป แต่ลู่สือเยี่ยนเร็วกว่า เธอเห็นเขาคีบกระดูกซี่โครงไปแล้วยักคิ้วใส่เธอหลินเซียงพูดว่า "กินไปเถอะ ฉันใส่ยาพิษไว้"แต่ลู่สือเยี่ยนกลับจ้องมองเธอตรง ๆ แล้วกินกระดูกซี่โครงไม่กลัวเลยสักนิดหลินเซียงเม้มริมฝีปากเมื่อนึกถึงเรื่องก่อนหน้านี้ เขากินอาหารที่เธอทำแล้วเกิดอาการอาหารเป็นพิษ คนแรกที่เขาสงสัยคือเธอแต่ตอนนี้ แม้ว่าเธอจะบอกตามตรงว่าในอาหารมียาพิษ เขาก็ยังกินมันโดยไม่กะพริบตาเขามั่นใจว่าเธอไม่ได้ใส่ยาพิษ หรือว่าเขาไม่กลัวตายจริง ๆ?หลินเซียงพูดขึ้นทันที "ลู่สือเยี่ยน ถ้าคุณกินยาพิษเข้าไปจริง ๆ คุณไม่กลัวตายเหรอ?"ลู่สือเยี่ยนพูดว่า "ก่อนผมจะตาย ผมจะฆ่าคุณให้ตายก่อน เราจะได้ไปเป็นเพื่อนกันในปรโลก"หลินเซียงลุกขึ้นยืนแล้วเดินออกไปโดยไม่แสดงสีหน้าออกมาลู่สือเยี่ยนจ้องมองเธอ จนกระทั่งร่างของเธอหายไปที่ประตูห้องนอน เขาก็ละสายตาออกไปเขาวางตะเกียบลง เงียบไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็ลุกขึ้นเก็บชาม
ลู่สือเยี่ยนหันไปมองฉินโหย่วหาน "ได้ยินไหม ออกจากโรงพยาบาลไปแล้วเลี้ยวซ้ายมีร้านอาหารเช้า"หลินเซียง "..."ฉินโหย่วหานยิ้ม "ประธานลู่ ดูเหมือนหลินเซียงกำลังพูดกับคุณอยู่นะ"ลู่สือเยี่ยนพูดอย่างเย็นชา "คุณพูดเองนี่ว่าแค่ 'เหมือน' "หลินเซียง: "..."มุมปากของเธอกระตุก หันไปมองฉินโหย่วหาน "พี่หาน ให้พยาบาลมาช่วยดูแลคุณแล้วกันนะ ฉันขอตัวออกไปก่อน"เธอวางกล่องอาหารลง แล้วจับมือลู่สือเยี่ยน ก่อนจะเปิดประตูห้องผู้ป่วยแล้วออกไปสายตาของลู่สือเยี่ยนจับจ้องไปยังมือของเขาที่เธอจับอยู่ดวงตาคมลึกราวกับน้ำหมึก แม้แต่จุดประสงค์ที่เขามาก็ยังลืมไปสิ้นนานมากแล้วที่เธอเป็นฝ่ายจับมือเขาก่อนหลินเซียงไม่ได้สังเกตเห็นความผิดปกติของเขา จนกระทั่งออกจากโรงพยาบาล เธอจึงปล่อยมือแล้วมองเขาอย่างเย็นชา "ลู่สือเยี่ยน เลิกทำแบบนี้สักที"ลู่สือเยี่ยนมองฝ่ามือที่ว่างเปล่า แล้วถามขึ้นว่า "ทำไมไม่จับแล้วล่ะ""อะไรนะ?" หลินเซียงนึกว่าตัวเองหูฝาดไปลู่สือเยี่ยนพูดว่า "จับมือไง"หลินเซียงรู้สึกหมดคำจะพูด!เธอพูดว่า "คุณเป็นคุณชายของตระกูลลู่ เป็นประธานบริษัทดีเคกรุ๊ป ทำไมถึงเอาแต่ทำเรื่องไร้สาระแบบนี้?"ใน
