ลู่สือเยี่ยนรู้สึกถึงสายตาของเธอ เขาจึงหันขวับมามอง "มองอะไร?" ขนตาของหลินเซียงสั่นไหว ในตอนนั้นเอง เซี่ยหว่านก็เห็นเธอ จู่ ๆ เธอก็พูดขึ้นว่า "หลินเซียง เห็นหรือยัง? ตอนนั้นคุณไม่น่าช่วยเขาเลย! ฉันถึงกับเสียขาไปข้างหนึ่งเพื่อเขา แต่ตอนนี้เขากลับทำกับฉันแบบนี้ คุณพาเขากลับบ้าน แต่งงานกับเขา แล้วเขาดูแลคุณดีตรงไหน? เขาไม่คู่ควรกับความรักของคุณเลย!" หลินเซียงขมวดคิ้ว เซี่ยหว่านบ้าไปแล้วหรือไง? กล้าพูดแบบนี้ต่อหน้าลู่สือเยี่ยน ไม่กลัวเขาฆ่าปิดปากเหรอ? ใบหน้าของลู่สือเยี่ยนบึ้งตึง ดวงตาคมกริบราวกับเหยี่ยวจ้องมองเซี่ยหว่าน เขามองไปที่ขาเทียมของเธอ แล้วพูดขึ้นว่า "ขาเทียมข้างเดียวมันดูขัดหูขัดตา งั้นผมช่วยเปลี่ยนขาอีกข้างให้เป็นขาเทียมเหมือนกันดีไหม?" เซี่ยหว่านเบิกตากว้างด้วยความตกใจ “คุณ... ลู่สือเยี่ยน บ้าไปแล้วหรือไง? คุณกล้าเหรอ!" แววตาของลู่สือเยี่ยนฉายแววโหดเหี้ยม แต่เขาก็พยายามควบคุมตัวเองเอาไว้ "ถ้าขาคุณพิการทั้งสองข้าง ผมก็จะได้ดูแลคุณไปตลอดชีวิตไง" "ไม่ ไม่ได้!" เซี่ยหว่านถอยหลังด้วยความหวาดกลัว เธอมองลู่สือเยี่ยนราวกับว่าเขากลายร่าวเป็นอสุรกาย! เขามันปีศาจช
หลินเซียงมองเขาด้วยสายตาสงบนิ่ง แต่คำพูดกลับเย็นชาเล็กน้อย “แต่ลู่สือเยี่ยน ท้ายที่สุดแล้วประเด็นหลักก็คือคุณไม่เชื่อใจฉัน”ลู่สือเยี่ยนขมวดคิ้วหลินเซียงพูดเบา ๆ “ครั้งนี้เธอยอมชี้แจงชัดเจนก็จริง แต่ถ้าครั้งหน้ามีคนใส่ร้ายฉันอีก แล้วอีกฝ่ายชี้แจงไม่ได้ คุณก็จะคิดว่าฉันเป็นคนทำใช่ไหม?”ริมฝีปากบางของลู่สือเยี่ยนเม้มเป็นเส้นตรงเขายังไม่สามารถรับประกันได้ว่าจะเชื่อเธออย่างสนิทใจหรือไม่เขาหลับตาลง ภาพบางอย่างฉายขึ้นในสมองทันที ผู้หญิงคนหนึ่งถือของเล่นมาล้อเล่นกับเขา เขารับไว้ด้วยความดีใจ แต่ทันทีที่ยื่นมืออกไปจับ ของเล่นก็ระเบิดขึ้นมือของเขาเลือดไหล…เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นมากมายนับไม่ถ้วนหลินเซียงกล่าวว่า “ดังนั้น เพื่อหลีกเลี่ยงความเข้าใจผิดแบบนี้ซ้ำ ๆ เราหย่ากันดีไหม?”หย่ากันไม่ว่าเขาจะเกิดอะไรขึ้นก็ไม่เกี่ยวข้องกับเธออีกแล้วเธอก็ไม่ต้องเสียใจหรือทุกข์ใจกับการกระทำของเขาอีกต่อไปลู่สือเยี่ยนจ้องมองเธออย่างเย็นชา “พูดมาตั้งเยอะ เป้าหมายของคุณก็ยังคงเป็นการหย่า หลินเซียง คุณเลิกคิดไปได้เลย!”หลินเซียงกัดริมฝีปากก็ยังล้มเหลวอยู่ดีเฮ้อ…“คุณหนูเซี่ย?”ในขณะนั้น เส
