ผู้หญิงแบบนี้ยังกล้าทำตัวหยิ่งยโส ต้องมีคนมาจัดการ ไม่งั้นเธอก็จะทำอะไรตามใจชอบไปเรื่อย ๆ!“ฮัลโหล?”ซ่งจั่วกดรับสายผู้จัดการเล่าเรื่องของหลินเซียงอย่างเกินจริง แล้วพูดอย่างอ้อมค้อมว่า “คุณซ่ง หลินเซียงอาจจะถูกทางเฉิงต๋าทาบทาม วิสัยการทำงานเลยเปลี่ยนไป ผมเลยมาขอความช่วยเหลือจากคุณ คุณว่าควรจะทำยังไงดี?”ซ่งจั่วถามกลับ “เธอขอลาหยุดหรือเปล่า?”ผู้จัดการ “ลาครับ”ซ่งจั่ว “งั้นมีปัญหาอะไรอีก?”ฮะ?ผู้จัดการตกใจ แค่นี้เองเหรอ? ไม่ตำหนิ? ไม่พูดถึงการไล่หลินเซียงออก?นี่มันเกิดอะไรขึ้น?ผู้จัดการไม่แน่ใจ “คุณซ่ง นี่…”ซ่งจั่วกล่าวว่า “เธอไม่ได้ทำผิดพลาดร้ายแรงถึงขั้นที่ทำให้บริษัทเสียหายอะไร การที่เธอลาหยุดแสดงว่ามีธุระ เรื่องแบบนี้แม้แต่คุณยังจัดการไม่ได้ งั้นคุณยังนั่งอยู่ในตำแหน่งนี้เพื่ออะไรกัน?”ผู้จัดการตกใจ รีบพูดว่า “คุณซ่ง ผมเข้าใจแล้ว ผมจะจัดการเอง ขอโทษที่รบกวนครับ!”พูดจบ เธอก็รีบวางสาย!เขาคิดว่าหลินเซียง ‘ตกกระป๋อง’ แล้วซะอีก คิดว่าซ่งจั่วคงสั่งลงโทษเธออย่างหนัก แต่กลับกลายเป็นว่าเขาถูกดุแทน!หรือว่าหลินเซียงจะยังไม่ ‘ตกกระป๋อง’ จริง ๆ?แล้วทำไมก่อนหน้านี้ซ่งจั่
หลินเซียงยิ้มให้เขาเล็กน้อย “เปล่าค่ะ ฉันแค่สังเกตดูว่าถ้าคุณมีอาการอะไร เราจะได้ไปโรงพยาบาลทันที”ฉินโหย่วหาน “ไม่ต้องหรอก”หลินเซียงหยิบตะเกียบขึ้นมาใหม่ “งั้นเรามากินข้าวกันก่อนเถอะ”พูดจบก็เริ่มกินก่อนจริง ๆ แล้วเธอไม่ค่อยอยากกินเท่าไหร่ แต่ถ้าไม่กินก็ไม่ได้ เธอยังมีเรื่องอีกหลายอย่างที่ต้องจัดการอีกมากมายดวงตาสีพีชของฉินโหย่วหานมองเธออย่างลึกซึ้ง แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรเพิ่มเติมหลังจากกินข้าวเสร็จ หลินเซียงไปจ่ายเงิน แต่พนักงานบอกว่าโต๊ะนี้มีคนจ่ายไปแล้วเธองงเล็กน้อย หันไปมองฉินโหย่วหาน “พี่หาน ไม่ใช่ว่าตกลงกันแล้วว่ามื้อนี้ฉันเป็นคนเลี้ยงหรอกเหรอ?”ฉินโหย่วหานพูดอย่างไม่ใส่ใจ “ออกไปกินข้าวกับพี่หานทั้งที จะให้คุณจ่ายได้ยังไง?”หลินเซียงกะพริบตาปริบ “งั้นต่อไปฉันมาขอให้คุณเลี้ยงข้าวบ่อย ๆ ได้ไหม?”มุมปากของฉินโหย่วหานกระตุกเล็กน้อย แล้วพูดว่า “ได้สิ”หลินเซียงยิ้มจาง ๆ แล้วนั่งลงฉินโหย่วหานโชว์โทรศัพท์ให้เธอ “ส่งคลิปไปที่อีเมลคุณแล้ว”หลินเซียงเปิดดูทันที เมื่อเห็นผู้หญิงอีกคนที่มาชนเธอแอบทำอะไรบางอย่างกับวัตถุดิบที่ร่วงพื้น สีหน้าของเธอก็เคร่งเครียดขึ้นมาทันทีมีค