ขณะที่ความอดทนของเธอใกล้จะถึงขีดจำกัด เขาก็หันกลับมาและเดินตรงไปยังวิลล่าอ่าวสีคราม"ตามมา" เขาเอ่ยเสียงเย็นชาโดยไม่หันมามอง เหมือนมั่นใจว่าเธอไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากต้องเชื่อฟังคำสั่ง หญิงสาวกำมือแน่น เธอไม่มีอำนาจหรือเส้นสายใด ๆ การหนีรอดจากเงื้อมมือของเขาเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ ในที่สุดเธอก็เดินตามเขาไป แต่แทนที่จะเข้าไปในวิลล่า เขากลับเดินตรงไปยังสวน แววตาของเธอฉายแววสงสัย ทำไมต้องมาที่นี่? เขาจะทำอะไร? ไม่นานเธอก็ได้คำตอบ ส่วนลึกที่สุดของสวนมีอาคารสองชั้นตั้งตระหง่านอยู่ มีบอดี้การ์ดหลายคนยืนเฝ้าอยู่หน้าประตู "ท่านประธานลู่" บอดี้การ์ดทุกคนก้มศีรษะลงด้วยความเคารพเมื่อเห็นลู่สือเยี่ยน "เปิดประตู" ลู่สือเยี่ยนกล่าวด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย บอดี้การ์ดคนหนึ่งหยิบกุญแจออกมาไขประตูอาคาร หลินเซียงยืนอยู่ห่างออกไปเล็กน้อย เธอขมวดคิ้วขณะมองเข้าไปในอาคารที่มืดมิด แต่ก็สามารถมองเห็นเงาราง ๆ ของใครบางคนที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ ทันใดนั้นแสงสว่างวาบก็ส่องเข้าไป ทำให้คนที่อยู่ข้างในต้องยกมือขึ้นบังแสง หลังจากที่ปรับสายตาได้แล้ว เธอก็รีบลุกขึ้นยืนและวิ่งออกมา บอดี้การ์ดรีบเข้
ช่างน่าขันอะไรอย่างนี้?สิ่งที่ตัวเองวางแผนไว้ วิธีการลงโทษคนอื่น สุดท้ายก็เหมือนกับการชกเข้ากับปุยนุ่นอ่อนปวกเปียก ไร้เรี่ยวแรงถูกแล้วแม้แต่ความโกรธของเธอก็ยังไร้เรี่ยวแรง เพราะคนที่เธอเผชิญหน้าคือลู่สือเยี่ยนเธอไม่สามารถต่อต้านเขาได้เลย!ตราบใดที่เขาต้องการ เขาสามารถปิดกั้นเส้นทางทั้งหมดของเธอได้จ้าวข่ายก่อนหน้าก็เป็นแบบนี้ เซี่ยหว่านในตอนนี้ก็ลงเอยแบบนี้เธอเข้าไปพัวพันกับคนแบบไหนมานานขนาดนี้กันนะ?สายตาของหลินเซียงเหม่อลอยไปเล็กน้อย มองไปยังความมืดด้านหน้าอย่างงุนงง ราวกับเหวลึกที่ไม่มีที่สิ้นสุดกำลังค่อย ๆ ปกคลุมเธอเข้าไปฉินโหย่วหานจับมือเธอ “หลินเซียง ไม่เป็นไรนะ?”“ฉัน…ไม่เป็นไรค่ะ” หลินเซียงขยับริมฝีปากพูดเธอสบายดี เธอไม่เป็นอะไร แค่ล้มเหลวเท่านั้น ไม่เป็นไรน้ำตาที่เงียบงันไหลลงมาจากแก้ม รู้สึกเพียงแค่ความเย็นเยียบที่แก้ม พอยื่นมือไปสัมผัส มองลงไปก็เห็นคราบน้ำใสบนนิ้วร้องไห้ทำไม?มีอะไรให้ร้องกัน?ควรรู้ตัวตั้งนานแล้วต่างหาก!ความคิดของเขา เธอคาดเดาไม่ได้เลย!แต่เธอยังกล้าที่จะต่อสู้กับเขา?หึ ฮ่าฮ่าฮ่า!หลินเซียงหัวเราะเยาะตัวเอง แต่ไม่รู้ทำไม น้ำต
