Share

บทที่ 138ขอโทษ

Author: ฮวาฮวาน่งหยวี่
ด้วยสถานการณ์ที่บังคับ ซูจื่อหังจึงต้องหยุดเดินและติดกระดุมเสื้อที่เปิดออกของตนเองให้เรียบร้อยก่อน

เพียงแต่แค่ช่วงเวลาเพียงครู่เดียวที่เขาติดกระดุม ถูซินเยว่ก็เดินจ้ำอ้าวไปไกลแล้ว และทิ้งซูจื่อหังไว้ข้างหลัง

เมื่อเห็นแผ่นหลังที่เย็นชาของถูซินเยว่ ซูจื่อหังก็ไม่รู้ว่าควรจะรับมืออย่างไรไปชั่วขณะ เขารีบไล่ตามไป

หญิงสาวตัวเตี้ยกว่าตนเอง ขาก็ไม่ยาวเท่าตนเอง แต่กลับเดินเร็วมาก จนกระทั่งถึงหน้าบ้าน ซูจื่อหังก็ยังไล่ถูซินเยว่ที่อยู่ข้างหน้าไม่ทัน

ทันทีที่ถูซินเยว่เดินเข้าบ้านก็ตรงปรี่ไปที่ห้องครัว หยิบปลาแห้งที่เผาอยู่บนถ่านขึ้นมาไปวางตากไว้ข้างนอก

นางหยูเห็นว่าลูกสะใภ้กลับมาด้วยใบหน้าบูดบึ้ง และกำลังสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น ก็เห็นซูจื่อหังเดินเข้ามาจากข้างนอก ตรงเข้าไปหาถูซินเยว่ และพูดด้วยใบหน้าเซ็งๆ ว่า "ซินเยว่ เจ้าฟังข้าอธิบาย"

"เจ้ากินข้าวก่อนเถอะ" ถูซินเยว่มองไปที่เขาทีหนึ่ง และใช้สายตาบอกอีกฝ่ายว่าไม่ให้เข้ามาใกล้ ส่วนตนเองนั้นถือปลาแห้งเดินไปที่กลางลานบ้าน แล้วนำปลาแห้งวางเรียงบนกระจาดไม้ไผ่เพื่อตากแห้ง

เมื่อเห็นท่าทีเย็นชาของหญิงสาว ซูจื่อหังก็ขมวดคิ้ว ขณะกำลังจะไล่ตามไป นางหยูที่
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 139เหลียงปินขอหย่า

    ถูซินเยว่กัดฟัน และตบเข้าที่ใบหน้าของซูจื่อหัง พูดด้วยความโมโหว่า "คนเลว เจ้าจะทำอะไร? เพราะว่าตอนเช้าข้าเข้าไปขัดจังหวะเจ้า ตอนนี้เจ้าก็เลยจะมาระบายที่ข้าแทนใช่ไหม?"พอหญิงสาวตื่นตระหนกก็เริ่มพูดไม่คิดซูจื่อหังโดนตบจนมึนไปเล็กน้อย เส้นเลือดบนขมับก็ปูดขึ้นมาถูซินเยว่เห็นดังนั้นก็ตกใจ จึงรีบถอยหลังไป กลัวว่าซูจื่อหังไม่พอใจขึ้นมาก็จะตบหน้าเธอด้วยเช่นกัน แต่ที่ทำให้เธอประหลาดใจก็คือแม้ว่าตอนแรกสีหน้าของซูจื่อหังจะน่ากลัวมาก แต่เพียงครู่หนึ่งก็พูดขึ้นอย่างจนปัญญาว่า "ข้ากับถูหมิงซวนไม่มีอะไรทั้งนั้น แรกเริ่มเดิมทีนางเป็นคนถอดเสื้อผ้าออกเองหวังอยากจะ...แต่ข้าก็ผลักนางออกตลอด"ซูจื่อหังไม่ได้โกหก เขาเป็นคนทำอะไรผ่าเผย ไม่ทำเรื่องสกปรกเช่นนี้ แล้วจะคบชู้กับถูหมิงซวนได้อย่างไร?"ถ้าเจ้าไม่ยินยอมจริงๆ ทำไมกระดุมของเจ้าถึงยังถูกนางปลดออก?" หลังจากที่ได้ระบายความโกรธไปแล้ว เมื่อเห็นรอยข่วนสีแดงบนคอของซูจื่อหัง ถูซินเยว่ก็เริ่มใจอ่อน จึงขมวดและถามพูดให้เคลียร์ก็ดีเหมือนกัน เธอจะได้ไม่เข้าใจซูจื่อหังผิดอันที่จริงเธอรู้ว่าซูจื่อหังไม่มีทางทำเรื่องแบบนี้ อยู่ด้วยกันมาครึ่งปี ซูจื่อหังเป็น

