หนึ่งปีผ่านไปเนินดินนอกวังหลวง ช่อดอกเหมยกุ้ยสีแดงสด (กุหลาบแดง) ถูกวางลงบนเนินดิน มีป้ายชื่อสลักจากแผ่นไม้ ลี่หลันเล่อ บนนั้น“ไท่จือกำลังจะมืดค่ำแล้ว”จื่อจื่อประสานมือกล่าวคำพูดเบาๆ“เจ้ากลับไปเสียข้ายังอยากอยู่ที่นี่อีกสักประเดี๋ยว”“แต่ที่นี่ค่อนข้างห่างไกลวังหลวง”“หากข้ามาเพียงลำพังเจ้าก็ไม่ต้องห่วง”“ไท่จือ นางตายไปแล้ว เมื่อไหร่ไท่จือจะลืมเลือนนางเสียที”“ข้ามีเรื่องจะพูดกับนางมากมาย คำขอโทษที่คิดไว้ตั้งขวบปีที่จะพูดกับนาง แล้วไหนจะเรื่องเล่ามากมายที่ตั้งใจจะเล่าให้นางฟัง”จื่อจื่อกลืนน้ำลายลงคอยากเย็น“ข้าผิดเอง เมื่อมีนางข้ากลับมองไม่เห็นค่าของนางแต่พอนางไม่อยู่ ข้ากลับรู้สึกว่าบางอย่างหายไป จื่อจื่อหากเป็นเจ้าจะทำอย่างไร”จื่อจื่อถอนหายใจ“ไท่จือชดเชยให้กับบิดาและคนในตระกูลลี่แล้วจื่อจื่อคิดว่าหากนางอยู่บนสวรรค์รับรู้ได้คงจะอภัยให้ไท่จือแล้ว”“ไม่มีทางนางไม่มีทางอภัยให้ข้า ข้ารู้ดีเจ้ากลับไปเสียข้าขออยู่ที่นี่เพียงลำพัง”จื่อจื่อประสานมือ ก้าวเดินถอยห่างออกมาสังเกตการณ์ไม่ไกลนัก“คุณหนูลี่ ไม่สิหลันเล่อ เจ้าชอบแทนตัวเองแบบนั้น ข้าไม่ขอให้เจ้าอภัยให้ข้า ข้าเพียงอยากให้ตอนนี
“นอนเสีย จะได้หายไวไว”วางร่างเล็กลงบนแท่นนอน อย่างทะนุถนอม“แล้วท่านอาเล่า”ยกมือขึ้นลูบที่ศีรษะให้เบาๆ“นอนเสีย ข้าออกไปคุยกับจื่อจื่ออีกสักพัก แล้วจะกลับมาเฝ้าเจ้าตามสัญญา”“คะคะความจริงท่านอาฝ่าบาทไม่ต้องมาเฝ้าหลันเล่อก็ได้…หลันเล่อคุ้นชินการนอนเพียงลำพัง”“ที่วังหลวง ที่แคว้นหานที่นั่นเจ้าจะต้องนอนต้องกินกับข้าอยู่เคียงข้างข้า ไม่ว่าจะยามหลับหรือยามตื่นหากยังไม่คุ้นชินก็ควรจะต้องทำให้คุ้นเสียตั้งแต่ตอนนี้”“ไม่ไม่ได้นะท่านอาฝ่าบาทแล้วข้อตกลงของเราที่ข้าอุตส่าห์ร่างขึ้นมาเสียยืดยาว ท่านอาจะไม่ยึดถือข้อตกลงจะไม่ แย่ไปหน่อยหรือ”“นอนเสีย อย่างไรข้าก็ไม่ลืมข้อตกลง หากว่าเจ้าไม่ยินยอม ข้าต้าหมิงคุนยินดีตามใจเจ้าทุกอย่าง”จุมพิตที่หน้าผากเบาๆ หลันเล่อหลับตาพริ้ม ต้าหมิงคุนจ้องมองขนตางอนงามดำสนิทก่อนจะโน้มตัวลงจุมพิตที่ปากอย่างอ่อนโยน“ทะ..ท่านอา”ริมฝีปากอุ่นยังบดเบียดนุ่มนวล ไม่ทำให้รู้สึกเจ็บปวดหรือว่าคุกคามแต่กลับทำให้รู้สึกว่าไร้เรี่ยวแรงจนต้องยึดร่างสูงไว้“ข้อตกลงนั่น จะทำให้เราไม่ได้ใกล้ชิดกันแบบนี้”กระซิบข้างหูเบาๆหลันเล่อหน้าแดงระเรื่อด้วยความเขินอาย ต้าหมิงคุนจุมพิตที่หน้าผ
