แสงอาทิตย์ค่อย ๆ ลาลับไป เหลือเพียงเงาของความมืดที่คืบคลานเข้ามาแทนที่ ในรถยนต์หรูหราที่แล่นไปตามถนนสายเปลี่ยว ลู่สือเยี่ยนหันหน้ามาสบตาหลินเซียง สายตาของเขาคมกริบ ดุดันราวกับสิงโตที่เตรียมจะตะครุบเหยื่อ “แค่นี้เองเหรอ?” เสียงทุ้มต่ำของเขาถาม น้ำเสียงเย้ยหยัน ราวกับกำลังเยาะเย้ยความอ่อนแอของเธอหลินเซียงรู้สึกถึงความร้อนที่แผ่ซ่านไปทั่วใบหน้า เธอรีบดึงสติตัวเอง “ลู่สือเยี่ยน ได้คืบอย่าเอาศอก”“หลินเซียง ตอนนี้เป็นคุณที่ต้องง้อผม แน่ใจเหรอว่าจะพูดกับผมแบบนี้?” ลู่สือเยี่ยนหัวเราะเบา ๆ ใช้น้ำเสียงท้าทายหลินเซียงจ้องมองเขา ดวงตาของเธอเย็นชา “ตลอดเลย คุณใช้เรื่องหย่ามาข่มขู่ให้ฉันทำตามที่ต้องการ แต่ไม่เคยทำตามสัญญา คุณต้องการอะไรกันแน่?”ลู่สือเยี่ยนมองเธอด้วยสีหน้าเฉยเมย ราวกับรู้ว่าเธอต้องยอมแพ้ แต่หลินเซียงกลับหัวเราะเยาะ และหันหน้าไปทางอื่น ไม่สนใจเขาอีกลู่สือเยี่ยนหยุดชะงัก จ้องมองเธออยู่นาน ก่อนที่จะเริ่มขับรถออกไป บรรยากาศภายในรถเต็มไปด้วยความอึดอัด ราวกับมีกำแพงกั้นอยู่ หลินเซียงลดกระจกลง แต่เพียงเสี้ยววินาที กระจกก็ถูกเลื่อนขึ้นไปตามเดิม “...” หลินเซียงรู้สึกหงุดหงิดจริ
หลินเซียงทำอาหารง่าย ๆ เสร็จแล้วนั่งลงที่โต๊ะอาหาร แล้วเธอหยิบโทรศัพท์ออกมาดู “เกิดอะไรขึ้น? ลู่สือเยี่ยนยังไม่ขึ้นมาอีก? เขาไปไหน?” เธอเริ่มคิดฟุ้งซ่าน มือถือโทรศัพท์แน่น มองมันอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะนึกถึงคำพูดของเขาในวันนี้ “ต้องเอาใจเขา เพื่อให้เขายอมหย่ากับฉัน ไม่อย่างนั้นฉันจะติดอยู่ในสถานการณ์อันตรายแบบนี้ตลอดไป” หลินเซียงหายใจเข้าลึก ๆ แล้วกดโทรหาลู่สือเยี่ยนเสียงรอสายดังสามครั้ง จากนั้นปลายสายก็กดรับ หลินเซียงถามทันที “คุณจะกลับมาเมื่อไหร่?”“นังหน้าด้าน ไม่ละอายใจบ้างหรือไง? ลู่สือเยี่ยนรักหว่านหว่าน ทำไมแกถึงไม่ยอมปล่อยเขาไป? เป็นเพราะแก พวกเขาถึงไม่ได้อยู่ด้วยกัน หว่านหว่านกลายเป็นโรคซึมเศร้าไปแล้ว!” แต่เสียงที่ดังออกมาจากปลายสายกลับไม่ใช่เสียงของลู่สือเยี่ยน แต่เป็นเสียงของผู้หญิงคนหนึ่ง ที่เต็มไปด้วยความกรุ่นโกรธ สีหน้าหลินเซียงเย็นชาทันที “ก่อนออกจากบ้านคุณกินอุจาระเข้าไปหรือไง?”เจิ้งซินเอ้อร์ได้ยินคำพูดของเธอ สีหน้าเปลี่ยนไปทันที “นี่แกกล้าด่าฉันเหรอ?”หลินเซียงเยาะเย้ย “แค่นี้เรียกด่าแล้วเหรอ? ฉันแค่เตือนคุณว่าอย่าลืมแปรงฟันด้วย ปากเหม็นจะแย่อยู่แล้ว ขนาด
รอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้าที่ซีดเซียวของเซี่ยหว่าน “ฉันไม่เป็นอะไรหรอก แค่เหนื่อยเกินไป เลยเผลองีบหลับไป”เจิ้งซินเอ้อร์ “ไร้สาระ คนบ้าที่ไหนเขานอนงีบบนพื้นกัน? แก๊สในบ้านก็เปิดทิ้งไว้ หว่านหว่าน ขอร้องล่ะ อย่าทำอะไรโง่ ๆ ได้ไหม?” เซี่ยหว่าน “โอเค ฉันเข้าใจแล้ว”ในเวลานี้ ลู่สือเยี่ยนเดินเข้ามา สายตาที่มืดมนของเขาจ้องมองไปที่ใบหน้าที่ซีดเซียวของเซี่ยหว่าน สีหน้าของเขาดูตึงเครียดเล็กน้อย“สือเยี่ยน ขอโทษที่ทำให้คุณตกใจนะคะ ฉันสบายดีจริง ๆ ถ้าคุณมีอะไรต้องทำก็กลับไปทำต่อเถอะ”เมื่อเซี่ยหว่านเห็นเขา ถึงแม้ใบหน้าจะซีดเซียว แต่เธอก็ยังมีแก่ใจจะคำนึงถึงผู้อื่นเจิ้งซินเอ้อร์พูดว่า “เขาจะทำอะไร? ทำตัวเกาะติดกับผู้หญิงคนนั้นน่ะสิไม่ว่า หว่านหว่าน ตอนนั้นเธอไม่ควรช่วยเขาไว้เลย เพื่อเขา เธอต้องสูญเสียขาไปหนึ่งข้าง แถมตอนนี้ยังเกือบตายอีก!”“ซินเอ้อร์ หยุดพูดได้แล้ว”เซี่ยหว่านห้ามปรามเธอ และเริ่มสำลักไออย่างรุนแรงทันทีลู่สือเยี่ยนก้าวไปข้างหน้า หยิบแก้วน้ำแล้วยื่นให้เธอเซี่ยหว่านพยายามลุกขึ้น แต่ทรงตัวไม่ได้เสียที เมื่อเห็นดังนั้นลู่สือเยี่ยนก็ขมวดคิ้วเจิ้งซินเอ้อร์ “มัวยืนทำอะไรอยู
หลังจากลู่สือเยี่ยนออกจากโรงพยาบาล เขาก็กดโทรหาหลินเซียง แต่แล้วก็ถูกตัดสายอย่างรวดเร็วคิ้วของเขาขมวดมุ่นอาจกล่าวได้ว่าในที่สุดความสัมพันธ์ของทั้งคู่ก็เข้าสู่บรรยากาศที่เปราะบาง อุบัติเหตุกะทันหันของเซี่ยหว่านทำลายทุกสิ่งที่กำลังจะเป็นไปด้วยดีลงทันทีลู่สือเยี่ยนไม่เคยรู้สึกหงุดหงิดขนาดนี้มาก่อน เขายื่นมือออกไปดึงเนกไท พยายามระบายบรรยากาศหดหู่ที่ติดอยู่ในอกออกไปแต่ทั้งหมดเป็นเพียงความพยายามที่ไร้ผล เขานั่งอยู่ในรถ หยิบบุหรี่ออกมาแล้วจุดไฟแช็กทันใดนั้น โทรศัพท์มือถือของเขาก็ดังขึ้น เขาหยิบมันออกมาดูอย่างรวดเร็วเพราะคิดว่าเป็นหลินเซียง แต่ไม่คาดคิดว่าข้อความนั้นจะมาจากซืออวี่ซืออวี่ [ระบุตำแหน่งของฉีเจี้ยนเย่ได้แล้ว]ลู่สือเยี่ยน [ส่งมา]ซืออวี่ [ไม่ส่ง]ลู่สือเยี่ยน [?]ซืออวี่ [หึ ผมน่ะกบฏจะตายไป]ลู่สือเยี่ยน [ถ้าอย่างนั้นก็เชิญก่อกบฏในประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ไปตลอดชีวิตเลย ไม่ต้องกลับมา]ซืออวี่ [หัวหน้า ผมผิดไปแล้ว เดี๋ยวจะส่งไปให้คุณตอนนี้เลย]ลู่สือเยี่ยนได้รับตำแหน่งปัจจุบันของฉีเจี้ยนเย่อย่างรวดเร็วมันเป็นพื้นที่สลัมชานเมือง ห่างไกลจากที่นี่ เขาโทรหาซือ