ลู่สือเยี่ยนนั่งลงที่เบาะคนขับ สตาร์ทรถแล้วขับออกไปอย่างรวดเร็ว เหมือนกับสายฟ้าแลบ!หลินเซียงเห็นรถหรูแล่นผ่านไปอย่างรวดเร็ว ขนตาสั่นไหวผู้ชายคนนี้บ้าไปแล้วหรือไง?ขับรถเร็วขนาดนี้ในเขตเมือง?พอกลับถึงบ้าน เธอลงจากรถเดินไปได้สักพักก็ได้ยินเสียงเรียกจากด้านหลัง“คุณลูกค้า รอด้วยค่ะ!”หลินเซียงหันกลับไปด้วยความสงสัย เห็นคนขับรถเมื่อครู่ถือของบางอย่างเดินเข้ามา เขาตัวสูงใหญ่ สวมหน้ากากปิดบังใบหน้าไว้หมด เหลือเพียงดวงตาที่มองเธอด้วยรอยยิ้มเล็กน้อย “คุณครับ นี่ใช่ของของคุณหรือเปล่า?”หลินเซียงมองไปก็เห็นพวงกุญแจนั่นเป็นพวงกุญแจของเธอจริง ๆ“ขอบคุณนะคะ”หลินเซียงรับพวงกุญแจมา มองผู้ชายคนนั้นแล้วพูดคนขับโบกมือ “ไม่เป็นไรครับ กดให้คะแนนผมห้าดาวก็พอแล้ว”“ค่ะ”หลินเซียงหันหลังเดินกลับบ้านหลังจากวุ่นวายมาพักใหญ่ เธอก็ลืมหิวไปหมดแล้วหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูก็เห็นข้อความจากฉินโหย่วหานฉินโหย่วหาน: [อาหารเช้าอร่อยมาก ลู่สือเยี่ยนคงไม่โมโหจนตายใช่ไหม?]หลินเซียงอดไม่ได้ที่จะยิ้มหลินเซียง: [ไม่ต้องสนหรอกค่ะ แค่คุณคิดว่าอร่อยก็พอแล้ว]ฉินโหย่วหาน: [เที่ยงนี้คุณไม่ต้องมาแล้วนะ พั
“ได้” ซ่งซ่งตอบตกลงทันที“งั้นเธอก็กินยาเถอะ ถ้าอยู่ที่นั่นแล้วไม่ชินก็กลับมา ฉันจะดูแลเธอเอง ทำของอร่อย ๆ ให้เธอกินทุกมื้อเลย” หลินเซียงพูด“พูดแบบนี้ น้ำลายฉันไหลแล้ว ฉันจะรีบกลับเลย รอฉันด้วยนะ!” ซ่งซ่งพูด“อืม” หลังจากวางสาย หลินเซียงก็ยังคงเป็นกังวล ก่อนหน้านี้ซ่งซ่งอยู่กับฟู่จิ่นซิ่ว เธอได้รับบาดเจ็บแบบนี้แล้ว ฟู่จิ่นซิ่วรู้หรือเปล่า?แต่ว่าเธอไม่มีเบอร์ของฟู่จิ่นซิ่ว หลินเซียงครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะกดโทรหาลู่สือเยี่ยน ภายในห้องทำงานโทนสีเย็นยะเยือก บรรยากาศอึมครึมอย่างบอกไม่ถูก ตอนที่ฟู่จิ่นซิ่วเข้ามาก็เห็นลู่สือเยี่ยนทำหน้าบึ้งตึง ราวกับใครติดหนี้เขาอยู่หลายร้อยล้าน“จุ๊ ๆ เกิดอะไรขึ้น? อารมณ์ไม่ดีอีกแล้วเหรอ?” ฟู่จิ่นซิ่วเลื่อนเก้าอี้นั่งลงฝั่งตรงข้ามเขา แล้วถามอย่างไม่เกรงใจ ลู่สือเยี่ยนโยนเอกสารปึกหนึ่งมาตรงหน้าเขา “นายดูเองแล้วกัน” ฟู่จิ่นซิ่วหยิบขึ้นมาดู เห็นว่าเป็นโครงการที่ดีเคกรุ๊ปเพิ่งจะไปเจรจาติดต่อมา แต่กลับถูกบริษัทลู่กรุ๊ปตัดหน้าไป!ลู่เจิ้งหรงแย่งโครงการจากมือลูกชายตัวเอง?ฟู่จิ่นซิ่วเลิกคิ้วอย่างประหลาดใจ “ตาแก่นั่นคิดจะทำอะไร? ไม่กลัว