  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 140เรื่องบานปลาย

    แววตาเหลียงปินดุร้ายดั่งสัตว์ร้าย ราวกับจะกลืนกินนางเข้าไปถูหมิงซวนกระชับเสื้อแน่น ไม่กล้าปริปากสักคำทว่าเหลียงปินกลับสูดหายใจเข้าแล้วถุยน้ำลายและพูดว่า "เกิดอะไรขึ้นกันแน่ พวกท่านก็ลองถามนังแพศยาดูเอาเองก็แล้วกัน"สิ่งที่เกิดขึ้นตรงคันนาเมื่อสักครู่ เหลียงปินพูดไม่ออกจริงๆ ลำพังแค่นึกถึงถูหมิงซวนเสื้อผ้าหลุดรุ่ย หัวไหล่กลมกลึงเบียดเสียดบนร่างกายของซูจื่อหัง เขาก็รู้สึกว่าเลือดในร่างกายเดือดพล่าน เขาอันเบอเริ่มสวมทับอยู่บนศรีษะจนเขาแทบหายใจไม่ออกที่ผ่านมาเหลียงปินอาศัยว่าตนเองมีเงิน แม้ว่าจะมีการวางตัวแบบคนรวย มักดูถูกคนอื่น และการพูดการจาหยิ่งยโส แต่ก็ไม่เคยมีครั้งไหนที่โกรธมากขนาดนี้มาก่อนเมื่อเห็นท่าทางของเหลียงปิน ถูชิวหลานก็กระพริบตา และเกิดคำถามขึ้นในใจนางก้มมองถูหมิงซวน ถามด้วยความเป็นห่วงว่า "หมิงซวนลูก เกิดอะไรขึ้นกันแน่? ตอนเช้าเจ้าบอกจะไปเดินย่อยมิใช่หรือ? แล้วทำไมถึงถูกสามีเจ้าลากกลับมาแบบนี้?"ในความคิดของนางเข้าใจว่าทั้งคู่อาจจะทะเลาะกันสามีภรรยาทะเลาะกันเป็นเรื่องปกติ ขนาดฟันกับลิ้นก็ยังกระทบกระทั่งกันบ่อยๆ แต่ไม่นานก็คืนดีกัน ถูชิวหลานจึงไม่ได้คิดมากกับเรื

  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 141ถูหมิงซวนเลือดออก

    แม่เฒ่าตระกูลถูพูดง่าย ทว่าเหลียงปินกลับมองหญิงสาวที่คุกเข่าอยู่บนพื้นด้วยสายตาเย็นชาตอนนี้แตกต่างไปจากในตอนพบกันแรกๆ เพราะถูหมิงซวนได้กลายเป็นคนของเขาแล้ว ทั้งคู่แต่งงานกันมากว่าครึ่งปีแล้วดังนั้นถูหมิงซวนจึงไม่ได้เป็นหญิงสาวอันเป็นที่รักก่อนแต่งงานของเขาอีกแล้วแล้วตอนนี้อีกฝ่ายยังทำเรื่องไร้ยางอายแบบนี้อีก นั่นทำให้เหลียงปินรู้สึกว่าเลือดยุงบนกำแพงสีขาวยังน่าดูกว่าถูหมิงซวนเสียอีก"วันนี้ที่ข้ามา เดิมทีก็ตั้งใจจะมารับนางกลับไป แต่ตอนนี้คงไม่ต้องแล้ว ที่ข้าลากนางมาที่นี่ ก็เพื่อที่จะบอกพวกท่านให้ชัดเจนแจ่มแจ้งว่า ตระกูลเหลียงไม่ต้องการภรรยาสำส่อนใจง่ายเช่นนี้! เรื่องอื่นไม่มีอะไรให้ต้องคุย"น้ำเสียงของเหลียงปินแน่วแน่แม่เฒ่าตระกูลถูถูกฉีกหน้า สีหน้าก็แปรเปลี่ยนเป็นทมึงทึง และไม่น่ามองนักความโกรธหลอมรวมอยู่ในดวงตาของอีกฝ่าย นางขมวดคิ้วและพูดว่า "เหลียงปิน ตอนที่เจ้าขอหมิงซวนแต่งงาน เจ้าไม่ได้บอกกับพวกเราเช่นนี้นะ"ไอเดียแลกตัวถูซินเยว่กับถูหมิงซวน เหลียงปินเป็นคนเสนอ โดยตระกูลเหลียงยอมจ่ายเงินสินสอดเป็นสองเท่า จึงทำให้คนในบ้านตระกูลถูหวั่นไหวเรื่องนี้จึงเป็นอันตกลงตามนั้