ฟู่จิ่นซิ่วจับเขาไว้ “ฉันรู้ว่านายรีบดื่ม แต่อย่าเพิ่งรีบดื่มไปเลย เวลาดื่มจนเมาแล้วหัดใส่ใจกับชื่อเสียงของตัวเองบ้าง ไม่กลัวเหรอว่าจะถูกมองยังไง?”ลู่สือเยี่ยนมองเขาด้วยสายตาเย็นชา "นายป่วยหรือไง?"ฟู่จิ่นซิ่ว "ลู่สือเยี่ยน เป็นอะไรไป? ฉันพูดเพราะเป็นห่วงนาย แต่นายกลับว่าฉัน รู้ไหมว่านี่มันทำร้ายจิตใจเพื่อนนะ ถ้านานไป นายจะหาคนมาดื่มเป็นเพื่อนไม่ได้แล้ว!”ลู่สือเยี่ยนเพียงเหลือบมองเขาอย่างเย็นชาบทสนทนาของพวกเขาทั้งสองมาถึงทางตันอยู่พักหนึ่ง จากนั้นฟู่จิ่นซิ่วก็ยกมือขึ้น แล้วพูดว่า "เอาล่ะ ฉันไม่พูดไร้สาระแล้วก็ได้ อยากดื่มก็ดื่ม ขอแค่เวลาเมาอย่ามาซบตักฉันแล้วร้องไห้ก็พอ"ลู่สือเยี่ยน "ฉันจะควักสมองนายออกมาก่อนแล้วค่อยร้องไห้"ฟู่จิ่นซิ่ว "..."ไอ้คนน่าเบื่อเอ๊ย!ลู่สือเยี่ยนดื่มไวน์ รสเผ็ดร้อนไหลเข้าปาก เขาขมวดคิ้ว เอนหลัง เงยหน้าขึ้นและเอามือก่ายหน้าผากปิดตาไว้เสียงของเขาต่ำและแหบแห้ง "เหล่าฟู่ ฉันอยู่รอดมาจนถึงทุกวันนี้ได้ไงวะ?"ฟู่จิ่นซิ่ว “เพราะนายดวงดีไง”…บทสนทนาตายสนิทในทันที เกิดความเงียบขึ้นในห้องส่วนตัวชั่วครู่หนึ่ง ฟู่จิ่นซิ่วยิ้มแล้วพูดว่า "ฉันรู้ว่านายอ
หลินเซียงมองฟู่จิ่นซิ่วด้วยรอยยิ้มครึ่งหนึ่ง "คุณกล้ารอจนกว่าเขาจะตื่นขึ้นมาแล้วพูดประโยคพวกนี้หรือเปล่า?"ฟู่จิ่นซิ่ว "..."เขามองไปที่หลินเซียงสักพักหนึ่ง จากนั้นจู่ ๆ ก็หันไปหาลู่สือเยี่ยนที่หมดสติแล้วพูดว่า "เพื่อนยาก อีกหน่อยชีวิตนายคงลำบากน่าดูเลยล่ะ"หลินเซียงยังคงไม่มีความตั้งใจที่จะหลีกทางให้ พูดอย่างใจเย็น "กลับไปในที่ที่พวกคุณเพิ่งออกมาเถอะ ที่นี่ไม่ต้อนรับ"พูดจบเธอก็วางไม้เบสบอลลง ก่อนจะปิดประตูเสียงดังปัง ฟู่จิ่นซิ่ว "..."เขาหายใจเข้าลึก ๆ จากนั้นช่วยพยุงให้ลู่สือเยี่ยนหันหลังกลับ และจากไปอย่างยอมแพ้“เซียงเซียง…”ลู่สือเยี่ยนพึมพำชื่อเบา ๆ ด้วยความเมาฟู่จิ่นซิ่วหัวเราะเยาะ “เซียงเซียงของนายไม่ต้องการนายอีกต่อไปแล้ว ยอมรับความจริงซะเถอะ”…หลินเซียงกลับไปที่ห้องนอนและหลับตาลง แต่ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เธอถึงนอนไม่หลับเธอลืมตาขึ้น มองเพดานด้วยความรู้สึกสับสนเล็กน้อยทำไมเขายังไปดื่มต่ออีก?เขาไม่ได้ไปหาเซี่ยหว่านหรอกเหรอ?หรือพอเขารู้ว่าเซี่ยหว่านป่วยเป็นโรคซึมเศร้า เขาก็รู้สึกทุกข์ใจและโทษตัวเอง ดังนั้นเขาจึงออกไปดื่มเพื่อคลายความโศกเศร้า?ว้าว ช่างเป็น
ฟู่จิ่นซิ่วนอนอยู่บนเตียงในโรงพยาบาล โดยมีผ้าพันแผลพันรอบศีรษะ ใบหน้าที่หล่อเหลาของเขาอิดโรยเพราะอาการบาดเจ็บ แต่เขามองดูซ่งซ่งด้วยดวงตาที่กำลังจะลุกเป็นไฟซ่งซ่งซ่อนตัวอยู่ข้างหลังหลินเซียงอย่างไม่รู้ตัวในห้องผู้ป่วยไม่ได้มีแค่ฟู่จิ่นซิ่วเท่านั้น แต่ลู่สือเยี่ยนก็นั่งอยู่บนเก้าอี้ใกล้ ๆ ด้วยสีหน้าเย็นชาและห่างเหิน แผ่ออร่าที่แข็งแกร่งและเย็นยะเยือกทันทีที่เธอเข้ามา