ฉินโหย่วหานพูด "คุณอายุยังน้อย ควรจะหางานทำเพื่อให้ตัวเองวุ่นวายและเติมเต็มชีวิต การอยู่เฉย ๆ ทุกวัน ทำให้จิตใจห่อเหี่ยวได้ง่าย"หลินเซียงตอบ "ค่ะ ฉันจะลองพิจารณาดู"ฉินโหย่วหานยื่นข้อเสนอโดยตรง "หรือไม่คุณมาทำงานที่บริษัทผมไหม ช่วงนี้ขาดคนอยู่พอดี"หลินเซียงหัวเราะ "พี่หาน อย่าล้อเล่นเลยค่ะ ความสามารถของฉันไม่ดีขนาดนั้น ถ้าทำงานของคุณพังขึ้นมาจะทำยังไง"เขากลับจ้องมองเธอแล้วพูดว่า "ไม่เป็นไร ต่อให้คุณจะทะลวงฟ้า ผมก็จะช่วยรับผิดชอบเอง"หลินเซียงชะงัก กำลังจะพูดอะไรบางอย่าง ประตูห้องพักก็ถูกผลักเปิดออกอีกครั้ง เฉียวหร่านก็เดินเข้ามา"ทำไมคุณมาอีกแล้ว?"บนใบหน้าของเฉียวหร่านเดิมทีมีรอยยิ้ม แต่พอเห็นหลินเซียง รอยยิ้มก็หายวับไปกับตาแววตาของเธอเต็มไปด้วยความระแวดระวัง รีบเดินเข้ามาแล้วพูดว่า "ในเมื่อคุณแต่งงานแล้วก็อย่ามาที่นี่บ่อย ๆ เลย พี่หานยังโสด ถ้าคนอื่นเข้าใจผิดจะทำยังไง?""เฉียวหร่าน!"ฉินโหย่วหานไม่คาดคิดว่าเธอจะมา แต่ก็เข้าใจได้อย่างรวดเร็ว ต้องมีคนเรียกเธอมาแน่ และคนคนนั้นคงทนไม่ได้ที่เห็นเขากับหลินเซียงอยู่ด้วยกันแต่ครั้งนี้เฉียวหร่านไม่ได้ฟังคำพูดของฉินโหย่วหาน หัน
พูดจบ เธอก็หันหลังเดินออกไปทันที ฉินโย่วหานมองกล่องข้าวสีชมพูสวยหรูอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะละสายตาไปโดยไม่ขยับตัวแม้แต่น้อย ... หลินเซียงกลับมาถึงอะพาร์ตเมนต์ ขณะที่กำลังจะเข้าไปในตัวอาคาร เธอก็ได้กลิ่นควันบุหรี่จาง ๆ เป็นเรื่องปกติที่จะมีคนสูบบุหรี่ในอาคาร เธอจึงไม่ได้สนใจอะไร แต่เมื่อเธอขึ้นไปชั้นบน กดรหัสผ่าน และกำลังจะปิดประตู ก็มีมือข้างหนึ่งมาจับที่ขอบประตูแล้วออกแรงผลักจนเปิดออก เธอถูกผลักเข้าไปข้างใน "ปัง!" ประตูถูกปิดลง หลินเซียงเบิกตากว้างด้วยความตกใจ "ลู่สือเยี่ยน ทำอะไร?" ร่างสูงใหญ่ของลู่สือเยี่ยนเข้ามาประชิดตัวเธอที่ทางเข้า มือหนากุมเอวบางไว้แล้วออกแรงยกตัวเธอขึ้นไปวางบนตู้รองเท้า ปลายจมูกโด่งของเขาแตะอยู่ที่ปลายจมูกของเธอ เสียงทุ้มต่ำเอ่ย "ภรรยาของผมไปทำอาหารให้ผู้ชายคนอื่น ไปมอบความอบอุ่นให้ผู้ชายคนอื่น บอกซิว่าผมควรทำอะไรดี" ขณะที่เขาพูด มือหนาก็ออกแรงบีบเอวบางราวกับจะบดขยี้มัน "จะให้ผมไปฆ่าเขา หรือจะให้จัดการคุณตรงนี้ดี หืม?" พูดจบ ลู่สือเยี่ยนก็ประกบจูบลงบนริมฝีปากของเธอทันที! ริมฝีปากของเขายังคงมีกลิ่นควันบุหรี่ติดอยู่ รสชาติรุกรานคละคลุ้งไปท
