หลังจากลู่สือเยี่ยนออกจากโรงพยาบาล เขาก็กดโทรหาหลินเซียง แต่แล้วก็ถูกตัดสายอย่างรวดเร็วคิ้วของเขาขมวดมุ่นอาจกล่าวได้ว่าในที่สุดความสัมพันธ์ของทั้งคู่ก็เข้าสู่บรรยากาศที่เปราะบาง อุบัติเหตุกะทันหันของเซี่ยหว่านทำลายทุกสิ่งที่กำลังจะเป็นไปด้วยดีลงทันทีลู่สือเยี่ยนไม่เคยรู้สึกหงุดหงิดขนาดนี้มาก่อน เขายื่นมือออกไปดึงเนกไท พยายามระบายบรรยากาศหดหู่ที่ติดอยู่ในอกออกไปแต่ทั้งหมดเป็นเพียงความพยายามที่ไร้ผล เขานั่งอยู่ในรถ หยิบบุหรี่ออกมาแล้วจุดไฟแช็กทันใดนั้น โทรศัพท์มือถือของเขาก็ดังขึ้น เขาหยิบมันออกมาดูอย่างรวดเร็วเพราะคิดว่าเป็นหลินเซียง แต่ไม่คาดคิดว่าข้อความนั้นจะมาจากซืออวี่ซืออวี่ [ระบุตำแหน่งของฉีเจี้ยนเย่ได้แล้ว]ลู่สือเยี่ยน [ส่งมา]ซืออวี่ [ไม่ส่ง]ลู่สือเยี่ยน [?]ซืออวี่ [หึ ผมน่ะกบฏจะตายไป]ลู่สือเยี่ยน [ถ้าอย่างนั้นก็เชิญก่อกบฏในประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ไปตลอดชีวิตเลย ไม่ต้องกลับมา]ซืออวี่ [หัวหน้า ผมผิดไปแล้ว เดี๋ยวจะส่งไปให้คุณตอนนี้เลย]ลู่สือเยี่ยนได้รับตำแหน่งปัจจุบันของฉีเจี้ยนเย่อย่างรวดเร็วมันเป็นพื้นที่สลัมชานเมือง ห่างไกลจากที่นี่ เขาโทรหาซือ
ฟู่จิ่นซิ่วจับเขาไว้ “ฉันรู้ว่านายรีบดื่ม แต่อย่าเพิ่งรีบดื่มไปเลย เวลาดื่มจนเมาแล้วหัดใส่ใจกับชื่อเสียงของตัวเองบ้าง ไม่กลัวเหรอว่าจะถูกมองยังไง?”ลู่สือเยี่ยนมองเขาด้วยสายตาเย็นชา "นายป่วยหรือไง?"ฟู่จิ่นซิ่ว "ลู่สือเยี่ยน เป็นอะไรไป? ฉันพูดเพราะเป็นห่วงนาย แต่นายกลับว่าฉัน รู้ไหมว่านี่มันทำร้ายจิตใจเพื่อนนะ ถ้านานไป นายจะหาคนมาดื่มเป็นเพื่อนไม่ได้แล้ว!”ลู่สือเยี่ยนเพียงเหลือบมองเขาอย่างเย็นชาบทสนทนาของพวกเขาทั้งสองมาถึงทางตันอยู่พักหนึ่ง จากนั้นฟู่จิ่นซิ่วก็ยกมือขึ้น แล้วพูดว่า "เอาล่ะ ฉันไม่พูดไร้สาระแล้วก็ได้ อยากดื่มก็ดื่ม ขอแค่เวลาเมาอย่ามาซบตักฉันแล้วร้องไห้ก็พอ"ลู่สือเยี่ยน "ฉันจะควักสมองนายออกมาก่อนแล้วค่อยร้องไห้"ฟู่จิ่นซิ่ว "..."ไอ้คนน่าเบื่อเอ๊ย!ลู่สือเยี่ยนดื่มไวน์ รสเผ็ดร้อนไหลเข้าปาก เขาขมวดคิ้ว เอนหลัง เงยหน้าขึ้นและเอามือก่ายหน้าผากปิดตาไว้เสียงของเขาต่ำและแหบแห้ง "เหล่าฟู่ ฉันอยู่รอดมาจนถึงทุกวันนี้ได้ไงวะ?"ฟู่จิ่นซิ่ว “เพราะนายดวงดีไง”…บทสนทนาตายสนิทในทันที เกิดความเงียบขึ้นในห้องส่วนตัวชั่วครู่หนึ่ง ฟู่จิ่นซิ่วยิ้มแล้วพูดว่า "ฉันรู้ว่านายอ
