ลู่เจียวโมโหมาก!เธอรอเขามาทั้งคืน ตั้งแต่สองทุ่มถึงเที่ยงคืนครึ่ง เขากลับพูดว่าไม่มา นี่คงไม่ได้แกล้งเธอใช่ไหม?เธอคือลู่เจียวนะ! ลู่เจียว! คุณหนูใหญ่ของตระกูลลู่!ที่ผ่านมาเธอมีแต่เป็นคนผิดนัด อีกฝ่ายมีสิทธิ์อะไรที่จะผิดนัดเธอ มีสิทธิ์อะไร?!ลู่เจียวโมโห เธอถือโทรศัพท์กำลังคิดที่จะด่ากลับไปคน ๆ นั้นกลับส่งข้อความมา[ต้องขอโทษจริง ๆ พรุ่งนี้ตอนกลางวันพวกเราค่อยนัดกันใหม่!]ลู่เจียวหรี่ตา ยังจะนัดอีกเหรอ?[คุณคงไม่เป็นเหมือนวันนี้ใช่ไหม? ฉันจะบอกอะไรคุณให้ว่าฉันไม่พอใจเป็นอย่างมาก!]เอ็ม [แน่นอนว่าจะไม่เป็นแบบนี้อีก วันนี้ต้องขอโทษจริง ๆ! พรุ่งนี้จะเอาบัวหิมะไปให้ตามนัด! แน่นอนถ้าวันนี้ทำให้คุณไม่พอใจแล้วคุณไม่ยอมมาเจอกันอีกก็ไม่เป็นไร ฉันจะไม่ทำให้คุณเสียเวลาอีก!]ลู่เจียวขมวดคิ้ว เอาบัวหิมะพันปีมาให้?เมื่อเห็นประโยคนี้แล้ว เธอก็ไม่มั่นใจว่าจะมาตามนัดดีหรือเปล่าเธออยากได้บัวหิมะพันปี อยากได้จนจะเป็นบ้าแล้ว![ได้! งั้นพรุ่งนี้ตอนเที่ยง มาเจอกันที่นี่!]เธอจะให้โอกาสคน ๆ นี้อีกครั้งถ้าเกิดพรุ่งนี้เขาผิดนัดอีก ต่อให้ต้องหาทั่วทั้งเมืองอวิ๋น เธอจะจับคน ๆ นี้มาสับเป็นชิ้
ตอนที่ฉู่เหมียนเดินออกมาจากบาร์ ฝนก็ตกลงมาอย่างหนัก ท้องฟ้ามืดครึ้ม ฟ้าแลบแปลบปลาบเป็นระยะแต่กลับไม่มีเสียงฟ้าร้อง เธอเป็นคนแปลกเพราะชอบวันที่ฝนตก โดยเฉพาะตอนที่ได้อยู่บ้านนั่งดูละครแล้วกินอะไรไปด้วยตอนที่ข้างนอกฝนตก แบบนั้นใจเธอจะรู้สึกสงบผ่อนคลายมากแต่ว่าเธอกลัวฟ้าร้องอาการกลัวฟ้าร้องนั้นเริ่มตอนที่เธอตกลงไปในทะเล เสียงนั้นกระตุ้นความกลัวที่อยู่ลึกในตัวเธอ มันเหมือนมีอะไรมาระเบิดใส่หูเธอตอนที่ฉู่เหมียนกำลังจะขึ้นรถ ก็เห็นรถมายบัคที่จอดอยู่ใกล้ ๆประตูรถเปิดออกก็มีผู้ชายสวมชุดสูทและรองเท้าหนังรีบลงมา ในมือถือเขาร่มเดินไปรับลู่เจียวฉู่เหมียนมองคน ๆ นั้น สายตาก็พลันมืดมนคนที่ร่ำรวยที่สุดในเมืองอวิ๋น มีอำนาจมากที่สุด กำลังมารับลู่เจียวท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก ถ้าไม่ได้รักมากแล้วคืออะไร?จังหวะพอดีกับที่คน ๆ นั้นเงยหน้าขึ้นมาก็สบตากันพอดีในคืนมืดมิด ที่จู่ ๆ ฝนก็ตกหนัก เสียงฝนตกกระทบหลังคารถดัง “ซ่าซ่าซ่า” สนั่นกู้ว่างเชินขมวดคิ้ว ฉู่เหมียนมาทำอะไรที่นี่?ฉู่เหมียนเม้มปาก กำลังจะก้าวขึ้นรถจู่ ๆ ฟ้าก็แลบ มาพร้อมกับเสียง “ครืน” กึกก้องฉู่เหมียนตัวสั่น ใจเต้นรัว สายต