สายตาของเขาก็จับจ้องไปที่เธอดูเหมือนว่าหลินเซียงจะไม่เห็นเขา เธอมองไปที่ฟู่จิ่นซิ่วแล้วถามว่า "คุณฟู่ เพื่อนฉันไม่ได้ตั้งใจ เธอจะรับผิดชอบต่อทุกสิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากที่คุณเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล และจะชดเชยค่าเสียขวัญให้คุณด้วย คุณมีความคิดเห็นอย่างไรบ้างคะ?”ฟู่จิ่นซิ่วหัวเราะเยาะ "ต้องการเอาก๊อกน้ำดับเพลิงทุบหัวเธอคืนน่ะสิ"หลินเซียงขมวดคิ้ว “ฉันไม่แนะนำให้ตอบโต้ด้วยความรุนแรงนะ”มุมปากของฟู่จิ่นซิ่วกระตุกสองครั้ง จ้องมองไปที่ซ่งซ่งซึ่งซ่อนตัวอยู่ด้านหลังหลินเซียง จากนั้นมองไปที่ลู่สือเยี่ยน ทันใดนั้นก็พูดว่า “การชดเชยพวกนั้นไม่จำเป็นหรอก ฉันไม่ได้ขาดเงิน แต่ฉัน ฉันขาดคนดูแล”ซ่งซ่งรีบพูด "งั้นฉันจะขอให้พยาบ
ฟู่จิ่นซิ่วเบิกตากว้างทันที จากนั้นก็พูดอย่างรวดเร็ว "เปล่านะ ผม นี่ไม่ใช่เพราะผม คุณ…”อย่างไรก็ตาม ยิ่งเขาต้องการอธิบายมากเท่าไร เขาก็ยิ่งคิดคำพูดออกน้อยลงเท่านั้น!เขาเพิ่งทวงเครดิตให้กับลู่สือเยี่ยน แล้วทำไมหลินเซียงถึงหันกลับมาและบอกว่าเขาใจดีกันล่ะ?แล้วลู่สือเยี่ยนมีประโยชน์อะไรกับเรื่องนี้?ฟู่จิ่นซิ่วตื่นตระหนกมากจนรู้สึกหนาวสั่นที่คอ รีบมองไปที่ลู่สือเยี่ยน "สือเยี่ยน เธอพูดไร้สาระใหญ่แล้ว..."ลู่สือเยี่ยนเพียงเหลือบมองเขาอย่างเย็นชาหลินเซียงพูดว่า "คุณฟู่ โปรดพักผ่อนให้สบาย เราไม่รบกวนคุณในตอนนี้แล้ว"พูดจบ เธอก็พาซ่งซ่งออกจากห้องผู้ป่วยไปทันที “เฮ้ อย่าเพิ่งไปสิ!”ฟู่จิ่นซิ่วกังวลมากจนแทบจะกระโจนลงจากเตียงผู้ป่วย!นี่มันอะไรกัน?เขามองไปที่ลู่สือเยี่ยน "สือเยี่ยน ฉันอยากช่วยนายนะ แต่ฉันพยายามอย่างดีที่สุดแล้วจริง ๆ"ลู่สือเยี่ยนบอกว่า "ถ้าอย่างนั้นนายก็เป็นคนใจดีจริง ๆ นั่นแหละ"ฟู่จิ่นซิ่ว "..."ช่างเหอะ"ฮ่าฮ่าฮ่า!"หลังจากออกจากห้องผู้ป่วย ซ่งซ่งอดไม่ได้ที่จะหัวเราะ "เซียงเซียง เธอเก่งมาก! เมื่อกี้คงไม่ทันเห็นสีหน้าของลู่สือเยี่ยนด้วยซ้ำสินะ มืดยิ่งกว่า
ซ่งซ่ง “สบายใจได้เลย ไอ้บ้านั่นแกล้งฉันไม่ลงหรอก พอฉันเบื่อก็จะถีบหัวส่งเอง”หลินเซียงรู้สึกไม่ค่อยดีกลัวที่สุดคือซ่งซ่งจะเล่นจนพลาด ทำให้ฟู่จิ่นซิ่วน้อยใจ เขาอาจจะเลวร้ายกว่าลู่สือเยี่ยนเสียอีกหลินเซียงบอกความกังวลของเธอ “ยังไงก็ระวังตัวด้วยนะ”ซ่งซ่ง “ได้ ๆ รู้แล้ว”หลินเซียง “งั้นฉันไม่รบกวนเวลาทำงานแล้ว ไปก่อนนะ บาย”“จุ๊บ จุ๊บ”…หลินเซียงกลับไปที่สตูดิโอโดยตรงสภาพจิตใจของเธอเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิงสวี่ซิงเย่เป็นคนแรกที่สังเกตเห็น จึงถามด้วยรอยยิ้มว่า “เรื่องอะไรทำให้คุณมีความสุขขนาดนี้ครับ?”