สะบัดเสียงลุกขึ้น ในเมื่อในใจเจ็บปวดยิ่งนัก สาวใช้วางของว่างลงตรงหน้าพอดี แต่ลี่หลันเล่อก้าวขาออกจากศาลา มือใหญ่คว้าแขนไว้แน่น“ไร้มารยาท”ก้มมองมือที่คว้าข้อมือไว้“แม่นางลี่ เราสองคนไปได้หรือยัง”หยางซานซินก้าวขาเขามาร่างสูงหล่อเหลาไร้ที่ติแววตาเอาเรื่องอีกคน“คุณชาย หลันเล่อกำลังจะไปพบท่านเหตุใดไม่รอที่หน้าบ้าน หลันเล่อเสร็จธุระแล้วไม่ได้มีอะไรสำคัญ”ต้าหมิงคุนผู้ยังอ่อนเยาว์อารมณ์ร้อนดังไฟสุม ดึงมือบางไว้ไม่ยอมปล่อย หยางซานซินมองมือที่ถูกคว้าไว้แน่น“ไท่จือ ไท่จือแค้วนหาน มักนิยมหักหาญน้ำใจหญิงงามข้าเห็นว่าท่านหลายวัน เอาใจแม่นางน้อยนางหนึ่งวันนี้กลับกกลอกกลิ้งมาแสดงท่าที …หวงแหน.. แม่นางลี่ที่...เต็มใจจะไปกับข้า”หยางซานชิงงัดคำพูดที่ทำให้ต้าหมิงคุนเลือดขึ้นหน้า“หยุดปากพล่อยๆของเจ้าใครกันหึงหวง”เลือดขึ้นหน้าจริงๆหยางซานซินยิ้มยียวน“ไม่ยากไม่ยาก อยากให้ข้าหุบปากไท่จือแค่เพียงปล่อยนางไปกับข้า ข้ากับแม่นางลี่เรานัดแนะที่จะไปไปเที่ยว …ด้วยกันในวันนี้ไท่จือแคว้นหานมิได้อัตคัดหญิงงามเช่นไรจึงต้องลงทุนแย่งชิงกับข้าให้เสียเกียรติ” ปล่อยมือลี่หลันเล่อในทันทีหยางซานซิงยิ้ม ถือวิสาสะคว
“ฝ่าบาทเมิ่ยเม่ยถวายพระพรฝ่าบาทแค่เพียงถวายพระพรออกมาพบปะเมิ่งเม่ยแค่…แค่เพียงชั่วประเดี๋ยวไม่ได้หรือไร”องครักษ์หนุ่มยืนลังเลเก้เก้กังกัง ด้วยแต่ไหนแต่ไรรู้นิสัยของเมิ่งเม่ยดี สาวใช้คนสนิทดึงชายเสื้อเหมือนเป็นการเตือนสติ ว่าไม่ควรเซ้าซี้ต้าหมิงคุนเพราะจากน้ำเสียงทำให้รู้ว่าอารมณ์ขุ่นมัวยิ่งนัก“นางเป็นใคร ทำไมท่านอาฝ่าบาทไม่ให้นางพบเล่า”หลันเล่อเอ่ยปากถาม ลุกขึ้นจัดอาภรณ์ให้เรียบร้อย ต้าหมิงคุนยิ้มบางๆกดริมฝีปากที่หน้าผากบาง“ไม่มีอะไรสำคัญ เราออกไปไล่นางเสียพร้อมกัน”“ไล่ นาง..ท่านอาใจร้ายกับนางเสียจริง”“นางมาขัดจังหวะการทำความคุ้นเคยของเจ้ากับข้า”เชยคางมนขึ้นสบตาหลันเล่อหลบตาเสีย“ท่านอาฝ่าบาทนางอาจมีอะไรสำคัญ”โน้มตัวลงกดริมฝีปากกับปากบาง หลันเล่อที่เบี่ยงตัวหลบเสีย“ท่านอา ฝ่าบาทต้องออกไปพบนางเสียก่อน”“ก็ได้แต่เจ้าต้องออกไปกับข้า”ดึงร่างบางมากอดแนบแน่นต้าหมิงคุนก้าวออกมาจากกระโจม พร้อมด้วยหลันเล่อที่เขายกมือขึ้นโอบรอบไหล่บางเมิ่งเม่ยเงยหน้าขึ้นช้าๆ สายตาเหลือกลานด้วยความตกใจ ใบหน้าสวยใสของหลันเล่อที่เมิ่งเม่ยไม่อาจลืมเลือนบัดนี้อยู่ใกล้แค่เอื้อมมือ นางกลับมาได้อย่างไรมาอยู
