แชร์

งดงามพลิ้วไหว

ผู้เขียน: จันทร์ส่องแสง
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-02-19 13:14:16

มืออุ่นเชยคางมนขึ้นมาเพื่อจะได้พิศใบหน้าให้ชัดเจน ความรู้สึกผิดชอบชั่วดีกับบอกชงไฉ่ว่าเขาคือองค์ชายใหญ่แห่งเหอตงหยวน

"เฮ้อ"

จิวซิน

หญิงงามผู้ซึ่งไร้รัก โหยหาความรักจากบิดาและมองบุรุษแค่สิ่งมากรักที่มักจะอ้างรักเพื่อความชอบะรรมในการได้เชนชมร่างกายของหญิงงามหาได้สมัครรักใคร่เช่นรักแท้ไม่ แค่เพียงลมพัดผ่าน

แต่กระนั้นเมื่อมาพบกับชงไฉ่จิวซินนางกลับรู้สึกว่าตัวนางเองไม่อาจบังคับหรือห้ามตัวเองให้ชื่นชอบให้ชงไฉ่ได้จะด้วยอะไรก็แพ้ใจตัวเองถึงจะพยายามสร้างกำแพงความเกลียดชังขึ้นมา แต่ก็ถูกพังลงด้วยคำว่ารักแท้ของชงไฉ่

"พ่อบุญธรรมสืบข่าวเรื่ององค์หญิงจิวซินที่นอนป่วยไร้เรี่ยวแรงที่ไห่ตงหยวนให้ข้าด้วย”

“องค์ชายใหญ่จิ่นเกอใบหน้าหมดจด นางเองคงมีรูปโฉมไม่ต่างไป ข้าได้ข่าวว่าอ๋องห้าฮุ่ยโม๋รับอาสาสืบเรื่องของนางเจ้ามิต้องกังวลไปองค์ชาย12นิยมสาวงามก็จริงแต่ไม่นานก็เบื่อหน่ายไม่มีนางในคนใดเป็นที่ตรึงใจได้นานเช่นเจ้าเยว่ฉีหากองค์หญิงจิวซินใบหน้ามิต่างจากองค์ชายใหญ่จริงองค์ชายสิบสองก็คงแค่เพียงอยากได้มาครอบครองเหมือนเช่นทุกครั้งปล่อยให้มันผ่านไปแต่การเอาใจใส่และเป็นหนึ่งในตำหนักนี้ก็มีเพียงเจ้าอยู่แล้วเยว่ฉี” แววตาเป็นประกายเมื่อพูดถึงจิวซิน ในคราบขององค์ชายใหญ่เนื่องด้วยขันทีเฒ่าผู้นี้มีรสนิยมชมชอบเด็กหนุ่มน่าตาจิ้มลิ้มตามวิสัยของ ขันทีหื่น

จิวซิน นอนแช่น้ำอุ่นที่โรยด้วยสมุนไพรสำหรับสมานแผลเป็นการรักษาที่ช่วยในการผ่อนคลายและทำให้รู้สึกสบายขึ้น

ชง” อาภรณ์สีเข้มรับกับใบหน้าคมคายย่างเท้ามาหยุดอยู่ที่หน้าตำหนักบูรพา ความรู้สึกบางอย่างแล่นเข้าสู่สมองหากผู้ใดสามารถมองทะลุเข้าไปในหัวใจของเขายามนี้ภายในจิตใจของเขาคงจะรู้สึกถึงความโหยหาห่วงใยในนั้นมากมายท่วมท้น เขาพบหญิงงามคณานับหากแต่ก็ปล่อยมือไปมีเพียงเยว่ฉี ที่เอาอกเอาใจเขาและอยู่กับเขานานกว่าคนอื่น หากเป็นกับหญิงงามคงไม่ต้องแปลกใจเพราะเขามักมีความอยากได้แต่ไม่นานก็เบื่อหน่าย แต่นี่เป็นกับคนผู้นี้องค์ชายใหญ่จิ่นเกอ

จิ่นฉินยืนเฝ้าที่หน้าตำหนักประสานมือคารวะชงไฉ่

องค์รัชทายาทมีเหตุอันใดให้ท่านเร่งรุดมาตำหนักบูรพา”

“นายของจ้าดีขึ้นหรือยัง” จิ่นฉินหลุบตามองด้วยกำลังคาดคะเนองค์ชายสิบสองครุ่นคิดได้บางอย่าง

“องค์ชายตอนนี้ยังสมานแผลในแบบของเหอตงหยวนสั่งไม่ให้ผู้ใดรบกวน”

“ข้าเพียงแต่...” ชงไฉ่ทิ้งคำพูดไว้แค่นั้น

“หากองค์รัชทายาทยืนยันจะพบองค์ชาย ข้าจิ่นฉินจะเข้าไปบอกกล่าวว่าท่านมา”

“ข้าไม่รบกวนนายเจ้าพักผ่อนเพื่อฟื้นฟูร่างกาย ข้าเพียงแต่นำยาสมานแผลที่เสด็จพ่อประทานให้มาเมื่อครั้งเข้าป่าล่าสัตว์เป็นยาสมานแผลที่ดีที่สุดของไห่ตงหยวนเจ้ารับไว้เถิดแล้วนำไปให้นายของเจ้าด้วย” ชงไฉ่คิดว่าคนอย่างจิ่นเกอมีความทะนงตนอีกทั้งยังเคยบอกว่าขอรักษาตัวในแบบของเหอตงหยวนปฏิเสธแม้กระทั่งหมอหลวงยากที่จะติดหนี้บุญคุณใครยิ่งเป็นเขาด้วยแล้วยาสมานแผลขวดเล็กจิ๋วถูกส่งให้จิ่นฉิน

“ขอบคุณองค์รัชทายาท แทนองค์ชายใหญ่ด้วยจิ่นฉินจะนำไปมอบให้องค์ชายเสียเดี๋ยวนี้จิ่นฉินลาชงไฉ่คล้อยหลังเข้าไปข้างใน ชงไฉ่มองตามประตูที่เปิดเข้าไปภายในหมายว่าจะพบคนที่ถวิลหาแต่ก็พบเพียงความว่างเปล่า รู้สึกผิดหวังอย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน เขาเป็นชายไยต้องรู้สึกพิเศษเช่นนี้กับบุรุษเหมือนกันได้ความรู้สึกนี้ล้วนกล้ำกลืนรับไหว ออกจากตำหนักบูรพาระหว่างทางองค์ชาย13ฮุ่ยเจินและองค์หญิง14เจียวซือ เดินมาพอดี