หลินเซียงประหลาดใจ “เห็นได้ชัดขนาดนั้นเลยเหรอ?”สวี่ซิงเย่พยักหน้า “ชัดแจ๋วเลย ก่อนหน้านี้คุณทำงานไม่เคยยิ้ม วันนี้ยิ้มตลอดเวลา”หลินเซียงลูบหน้า แล้วพูดว่า “อืม ปิดการขายได้น่ะ เซ็นสัญญาเสร็จเรียบร้อย ใกล้จะรวยแล้ว ก็เลยมีความสุข”สวี่ซิงเย่ “งั้นก็ขอแสดงความยินดีด้วยนะครับ”“ขอบคุณ”หลินเซียงยิ้มเล็กน้อย แล้วหันไปเปิดคอมพิวเตอร์เธอมองไปรอบ ๆ ออฟฟิศ พบว่าวันนี้ซืออวี่ไม่ได้มา แต่เธอก็ไม่ได้ใส่ใจ แล้วเริ่มทำงานทันทีที่โรงพยาบาลลู่สือเยี่ยนโยนใบหย่าลงตรงหน้าคุณย่าลู่ ดึ
หลินเซียงรู้สึกสงสัยเล็กน้อย “ทำไมจดล็อบบี้ไม่ได้เหรอคะ?”เจ้าหน้าที่กล่าวว่า “คุณผู้หญิง วันนี้ที่ล็อบบี้คนเยอะ เชิญทั้งสองท่านไปชั้นบนดีกว่า”หลินเซียงเหลือบมองไปที่เคาน์เตอร์รับเรื่องหย่า เห็นว่าคนแน่นจริง ๆอย่างนี้นี่เอง สมัยนี้การแต่งงานส่วนใหญ่คงไปกันไม่รอดสินะ?เธอไม่คิดอะไรมาก รีบตามเจ้าหน้าที่ขึ้นไปชั้นบนในห้องทำงานของนายทะเบียน ทั้งสองคนกรอกเอกสารเพิ่มเติม แล้วก็เข้าสู่เรื่องการแบ่งทรัพย์สินลู่สือเยี่ยนหยิบสัญญาฉบับหนึ่งให้เธอ “นี่คือค่าชดเชยให้คุณ”หลินเซียงรับมาดู พอเห็นชื่อบางชื่อ ดวงตาของเธอก็เบิกกว้างบ้านที่เฟิงหลินหย่วน เขากลับยกให้เธอบ้านหลังนั้นเธอขายไปแล้วไม่ใช่เหรอ?เขาซื้อคืนมาเมื่อไหร่?หรือว่าเป็นอีกหลังหนึ่ง?นั่นเป็นบ้านหลังใหญ่หลังแรกที่เขาให้เธอ มีความทรงจำดี ๆ เธอยังคงชอบมันอยู่เธอมองลงไปด้านล่าง ยังมีค่าชดเชยการหย่าอีกห้าสิบล้านเยี่ยมไปเลย เธอกลายเป็นมหาเศรษฐีแล้วลู่สือเยี่ยนจ้องมองเธออย่างลึกซึ้ง “มีอะไรสงสัยไหม?”หลินเซียงส่ายหัว “ไม่มีค่ะ”จากนั้นก็ถึงขั้นตอนการเซ็นชื่อไม่นาน นายทะเบียนก็มอบใบหย่าให้ทั้งสองคนแต่ลู่สือเยี่ยนไม
หลินเซียงกลับไปที่สตูดิโอสวี่ซิงเย่เห็นสีหน้าที่ผิดปกติของเธอ จึงถามว่า “หลินเซียง คุณไม่สบายหรือเปล่าครับ?”หลินเซียงส่ายหัว “เปล่า อาจจะแค่พักผ่อนไม่เพียงพอ”สวี่ซิงเย่กังวลเล็กน้อย “ยังมีอะไรที่ยังทำไม่เสร็จอยู่ไหมครับ? ให้ผมช่วยก็ได้ ผมจะช่วยคุณเอง”หลินเซียง “ไม่มีแล้ว ขอบคุณมาก”สวี่ซิงเย่ยังอยากจะพูดอะไรอีก ซืออวี่ก็เดินเข้ามา “เสี่ยวสวี่ ออกไปข้างนอกกับฉันหน่อย!”สวี่ซิงเย่พยักหน้า “ได้ครับ”ช่วงนี้ ซืออวี่มักจะพาสวี่ซิงเย่ออกไปข้างนอก เขามีความสามารถ แถมยังดื่มเหล้าเก่ง ถนัดการเข้าร่วมงานเลี้ยงสังสรรค์ทางธุรกิจมากมาย ด้วยความสามารถของเขาทำให้ดึงดูดทรัพยากรได้มาก ตอนนี้เริ่มทำแบบร่างโครงการด้วยตัวเองแล้วหลินเซียงมองตามพวกเขาออกไป ในใจเกิดความสงสัยเล็กน้อยช่วงนี้งานเลี้ยงเยอะเกินไปหรือเปล่า?