ลู่เจียวมองออกไปนอกหน้าต่าง จู่ ๆ ก็มีเสียงดังและมีสายฟ้าฟาดราวกับจะฉีกท้องฟ้าให้ขาดเป็นรูลู่เจียวสะดุ้ง “น่ากลัวมากเลย”กู้ว่างเชินปรายตามอง ตอนนี้ในสมองของเขาคิดหนักรถพวกเขาขับผ่านรถของฉู่เหมียนไปฝนตกหนัก เขามองเข้าไปเห็นฉู่เหมียนฟุบหน้ากับพวงมาลัยอยู่ลาง ๆ แม้ผ่านมาเนิ่นนานแต่รถก็ยังไม่ขับออกไปฉู่เหมียนฟุบหน้ากับพวงมาลัย ทั้งสองมือปิดหูไว้ พยายามจะปิดกั้นเสียงฟ้าร้องฟ้าผ่าที่ดังสนั่นแต่ไม่รู้ทำไม สายฟ้านั้นเหมือนรู้ว่าเธอกำลังกลัว ตั้งใจที่จะแกล้งผ่าลงมาดังกึกก้องหลายครั้งเมื่อฉู่เหมียนเงยหน้าขึ้นมาอีกครั้ง ทั้งดวงหน้าก็ขาวซีดเธอเอาผ้าห่มออกมาจากเบาะด้านหลัง แล้วห่อคลุมตนเองไว้ที่ปัดน้ำฝนยังคงทำงานอยู่ ส่วนฉู่เหมียนก็ขดตัวเป็นก้อนพยายามทำให้ตัวเองรู้สึกปลอดภัยตีหนึ่งของเมืองอวิ๋นควรเป็นเวลาที่เริ่มต้นชีวิตยามกลางคืน แต่เพราะฝนตก ถนนก็เลยว่างเปล่าร้างผู้คนแสงไฟที่บาร์สลัวลง ฉู่เหมียนยังคงอยู่บนรถ รอให้ฝนหยุดติ๊ง…จู่ ๆ โทรศัพท์ก็ดังขึ้นหานซือหลี่ [เหมือนผมจะเห็นรถของคุณ]ฉู่เหมียนมองโทรศัพท์ที่สว่างขึ้นมาตรงที่นั่งข้างคนขับ เมื่อกำลังจะยื่นมือไปหยิบโทรศัพท์
ฉู่เหมียนเอาแต่เหม่อ ไม่ทันได้สนใจว่ากู้ว่างเชินนั้นตามเธอมาหานซือลี่ขับรถเร็วขึ้น พยายามสลัดกู้ว่างเชินให้หลุดแต่พอเขาเร่งความเร็ว กู้ว่างเชินก็ขับเร็วตามไล่มาด้านหลังเมื่อรถขึ้นไปบนทางด่วนยกระดับ สายฝนที่กระหน่ำก็ปะทะเข้ากับกระจกรถฉู่เหมียนชำเลืองมองกระจกหลังก็เห็นรถของกู้ว่างเชินอย่างไม่ได้ตั้งใจเธอลังเลอยู่ชั่วขณะก่อนจะหันกลับไปมองหานซือลี่พูด “กู้ว่างเชินตามพวกเรามา”ทำไมเขามาอยู่ที่นี่ได้? เขาไปส่งลู่เจียวกลับบ้านไม่ใช่เหรอ?ฉู่เหมียนคิดแล้วพูดไป “เขาคงแค่กำลังจะไปไหนน่ะค่ะ”แต่หานซือลี่ไม่คิดแบบนั้นดูจากการที่กู้ว่างเชินเร่งความเร็วตามแล้ว เขาคงไม่ใช่แค่บังเอิญไปทางเดียวกันแน่รถทั้งสองคันแข่งกันขับอยู่บนทางด่วน ทักษะการขับรถของกู้ว่างเชินนั้นดีมาก หลายครั้งที่เขาไล่ตามทันและขับมาตีคู่กับหานซือลี่ฉู่เหมียนมองไปที่กู้ว่างเชิน จู่ ๆ ในใจก็รู้สึกเหมือนอารมณ์ท่วมท้นถ้าเกิดเขาขับตามมาจริง ๆ งั้นแสดงว่าเขายังเป็นห่วงเธออยู่เหรอ แม้สักนิดก็ตาม?ฉู่เหมียนได้แค่คิดในใจ ไม่กล้าที่จะหวังเยอะคนเรามักจะผิดหวังก็เพราะว่าตั้งความหวังมากเกินไป!ฉู่เหมียนก้มหน้าลง ไม่มอ