“พี่สิบสิบสอง ผ่านไปทางตำหนักบูรพามิได้แวะเยี่ยมเยือนองค์ชายใหญ่หรืออย่างไรเจ้าคนปากไวเอ่ยทักทายชงไฉ่แววตาเศร้าหมอง

“น้องสิบสามน้องสิบสี่เจ้าก็มาหรือ” ไม่ตอบคำถามแต่กับถามไปอีกทาง

“ข้าเป็นห่วงอาการพี่จิ่นเกอเลยอาสานำยาที่หมอหลวงจัดตามคำบัญชาของเสด็จพ่อมาส่งด้วยมือของตัวเอง” รอยยิ้มด้วยความภาคภูมิใจ เจียวซือมองนู้นมองนี่ไม่สนใจกับบทสนทนา

“น้องสิบสี่เจ้าล่ะทำไมเพิ่งมา” คำพูดเหมือนตำหนิกลายๆ ด้วยนิสัยของเจียวซือต้องรีบออกหน้าเพราะก่อนหน้านั้นเจียวซือทำทางทางเช่นเดียวกับกระต่ายยามต้องแสงจันทร์

“ข้าเพียงได้ยินว่าองค์ชายใหญ่บาดเจ็บเล็กน้อยมิได้สาหัสอะไรไม่มีอะไรต้องห่วง” น้ำเสียงและท่าทางไม่ได้กระตือรือร้นอย่างที่ควรจะเป็นชงไฉ่สงสัยอาการของน้องสาวก่อนหน้านี้หายใจเข้าออกมีเพียงองค์ชายใหญ่เท่านั้น แต่ก็ไม่ได้ปริปากอะไร

“ตอนนี้องค์ชายใหญ่กำลังสมานแผล..ในแบบของเหอตงหยวน”

“อ๋อเช่นนั้นก็คงห้ามผู้ใดรบกวน พี่สิบสองนี่ไวกว่าพวกเรารู้ทุกความเคลื่อนไหวของพี่จิ่นเกอ” เจ้าสิบสามพูดโดยไม่ทันคิด

“แต่ก็ไม่แน่หากเป็นพวกเจ้าอาจที่ได้พบ” ชงไฉ่พูดด้วยความน้อยใจแต่ไม่มีใครจับสังเกตน้ำเสียงได้

“พี่สิบสองอยากไปแสดงความห่วงใยเหมือนกันมิสู่เราไปพร้อมกันหลายคนองค์ชายใหญ่ต้องดีใจและให้เข้าพบแน่” องค์ชายสิบสามออกความเห็น

“เจ้าคิดเช่นนั้นหรือเจ้าสิบสาม”

“เช่นนั้น พี่สิบสองข้ารู้ว่าท่านเป็นคนปากแข็งใจจริงท่านเองก็ได้ชื่อว่ามีน้ำใจกว่าใครในบรรดาพี่น้องของเราและยังบุกน้ำลุยไฟมากับพี่จิ่นเกอย่อมมีความห่วงใยเป็นธรรมดา ย่อมต้องอยากรู้ว่าอาการของพี่จิ่นเกอหนักเบาเช่นไรเป็นแน่” ชงไฉ่นึกขอบคุณน้องสิบสามของเขาที่สามารถอ่านใจเขาออกเป็นบางส่วน

“ช้าอยู่ไยเราเร่งไปที่ตำหนักบูรพากันเถิด” องค์หญิงสิบสี่ตัดบท ทั้งหมดรีบเร่งไปยังตำหนักบูรพา

จิ่นฉินทำสีหน้าฉงนเมื่อเห็นชงไฉ่กลับมาอีกครั้ง

“ข้าบังเอิญพบกับเจ้าสิบสามและองค์หญิงสิบสี่ทั้งคู่ชวนข้ากลับมาเยี่ยมดูอาการองค์ชายใหญ่นายเจ้า” ชงไฉ่ออกตัว

บทที่เกี่ยวข้อง

  • หงส์ซ่อนน้ำตา   งดงามพลิ้วไหว2

    "เชิญท่านทั้งสาม ด้านใน” จิ่นฉินโค้งคำนับก่อนไปเพียงอึดใจเดียวก็กลับออกมา“องค์ชายใหญ่กำลังจิบชายามบ่ายพอดี ให้ข้าน้อยมาเชิญท่านทั้งสามร่วมจิบชา”ด้านหลังประตูใหญ่ภายในสวนร่มรื่นถูกตกแต่งด้วยกระถางบอนไซอายุหลายสิบปีสวยงามเด่นเก้าอี้และโต๊ะที่ทำจากหินอ่อนถูกวางไว้ด้านซ้าย จิวซินยืดหลังตรงใบหน้าสะอาดหมดจดแต่ซีดขาว มองอย่างถี่ถ้วนใบหน้ากลับแฝงไว้ด้วยความอ่อนล้า หมิงหลินเติมเชื้อไฟต้มน้ำชงชาอยู่ข้างๆ จิวซินลุกขึ้นผายมือเชื้อเชิญและส่งสัญญาณให้หมิงหลินออกไปจิ่ฉิน ยืนสังเกตการณ์อยู่หน้าประตูทางเข้ายกกระบวยขึ้นตักน้ำร้อนขึ้นมาถ้วยชาใบเล็กที่ถูกลวกเรียบร้อยวางอยู่เบื้องล่างด้วยความชำนาญ อาการพลิกตัวร่ายรำเหมือนกระบวยในมือเป็นกระบี่คมกริบก่อนจะรินลงสู่ถ้วยชาใบเล็กอย่างแม่นยำและรวดเร็วทั้งสามถ้วย กลิ่นหอมละมุนชวนเคลิ้มฝัน ชงไฉ่กลับไม่ได้มองเห็นจิวซินในอาภรณ์ของบุรุษกลับเห็นเป็นอาภรณ์หญิงงามพลิ้วไหวร่ายรำเหมือนหงส์เริงระบำงดงามเหมือนฝันล่องลอยฮุ่ยเจิน ปรบมือสนั่นฉุดให้สติชงไฉ่กลับคืนสู่ความเป็นจริงองค์หญิงสิบสี่มองพี่ชายทั้งสองสีหน้าครุ่นคิด“ยอดเยี่ยม” องค์ชายสิบสามกล่าวชม“เชิญ” จิวซินยกมือข