ก่อนหน้านี้ไม่เห็นจะเป็นแบบนี้เลยสวี่ซินหรานพูดขึ้นมาทันที “หึ ก่อนหน้านี้บอสมักจะพาเธอออกไป ให้ความสำคัญกับเธอมาก ตอนนี้เป็นไงล่ะ ดูเหมือนความสามารถของสวี่ซิงเย่จะโดดเด่นกว่าเธอนะ”หลินเซียง “งั้นเธอมีดีอะไรบ้างล่ะ?”สวี่ซินหรานอึ้ง ไม่คิดว่าเธอจะโต้กลับหลินเซียงมองเธออย่
คุณย่าลู่ขู่จะตาย! สีหน้าของลู่สือเยี่ยนเปลี่ยนไปทันทีเซี่ยหว่านรีบเข้าไป พร้อมกับร้องไห้พูดว่า “คุณย่าลู่ค่ะ อย่าพูดอย่างนั้นเลย ไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าสุขภาพของคุณแล้วค่ะ เราไปตรวจกันก่อนดีไหมคะ?”คุณย่าลู่มองเธอด้วยความปลื้มปิติ “หว่านหว่าน เธอนี่เป็นเด็กดีจริง ๆ ตระกูลลู่เป็นหนี้เธอมากเกินไปแล้ว ถ้าฉันไม่ทำอะไรสักอย่าง สู้ตายไปยังไม่เจ็บช้ำเท่า”เซี่ยหว่านร้องไห้จนพูดไม่ออก!สถานการณ์ตึงเครียดขึ้นมาทันทีลู่สือเยี่ยนไม่ยอม คุณย่าลู่ก็ยิ่งหน้าซีดลงเรื่อย ๆ เธอจับจ้องราวกับจะคาดคั้นรอการตัดสินใจของเขาหลินเซียงเดินเข้าไป มองลู่สือเยี่ยนแล้วพูดว่า “เราไปหย่ากันก่อนเถอะ สุขภาพของย่าสำคัญกว่า”คุณย่าลู่มองลู่สือเยี่ยนด้วยความกระวนกระวายลู่สือเยี่ยนหันไปมองหลินเซียงอย่างรวดเร็ว กระตุกมุมปาก “ผลลัพธ์ที่เป็นอยู่ตอนนี้ คุณคงพอใจแล้วใช่ไหม?”หลินเซียงเม้มริมฝีปาก พูดว่า “แต่สุขภาพของย่าสำคัญกว่า”ลู่สือเยี่ยนพยักหน้า “ได้ หย่าก็หย่า”คุณย่าลู่ก็โล่งใจขึ้นมาทันที นอนลงบนเตียงแล้วหลับไปหมอและพยาบาลพาคุณย่าลู่ไปห้องตรวจเซี่ยหว่านเช็ดน้ำตาบนใบหน้า มองลู่สือเยี่ยนแล้วพูดว่า “สือเยี่
คุณย่าลู่ “จะมีใครทำร้ายเธอได้ยังไง? นั่นเป็นแค่การคาดเดาของเธอเท่านั้น”“เหอะ!”ลู่สือเยี่ยนหัวเราะเบา ๆ แล้วพูดต่อ “คุณย่าครับ คนคนหนึ่งที่เพิ่งฟื้นขึ้นมาแต่ความจำเสื่อม จะไปอยู่บนถนนได้ยังไง? คนดูแลที่บ้านเราล่ะ? หายหัวไปไหนหมด?”คุณย่าลู่เงียบไปลู่สือเยี่ยนพูดต่อ “ตอนนั้นเธอเป็นคนที่ช่วยผม พาผมกลับบ้าน ถ้าไม่ใช่เธอ วันนี้ย่าก็คงไม่ได้เจอหน้าผมแล้ว”คุณย่าลู่มองหลินเซียง แล้วพูดขึ้นมาทันทีว่า “ความจริงเป็นแค่เรื่องบังเอิญหรือเปล่า ตอนนี้ยังสรุปไม่ได้ ถ้าเกิดเธอรู้ตัวตนของหลานตั้งแต่แรกล่ะ?”“ฉันไม่รู้ค่ะ”หลินเซียงรู้สึกว่าเธอควรจะพูดอะไรสักอย่างเธอมองคุณย่าลู่อย่างสงบ “คุณย่าคะ ฉันไม่รู้ว่าทำไมคุณย่าถึงได้เกลียดฉันขนาดนี้ แต่เมื่อก่อนย่าไม่ใช่แบบนี้ แถมยังชอบฉันมาก ถึงกับบอกเขาว่า ถ้าเขาทำร้ายฉัน คุณย่าจะช่วยฉันตีเขา ฉันยังจำคำพูดพวกนั้นได้อยู่เลย”เธอหายใจออกเบา ๆ แล้วพูดต่อ “แต่แน่นอนค่ะ คุณย่าจำไม่ได้ งั้นก็ไม่สำคัญแล้ว ฉันไม่รู้จักตัวตนของเขาตั้งแต่แรก จนกระทั่งเขาได้ความทรงจำกลับมา แล้วมาเปิดตัวในที่ที่ฉันทำงานอยู่ ฉันถึงได้รู้จักตัวตนของเขา”คุณย่าลู่เงียบไป ใบหน้