หลังจากนั้นเธอก็อับจนหนทาง ก็เลยโทรไปหาฉู่เทียนเหอชายที่สาบานว่าจะตัดพ่อตัดลูกคนนั้น รีบมาหาเธอทั้ง ๆ ที่สภาพอากาศย่ำแย่และมีต้นไม้ล้มระเนระนาดไปทั่วตอนเช้าวันต่อมา ฉู่เทียนเหอก็ทำบะหมี่หมูตุ๋นให้เธอกินเหมือนวันนี้แต่เธอกลับทะเลาะกับฉู่เทียนเหอเสียใหญ่โตเพราะเขาพูดไม่ดีถึงกู้ว่างเชิน จนทำบะหมี่หกลงพื้นหมดคิดถึงตรงนี้ ฉู่เหมียนก็อดไม่ได้ที่จะตาแดงรื้นขึ้นมาเธอทำดีกับกู้ว่างเชินและทำดีกับคนอื่น แต่กลับไม่เคยทำดีกับครอบครัวที่รักเธอ“ทำไมแค่กินบะหมี่ก็ร้องไห้ล่ะ? อร่อยขนาดนั้นเลยเหรอ?” ฉู่เทียนเหอกินบะหมี่ไปหนึ่งคำแล้วอดจิ๊ปากไม่ได้“ไม่เลว นี่มันรสดั้งเดิมเลยนะ! อร่อยจนร้องไห้เลยเหรอ?”ฉู่เหมียนไม่ได้ตอบเขา แต่กลับก้มหน้าลงไป น้ำตาก็ไหลลงมาไม่หยุดฉู่เทียนเหอรู้สึกสถานการณ์มันแปลกไป จึงรีบเดินไปข้าง ๆ ฉู่เหมียนแล้วถามเธอว่า “เป็นอะไรเหรอ?” ฉู่เหมียนหันไปมอง น้ำตาไหลพรากลงมาอย่างน่าสงสาร เมื่ออยู่ต่อหน้าคนในครอบครัวเท่านั้น เธอถึงจะกล้าแสดงด้านที่อ่อนแอออกมาฉู่เหมียนกอดฉู่เทียนเหอไว้ พูดเสียงอู้อี้ “พ่อ หนูรักพ่อนะคะ”ฉู่เทียนเหอชะงักไป หลังจากนั้นก็ยิ้มโล่งใจแต่เขา
ลู่เจียวอ้าปากค้างเล็กน้อย สีหน้าของเธอดูผิดแปลกฉู่เหมียนก็อยากจะเจอเจ้าพ่อเอ็มเหรอ?“คุณลู่ คุณมีอำนาจมากจริง ๆ สามารถเจอคนอย่างเจ้าพ่อเอ็มได้ ไม่เหมือนฉันที่เคยได้ยินแค่ชื่อเขาเท่านั้น…” สีหน้าฉู่เหมียนแสดงออกว่า ‘ฉันก็อยากเจอเจ้าพ่อเอ็มเหมือนกัน’ลู่เจียวทำเสียงฮึดฮัด แน่นอนว่าเธอคือลู่เจียว คุณหนูใหญ่ตระกูลลู่ สิ่งของที่เธออยากได้แค่กระดิกนิ้วก็ได้แล้ว!“ถึงแม้ว่าตระกูลฉู่จะไม่ได้อ่อนแอ แต่ก็ยังไม่เท่ากับอีกสี่ตระกูลใหญ่! ยังไงพวกเราก็เป็นเพื่อนกัน งั้นพาฉันไปเจอหน่อยได้ไหมคะ?” ฉู่เหมียนพยายามพูดด้อยค่าตระกูลฉู่ลู่เจียวเลิกคิ้ว เธอเป็นคนที่ทนไม่ไหวเวลาคนอื่นมองเธอด้วยสายตาชื่นชม เธอชอบมาก ๆ เวลามีคนยกย่อง ยิ่งเมื่อคนนั้นเป็นฉู่เหมียนด้วยแล้ว“ฉันจะถามเจ้าพ่อเอ็มก่อน!” ลู่เจียวบอก“คุณกับเจ้าพ่อเอ็มสนิทกัน แค่พาเพื่อนไปด้วยยังต้องถามเขาเหรอ?” ฉู่เหมียนรีบถามทันทีลู่เจียวนิ่งไปสักพัก แล้วจับโทรศัพท์แน่นคำถามของฉู่เหมียนมีประเด็น เธอจะไม่ยอมให้ฉู่เหมียนรู้ว่าเธอกับเจ้าพ่อเอ็มจริง ๆ แล้วไม่ได้สนิทกันเลย!“นั่นคือการให้เกียรติ เธอจะไปเข้าใจอะไร?” ลู่เจียวพูดอย่างไม่พอใจฉ