  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 142เสี่ยวหวงได้รับบาดเจ็บ

    ขณะที่กำลังคุยกัน ถูซานก็พาหมอหลี่เดินออกมาอย่างเร่งรีบ ตอนที่เดินผ่านถูซินเยว่ ถูซานหันไปถามว่า "ซินเยว่ เจ้าจะไปดูอาการพี่สาวไหม?"ถูซินเยว่ส่ายหัวเดิมทีเธอกับถูหมิงซวนก็ไม่กินเส้นกันอยู่แล้ว การไปในเวลาแบบนี้มีแต่จะยิ่งสร้างความวุ่นวาย อีกอย่างที่ถูหมิงซวนกลายเป็นแบบนี้ คาดว่าคงจะเกี่ยวข้องกับเรื่องในตอนเช้าด้วย ถ้าเธอไป ถูชิวหลานคงได้หาเรื่องจนบ้านแตกแน่ๆเมื่อคิดถึงตรงนี้ถูซินเยว่ก็ส่ายหน้าและพูดว่า "ไม่ไปดีกว่า ตอนนี้กำลังวิกฤต ท่านพ่อรีบพาหมอหลี่กลับไปก่อนเถอะ""อืม" ถูซานก็ไม่บังคับเธอ เขามองซูจื่อหังที่อยู่ข้างๆ ทีหนึ่ง เหมือนมีบางอย่างอยากจะถามแต่หมอหลี่เร่งเร้าแล้ว "อย่ามัวรีรออยู่เลย รีบพาข้าไปเถอะ!""เข้าใจแล้ว" เมื่อถูกหมอหลี่พูดตัดขึ้นมา ถูซานก็ไม่พูดอะไรต่อ รีบพาหมอหลี่เดินจากไปอย่างเร่งรีบขณะมองดูแผ่นหลังของถูซาน ซูจื่อหังก็ส่ายหน้าอย่างจนใจ ถูซินเยว่ที่อยู่ข้างๆ จึงพูดหยอกล้อว่า "ท่าทางเรื่องเมื่อเช้านี้ ทำให้ท่านพ่อท่านแม่ไม่พอใจเจ้าแล้วนะ"เรื่องที่คันนาเมื่อเช้าเป็นความผิดของตนเองจริงๆ หากตนเองไม่มัวแต่พะวงกลัวว่าจะทำให้ถูหมิงซวนเจ็บ ไม่ได้ออกแรงผลักอีกฝ

  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 143นางหลินมาเยี่ยม

    ไม่เพียงเท่านี้ บนร่างกายของอีกฝ่ายยังมีแผลที่อื่นด้วย บริเวณขาหลังกับตัวทีรอยแผลจากการถูกกรงเล็บข่วน แผลบางจุดลึกจนมองเห็นกระดูก"เสี่ยวหวง เจ้าไปทำอะไรมา?" ใบหน้าของถูซินเยว่เต็มไปด้วยความตกใจ ซูจื่อหังเองก็ก้มตัวลง ตรวจดูแผลบนตัวของเสี่ยวหวงด้วยเช่นกัน จากนั้นก็ขมวดคิ้วและพูดว่า "รอยแผลพวกนี้เป็นรอยแผลของกรงเล็บเสือ""เล็บเสือ?"ถูซินเยว่ชะงักไปครู่หนึ่งเสียงร้องอ่อนแรงดังขึ้นจากปากของเสี่ยวหวง มันใช้หัวถูไปมาที่ฝ่ามือของถูซินเยว่ทีหนึ่ง จากนั้นก็เข้าใกล้หญิงสาว ดูแล้วน่าเห็นใจและน่าสงสารเป็นอย่างมากภาพของเสือในป่าที่แย่งชิงตำแหน่งเจ้าป่ากันแล่นผ่านในสมองของถูซินเยว่ทันที ดูท่าเสี่ยวหวงถูกเสือตัวอื่นรังแกเข้าให้เสียแล้ว โบราณก็ว่าไว้ว่าเสือสองตัวอยู่ถ้ำเดียวกันไม่ได้ เมื่อก่อนยอดภูเขาลูกนี้น่าจะเป็นอาณาเขตของเสี่ยวหวง หรือว่ามีเสือที่มาจากที่อื่น?เสี่ยวหวงพูดไม่เป็น ถูซินเยว่ก็ไม่สามารถสื่อสารกับอีกฝ่ายได้ จึงได้แต่รีบหยิบเอาน่องแพะจากตะกร้าออกมายื่นให้เสี่ยวหวงกินน้ำพุศักดิ์สิทธิ์สามารถฟื้นฟูชีวิต และมีผลดีต่อการรักษาบาดแผลหลายอย่าง เสี่ยวหวงมีแผลมากมายขนาดนี้ ถ้าได้กินน

  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 144 เสี่ยวเป้ยอยู่ค้างคืน

    ถูหมิงซวนทำผิดไว้มากมาย แต่เด็กในท้องของอีกฝ่ายไม่ได้รับรู้อะไรด้วย และถูซินเยว่ก็ไม่อยากให้เกิดอะไรขึ้นกับเด็กในท้องของนาง“ไม่เป็นไร” นางหลินส่ายหัวพูดขึ้นว่า “โชคดีที่หมอหลี่มาได้ทันเวลา เด็กในท้องปลอดภัยแล้ว”พูดจบ นางหลินก็เหลือบมองถูซินเยว่ และเล่าเรื่องเมื่อวานนี้ที่เหลียงปินมาอาละวาดที่บ้านตระกูลถูให้ฟัง ในตอนท้ายนางก็ถอนหายใจพูดขึ้นว่า "เหลียงปินตั้งใจแน่วแน่ว่าไม่อยากจะอยู่กับหมิงซวนต่อไปแล้ว แต่ทว่าตอนนี้หมิงซวนกำลังตั้งครรภ์อยู่ ตระกูลเหลียงไม่อยากเสียเด็กในท้องไป เรื่องนี้ก็เลยเป็นอันต้องจบไป"ถูซินเยว่พยักหน้า รู้สึกโล่งใจที่ได้ยินว่าเด็กปลอดภัยดี แต่สำหรับถูหมิงซวนนั้น เธอไม่ได้สนใจอะไรท้ายที่สุดแล้ว อีกฝ่ายจะเป็นเช่นไรก็ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับตนเลยแม้เเต่น้อยถูซินเยว่ไม่เหมือนถูหมิงซวนที่มักจะคาดหวังให้สิ่งเลวร้ายเกิดกับผู้อื่นเพียงเพราะความแค้น!นางหลินมาที่นี่เพียงเพื่อดูว่าถูซินเยว่และจื่อหังใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันเป็นอย่างไรบ้าง และถือโอกาสถามอีกฝ่ายเกี่ยวกับเหตุการณ์เมื่อวาน เมื่อเห็นว่าทั้งสองเข้ากันได้ดี และซูจื่อหังไม่ได้ทำอะไรนอกลู่นอกทาง ตนก็วางใจทันที“อ้อ ต