ซือเยี่ยนค่อนข้างลนลาน “คุณเซี่ย อย่าร้องไห้เลย ไม่มีใครอยากให้คุณตาย อย่าร้องไห้…”เซี่ยหว่านมองเขาด้วยดวงตาที่พร่ามัวไปด้วยน้ำตา “แต่นายมาช่วยฉัน ถ้านายมาไม่ทันล่ะ? ฉันคงตายไปแล้ว!”ซือเยี่ยน “อ่า…คือว่า”เซี่ยหว่านกำแขนเขาแน่น “นายช่วยฉันได้ไหม? ฉันไม่อยากตายจริง ๆ…”ซือเยี่ยนเงียบไปครู่หนึ่งแล้วพูดว่า “คุณเซี่ย อยากให้ผมทำอะไรครับ?”แววแห่งความภาคภูมิใจฉายวาบในดวงตาของเซี่ยหว่าน จากนั้นก็พูดว่า “ช่วยปกป้องฉันได้ไหม?”ซือเยี่ยนขมวดคิ้ว “ไม่ได้ครับ ผมทำตามคำสั่งของท่านประธานลู่เท่านั้น”เซี่ยหว่านก้มหน้าลงด้วยความผิดหวัง “แต่ถ้านายไม่ปกป้องฉัน ฉันก็จะตาย เธอต้องฆ่าฉันแน่ ๆ เพราะฉันแย่งสือเยี่ยนไป…”ซือเยี่ยนขมวดคิ้ว รู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ เขาเงียบไปครู่หนึ่งแล้วพูดว่า “คือ…ผมขอคิดดูก่อนได้ไหมครับ? แล้วก็คุณเซี่ย ที่นี่ไม่ปลอดภัย ผมส่งคุณกลับไปก่อนดีกว่า”เซี่ยหว่านพยักหน้า “ได้”รถแล่นออกไปในความมืด บนถนนเล็ก ๆนิ้วของฉินโหย่วหานวางอยู่บนพวงมาลัย มองไปที่หลินเซียงอย่างนึกสนใจ “คุณเห็นหมดแล้วใช่ไหม?”สีหน้าของหลินเซียงดูเหม่อลอยเล็กน้อย “เห็นแล้ว…”ฉินโหย่วหานพูดว่า
ดวงตาของซือเยี่ยนเป็นประกายขึ้นทันที รีบวิ่งไปที่ตู้คอนเทนเนอร์นั้น พลางตะโกนถาม “คุณเซี่ย ใช่คุณหรือเปล่า คุณเซี่ย?”“ปัง ๆ!”เสียงดังออกมาจากตู้คอนเทนเนอร์นั้นอีกครั้ง ถือเป็นการตอบรับซือเยี่ยนดีใจมาก จากนั้นก็เริ่มตรวจสอบกุญแจของตู้คอนเทนเนอร์ เนื่องจากตู้คอนเทนเนอร์แถวนี้ถูกทิ้งร้าง กุญแจจึงไม่ใช่แบบพิเศษอะไร เขาหาหินมาทุบสิบกว่าครั้ง จนกุญแจพังเขาเปิดตู้คอนเทนเนอร์ ก็เห็นเซี่ยหว่านถูกมัดมือมัดเท้านอนอยู่ข้างใน ตอนนี้น้ำทะเลไหลเข้ามาถึงหูของเซี่ยหว่านแล้วเมื่อเซี่ยหว่านเห็นซือเยี่ยนก็ร้องไห้ออกมาซือเยี่ยนเข้าไปพยุงเซี่ยหว่านขึ้น จากนั้นก็แกะเชือกที่มัดตัวเธอออก แล้วดึงเทปที่ปิดปากเธอออก“อ๊ะ…”เซี่ยหว่านอุทานออกมาสั้น ๆ จากนั้นก็พูดทั้งน้ำตาว่า “หลินเซียง! ต้องเป็นนังหลินเซียงแน่ ๆ ที่จงใจเล่นงานฉัน ต้องเป็นเธอที่ส่งคนมามัดฉันไว้ที่นี่!”ซือเยี่ยนชะงักไป “แต่ผมติดตามคุณหลินตลอด เธอไม่ได้ทำเรื่องแบบนั้นเลยนะครับ”เซี่ยหว่านจับแขนเขา “ซือเยี่ยน ฉันช่วยสือเยี่ยนไว้ แต่หลินเซียงกลับจะฆ่าฉัน นายต้องช่วยฉันแก้แค้นนะ!”ซือเยี่ยนรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ แต่ที่นี่ไม่ใช่ที่ท