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-22
  • หงส์ซ่อนน้ำตา   สติสัมปชัญญะถูกความรักบดบัง

    “ใครกันที่งดงามพลิ้วไหว” องค์ชายห้าเข้ามาสมทบ ดวงหน้าเรียบเฉยหากดวงตาเคลือบแคลงสงสัย“พี่ห้า”“ใครกันเป็นตั่วเจ้ พี่สาวใหญ่ของหอคณิกา” น้ำเสียงสรรพยอกแต่แววตาจริงจังองค์ชายสิบสามและชงไฉ่หันมามองผู้มาใหม่“น้องสิบสี่ เปรียบองค์ชายใหญ่เป็นดังหญิงงามผาดโผนในหอคณิกา” จิวซินกลั่นหัวเราะแทบตาย“หากไม่มีจิตอกุศลเคลือบแฝง ก็นับว่าสายตาเจ้าเฉียบคมเจ้าสิบสี่แล้วเจ้าทั้งสองเล่าเจ้าสิบสามกับน้องสิบสอง” หันไปถามทั้งสอง จิวซินไม่ยี่หระยกถ้วยน้ำชาตรงหน้าฮุ่ยโม๋“พี่ห้าคิดเห็นเช่นใด ในที่นี้มีใครบ้างไม่รู้ ว่าองค์ชายใหญ่จิ่นเกอใบหน้าคมคาย...งดงามเยี่ยงอิสตรี” ชงไฉ่พูดตามที่คิด“หากแต่ก็มิใช่อิสตรี” ฮุ่ยโม๋พูดแทรกขึ้น จิวซินเหลือบตามองเพียงแวบเดียว“คงไม่มีการเคลือบแคลงสงสัยอันใดในเมื่อข้าฮุ่ยเจินเคยได้ยินมาว่าพี่จิ่นเกอรูปงามหาบุรุษใดเทียบเคียง”“คนผู้หนึ่งหากเชื่อถือยึดมั่นในเรื่องใดแล้ว หากเมื่อพบว่าหลงเข้าใจผิดถูกหลอกลวงตลอดมาจะรู้สึกเช่นใด” จิวซินหลบตาต่ำ“พี่ห้าหมายความว่า”“ข้าเพียงแต่คิดว่าคนเราอยู่ได้ด้วยความเคลือบแคลงดีกว่าอยู่กับความจริงที่โหดร้าย ไม่เช่นนั้นคงจะยากที่จะรับมือ”“เราเสวนากัน

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-22
  • หงส์ซ่อนน้ำตา   สติสัมปชัญญะถูกความรักบดบัง2

    บุรุษเช่นเจ้าหากข้าไม่รู้ที่มาที่ไปคงคิดว่ามีจิตวิปริต มีความเป็นชายครึ่งหญิง พูดไปก็เหมือนกับว่าตัวเองชงไฉ่เองก็แอบสงสัยตัวเขาเองไม่น้อย ลุกขึ้นทันทีออกแรงฉุดให้จิวซินลุกขึ้น คราวนี้เองที่จิ่นฉินตามมาพอดี“องค์ชายเกิดอะไรขึ้น”“องค์ชายใหญ่นายของเจ้ารู้สึกว่าจะได้รับบาดเจ็บที่ขา” จิ่นฉินถลาเข้ามาดูด้วยความตกใจ“องค์ชาย” จิวซินทำหน้าเหยเก“ไม่เป็นอะไรมากเพียงแค่รู้สึกปวดที่ขา”“ให้ข้าพยุงท่านกลับตำหนักเถิด” จิ่นฉินนึกอะไรขึ้นมาได้“องค์ชายท่านรออยู่ที่นี่ข้าตามหมิงหลินให้ท่านไม่อยากแตะต้องตัวจิวซินด้วยกลัวว่าจะทำให้ใจสั่นไหวและทำให้จิวซินเสื่อมเสีย จิวซินพยักหน้าจิ่นฉินรีบรุดกลับไปยังตำหนักบูรพา ชงไฉ่มองจิ่นฉินอย่างไม่เข้าใจนัก“องครักษ์ขององค์ชายใหญ่ไฉนปล่อยท่านทิ้งไว้จะว่าไม่ห่วงก็แสนห่วงแต่บางครั้งการกระทำเหมือนมีอะไรภายใน” ตั้งข้อสังเกต“เขาเพียงแค่ หาคนมาช่วย”“หมิงหลินร่างบางอ้อนแอ้นจะพยุงท่านอย่างไรไหว ไม่สู้ให้ข้าพยุงกลับไปดีกว่า”จิวซินพยักหน้า เจ็บจนกัดฟัน ชงไฉ่มองใบหน้าซีดเผือดด้วยความสงสารพยุงจิวซินลุกขึ้นสอดมือรวบเอวกิ่วจากทางด้านหลังความรู้สึกบางอย่างแล่นเข้าสู่หัวใจจิวซ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-22
  • หงส์ซ่อนน้ำตา   สุราเลิศรส

    จิวซินนอนบิดขี้เกียจอยู่บนเตียงข้อเท้าที่บวมทำให้รู้สึกเจ็บ แต่ยังคงนั่งนิ่งอยู่บนนั้น หลายวันมานี้เจ็บตัวตลอด แต่ก็แต่ไหนแต่ไรมาแล้วจิวซินมักจะโลดโผนเพื่อให้เหมือนจิ่นเกอทำให้ได้เท่าจิ่นเกอพี่ใหญ่ด้วยความเป้นหญิงจึงเจ็บตัวเพราะไม่ได้แข็งแกร่งเช่นบุรุษทั่วไปนั่นเอง“หมิงหลิน” เรียกหาหมิงหลินเสียงลั่น“ไหลหล่า ไหลหล่า” (มาแล้วๆ) หมิงหลินขานมาแต่ไกล“จิ่นฉิน อยู่ไหน” จิวซินถามหาอีกคน“ท่านองครักษ์อยู่ด้านนอก คอยอารักขานายหญิงมีสิ่งใดจะบอกกล่าว” หมิงหลินเลิกคิ้วสูง“ข้าเพียงแต่ พักนี้ไม่เห็นเขาคอยมาวุ่นวายตักเตือนว่ากล่าวข้าเหมือนเช่นเคย”“ข้าน้อยก็เห็นว่าเดี๋ยวนี้ท่านองครักษ์ มักออกไปนอกวังบ่อยครั้ง หรือว่า แอบไปเที่ยวหอคณิกา” หมิงหลินออกความเห็น จิวซินอดขำไม่ได้“ในโลกนี้มีกี่ผู้คนที่รู้จักเสพสุขเยี่ยงนี้ จิ่นฉินหาใช้บุรุษเช่นนั้นไม่” หมิงหลินพยักหน้าเห็นด้วยจิวซินคิดว่าต้องมีเหตุอันใดเป็นแน่ที่ทำให้จิ่นฉินออกไปนอกวังสักวันคงต้องสะกดรอยตามไปจวนอ๋องห้า“กงกง เหตุอันใดนำท่านมาถึงจวนอ๋อง” ฮุ่ยโม๋กล่าวทักทาย ขันทีเฒ่า“ท่านอ๋อง ข้าเพียงแต่แวะเวียนมา คารวะท่าน” ฮุ่ยโม๋เพียงแต่ยิ้มบางๆ“เห็