หลินเซียงมองฟู่จิ่นซิ่วด้วยรอยยิ้มครึ่งหนึ่ง "คุณกล้ารอจนกว่าเขาจะตื่นขึ้นมาแล้วพูดประโยคพวกนี้หรือเปล่า?"ฟู่จิ่นซิ่ว "..."เขามองไปที่หลินเซียงสักพักหนึ่ง จากนั้นจู่ ๆ ก็หันไปหาลู่สือเยี่ยนที่หมดสติแล้วพูดว่า "เพื่อนยาก อีกหน่อยชีวิตนายคงลำบากน่าดูเลยล่ะ"หลินเซียงยังคงไม่มีความตั้งใจที่จะหลีกทางให้ พูดอย่างใจเย็น "กลับไปในที่ที่พวกคุณเพิ่งออกมาเถอะ ที่นี่ไม่ต้อนรับ"พูดจบเธอก็วางไม้เบสบอลลง ก่อนจะปิดประตูเสียงดังปัง ฟู่จิ่นซิ่ว "..."เขาหายใจเข้าลึก ๆ จากนั้นช่วยพยุงให้ลู่สือเยี่ยนหันหลังกลับ และจากไปอย่างยอมแพ้“เซียงเซียง…”ลู่สือเยี่ยนพึมพำชื่อเบา ๆ ด้วยความเมาฟู่จิ่นซิ่วหัวเราะเยาะ “เซียงเซียงของนายไม่ต้องการนายอีกต่อไปแล้ว ยอมรับความจริงซะเถอะ”…หลินเซียงกลับไปที่ห้องนอนและหลับตาลง แต่ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เธอถึงนอนไม่หลับเธอลืมตาขึ้น มองเพดานด้วยความรู้สึกสับสนเล็กน้อยทำไมเขายังไปดื่มต่ออีก?เขาไม่ได้ไปหาเซี่ยหว่านหรอกเหรอ?หรือพอเขารู้ว่าเซี่ยหว่านป่วยเป็นโรคซึมเศร้า เขาก็รู้สึกทุกข์ใจและโทษตัวเอง ดังนั้นเขาจึงออกไปดื่มเพื่อคลายความโศกเศร้า?ว้าว ช่างเป็น
ฟู่จิ่นซิ่วนอนอยู่บนเตียงในโรงพยาบาล โดยมีผ้าพันแผลพันรอบศีรษะ ใบหน้าที่หล่อเหลาของเขาอิดโรยเพราะอาการบาดเจ็บ แต่เขามองดูซ่งซ่งด้วยดวงตาที่กำลังจะลุกเป็นไฟซ่งซ่งซ่อนตัวอยู่ข้างหลังหลินเซียงอย่างไม่รู้ตัวในห้องผู้ป่วยไม่ได้มีแค่ฟู่จิ่นซิ่วเท่านั้น แต่ลู่สือเยี่ยนก็นั่งอยู่บนเก้าอี้ใกล้ ๆ ด้วยสีหน้าเย็นชาและห่างเหิน แผ่ออร่าที่แข็งแกร่งและเย็นยะเยือกทันทีที่เธอเข้ามา สายตาของเขาก็จับจ้องไปที่เธอดูเหมือนว่าหลินเซียงจะไม่เห็นเขา เธอมองไปที่ฟู่จิ่นซิ่วแล้วถามว่า "คุณฟู่ เพื่อนฉันไม่ได้ตั้งใจ เธอจะรับผิดชอบต่อทุกสิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากที่คุณเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล และจะชดเชยค่าเสียขวัญให้คุณด้วย คุณมีความคิดเห็นอย่างไรบ้างคะ?”ฟู่จิ่นซิ่วหัวเราะเยาะ "ต้องการเอาก๊อกน้ำดับเพลิงทุบหัวเธอคืนน่ะสิ"หลินเซียงขมวดคิ้ว “ฉันไม่แนะนำให้ตอบโต้ด้วยความรุนแรงนะ”มุมปากของฟู่จิ่นซิ่วกระตุกสองครั้ง จ้องมองไปที่ซ่งซ่งซึ่งซ่อนตัวอยู่ด้านหลังหลินเซียง จากนั้นมองไปที่ลู่สือเยี่ยน ทันใดนั้นก็พูดว่า “การชดเชยพวกนั้นไม่จำเป็นหรอก ฉันไม่ได้ขาดเงิน แต่ฉัน ฉันขาดคนดูแล”ซ่งซ่งรีบพูด "งั้นฉันจะขอให้พยาบ