นิ้วมือเรียวของหลินเซียงสั่นเทา ความกลัวผุดขึ้นมาในใจ มือหนาของลู่สือเยี่ยนเลื่อนลงมาที่เสื้อผ้าของเธอ ก่อนที่จะออกแรงดึงเบา ๆ ราวกับจะฉีกมันออก "ถ้าคุณกล้าทำบ้า ๆ ที่นี่ ฉันจะเกลียดคุณไปตลอดชีวิต!" เสียงหวานเอ่ยอย่างขุ่นเคือง การกระทำของลู่สือเยี่ยนชะงักลง เนื้อผ้าในมือทั้งนุ่มและบอบบาง เพียงแค่เขาออกแรงอีกนิด มันก็จะขาดวิ่นเป็นชิ้น ๆ แต่เมื่อเห็นแววเจ็บปวดที่เอ่อคลออยู่ในดวงตาคู่สวย เขากลับรู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก พวกเขาเป็นสามีภรรยากัน! จะใกล้ชิดกันหน่อยไม่ได้เชียวหรือ? ทำไมต้องทำท่าทางรังเกียจแบบนั้น? เขาก็ไม่ได้ทำให้เธอไม่พอใจสักหน่อย! ลู่สือเยี่ยนดับบุหรี่ คาบบุหรี่ไว้ที่มุมปาก หยิบไฟแช็กขึ้นมากำลังจะจุด แต่พอเห็นขนตางอนยาวสั่นระริก เขาก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มมุมปาก "จุดให้หน่อยสิ" เขาเอาไฟแช็กยัดใส่มือเธอ ดวงตาคมกริบหรี่ลงเล็กน้อย แววตากรุ้มกริ่ม หลินเซียงอยากเอาไฟแช็กปาใส่หน้าเขาใจจะขาด แต่ในเมื่อเขาเลิกทำบ้า ๆ แล้ว เธอก็ควรจะยอม เธอรับไฟแช็กมา กด "แชะ"เสียงดังขึ้นพร้อมกับเปลวไฟลุกโชน เธอยื่นไฟแช็กเข้าไปใกล้ เห็นใบหน้าหล่อเหลาของเขาสว่างไสวขึ้นมาภ
ที่โรงพยาบาลก็แย่งข้าวชาวบ้านกิน ยังจะมาแย่งเธอที่นี่อีก! ผู้ชายคนนี้เป็นผีตายอดตายอยากมาเกิดใหม่หรือไง?บนโต๊ะอาหาร บรรยากาศตึงเครียดกระดูกซี่โครงชิ้นสุดท้าย หลินเซียงรีบยื่นมือออกไป แต่ลู่สือเยี่ยนเร็วกว่า เธอเห็นเขาคีบกระดูกซี่โครงไปแล้วยักคิ้วใส่เธอหลินเซียงพูดว่า "กินไปเถอะ ฉันใส่ยาพิษไว้"แต่ลู่สือเยี่ยนกลับจ้องมองเธอตรง ๆ แล้วกินกระดูกซี่โครงไม่กลัวเลยสักนิดหลินเซียงเม้มริมฝีปากเมื่อนึกถึงเรื่องก่อนหน้านี้ เขากินอาหารที่เธอทำแล้วเกิดอาการอาหารเป็นพิษ คนแรกที่เขาสงสัยคือเธอแต่ตอนนี้ แม้ว่าเธอจะบอกตามตรงว่าในอาหารมียาพิษ เขาก็ยังกินมันโดยไม่กะพริบตาเขามั่นใจว่าเธอไม่ได้ใส่ยาพิษ หรือว่าเขาไม่กลัวตายจริง ๆ?หลินเซียงพูดขึ้นทันที "ลู่สือเยี่ยน ถ้าคุณกินยาพิษเข้าไปจริง ๆ คุณไม่กลัวตายเหรอ?"ลู่สือเยี่ยนพูดว่า "ก่อนผมจะตาย ผมจะฆ่าคุณให้ตายก่อน เราจะได้ไปเป็นเพื่อนกันในปรโลก"หลินเซียงลุกขึ้นยืนแล้วเดินออกไปโดยไม่แสดงสีหน้าออกมาลู่สือเยี่ยนจ้องมองเธอ จนกระทั่งร่างของเธอหายไปที่ประตูห้องนอน เขาก็ละสายตาออกไปเขาวางตะเกียบลง เงียบไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็ลุกขึ้นเก็บชาม