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-22
  • หงส์ซ่อนน้ำตา   สุรากระตุ้นสวาท

    องค์หญิง14นั่งเหม่อมองไปนอกหน้าต่างเบื้องหน้านั้นดอกเหมยร่วงหล่นลงสู่พื้นดินยามสามลมพัดหวีดหวิว“องค์หญิงเป็นอะไรไป” สาวใช้คนสนิทอดที่จะเอ่ยปากถามไม่ได้ ใบหน้าสวยหันกลับมามองสาวเพียงแวบเดียวแล้วก็เหม่อมองออกไปนอกหน้าต่างตามเดิมเจ้าเคยสบตาบุรุษใดแล้วใจสั่นไหวหรือไม่” สาวใช้ตาโต“องค์หญิงคงหมายถึงองค์ชายใหญ่จิ่นเกอ ทำไมไม่ไปที่ตำหนักบูรพา” ใบหน้าสวยย่นจมูก“องค์ชายใหญ่จิ่นเกอเจ้าคิดเช่นนั้นหรือ” สายตาดุเข้มจ้องมองสาวใช้“ข้าน้อยมิกล้า องค์หญิงคิดเช่นไรข้าน้อยมิบังอาจ”“องค์ชายใหญ่จิ่นเกอ องอาจผึ่งผายสมกับเป็นบุรุษตัวข้าเองถึงจะรู้สึกต้องชะตาแต่ยามอยู่ใกล้ใจข้าไม่เคยสั่นไหวและเมื่อจากไกลไม่เคยถวิลหาเช่นบุรุษหนุ่มผู้นั้น” สาวใช้ปิดปากเบิกตากว้างกว่าเดิม“องค์หญิงอย่าทรงแพร่งพรายเรื่องนี้ออกไปหากเรื่องถึงหูฝ่าบาทจะทรงกริ้วแค่ไหน”“ข้ารู้ดีไม่ใช่เด็กๆ ข้าเพียงแต่อยากพบหน้าเขาอีกสักครั้งก็เท่านั้น”“องค์หญิงโปรดใคร่ครวญให้ดีตัดไฟเสียแต่ต้นลม ไม่ข้องแวะไม่ผูกพันย่อมไม่มีความถวิลหา”“ตบปาก” การที่เป็นองค์หญิงเพียงคนเดียวในวังหลวงจึงมักถูกตามใจมาตลอดทำให้เป็นคนเอาแต่ใจ ชาวใช้ยกมือขึ้นตบปากตัวเอ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-22
  • หงส์ซ่อนน้ำตา   สุรากระตุ้นสวาท2

    “ข้าจิ่นฉินไม่บังอาจ” ก้มหน้าลงด้วยความสำรวม“นายเจ้ายังไม่ทันเอ่ยคำใดไยเจ้าถึงหวาดกลัวเช่นนั้น”“หากเมามายเสียหมดแล้วจะมีผู้ใดดูแลใครได้” ฮุยโม๋ยิ้มจิ่นฉินคืออุปสรรคสำคัญอย่างหนึ่งที่เดียว“คุณชายขาเข้าไปไม่ได้นะค่ะแขกคนสำคัญห้ามใครรบกวน” เสียงดังอื้ออึงภายนอก เพียงครู่เดียวชงไฉ่ ก็เข้ามาข้างใน“อ้าวน้องสิบสองเชิญเจ้าด้วย” บุรุษที่เป็นเหมือนคนคุ้มกันถอยห่างออกไปเมื่อได้ยินองค์ชายห้ากล่าวทักทายผู้มาใหม่ชงไฉ่ทรุดกายลงข้างๆ จิวซิน“พี่ห้าหาโอกาสร่ำสุราเคล้านารีทำไมไม่ชวนข้าชงไฉ่” ตำหนิทีเล่นทีจริง“ข้าบังเอิญผ่านไปตำหนักบุรพาองค์ชายใหญ่จิ่นเกอยังมิเคยได้ลิ้มลองสุราของที่นี่จึงมิไยที่ข้าต้องนำเสนอ”“เป็นเพราะมี สหายร่วมดื่มคนใหม่พี่ห้าถึง ไม่ชวนข้า ว่าแต่องค์ชายใหญ่จิ่นเกอท่านคิดว่าสุราที่นี่รสชาติเป็นเช่นใด” หันไปทางจิวซินซึ่งบัดนี้ดวงตาสุกสกาวแต่ทว่าแก้มกับแดงระเรื่อด้วยฤทธิ์ของสุราแก้มสุกปลั่งน่าดอมดม“รสชาติดีอย่างไม่อาจปฏิเสธข้ายอมรับว่าหลงใหลสุราหมักชนิดนี้” ลูบคลำถ้วยเหล้าในมือเหมือนกับเป็นของล้ำค่า“พี่ห้านับว่าท่านเดาใจองค์ชายใหญ่ได้ถูกต้องว่าชอบสุราหมักชนิดใด”“สุราชนิดนี้มีเฉพ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-25
  • หงส์ซ่อนน้ำตา   ชงไฉ่