เมื่อเห็นเธอ ใบหน้าของเจิ้งซินเอ้อร์ก็แสดงความโกรธออกมาทันที เธอเดินเข้ามาอย่างดุเดือด ยกมือขึ้นแล้วตบหน้าหลินเซียงอย่างแรง“นังผู้หญิงใจร้าย! กล้าส่งคนไปลักพาตัวหว่านหว่าน ผู้หญิงอย่างแกมันใจไม้ไส้ระกำ!”หลินเซียงเบืกตากว้างทันที รีบยกมือขึ้นมาขวาง แล้วก็ผลักออกไปอย่างแรง “เธอเป็นหมาหรือไง? เห็นคนแล้วก็บ้าคลั่ง? ไปฉีดวัคซีนพิษสุนัขบ้าหน่อยไหม?”“นังหน้าด้าน!”เจิ้งซินเอ้อร์เสียหลัก หลังจากทรงตัวได้ก็จ้องมองหลินเซียงด้วยความโกรธแค้น ราวกับอยากจะกินเธอทั้งเป็น“เพราะแกไม่ยอมหย่ากับลู่สือเยี่ยน เป็นแค่เมียน้อย แต่กลับครอบครองตำแหน่งภรรยาตระกูลลู่ แกมันหน้าด้านหน้าทนจริง ๆ!”หลินเซียงโมโหเพราะลู่สือเยี่ยนเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ตอนนี้เจิ้งซินเอ้อร์มาทำให้เธอโมโหยิ่งขึ้นไปอีกเธอพูดเสียงเย็นชา “ฉันกับลู่สือเยี่ยนเป็นนสามีภรรยากันถูกต้องตามกฎหมาย ใครเป็นเมียน้อย กฎหมายเป็นคนตัดสิน ถ้าเธอจะมาหาเรื่องฉันอีก ฉันก็ไม่กลัวที่จะทะเลาะกับเธอ ถ้าเธอรู้จักฉันดีก็ควรจะรู้ว่าคนอย่างฉันมันไม่มีอะไรจะเสีย ไม่กลัวอะไรทั้งนั้น!”เธอแสดงท่าทีแข็งกร้าวอย่างดุเดือด ทำให้เจิ้งซินเอ้อร์ตกใจ พูดไม่ออกไปสักพ
หลินเซียงขมวดคิ้วเขาหมายความว่ายังไง?ทั้งสั่งบอดี้การ์ดมาขวาง ทั้งไม่ยอมรับโทรศัพท์ แต่ตอนนี้กลับเข้ามาเบียดกับเธอในลิฟต์?หลินเซียงหยุดนิ่ง ตั้งท่าจะเดินออกไป“ไปไหน?”เสียงทุ้มเย็นชาของลู่สือเยี่ยนดังขึ้นหลินเซียงพูด “ไม่อยากอยู่ในที่เดียวกันกับถังขยะ”ลู่สือเยี่ยนขมวดคิ้วทันที บรรยากาศอันตรายเริ่มแผ่กระจายไปทั่วลิฟต์แคบ ๆ เขาเอื้อมมือไปกดปุ่มปิดประตู ประตูลิฟต์ถูกปิดลงอย่างรวดเร็ว หลินเซียงอยากจะออกไป แต่ก็สายไปแล้วหลินเซียงมองเขาอย่างไม่พอใจ ยืนอยู่ตรงมุมลิฟต์ ทั้งตัวเต็มไปด้วยความห่างเหินและรังเกียจก่อนหน้านี้เป็นเขาที่ไม่อยากเจอเธอตอนนี้เป็นเธอที่ไม่อยากอยู่ใกล้เขาน่ารำคาญสิ้นดีลู่สือเยี่ยนเหลือบมองสีหน้าเธอ ดวงตาดำขลับลึกล้ำมืดมน ทำให้มองไม่ออกว่าเขาคิดอะไรอยู่เขาพูดเสียงเรียบ “หลักฐานล่ะ?”หลินเซียงพูด “ฉันส่งให้แล้ว”ลู่สือเยี่ยน “ผมปิดเครื่อง”หลินเซียงหัวเราะเยาะ “งั้นไม่คิดจะเปิดเครื่องหน่อยหรือไง?”ลู่สือเยี่ยนจ้องมองเธออย่างลึกซึ้ง ก่อนจะถามขึ้นมาทันที “ตอนนี้ถ้ายื่นมีดให้คุณสักเล่ม คุณจะฆ่าผมให้ตายไหม?”ความเย็นชาในดวงตาของเธอชัดเจนมากทำให้เข