  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 145 เสี่ยวเป้ยผู้รู้จักประสา

    "พี่ซินเยว่ พี่ดูปลาตัวนี้ว่ายอยู่ในกะละมังนี่สิ!" เสี่ยวเป้ยพูดพลางตบมือ เมื่อเจอของเล่นสนุก ๆ เขาก็ลืมมันเผาที่อยู่บนเตาไปเสียสนิทถูซินเยว่หัวเราะพร้อมกับพูดขึ้นว่า "งั้นเจ้าก็ตั้งใจเลี้ยงมันให้ดี เลี้ยงให้กลายเป็นปลาตัวใหญ่ ๆ เลย""อื้ม!" เสี่ยวเป้ยรีบพยักหน้าอย่างแข็งขัน กอดชามในมือตัวเองอย่างทะนุถนอมซูจื่อหังจับปลากลับมาก็ไปทำกับข้าว ส่วนถูซินเยว่ก็ทำปลาอยู่ข้างนอกนางหยูก็พาภรรยาของหยวนเป่ามาพอดีเมื่อภรรยาของหยวนเป่าได้ยินว่าทำปลาแค่หนึ่งชั่วยามก็ได้เงินตั้งยี่สิบอีแปะ ก็พยักหน้าตกลงปกตินางอยู่ที่บ้านก็ไม่ค่อยมีอะไรทำ ได้แต่ซักเสื้อผ้า หุงข้าวไปวัน ๆ ตอนนี้มีโอกาสหาเงินได้ ก็ดีใจจนบรรยายไม่ถูกเมื่อเดินตามนางหยูเข้ามา พอเห็นปลาตัวน้อย ๆ มากมายอยู่ในถัง ภรรยาของหยวนเป่าก็ตกตะลึงขึ้นมาทันที"โอ้โห ซินเยว่ ไปจับปลาตั้งเยอะตั้งแยะขนาดนี้มาจากไหนกัน!"ปลาเต็มถังขนาดนี้ ดู ๆ ไปก็น่ากลัวเอาเรื่องอยู่ถูซินเยว่ยิ้มอย่างมีเลศนัย พูดขึ้นว่า "ก็ไปจับมาจากอ่างเก็บน้ำน่ะสิ ไม่งั้นข้าจะไปเอามาจากไหนได้?"จับมาจากอ่างเก็บน้ำ.....ซินเยว่นี่มันช่างเก่งกาจเกินมนุษย์ไปแล้ว!ภรรยาข

  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 146 พาเสี่ยวหวงกลับบ้าน

    ถูซินเยว่นั่งอยู่บนหินก้อนใหญ่ ซูจื่อหังที่นั่งอยู่ข้างพูดปลอยใจเธอว่าอย่าเพิ่งวิตกกังวลไปหลังจากที่ทั้งสองรอไปได้สักพักหนึ่ง เสี่ยวหวงก็วิ่งออกจากพุ่มไม้ สิ่งที่ทำให้ถูซินเยว่ประหลาดใจคือวันนี้อาการบาดเจ็บของอีกฝ่ายรุนแรงมากขึ้นกว่าเดิมแผลเก่าเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมายังไม่หายดี ตอนนี้ก็มีแผลใหม่เข้ามา“เสี่ยวหวง” ถูซินเยว่ลูบหัวเสี่ยวหวงด้วยความสงสารจับใจมีบาดแผลที่ขาหลังทั้งสองข้างของเสี่ยวหวง และมีรูกัดที่ด้านข้างคอของมันซึ่งลึกจนเห็นกระดูก ส่วนขนบนตัวนั้นยิ่งไม่ต้องพูดถึง ขนแหว่งเป็นหย่อมตรงนั้นตรงนี้ ดูน่าสงสารอย่างยิ่ง“โฮก....” เสี่ยวหวงนั่งลงบนขาของถูซินเยว่ ท่าทางเหมือนเด็กที่กำลังเสียใจเมื่อเห็นท่าทางของเสี่ยวหวง ถูซินเยว่ก็รีบเอาน้ำพุศักดิ์สิทธิ์ออกมาจากกระบอกน้ำให้เสี่ยวหวงดื่ม“ท่านพี่ ข้าว่าเราพาเสี่ยวหวงกลับไปที่บ้านเถอะ" หลังจากลังเลอยู่นาน จู่ ๆ ถูซินเยว่ก็หันไปเอ่ยความในใจที่อยากพูดมานานเดิมทีเธอคิดว่าซูจื่อหังจะปฏิเสธทันที แต่ที่ไหนได้ เธอไม่คาดคิดว่าเขากลับพยักหน้าและพูดขึ้นว่า "ได้"เสี่ยวหวงบาดเจ็บสาหัสขนาดนี้ หากยังอยู่บนเขาต่อไป มีหวังคราวหน้ามาคงไม