    ชงไฉ่อาจมิใช่บุรุษที่เพรียบพร้อมหากแต่มีน้ำใจเป็นเลิศ แม้ต่สุราหนึ่งจอกก็อาจแบ่งบันแก่สหายคนละครึ่งจอกได้ไม่มีบิดพลิ้วแต่กระนั้นเขาเองมิใช่ผู้ที่ทานทนต่อความอดกลั้นได้นานหากถูกปองร้ายก็พร้อมที่จะกระโจนเข้าใส่ด้วยกระบี่คู่กายใบหน้าของเขาแม้หล่อเหลาหาผู้เทียบเคียงแต่มธุรสวาจากลับหวานหาผู้เทียบเคียงไม่มีได้ ในยามที่ปักใจหลงใหลแก่หญิงงามคำหวานข้างหูที่อยากจะเบือนหน้าหนีหากแต่ไม่อาจทำเพราะทอดตัวลงด้วยความอ่อนหวานที่เขาปลุกปลอบบุรุษผู้ที่ไม่อาจให้หญิงงามโดนรังแกแม้ว่าจะไม่เคยรู้จักนางมาก่อนชงไฉ่เมื่อบังเกิความรักแท้กลับคิดว่าอนุภาพของความรักน่าสะพรึงกลัวดวงหน้าของหญิงอันเป้นที่รักกลับโยกคลอนจิตใจของบุรุษให้สั่นไหวความรักของชงไฉ่แม้ไม่ต้องการยึดครองหากขอเพียงได้ตื่นลืมตามายามเช้าพร้อมกันในทุกวันเมื่อดวงตะวันทอแสงที่ขอบฟ้านั่นขอเพียงมีเจ้าอยู่ในอ้อมแขนพัวพันหงส์ซอนน้ำตา“นายของข้าเมาจนหลับไปแล้วเห็นที่ข้าต้องพากลับตำหนักบูรพาเสียทีไม่รบกวนองค์ชายทั้งสอง”“ข้านำเกี้ยวมาจากในวังเชิญเจ้าพานายของเจ้ากลับไปกับเกี้ยวที่ข้านำมาเถิด” องค์ชายสิบสองคล้ายจะเตรียมการมาอย่างดี จิ่นฉินไม่กล้ากอดประค

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-26
  • หงส์ซ่อนน้ำตา   ร่างกายเป็นหญิงมิใช่จริตเป็นหญิง

    “องค์ชายใหญ่จิ่นเกอโอกาสอันดีนี้ ข้าคงไม่อาจเพิกเฉย” พึมพำด้วยความกระหายในราคะ ถอดชุดขันทีออกเหลือเพียงหน้าอกเปลือยเปล่ากางเกงลำลองบางเบา ตาเป็นประกายจ้องมองมายังจิวซินตาไม่กะพริบ เอื้อมมืออันหยาบกระด้างจับไหลบางของจิวซินหมายจะ มองใบหน้าของจิวซินที่เจ้าขันทีเฒ่าคิดว่าเป็นบุรุษหนุ่มหน้าหวานท่าทางอ้อนแอ้นเหมือนที่ตนเคย ชอบลิ้มลองมานักต่อนักไม่ว่าจะเป็นบรรดาขันทีวัยหนุ่มหลายคนที่ต้องเป็นเหยื่อราคะเพื่อสังเวยให้แก่ขันเฒ่าผู้มากด้วยตัณหา รอยยิ้มน่าเกลียดบนริมฝีปากที่เต็มไปด้วยหนวดเคราแม้อายุจะย่างเข้าสู่วัยชราแล้วหากแต่ยังเต็มไปด้วยความอยากไม่รู้จักจบจักสิ้น ปลดสายคาดเอวของจิวซินออกด้วยมืออันสั่นเทา“โครม” เสียงประตูห้องใหญ่พังลงอย่างง่ายดายด้วยแรงถีบมหาศาล“เอามือโสมมของเจ้าออกจากตัวขององค์ชายใหญ่เดี๋ยวนี้” ชงไฉ่ชักกระบี่เหยียดตรงเข้าใส่ขันทีเฒ่า ด้วยความโมโหสุดระงับยับยั้งขันทีเฒ่า ที่ปากคอสั่นด้วยความกลัว คุกเข่าลงกับพื้นดวงตาเหลือกลาน“องค์รัชทายาทโปรดอภัย ข้ามิบังอาจเพียงแต่องค์ชายใหญ่เมามายข้าเพียงจะช่วย”“เจ้านี่ช่างแก้ตัวน้ำขุ่นๆ ข้าสั่งเกี้ยวไปยังตำหนักบูรพาแต่เจ้ากับสับเปลี่ยนคนห

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-26

บทล่าสุด

  • หงส์ซ่อนน้ำตา   บังเกิดรักแท้3

    “ข้าคิดว่าควรจะค่อยเป็นค่อยไปกับองค์หญิงดีกว่าเมื่อถึงเวลาที่องค์หญิงแต่งกับข้าชงไฉ่ไปแล้วข้าเห็นที่ต้องสั่งสอนว่าฝ่ามือนุ่มๆ ขององค์หญิงมันใช้ลูบไล้ให้คนเป็นสามีเท่านั้นมิใช่มีไว้แสดงว่าองค์หญิงมีวรยุทธ์” ทิ้งท้ายไว้แค่นั้นจิวซินดึงผ้าแพรออกจากในหน้าสวยด้วยอารมณ์ขุ่นเคืองโมโหตัวเองทีเสียทีให้กับชงไฉ่ เผยให้เห็นใบหน้าหวานสวยจนไร้ที่ติปากคอคิ้วคางที่รับกับใบหน้าและเครื่องสำอางที่แต่งแต้ม ขย้ำผ้าแพรปาทิ้งด้วยความหงุดหงิดยังไม่ทันให้เขาได้รู้ว่าเหอตงหยวนมีเคล็ดวิชาที่น่ากลัวเพียงใดกับโดนเขาย้อนรอยกอดรัดไม่เป็นท่าและที่น่าโมโหกว่านั้นคือจิวซินรู้สึกอบอุ่นในอ้อมกอดของเขาแม่ปากจะปฏิเสธแต่ใจเจ้ากรรมกลับบอกว่าอยากลิ้มลองมากกว่านั้นเลือดสาวซูบฉีดจนน่ากลัวไม่สิเขามีชายาออกมากมายคงทำไปเพราะความเคยชินไม่ได้รู้สึกกับจิวซินพิเศษอย่างสัมผัสของเขาจิวซินบอกตัวเองไม่ให้หลงเตลิดไปกับสัมผัสอ่อนโยนนั้น คิดวางแผนว่าจะทำอย่างไรให้เขาไม่ชอบจิวซินจนถึงกับต้องถอนหมั้นเพื่อยุติเรื่องราววุ่นวายต่างๆ ให้จบสิ้นไปอากาศข้างนอกหนาวเหน็บจิวซินเผลอหลับใหลภายใต้อากาศเย็นยะเยือกจิวซิน ฟุบหน้าลงบนโต๊ะผมยาวสลวยบดบังใบหน้