หลินเซียงสูดหายใจเข้าลึก ๆ ดีเลย ถ้าอวิ๋นหลานเป็นคนอัดเสียงจริง นี่คือโอกาสที่ดีที่จะสอบถามอีกฝ่าย “ได้ค่ะ”อวิ๋นหลานถามว่า “ตอนนี้เธออยู่ไหน? เดี๋ยวฉันไปรับ”หลินเซียงบอกที่อยู่ของเธอ หลังจากนั้นประมาณ 15 นาที รถคันหนึ่งก็ค่อย ๆ ขับมา เมื่อกระจกรถเลื่อนลง เผยให้เห็นใบหน้าที่ได้รับการดูแลอย่างดีของอวิ๋นหลาน“สวัสดีค่ะ คุณนายลู่”หลินเซียงยิ้มอย่างสุภาพอวิ๋นหลานบอก “ขึ้นรถเถอะ”หลินเซียงเปิดประตูแล้วก้าวขึ้นรถอวิ๋นหลานถามทันที “ทำไมสีหน้าเธอดูไม่ค่อยดีเลย? ช่วงนี้พักผ่อนไม่เพียงพอหรือเปล่า?”หลินเซียงกล่าวว่า “เรื่องที่ลู่สือเยี่ยนถูกวางยาค่อนข้างกดดันฉันมาก ฉันเลยนอนไม่หลับค่ะ”อวิ๋นหลานออกความเห็น “จริง ๆ แล้ว ฉันก็ไม่ค่อยเชื่อว่าเธอจะทำเรื่องแบบนี้ แต่อาหารพวกนั้นเธอก็เป็นคนปรุงเอง ไม่แปลกที่คนอื่นจะสงสัย เธอไปแจ้งความแล้วใช่ไหม? เชื่อเถอะว่าตำรวจต้องหาหลักฐานพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของเธอได้แน่”“ค่ะ”หลินเซียงพยักหน้า ไม่พูดอะไรอีกเมื่อถึงร้านเสริมสวย ทั้งสองคนเข้าไปในห้องส่วนตัวตามที่ช่างแนะนำ หลินเซียงและอวิ๋นหลานขึ้นไปนอนบนเตียงอวิ๋นหลานถาม “สองวันนี้เธอได้ไปหาสือ
อวิ๋นหลานออกจากร้านเสริมสวยไปแล้ว ช่วงไม่กี่วันมานี้หลินเซียงพักผ่อนน้อยมาก เธอนอนลงบนเตียง ปล่อยให้ช่างนวดศีรษะ ก่อนที่เธอจะผล็อยหลับไปโดยไม่รู้ตัวพอตื่นขึ้นมาอีกที ท้องฟ้าก็มืดแล้วหลินเซียงออกจากร้านเสริมสวย และหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเตรียมพร้อมจะเรียกรถตอนที่มาเธอไม่ได้สังเกต ตอนนี้ถึงได้รู้ว่าร้านเสริมสวยแห่งนี้อยู่แถวชานเมือง เรียกรถยากมากหลินเซียงยืนอยู่ข้างทาง รออยู่นาน จนกระทั่งเห็นรถแท็กซี่คันหนึ่งขับมาอย่างช้า ๆ“ไปไหนครับ?”หลังจากขึ้นรถแล้ว คนขับก็ถามหลินเซียงตอบว่า “เฟิงหลินหย่วน”พูดจบ เธอก็ดูข้อความในโทรศัพท์ ซ่งซ่งส่งข้อความมาบ่นเรื่องฟู่จิ่นซิ่วแต่ข้อความสุดท้าย ทำให้หลินเซียงเลิกคิ้วขึ้นซ่งซ่ง [ที่รัก เธอมีแอคเคาท์วีแชทที่ไม่ได้ใช้ไหม?]หลินเซียง [จะเอาไปทำอะไร?]ซ่งซ่ง [ไอ้เวรนี่มันรังแกฉันขนาดนี้ ถ้าฉันไม่แก้แค้นก็ไม่ใช่คนแซ่ซ่ง ถ้าได้แอคเคาท์วีแชทเมื่อไหร่นะ รอดูละครหลังข่าวได้เลย!]หลินเซียง [อย่าทำอะไรที่มันเกินเลยล่ะ ถ้าทำให้เขาโกรธ เธอก็จะเดือดร้อนซะเอง]ซ่งซ่ง [สบายใจได้ ฉันมีสติครบถ้วน]หลินเซียงตอบ “อืม” แล้วก็ไม่พูดอะไรอีกเธอส่งหลักฐานเรื
หลินเซียงไม่ปล่อยให้ตัวเองคิดมาก กดโทรเบอร์ 110 แต่ในวินาทีถัดมา โทรศัพท์ของเธอก็ถูกแย่งไป!“รู้ตัวแล้วเหรอ?”เสียงเย็นชาของคนขับดังขึ้นหลินเซียงรู้สึกว่าทุกอย่างเบลอไปหมด พยายามเปิดประตูรถ แต่ประตูรถก็ล็อกไว้“นาย… เป็นใคร?”หลินเซียงถามอย่างยากลำบาก ใช้มือบีบต้นขาตัวเอง บังคับตัวเองให้มีสติแต่คนขับกลับจ้องมองเธออย่างเย็นชา “เธอลืมฉันไปแล้ว ฮ่าฮ่า นังผู้หญิงใจร้าย ถ้าไม่ใช่เพราะเธอ ฉันก็คงไม่ต้องติดคุก!”