ฟู่จิ่นซิ่ว “จำไม่ได้แล้ว”หลินเซียงยิ่งสงสัยมากขึ้น แต่ก็พูดอะไรไม่ออก“ค่ะ เข้าใจแล้ว”หลังจากพูดจบ เธอก็วางสายทันทีฟู่จิ่นซิ่วมองโทรศัพท์ ก่อนจะส่งคืนให้ลู่สือเยี่ยน พร้อมกับหัวเราะเยาะเบา ๆ “ตลอดทั้งสาย ไม่ได้พูดถึงนายเลยสักคำ”สีหน้าของลู่สือเยี่ยนยิ่งแย่ลง “ว่างมากเหรอ?”ฟู่จิ่นซิ่วยิ้มรับ “ใช่”ลู่สือเยี่ยนหรี่ตาลงอย่างอันตราย ความเย็นยะเยือกพุ่งตรงมายังฟู่จิ่นซิ่วอย่างไม่ไว้หน้า!ราวกับจะฆ่าเขาให้ตายฟู่จิ่นซิ่วลุกขึ้นยืนแล้วพูดว่า “ภรรยานายไม่ยอมพูดถึงนายเอง จะจ้องฉันแบบนั้นทำไม? มีความสามารถมากก็ไปหาเธอสิ”พูดจบ เขาก็หันหลังเดินจากไปลู่สือเยี่ยนเอนหลังลง เกาคออย่างหงุดหงิดเธอโทรมาเพื่อจะคุยกับฟู่จิ่นซิ่วงั้นเหรอ?เมื่อไหร่กันที่พอเธอมีเรื่องก็ติดต่อฟู่จิ่นซิ่ว?ดูเหมือนว่าเขาจะปล่อยให้ฟู่จิ่นซิ่วว่างงานไม่ได้จริง ๆและก็ปล่อยให้หลินเซียงว่างไม่ได้เช่นกันเขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา โทรออกไปสายหนึ่ง “ฉันจะให้เงินเธอไปจดทะเบียนบริษัท แล้วรับหลินเซียงเข้ามาทำงานในบริษัทของเธอหน่อย”เสียงปลายสายตอบกลับอย่างเฉื่อยชา “เจ้านาย นี่ฉันกำลังลาพักร้อนอยู่นะ…”ลู่สือเยี่ยน
ซืออวี่ยื่นชานมในมือให้หลินเซียง "ดื่มชานมแทนดีกว่าค่ะ กาแฟมันขม ดื่มไม่อร่อยหรอก"หลินเซียงรับมา "ขอบคุณนะคะ"ซืออวี่พูดต่อ "เราเข้าไปดูข้างในกันก่อน ตึกนี้มีห้องว่างสองห้อง นายหน้าบอกว่าไม่เลว แต่ฉันไม่ค่อยรู้สึกคลิกเท่าไหร่ วานคุณช่วยเข้าไปดูให้หน่อย"หลินเซียงตอบ "เรื่องแบบนี้ฉันก็ไม่เชี่ยวชาญหรอก ว่าแต่คุณจะเปิดสตูดิโออะไรเหรอ?""สตูดิโอออกแบบสถาปัตยกรรมค่ะ" ซืออวี่ตอบหลินเซียงได้ยินดังนั้น ดวงตาก็เป็นประกาย เพราะตัวเธอเองก็เป็นสถาปนิกเหมือนนึกอะไรขึ้นได้ ซืออวี่จึงหันมาถามหลินเซียง "ฉันเห็นประวัติส่วนตัวของคุณแล้ว คุณเองก็เป็นสถาปนิกไม่ใช่เหรอ ตอนนี้ทำงานที่ไหนอยู่เหรอคะ?""ฉันไม่ได้ทำงานแล้วค่ะ" หลินเซียงตอบดวงตาของซืออวี่เป็นประกายทันที "ถ้าอย่างนั้นคุณมาทำงานที่สตูดิโอของฉันดีไหม? รับรองเลยว่าเงินเดือนและสวัสดิการดีกว่าที่เก่าของคุณแน่นอน เวลาทำงานก็ยืดหยุ่น ฉันจะไม่เข้าไปก้าวก่ายไอเดียของคุณด้วย ลองรับไว้พิจารณาดูหน่อยไหม?"หลินเซียงไม่คิดว่าซืออวี่จะชวนเธอทำงานตรง ๆ แบบนี้ เธอจึงยิ้มเล็กน้อย ก่อนปฏิเสธอย่างสุภาพ "ขอบคุณมากค่ะ แต่ตอนนี้ฉันยังไม่อยากทำงาน เพราะฉันอ
"ฮัลโหล" เสียงผู้ชายทุ้มต่ำมีเสน่ห์ แต่กลับแฝงไปด้วยความเย็นชาซืออวี่พูดช้า ๆ "ท่านประธาน หลินเซียงกำลังจะย้ายออกจากเมืองอวิ๋นเฉิงแล้วนะ ถ้าคุณอยากจะทำอะไร ก็รีบ ๆ หน่อยแล้วกัน"ลู่สือเยี่ยนได้ยินดังนั้น สีหน้าก็เปลี่ยนเป็นเคร่งขรึมทันที "เธอพูดเองเลยเหรอ?""