ลู่สือเยี่ยนหันไปมองฉินโหย่วหาน "ได้ยินไหม ออกจากโรงพยาบาลไปแล้วเลี้ยวซ้ายมีร้านอาหารเช้า"หลินเซียง "..."ฉินโหย่วหานยิ้ม "ประธานลู่ ดูเหมือนหลินเซียงกำลังพูดกับคุณอยู่นะ"ลู่สือเยี่ยนพูดอย่างเย็นชา "คุณพูดเองนี่ว่าแค่ 'เหมือน' "หลินเซียง: "..."มุมปากของเธอกระตุก หันไปมองฉินโหย่วหาน "พี่หาน ให้พยาบาลมาช่วยดูแลคุณแล้วกันนะ ฉันขอตัวออกไปก่อน"เธอวางกล่องอาหารลง แล้วจับมือลู่สือเยี่ยน ก่อนจะเปิดประตูห้องผู้ป่วยแล้วออกไปสายตาของลู่สือเยี่ยนจับจ้องไปยังมือของเขาที่เธอจับอยู่ดวงตาคมลึกราวกับน้ำหมึก แม้แต่จุดประสงค์ที่เขามาก็ยังลืมไปสิ้นนานมากแล้วที่เธอเป็นฝ่ายจับมือเขาก่อนหลินเซียงไม่ได้สังเกตเห็นความผิดปกติของเขา จนกระทั่งออกจากโรงพยาบาล เธอจึงปล่อยมือแล้วมองเขาอย่างเย็นชา "ลู่สือเยี่ยน เลิกทำแบบนี้สักที"ลู่สือเยี่ยนมองฝ่ามือที่ว่างเปล่า แล้วถามขึ้นว่า "ทำไมไม่จับแล้วล่ะ""อะไรนะ?" หลินเซียงนึกว่าตัวเองหูฝาดไปลู่สือเยี่ยนพูดว่า "จับมือไง"หลินเซียงรู้สึกหมดคำจะพูด!เธอพูดว่า "คุณเป็นคุณชายของตระกูลลู่ เป็นประธานบริษัทดีเคกรุ๊ป ทำไมถึงเอาแต่ทำเรื่องไร้สาระแบบนี้?"ใน
ขณะที่ความอดทนของเธอใกล้จะถึงขีดจำกัด เขาก็หันกลับมาและเดินตรงไปยังวิลล่าอ่าวสีคราม"ตามมา" เขาเอ่ยเสียงเย็นชาโดยไม่หันมามอง เหมือนมั่นใจว่าเธอไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากต้องเชื่อฟังคำสั่ง หญิงสาวกำมือแน่น เธอไม่มีอำนาจหรือเส้นสายใด ๆ การหนีรอดจากเงื้อมมือของเขาเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ ในที่สุดเธอก็เดินตามเขาไป แต่แทนที่จะเข้าไปในวิลล่า เขากลับเดินตรงไปยังสวน แววตาของเธอฉายแววสงสัย ทำไมต้องมาที่นี่? เขาจะทำอะไร? ไม่นานเธอก็ได้คำตอบ ส่วนลึกที่สุดของสวนมีอาคารสองชั้นตั้งตระหง่านอยู่ มีบอดี้การ์ดหลายคนยืนเฝ้าอยู่หน้าประตู "ท่านประธานลู่" บอดี้การ์ดทุกคนก้มศีรษะลงด้วยความเคารพเมื่อเห็นลู่สือเยี่ยน "เปิดประตู" ลู่สือเยี่ยนกล่าวด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย บอดี้การ์ดคนหนึ่งหยิบกุญแจออกมาไขประตูอาคาร หลินเซียงยืนอยู่ห่างออกไปเล็กน้อย เธอขมวดคิ้วขณะมองเข้าไปในอาคารที่มืดมิด แต่ก็สามารถมองเห็นเงาราง ๆ ของใครบางคนที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ ทันใดนั้นแสงสว่างวาบก็ส่องเข้าไป ทำให้คนที่อยู่ข้างในต้องยกมือขึ้นบังแสง หลังจากที่ปรับสายตาได้แล้ว เธอก็รีบลุกขึ้นยืนและวิ่งออกมา บอดี้การ์ดรีบเข้