สมองของหลินเซียงฉายแวบขึ้นมาหนึ่งชื่อ ฉีเจี้ยนเย่!เป็นคนที่ลู่สือเยี่ยนสืบเจอ!แต่เธอไม่รู้จักเขานี่ ทำไมเขาถึงได้เกลียดเธอขนาดนี้?หลินเซียงไม่ตกใจกรีดร้องโวยวาย แต่พยายามรักษาความสงบ และพูดว่า “มีเรื่องเข้าใจผิดกันหรือเปล่า? นายต้องการอะไร? เงิน รถ หรือบ้าน? ขอแค่นายต้องการ ฉันจะให้นายทั้งหมด ไม่ปิดบังแล้วกันนะ สามีฉันคือลู่สือเยี่ยน ลู่สือเยี่ยนแห่งตระกูลลู่ของเมืองอวิ๋นเฉิง เขารวยมากเลยนะ”“ฉันต้องการชีวิตเธอ!”ฉีเจี้ยนเย่พูดจบก็เหยียบคันเร่ง รถพุ่งทะยานออกไปอย่างรวดเร็ว!แรงเหวี่ยงทำให้ร่างหลินเซียงกระแทกกับเบาะหน้า ทำให้มึนหัวมองอะไรไม่ชัดอีกต่อไป เธอยังอยากจะพูด
เมื่อนึกถึงท่าทีเย็นชาของหลินเซียงที่มีต่อเขา หัวใจของเขาก็รู้สึกอึดอัดและไม่สบายใจอย่างบอกไม่ถูกเขายื่นมือไปดึงปกเสื้อเพื่อพยายามระบายความอึดอัดออกไป แต่ก็ไม่เป็นผล เมื่อออกจากโรงพยาบาล ท้องฟ้ามืดครึ้มคนขับรถจอดรถรออยู่ที่หน้าทางเข้าโรงพยาบาลแล้วลู่สือเยี่ยนก้าวขึ้นรถ แล้วก็เกิดสังหรณ์ใจอยากโทรหาหลินเซียงอีกครั้ง แต่ก็ยังติดต่อไม่ได้เหมือนเดิมเขารู้สึกหงุดหงิดใจ ก่อนจะโทรหาซ่งจั่ว “ตรวจสอบให้ทีว่าหลินเซียงอยู่ที่ไหน”ซ่งจั่วตอบรับ “ครับ”เขาไม่กล้าประมาท เพราะเมื่อชั่วโมงก่อน ซือเยี่ยนเพิ่งถูกหามส่งโรงพยาบาล เพราะถูกลงโทษทุบตีจนบอบช้ำไปทั้งตัวเพราะซือเยี่ยนไปขัดใจคุณหนูหลิน ท่านประธานลู่จึงไม่พอใจซ่งจั่วหน้าเครียด รีบสั่งให้ลูกน้องไปสืบหาข้อมูล……ฉินโหย่วหานและเพื่อน ๆ ขับรถสปอร์ตแล่นผ่านรถแท็กซี่ไปอย่างรวดเร็ว เพื่อนที่นั่งข้าง ๆ เห็นรถแท็กซี่คันนั้นแล้วก็หัวเราะร่วน “พี่หาน เห็นไหม รถแท็กซี่คันนั้นควันตลบหมดแล้ว รีบร้อนอะไรกันถึงได้ขับเร็วขนาดนี้?”ฉินโหย่วหานเหลือบมอง รถแท็กซี่คันนั้นขับเร็วจริง แต่ก็ไม่เร็วเท่ารถสปอร์ต เสียงเครื่องยนต์คำรามดังสนั่น ไม่นานเขาก็ห
ซ่งซ่ง “สบายใจได้เลย ไอ้บ้านั่นแกล้งฉันไม่ลงหรอก พอฉันเบื่อก็จะถีบหัวส่งเอง”หลินเซียงรู้สึกไม่ค่อยดีกลัวที่สุดคือซ่งซ่งจะเล่นจนพลาด ทำให้ฟู่จิ่นซิ่วน้อยใจ เขาอาจจะเลวร้ายกว่าลู่สือเยี่ยนเสียอีกหลินเซียงบอกความกังวลของเธอ “ยังไงก็ระวังตัวด้วยนะ”ซ่งซ่ง “ได้ ๆ รู้แล้ว”หลินเซียง “งั้นฉันไม่รบกวนเวลาทำงานแล้ว ไปก่อนนะ บาย”“จุ๊บ จุ๊บ”…หลินเซียงกลับไปที่สตูดิโอโดยตรงสภาพจิตใจของเธอเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิงสวี่ซิงเย่เป็นคนแรกที่สังเกตเห็น จึงถามด้วยรอยยิ้มว่า “เรื่องอะไรทำให้คุณมีความสุขขนาดนี้ครับ?”