Latest chapter

  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 381 ช่างคล้ายคลึงนัก

    ทั้งคู่เดินถึงหน้าประตู ปะเหมาะเวลานี้ จวนแม่ทัพหลิ่วก็มีคนเดินออกมาเช่นกัน"คนนี้ก็คือใต้เท้าซูที่เจ้าชอบอย่างงั้นหรือ" ฮูหยินหลิ่วเหลียวมองบุตรีซึ่งอยู่ข้างกาย สื่อเป็นนัยให้อีกฝ่ายอย่าได้วู่วามทุกวันนี้คราใดที่หลิ่วโหรวโหรวเห็นถูซินเยว่กับซูจื่อหังเดินมาด้วยกัน ด้วยท่าทีรักใคร่ปรองดอง นางจะรู้สึกเดือดดาลในใจ ราวกับภูเขาไฟที่ใกล้ระเบิดกระนั้นนางทำเสียงฮึดฮัด "ถูซินเยว่มีวันนี้ได้ ก็เพราะอาศัยบารมีซูจื่อหัง แต่คอยดูไปเถิด หญิงบ้านนอกเช่นนาง ใหม่ ๆ ยังพอทำให้ซูจื่อหังพอใจได้บ้าง แต่พอนานวันเข้า ได้เห็นสาวงามในเมืองหลวงมากมาย ความรักของพวกเขายังมั่นคงเหมือนแต่ก่อนได้อีก ก็แสดงว่าผิดมนุษย์แล้ว"ฮูหยินหลิ่วแสดงท่าทีนิ่งเฉยแต่บุตรีพูดก็มีเหตุผล ผู้ชายในโลกนี้น้อยนักที่จะไม่คิดได้ใหม่ลืมเก่า ยกตัวอย่างเช่นสามีของนาง ในอดีตก็เคยให้คำมั่นสัญญา ว่าแม้เป็นหรือตายก็จะขอรักอดีตคนรักเพียงผู้เดียว แต่พอบ้านเขาประสบภาวะเดือดร้อน สุดท้ายก็มาเลือกแต่งงานกับตน จนบัดนี้ลืมหน้านังคนแพศยานั่นไปถึงไหนต่อไหนแล้วแสดงว่าความจริงใจของผู้ชายคือสิ่งที่ไร้ประโยชน์ปกติเสแสร้งทำเป็นรักมั่นจริงใจ แต่พอเอ

  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 380 ลูกสาวจอมโง่เขลา

    หากซูจื่อหังไม่รังเกียจถูซินเยว่แล้วล่ะก็ งั้นต่อให้หลิ่วโหรวโหรววทุ่มเทแรงกายแรงใจมากแค่ไหนก็ตาม เกรงว่าก็คงไม่สามารถเข้าไปในจวนสกุลซูได้ดั่งใจปรารถนาหรอกแต่น่าขําที่ลูกสาวคนนี้ของนางกลับไม่รู้ต้นสายปลายเหตุของเรื่องนี้เลย รู้แต่ไปเหยียดหยามถูซินเยว่อย่างโง่เขลาเท่านั้นนี่ถ้าทําให้ถูซินเยว่อับอายต่อหน้าทุกคนก็ว่าไปอย่าง แต่นี่กลับยังโดนถูซินเย่วตอบโต้กลับมาจนขายหน้า นี่ไม่ใช่เป็นการตบหน้าตัวเองหรือไง?เมื่อคิดถึงตรงนี้ ฮูหยินหลิ่วก็ไม่อยากเห็นหน้าลูกสาวคนนี้แม้แต่นิดนางขมวดคิ้ว จู่ ๆ ก็นึกถึงเรื่องหนึ่งขึ้นมาได้และอดไม่ได้ที่จะพูดว่า "ใช่แล้ว เรื่องนี้ข้ายังไม่ได้บอกพ่อเจ้า ถ้าพ่อเจ้ารู้ ดูสิว่าเขาจะสั่งสอนเจ้ายังไง เจ้าระวังตัวหน่อย"ภายใต้การเกลี้ยกล่อมและคําเตือนของฮูหยินหลิ่ว ในที่สุดหลิ่วโหรวโหรวก็หลับตาลง นางนั่งอยู่บนที่นั่งของตัวเองอย่างเซ็ง ๆ ทั้งหน้ามีแค่อารมณ์เดียวนั่นก็คือ นางไม่มีความสุขฮูหยินหลิ่วถอนหายใจอย่างจนใจ แล้วเงยหน้ามองฝั่งตรงข้าม ตําแหน่งของนาง มีเพิงดอกไม้อยู่ตรงกลางบดบังร่างของถูซินเยว่พอดี ดังนั้นนางจึงเห็นเพียงโครงร่างผ่านเถาวัลย์อย่างคลุมเครือเท่

