ตอนที่ฉู่เหมียนหันไป กู้ว่างเชินก็ล้มลงกับพื้นแล้วเขาเอามือกุมท้อง ใบหน้าซีดเซียวและดูอาการไม่ดีเลยหัวใจของฉู่เหมียนสั่นไหวอย่างรุนแรง เธอรีบเดินเข้าไปนั่งยอง ๆ ดูเขา สีหน้าของเธอเต็มไปด้วยความกังวล “กู้ว่างเชิน!”แต่เมื่อคิดว่าตอนนี้เธอไม่มีความเกี่ยวข้องกับกู้ว่างเชินแล้ว เธอก็ชักมือที่กำลังยื่นออกไปกลับมามีอี้เซินอยู่นี่ อี้เซินคงไม่ยอมให้เกิดอะไรขึ้นกับกู้ว่างเชินหรอกฉู่เหมียนหลุบตาลง ละทิ้งความกังวลแล้วยืนขึ้นจะเดินจากไป แต่อี้เซินก็รีบร้องเรียก “คุณนายน้อย!”ฉู่เหมียนพูดเนิบ ๆ “อี้เซิน เขาคงจะปวดท้องเพราะดื่มมากเกินไป พาเขาไปส่งโรงพยาบาลแล้วแจ้งให้ลู่เจียวทราบด้วยนะคะ”อี้เซินมองฉู่เหมียน พลางแปลกใจเล็กน้อยที่คำพูดเหล่านี้ออกมาจากปากของเธอเมื่อก่อนเวลาที่มีเรื่องเกิดขึ้นกับกู้ว่างเชิน ฉู่เหมียนจะเป็นคนแรกที่อยู่เคียงข้างเขาฉู่เหมียนกำลังจะจากไป แต่จู่ ๆ นิ้วของเธอก็ถูกปลายนิ้วเย็นเยือกของชายหนุ่มเกี่ยวไว้ “เหมียนเหมียน…”ฉู่เหมียนมองไปที่กู้ว่างเชินทันที เขากำลังขมวดคิ้วพร้อมสีหน้าที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวดในขณะนั้น หัวใจของฉู่เหมียนก็เต้นแรงฉู่เหมียนอ้าปากอยาก
รถแล่นมาจอดหน้าแผนกฉุกเฉินหลังจากที่ฉู่เหมียนพยุงกู้ว่างเชินไปที่เตียงผู้ป่วยแล้วกำลังจะกลับ แต่ชายหนุ่มกลับเกี่ยวนิ้วของเธอไว้ไม่ยอมปล่อยฉู่เหมียนขมวดคิ้วและพยายามงัดนิ้วออก แต่ก็พบว่าเขาเกี่ยวนิ้วเธอไว้แน่นฉู่เหมียนไม่มีทางเลือกนอกจากถอนหายใจและไปกับเขา“คุณหมอคะ เขาเป็นยังไงบ้าง?” ฉู่เหมียนถามคุณหมอเวร“ไม่เป็นอะไรครับ ให้น้ำเกลือเดี๋ยวอาการก็ดีขึ้น แค่ช่วงนี้ระวังอย่าให้ท้องระคายเคืองไปมากกว่านี้ก็พอครับ” คุณหมออธิบายอย่างง่าย ๆส่วนอี้เซินนั้นไปรับใบสั่งยาฉู่เหมียนมองชายหนุ่มที่อยู่บนเตียง แววตาของเธอเต็มไปด้วยความชิงชังเธอยกมือตบแขนของกู้ว่างเชินเบา ๆ พลางพึมพำบ่นว่า “ตอนอยู่มอปลายไม่รู้จักดูแลตัวเองให้ดี จนอายุสามสิบกว่าแล้วก็ยังทำตัวเหมือนเดิม ชอบทำให้คนอื่นเป็นห่วงนัก!”แต่เมื่อเห็นใบหน้าที่ซีดเซียวของกู้ว่างเชิน ฉู่เหมียนก็ถอนหายใจ ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความกังวลฉู่เหมียนยืนกอดอกพิงข้างเตียงผู้ป่วย พลางมองตรงไปที่ใบหน้าของกู้ว่างเชินเธอคงไม่มีโอกาสได้อยู่กับกู้ว่างเชินแบบนี้แล้วเมื่อคิดได้ดังนั้น ฉู่เหมียนก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกขัน “กู้ว่างเชิน ฉันนี่ช่างเป็น