ลู่สือเยี่ยนรู้สึกถึงสายตาของเธอ เขาจึงหันขวับมามอง "มองอะไร?" ขนตาของหลินเซียงสั่นไหว ในตอนนั้นเอง เซี่ยหว่านก็เห็นเธอ จู่ ๆ เธอก็พูดขึ้นว่า "หลินเซียง เห็นหรือยัง? ตอนนั้นคุณไม่น่าช่วยเขาเลย! ฉันถึงกับเสียขาไปข้างหนึ่งเพื่อเขา แต่ตอนนี้เขากลับทำกับฉันแบบนี้ คุณพาเขากลับบ้าน แต่งงานกับเขา แล้วเขาดูแลคุณดีตรงไหน? เขาไม่คู่ควรกับความรักของคุณเลย!" หลินเซียงขมวดคิ้ว เซี่ยหว่านบ้าไปแล้วหรือไง? กล้าพูดแบบนี้ต่อหน้าลู่สือเยี่ยน ไม่กลัวเขาฆ่าปิดปากเหรอ? ใบหน้าของลู่สือเยี่ยนบึ้งตึง ดวงตาคมกริบราวกับเหยี่ยวจ้องมองเซี่ยหว่าน เขามองไปที่ขาเทียมของเธอ แล้วพูดขึ้นว่า "ขาเทียมข้างเดียวมันดูขัดหูขัดตา งั้นผมช่วยเปลี่ยนขาอีกข้างให้เป็นขาเทียมเหมือนกันดีไหม?" เซี่ยหว่านเบิกตากว้างด้วยความตกใจ “คุณ... ลู่สือเยี่ยน บ้าไปแล้วหรือไง? คุณกล้าเหรอ!" แววตาของลู่สือเยี่ยนฉายแววโหดเหี้ยม แต่เขาก็พยายามควบคุมตัวเองเอาไว้ "ถ้าขาคุณพิการทั้งสองข้าง ผมก็จะได้ดูแลคุณไปตลอดชีวิตไง" "ไม่ ไม่ได้!" เซี่ยหว่านถอยหลังด้วยความหวาดกลัว เธอมองลู่สือเยี่ยนราวกับว่าเขากลายร่าวเป็นอสุรกาย! เขามันปีศาจช
หลินเซียงมองเขาด้วยสายตาสงบนิ่ง แต่คำพูดกลับเย็นชาเล็กน้อย “แต่ลู่สือเยี่ยน ท้ายที่สุดแล้วประเด็นหลักก็คือคุณไม่เชื่อใจฉัน”ลู่สือเยี่ยนขมวดคิ้วหลินเซียงพูดเบา ๆ “ครั้งนี้เธอยอมชี้แจงชัดเจนก็จริง แต่ถ้าครั้งหน้ามีคนใส่ร้ายฉันอีก แล้วอีกฝ่ายชี้แจงไม่ได้ คุณก็จะคิดว่าฉันเป็นคนทำใช่ไหม?”ริมฝีปากบางของลู่สือเยี่ยนเม้มเป็นเส้นตรงเขายังไม่สามารถรับประกันได้ว่าจะเชื่อเธออย่างสนิทใจหรือไม่เขาหลับตาลง ภาพบางอย่างฉายขึ้นในสมองทันที ผู้หญิงคนหนึ่งถือของเล่นมาล้อเล่นกับเขา เขารับไว้ด้วยความดีใจ แต่ทันทีที่ยื่นมืออกไปจับ ของเล่นก็ระเบิดขึ้นมือของเขาเลือดไหล…เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นมากมายนับไม่ถ้วนหลินเซียงกล่าวว่า “ดังนั้น เพื่อหลีกเลี่ยงความเข้าใจผิดแบบนี้ซ้ำ ๆ เราหย่ากันดีไหม?”หย่ากันไม่ว่าเขาจะเกิดอะไรขึ้นก็ไม่เกี่ยวข้องกับเธออีกแล้วเธอก็ไม่ต้องเสียใจหรือทุกข์ใจกับการกระทำของเขาอีกต่อไปลู่สือเยี่ยนจ้องมองเธออย่างเย็นชา “พูดมาตั้งเยอะ เป้าหมายของคุณก็ยังคงเป็นการหย่า หลินเซียง คุณเลิกคิดไปได้เลย!”หลินเซียงกัดริมฝีปากก็ยังล้มเหลวอยู่ดีเฮ้อ…“คุณหนูเซี่ย?”ในขณะนั้น เส
ซ่งซ่ง “สบายใจได้เลย ไอ้บ้านั่นแกล้งฉันไม่ลงหรอก พอฉันเบื่อก็จะถีบหัวส่งเอง”หลินเซียงรู้สึกไม่ค่อยดีกลัวที่สุดคือซ่งซ่งจะเล่นจนพลาด ทำให้ฟู่จิ่นซิ่วน้อยใจ เขาอาจจะเลวร้ายกว่าลู่สือเยี่ยนเสียอีกหลินเซียงบอกความกังวลของเธอ “ยังไงก็ระวังตัวด้วยนะ”ซ่งซ่ง “ได้ ๆ รู้แล้ว”หลินเซียง “งั้นฉันไม่รบกวนเวลาทำงานแล้ว ไปก่อนนะ บาย”“จุ๊บ จุ๊บ”…หลินเซียงกลับไปที่สตูดิโอโดยตรงสภาพจิตใจของเธอเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิงสวี่ซิงเย่เป็นคนแรกที่สังเกตเห็น จึงถามด้วยรอยยิ้มว่า “เรื่องอะไรทำให้คุณมีความสุขขนาดนี้ครับ?”