หลินเซียงประหลาดใจ “เห็นได้ชัดขนาดนั้นเลยเหรอ?”สวี่ซิงเย่พยักหน้า “ชัดแจ๋วเลย ก่อนหน้านี้คุณทำงานไม่เคยยิ้ม วันนี้ยิ้มตลอดเวลา”หลินเซียงลูบหน้า แล้วพูดว่า “อืม ปิดการขายได้น่ะ เซ็นสัญญาเสร็จเรียบร้อย ใกล้จะรวยแล้ว ก็เลยมีความสุข”สวี่ซิงเย่ “งั้นก็ขอแสดงความยินดีด้วยนะครับ”“ขอบคุณ”หลินเซียงยิ้มเล็กน้อย แล้วหันไปเปิดคอมพิวเตอร์เธอมองไปรอบ ๆ ออฟฟิศ พบว่าวันนี้ซืออวี่ไม่ได้มา แต่เธอก็ไม่ได้ใส่ใจ แล้วเริ่มทำงานทันทีที่โรงพยาบาลลู่สือเยี่ยนโยนใบหย่าลงตรงหน้าคุณย่าลู่ ดึ
หลินเซียงรู้สึกสงสัยเล็กน้อย “ทำไมจดล็อบบี้ไม่ได้เหรอคะ?”เจ้าหน้าที่กล่าวว่า “คุณผู้หญิง วันนี้ที่ล็อบบี้คนเยอะ เชิญทั้งสองท่านไปชั้นบนดีกว่า”หลินเซียงเหลือบมองไปที่เคาน์เตอร์รับเรื่องหย่า เห็นว่าคนแน่นจริง ๆอย่างนี้นี่เอง สมัยนี้การแต่งงานส่วนใหญ่คงไปกันไม่รอดสินะ?เธอไม่คิดอะไรมาก รีบตามเจ้าหน้าที่ขึ้นไปชั้นบนในห้องทำงานของนายทะเบียน ทั้งสองคนกรอกเอกสารเพิ่มเติม แล้วก็เข้าสู่เรื่องการแบ่งทรัพย์สินลู่สือเยี่ยนหยิบสัญญาฉบับหนึ่งให้เธอ “นี่คือค่าชดเชยให้คุณ”หลินเซียงรับมาดู พอเห็นชื่อบางชื่อ ดวงตาของเธอก็เบิกกว้างบ้านที่เฟิงหลินหย่วน เขากลับยกให้เธอบ้านหลังนั้นเธอขายไปแล้วไม่ใช่เหรอ?เขาซื้อคืนมาเมื่อไหร่?หรือว่าเป็นอีกหลังหนึ่ง?นั่นเป็นบ้านหลังใหญ่หลังแรกที่เขาให้เธอ มีความทรงจำดี ๆ เธอยังคงชอบมันอยู่เธอมองลงไปด้านล่าง ยังมีค่าชดเชยการหย่าอีกห้าสิบล้านเยี่ยมไปเลย เธอกลายเป็นมหาเศรษฐีแล้วลู่สือเยี่ยนจ้องมองเธออย่างลึกซึ้ง “มีอะไรสงสัยไหม?”หลินเซียงส่ายหัว “ไม่มีค่ะ”จากนั้นก็ถึงขั้นตอนการเซ็นชื่อไม่นาน นายทะเบียนก็มอบใบหย่าให้ทั้งสองคนแต่ลู่สือเยี่ยนไม
หลินเซียงกลับไปที่สตูดิโอสวี่ซิงเย่เห็นสีหน้าที่ผิดปกติของเธอ จึงถามว่า “หลินเซียง คุณไม่สบายหรือเปล่าครับ?”หลินเซียงส่ายหัว “เปล่า อาจจะแค่พักผ่อนไม่เพียงพอ”สวี่ซิงเย่กังวลเล็กน้อย “ยังมีอะไรที่ยังทำไม่เสร็จอยู่ไหมครับ? ให้ผมช่วยก็ได้ ผมจะช่วยคุณเอง”หลินเซียง “ไม่มีแล้ว ขอบคุณมาก”สวี่ซิงเย่ยังอยากจะพูดอะไรอีก ซืออวี่ก็เดินเข้ามา “เสี่ยวสวี่ ออกไปข้างนอกกับฉันหน่อย!”สวี่ซิงเย่พยักหน้า “ได้ครับ”ช่วงนี้ ซืออวี่มักจะพาสวี่ซิงเย่ออกไปข้างนอก เขามีความสามารถ แถมยังดื่มเหล้าเก่ง ถนัดการเข้าร่วมงานเลี้ยงสังสรรค์ทางธุรกิจมากมาย ด้วยความสามารถของเขาทำให้ดึงดูดทรัพยากรได้มาก ตอนนี้เริ่มทำแบบร่างโครงการด้วยตัวเองแล้วหลินเซียงมองตามพวกเขาออกไป ในใจเกิดความสงสัยเล็กน้อยช่วงนี้งานเลี้ยงเยอะเกินไปหรือเปล่า?