กู้ว่างเชินลืมตา กลืนน้ำลายและหายใจหนัก “ผม…”“อาเชิน...”ทันใดนั้นเสียงของลู่เจียวก็ดังมาจากประตูห้องผู้ป่วยฉู่เหมียนผลักกู้ว่างเชินออกอัตโนมัติ จากนั้นก็ยืนตัวตรงและมองไปที่ประตูทันทีลู่เจียวกัดริมฝีปากล่าง ในมือขวาของเธอถือกล่องอาหารเอาไว้พลางมองไปที่ฉู่เหมียนด้วยแววตาอาฆาตอย่างเห็นได้ชัดฉู่เหมียนถอยหลังไปสองก้าวแล้วพูดเนิบ ๆ “ลู่เจียว อย่าเข้าใจฉันผิดนะ กู้ว่างเชินคิดว่าฉันเป็นคุณน่ะ”“เหรอ?” ลู่เจียวมองไปที่ฉู่เหมียนทายดูสิว่าเธอเชื่อคำพูดของฉู่เหมียนไหม?ลู่เจียวมองไปยังกู้ว่างเชินที่อยู่บนเตียงผู้ป่วยแล้วคลี่ยิ้ม “อาเชิน ดูเหมือนว่าฉันจะมาผิดเวลาสินะ?”“เลิกล้อเล่นได้แล้ว โรคกระเพาะของเขากำเริบ ฉันบังเอิญเจอเขาก็เลยพามาส่ง” ฉู่เหมียนไม่อยากสร้างปัญหาให้ตัวเอง เธอจึงโกหกไปลู่เจียวมองทั้งสองคนอย่างโกรธเคืองฉู่เหมียนยังจะโกหกเธออยู่อีกทั้ง ๆ ที่ไม่มีใครไปแจ้ง แต่เธอกลับมาถึงที่นี่ได้ ขนาดนี้แล้วฉู่เหมียนยังไม่รู้อีกหรือ?เพราะเธอส่งคนมาจับตาดูกู้ว่างเชินตลอดเวลายังไงล่ะ!คนแรกที่กู้ว่างเชินไปหาหลังจากดื่มจนเมามายไม่ใช่เธอ แต่ไปบ้านตระกูลฉู่เนี่ยนะ! กู้ว่างเชินท
“ฉันอยากมาดูสถานการณ์ของบัวหิมะพันปีในตลาดมืดสักหน่อย ว่ามีการเก็งราคาไปถึงไหนแล้ว?”โม่อี้พูดอ้อรับคำแล้วเดินตามฉู่เหมียนไปที่ห้องข้อมูลหน้าจอขนาดใหญ่ในห้องข้อมูลกำลังแสดงผล ซึ่งเกี่ยวกับบัวหิมะพันปีในตลาดมืดที่มีการพูดคุยกันมากกว่าสองแสนหัวข้อ โดยมียอดเข้าชมถึงสองพันล้านครั้งนี่ไม่ใช่ประเด็นหลัก เพราะประเด็นหลักจริง ๆ ก็คือราคาของมันได้เพิ่มขึ้นทวีคูณอย่างไม่หยุดหย่อน!โดยป้ายราคาที่อยู่ทางด้านบนขวาโชว์ตัวเลขกว่าห้าพันล้านบาท!“ตอนนี้ยังไม่มีใครได้บัวหิมะพันปีไป” โม่อี้กล่าวฉู่เหมียนกอดอกและขมวดคิ้ว“หัวหน้า บัวหิมะนั่นไม่ได้อยู่ที่เธอจริง ๆ เหรอ?” โม่อี้มองไปที่ฉู่เหมียนฉู่เหมียนไม่เคยพลาด ตอนนี้เขาจึงสับสนเล็กน้อยฉู่เหมียนมองโม่อี้แล้วเลิกคิ้ว “เมื่อกี้ฉันเจอลู่เจียว เธอบอกว่าบัวหิมะพันปีอยู่ที่เธอ”“ล้อเล่นน่า บัวหิมะพันปีไม่เคยปรากฎออกมาเลย ได้ของปลอมไปหรือเปล่า? หรือว่า...อาจจะไม่มีจริงก็ได้ ฝ่ายนั้นคงแค่หลอกเธอ” โม่อี้ลูบคางของตัวเอง“ปิดดีลการขายบัวหิมะพันปีในตลาดมืดได้เลย” ฉู่เหมียนหันหลังแล้วเดินออกไปโม่อี้เบิกตากว้าง หมายความว่าอะไร?!ที่บอกให้วางขายได้หม