หลินเซียงประหลาดใจ “เห็นได้ชัดขนาดนั้นเลยเหรอ?”สวี่ซิงเย่พยักหน้า “ชัดแจ๋วเลย ก่อนหน้านี้คุณทำงานไม่เคยยิ้ม วันนี้ยิ้มตลอดเวลา”หลินเซียงลูบหน้า แล้วพูดว่า “อืม ปิดการขายได้น่ะ เซ็นสัญญาเสร็จเรียบร้อย ใกล้จะรวยแล้ว ก็เลยมีความสุข”สวี่ซิงเย่ “งั้นก็ขอแสดงความยินดีด้วยนะครับ”“ขอบคุณ”หลินเซียงยิ้มเล็กน้อย แล้วหันไปเปิดคอมพิวเตอร์เธอมองไปรอบ ๆ ออฟฟิศ พบว่าวันนี้ซืออวี่ไม่ได้มา แต่เธอก็ไม่ได้ใส่ใจ แล้วเริ่มทำงานทันทีที่โรงพยาบาลลู่สือเยี่ยนโยนใบหย่าลงตรงหน้าคุณย่าลู่ ดึ
หลินเซียงรู้สึกสงสัยเล็กน้อย “ทำไมจดล็อบบี้ไม่ได้เหรอคะ?”เจ้าหน้าที่กล่าวว่า “คุณผู้หญิง วันนี้ที่ล็อบบี้คนเยอะ เชิญทั้งสองท่านไปชั้นบนดีกว่า”หลินเซียงเหลือบมองไปที่เคาน์เตอร์รับเรื่องหย่า เห็นว่าคนแน่นจริง ๆอย่างนี้นี่เอง สมัยนี้การแต่งงานส่วนใหญ่คงไปกันไม่รอดสินะ?เธอไม่คิดอะไรมาก รีบตามเจ้าหน้าที่ขึ้นไปชั้นบนในห้องทำงานของนายทะเบียน ทั้งสองคนกรอกเอกสารเพิ่มเติม แล้วก็เข้าสู่เรื่องการแบ่งทรัพย์สินลู่สือเยี่ยนหยิบสัญญาฉบับหนึ่งให้เธอ “นี่คือค่าชดเชยให้คุณ”หลินเซียงรับมาดู พอเห็นชื่อบางชื่อ ดวงตาของเธอก็เบิกกว้างบ้านที่เฟิงหลินหย่วน เขากลับยกให้เธอบ้านหลังนั้นเธอขายไปแล้วไม่ใช่เหรอ?เขาซื้อคืนมาเมื่อไหร่?หรือว่าเป็นอีกหลังหนึ่ง?นั่นเป็นบ้านหลังใหญ่หลังแรกที่เขาให้เธอ มีความทรงจำดี ๆ เธอยังคงชอบมันอยู่เธอมองลงไปด้านล่าง ยังมีค่าชดเชยการหย่าอีกห้าสิบล้านเยี่ยมไปเลย เธอกลายเป็นมหาเศรษฐีแล้วลู่สือเยี่ยนจ้องมองเธออย่างลึกซึ้ง “มีอะไรสงสัยไหม?”หลินเซียงส่ายหัว “ไม่มีค่ะ”จากนั้นก็ถึงขั้นตอนการเซ็นชื่อไม่นาน นายทะเบียนก็มอบใบหย่าให้ทั้งสองคนแต่ลู่สือเยี่ยนไม
หลินเซียงกลับไปที่สตูดิโอสวี่ซิงเย่เห็นสีหน้าที่ผิดปกติของเธอ จึงถามว่า “หลินเซียง คุณไม่สบายหรือเปล่าครับ?”หลินเซียงส่ายหัว “เปล่า อาจจะแค่พักผ่อนไม่เพียงพอ”สวี่ซิงเย่กังวลเล็กน้อย “ยังมีอะไรที่ยังทำไม่เสร็จอยู่ไหมครับ? ให้ผมช่วยก็ได้ ผมจะช่วยคุณเอง”หลินเซียง “ไม่มีแล้ว ขอบคุณมาก”สวี่ซิงเย่ยังอยากจะพูดอะไรอีก ซืออวี่ก็เดินเข้ามา “เสี่ยวสวี่ ออกไปข้างนอกกับฉันหน่อย!”สวี่ซิงเย่พยักหน้า “ได้ครับ”ช่วงนี้ ซืออวี่มักจะพาสวี่ซิงเย่ออกไปข้างนอก เขามีความสามารถ แถมยังดื่มเหล้าเก่ง ถนัดการเข้าร่วมงานเลี้ยงสังสรรค์ทางธุรกิจมากมาย ด้วยความสามารถของเขาทำให้ดึงดูดทรัพยากรได้มาก ตอนนี้เริ่มทำแบบร่างโครงการด้วยตัวเองแล้วหลินเซียงมองตามพวกเขาออกไป ในใจเกิดความสงสัยเล็กน้อยช่วงนี้งานเลี้ยงเยอะเกินไปหรือเปล่า?