  • หงส์ซ่อนน้ำตา   บังเกิดรักแท้3

    แผนการที่วางไว้รัดกุมไม่น้อยยากที่ชงไฉ่องค์รัชทายาทของไห่ตงหยวนจะคาดเดาได้เหอหยวนเดินออกจากตำหนักของจิวซินจนลับตาจิวซินรู้สึกสับสนกับสิ่งที่ได้ยินเช่นไรถึงเรียกว่าในเหอตงหยวนแห่งนี้ใครกล้านินทาว่าร้ายองค์หญิงรอง“ชงไฉ่ยิ้มแย้มสมใจคิดว่าอย่างไรเสียต้องเปิดเผยโฉมหน้าของจิวซินให้ได้“เห็นไหมเล่าทุกอย่างช่างเป็นใจเหลือเกินเจ้ากับข้าเราสองต้องได้ทำความคุ้นเคยกันมากกว่าจริงเหอจิวซิน”“องค์ชายคิดว่าอย่างไรจิวซินคงไม่มีทางเลือกหรือคิดว่าอย่างไรเสียจิวซินก็เป็นเพียงลูกไก่ในกำมือ แต่องค์ชายลองทบทวนดูเถิดว่าใครกันแน่ที่เป็นลูกไก่ในกำมือที่นี่เหอตงหยวนหาใช่ไห่ตงหยวนที่องค์ชายเป็นถึงองค์รัชทายาทไม่” ชงไฉ่หาได้สนใจคำกล่าวของจิวซินไม่ยังคงมองดูจิวซินที่สารวนอยู่กับการดึงผ้าปิดปากปิดจมูกให้แน่นขึ้นกว่าเดิม เขาต้องรู้ให้ได้ว่าภายใต้ผ้าแพรผืนนั้นใบหน้าที่ซ่อนอยู่จะงดงามหรืออัปลักษณ์เพียงใด“คำพูดของเจ้าอันไหนจริงอันไหนเท็จข้าชงไฉ่ไม่อาจแยกแยะ”“เช่นนั้นจงรู้ไว้เถิดว่าข้าจิวซินคนนี้ไม่ใช่ลูกไก่”“ข้ากลับไปคราวนี้เห็นทีต้องทูลขอเสด็จพ่อประทานอนุญาตให้ส่งเกี้ยวมารับตัวเจ้าไปดัดนิสัยในตำหนักชงหยวนเสียทีเ

  • หงส์ซ่อนน้ำตา   บังเกิดรักแท้2

    “ปล่อยได้แล้ว องค์รัชทายาทไม่อายคนของท่านหรืออย่างไร” จิวซินพยายามยกมือขึ้นกระชับผ้าแพรบางเบาที่ปิดบังใบหน้าชงไฉ่ทำสีหน้ายียวน“หญิงใดที่เข้าใกล้ข้าชงไฉ่แล้วไม่มีใครปฏิเสธข้าได้เจ้าไยไม่เหมือนหญิงคนอื่นไหนว่าอยากแต่งกับข้ารอข้าส่งเกี้ยวมาจิวซินคิดว่าหากอยู่อย่างนี้ต้องเปลืองตัวแน่ขึงพยายามดิ้นรนแต่ยิ่งเหมือนชงไฉ่ยิ่งแกล้งอ้อมแขนแข็งแรงยิ่งกอดรัดแน่นขึ้น“ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้วเจ้าเห็นไหมเหอจิวซินข้าไม่เคยรังเกียจใบหน้าอัปลักษณ์ของเจ้า ข้าชงว่าสู้เจ้าเปิดผ้าแพรออกเสียแล้วให้ข้าได้รู้จักเจ้ามากกว่านี้” มืออีกข้างที่ว่างยกขึ้นหมายปลดผ้าที่ปิดบังใบหน้าไว้จิวซินคิดหาหนทางเอาตัวรอด“ฮ่องเต้เสด็จจจจจ” เสียงขันทีขานมาแต่ไกลจิวซินใช้ศอกกระทุ้งชงไฉ่จนหลุดออกมาจากอ้อมกอด“จิวซินถวายพระพรเสด็จพ่อ”“ไห่ชงไฉ่ถวายพระพร เสด็จลุง” เหอหยวนสะบัดชายเสื้อด้วยท่าทียโส จะว่าไปใบหน้าของชงมิแตกต่างจากไห่หยวนยามหนุ่มแม้แต่น้อย ยิ่งทำให้เขารู้สึกขุ่นเคือง“ข้าเหอหยวนหวังว่าเจ้าจะได้รับความสะดวกสบายมิใช่น้อยในการเดินทางและพำนักที่เหอตงหยวน”“ข้าชงไฉ่ พำนักในตำหนักองค์หญิงรอง ได้รับความสะดวกอย่างดี”“เราชาวเหอตงหยวนเมื

  • หงส์ซ่อนน้ำตา   บังเกิดรักแท้

    “องค์รัชทายาทชิงซาด้อยสามารถไม่อาจปกป้ององค์ชายในยามวิกฤติ”“ลุกขึ้นเถิดชิงซา ไม่ใช่ความผิดของเจ้าหากแต่เป็นพวกมันที่ฉวยโอกาส”“องค์รัชทายาทหมายถึงผู้ใด”“ข้าไม่อาจรู้ได้ว่าพวกมันเป็นใครด้วย วรยุทธ์ล้ำลึกและยังไม่เปล่งสำเนียงของแคว้นใดออกมา”“เป็นไปได้ไหมว่าจะเป็นคำสั่งจากฮ่องเต้ของเหอตงหยวนที่ต้องการสังหารองค์ชายเพื่อแก้แค้นฝ่าบาท” ชงไฉ่หันมองชิงซาเเต็มตา“เสด็จพ่อกับเหอหยวนฮ่องเต้บาดหมางกันเรื่องใด” สายตาคาดคั้น“องค์ชายรู้ไหมว่าเสด็จแม่ขององค์ชายงดงามเพียงใดจึงไม่น่าแปลกใจที่สองสหายฝ่าบาทและเหอหยวนฮ่องเต้จะหมายปองหญิงงามคนเดียวกัน” ชงไฉ่ขมวดคิ้ว“แล้วเหตุใด ท่านพ่อต้องการให้จิ่นเกอและองค์หญิงรองจิวซิน เข้ามาอยู่ในไห่ตงหยวนเล่า”“ฝ่าบาทนั้นเป็นฝ่ายกุมหัวใจของเสด็จแม่ขององค์ชาย ผู้ที่พ่ายแพ้มีอยู่สองอย่างที่พึงกระทำคือหนึ่งยอมรับความพ่ายแพ้และสองคือแค้นเคืองผู้ที่เป็นฝ่ายชนะเช่นนั้นเสด็จพ่อของพระองค์จึงจำเป็นต้องหาทางชดเชยให้แก่เหอหยวนฮ่องเต้เพราะเห็นแก่คำว่าสหาย”“อย่างนี้นี่เององค์ชายใหญ่จิ่นเกอและเหอจิวซินถึงได้ไม่ชอบขี้หน้าข้านัก”“อันนี้ชิงซาคิดว่าเป็นองค์ชายเสียอีก ที่ทรงไม่ชอบ