หลินเซียงมองคุณย่าลู่ด้วยความประหลาดใจไม่เคยคิดมาก่อนว่าคุณย่าที่เคยใจดีกับเธอ ในระดับที่เรียกว่าเอาใจใส่ กลับคิดร้ายกับเธอแบบนี้ แล้วยังมองเธอด้วยสายตาเย็นชาหลินเซียงรู้สึกเจ็บปวดในใจที่แท้ไม่ใช่แค่ตอนที่ลู่สือเยี่ยนทำร้ายเธอเท่านั้นถึงจะรู้สึกเจ็บปวดการถูกคนที่เคยสนิทสนมทำร้าย ใจก็เจ็บปวดเช่นกันเธอเม้มริมฝีปาก แล้วหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาลู่สือเยี่ยน“ฮัลโหล?”ไม่นานปลายสายก็รับ ได้ยินเสียงทุ้มต่ำของชายหนุ่มดังขึ้นหลินเซียงบอกว่า “คุณย่ามีเรื่องจะพูดกับพวกเรา ตอนนี้คุณช่วยมาโรงพยาบาลหน่อย”ลู่สือเยี่ยนถามว่า “เกิดอะไรขึ้นเหรอ?”หลินเซียง “มาถึงเดี๋ยวก็รู้เอง”พูดจบก็วางสายไปเรื่องหย่าควรจะพูดต่อหน้าทั้งสองคนจะดีกว่าบอกกับเธอแค่คนเดียวมีประโยชน์อะไร?เธออยากหย่า แต่ลู่สือเยี่ยนไม่ยอม คุณย่าลู่ก็ไม่เชื่อเธอทำผิดอะไร?ถึงได้ถูกปฏิบัติแบบนี้?หลินเซียงนั่งลงบนโซฟา ก้มหน้าลง ไม่มองคุณย่าลู่อีกนิสัยของเธอค่อนข้างแปลกถ้าคนคนนั้นทำร้ายเธอ ก็ยากที่จะเข้าไปอยู่ในใจเธอได้อีกคุณย่าลู่ไม่ค่อยชอบท่าทางของหลินเซียง จึงจับมือเซี่ยหว่านแล้วคุยต่อ เพราะชอบท่าทางอ่อนโยนขอ
หลังจากออกจากโรงพยาบาล ลู่สือเยี่ยนมองเธอ “อย่าคิดมาก คุณย่าแค่ลืมความทรงจำไปสองปีเท่านั้นเอง”หลินเซียงมองเขา แล้วถามว่า “แล้วถ้าคุณย่ายืนกรานจะให้คุณแต่งงานกับเซี่ยหว่านล่ะ?”ลู่สือเยี่ยนมองเธออย่างลึกซึ้ง “หลินเซียง เธอควรเลิกคิดเรื่องนี้นะ เพราะผมไม่หย่ากับคุณแน่”หลินเซียงอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ แล้วพูดว่า “จริง ๆ แล้ว เราหย่ากันก็ไม่เลวนะ ฉัน…”“หยุด!”ลู่สือเยี่ยนมองเธอด้วยความหงุดหงิด “ฟังที่ผมพูดไม่รู้เรื่องเหรอ? ถ้าพูดถึงเรื่องหย่าอีก ผมจับคุณขังไว้แน่!”ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความโกรธ รอบตัวเต็มไปด้วยออร่าเย็นชาหลินเซียงหยุดชะงัก ไม่พูดต่อเพราะเขาทำได้จริงเมื่อหันหลังเดินไป ใบหน้าเล็ก ๆ นั้นเย็นชายิ่งกว่าเก่าลู่สือเยี่ยนมองตามหลังเธอไป ริมฝีปากบางเม้มเป็นเส้นตรงเขาเปิดประตูแล้วก้าวขึ้นรถ สีหน้ามืดครึ้มอย่างที่สุดในขณะนั้น เสียงเรียกเข้าโทรศัพท์เขาดังขึ้น เขาหยิบขึ้นมาดู เป็นสายจากซืออวี่“พูดมา!”ซืออวี่ตกใจกับน้ำเสียงเย็นชาของเขา ก่อนจะกลืนน้ำลายอึกใหญ่ “พี่ใหญ่ ฉันสืบได้เรื่องบ้างแล้ว แต่คนคนนั้นฉลาดเป็นกรด ปกปิดตัวตนได้ดีมาก รู้แค่ว่าเป็นผู้ชาย”ลู่สือเยี