ก่อนหน้านี้ไม่เห็นจะเป็นแบบนี้เลยสวี่ซินหรานพูดขึ้นมาทันที “หึ ก่อนหน้านี้บอสมักจะพาเธอออกไป ให้ความสำคัญกับเธอมาก ตอนนี้เป็นไงล่ะ ดูเหมือนความสามารถของสวี่ซิงเย่จะโดดเด่นกว่าเธอนะ”หลินเซียง “งั้นเธอมีดีอะไรบ้างล่ะ?”สวี่ซินหรานอึ้ง ไม่คิดว่าเธอจะโต้กลับหลินเซียงมองเธออย่
คุณย่าลู่ขู่จะตาย! สีหน้าของลู่สือเยี่ยนเปลี่ยนไปทันทีเซี่ยหว่านรีบเข้าไป พร้อมกับร้องไห้พูดว่า “คุณย่าลู่ค่ะ อย่าพูดอย่างนั้นเลย ไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าสุขภาพของคุณแล้วค่ะ เราไปตรวจกันก่อนดีไหมคะ?”คุณย่าลู่มองเธอด้วยความปลื้มปิติ “หว่านหว่าน เธอนี่เป็นเด็กดีจริง ๆ ตระกูลลู่เป็นหนี้เธอมากเกินไปแล้ว ถ้าฉันไม่ทำอะไรสักอย่าง สู้ตายไปยังไม่เจ็บช้ำเท่า”เซี่ยหว่านร้องไห้จนพูดไม่ออก!สถานการณ์ตึงเครียดขึ้นมาทันทีลู่สือเยี่ยนไม่ยอม คุณย่าลู่ก็ยิ่งหน้าซีดลงเรื่อย ๆ เธอจับจ้องราวกับจะคาดคั้นรอการตัดสินใจของเขาหลินเซียงเดินเข้าไป มองลู่สือเยี่ยนแล้วพูดว่า “เราไปหย่ากันก่อนเถอะ สุขภาพของย่าสำคัญกว่า”คุณย่าลู่มองลู่สือเยี่ยนด้วยความกระวนกระวายลู่สือเยี่ยนหันไปมองหลินเซียงอย่างรวดเร็ว กระตุกมุมปาก “ผลลัพธ์ที่เป็นอยู่ตอนนี้ คุณคงพอใจแล้วใช่ไหม?”หลินเซียงเม้มริมฝีปาก พูดว่า “แต่สุขภาพของย่าสำคัญกว่า”ลู่สือเยี่ยนพยักหน้า “ได้ หย่าก็หย่า”คุณย่าลู่ก็โล่งใจขึ้นมาทันที นอนลงบนเตียงแล้วหลับไปหมอและพยาบาลพาคุณย่าลู่ไปห้องตรวจเซี่ยหว่านเช็ดน้ำตาบนใบหน้า มองลู่สือเยี่ยนแล้วพูดว่า “สือเยี่
คุณย่าลู่ “จะมีใครทำร้ายเธอได้ยังไง? นั่นเป็นแค่การคาดเดาของเธอเท่านั้น”“เหอะ!”ลู่สือเยี่ยนหัวเราะเบา ๆ แล้วพูดต่อ “คุณย่าครับ คนคนหนึ่งที่เพิ่งฟื้นขึ้นมาแต่ความจำเสื่อม จะไปอยู่บนถนนได้ยังไง? คนดูแลที่บ้านเราล่ะ? หายหัวไปไหนหมด?”คุณย่าลู่เงียบไปลู่สือเยี่ยนพูดต่อ “ตอนนั้นเธอเป็นคนที่ช่วยผม พาผมกลับบ้าน ถ้าไม่ใช่เธอ วันนี้ย่าก็คงไม่ได้เจอหน้าผมแล้ว”คุณย่าลู่มองหลินเซียง แล้วพูดขึ้นมาทันทีว่า “ความจริงเป็นแค่เรื่องบังเอิญหรือเปล่า ตอนนี้ยังสรุปไม่ได้ ถ้าเกิดเธอรู้ตัวตนของหลานตั้งแต่แรกล่ะ?”“ฉันไม่รู้ค่ะ”หลินเซียงรู้สึกว่าเธอควรจะพูดอะไรสักอย่างเธอมองคุณย่าลู่อย่างสงบ “คุณย่าคะ ฉันไม่รู้ว่าทำไมคุณย่าถึงได้เกลียดฉันขนาดนี้ แต่เมื่อก่อนย่าไม่ใช่แบบนี้ แถมยังชอบฉันมาก ถึงกับบอกเขาว่า ถ้าเขาทำร้ายฉัน คุณย่าจะช่วยฉันตีเขา ฉันยังจำคำพูดพวกนั้นได้อยู่เลย”เธอหายใจออกเบา ๆ แล้วพูดต่อ “แต่แน่นอนค่ะ คุณย่าจำไม่ได้ งั้นก็ไม่สำคัญแล้ว ฉันไม่รู้จักตัวตนของเขาตั้งแต่แรก จนกระทั่งเขาได้ความทรงจำกลับมา แล้วมาเปิดตัวในที่ที่ฉันทำงานอยู่ ฉันถึงได้รู้จักตัวตนของเขา”คุณย่าลู่เงียบไป ใบหน้
