ฉู่เหมียนนำบัวหิมะพันปีไปที่ห้องโถงหุ่นยนต์รีบเคลื่อนตัวมาหาเพื่อทำการสแกนบัวหิมะพันปีและพูดด้วยน้ำเสียงร่าเริง “ว้าว นี่คือบัวหิมะพันปีที่ทุกคนในตลาดมืดกำลังมองหา!”ฉู่เหมียนปรบมือและกอดอกหุ่นยนต์ถามอีกครั้ง “นายท่านเอ็ม ได้บัวหิมะพันปีมาจากไหนเหรอ?”โม่อี้ยิ้มอ่อน “อยู่ในกองขยะที่รอการทำลาย”หุ่นยนต์ “...”โม่อี้จ้องมองที่หุ่นยนต์และเห็นว่าหน้าจอของหุ่นยนต์กลายเป็นรูปดาววิ้ง ๆ ที่ดูยุ่งเหยิง ตามมาด้วยภาพคลื่นไฟฟ้าหัวใจเกิดอะไรขึ้น?เครื่องค้างเหรอ?ให้ตายเถอะ อยู่ฐานเอ็มมาตั้งหลายปี แต่นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้เห็นหุ่นยนต์ค้างแบบนี้มันคงไม่เป็นอะไรใช่ไหม?หลังจากหุ่นยนต์รีสตาร์ตระบบใหม่ มันทำตาโตแล้วพูดว่า “เมื่อกี้ผมเป็นลมและฟื้นขึ้นมาแล้ว! ที่แท้บัวหิมะพันปีก็อยู่กับนายท่านเอ็มนี่เอง!”โม่อี้ไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้ดี พังหุ่นยนต์ทิ้งซะเลยดีไหม“หัวหน้า เธอคิดจะจัดการยังไง?” โม่อี้ถามฉู่เหมียนฉู่เหมียนมองโม่อี้พร้อมรอยยิ้มโม่อี้หรี่ตาเล็กน้อย ไม่เข้าใจว่าฉู่เหมียนหมายถึงอะไรจะเอาไปขายเหรอ?“รวย รวยแล้ว!” โม่อี้เริ่มหมุนรอบตัวเองห้าพันล้าน! เงินห้าพันล้
“ไม่ต้องอยู่เป็นเพื่อนผมหรอก เชื่อผม กลับบ้านเถอะ” กู้ว่างเชินพูดอย่างอ่อนโยนลู่เจียวคิดอยู่ครู่หนึ่งและพยักหน้าตอบรับเธอจะรีบไปหาพี่ชายเพื่อคิดหาวิธีที่จะได้บัวหิมะพันปีมาครอบครองเร็ว ๆเพราะอีกไม่กี่วันก็จะถึงวันเกิดของคุณหญิงแล้ว!หลังจากที่ลู่เจียวกลับไป บรรยากาศในห้องผู้ป่วยก็เงียบสงบลงกู้ว่างเชินค่อย ๆ ลุกนั่งและเอนตัวพิงหัวเตียงพลางมองไปยังที่ที่ฉู่เหมียนเคยนั่งที่ด้านนอกประตู อี้เซินโผล่หัวเข้าไปแล้วกระซิบว่า “ประธานกู้ ผมเข้าไปได้ไหมครับ?”กู้ว่างเชินเงยหน้าเห็นอี้เซินหัวเราะแหะ ๆ ด้วยความขี้เล่นนิด ๆ“วันนี้ทำได้ดีมาก” จู่ ๆ กู้ว่างเชินก็เอ่ยขึ้นอี้เซินหรี่ตาลง “แน่นอนสิครับ เพราะผมได้รับการชี้แนะจากประธานกู้!”กู้ว่างเชินเหลือบมองเขา นี่เขาจะสื่อว่าเรียนรู้ความใจแคบและคิดเล็กคิดน้อยมาจากตนเหรอ?อี้เซินกระแอมไอพลางยื่นโทรศัพท์ให้กู้ว่างเชินแล้วพูดว่า “ประธานกู้ หลังจากที่คุณนายน้อยกลับไปเธอส่งข้อความมาให้ผมด้วยครับ กำชับผมซ้ำแล้วซ้ำอีกว่าต่อไปต้องให้คุณดูแลสุขภาพให้ดี”เมื่อกู้ว่างเชินอ่านข้อความจากฉู่เหมียนบนโทรศัพท์ของอีกฝ่าย ดวงตาของเขาก็หม่นลง…คุณชอบเขา