  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 379 จางเยียนหรัน

    วันนี้ตระกูลจางเป็นเจ้าภาพจัดงานเลี้ยงเชิญตระกูลที่มีชื่อเสียงในเมืองหลวง ก่อนมาซูจื่อหังเคยพูดกับนางว่า เขากับตระกูลจางเข้ากันได้ดีในราชสํานัก ดังนั้นวันนี้ ถูซินเยว่ก็ไม่อยากสร้างปัญหาอะไรให้กับตระกูลจาง เพื่อไม่ให้คนอื่นรู้สึกว่าพวกเขาไม่มีมารยาทเห็นเหล่าฮูหยินกับหลิ่วโหรวโหรวเพิ่งเยาะเย้ยเธอเมื่อครู่ไม่มีอะไรจะพูดแล้ว ถูซินเยว่ก็สบายใจไม่น้อย ก้มหน้าก้มตากินอาหารด้วยตัวเองไม่สนใจใครทั้งนั้นในขณะที่เธอกําลังกินอย่างมีความสุข จู่ ๆ ก็มีคนผลักแขนของเธอเบา ๆถูซินเยว่นิ่งงันไปพักหนึ่ง หันหน้ากลับไปอย่างสงสัยใคร่รู้ เห็นหญิงสาวในชุดสีเหลืองคนหนึ่งนั่งอยู่ข้าง ๆ ตัวเองตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ กําลังใช้ดวงตากลมโตจ้องมองเธออย่างอยากรู้อยากเห็นดวงตาของอีกฝ่ายเต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็นและไร้เดียงสา แต่กลับไม่มีเจตนาร้ายเลยแม้แต่น้อยถูซินเยว่เคยเห็นคนมามากมาย เรื่องเหล่านี้เธอยังพอสามารถมองออกได้ตั้งแต่แรกเห็นเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายไม่มีเจตนาร้าย ท่าทีของเธอก็อ่อนโยนลงมาก"ไม่ทราบว่าแม่นางมีเรื่องอะไรหรือเปล่า?"ถ้าเธอจําไม่ผิด คนที่นั่งข้างเธอเมื่อกี้น่าจะเป็นผู้หญิงที่เยาะเย้ยเธ

  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 378 หน้าแตก

    ถูซินเยว่ชะงัก และรู้สึกตลก เมื่อได้ยินคำพูดของอีกฝ่ายก็รู้สึกประหลาดใจ ตอนที่ออกจากมาตอนเช้า เธอได้สวมใส่เครื่องประดับมาหลายชิ้นจริงๆแต่ระหว่างทาง ถูซินเยว่รู้สึกว่าต่างหูระเกะระกะเกินไป จึงแอบถอดมันออกและวางไว้บนรถม้าคาดไม่ถึงจริงๆ ว่าในงานเลี้ยงจะมีคนไม่กินไม่ดื่ม แต่หันมาจับจ้องที่เครื่องหัวของตนเองแทนถูซินเยว่ยื่นมือไปจับที่ผมของตนเองอัตโนมัติ จากนั้นก็พูดเสียงราบเรียบว่า "ในเมื่อวันนี้ตระกูลจางเป็นเจ้าภาพ แขกสำคัญจึงเป็นตระกูลจาง แล้วเหตุใดข้าจักต้องแต่งตัวให้ดูดีขนาดนั้น""จนก็ยอมรับว่าจนเถอะ จะหาเหตุผลอะไรมาอ้างมากมายไปทำไม ในที่นี้ใครไม่รู้บ้างว่าพวกเจ้ามาจากบ้านนอก ข้าเองก็แค่รู้สึกเสียดายแทนใตเท้าซูเท่านั้น ทั้งที่มีมีอนาคตอันดี หากแต่งงานกับบุตรสาวขุนนางสักคน ก็คงยิ่งช่วยส่งเสริมให้เจริญก้าวหน้า แต่กลับเลือกจะเฝ้าอยู่แค่หญิงชาวบ้านเฉกเช่นเจ้า..."ประโยคหลังแม้ว่าจะไม่ได้พูดต่อจนจบ แต่ก็สามารถเข้าใจได้ถึงแม้บนใบหน้าของถูซินเยว่จะแสดงสีหน้าใดๆ แต่สาวรับใช้ที่อยู่ข้างๆ สีหน้าย่ำแย่มากแล้วนางอาศัยอยู่ที่ตระกูลซูมานาน ก็พอจะรู้ว่าถูซินเยว่ไม่ได้ไม่มีเงิน และเงินส่วนใ