  • หงส์ซ่อนน้ำตา   หยอกเย้า2

    “ที่เหอตงหยวนมีน้ำพุบำบัดอยากให้องค์รัชทายาทได้ลงไปแช่เพื่อสมานแผลตามแบบของเราให้จิวซินพาองค์ชายไปเถิด” จิวซินเปลี่ยนเรื่องพูดทันควัน ชงไฉ่เผลอยิ้มที่มุมปากนับว่านางฉลาดล้ำลึกรู้หลบหลีกไม่ปะทะตรงๆ ทำให้เขารู้สึกเหมือนได้พูดคุยกับคนอีกคนในตำหนักบูรพา ตอนนี้เองที่ไม่ได้มีความรู้สึกถวิลหาเหมือนก่อนคล้ายกับว่าคุยกับคนผู้เดียวกันพยุงชงไฉ่ลุกจากแท่นนอนอกอุ่นเบียดชิดอกแน่นด้วยมัดกล้าม ชงไฉ่เหลือบตามองใบหน้าภายใต้ผ้าคลุมอย่างลืมตัวจิวซินหลบตาวุ่นวาย ทั้งคู่มาถึงยังบ่อน้ำพุกลางสวนร่มรื่นชงไฉ่ นึกชื่นชมความงามของสวนน้ำพุแห่งนี้“สวยงามเกินกว่าที่ข้าจะคาดเดาได้”“ข้าจิวซินเป็นผู้จัดตกแต่งมันด้วยตัวเอง” ที่แห่งนี้เป็นที่แห่งเดียวในเหอตงหยวนที่จิวซินจะเร้นกายได้ในยามที่ทุกข์ระทม ชงไม่อยากเชื่อสายตาพี่น้องสองคนนี้มีหลายอย่างที่ทำให้เขาประหลาดใจชงไฉ่หย่อนตัวลงไปในบ่อน้ำพุ แต่ทว่าบ่อกลับลึกเกินกว่าที่เขาคาดคิดจึงลื่นไถลลงไป จิวซินเอื้มมือคว้าแต่ไม่ทันทำเอาทั้งสองคนหล่นโครมลงไปในน้ำพุด้วยกันเสียงดังสนั่นจิวซินยันกายลุกขึ้นได้ก่อนควานหาตัวของชงไฉ่ที่ยังอยู่ในน้ำอาภรณ์บางเบาไม่อาจปกปิดเรือนร่างที่อวบอ

  • หงส์ซ่อนน้ำตา   หยอกเย้า

    “ทำไม่ไม่เอ่ยปากสักคำเล่าข้าป้อนท่านก็ได้” จิวซินนึกเป็นห่วงชงไฉ่ไม่น้อยคิดว่าตัวเองเล่นแรงไปหน่อยเมื่อวานเขาก็ยังไม่ได้กินอะไรแล้วยังบาดเจ็บอีกยกชามข้าวต้มในมือขึ้นจ่อริมฝีปากขององค์ชายสิบสอง กลิ่นหอมนั้นทำเอาชงไฉ่ถึงกับกลืนน้ำลาย“ความกตัญญูของบุรุษคือล้างแค้นแทนพ่อ ความกตัญญูของลูกสาวคือการปรนนิบัติคนในครอบครัว” จิวซินตักข้าวต้มส่งถึงปากชงไฉ่ความหิวนั้นอาจไม่ถึงกับฆ่าคนแต่สามารถทำให้คนถูกฆ่าได้ ชงไฉ่กินอาหารด้วยความหิวโหยรสชาติที่ดีอยู่แล้วของเครื่องเทศของเหอตงหยวนยิ่งทำให้อาหารอร่อยจิวซินมองชงไฉ่คิดหาแผนการที่จะทำให้ชงไฉ่เห็นความร้ายกาจของจิวซิน“องค์หญิงอาหารของเหอตงหยวนรสชาติดีไม่เลว”“ท่านก็ว่าเช่นนั้นใช่ไหมเห็นไหมเล่าเสี่ยวถังเจ้าหาว่าข้ากินจุความจริงทุกอย่างที่นี่อร่อยข้าถึงกินไม่หยุด”“องค์หญิงหญิงงามกินแต่น้อย ไม่เช่นนั้น...”“เจ้าไม่ต้องกังวลเสี่ยวถัง ก็ในเมื่อองค์รัชทายาทเขาอย่างไรเสียต้องแต่งกับข้าแน่นอนข้าไม่จำเป็นต้องห่วงว่าข้าจะ...ไม่มีสวามี555” หัวเราะเสียงดังสนั่นโดยไม่มีอาการสำรวมแต่อย่างใดชงไฉ่รู้สึกกระอักกระอ่วนอย่างไรพิกลจนแทบจะสำลักนางช่างต่างจากองค์ชายใหญ่จ