ตระกูลถัง“ไท่จือประทานของกำนัลจากวังหลวงมอบให้เจ้าเมื่อบ่าย ขันทีอัญเชิญของกำนัลมากมายให้เจ้า เมิ่งเม่ยข้า ภูมิใจในตัวเจ้าเสียจริง”“ท่านพ่อ ข้ากับไท่จือเพิ่งจะพบกันแค่เพียงครั้งเดียว”ยิ้มอายๆ“ไท่จือพึงใจในตัวเจ้าตำแหน่งไท่จือเฟย เช่นไรจึงจะปล่อยให้หลุดมือต่อไปหากเป็นไท่จือแค่เพียงเอ่ยปากตำแหน่งของข้าย่อมได้รับการส่งเสริมให้ยิ่งใหญ่ยิ่งๆขึ้นไป จะว่าไปบิดาเจ้าทำงานหนักเบาไม่น้อยไปกว่าใต้เท้าลี่ แต่เมื่อถึงคราวได้รับคำสรรเสริญกลับเป็นท่านลี่รับไปเพียงผู้เดียว”“ท่านพ่อข้ากำลังตั้งใจทำในสิ่งที่ท่านพ่อสั่งสอนมา การจะให้ได้ใจไท่จือจะต้องอาศัยความลุ่มหลง และมารยาหญิง หากว่าเปรียบกันระหว่างข้ากับลี่หลันเล่อนางย่อมเหนือกว่าแต่หากจะเหนือกว่านางจะต้องวางแผนให้รัดกุม”“ต้องถือเป็นโอกาสอันดีสวรรค์เมตตาเจ้าแล้ว ไท่จือมองเจ้าเพียงผิวเผิน หาได้รู้ภายในจิตใจเจ้าไม่ ต้องยกความดีความชอบให้กับมารดาของเจ้าที่เลี้ยงดูสั่งสอนจนกิริยาของเจ้างดงามไร้ที่ติ หากจะเปรียบกับคุณหนูลี่ผู้โง่งมย่อมห่างจากเจ้าหลายขุม โชคของเจ้าทั้งยังส่งผลมาถึงข้า ตำแหน่งราชทูตด้านการค้า มีคนเสนอเงินทองมากมายให้กับใต้เท้าลี่นับวัน
“สำเร็จแล้ว ไท่จือยังเยาว์หลงเชื่อคนง่าย ข้าเติมเชื้อไฟไว้แล้วเกรงว่าใต้เท้าลี่ท่านคงไม่อาจรอดพ้นอาญาไปได้จะจริงหรือไม่ก็ต้องถูกสอบสวนและหมดความวางใจฮ่าๆๆๆๆ ”บ้านลี่“ไท่จือ ท่านมาอีกแล้วข้าน้อยไม่ได้เตรียมการต้อนรับ”ใต้เท้าลี่ประสานมือยินดีด้วยคิดว่าไท่จือมาชอบพอหลันเล่อ“พวกเจ้าตามคุณหนู โดยเร็วบอกนางว่าไท่จือแวะมา”แสดงความดีใจจนออกนอกหน้าเช่นเดิม ด้วยลี่หลันเล่อเป็นที่รักใคร่ของบิดาและคนในตระกูลเพราะความน่าเอ็นดูของลี่หลันเล่อแต่ใต้เท้าลี่หารู้ไม่ว่าลี่หลันเล่ออาภัพ ในเรื่องของหัวใจ“ไท่จือ”ลี่หลันเล่อย่อกายลงตรงหน้า ใต้เท้าลี่รีบโบกมือให้สาวใช้หลบไปเสียพร้อมกัน“เจ้าบอกมาไท่จือแคว้นใต้นั่นมาที่นี่ทำไมกัน”ลี่หลันเล่อขมวดคิ้ว“ไท่จือแคว้นใต้”“คุณชายผู้นั้นที่เจ้าไปไหนมาไหนด้วยบ่อยๆ อย่ามาทำเป็นไม่รู้เรื่องเจ้าสนิทสนมกับเขาเพียงนั้นไม่รู้หรือไรว่าเขาเป็นถึงไท่จือ”หลันเล่อส่ายหน้าไปมา“ไม่รู้หรือว่าโปรยเสน่ห์ไปจนทั่วจนไม่รู้ว่าคุณชายคนไหนอย่างนั้นหรือ”ทำไมจะไม่รู้ว่าเป็นไท่จือแคว้นใต้รู้แต่เพียงว่าลี่หลันเล่อจงใจเรียกเขาว่าคุณชายเพราะไม่อยากให้เป็นที่สังเกตมากไป“เลิกใส่ความข้
เช้าสดใส หลันเล่อนอนบิดขี้เกียจอยู่บนแท่นนอน เมื่อคืนจำได้แม่นยำว่า อ้อมกอดอบอุ่นยังอยู่ตรงนั้น วันนี้สายป่านนี้หลันเล่อเพิ่งจะขยับกายต้าหมิงคุนยกถาดอาหารเข้ามาข้างในกระโจมอากาศข้างนอกยังหนาวเหน็บ“ตื่นแล้วหรือข้าตั้งใจว่าเจ้านอนนานหน่อยอาการไข้จะได้หายไปวันพรุ่งนี้เราจึงจะเดินทาง”“หลันเล่ออยากจะไปวันนี้”เสียงออดอ้อนอ่อนหวานเป็นเพียงสิ่งเดียวที่เขาไม่เคยได้ยินลี่หลันเล่อทำมัน“ยังไม่ดีขึ้น”วางถาดเครื่องเสวยลงบนโต๊ะเอื้อมมือแตะที่หน้าผากเนียน“อือ มือข้าชาจนไม่รู้สึกว่าตัวเจ้าร้อนหรือไม่”โน้มตัวลงกดริมฝีปากกับหน้าผากเนียน หลันเล่อก้มหน้าเขินอายกับลูกเล่นของต้าหมิงคุน ยังไม่หยุดแค่นั้นริมฝีปากอุ่นแค่เปลือกตา เลื่อนมาที่แก้ม สองข้างก่อนจะหยุดที่ริมฝีปากบดเบียดนุ่มนวลยิ่งนัก หลันเล่อกำมือแน่น เมื่อร่างบางถูกโน้มลงบนแท่นนอน“ให้ข้าตรวจดูก่อนว่าจะเดินทางได้หรือยัง”เสียงสั่นกระเส่าริมฝีปากยังสำรวจซอกคอขาว สูดกลิ่นกายสาว“ทะทะท่านอา ฝ่าบาท เจ้าเล่ห์”“ไม่ทำแบบนี้จะรู้รึว่าตัวร้อนหรือไม่ ต้องพิสูจน์เสียหน่อยซุกหน้าลงบนซอกคอขาวเลื่อนลงมาที่อกนุ่ม“ท่านอา ไม่เอาแล้วหลันเล่อหิวแล้ว”“ข้า...ก
“เมิ่งเม่ยเข้าครัวทำเครื่องเสวยตั้งใจให้ไท่จือได้ลิ้มรสแต่บอกว่ามีธุระสำคัญ เมิ่งเม่ยกับคิดถึงคุณหนูลี่หวังดีกับนางให้นางได้ชิมของอร่อยคาดไม่ถึงว่าทั้งสองคนกำลังเริงรักไม่อายฟ้าดินต่อหน้าข้าเมิ่งเม่ยไท่จือทำทีเกลียดชังนางลับหลังกับกอดจูบนาง แม้แต่เมิ่งเม่ยไท่จือยังไม่เคยทำเช่นนี้จะให้เชื่อว่าไม่มีใจให้นางได้อย่างไรกัน”“ข้า”กดริมฝีปากเข้าที่ปากบางของเมิ่งเม่ยแทนคำแก้ตัว แต่กลับถูกผลักไสในทันทีเช่นกัน“อย่ามาแตะต้องตัวเม่งเมีย ข้าก็แค่ตัวสำรองของคุณหนูลี่ ไท่จือคงรู้สึกว่าถูกขัดจังหวะที่กำลังพลอดรักกับนางจึงมาลงที่เมิ่งเม่ยข้าน้อยเมิ่งเม่ยไม่อาจรับ”ปาดน้ำตาที่ไหลริน ต้าหมิงคุนถอนหายใจยาว“ข้าขอโทษต่อไปข้าไม่ข้องแวะกับนางอีกแล้ว”“หลายคนคงสมน้ำหน้าเมิ่งเม่ย ที่เป็นเพียงนางรองของ คุณหนูลี่ผู้สูงศักดิ์”โอบรอบร่างบางอย่างปลอบโยนยกมือขึ้นเช็ดน้ำตาให้เบาๆ“สำหรับข้าเจ้าเป็นหนึ่งเสมอ” หลันเล่อปาดน้ำตา หลบมุมอยู่ที่พุ่มไม้หนาทึบ“สำหรับข้า ท่านเองก็เป็นหนึ่งเช่นกันต้าหมิงคุนไท่จือ”สะอื้นไห้ทั้งเจ็บทั้งอับอายเจ็บที่ไม่อาจตัดใจจากต้าหมิงคุนทั้งๆที่เห็นว่าเขามีเพียงเมิ่งเม่ย อายที่ถูกเขากระ
หกเดือนผ่านไป“ฮองเฮาทรงพระเจริญหมื่นปีหมื่นๆ ปี”เสียงแซ่ซ้องสรรเสริญดังขึ้น ทั่วท้องพระโรงขุนนางชั้นผู้ใหญ่ก้าวขาออกมาด้านหน้า“บัดนี้แคว้นหานสงบร่มเย็นด้วยพระบารมีของฮองเฮา แม้ฝ่าบาทจะสวรรคตไปไม่นานทว่าบ้านเมืองกับ เจริงรุ่งเรืองการค้าขายกับต่างแคว้นล้วนดีตามไปด้วย ชาวบ้านล้วนอยู่เย็นเป็นสุข ยิ้มแย้มถ้วนหน้าจึงมีฎีกาส่งเข้ามาในวังหลวงมากมายชื่นชมสรรเสริญ”ยื่นพานใส่ฎีกามากมายตรงหน้าขันทีมารับไปส่งให้เอ่อหลันเล่อ“ข้าตั้งใจไหว้พระขอพรที่วัดบุปผาแดง ทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้กับท่านอา.. ฝ่าบาทงานในราชสำนักยกให้จื่อจื่อคอยจัดการแทน”น้ำตารื้นขอบตา“ฮ่องเต้ แคว้นใต้เสด็จเยี่ยมเยือนที่แคว้นหาน ประสงค์จะทำบุญถวายเป็นพระราชกุศลให้กับฝ่าบาทในวาระครบรอบหกเดือนเช่นกัน”“อืม ฝ่าบาทหยางซานชิงก็ไม่เคยลืมเรื่องนี้”“ข้าน้อยได้ป่าวประกาศให้ราษฎรทั่วแคว้นร่วมไว้อาลัยและงดให้มีการจัดเก็บภาษี สร้างโรงทานเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลอีกทาง”เอ่อหลันเล่อยิ้มบางๆ“ฮองเฮาข้าน้อยส่งถงหมิ่นกับหานจงคอยอารักขา”จื่อจื่อประสานมือ“ขอบใจท่านองครักษ์”สองข้างทางมีพุ่มดอกเหมยกุ้ยฮวาเบ่งบานงดงามบนป้ายหลุมศพของ ...ต้าหมิง
“ข้าไม่เคยรักเจ้าเมิ่งเม่ย”ต้าหมิงคุนพูดด้วยน้ำเสียงเย็นเฉียบ“ไม่ไม่จริงฝ่าบาทรักข้าฝ่าบาทเลยลงทัณฑ์นาง” ต้าหมิงคุน ขยับตัวด้วยความยากลำบาก“หมอหลวง ตามหมอหลวง”หลันเล่อตะโกนลั่น“เจ้าอภัยให้ข้าแล้วใช่ไหม”“ไม่ฝ่าบาทอย่าอภัยให้นางนางเป็นคนที่ ทำร้ายเมิ่งเม่ยได้ยินไหมฝ่าบาทรักเมิ่งเม่ยฝ่าบาทจะต้องเกลียดนาง”“คนที่ข้ารักคือหลันเล่อได้ยินไหมเมิ่งเม่ย คนที่ข้ารักก่อนหน้านั้นคือลี่หลันเล่อและตอนนี้คนที่ข้ารักคือเอ่อหลันเล่อ”กระอักเลือดสดสดออกมา หลันเล่อกอดร่างเปื้อนเลือดสะอื้นไห้ เมิ่งเม่ยยิ้มหยัน“ฝ่าบาทไม่รักเจ้าได้ยินไหมเมิ่งเม่ยได้ยินไหมเจ้ามันนางแพศยา เจ้ารู้ดีว่าฝ่าบาทไม่เคยรักเจ้า”เมิ่งเม่ยตะโกนดังลั่นสติเลื่อนลอย คล้ายดังคนเมา ชี้มีดไปตรงหน้าเอ่อหลันเล่อ“เจ้ากลับมาทำไม กลับมาทำไมทั้งๆ ที่ข้ากับฝ่าบาทกำลังจะลงเอยด้วยดี ฝ่าบาทกำลังจะลืมเจ้า นางมารเจ้ากลับมาทำไม”“เมิ่งเม่ยส่งมีดให้ข้า”จื่อจื่อค่อยๆ ขยับกายเข้าใกล้“ไม่พี่ใหญ่ข้าฆ่าคนที่นางรักนาง จะต้องทวงแค้นข้าเหมือนที่ผ่านมา พี่ใหญ่ข้าเกลียดนางได้ยินไหมแต่เพราะสวรรค์ไม่เคยเข้าข้างข้า มีข้าจะต้องมีนางแล้วยังให้นางเหนือกว่าข้า
“ข้าไม่อาจทนเห็นความขัดแย้งและข้า..ข้าไม่อาจดูดายที่จะให้ท่านอาฝ่าบาทโดดเดี่ยวเพียงลำพัง”“หลันเล่อเจ้าปล่อยให้พวกเขาทำร้ายข้า คลุมตัวข้าหรือ เรามิใช่พี่น้องกันหรือไร”สายตาแสดงความผิดหวังหลันเล่อก้มหน้า“ฝ่าบาท หลันเล่อมีบางอย่างอยากจะขอ ปล่อยพี่ใหญ่ไปเสีย”ต้าหมิงคุน พยักหน้าไปมา“ข้าไม่คิดจะกล่าวโทษเขาอยู่แล้วเพียงแค่เขากลับใจ อย่างไรความสัมพันธ์สองแคว้นยังเป็นเหมือนเดิมเพราะท่านน้ายังอยู่ที่นั่นและเจ้ายังอยู่ที่นี่”“ข้ายินดีคุมตัวเขากลับปาเอ่อถัวด้วยตัวเอง”หยางซานชิงอาสา เหลือบตามองหลันเล่อด้วยความรู้สึกเสียดายและเสียใจที่ไม่อาจเคียงข้างนางได้หลันเล่อทรุดกายลงข้างๆ หลันตี้“พี่ใหญ่ กลับไปที่ปาเอ่อถัวเสียเถิด”หลันตี้สะบัดมือจ้องหน้าหลันเล่อด้วยสายตาเกลียดชังอย่างที่หลันเล่อไม่เคยเห็นมาก่อน“เจ้ากับข้าขาดกันตั้งแต่วันนี้ ข้าทำทุกอย่างเพื่อปาเอ่อถัวให้รุ่งเรืองแต่เจ้ากับเห็นแก่ผู้อื่น”หลันเล่อสะอื้นอย่างแรง“ข้าผิดเอง หลันเล่อไปอาจเกลียดชังได้เท่าที่ลี่หลันเล่อต้องการหลันเล่อไม่อาจ...