อืม""แล้วเธอบอกไหมว่าจะไปที่ไหน?" ลู่สือเยี่ยนถาม"ฉันเพิ่งรู้จักกับเธอได้แค่สองวัน เธอยอมออกมาเจอฉัน ฉันก็แปลกใจจะแย่แล้ว เธอจะยอมบอกเรื่องแบบนี้กับฉันได้ยังไง?" ซืออวี่ตอบ"งั้นเธอก็พยายามหน่อยแล้วกัน ไม่งั้นจะหักโบนัสปลายปี" ลู่สือเยี่ยนพูดเสียงเย็นชา ก่อนจะวางสายไปทันทีซืออวี่จ้องโทรศัพท์อย่างเคียดแค้น นี่มันนายทุนหน้าเลือดชัด ๆ! รู้จักแต่จะเอาเปรียบคนที่อ่อนแอกว่า!เธอสาปแช่งให้เขาไม่มีวันตามหาเมียตัวเองเจอ!...หลินเซียงกลับถึงบ้านก็เริ่มทำอาหาร จากนั้นก็ส่งข้อความหาฉินโหย่วหานหลินเซียง: [พี่หาน คืนนี้สะดวกให้ไปเยี่ยมไหมคะ?]ฉินโหย่วหาน: [สะดวกสิ]หลินเซียงเก็บโทรศัพท์มือถือ ตักอาหารที่ทำเสร็จแล้วใส่กล่อง จากนั้นก็ออกเดินทางไปโรงพยาบาลเมื่อผลักประตูห้องพักเข้าไป ก็เห็นฉินโหย่วหานกำลังเดินอย่างช้า ๆ ไปที่เตี
ภาพใบหน้าโหดเหี้ยมของฉีเจี้ยนเย่ผุดขึ้นมาในหัว ทำให้คิ้วเรียวของหลินเซียงขมวดเข้าหากันอย่างห้ามไม่อยู่ ฉินโหย่วหานหยิบเอกสารออกมาวางตรงหน้าเธอ "ผมให้คนไปสืบเรื่องของเขาแล้ว ลองดูข้อมูลพวกนี้ก่อน"หลินเซียงรับมาเปิดอ่าน ฉีเจี้ยนเย่อายุสี่สิบกว่าปี ติดคุกสิบปี เพิ่งพ้นโทษในวันนี้ ความผิดที่เขาทำคือฆ่าคนตายโดยประมาทฉินโหย่วหานมองเธอพลางเอ่ยอย่างช้า ๆ "คุณรู้ไหมว่าเขาฆ่าใคร?"หลินเซียงส่ายหน้า ฉินโหย่วหานกล่าวต่อ "คนคนนั้นก็คือลู่จิ้นหนาน ลูกชายคนรองของตระกูลลู่ พี่ชายของลู่สือเยี่ยน"หลินเซียงไม่คุ้นเคยกับชื่อนี้เลยแม้แต่น้อยฉินโหย่วหานกล่าวต่อ "แต่ผมไม่เข้าใจว่าทำไมเขาถึงอยากฆ่าคุณ หลังจากผมสืบเรื่องนี้แล้วก็พบว่าตอนที่เขาลักพาตัวลูกชายทั้งสองคนของตระกูลลู่ มีคนไปแจ้งตำรวจ เขาโกรธมากเลยเผาสองพี่น้องตาย ลู่จิ้นหนานโชคร้ายเสียชีวิต ส่วนอีกคนหนึ่งรอดไปได้อย่างหวุดหวิด"สายตาของเขาจับจ้องไปที่เธอ "ผมเดาว่าคนที่แจ้งตำรวจอาจจะเป็นคุณหลินเซียง คุณจำเรื่องพวกนี้ไม่ได้จริง ๆ เหรอ?"แววตาของหลินเซียงเต็มไปด้วยความสับสน แจ้งตำรวจ?ลักพาตัว?เธอพยายามนึกเท่าไหร่ แต่มันก็ไม่มีควา
ซ่งซ่ง “สบายใจได้เลย ไอ้บ้านั่นแกล้งฉันไม่ลงหรอก พอฉันเบื่อก็จะถีบหัวส่งเอง”หลินเซียงรู้สึกไม่ค่อยดีกลัวที่สุดคือซ่งซ่งจะเล่นจนพลาด ทำให้ฟู่จิ่นซิ่วน้อยใจ เขาอาจจะเลวร้ายกว่าลู่สือเยี่ยนเสียอีกหลินเซียงบอกความกังวลของเธอ “ยังไงก็ระวังตัวด้วยนะ”ซ่งซ่ง “ได้ ๆ รู้แล้ว”หลินเซียง “งั้นฉันไม่รบกวนเวลาทำงานแล้ว ไปก่อนนะ บาย”“จุ๊บ จุ๊บ”…หลินเซียงกลับไปที่สตูดิโอโดยตรงสภาพจิตใจของเธอเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิงสวี่ซิงเย่เป็นคนแรกที่สังเกตเห็น จึงถามด้วยรอยยิ้มว่า “เรื่องอะไรทำให้คุณมีความสุขขนาดนี้ครับ?”