  • หงส์ซ่อนน้ำตา   แผนร้ายของจิวซิน

    จิวซิน ผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นอาภรณ์ขององค์หญิงไม่ลืมที่จะหยิบผ้าแพรฝืนบางเบาคาดปิดใบหน้าครึ่งปากครึ่งจมูกทรุดตัวลงนั่งข้างชงไฉ่ บรรจงใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดตัว ดึกสงัดจิวซินเผลอฟุบหลับพร้อมกับผ้าเช็ดตัวในมือด้วยความง่วงและความอ่อนเพลียจากการเดินทางชงไฉ่งัวเงียอาการเจ็บแปลบที่แผลทำเอาไม่สามารถพยุงตัวลุกขึ้นได้กลอกตาไปมารอบๆ จนสะดุดเข้ากับร่างบางในอาภรณ์สีสวยสดข้างกาย ใบหน้างดงามแต่ถูกปิดบังไว้ด้วยผ้าแพรบางเบา ความสงสัยไม่อาจอดกลั้นได้ ชงเอื้อมมือหมายปลดผ้าแพรบนใบหน้างามที่มองขัดตาเหลือเกิน แต่ทว่ายังไม่ทันที่จะเอื้อมมือไปจับชายผ้าได้จิวซินกลับตื่นขึ้นมาเสียก่อน ปัดมือของชงไฉ่อย่างแรงด้วยความตกใจ“ใบหน้าข้าอัปลักษณ์ยิ่ง ท่านไม่สมควรจะได้เห็นมัน” ชงไฉ่หดมือกลับ“แม่นางขอบคุณที่ช่วยข้าไว้แม่นางมีชื่อแซ่ว่าอย่างไร”“ข้าจิวซินองค์หญิงรองของเหอตงหยวน หวังว่าท่านคงจะเคยได้ยิน” ชงไฉ่ตะลึงมอง คำพูดของจิ่นเกอที่เขาได้ยินว่าน้องสาวร่วมบิดาใบหน้าขี้ริ้วกิริยาหยาบกระด้างไม่อาจปฏิเสธได้“ข้าชงไฉ่องค์ชายสิบสององค์รัชทายาทของไห่ตงหยวนยินดีที่พบองค์หญิงรอง” ชงไฉ่รู้ว่าไม่จำเป็นต้องปิดบังฐานะของตนเองในเมื่อ

  • หงส์ซ่อนน้ำตา   มือสังหาร

    การเดินทางรวดเร็วอย่างไม่น่าเชื่อสองข้างทางแม้จะรกเรือหากแต่ทางที่ไปนับว่าสะดวกสบายเหลืออีกไม่กี่ลี้ก็จะเข้าเขตแดนของเหอตงหยวนซิงซาบังคับม้าให้หยุด“องค์ชายเบื้องหน้าเป็นเขตแดนของเหอตงหยวนแล้วเราพักที่นี่เสียก่อนพรุ่งนี้ค่อยเดินทางต่อ”“เร่งเดินทางดีกว่าซิงซาอาจมีโรงเตี้ยมสักแห่งให้พักแรมดีกว่านอนกลางป่าเขา” ซิงซากระตุกม้าให้ตะบึงแทนคำตอบทั้งคู่ เข้าสู่ชายแดนเหอตงหยวนดวงอาทิตย์เริ่มอัสดงคล้อยแสงต่ำลงหาได้พบโรงเตี้ยมอย่างที่คิดไว้ไม่ชงไฉ่กระตุกม้าเร่งความเร็วจนเคียงคู่ม้าของซิงซา“คงต้องพักค้างแรมเสียแล้วม้าและเราทั้งคู่เหนื่อยล้ามากคงต้องพักเสียที่นี่ไม่มีโรงเตี้ยมอย่างที่คิดไว้”“องค์ชายซิงซาจะหายิงไก่ป่ามาย่าง” ซิงซาอาสาคว้าธนูมาถือไว้มั่นเหมาะควบม้าจากไปชงไฉ่หากิ่งไม้แห้งมาก่อกองไฟ ตัดกิ่งไม้มาปูนั่งรอซิงซาความมืดเข้าปกคลุมทั่วบริเวณแสงสุดท้ายกำลังจะลับขอบฟ้าซิงซาควบม้าตะบึงตามกระต่ายไปหาใช่ไก่ป่าไม่จนเข้าไปในดงไผ่หนาทึบ วกวน หาทางออกไม่เจอ ควบม้าวนไปวนมาจนเหนื่อยล้ามือสังหารนับสิบกรูกันเข้ามาล้อมกรอบชงไฉ่ไว้กระบี่ในมือไม่อาจดูดายถูกชักออกจากฝักด้วยท่วงท่าสง่างามเข้าพันตุด้วยไม

  • หงส์ซ่อนน้ำตา   มือสังหาร

    ชายาเอกเหตุใดต้องเป็นคนของเหอตงหยวนแต่ไม่อาจมีคำใดเอื้อนเอ่ยออกมาได้แต่ก้มหน้านิ่ง“ท่านคิดว่าอย่างไรเสีย ก็ยังปักใจให้จิวซินน้องเป็นชายาเอกเช่นนั้นหรือ”“ไม่เป็นการอยุติธรรมไปหน่อยหรือหากข้าจะรีบตัดสินน้องของท่านเพียงเพราะคำพูดของท่านเท่านั้นองค์ชายใหญ่” ชงไฉ่แสดงให้เห็นถึงความเป็นบุรุษอย่างแท้จริงที่ไม่อาจตัดสินหญิงใดเพียงแค่คำนินทา จิวซินเผลอยิ้มด้วยความพึงใจ“ดีเช่นนั้นท่านต้องได้พานพบนางอย่างแน่นอนเมื่อนั้นค่อยตัดสินนางยังไม่สาย” ยกชาขึ้นจิบละเมียดรสชาที่ขมปนฝาดเยว่ฉีเหลือบตามองจิวซินอย่างค้นคว้าแม่เป็นสตรีหากแต่นางก็ไม่สามารถมองออกได้ว่าจิวซินมิใช่บุรุษอย่างแท้จริงจิวซินระมัดระวังตัวอย่างมากเมื่ออยู่ต่อหน้าหญิงสาวเพราะกิริยาบางอย่างมีเพียงอิสตรีด้วยกันเท่านั้นที่สามารถมองทะลุปรุโปร่ง“องค์ชายใหญ่จิ่นเกอ องอาจงดงามมิเสียแรงที่ทั่วทั้งวังกล่าวขานถึงความองอาจของท่าน” เยว่ฉีลองหยั่งเชิงดู“แม่นางเยว่ฉี กล่าวเช่นนี้องค์รัชทายาทจะเคืองขุ่นเมื่อภรรยากับเห็นผู้อื่นองอาจกว่าคนที่ร่วมเตียงทุกคืนวัน” ชงไฉ่อมยิ้มกับคำกล่าวของจิวซิน เยว่ฉีทำหน้าตากลืนไม่เข้าคายไม่ออก ไม่คิดว่าตัวเองจะพูดผิด

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status