ตัดใจจากคนที่ทำร้ายทำลายตัวเองในครั้งก่อนได้ เพราะที่หลันเล่อเห็นคือฝ่าบาทที่ใจดีที่สุด”หยางซาน
ถงหมิ่นหอบเอาร่างบางไว้ในอ้อมแขน“อาจารย์ เรามาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร”ใบหน้าและแววตาใสซื่อถงหมิ่นยิ้มอ่อนโยน“เรากำลังจะกลับวังหลวง”เอ่ยปากด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนวังหลวงต้าหมิงคุนนั่งบนบัลลังก์มังกรด้วยท่าทีองอาจ แผลรอยมีดที่อกข้างซ้ายยังสร้างความเจ็บปวดให้ตลอดเวลา“รอคอยการมาของพวกเราช่างเป็นนกรู้เสียจริง”หลันตี้พูดขึ้นดังๆ ก้าวขาเข้ามาในท้องพระโรงโอ่อ่า“ความจริงความขัดแย้งนี้เป็นเพียงของท่านคนเดียวหลันตี้ไท่จือ ข้ายังคงยึดถือความสัมพนธ์อันดีระหว่างสองแคว้นในเมื่อท่านน้าก็ยังอยู่ที่ปาเอ่อถัวหลันตี้ขมวดคิ้ว“หลันเล่อเล่านางอยู่ที่ไหนกัน ท่านอย่าบอกว่าคุมตัวนางไว้เสียแล้ว”ต้าหมิงคุน ยิ้มเศร้าๆ“ท่าน ให้นางมาอยู่ท่ามกลางความขัดแย้งหลันเล่อที่แสนจะพิสุทธิ์ ท่านจงใจให้นางต้องพบกับความขัดแย้งอย่างเลี่ยงไม่ได้”“นางเป็นคนปาเอ่อถัวจะเกิดหรือจะตายก็เป็นคนปาเอ่อถัว”“ท่านคิดดังคนเห็นแก่ตัว ท่านเองหาได้สนใจว่าหลันเล่อจะต้องพบเจอกับสิ่งใดดีเป็นข้าที่รู้ทันไม่ได้สั่งให้ลงทัณฑ์นางอย่างที่ท่านต้องการ แต่ถึงกระนั้นสุนัขป่าหากอยากจะกินลูกแกะก็ต้องหาทางกินจนได้ ไม่ว่าข้าจะทำเช่นไรท่านก็จะต้องส่งทัพ
“ไท่จือชอบกลิ่นหอมของดอกเหมยกุ้ยฮวา”ลี่หลันเล่อยิ้มหวานเมื่อได้ยินเมิ่งเม่ยพูดแบบนั้น สวรรค์ลิขิตไว้แล้วแม้แต่ดอกไม้ต้าหมิงคุนยังชมชอบเหมือนกันกับหลันเล่อ“ข้าเองก็ชอบดอกเหมยกุ้ยฮวา”เมิ่งเม่ยยิ้ม“เจ้าก็ นำน้ำอบกลิ่นดอกเหมยกุ้ยฮวาอบอาภรณ์ของเจ้าแล้วสวมมันไปพบไท่จือจะดีไหม”ลี่หลันเล่อยิ้มเอียงอาย“ข้าไม่กล้าเกรงว่าไท่จือจะไม่อยากพบข้า”“ในครั้งแรกเจ้าก็ไม่กล้าแล้วเช่นไรจะชนะใจไท่จือ ข้ารึอุตส่าห์บอกกับไท่จือว่าเย็นนี้มีคน .. อยากพบไท่จือน่านะ คุณหนูลี่เจ้าไปพบไท่จือข้าจะได้ไม่ผิดคำพูด”“ก็ได้ แต่ยามค่ำมืดออกไปพบบุรุษไม่น่าอายไปหน่อยหรือ”“คุณหนูลี่เจ้าน่ะชอบไท่จือมิใช่หรือ”ลี่หลันเล่อพยักหน้าหงึกหงัก“เจ้าชอบไท่จือก็ไม่เห็นว่าจะน่าอายตรงไหนคุณหนูลี่เปิดเผยจริงใจอยู่แล้วมิใช่หรือ”ค่ำคื่นมืดมิดอาภรณ์สีม่วงอ่อนพร้อมกับกลิ่นดอกเหมยกุ้ยฮวา เยื้องย่างเข้ามายังที่นัดหมายร่างตะคุ่มของต้าหมิงคุนเลิกคิ้วสูง“เจ้า ไปห่างๆ ข้า”ต้าหมิงคุนผลักร่างบางของลี่หลันเล่อลงไปกองกับพื้น“บังอาจนัก ข้าแพ้กลิ่นดอกเหมยกุ้ยฮวา”ร่างสูงเซถลาถอยหลังล้มลงไปบนพื้นทันที“ช่วยด้วยใครก็ได้ช่วยด้วย”จื่อจื่อวิ่งออก