ฉู่เหมียนนำบัวหิมะพันปีไปที่ห้องโถงหุ่นยนต์รีบเคลื่อนตัวมาหาเพื่อทำการสแกนบัวหิมะพันปีและพูดด้วยน้ำเสียงร่าเริง “ว้าว นี่คือบัวหิมะพันปีที่ทุกคนในตลาดมืดกำลังมองหา!”ฉู่เหมียนปรบมือและกอดอกหุ่นยนต์ถามอีกครั้ง “นายท่านเอ็ม ได้บัวหิมะพันปีมาจากไหนเหรอ?”โม่อี้ยิ้มอ่อน “อยู่ในกองขยะที่รอการทำลาย”หุ่นยนต์ “...”โม่อี้จ้องมองที่หุ่นยนต์และเห็นว่าหน้าจอของหุ่นยนต์กลายเป็นรูปดาววิ้ง ๆ ที่ดูยุ่งเหยิง ตามมาด้วยภาพคลื่นไฟฟ้าหัวใจเกิดอะไรขึ้น?เครื่องค้างเหรอ?ให้ตายเถอะ อยู่ฐานเอ็มมาตั้งหลายปี แต่นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้เห็นหุ่นยนต์ค้างแบบนี้มันคงไม่เป็นอะไรใช่ไหม?หลังจากหุ่นยนต์รีสตาร์ตระบบใหม่ มันทำตาโตแล้วพูดว่า “เมื่อกี้ผมเป็นลมและฟื้นขึ้นมาแล้ว! ที่แท้บัวหิมะพันปีก็อยู่กับนายท่านเอ็มนี่เอง!”โม่อี้ไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้ดี พังหุ่นยนต์ทิ้งซะเลยดีไหม“หัวหน้า เธอคิดจะจัดการยังไง?” โม่อี้ถามฉู่เหมียนฉู่เหมียนมองโม่อี้พร้อมรอยยิ้มโม่อี้หรี่ตาเล็กน้อย ไม่เข้าใจว่าฉู่เหมียนหมายถึงอะไรจะเอาไปขายเหรอ?“รวย รวยแล้ว!” โม่อี้เริ่มหมุนรอบตัวเองห้าพันล้าน! เงินห้าพันล้
“ไม่ต้องอยู่เป็นเพื่อนผมหรอก เชื่อผม กลับบ้านเถอะ” กู้ว่างเชินพูดอย่างอ่อนโยนลู่เจียวคิดอยู่ครู่หนึ่งและพยักหน้าตอบรับเธอจะรีบไปหาพี่ชายเพื่อคิดหาวิธีที่จะได้บัวหิมะพันปีมาครอบครองเร็ว ๆเพราะอีกไม่กี่วันก็จะถึงวันเกิดของคุณหญิงแล้ว!หลังจากที่ลู่เจียวกลับไป บรรยากาศในห้องผู้ป่วยก็เงียบสงบลงกู้ว่างเชินค่อย ๆ ลุกนั่งและเอนตัวพิงหัวเตียงพลางมองไปยังที่ที่ฉู่เหมียนเคยนั่งที่ด้านนอกประตู อี้เซินโผล่หัวเข้าไปแล้วกระซิบว่า “ประธานกู้ ผมเข้าไปได้ไหมครับ?”กู้ว่างเชินเงยหน้าเห็นอี้เซินหัวเราะแหะ ๆ ด้วยความขี้เล่นนิด ๆ“วันนี้ทำได้ดีมาก” จู่ ๆ กู้ว่างเชินก็เอ่ยขึ้นอี้เซินหรี่ตาลง “แน่นอนสิครับ เพราะผมได้รับการชี้แนะจากประธานกู้!”กู้ว่างเชินเหลือบมองเขา นี่เขาจะสื่อว่าเรียนรู้ความใจแคบและคิดเล็กคิดน้อยมาจากตนเหรอ?อี้เซินกระแอมไอพลางยื่นโทรศัพท์ให้กู้ว่างเชินแล้วพูดว่า “ประธานกู้ หลังจากที่คุณนายน้อยกลับไปเธอส่งข้อความมาให้ผมด้วยครับ กำชับผมซ้ำแล้วซ้ำอีกว่าต่อไปต้องให้คุณดูแลสุขภาพให้ดี”เมื่อกู้ว่างเชินอ่านข้อความจากฉู่เหมียนบนโทรศัพท์ของอีกฝ่าย ดวงตาของเขาก็หม่นลง…คุณชอบเขา