น้ำทะเลเริ่มหนุนแล้วตู้คอนเทนเนอร์ที่อยู่ไกลออกไปดูเหมือนสัตว์ประหลาดที่ตั้งตระหง่านอยู่ในความมืด กลืนกินคนข้างในทีละเล็กทีละน้อยหลินเซียงจ้องมองไปทางนั้นอย่างใจเย็น แต่ความมืดที่อยู่ไกลทำให้เธอไม่สามารถมองเห็นกระบวนการน้ำขึ้นได้อย่างชัดเจนภาพเหตุการณ์ที่เธอถูกขังอยู่ในตู้คอนเทนเนอร์ผุดขึ้นมาในหัว มือและเท้าถูกมัดไว้ ร่างกายเต็มไปด้วยความสิ้นหวังและขอความช่วยเหลือเฝ้าดูความตายเข้ามาใกล้ แต่เธอทำอะไรไม่ได้เลยเซี่ยหว่าน ตอนนี้เธอคงรู้สึกแบบนี้ใช่ไหม?หลินเซียงหรี่ตาลงเล็กน้อย ไม่มองต่อในขณะนั้น โทรศัพท์มือถือก็ยื่นมาตรงหน้าเธอ“หืม?”หลินเซียงมองไปที่ฉินโหย่วหานด้วยความสงสัยรอยยิ้มบาง ๆ ปรากฏขึ้นบนใบหน้าหล่อเหลาของฉินโหย่วหาน “ผมติดตั้งกล้องวงจรปิดไว้บนตู้คอนเทนเนอร์นั้นด้วย คุณจะได้เห็นท่าทีที่สิ้นหวังทั้งหมดของเซี่ยหว่าน”เขามองเข้าไปในดวงตาของหลินเซียง “อยากดูไหม?”หลินเซียงประหลาดใจมาก ไม่คิดว่าเขาจะทำแบบนี้ฉินโหย่วหานพูดว่า “ไม่ต้องแปลกใจ ผมแค่รู้สึกว่า ถ้าไม่ได้เห็นกับตาว่าคนที่เคยทำร้ายตัวเองได้รับโทษ แล้วโทษนั้นจะมีความหมายอะไร?”สายตาของเขาเหม่อลอยไปชั่วขณะ
ซ่งซ่งหงุดหงิดเล็กน้อย ก่อนจะเอามือขยี้ผมในขณะนั้น โทรศัพท์ของเธอก็ดังขึ้นอีกครั้ง เป็นสายจากประธานบริษัทซ่งซ่งสูดหายใจเข้าลึก ก่อนจะรับโทรศัพท์ “สวัสดีค่ะ?”“ซ่งซ่ง ทางคุณฟู่แจ้งมาว่าแบบมีปัญหา แถมยังบอกว่าคุณไม่ยอมรับโทรศัพท์เขา เธออยากจะทำให้สตูดิโอของเราพังทั้งบริษัทเลยหรือไง? รีบโทรกลับหาคุณฟู่เดี๋ยวนี้เลย…”“ฉันจะลาออก”ซ่งซ่งพูดอย่างเรียบเฉยอีกฝ่ายชะงักไป “ว่าไงนะ? จะลาออก? ล้อเล่นหรือเปล่า? เธอคงรู้นะว่าการลาออกของเธอจะส่งผลอะไรบ้าง?”ซ่งซ่ง “อืม ฉันรู้ค่ะ แต่ผลที่ตามมาทั้งหมด ฉันจะรับผิดชอบเอง”อีกฝ่ายยิ่งงงเข้าไปใหญ่ “เธอเป็นบ้าไปแล้วหรือไง? แค่ทำโปรเจกต์นี้เสร็จ รายได้ของเธอจะมหาศาลเลยนะ”ซ่งซ่งแสยะยิ้ม “แต่ถ้าทำไม่เสร็จล่ะคะ? ฟู่จิ่นซิ่วคอยหาเรื่องฉันอยู่ตลอด ฉันเหนื่อยแล้ว ไม่อยากเล่นกับเขาต่อแล้วค่ะ”“เธอ…” อีกฝ่ายคิดอยู่ครู่หนึ่ง แต่ก็พูดอะไรไม่ออกซ่งซ่งพูดอย่างใจเย็น “แค่นี้นะคะ สวัสดีค่ะ”พูดจบก็วางสายทันทีอยู่ไปก็ไม่มีความหมายไปดีกว่าออกจากเมืองอวิ๋นไปซะแต่เธอต้องคิดให้ดีว่าจะพูดเรื่องนี้กับหลินเซียงอย่างไรคนอย่างฟู่จิ่นซิ่ว เธอไม่กล้ามีเรื่อ