หลินเซียงประหลาดใจ “เห็นได้ชัดขนาดนั้นเลยเหรอ?”สวี่ซิงเย่พยักหน้า “ชัดแจ๋วเลย ก่อนหน้านี้คุณทำงานไม่เคยยิ้ม วันนี้ยิ้มตลอดเวลา”หลินเซียงลูบหน้า แล้วพูดว่า “อืม ปิดการขายได้น่ะ เซ็นสัญญาเสร็จเรียบร้อย ใกล้จะรวยแล้ว ก็เลยมีความสุข”สวี่ซิงเย่ “งั้นก็ขอแสดงความยินดีด้วยนะครับ”“ขอบคุณ”หลินเซียงยิ้มเล็กน้อย แล้วหันไปเปิดคอมพิวเตอร์เธอมองไปรอบ ๆ ออฟฟิศ พบว่าวันนี้ซืออวี่ไม่ได้มา แต่เธอก็ไม่ได้ใส่ใจ แล้วเริ่มทำงานทันทีที่โรงพยาบาลลู่สือเยี่ยนโยนใบหย่าลงตรงหน้าคุณย่าลู่ ดึ
หลินเซียงรู้สึกสงสัยเล็กน้อย “ทำไมจดล็อบบี้ไม่ได้เหรอคะ?”เจ้าหน้าที่กล่าวว่า “คุณผู้หญิง วันนี้ที่ล็อบบี้คนเยอะ เชิญทั้งสองท่านไปชั้นบนดีกว่า”หลินเซียงเหลือบมองไปที่เคาน์เตอร์รับเรื่องหย่า เห็นว่าคนแน่นจริง ๆอย่างนี้นี่เอง สมัยนี้การแต่งงานส่วนใหญ่คงไปกันไม่รอดสินะ?เธอไม่คิดอะไรมาก รีบตามเจ้าหน้าที่ขึ้นไปชั้นบนในห้องทำงานของนายทะเบียน ทั้งสองคนกรอกเอกสารเพิ่มเติม แล้วก็เข้าสู่เรื่องการแบ่งทรัพย์สินลู่สือเยี่ยนหยิบสัญญาฉบับหนึ่งให้เธอ “นี่คือค่าชดเชยให้คุณ”หลินเซียงรับมาดู พอเห็นชื่อบางชื่อ ดวงตาของเธอก็เบิกกว้างบ้านที่เฟิงหลินหย่วน เขากลับยกให้เธอบ้านหลังนั้นเธอขายไปแล้วไม่ใช่เหรอ?เขาซื้อคืนมาเมื่อไหร่?หรือว่าเป็นอีกหลังหนึ่ง?นั่นเป็นบ้านหลังใหญ่หลังแรกที่เขาให้เธอ มีความทรงจำดี ๆ เธอยังคงชอบมันอยู่เธอมองลงไปด้านล่าง ยังมีค่าชดเชยการหย่าอีกห้าสิบล้านเยี่ยมไปเลย เธอกลายเป็นมหาเศรษฐีแล้วลู่สือเยี่ยนจ้องมองเธออย่างลึกซึ้ง “มีอะไรสงสัยไหม?”หลินเซียงส่ายหัว “ไม่มีค่ะ”จากนั้นก็ถึงขั้นตอนการเซ็นชื่อไม่นาน นายทะเบียนก็มอบใบหย่าให้ทั้งสองคนแต่ลู่สือเยี่ยนไม
หลินเซียงกลับไปที่สตูดิโอสวี่ซิงเย่เห็นสีหน้าที่ผิดปกติของเธอ จึงถามว่า “หลินเซียง คุณไม่สบายหรือเปล่าครับ?”หลินเซียงส่ายหัว “เปล่า อาจจะแค่พักผ่อนไม่เพียงพอ”สวี่ซิงเย่กังวลเล็กน้อย “ยังมีอะไรที่ยังทำไม่เสร็จอยู่ไหมครับ? ให้ผมช่วยก็ได้ ผมจะช่วยคุณเอง”หลินเซียง “ไม่มีแล้ว ขอบคุณมาก”สวี่ซิงเย่ยังอยากจะพูดอะไรอีก ซืออวี่ก็เดินเข้ามา “เสี่ยวสวี่ ออกไปข้างนอกกับฉันหน่อย!”สวี่ซิงเย่พยักหน้า “ได้ครับ”ช่วงนี้ ซืออวี่มักจะพาสวี่ซิงเย่ออกไปข้างนอก เขามีความสามารถ แถมยังดื่มเหล้าเก่ง ถนัดการเข้าร่วมงานเลี้ยงสังสรรค์ทางธุรกิจมากมาย ด้วยความสามารถของเขาทำให้ดึงดูดทรัพยากรได้มาก ตอนนี้เริ่มทำแบบร่างโครงการด้วยตัวเองแล้วหลินเซียงมองตามพวกเขาออกไป ในใจเกิดความสงสัยเล็กน้อยช่วงนี้งานเลี้ยงเยอะเกินไปหรือเปล่า?ก่อนหน้านี้ไม่เห็นจะเป็นแบบนี้เลยสวี่ซินหรานพูดขึ้นมาทันที “หึ ก่อนหน้านี้บอสมักจะพาเธอออกไป ให้ความสำคัญกับเธอมาก ตอนนี้เป็นไงล่ะ ดูเหมือนความสามารถของสวี่ซิงเย่จะโดดเด่นกว่าเธอนะ”หลินเซียง “งั้นเธอมีดีอะไรบ้างล่ะ?”สวี่ซินหรานอึ้ง ไม่คิดว่าเธอจะโต้กลับหลินเซียงมองเธออย่