ก่อนหน้านี้ไม่เห็นจะเป็นแบบนี้เลยสวี่ซินหรานพูดขึ้นมาทันที “หึ ก่อนหน้านี้บอสมักจะพาเธอออกไป ให้ความสำคัญกับเธอมาก ตอนนี้เป็นไงล่ะ ดูเหมือนความสามารถของสวี่ซิงเย่จะโดดเด่นกว่าเธอนะ”หลินเซียง “งั้นเธอมีดีอะไรบ้างล่ะ?”สวี่ซินหรานอึ้ง ไม่คิดว่าเธอจะโต้กลับหลินเซียงมองเธออย่
คุณย่าลู่ขู่จะตาย! สีหน้าของลู่สือเยี่ยนเปลี่ยนไปทันทีเซี่ยหว่านรีบเข้าไป พร้อมกับร้องไห้พูดว่า “คุณย่าลู่ค่ะ อย่าพูดอย่างนั้นเลย ไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าสุขภาพของคุณแล้วค่ะ เราไปตรวจกันก่อนดีไหมคะ?”คุณย่าลู่มองเธอด้วยความปลื้มปิติ “หว่านหว่าน เธอนี่เป็นเด็กดีจริง ๆ ตระกูลลู่เป็นหนี้เธอมากเกินไปแล้ว ถ้าฉันไม่ทำอะไรสักอย่าง สู้ตายไปยังไม่เจ็บช้ำเท่า”เซี่ยหว่านร้องไห้จนพูดไม่ออก!สถานการณ์ตึงเครียดขึ้นมาทันทีลู่สือเยี่ยนไม่ยอม คุณย่าลู่ก็ยิ่งหน้าซีดลงเรื่อย ๆ เธอจับจ้องราวกับจะคาดคั้นรอการตัดสินใจของเขาหลินเซียงเดินเข้าไป มองลู่สือเยี่ยนแล้วพูดว่า “เราไปหย่ากันก่อนเถอะ สุขภาพของย่าสำคัญกว่า”คุณย่าลู่มองลู่สือเยี่ยนด้วยความกระวนกระวายลู่สือเยี่ยนหันไปมองหลินเซียงอย่างรวดเร็ว กระตุกมุมปาก “ผลลัพธ์ที่เป็นอยู่ตอนนี้ คุณคงพอใจแล้วใช่ไหม?”หลินเซียงเม้มริมฝีปาก พูดว่า “แต่สุขภาพของย่าสำคัญกว่า”ลู่สือเยี่ยนพยักหน้า “ได้ หย่าก็หย่า”คุณย่าลู่ก็โล่งใจขึ้นมาทันที นอนลงบนเตียงแล้วหลับไปหมอและพยาบาลพาคุณย่าลู่ไปห้องตรวจเซี่ยหว่านเช็ดน้ำตาบนใบหน้า มองลู่สือเยี่ยนแล้วพูดว่า “สือเยี่
คุณย่าลู่ “จะมีใครทำร้ายเธอได้ยังไง? นั่นเป็นแค่การคาดเดาของเธอเท่านั้น”“เหอะ!”ลู่สือเยี่ยนหัวเราะเบา ๆ แล้วพูดต่อ “คุณย่าครับ คนคนหนึ่งที่เพิ่งฟื้นขึ้นมาแต่ความจำเสื่อม จะไปอยู่บนถนนได้ยังไง? คนดูแลที่บ้านเราล่ะ? หายหัวไปไหนหมด?”คุณย่าลู่เงียบไปลู่สือเยี่ยนพูดต่อ “ตอนนั้นเธอเป็นคนที่ช่วยผม พาผมกลับบ้าน ถ้าไม่ใช่เธอ วันนี้ย่าก็คงไม่ได้เจอหน้าผมแล้ว”คุณย่าลู่มองหลินเซียง แล้วพูดขึ้นมาทันทีว่า “ความจริงเป็นแค่เรื่องบังเอิญหรือเปล่า ตอนนี้ยังสรุปไม่ได้ ถ้าเกิดเธอรู้ตัวตนของหลานตั้งแต่แรกล่ะ?”“ฉันไม่รู้ค่ะ”หลินเซียงรู้สึกว่าเธอควรจะพูดอะไรสักอย่างเธอมองคุณย่าลู่อย่างสงบ “คุณย่าคะ ฉันไม่รู้ว่าทำไมคุณย่าถึงได้เกลียดฉันขนาดนี้ แต่เมื่อก่อนย่าไม่ใช่แบบนี้ แถมยังชอบฉันมาก ถึงกับบอกเขาว่า ถ้าเขาทำร้ายฉัน คุณย่าจะช่วยฉันตีเขา ฉันยังจำคำพูดพวกนั้นได้อยู่เลย”เธอหายใจออกเบา ๆ แล้วพูดต่อ “แต่แน่นอนค่ะ คุณย่าจำไม่ได้ งั้นก็ไม่สำคัญแล้ว ฉันไม่รู้จักตัวตนของเขาตั้งแต่แรก จนกระทั่งเขาได้ความทรงจำกลับมา แล้วมาเปิดตัวในที่ที่ฉันทำงานอยู่ ฉันถึงได้รู้จักตัวตนของเขา”คุณย่าลู่เงียบไป ใบหน้