  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 377 ดูถูก

    ตั้งแต่ตอนที่อยู่ในหมู่บ้านต้าเย่ เพราะเรื่องเล็กๆ น้อยๆ หรือเพราะผลประโยชน์อันน้อยนิด แม้เป็นครอบครัวเดียวกัน ก็ยังสามารถโกรธแค้นกันจนตัดญาติขาดมิตรไม่ต้องพูดถึงเรื่องอื่นใด แค่ในตระกูลถู เพียงเพื่อสินสอดของตระกูลเหลียง ถูชิวหลานก็ดันทุรังจะสับเปลี่ยนตัวเธอกับลูกสาว ภายหลังยังไม่ยอมรับด้วย แถมยังผลักไสความผิดทุกอย่างไปที่เจ้าของร่างหากเธอไม่ได้ข้ามิติมาอยู่ในร่างของเจ้าของร่างซื่อบื้อคนนั้น นางจะใช้ชีวิตอยู่ในตระกูลซูอย่างไร เกรงว่าคงเหลือแต่เสี้ยววิญญาณแล้วอย่างด้านซูเฟิ่งอี๋ในตระกูลซู ตอนนั้นพวกเขาเองก็หวงแหนเงินเล็กๆ น้อยๆ เห็นชีวิตนางหยูกำลังตกอยู่ในอันตรายก็ยังไม่ยอมรักษาให้นางเรื่องราวของญาติสนิทมิตรสหายที่ทำร้ายคนใกล้ตัวเพียงเพื่อผลประโยชน์และเงินทองมีมากมายเกินกว่าจะพูด ขนาดบ้านเธอยังเป็นเช่นนี้ แล้วต้าฉีที่มีบ้านสกุลมากมายขนาดนี้ล่ะชาวบ้านธรรมดาทั่วไป อาจทำไปเพื่อเงินทอง แต่องค์ชายสามกับองค์ชายใหญ่ กลับทำเพื่อแก่งแย่งแผ่นดิน ขนาดที่เป็นการต่อสู้เพื่อความเป็นความตาย และไม่มีใครยอมอ่อนข้อให้ใคร ก็เป็นเรื่องที่เข้าใจได้"ชีวิตคนเรามีหลายเรื่องที่มักไม่เป็นดังที่หวัง ข

  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 376 อิจฉา

    "วันนี้เป็นงานเลี้ยงของตระกูลจาง ข้าก็นึกว่าเจ้าจะพูดคุยเรื่องอะไรกับข้า คาดไม่ถึงว่าจะใช้เรื่องนี้มาข่มขู่ข้าในที่ๆ ไม่มีคนเช่นนี้?"ชายผู้นั้นหัวคิ้วกระตุก รีบก้มศรีษะลงแล้วพูดว่า "กระหม่อมมิบังอาจพ่ะย่ะค่ะ เพียงแต่กระหม่อมทราบว่าองค์ชายสามเป็นคนเฉลียวฉลาด แต่ไหนแต่ไรมา การที่บุตรสายตรงรับสืบราชบัลลลังก์ต่อก็เป็นเรื่องที่สมเหตุสมผล แล้วไฉนองค์ชายสามจึงมิตั้งใจเป็นข้าราชบริพานบริสุทธิ์ คอยค้ำจุนเสด็จพี่ของพระองค์เล่าพ่ะย่ะค่ะ?"ฉีหวานหัวดราะเสียงดัง น้ำเสียงเย็นเยือกลงฉับพลัน เขาสะบัดแขนเสื้อ พร้อมสีหน้าเย็นชา "แม่ทัพหลิ่วพูดเช่นนี้ ช่างไม่มีเหตุผลเอาเสียเลย ตอนที่ข้าพบกับมือสังหารไล่เอาชีวิตตอนที่รีบเดินทางกลับมาจากเป่ยเจียงอันไกล แม้วันนี้ข้าไม่พูด เชื่อว่าท่านแม่ทัพเองก็คงทราบดีว่าเป็นฝีมือของใคร?"ถูซินเยว่ที่นั่งอยู่ในศาลาชะงักงัน ที่แท้คนที่ยืนอยู่ตรงข้ามกับฉีหวานก็คือแม่ทัพหลิ่วนี่เอง หากนางจำไม่ผิดละก็ ก่อนหน้านี้ที่หน้าประตูตระกูลจาง ชายที่ยืนอยู่ข้างๆ หลิ่วโหรวโหรวก็คือแม่ทัพหลิ่วผู้นี้สินะ?เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ถูซินเยว่ก็รู้สึกเซ็งขึ้นมา ถ้ารู้แต่แรกว่าพวกเขาจะคุยกันเรื่

  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 375 แอบฟัง

    หลิ่วโหรวโหรวก็มองเห็นพวกเขาเช่นกัน และเมื่อนึกถึงความสนิทสนมของถูซินเยว่และซููจื่อหังวันนั้นในจวนซู นางก็กำหมัดแน่นแม่ทัพหลิ่ว หลิ่วถิง เมื่อเห็นว่าบุตรสาวของตนเองอยู่ๆ ก็หน้าตาไม่สดใส ทั้งที่เมื่อสักครู่ยังดีอกดีใจ ก็ขมวดคิ้วถามว่า "เป็นอะไรไป? มีคนรู้จักรึ?""เจ้าค่ะ..." หลิ่วโหรวโหรวกำลังจะอ้าปากพูด ฮูหยินหลิ่วที่อยู่ข้างๆ ก็ผลักนาง และส่งสายตาให้กับอีกฝ่ายหลิ่วโหรวโหรวจึงได้แต่หุบปากเงียบอย่างไม่พอใจนักฮูหยินหลิ่วเดินไปข้างๆ หลิ่วโหรวโหรวอย่างเงียบๆ กระตุกแขนเสื้อของบุตรสาวและพูดเตือนเสียงเบาว่า "เจ้าอย่าได้พูดถึงเรื่องของตระกูลซูอีก หากเจ้าพูดถึงอีกข้าจะไม่ยกโทษให้เจ้า! เมื่อกี้เจ้าไม่เห็นฮูหยินตระกูลซูหรือย่างไร? นางท้องโตขนาดนั้นแล้ว! เจ้าคิดจะไปเป็นภรรยาน้อยของคนอื่นหรือ? พูดออกไปรังแต่จะกลายเป็นเรื่องตลก!"หลิ่วโหรวโหรวสีหน้าย่ำแย่ทันทีแม้ว่าซูจื่อหังมีภรรยาหลวงอยู่แล้ว แต่ในใจนางนั่นก็เป็นเพียงหญิงบ้านนอกที่เทียบกับตนเองไม่ได้เลยด้วยซ้ำ นางซึ่งเป็นบุตรีสายตรงของจวนแม่ทัพ จะตกเป็นรองอยู่เป็นภรรยาน้อยของซูจื่อหังหรืออย่างไร?ลำพังแค่คิด นางก็ไม่ต้องการหลิ่วโหรวโหร