คุณย่าลู่ขู่จะตาย! สีหน้าของลู่สือเยี่ยนเปลี่ยนไปทันทีเซี่ยหว่านรีบเข้าไป พร้อมกับร้องไห้พูดว่า “คุณย่าลู่ค่ะ อย่าพูดอย่างนั้นเลย ไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าสุขภาพของคุณแล้วค่ะ เราไปตรวจกันก่อนดีไหมคะ?”คุณย่าลู่มองเธอด้วยความปลื้มปิติ “หว่านหว่าน เธอนี่เป็นเด็กดีจริง ๆ ตระกูลลู่เป็นหนี้เธอมากเกินไปแล้ว ถ้าฉันไม่ทำอะไรสักอย่าง สู้ตายไปยังไม่เจ็บช้ำเท่า”เซี่ยหว่านร้องไห้จนพูดไม่ออก!สถานการณ์ตึงเครียดขึ้นมาทันทีลู่สือเยี่ยนไม่ยอม คุณย่าลู่ก็ยิ่งหน้าซีดลงเรื่อย ๆ เธอจับจ้องราวกับจะคาดคั้นรอการตัดสินใจของเขาหลินเซียงเดินเข้าไป มองลู่สือเยี่ยนแล้วพูดว่า “เราไปหย่ากันก่อนเถอะ สุขภาพของย่าสำคัญกว่า”คุณย่าลู่มองลู่สือเยี่ยนด้วยความกระวนกระวายลู่สือเยี่ยนหันไปมองหลินเซียงอย่างรวดเร็ว กระตุกมุมปาก “ผลลัพธ์ที่เป็นอยู่ตอนนี้ คุณคงพอใจแล้วใช่ไหม?”หลินเซียงเม้มริมฝีปาก พูดว่า “แต่สุขภาพของย่าสำคัญกว่า”ลู่สือเยี่ยนพยักหน้า “ได้ หย่าก็หย่า”คุณย่าลู่ก็โล่งใจขึ้นมาทันที นอนลงบนเตียงแล้วหลับไปหมอและพยาบาลพาคุณย่าลู่ไปห้องตรวจเซี่ยหว่านเช็ดน้ำตาบนใบหน้า มองลู่สือเยี่ยนแล้วพูดว่า “สือเยี่
คุณย่าลู่ “จะมีใครทำร้ายเธอได้ยังไง? นั่นเป็นแค่การคาดเดาของเธอเท่านั้น”“เหอะ!”ลู่สือเยี่ยนหัวเราะเบา ๆ แล้วพูดต่อ “คุณย่าครับ คนคนหนึ่งที่เพิ่งฟื้นขึ้นมาแต่ความจำเสื่อม จะไปอยู่บนถนนได้ยังไง? คนดูแลที่บ้านเราล่ะ? หายหัวไปไหนหมด?”คุณย่าลู่เงียบไปลู่สือเยี่ยนพูดต่อ “ตอนนั้นเธอเป็นคนที่ช่วยผม พาผมกลับบ้าน ถ้าไม่ใช่เธอ วันนี้ย่าก็คงไม่ได้เจอหน้าผมแล้ว”คุณย่าลู่มองหลินเซียง แล้วพูดขึ้นมาทันทีว่า “ความจริงเป็นแค่เรื่องบังเอิญหรือเปล่า ตอนนี้ยังสรุปไม่ได้ ถ้าเกิดเธอรู้ตัวตนของหลานตั้งแต่แรกล่ะ?”“ฉันไม่รู้ค่ะ”หลินเซียงรู้สึกว่าเธอควรจะพูดอะไรสักอย่างเธอมองคุณย่าลู่อย่างสงบ “คุณย่าคะ ฉันไม่รู้ว่าทำไมคุณย่าถึงได้เกลียดฉันขนาดนี้ แต่เมื่อก่อนย่าไม่ใช่แบบนี้ แถมยังชอบฉันมาก ถึงกับบอกเขาว่า ถ้าเขาทำร้ายฉัน คุณย่าจะช่วยฉันตีเขา ฉันยังจำคำพูดพวกนั้นได้อยู่เลย”เธอหายใจออกเบา ๆ แล้วพูดต่อ “แต่แน่นอนค่ะ คุณย่าจำไม่ได้ งั้นก็ไม่สำคัญแล้ว ฉันไม่รู้จักตัวตนของเขาตั้งแต่แรก จนกระทั่งเขาได้ความทรงจำกลับมา แล้วมาเปิดตัวในที่ที่ฉันทำงานอยู่ ฉันถึงได้รู้จักตัวตนของเขา”คุณย่าลู่เงียบไป ใบหน้