หลินเซียงมองคุณย่าลู่ด้วยความประหลาดใจไม่เคยคิดมาก่อนว่าคุณย่าที่เคยใจดีกับเธอ ในระดับที่เรียกว่าเอาใจใส่ กลับคิดร้ายกับเธอแบบนี้ แล้วยังมองเธอด้วยสายตาเย็นชาหลินเซียงรู้สึกเจ็บปวดในใจที่แท้ไม่ใช่แค่ตอนที่ลู่สือเยี่ยนทำร้ายเธอเท่านั้นถึงจะรู้สึกเจ็บปวดการถูกคนที่เคยสนิทสนมทำร้าย ใจก็เจ็บปวดเช่นกันเธอเม้มริมฝีปาก แล้วหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาลู่สือเยี่ยน“ฮัลโหล?”ไม่นานปลายสายก็รับ ได้ยินเสียงทุ้มต่ำของชายหนุ่มดังขึ้นหลินเซียงบอกว่า “คุณย่ามีเรื่องจะพูดกับพวกเรา ตอนนี้คุณช่วยมาโรงพยาบาลหน่อย”ลู่สือเยี่ยนถามว่า “เกิดอะไรขึ้นเหรอ?”หลินเซียง “มาถึงเดี๋ยวก็รู้เอง”พูดจบก็วางสายไปเรื่องหย่าควรจะพูดต่อหน้าทั้งสองคนจะดีกว่าบอกกับเธอแค่คนเดียวมีประโยชน์อะไร?เธออยากหย่า แต่ลู่สือเยี่ยนไม่ยอม คุณย่าลู่ก็ไม่เชื่อเธอทำผิดอะไร?ถึงได้ถูกปฏิบัติแบบนี้?หลินเซียงนั่งลงบนโซฟา ก้มหน้าลง ไม่มองคุณย่าลู่อีกนิสัยของเธอค่อนข้างแปลกถ้าคนคนนั้นทำร้ายเธอ ก็ยากที่จะเข้าไปอยู่ในใจเธอได้อีกคุณย่าลู่ไม่ค่อยชอบท่าทางของหลินเซียง จึงจับมือเซี่ยหว่านแล้วคุยต่อ เพราะชอบท่าทางอ่อนโยนขอ
หลังจากออกจากโรงพยาบาล ลู่สือเยี่ยนมองเธอ “อย่าคิดมาก คุณย่าแค่ลืมความทรงจำไปสองปีเท่านั้นเอง”หลินเซียงมองเขา แล้วถามว่า “แล้วถ้าคุณย่ายืนกรานจะให้คุณแต่งงานกับเซี่ยหว่านล่ะ?”ลู่สือเยี่ยนมองเธออย่างลึกซึ้ง “หลินเซียง เธอควรเลิกคิดเรื่องนี้นะ เพราะผมไม่หย่ากับคุณแน่”หลินเซียงอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ แล้วพูดว่า “จริง ๆ แล้ว เราหย่ากันก็ไม่เลวนะ ฉัน…”“หยุด!”ลู่สือเยี่ยนมองเธอด้วยความหงุดหงิด “ฟังที่ผมพูดไม่รู้เรื่องเหรอ? ถ้าพูดถึงเรื่องหย่าอีก ผมจับคุณขังไว้แน่!”ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความโกรธ รอบตัวเต็มไปด้วยออร่าเย็นชาหลินเซียงหยุดชะงัก ไม่พูดต่อเพราะเขาทำได้จริงเมื่อหันหลังเดินไป ใบหน้าเล็ก ๆ นั้นเย็นชายิ่งกว่าเก่าลู่สือเยี่ยนมองตามหลังเธอไป ริมฝีปากบางเม้มเป็นเส้นตรงเขาเปิดประตูแล้วก้าวขึ้นรถ สีหน้ามืดครึ้มอย่างที่สุดในขณะนั้น เสียงเรียกเข้าโทรศัพท์เขาดังขึ้น เขาหยิบขึ้นมาดู เป็นสายจากซืออวี่“พูดมา!”ซืออวี่ตกใจกับน้ำเสียงเย็นชาของเขา ก่อนจะกลืนน้ำลายอึกใหญ่ “พี่ใหญ่ ฉันสืบได้เรื่องบ้างแล้ว แต่คนคนนั้นฉลาดเป็นกรด ปกปิดตัวตนได้ดีมาก รู้แค่ว่าเป็นผู้ชาย”ลู่สือเยี