แกพูดเรื่องอะไรของแก? ฉู่เหมียนต้องมาสิ!”กู้ว่างเชินเงยหน้ามองผนังอันว่างเปล่าที่อยู่ด้านหลังโซฟาพลางคิดถึงถึงสิ่งที่ฉู่เหมียนพูด …กู้ว่างเชิน ไม่ต้องมาหาฉันอีกกู้ว่างเชินหลุบตาลงและพูดจาทำร้ายจิตใจ “คุณย่า ผมกับฉู่เหมียนมีปัญหากันครับ”“จริง ๆ พวกเรากำลังเตรียมที่จะหย่ากัน!”คนปลายสายอึ้งไปครู่หนึ่งแล้วก่นด่าขึ้นมา “แกมันเด็กกตัญญู แก แก…”กู้ว่างเชินตกตะลึง และจู่ ๆ เสียงปลายสายก็เงียบไปกู้ว่างเชินขมวดคิ้วพลางเอ่ยเรียก “คุณย่าครับ?”ทว่าเมื่อยังไม่มีเสียงปลายทางตอบกลับมา หัวใจของกู้ว่างเชินจึงตกไปอยู่ตาตุ่มในทันทีเขารีบลุกขึ้นโทรหาโจวซิ่วหยา “แม่ ช่วยไปดูให้หน่อยครับว่าเกิดอะไรขึ้นกับคุณย่ารึเปล่า!”……วันรุ่งขึ้น ณ โรงพยาบาลหลินไห่เม่ยนอนหน้าซีดอยู่ในห้องผู้ป่วยเดี่ยว หลังจากที่หมอตรวจร่างกายของเธอแล้ว ก็เตือนพวกเขาว่า “อาการของคุณหญิงไม่ได้ดีมากนัก พวกคุณที่เป็นคนในครอบครัวก็อย่าทำหรือพูดอะไรที่กระทบจิตใจท่านอีกนะครับ!”โจวซิ่วหยาผู้สวมกระโปรงสีเรียบท่าทางเศร้าสร้อย หลังจากได้ยินดังนั้น เธอก็จ้องมองไปที่กู้ว่างเชินอย่างหม่นหมอง“ดูแลคุณหญิงให้ดีนะครับ เดี๋ยวรอด
ดวงตาของโจวซิ่วหยาแดงก่ำ ในใจของเธอเต็มไปด้วยความตื่นตระหนกเธอเข้าใจ เธอเข้าใจทุกอย่าง แต่…“อาเชิน แกทำให้เหมียนเหมียนผิดหวังแบบนี้ได้ยังไง…”กู้ว่างเชินก้มหน้ารู้สึกเหนื่อยล้าอย่างอธิบายไม่ถูก เขาเอ่ยเสียงเรียบ “แม่ครับ เอาไว้ผมจะชดใช้ให้เธอนะ ถ้าเธอต้องการอะไรผมจะให้ทุกอย่างเลย”ทันทีที่เขาพูดจบ ประตูห้องผู้ป่วยก็ถูกผลักออกกู้ว่างเชินมองไปที่ประตูฉู่เหมียนสวมกระโปรงสีขาว ผมของเธอสยายไปด้านหลัง ในมือของเธอถือผลไม้และอาหารเสริมมาด้วยเมื่อสบตากัน หัวใจของกู้ว่างเชินก็เต้นรัวฉู่เหมียน…ฉู่เหมียนมองเขาด้วยความรู้สึกที่ไม่สามารถบรรยายได้“ได้ยินมาว่าคุณย่าเข้าโรงพยาบาล หนูมาเยี่ยมท่านค่ะ” ฉู่เหมียนพูดเนิบ ๆเมื่อได้ยินเสียงดังกล่าว โจวซิ่วหยาก็ลุกขึ้นยืนทันที เมื่อเห็นว่าเป็นฉู่เหมียน โจวซิ่วหยาจึงรีบทักทายเธออย่างอบอุ่นเป็นพิเศษราวกับได้เจอลูกสาวแท้ ๆ “เหมียนเหมียน!”“แม่คะ คุณย่าไม่เป็นอะไรมากใช่ไหมคะ?” ฉู่เหมียนวางของไว้ข้าง ๆ โต๊ะน้ำชาแล้วถามโจวซิ่วหยาโจวซิ่วหยาส่ายหัว “ก็โรคเดิม ๆ นั่นแหละจ้ะ! นี่คุณหมอก็ให้นอนรอดูอาการที่โรงพยาบาลไปก่อน!”“อืมค่ะ” ฉู่เหมียนมาที่ข