หลินเซียงมองคุณย่าลู่ด้วยความประหลาดใจไม่เคยคิดมาก่อนว่าคุณย่าที่เคยใจดีกับเธอ ในระดับที่เรียกว่าเอาใจใส่ กลับคิดร้ายกับเธอแบบนี้ แล้วยังมองเธอด้วยสายตาเย็นชาหลินเซียงรู้สึกเจ็บปวดในใจที่แท้ไม่ใช่แค่ตอนที่ลู่สือเยี่ยนทำร้ายเธอเท่านั้นถึงจะรู้สึกเจ็บปวดการถูกคนที่เคยสนิทสนมทำร้าย ใจก็เจ็บปวดเช่นกันเธอเม้มริมฝีปาก แล้วหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาลู่สือเยี่ยน“ฮัลโหล?”ไม่นานปลายสายก็รับ ได้ยินเสียงทุ้มต่ำของชายหนุ่มดังขึ้นหลินเซียงบอกว่า “คุณย่ามีเรื่องจะพูดกับพวกเรา ตอนนี้คุณช่วยมาโรงพยาบาลหน่อย”ลู่สือเยี่ยนถามว่า “เกิดอะไรขึ้นเหรอ?”หลินเซียง “มาถึงเดี๋ยวก็รู้เอง”พูดจบก็วางสายไปเรื่องหย่าควรจะพูดต่อหน้าทั้งสองคนจะดีกว่าบอกกับเธอแค่คนเดียวมีประโยชน์อะไร?เธออยากหย่า แต่ลู่สือเยี่ยนไม่ยอม คุณย่าลู่ก็ไม่เชื่อเธอทำผิดอะไร?ถึงได้ถูกปฏิบัติแบบนี้?หลินเซียงนั่งลงบนโซฟา ก้มหน้าลง ไม่มองคุณย่าลู่อีกนิสัยของเธอค่อนข้างแปลกถ้าคนคนนั้นทำร้ายเธอ ก็ยากที่จะเข้าไปอยู่ในใจเธอได้อีกคุณย่าลู่ไม่ค่อยชอบท่าทางของหลินเซียง จึงจับมือเซี่ยหว่านแล้วคุยต่อ เพราะชอบท่าทางอ่อนโยนขอ
หลังจากออกจากโรงพยาบาล ลู่สือเยี่ยนมองเธอ “อย่าคิดมาก คุณย่าแค่ลืมความทรงจำไปสองปีเท่านั้นเอง”หลินเซียงมองเขา แล้วถามว่า “แล้วถ้าคุณย่ายืนกรานจะให้คุณแต่งงานกับเซี่ยหว่านล่ะ?”ลู่สือเยี่ยนมองเธออย่างลึกซึ้ง “หลินเซียง เธอควรเลิกคิดเรื่องนี้นะ เพราะผมไม่หย่ากับคุณแน่”หลินเซียงอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ แล้วพูดว่า “จริง ๆ แล้ว เราหย่ากันก็ไม่เลวนะ ฉัน…”“หยุด!”ลู่สือเยี่ยนมองเธอด้วยความหงุดหงิด “ฟังที่ผมพูดไม่รู้เรื่องเหรอ? ถ้าพูดถึงเรื่องหย่าอีก ผมจับคุณขังไว้แน่!”ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความโกรธ รอบตัวเต็มไปด้วยออร่าเย็นชาหลินเซียงหยุดชะงัก ไม่พูดต่อเพราะเขาทำได้จริงเมื่อหันหลังเดินไป ใบหน้าเล็ก ๆ นั้นเย็นชายิ่งกว่าเก่าลู่สือเยี่ยนมองตามหลังเธอไป ริมฝีปากบางเม้มเป็นเส้นตรงเขาเปิดประตูแล้วก้าวขึ้นรถ สีหน้ามืดครึ้มอย่างที่สุดในขณะนั้น เสียงเรียกเข้าโทรศัพท์เขาดังขึ้น เขาหยิบขึ้นมาดู เป็นสายจากซืออวี่“พูดมา!”ซืออวี่ตกใจกับน้ำเสียงเย็นชาของเขา ก่อนจะกลืนน้ำลายอึกใหญ่ “พี่ใหญ่ ฉันสืบได้เรื่องบ้างแล้ว แต่คนคนนั้นฉลาดเป็นกรด ปกปิดตัวตนได้ดีมาก รู้แค่ว่าเป็นผู้ชาย”ลู่สือเยี