ฟู่จิ่นซิ่วเบิกตากว้างทันที จากนั้นก็พูดอย่างรวดเร็ว "เปล่านะ ผม นี่ไม่ใช่เพราะผม คุณ…”อย่างไรก็ตาม ยิ่งเขาต้องการอธิบายมากเท่าไร เขาก็ยิ่งคิดคำพูดออกน้อยลงเท่านั้น!เขาเพิ่งทวงเครดิตให้กับลู่สือเยี่ยน แล้วทำไมหลินเซียงถึงหันกลับมาและบอกว่าเขาใจดีกันล่ะ?แล้วลู่สือเยี่ยนมีประโยชน์อะไรกับเรื่องนี้?ฟู่จิ่นซิ่วตื่นตระหนกมากจนรู้สึกหนาวสั่นที่คอ รีบมองไปที่ลู่สือเยี่ยน "สือเยี่ยน เธอพูดไร้สาระใหญ่แล้ว..."ลู่สือเยี่ยนเพียงเหลือบมองเขาอย่างเย็นชาหลินเซียงพูดว่า "คุณฟู่ โปรดพักผ่อนให้สบาย เราไม่รบกวนคุณในตอนนี้แล้ว"พูดจบ เธอก็พาซ่งซ่งออกจากห้องผู้ป่วยไปทันที “เฮ้ อย่าเพิ่งไปสิ!”ฟู่จิ่นซิ่วกังวลมากจนแทบจะกระโจนลงจากเตียงผู้ป่วย!นี่มันอะไรกัน?เขามองไปที่ลู่สือเยี่ยน "สือเยี่ยน ฉันอยากช่วยนายนะ แต่ฉันพยายามอย่างดีที่สุดแล้วจริง ๆ"ลู่สือเยี่ยนบอกว่า "ถ้าอย่างนั้นนายก็เป็นคนใจดีจริง ๆ นั่นแหละ"ฟู่จิ่นซิ่ว "..."ช่างเหอะ"ฮ่าฮ่าฮ่า!"หลังจากออกจากห้องผู้ป่วย ซ่งซ่งอดไม่ได้ที่จะหัวเราะ "เซียงเซียง เธอเก่งมาก! เมื่อกี้คงไม่ทันเห็นสีหน้าของลู่สือเยี่ยนด้วยซ้ำสินะ มืดยิ่งกว่า
ร่างกายของหลินเซียงสั่นสะท้าน เธอพยายามผลักเขาออกไปตามสัญชาตญาณ แต่ลู่สือเยี่ยนจับข้อมือเธอไว้แน่น แล้วดึงแขนเธอลงมา ก่อนจะจูบลงบนริมฝีปากของเธอ“อื้อ!”หลินเซียงพยายามดิ้นรนแต่ลู่สือเยี่ยนฉวยจูบอย่างเร่าร้อนและดุดัน จนริมฝีปากของเธอเปลี่ยนเป็นสีแดงสด เขาถึงพอใจและหยุดลง“แบบนี้ถึงจะสวย”หลินเซียงผลักเขาออกอย่างแรง “ลู่สือเยี่ยน คุณไม่รู้สึกอึดอัดบ้างหรือไง?”ลู่สือเยี่ยนมองเธอด้วยสีหน้าโกรธเคือง ดวงตาของเขามืดมนและลึกล้ำ “รีบร้อนอะไร? เดือนนี้ผ่านไปแล้วหรือยัง?”หลินเซียงชะงักไปเล็กน้อย ก่อนจะจ้องมองเขา “หมายความว่าคุณจะหย่ากับฉันเดือนหน้า?”ลู่สือเยี่ยนเลิกคิ้ว แต่ไม่พูดอะไร แล้วหันหลังเดินออกไป“คนเลว!”หลินเซียงมองตามแผ่นหลังของเขาแล้วสบถออกมาเบา ๆรู้อยู่แล้วว่าเขาก็แค่หลอกให้เธอดีใจเล่น!ทำไมการหย่าถึงได้ยากเย็นนัก?ขณะเดียวกัน ซ่งซ่งก็เดินออกมา เห็นว่าสีหน้าของหลินเซียงไม่ดีนักจึงถามว่า “เกิดอะไรขึ้น?”หลินเซียงเปลี่ยนเรื่อง “พวกเธอตกลงกันได้หรือยัง?”ซ่งซ่งพยักหน้า “อืม เขาตกลงแล้ว แต่ฉันเห็นว่าเขาดูไม่ค่อยเต็มใจเท่าไหร่”หลินเซียงหัวเราะเยาะ “เขาก็ต้องไม่เต็มใ