หลินเซียงมองคุณย่าลู่ด้วยความประหลาดใจไม่เคยคิดมาก่อนว่าคุณย่าที่เคยใจดีกับเธอ ในระดับที่เรียกว่าเอาใจใส่ กลับคิดร้ายกับเธอแบบนี้ แล้วยังมองเธอด้วยสายตาเย็นชาหลินเซียงรู้สึกเจ็บปวดในใจที่แท้ไม่ใช่แค่ตอนที่ลู่สือเยี่ยนทำร้ายเธอเท่านั้นถึงจะรู้สึกเจ็บปวดการถูกคนที่เคยสนิทสนมทำร้าย ใจก็เจ็บปวดเช่นกันเธอเม้มริมฝีปาก แล้วหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาลู่สือเยี่ยน“ฮัลโหล?”ไม่นานปลายสายก็รับ ได้ยินเสียงทุ้มต่ำของชายหนุ่มดังขึ้นหลินเซียงบอกว่า “คุณย่ามีเรื่องจะพูดกับพวกเรา ตอนนี้คุณช่วยมาโรงพยาบาลหน่อย”ลู่สือเยี่ยนถามว่า “เกิดอะไรขึ้นเหรอ?”หลินเซียง “มาถึงเดี๋ยวก็รู้เอง”พูดจบก็วางสายไปเรื่องหย่าควรจะพูดต่อหน้าทั้งสองคนจะดีกว่าบอกกับเธอแค่คนเดียวมีประโยชน์อะไร?เธออยากหย่า แต่ลู่สือเยี่ยนไม่ยอม คุณย่าลู่ก็ไม่เชื่อเธอทำผิดอะไร?ถึงได้ถูกปฏิบัติแบบนี้?หลินเซียงนั่งลงบนโซฟา ก้มหน้าลง ไม่มองคุณย่าลู่อีกนิสัยของเธอค่อนข้างแปลกถ้าคนคนนั้นทำร้ายเธอ ก็ยากที่จะเข้าไปอยู่ในใจเธอได้อีกคุณย่าลู่ไม่ค่อยชอบท่าทางของหลินเซียง จึงจับมือเซี่ยหว่านแล้วคุยต่อ เพราะชอบท่าทางอ่อนโยนขอ
หลังจากออกจากโรงพยาบาล ลู่สือเยี่ยนมองเธอ “อย่าคิดมาก คุณย่าแค่ลืมความทรงจำไปสองปีเท่านั้นเอง”หลินเซียงมองเขา แล้วถามว่า “แล้วถ้าคุณย่ายืนกรานจะให้คุณแต่งงานกับเซี่ยหว่านล่ะ?”ลู่สือเยี่ยนมองเธออย่างลึกซึ้ง “หลินเซียง เธอควรเลิกคิดเรื่องนี้นะ เพราะผมไม่หย่ากับคุณแน่”หลินเซียงอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ แล้วพูดว่า “จริง ๆ แล้ว เราหย่ากันก็ไม่เลวนะ ฉัน…”“หยุด!”ลู่สือเยี่ยนมองเธอด้วยความหงุดหงิด “ฟังที่ผมพูดไม่รู้เรื่องเหรอ? ถ้าพูดถึงเรื่องหย่าอีก ผมจับคุณขังไว้แน่!”ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความโกรธ รอบตัวเต็มไปด้วยออร่าเย็นชาหลินเซียงหยุดชะงัก ไม่พูดต่อเพราะเขาทำได้จริงเมื่อหันหลังเดินไป ใบหน้าเล็ก ๆ นั้นเย็นชายิ่งกว่าเก่าลู่สือเยี่ยนมองตามหลังเธอไป ริมฝีปากบางเม้มเป็นเส้นตรงเขาเปิดประตูแล้วก้าวขึ้นรถ สีหน้ามืดครึ้มอย่างที่สุดในขณะนั้น เสียงเรียกเข้าโทรศัพท์เขาดังขึ้น เขาหยิบขึ้นมาดู เป็นสายจากซืออวี่“พูดมา!”ซืออวี่ตกใจกับน้ำเสียงเย็นชาของเขา ก่อนจะกลืนน้ำลายอึกใหญ่ “พี่ใหญ่ ฉันสืบได้เรื่องบ้างแล้ว แต่คนคนนั้นฉลาดเป็นกรด ปกปิดตัวตนได้ดีมาก รู้แค่ว่าเป็นผู้ชาย”ลู่สือเยี