วันรุ่งขึ้น ทั้งสองคนไปที่โรงพยาบาลคุณย่าลู่ทานอาหารเช้าเสร็จแล้ว อวิ๋นหลานนั่งคุยกับเธออยู่“คุณย่าครับ”ลู่สือเยี่ยนเดินเข้าไปเรียกด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนคุณย่าลู่เห็นเขา ใบหน้าที่แก่ชราพลันมีรอยยิ้ม“สือเยี่ยน เธอมาแล้ว” คุณย่าลู่จับมือเขาไว้ มองใบหน้าหล่อเหลาของเขาแล้วพูดขึ้นมาทันทีว่า “สือเยี่ยน ทำไมดูเปลี่ยนไปจังเลย? ดูเหมือนจะโตขึ้นมากเลยนะ”ริมฝีปากบางของลู่สือเยี่ยนโค้งเป็นรอยยิ้ม “โตขึ้นแล้วไม่ดีเหรอครับ?”คุณย่าลู่พยักหน้า “ดี แน่นอนว่าดี แต่ฉันยังชอบเธอตอนเด็ก ๆ ที่ไร้เดียงสามากกว่า เอาแต่วิ่งตามหลังพี่ชายตลอดเวลา แล้วยังทำหน้าบึ้งใส่เขา มีแต่พี่ชายที่ตามใจ ถ้าเป็นคนอื่นคงตีเธอไปแล้ว”รอยยิ้มที่มุมปากของลู่สือเยี่ยนแข็งทื่อไปชั่วขณะคุณย่าลู่สังเกตเห็นหลินเซียงในตอนนี้ จึงถามว่า “แล้วเธอล่ะ มายังไง?”ลู่สือเยี่ยนบอกว่า “ย่าครับ เธอเป็นภรรยาผม หลินเซียง”หลินเซียงมองคุณย่าลู่ “คุณย่า”คิ้วของคุณย่าลู่ขมวดเข้าหากันทันที เธอปล่อยมือลู่สือเยี่ยน “ก่อนหน้านี้เธอบอกว่าจะแต่งงานกับหว่านหว่านไม่ใช่เหรอ? ฉันเห็นว่าเด็กคนนั้นก็ใช้ได้นะ ทำไมถึงแต่งงานกับคนอื่นล่ะ?”ท่าทีนั้
ใบหน้าของลู่สือเยี่ยนแสดงออกถึงความซับซ้อนเล็กน้อย เขาพูดอย่างสงบว่า “เรื่องนี้ยังบอกไม่ได้ ต้องรอผลตรวจของแพทย์”หลินเซียงพยักหน้า ตอนนี้คงทำได้แค่นี้ลู่เจิ้งหรงมองหลินเซียงด้วยสายตาไม่เป็นมิตร แล้วพูดกับลู่สือเยี่ยนว่า “อาการของย่าแกดูเหมือนจะดีขึ้น ความคิดของผู้ใหญ่ แกคงรู้ดี น่าจะอยากเห็นแกแต่งงานกับหว่านหว่าน ตอนนั้นแกเป็นคนพาหว่านหว่านไปหาท่านเอง ตอนนี้ถ้าท่านขอร้อง แกก็ปฏิเสธไม่ได้”อวิ๋นหลานกล่าวว่า “เจิ้งหรง แต่สือเยี่ยนกับหลินเซียงรักกันดี ทำแบบนี้ไม่ค่อยดีหรอกมั้ง?”“เหอะ!” ลู่เจิ้งหรงหัวเราะเยาะ “รักกันดี? หลินเซียงไม่ใช่เหรอที่อยากหย่ามาตลอด? ใช้โอกาสนี้หย่ากันไปซะสิ ไม่ต้องมีใครขัดขวางใคร!”อวิ๋นหลานมองหลินเซียงด้วยความกังวล กลัวว่าเธอจะเสียใจแต่หลินเซียงเหมือนไม่ได้ยิน ยืนอยู่มุมห้อง ก้มหน้าลง ปากสวยเม้มเป็นเส้นตรงลู่สือเยี่ยนไม่ได้สนใจคำพูดของลู่เจิ้งหรงเลยเขาตามหาลู่จิ้นหนานจนแทบคลั่ง ยังมีเวลาสนใจเรื่องของเขากับหลินเซียงอีกเหรอ?ดูเหมือนว่าเขาควรหาอะไรให้อีกฝ่ายทำบ้าง!ประมาณสองชั่วโมงผ่านไปผลการตรวจของคุณย่าลู่ออกมาแล้วแพทย์ถือรายงานผลการตรวจแล้วพูด