สีหน้าของสวีซินหรานดูไม่ดีขึ้นมาทันที “เธอหมายความว่ายังไง?”หลินเซียงหัวเราะเบา ๆ “ฟังไม่ออกเหรอ? ฉันกำลังเยาะเย้ยเธอไง เห็นเรื่องพวกนั้นแล้ว ที่เธอทำได้ก็แค่นั่งอยู่ในออฟฟิศแล้ววิจารณ์คนอื่น อย่างมากเข้าหน่อยก็เป็นนักเลงคีย์บอร์ดในอินเทอร์เน็ต เธอมีความสามารถอื่นอีกไหม?”สวีซินหรานลุกขึ้นยืนทันที สีหน้าของเธอดูแย่มาก “หลินเซียง เธอคิดว่าฉันกลัวเธอเหรอ? ตอนนี้เธอไม่มีที่พึ่งแล้ว!”“อ้อ แล้วไง?” สีหน้าของหลินเซียงยังคงเรียบเฉย “อยากจะฆ่าฉันเหรอ?”สวีซินหรานกัดฟัน รู้สึกโกรธมาก ผู้หญิงคนนี้เมื่อก่อนไม่เคยพูดอะไร แต่พักหลังมานี้ไม่รู้เป็นอะไร พอเธอเยาะเย้ย หลินเซียงก็ตอบโต้กลับทันที!แถมเธอก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของหลินเซียงเลย!หลินเซียงเบนสายตา “เอาเวลาไปพัฒนาผลงานของตัวเองดีกว่า อิจฉาคนอื่นไม่ได้ทำให้เธอดีขึ้นหรอกนะ แต่มันจะทำให้เธออัปลักษณ์มากขึ้น”“เธอ!”สวีซินหรานอยากจะพุ่งเข้าไป แต่ถูกคนสองคนห้ามไว้ทันทีบรรยากาศในออฟฟิศตึงเครียดขึ้นทันทีแต่หลินเซียงกลับไม่ได้รับผลกระทบใด ๆ ก่อนจะเริ่มทำงานของเธอต่อไปสวีซินหรานถูกกดให้นั่งลงบนเก้าอี้ มองหลินเซียงด้วยสายตาอาฆาต รอก่อนเถอะ สั
"อืม ค่ะ"หลินเซียงพยักหน้า เดินไปที่ลิฟต์โดยตรงเพื่อรอซืออวี่กลับมาเธอก้มลงมองโทรศัพท์ และในขณะนั้นเอง ประตูลิฟต์ก็เปิดออก พร้อมกับเสียงประหลาดใจที่ดังขึ้น"คุณผู้หญิง?"หลินเซียงเงยหน้าขึ้น เห็นซ่งจั่วเดินออกมาจากลิฟต์ บนใบหน้ามีร่องรอยของความดีใจ "คุณมาเยี่ยมท่านประธานลู่เหรอครับ?"สีหน้าของหลินเซียงเรียบเฉย ก่อนจะส่ายหน้า "เปล่าค่ะ"ซ่งจั่วชะงัก เอื้อมมือลูบจมูกตัวเอง เห็นได้ชัดว่าหลินเซียงมีท่าทีเย็นชา เขายิ้มอย่างอึดอัด แล้วพูดกับตัวเองว่า "ท่านประธานลู่ได้รับบาดเจ็บสาหัส พักอยู่ชั้นนี้เหมือนกัน คุณผู้หญิงจะไม่เข้าไปเยี่ยมหน่อยเหรอครับ?"หลินเซียงมองเขาอย่างใจเย็นแล้วพูดว่า "ซ่งจั่ว ฉันกับลู่สือเยี่ยนหย่ากันแล้วนะคะ""หือ?" ซ่งจั่วชะงัก แล้วก็เข้าใจความหมายของเธอ ยิ้มอย่างรู้สึกผิด "ขอโทษครับ คุณหลิน"สีหน้าของหลินเซียงจึงผ่อนคลายลงเล็กน้อยแต่ซ่งจั่วก็ยังไม่ยอมไปไหน ยังคงยืนอยู่ข้าง ๆ เธอหลินเซียงถามว่า "มีอะไรอีกหรือเปล่า?"ซ่งจั่วกัดฟันแล้วพูดว่า "คุณหลินครับ อย่างน้อยพวกคุณก็เคยเป็นสามีภรรยากัน ท่านประธานลู่ได้รับบาดเจ็บ คุณจะไม่เข้าไปดูหน่อยเหรอ?"คิ้วที่สวยงา