แกพูดเรื่องอะไรของแก? ฉู่เหมียนต้องมาสิ!”กู้ว่างเชินเงยหน้ามองผนังอันว่างเปล่าที่อยู่ด้านหลังโซฟาพลางคิดถึงถึงสิ่งที่ฉู่เหมียนพูด …กู้ว่างเชิน ไม่ต้องมาหาฉันอีกกู้ว่างเชินหลุบตาลงและพูดจาทำร้ายจิตใจ “คุณย่า ผมกับฉู่เหมียนมีปัญหากันครับ”“จริง ๆ พวกเรากำลังเตรียมที่จะหย่ากัน!”คนปลายสายอึ้งไปครู่หนึ่งแล้วก่นด่าขึ้นมา “แกมันเด็กกตัญญู แก แก…”กู้ว่างเชินตกตะลึง และจู่ ๆ เสียงปลายสายก็เงียบไปกู้ว่างเชินขมวดคิ้วพลางเอ่ยเรียก “คุณย่าครับ?”ทว่าเมื่อยังไม่มีเสียงปลายทางตอบกลับมา หัวใจของกู้ว่างเชินจึงตกไปอยู่ตาตุ่มในทันทีเขารีบลุกขึ้นโทรหาโจวซิ่วหยา “แม่ ช่วยไปดูให้หน่อยครับว่าเกิดอะไรขึ้นกับคุณย่ารึเปล่า!”……วันรุ่งขึ้น ณ โรงพยาบาลหลินไห่เม่ยนอนหน้าซีดอยู่ในห้องผู้ป่วยเดี่ยว หลังจากที่หมอตรวจร่างกายของเธอแล้ว ก็เตือนพวกเขาว่า “อาการของคุณหญิงไม่ได้ดีมากนัก พวกคุณที่เป็นคนในครอบครัวก็อย่าทำหรือพูดอะไรที่กระทบจิตใจท่านอีกนะครับ!”โจวซิ่วหยาผู้สวมกระโปรงสีเรียบท่าทางเศร้าสร้อย หลังจากได้ยินดังนั้น เธอก็จ้องมองไปที่กู้ว่างเชินอย่างหม่นหมอง“ดูแลคุณหญิงให้ดีนะครับ เดี๋ยวรอด
ดวงตาของโจวซิ่วหยาแดงก่ำ ในใจของเธอเต็มไปด้วยความตื่นตระหนกเธอเข้าใจ เธอเข้าใจทุกอย่าง แต่…“อาเชิน แกทำให้เหมียนเหมียนผิดหวังแบบนี้ได้ยังไง…”กู้ว่างเชินก้มหน้ารู้สึกเหนื่อยล้าอย่างอธิบายไม่ถูก เขาเอ่ยเสียงเรียบ “แม่ครับ เอาไว้ผมจะชดใช้ให้เธอนะ ถ้าเธอต้องการอะไรผมจะให้ทุกอย่างเลย”ทันทีที่เขาพูดจบ ประตูห้องผู้ป่วยก็ถูกผลักออกกู้ว่างเชินมองไปที่ประตูฉู่เหมียนสวมกระโปรงสีขาว ผมของเธอสยายไปด้านหลัง ในมือของเธอถือผลไม้และอาหารเสริมมาด้วยเมื่อสบตากัน หัวใจของกู้ว่างเชินก็เต้นรัวฉู่เหมียน…ฉู่เหมียนมองเขาด้วยความรู้สึกที่ไม่สามารถบรรยายได้“ได้ยินมาว่าคุณย่าเข้าโรงพยาบาล หนูมาเยี่ยมท่านค่ะ” ฉู่เหมียนพูดเนิบ ๆเมื่อได้ยินเสียงดังกล่าว โจวซิ่วหยาก็ลุกขึ้นยืนทันที เมื่อเห็นว่าเป็นฉู่เหมียน โจวซิ่วหยาจึงรีบทักทายเธออย่างอบอุ่นเป็นพิเศษราวกับได้เจอลูกสาวแท้ ๆ “เหมียนเหมียน!”“แม่คะ คุณย่าไม่เป็นอะไรมากใช่ไหมคะ?” ฉู่เหมียนวางของไว้ข้าง ๆ โต๊ะน้ำชาแล้วถามโจวซิ่วหยาโจวซิ่วหยาส่ายหัว “ก็โรคเดิม ๆ นั่นแหละจ้ะ! นี่คุณหมอก็ให้นอนรอดูอาการที่โรงพยาบาลไปก่อน!”“อืมค่ะ” ฉู่เหมียนมาที่ข