“พระนางอย่าได้แค้นเคืองอีกเลยท่านไม่มีอะไรที่จะไปต่อกรกับฮองเฮา”สะบัดมือฟาดลงใบหน้าของนางกำนัลข้างกาย“ข้ามีทุกอย่างเหนือกว่านางเหนือกว่านางมาตลอด ยกจอกยาขึ้นกระดกรวดเดียวหมดถ้วยแม้รสชาติของยาในถ้วยจะขมเพียงใดแต่เมิ่งเม่ยกลับรู้สึกว่าแม้จะฝืนใจเพียงใดก็ต้องทำหยางซานชิงกระตุกบังเหียนม้าให้หยุดอยู่ตรงนั้นไม่ยอมขยับกายป้ายหลุมศพ เห็นเด่นชัดแต่ไกล“ลี่หลันเล่อ พร่ำเพ้อคะนึงหา”ด้านหน้ามีช่อดอกเหมยกุ้ยฮวาเก่าใหม่วางเรียงรายบนเนินดินจนแทบจะมองไม่เห็นพื้นดินเบื้องล่างรอบเนินดินกลับพบดอกเหมยกุ้ยฮวางอกงามชูดอกสีแดงสดแข่งกันอวดโฉมงดงาม“ฝ่าบาทใกล้จะถึงวังหลวงแคว้นหานแล้วที่นี่เนินเหมยกุ้ยฮวามักจะไม่ให้ใครย่างกรายเข้ามา”“ทำไมกัน”“ว่ากันว่าบริเวณนี้และอีกกว่าสิบลี้ไม่ให้ผู้คนสัญจรเพราะเป็นที่ฝังศพของ..คุณหนูลี่ ต้าหมิงคุนฮ่องเต้อยากให้นางอยู่อย่างสงบห้ามใครย่างกรายอีกทั้งต้าหมิงคุนเมื่อมีโอกาสมักจะมาที่นี่เป็นประจำจึงต้องกันไว้เพื่อความปลอดภัย”หยางซานชิงเอื้อมมือหยิบดอกเหมยกุ้ยฮาขึ้นมาดอมดม“ต้องใช้ดอกเหมยกุ้ยฮวา มากมายเพียงใดในการนี้”“ว่ากันว่าดินแดนทางเหนือของแคว้นหานมีทุ่งดอกเหมยกุ้ยฮวา
“โบยนางจนกว่าข้าจะพอใจ”“ลี่…หลันเล่อเจ้าทำไมกลายเป็นคนใจร้ายเช่นนี้ ไม่เห็นแก่ความสัมพันของเราบ้างหรือ”หันหน้าหันหลังหาคนช่วยนางกำนัลที่เคยรับใช้ใกล้ชิดก็เพียงแค่ก้มหน้ามองพื้นไม่กล้าทัดทาน“เมิ่งเม่ยแล้วเจ้าเล่าเห็นแก่ความสัมพันธ์ของเราบ้างหรือไม่ ตระกูลลี่บ้านแตก อีกทั้งความเจ็บช้ำที่ข้าได้รับเล่า กลับกันหากเจ้ามาเป็นข้าเจ้ายังจะแค่โบยข้าหรือไร”ก้าวขาออกไปในทันที“ลี่ ลี่หลันเล่อไม่เอาเจ้าจะปบ่อยให้ข้าถูกโบยแบบนี้ไม่ได้ลี่หลันเล่อกลับมาก่อน”ขันทีลงไม้ที่กลางหลังของถังเมิ่งเม่ยสุดแรง จะด้วยบุญบารมีหรือความแค้นส่วนตัวที่ก่อนหน้านั้นเมิ่งเม่ยเคยกดขี่หรืออาจเป็นเพราะ บัญชาของฮองเฮาไม่อาจรู้ได้ ซึ่งหลายคนในวังหลวงต่างรู้ดีว่าอย่าทำให้เมิ่งเม่ยโกรธ ร่างบางสะท้อนขึ้นลงตามแรงหวดร่างกายแทบแตกออกเป็นเสี่ยงๆ“ลี่หลันเล่อได้โปรด ฮองเฮา อย่าทำแบบนี้ข้าทนรับความเจ็บปวดไม่ได้ ได้โปรดข้ากลัวแล้วปล่อยข้าไปลี่หลันเล่อได้โปรด”ส่งเสียงคร่ำครวญแม้ใครผ่านมาได้ยินในตอนนี้ย่อมที่จะอดสงสารเสียไม่ได้“ลี่หลันเล่อข้ากลัวแล้ว …ต่อไปข้าไม่กล้ากับเจ้าแล้ว”ร่างบางกระตุกตามแรงหวดของไม้พลองสุดท้ายก็แน่นิ่ง ลี่