ความเงียบงันแทรกเข้ามาในทางเดินยาวเมื่อเห็นว่าเขาเงียบไม่พูดอยู่นาน ฉู่เหมียนก็ค่อย ๆ ก้มหน้ากู้ว่างเชินมองไม่เห็นใบหน้าของเธอ แต่เขาได้ยินเธอถามด้วยเสียงแผ่วเบา “คุณกลัวว่าฉันจะใช้คุณย่าเพื่อรั้งไว้คุณไว้ขนาดนั้นเลยเหรอ?”กู้ว่างเชินหรี่ตา และขณะกำลังจะอธิบาย เขาก็ได้ยินเสียงขอคุณหญิงดังมาจากห้องผู้ป่วย “เหมียนเหมียน…”ฉู่เหมียนมองเข้าไปข้างในแล้วพูดว่า “คุณย่าฟื้นแล้วเหรอคะ?”พูดจบ ฉู่เหมียนก็เลี่ยงกู้ว่างเชินเดินเข้าไปในห้องผู้ป่วยโจวซิ่วหยาประคองคุณหญิงขึ้นมา ท่านนั่งเอนพิงหัวเตียงพลางมองฉู่เหมียนด้วยความรู้สึกเศร้าหมองกู้ว่างเชินเดินตามหลังฉู่เหมียนมาติด ๆหลังจากที่ทั้งสองปรากฏตัวพร้อมกัน หลินไห่เม่ยก็รู้สึกไม่สบายใจมากยิ่งขึ้นสุดท้ายก็มาถึงจุดนี้เหรอ?จะหย่ากันแน่ ๆ ใช่ไหม?ฉู่เหมียนนั่งลงตรงขอบเตียง พลางช่วยจัดผมให้หลินไห่เหม่ยและพูดพร้อมส่งสายตาอ่อนโยน “คุณย่าไม่เป็นอะไรใช่ไหมคะ?”หลินไห่เม่ยจับมือของฉู่เหมีย และถามอย่างน่าสงสารว่า “เหมียนเหมียน หนูลืมวันเกิดย่าแล้วเหรอ?”ฉู่เหมียนยิ้มทันที “คุณย่าพูดอะไรคะ หนูจะลืมวันเกิดคุณย่าได้ยังไง?”หลินไห่เม่ยมองตรง
เขาย้ำกับเธอและคนรอบตัวไปไม่รู้กี่ครั้งว่าเขาไม่ได้รักเธอแต่เธอก็ยังเอาแต่หันหน้าเข้ากำแพงไม่รับรู้สิ่งใดฉู่เหมียนก้มหน้าอย่างรู้สึกเหนื่อยหน่ายทันใดนั้นเธอก็ได้ยินชายหนุ่มข้าง ๆ พูดว่า “ฉู่เหมียน ผมขอโทษสำหรับสามปีที่ผ่านมานะ”ฉู่เหมียนหันหน้าไปมองเขา ดวงตาทั้งสองสบกัน ฉู่เหมียนยิ้มและพูดอย่างเรียบเฉย “ขอโทษอะไรกัน ทุกอย่างมันเป็นเพราะความเอาแต่ใจของฉันทั้งนั้น”ถ้าเป็นเมื่อก่อนเธอคงจะโทษกู้ว่างเชิน ว่าทำไมเขาถึงไม่รักเธอและก็คงจะด่าลู่เจียว ว่าทำไมหล่อนถึงต้องเข้ามายุ่งกับผู้ชายของคนอื่นตอนนี้เธอทั้งล้ม ทั้งเจ็บมาแล้ว จึงได้รู้ปัญหาของตัวเองกว่าจะมาถึงจุดนี้ได้ คงโทษใครไม่ได้นอกจากตัวเอง“ผมจะชดเชยให้คุณ” เขากล่าวแววตาเย้ยหยันฉายวาบขึ้นมาในดวงตาของฉู่เหมียนเธอไม่ต้องการการชดเชยจากกู้ว่างเชินเมื่อประตูลิฟต์เปิดออก ฉู่เหมียนก็เดินเข้าไปกู้ว่างเชินตั้งใจจะตามไปด้วย แต่เธอก็ขวางเขาให้อยู่ข้างนอกฉู่เหมียนเงยหน้าคลี่ยิ้ม พลางพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “ไม่ต้องแล้ว คุณกู้หยุดแค่ตรงนี้เถอะ”กู้ว่างเชินมองเธอนิ่ง ๆ พร้อมก้าวถอยหลังฉู่เหมียนยิ้มเล็กน้อยและชักมือกลับด้ว