"สวัสดีครับคุณหลิน ผมชื่อเฉินลู่""ผมชื่อเฉินเจียง"เมื่อทั้งสองพูดจบ บรรยากาศก็ตกอยู่ในความเงียบงันอย่างน่าประหลาดหลินเซียง "หมดแล้วเหรอ?"เฉินลู่และเฉินเจียงมองหน้ากัน เฉินลู่พูดด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง ว่า "หมดแล้วครับ"หลินเซียงหัวเราะออกมา แล้วถามว่า "พวกคุณถนัดอะไรบ้าง? ต้องการค่าจ้างเท่าไหร่?"เฉินลู่และเฉินเจียงมองหน้ากันอีกครั้ง แล้วมองไปที่ฉินโหย่วหานพร้อมกันฉินโหย่วหานยกมือนวดหน้าผากอย่างจนปัญญาแล้วพูดว่า "พวกนายนั่งลงก่อน"เฉินลู่และเฉินเจียงนั่งลงทันทีฉินโหย่วหานจึงแนะนำสถานการณ์ของพวกเขาอย่างง่าย ๆ แล้วพูดในที่สุดว่า "เรื่องค่าจ้าง เธอจะให้เท่าไหร่ก็ได้"หลินเซียงส่ายหน้าแล้วพูดว่า "ให้เท่าไหร่ก็ได้ไม่ได้ พวกเขาต้องคุ้มครองความปลอดภัยของฉัน แต่รอบตัวฉันไม่ปลอดภัยเท่าไหร่ นี่ถือเป็นงานที่อันตรายมาก คุณจ่ายค่าจ้างให้พวกเขาเท่าไหร่ล่ะ ฉันจะให้สองเท่า"ฉินโหย่วหานเลิกคิ้ว "ใจป้ำขนาดนี้เลยเหรอ? งั้นผมขอสมัครเป็นบอดี้การ์ดให้คุณด้วยได้ไหม?"เฉินลู่และเฉินเจียงรู้สึกประหม่าขึ้นมาทันทีไม่จริงน่า?พี่หานจะมาแย่งงานพวกเขาหรือ?อย่างนั้นไม่ได้!ถ้าหลินเซียงจ้างพวกเขา
ฟู่จิ่นซิวขบเม้มติ่งหูของเธอ "นี่ลงโทษที่คุณมายั่วโมโหผม"ซ่งซ่งกัดไหล่ของเขาทันที สิ่งที่ตามมาทำให้เธอถึงกับสบถด่าไม่ออกคนคนนี้มันร้ายกาจเกินไปแล้ว!…หลินเซียงนอนหลับสบายตลอดคืนอาจเป็นเพราะมีซ่งซ่งอยู่ข้าง ๆ เธอจึงรู้สึกสบายใจมากเธอลืมตาขึ้นแล้วพูดว่า "ซ่งซ่ง ตื่นได้แล้ว ฉันจะทำบะหมี่ให้กิน อยากกินบะหมี่อะไร?"เธอพูดพลางลุกขึ้น แต่เมื่อมองไปข้าง ๆ กลับไม่เห็นซ่งซ่งหายไปไหน?หลินเซียงตกใจ รีบใส่รองเท้าออกไปตามหาแต่ซ่งซ่งไม่อยู่ในห้องเธอรีบหยิบโทรศัพท์ออกมากดโทรตาม แต่โทรศัพท์ของซ่งซ่งกลับดังอยู่ในห้องนอนสีหน้าของหลินเซียงดูไม่ดีทันที!เกิดอะไรขึ้น?ซ่งซ่งไปไหน?ทำไมไม่พกโทรศัพท์ไปด้วย?ในสังคมปัจจุบัน พรวดพราดออกจากบ้านโดยไม่เอาเงินสดไปยังได้ แต่ขาดโทรศัพท์ไม่ได้เด็ดขาดแล้วซ่งซ่งออกไปตั้งแต่เมื่อไหร่?ทำไมเธอถึงจำอะไรไม่ได้เลย?ขณะที่หลินเซียงกำลังคิดอยู่ จู่ ๆ เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้นหลินเซียงรีบไปเปิดประตู เห็นซ่งซ่งยืนอยู่หน้าประตูด้วยสีหน้าเหนื่อยล้า ดูอ่อนแรงเหมือนถูกสูบพลังไปจนหมด"ซ่งซ่ง เธอไปไหนมา?" หลินเซียงจับมือเธอถามซ่งซ่งยกยิ้มแล้วพูดว่า "เม