วันรุ่งขึ้น ทั้งสองคนไปที่โรงพยาบาลคุณย่าลู่ทานอาหารเช้าเสร็จแล้ว อวิ๋นหลานนั่งคุยกับเธออยู่“คุณย่าครับ”ลู่สือเยี่ยนเดินเข้าไปเรียกด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนคุณย่าลู่เห็นเขา ใบหน้าที่แก่ชราพลันมีรอยยิ้ม“สือเยี่ยน เธอมาแล้ว” คุณย่าลู่จับมือเขาไว้ มองใบหน้าหล่อเหลาของเขาแล้วพูดขึ้นมาทันทีว่า “สือเยี่ยน ทำไมดูเปลี่ยนไปจังเลย? ดูเหมือนจะโตขึ้นมากเลยนะ”ริมฝีปากบางของลู่สือเยี่ยนโค้งเป็นรอยยิ้ม “โตขึ้นแล้วไม่ดีเหรอครับ?”คุณย่าลู่พยักหน้า “ดี แน่นอนว่าดี แต่ฉันยังชอบเธอตอนเด็ก ๆ ที่ไร้เดียงสามากกว่า เอาแต่วิ่งตามหลังพี่ชายตลอดเวลา แล้วยังทำหน้าบึ้งใส่เขา มีแต่พี่ชายที่ตามใจ ถ้าเป็นคนอื่นคงตีเธอไปแล้ว”รอยยิ้มที่มุมปากของลู่สือเยี่ยนแข็งทื่อไปชั่วขณะคุณย่าลู่สังเกตเห็นหลินเซียงในตอนนี้ จึงถามว่า “แล้วเธอล่ะ มายังไง?”ลู่สือเยี่ยนบอกว่า “ย่าครับ เธอเป็นภรรยาผม หลินเซียง”หลินเซียงมองคุณย่าลู่ “คุณย่า”คิ้วของคุณย่าลู่ขมวดเข้าหากันทันที เธอปล่อยมือลู่สือเยี่ยน “ก่อนหน้านี้เธอบอกว่าจะแต่งงานกับหว่านหว่านไม่ใช่เหรอ? ฉันเห็นว่าเด็กคนนั้นก็ใช้ได้นะ ทำไมถึงแต่งงานกับคนอื่นล่ะ?”ท่าทีนั้
ใบหน้าของลู่สือเยี่ยนแสดงออกถึงความซับซ้อนเล็กน้อย เขาพูดอย่างสงบว่า “เรื่องนี้ยังบอกไม่ได้ ต้องรอผลตรวจของแพทย์”หลินเซียงพยักหน้า ตอนนี้คงทำได้แค่นี้ลู่เจิ้งหรงมองหลินเซียงด้วยสายตาไม่เป็นมิตร แล้วพูดกับลู่สือเยี่ยนว่า “อาการของย่าแกดูเหมือนจะดีขึ้น ความคิดของผู้ใหญ่ แกคงรู้ดี น่าจะอยากเห็นแกแต่งงานกับหว่านหว่าน ตอนนั้นแกเป็นคนพาหว่านหว่านไปหาท่านเอง ตอนนี้ถ้าท่านขอร้อง แกก็ปฏิเสธไม่ได้”อวิ๋นหลานกล่าวว่า “เจิ้งหรง แต่สือเยี่ยนกับหลินเซียงรักกันดี ทำแบบนี้ไม่ค่อยดีหรอกมั้ง?”“เหอะ!” ลู่เจิ้งหรงหัวเราะเยาะ “รักกันดี? หลินเซียงไม่ใช่เหรอที่อยากหย่ามาตลอด? ใช้โอกาสนี้หย่ากันไปซะสิ ไม่ต้องมีใครขัดขวางใคร!”อวิ๋นหลานมองหลินเซียงด้วยความกังวล กลัวว่าเธอจะเสียใจแต่หลินเซียงเหมือนไม่ได้ยิน ยืนอยู่มุมห้อง ก้มหน้าลง ปากสวยเม้มเป็นเส้นตรงลู่สือเยี่ยนไม่ได้สนใจคำพูดของลู่เจิ้งหรงเลยเขาตามหาลู่จิ้นหนานจนแทบคลั่ง ยังมีเวลาสนใจเรื่องของเขากับหลินเซียงอีกเหรอ?ดูเหมือนว่าเขาควรหาอะไรให้อีกฝ่ายทำบ้าง!ประมาณสองชั่วโมงผ่านไปผลการตรวจของคุณย่าลู่ออกมาแล้วแพทย์ถือรายงานผลการตรวจแล้วพูด