  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 374 งานเลี้ยงตระกูลจาง

    ขณะที่ถูซินเยว่กำลังยุ่งอยู่กับการเปิดร้านขายเครื่องประดับ และนางหยูกำลังกังวลเรื่องลูกค้าอยู่นั้น เทียบเชิญฉบับหนึ่งก็ได้ส่งมาถึงที่บ้าน"เป็นงานฉลองวันเกิดของมารดาเฒ่าตระกูลจางจากเสนาบีดีกระทรวงการคลัง"ถูซินเยว่ถือเทียบเชิญไว้ในมือและยิ้มอย่างประหลาดใจ "ในเมืองหลวงแห่งนี้ข้านั้นไม่ได้รู้จักใครเลยสักคนหนึ่ง แต่นึกไม่ถึงว่าตระกูลจางจะส่งเทียบเชิญมาให้ข้า"สามีของตนเองก็เป็นข้าราชการขั้นเจ็ดเล็กๆ คนหนึ่ง แม้ว่าตระกูลจากจะไม่ใช่ข้าราชการชั้นสูง แต่ก็เป็นข้าราชการขั้นห้า และบรรพบุรุษก็ล้วนเป็นข้าราชการทั้งนั้น ซึ่งก็นับว่าเป็นตระกูลที่มีคุณธรรมสูงส่งการที่ส่งเทียบเชิญมาให้พวกเขาในงานเลี้ยงวันเกิดเช่นนี้ ก็เรียกได้ว่าไม่ได้ดูถูกพวกเขาเพียงแต่ คนในยุคโบราณส่วนมากจะดูแคลนคนทำธุรกิจ หากตนเองไปร่วมงานละก็ จะทำให้พวกเขารู้ว่าภรรยาของซูจื่อหังเป็นหญิงทำมาค้าขาย ก็ยากที่จะไม่ดูแคลนเดิมทีถูซินเยว่ไม่อยากไป แต่คาดไม่ถึงว่าซูจื่อหังจะหันมากุมมือเธอไว้ ยิ้มแล้วพูดอย่างไม่ใส่ใจนักว่า "บุตรชายของใต้เท้าจางสนิทกับข้า ภรรยาของข้าเป็นหญิงสาวที่มีเสน่ห์มากที่สุดในใต้หล้า ไม่ว่าทำอะไรก็ดีทั้งนั้น แล

  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 373 ฮ่องเต้หมดสติ

    สำหรับถูซินเยว่แล้ว จะเป็นลูกผู้ชายหรือผู้หญิงก็ไม่เป็นไร สิ่งสำคัญคือ การที่ลูกน้อยสามารถคลอดออกมาได้อย่างปลอดภัยเพราะในยุคโบราณการที่ผู้หญิงคลอดลูกนั้นเปรียบเสมือนการเดินไปขอบประตูนรก ดังนั้นการที่สามารถให้กำเนิดลูกได้อย่างปลอดภัยถือว่าเป็นเรื่องที่ไม่ง่าย เธอจึงไม่คาดหวังอย่างอื่นอีกแต่ว่าช่วงนี้เธอมักจะถูกนางหยูล้างสมองอยู่บ่อยๆ จนถูซินเยว่เองก็คิดว่าท้องนี้อาจจะเป็นลูกผู้ชายก็ได้เป็นผู้ชายก็ดี เพราะความคิดปิดกั้นในยุคโบราณนั้นสร้างความลำบากให้กับหญิงสาวอย่างมาก หากเป็นเด็กผู้ชาย ก็สามารถลดความลำบากหลายๆ อย่างให้เธอได้ไม่น้อยเดิมทีถูซินเยว่อยากจะถามฉงเป่าว่าในท้องตนเองนั้นเป็นเด็กผู้ชายหรือเด็กผู้หญิงกันแน่ ซึ่งตามปกติแล้วขอเพียงเอาของกินมาล่อนิดล่อหน่อย ฉงเป่าก็ยอมพูดทุกอย่าง มีเพียงแค่เรื่องนี้เรื่องเดียวที่ไม้ว่าถูซินเยว่ถามอย่างไร อีกฝ่ายก็ไม่ยอมบอก"อย่างไรเสียลูกก็อยู่ในท้องของข้า เจ้าจะบอกหน่อยมิได้หรือว่าเป็นผู้ชายหรือผู้หญิง? ถึงเจ้าพูดมา ด้วยเงื่อนไขการรักษาแบบนี้ข้าก็ทำอะไรเจ้าไม่ได้มิใช่หรือไง?"อีกอย่าง ถูซินเยว่เองก็ไม่มีความคิดการให้ความสำคัญชายมากกว่าหญิงด

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status