วันรุ่งขึ้น ทั้งสองคนไปที่โรงพยาบาลคุณย่าลู่ทานอาหารเช้าเสร็จแล้ว อวิ๋นหลานนั่งคุยกับเธออยู่“คุณย่าครับ”ลู่สือเยี่ยนเดินเข้าไปเรียกด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนคุณย่าลู่เห็นเขา ใบหน้าที่แก่ชราพลันมีรอยยิ้ม“สือเยี่ยน เธอมาแล้ว” คุณย่าลู่จับมือเขาไว้ มองใบหน้าหล่อเหลาของเขาแล้วพูดขึ้นมาทันทีว่า “สือเยี่ยน ทำไมดูเปลี่ยนไปจังเลย? ดูเหมือนจะโตขึ้นมากเลยนะ”ริมฝีปากบางของลู่สือเยี่ยนโค้งเป็นรอยยิ้ม “โตขึ้นแล้วไม่ดีเหรอครับ?”คุณย่าลู่พยักหน้า “ดี แน่นอนว่าดี แต่ฉันยังชอบเธอตอนเด็ก ๆ ที่ไร้เดียงสามากกว่า เอาแต่วิ่งตามหลังพี่ชายตลอดเวลา แล้วยังทำหน้าบึ้งใส่เขา มีแต่พี่ชายที่ตามใจ ถ้าเป็นคนอื่นคงตีเธอไปแล้ว”รอยยิ้มที่มุมปากของลู่สือเยี่ยนแข็งทื่อไปชั่วขณะคุณย่าลู่สังเกตเห็นหลินเซียงในตอนนี้ จึงถามว่า “แล้วเธอล่ะ มายังไง?”ลู่สือเยี่ยนบอกว่า “ย่าครับ เธอเป็นภรรยาผม หลินเซียง”หลินเซียงมองคุณย่าลู่ “คุณย่า”คิ้วของคุณย่าลู่ขมวดเข้าหากันทันที เธอปล่อยมือลู่สือเยี่ยน “ก่อนหน้านี้เธอบอกว่าจะแต่งงานกับหว่านหว่านไม่ใช่เหรอ? ฉันเห็นว่าเด็กคนนั้นก็ใช้ได้นะ ทำไมถึงแต่งงานกับคนอื่นล่ะ?”ท่าทีนั้
ใบหน้าของลู่สือเยี่ยนแสดงออกถึงความซับซ้อนเล็กน้อย เขาพูดอย่างสงบว่า “เรื่องนี้ยังบอกไม่ได้ ต้องรอผลตรวจของแพทย์”หลินเซียงพยักหน้า ตอนนี้คงทำได้แค่นี้ลู่เจิ้งหรงมองหลินเซียงด้วยสายตาไม่เป็นมิตร แล้วพูดกับลู่สือเยี่ยนว่า “อาการของย่าแกดูเหมือนจะดีขึ้น ความคิดของผู้ใหญ่ แกคงรู้ดี น่าจะอยากเห็นแกแต่งงานกับหว่านหว่าน ตอนนั้นแกเป็นคนพาหว่านหว่านไปหาท่านเอง ตอนนี้ถ้าท่านขอร้อง แกก็ปฏิเสธไม่ได้”อวิ๋นหลานกล่าวว่า “เจิ้งหรง แต่สือเยี่ยนกับหลินเซียงรักกันดี ทำแบบนี้ไม่ค่อยดีหรอกมั้ง?”“เหอะ!” ลู่เจิ้งหรงหัวเราะเยาะ “รักกันดี? หลินเซียงไม่ใช่เหรอที่อยากหย่ามาตลอด? ใช้โอกาสนี้หย่ากันไปซะสิ ไม่ต้องมีใครขัดขวางใคร!”อวิ๋นหลานมองหลินเซียงด้วยความกังวล กลัวว่าเธอจะเสียใจแต่หลินเซียงเหมือนไม่ได้ยิน ยืนอยู่มุมห้อง ก้มหน้าลง ปากสวยเม้มเป็นเส้นตรงลู่สือเยี่ยนไม่ได้สนใจคำพูดของลู่เจิ้งหรงเลยเขาตามหาลู่จิ้นหนานจนแทบคลั่ง ยังมีเวลาสนใจเรื่องของเขากับหลินเซียงอีกเหรอ?ดูเหมือนว่าเขาควรหาอะไรให้อีกฝ่ายทำบ้าง!ประมาณสองชั่วโมงผ่านไปผลการตรวจของคุณย่าลู่ออกมาแล้วแพทย์ถือรายงานผลการตรวจแล้วพูด