“ฝ่าบาทพอได้แล้ว ที่ผ่านมาฝ่าบาทกักขังตัวเองกับคำว่าสำนึกนึกผิดต่อคุณหนูลี่อีกทั้งยังทรมานทั้งร่างกายและจิตใจ จื่อจื่อไม่เห็นว่าจะได้ประโยชน์อะไรในเมื่อฮองเฮา ตอนนี้แม้จะไม่รู้ว่านางคือคุณหนูลี่หรือไม่ แต่ทว่าความเคียดแค้นเกลียดชังนั้น ฝ่าบาทจะทำอย่างไรให้มันหายไป”“เจ้ายิ่งพูดแบบนี้ ข้ายิ่งรู้สึกผิดที่ผ่านมาทุกข์ตรมแค่ไหนข้าไม่เคยอยากให้นางรู้ แค่เพียงข้ารู้ว่ามันยังน้อยไปกับสิ่งที่นางได้รับ จื่อจื่อขอร้องอย่าได้ไม่พอใจฮองเฮานางก็ควรจะโกรธข้าเกลียดข้าในเมื่อข้าทำกับนางไว้ไม่น้อย อีกสองวัน ส่งคนอารักขาฮองเฮากลับเผ่าปาเอ่อถัวเสียหากนางต้องการจะกลับไปที่นั่น”“ฝ่าบาท..หากส่งฮองเฮากลับไปตอนนี้ทุกอย่างที่ทำมาล้วนล้มเหลว”“จะมีประโยชน์อะไรในเมื่อข้าตอนนี้ไร้แรงกายแรงใจในทุกเรื่องจะอยู่หรือตายไม่ต่างกัน เรื่องของบ้านเมือง ข้าคงต้องปล่อยไปตามยถากรรมเช่นกัน”“ข้าน้อยไม่คิดว่า ฝ่าบาทจะจมอยู่กับเรื่องราวในอดีตเช่นนี้”“ข้าเคยหวังมาตลอด ว่าพบนางอีกครั้งเพื่อได้ ชดใช้ให้กับนางตอนนี้ก็สาสมยิ่งแล้ว”"นางเจ็บปวดข้าเจ็บช้ำก็ถูกแล้ว นางไม่กล้าให้ข้าตายเพียงแค่อยากเห็นว่าข้าต้องเจ็บปวดเช่นนาง""ฝ่าบาท
“ข้อตกลงระหว่างเรา”หลันตี้ยกจอกสุราตรงหน้า“ข้าไม่ยอมทุกอย่างเพียงแค่หลันเล่อ ยอมที่จะเคียงข้างข้า”“หลันเล่อเป็นชาวปาเอ่อถัวทั้งตัวและหัวใจ ข้าคิดว่านางคงพอจะเข้าใจสิ่งที่ข้าและเสด็จแม่ตั้งใจมอบให้นาง”“ข้าหยางซานชิงรับรองว่าจะดูแลนางอย่างดี อีกทั้งมอบตำแหน่งฮองเฮาให้นาง”หลันตี้ยิ้มมุมปาก“รีบยกทัพเถิด”หยางซานชิงเร่งเร้า“กลัวว่าหลันเล่อจะเปลี่ยนใจหรือว่ากลัวว่าข้าจะเปลี่ยนใจกัน เสด็จพ่อกับสนมลู่ฟางบัดนี้ไม่มีอำนาจในการตัดสินใจมีเพียงข้าเท่านั้นที่เหล่าทหารให้ความย้ำเกรง”“เช่นนั้นจึงหายห่วง”“ข้ากับท่านยกทัพเข้าตีวังหลวงแคว้นหานเร็ววัน คนของข้าส่งข่าวหลันเล่อนาง ทำร้ายต้าหมิงคุน อาการสาหัสบอกได้ชัดว่านางยังมีความเป็นชนเผ่าปาเอ่อถัว ไม่เสียแรงที่ข้าคาดหวังในตัวนาง การไปของเราครั้งนี้ ต้าหมิงคุนจะต้องคาดไม่ถึง”“หากสามารถยึดวังหลวงแคว้นหานได้ ตำแหน่งฮ่องเต้แคว้นหานข้ายกให้ท่านองค์ชายใหญ่ ขอเพียงท่านช่วยพูดกับหลันเล่อ”“แน่นอน ข้าสัญญาแค่เพียงยึดวังหลวงแคว้นหานได้”ยกจอกสุราชูขึ้นตรงหน้าหยางซานชิงยกจอกสุรากระดกลงคออย่ารวดเร็ว………………………………………………………………………….“เห็นหรือไม่ ต้าหมิงคุน ว่าส