ลู่เจียวหัวเราะ “ฉู่เหมียน ฉันว่าเธอทำตัวแปลกไปนะ!”“ฉันจะเป็นภรรยาของอาเชินคนต่อไป แต่เธอมานั่งอยู่แบบสงบ ๆ คุยกับฉันได้ยังไง…”ลู่เจียวทนไม่ไหวที่จะหัวเราะออกมาฉู่เหมียนลูบที่ปลายจมูกแน่นอนว่าที่ฉันนั่งอยู่ที่นี่ก็เพราะมาดูเรื่องตลกของเธอไง ยัยโง่ !ฉู่เหมียนทำท่าเจ็บช้ำ “ฉันจะทำอะไรได้ล่ะ? คุณลู่ คุณมีความสามารถมาก ฉันน่ะสู้ไม่ไหวหรอก”“ไม่ใช่แค่สู้ฉันไม่ได้ เธอยังไม่มีกู้ว่างเชินคอยหนุนหลังอีกด้วย!” ที่ผ่านมาลู่เจียวทำตัววุ่นวายได้ก็เป็นเพราะมีกู้ว่างเชินคอยสนับสนุนปกติฉู่เหมียนไม่ชอบฟังคำพูดของลู่เจียวเลยแต่เธอต้องยอมรับว่าคำพูดของลู่เจียวในวันนี้นั้นถูกต้องฉู่เหมียนก้มหน้าลงลู่เจียวยิ้มมุมปาก รู้สึกพออกพอใจ “ทำไม? ฉันพูดสะกิดจุดเจ็บงั้นเหรอ?”“ฉู่เหมียน ฉันก็แปลกใจมากเหมือนกัน ทั้งที่กู้ว่างเชินก็ไม่ได้รักเธอ ทำไมเธอถึงเฝ้ารออยู่ในห้องที่ว่างเปล่ามาได้ตั้งสามปี?”ฉู่เหมียนจ้องตาลู่เจียว ลู่เจียวนั่งบนโต๊ะกาแฟตรงหน้าฉู่เหมียน เธอก้มลงจ้องมองฉู่เหมียนแล้วถาม “กู้ว่างเชินเคยแ
ใบหน้าของลู่เจียวซีดเผือดทันทีเจ้าพ่อเอ็มบล็อกเธองั้นเหรอ?!เธอคือลู่เจียวนะ ทำไมเขาถึงกล้าทำแบบนี้กับเธอ?!ลู่เจียวพยายามเพิ่มเพื่อนอีกครั้ง แต่กลับพบว่าไม่ว่าทำยังไงก็ไม่สามารถเพิ่มเพื่อนได้ ทันทีที่เธอส่งคำขอไปโทรศัพท์ก็ค้าง!นี่มันเกิดอะไรขึ้น?ฉู่เหมียนยังคงมองดูโทรศัพท์ของลู่เจียวอยู่ ลู่เจียวเห็นก็รีบซ่อนหน้าจอโทรศัพท์ไม่ยอมให้ฉู่เหมียนดูลู่เจียวรีบโทรไปถามคนที่จัดการให้ “ทำไมฉันถึงติดต่อเจ้าพ่อเอ็มไม่ได้?”“คุณลู่ คุณทำอะไรล่วงเกินเจ้าพ่อเอ็มหรือเปล่า?““หมายความว่ายังไง?” ลู่เจียวกัดปาก“คุณลู่ คุณ…คุณอยู่ในบัญชีดำของตลาดมืดแล้ว! เจ้าพ่อเอ็มบอกว่าห้ามใครรับคำสั่งซื้อจากคุณเด็ดขาด! ถ้าฝ่าฝืนถือว่าต่อต้านเจ้าพ่อเอ็ม !”ฟังมาถึงตรงนี้ ลู่เจียวก็สีหน้าดำคล้ำ มันหมายความว่ายังไงกัน!?“คุณลู่ ครั้งนี้จบลงแล้ว…พวกเราคงไม่สามารถเอาบัวหิมะพันปีมาได้”ลู่เจียวทรุดนั่งลงบนโซฟา รู้สึกอึ้งไปเธอก็ไม่ได้ทำอะไรล่วงเกินเจ้าพ่อเอ็มสักหน่อย! ไม่ใช่เจ้าพ่อเอ็มเหรอที่เอาแต่ผิดนัดเธอเหรอ?!ห้องส่วนตัวเต็มไปด้วยความเงียบ ฉู่เหมียนได้ยินบทสนทนาของทั้งคู่อย่างชัดเจนตอนนี้ฉู่เหมียนขย