หลินเซียงละสายตา หันกลับมาอย่างเย็นชา แล้วหันหลังเดินออกไปซ่งซ่งรีบตามเธอไป เธอชูหัวแม่โป้งขึ้น “เซียงเซียงที่รักของฉันลุกขึ้นสู้แล้ว”หลินเซียงพูดว่า “ถ้าไม่มาทำร้ายฉันก่อน คนอย่างฉันก็ไม่ทำร้ายใคร”เหมือนกับเจิ้งซินเอ้อร์ที่เข้ามาหาเรื่องเองแบบเมื่อกี้นี้ เธอย่อมไม่ออมมือซ่งซ่งพึมพำสองสามครั้ง แล้วพูดว่า “ไม่รู้ว่าไอ้สารเลวคนนั้นคิดอะไรอยู่ ในเมื่อรักเซี่ยหว่านมาก ทำไมไม่หย่ากับเธอซะ? ตอนนี้เซี่ยหว่านป่วยเป็นโรคซึมเศร้า เธอเองก็ลำบากใจ เขาคิดจะทำอะไรกันแน่?”หลินเซียง “ถ้าฉันรู้ว่าเขาคิดจะทำอะไรก็ดีน่ะสิ”ถ้าเป็นอย่างนั้น เธอจะไม่รู้สึกทรมานแบบนี้การที่ต้องวนเวียนอยู่ในวังวนแบบนี้มีความหมายอะไรกัน?ซ่งซ่งจับแขนเธอ ยิ้มแย้มพูด “เซียงเซียง คืนนี้ไปนอนห้องฉันนะ เพราะหลังจากพรุ่งนี้ไป ฉันจะไม่ว่างแล้ว”หลินเซียงพยักหน้าตอบตกลงทันทีซ่งซ่งดีใจมาก พาหลินเซียงไปที่อะพาร์ตเมนต์เล็ก ๆ ของตัวเอง แบ่งเป็นห้องนอนหนึ่งห้อง ห้องนั่งเล่นหนึ่งห้อง กำลังพอดีสำหรับอยู่คนเดียวทั้งยังซื้อปีกไก่ทอด ปากเป็ดทอดพริกกระเทียมติดมาด้วย สองสาวนั่งดูรายการวาไรตี้ ดื่มเบียร์ แทะปีกไก่ทอดเสพความสุ
เสียงหัวเราะคิกคักของซ่งซ่งดังขึ้นในขบวนรถไฟฟ้าใต้ดิน “เมื่อกี้เธอเห็นสีหน้าบูดบึ้งของเขาไหม? ขำตายเลย ฮ่าฮ่าฮ่า”ใบหน้าของหลินเซียงเรียบเฉย “ถ้าไม่หย่า ต่อไปเขาก็จะเป็นแบบนี้ทุกวัน”ซ่งซ่งถอนหายใจ “นี่มันสงครามประสาทชัด ๆ ดูซิว่าใครจะทนไม่ไหวก่อนกัน”หลินเซียงไม่ตอบอะไร มองโทรศัพท์มือถืออย่างเหม่อลอยเมื่อถึงบริษัท หลินเซียงก็ถูกซ่งจั่วเรียกตัวไปยังห้องทำงานของประธานเธอไม่อยากไป แต่ในฐานะลูกจ้าง เธอไม่มีทางเลือกอื่นหลินเซียงพยายามปรับอารมณ์ ก่อนลุกขึ้นเดินไปยังห้องทำงานของประธานเธอเคาะประตูเบา ๆ เมื่อได้ยินเสียงตอบรับจากภายใน เธอก็เปิดประตูเข้าไปภายในห้องทำงานมืดสลัว มีจอโปรเจคเตอร์ขนาดใหญ่ฉายภาพใบหน้าของชาวต่างชาติหลายคนอยู่ตรงกลางห้องลู่สือเยี่ยนกำลังประชุมอยู่หลินเซียงชะงัก กำลังจะถอยออกไป แต่ลู่สือเยี่ยนกลับกวักมือเรียกเธอเข้าไปหลินเซียงรู้สึกไม่พอใจ ริมฝีปากสวยเม้มเป็นเส้นตรงลู่สือเยี่ยนกดรีโมท หยุดการประชุมผ่านวิดีโอ“เข้ามา”ดวงตาเรียวเล็กคมกริบของเขาจ้องมองเธอ แววตาลึกลับทำให้ยากที่จะอ่านอารมณ์ออกหลินเซียงยืนอยู่ที่ประตู จึงถามว่า “ท่านประธานลู่มีอะไรคะ