วันรุ่งขึ้น ทั้งสองคนไปที่โรงพยาบาลคุณย่าลู่ทานอาหารเช้าเสร็จแล้ว อวิ๋นหลานนั่งคุยกับเธออยู่“คุณย่าครับ”ลู่สือเยี่ยนเดินเข้าไปเรียกด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนคุณย่าลู่เห็นเขา ใบหน้าที่แก่ชราพลันมีรอยยิ้ม“สือเยี่ยน เธอมาแล้ว” คุณย่าลู่จับมือเขาไว้ มองใบหน้าหล่อเหลาของเขาแล้วพูดขึ้นมาทันทีว่า “สือเยี่ยน ทำไมดูเปลี่ยนไปจังเลย? ดูเหมือนจะโตขึ้นมากเลยนะ”ริมฝีปากบางของลู่สือเยี่ยนโค้งเป็นรอยยิ้ม “โตขึ้นแล้วไม่ดีเหรอครับ?”คุณย่าลู่พยักหน้า “ดี แน่นอนว่าดี แต่ฉันยังชอบเธอตอนเด็ก ๆ ที่ไร้เดียงสามากกว่า เอาแต่วิ่งตามหลังพี่ชายตลอดเวลา แล้วยังทำหน้าบึ้งใส่เขา มีแต่พี่ชายที่ตามใจ ถ้าเป็นคนอื่นคงตีเธอไปแล้ว”รอยยิ้มที่มุมปากของลู่สือเยี่ยนแข็งทื่อไปชั่วขณะคุณย่าลู่สังเกตเห็นหลินเซียงในตอนนี้ จึงถามว่า “แล้วเธอล่ะ มายังไง?”ลู่สือเยี่ยนบอกว่า “ย่าครับ เธอเป็นภรรยาผม หลินเซียง”หลินเซียงมองคุณย่าลู่ “คุณย่า”คิ้วของคุณย่าลู่ขมวดเข้าหากันทันที เธอปล่อยมือลู่สือเยี่ยน “ก่อนหน้านี้เธอบอกว่าจะแต่งงานกับหว่านหว่านไม่ใช่เหรอ? ฉันเห็นว่าเด็กคนนั้นก็ใช้ได้นะ ทำไมถึงแต่งงานกับคนอื่นล่ะ?”ท่าทีนั้
ใบหน้าของลู่สือเยี่ยนแสดงออกถึงความซับซ้อนเล็กน้อย เขาพูดอย่างสงบว่า “เรื่องนี้ยังบอกไม่ได้ ต้องรอผลตรวจของแพทย์”หลินเซียงพยักหน้า ตอนนี้คงทำได้แค่นี้ลู่เจิ้งหรงมองหลินเซียงด้วยสายตาไม่เป็นมิตร แล้วพูดกับลู่สือเยี่ยนว่า “อาการของย่าแกดูเหมือนจะดีขึ้น ความคิดของผู้ใหญ่ แกคงรู้ดี น่าจะอยากเห็นแกแต่งงานกับหว่านหว่าน ตอนนั้นแกเป็นคนพาหว่านหว่านไปหาท่านเอง ตอนนี้ถ้าท่านขอร้อง แกก็ปฏิเสธไม่ได้”อวิ๋นหลานกล่าวว่า “เจิ้งหรง แต่สือเยี่ยนกับหลินเซียงรักกันดี ทำแบบนี้ไม่ค่อยดีหรอกมั้ง?”“เหอะ!” ลู่เจิ้งหรงหัวเราะเยาะ “รักกันดี? หลินเซียงไม่ใช่เหรอที่อยากหย่ามาตลอด? ใช้โอกาสนี้หย่ากันไปซะสิ ไม่ต้องมีใครขัดขวางใคร!”อวิ๋นหลานมองหลินเซียงด้วยความกังวล กลัวว่าเธอจะเสียใจแต่หลินเซียงเหมือนไม่ได้ยิน ยืนอยู่มุมห้อง ก้มหน้าลง ปากสวยเม้มเป็นเส้นตรงลู่สือเยี่ยนไม่ได้สนใจคำพูดของลู่เจิ้งหรงเลยเขาตามหาลู่จิ้นหนานจนแทบคลั่ง ยังมีเวลาสนใจเรื่องของเขากับหลินเซียงอีกเหรอ?ดูเหมือนว่าเขาควรหาอะไรให้อีกฝ่ายทำบ้าง!ประมาณสองชั่วโมงผ่านไปผลการตรวจของคุณย่าลู่ออกมาแล้วแพทย์ถือรายงานผลการตรวจแล้วพูด