หลังจากที่ฉู่เหมียนออกไปแล้ว ลู่เจียวก็รีบหยิบโทรศัพท์ออกมาเธอต่อสายหาผู้ชายคนหนึ่ง แล้วถาม “หาบัวหิมะพันปีเจอหรือยัง? มันตกไปอยู่ในมือใครกันแน่?”ปลายสายตอบอย่างหมดปัญญา “คุณลู่ ผมพยายามแล้วครับ แต่หาร่องรอยของบัวหิมะพันปีไม่เจอเลย!”เขาก็อยากจะถามเหมือนกัน บัวหิมะนี่หาเท่าไรก็หาไม่เจอ ทำไมถึงมีคนอื่นฉกไปได้กัน?!ใครเอาไปกันนะ?คน ๆ นี้ต้องมีอำนาจมากอย่างแน่นอน!“ไม่ได้เรื่อง!” ลู่เจียวกระทืบเท้าด้วยความโมโห เธอขมวดคิ้วแล้วถาม “รีบหาวิธีมา ทำยังไงฉันถึงจะหาบัวหิมะเจอกันแน่?”ใกล้จะถึงงานวันเกิดของคุณหญิงกู้แล้ว แถมเธอก็ได้บอกไปแล้วด้วยแต่กลับไม่มีร่องรอยของบัวหิมะพันปี!ถ้าหาไม่เจอคงต้องถูกคนทั้งประเทศหัวเราะเยาะใช่ไหม? ถ้าถึงเวลานั้นกู้ว่างเชินจะคิดยังไงกับเธอ คิดยังไงกับตระกูลลู่“คุณลู่ ผมมีอยู่หนึ่งวิธี ถ้างั้นเราไปซื้อที่ตลาดมืดของเจ้าพ่อเอ็มดีไหม?”ลู่เจียวกัดปาก เจ้าพ่อเอ็ม…ดู ๆ แล้ว ก็มีเพียงแค่วิธีนี้เท่านั้น! ก่อนหน้านี้เธอสนใจในตัวของเจ้าพ่อเอ็ม เขาเป็นคนที่น่ามหัศจรรย์เป็นอย่างมาก!ลู่เจียวหมกมุ่นอยู่กับคนล
ฉู่เหมียนที่กำลังกินมันฝรั่งทอดอยู่ก็หัวเราะออกมาคุณหนูใหญ่ลู่แสดงความเย่อหยิ่งกับเธอ พูดว่าต้องการบัวหิมะพันปี แล้วยังอยากเป็นเพื่อนกับเจ้าพ่อเอ็ม เบื้องหลังเป็นแบบนี้เองสินะ อยากทำให้ตัวเองเจริญรุ่งเรืองและมั่งคั่งไหมเหรอ?ตอนแรกฉู่เหมียนคิดจะปฏิเสธ แต่พอมารู้ทีหลังว่าเป็นลู่เจียว จู่ ๆ ก็รู้สึกสนใจขึ้นมาเธอไม่ถูกชะตากับลู่เจียวมานานแล้ว ที่ผ่านมาไม่เคยมีโอกาสที่จะทำอะไรหล่อนได้เลยมันคงไม่ผิดใช่ไหมที่เธอจะเล่นอะไรบ้า ๆ สักหน่อย?คิดถึงตรงนี้ ฉู่เหมียนเข้าไปในฐานระบบ แล้วพูดคุยด้วยตนเองเอ็ม: “หนึ่งหมื่นล้านบาท“แอล: “แค่หนึ่งหมื่นล้านบาท ขอแค่คุณเอาบัวหิมะพันปีมาได้ มันก็ไม่ได้มากอะไรใช่ไหม?”เอ็ม: “มาคุยกันต่อหน้า“แอล: “ได้สิ !”เอ็ม: “ให้เจ้านายคุณ มาคุยกับฉันด้วยตัวเอง“แอล: “ทำไมล่ะ?” เอ็ม: “เวลาสองทุ่ม ที่ห้องส่วนตัว999เฉินอันบาร์ อย่าให้รอนาน”พูดจบ ฉู่เหมียนก็ออฟไลน์ไปฝ่ายตรงข้ามรู้สึกสับสนโม่อี้มองบทสนทนาที่คุยกับฝ่ายตรงข้าม มุมปากก็ยกยิ้มขึ้นกระต่ายน้อยฉู่เหมียนที่รักของกู้ว่างเชิ