แชร์

สาวช่างศิลป์กับหนุ่มวิศวะ
สาวช่างศิลป์กับหนุ่มวิศวะ
ผู้แต่ง: จื่อเมา

บทนำ

ผู้เขียน: จื่อเมา
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-12-17 17:46:37

วันปฐมนิเทศคณะศิลปศาสตร์

ในสวนหย่อมมหาวิทยาลัยเวลานี้มีรุ่นพี่หลายคณะมาคอยรับน้องกันอย่างเนืองแน่น เสียงเด็กวิศวะกลุ่มหนึ่งดังขึ้นให้โต๊ะข้าง ๆ ได้ยิน

“เฮ้ย มาเล่นเกมทายกัน”

“เหมือนเดิมใช่ไหม” หนุ่มหล่อสูงขาวท่าทางไฮโซคนหนึ่งถามขึ้นพลางมองไปที่เส้นแดงบนทางเข้ามหาลัย

เกมที่พวกเขากำลังพูดถึงเป็นเกมที่เด็กวิศวะนิยมเล่นกันเป็นประจำ คือการทายว่าน้องที่เดินผ่านเส้นแดงเข้ามาเรียนคณะอะไรบ้าง กฏิกาคือถ้าใครทายผิด ต้องไปจีบน้องคนนั้นให้ติด

เด็กวิศวะกลุ่มนี้ เรียกได้ว่าเป็นตัวท็อปของมหาลัย เพราะนอกจากแต่ละคนจะมีรูปร่างหน้าตาดีแล้ว ยังมีฐานะร่ำรวย เวลาที่พวกเขามารวมตัวกันจึงมักตกเป็นเป้าสายตาของนักศึกษาสาวจากทุกคณะ ถ้าจะพูดกันตามจริง พวกเขาไม่จำเป็นต้องไปตามจีบใคร เพราะทุกวันนี้มีผู้หญิงที่มาต่อคิวรอให้เด็กหนุ่มกลุ่มนี้สนใจมีจนนับไม่ถ้วน

“ตามึงแล้วไอ้ยุ พวกกูเล่นกันไปหมดแล้ว”

คนที่ถูกเรียกชื่อเงยหน้าจากมือถือในมือมามองเพื่อน ก่อนจะมองไปที่นักศึกษาสาวที่กำลังทยอยเดินเข้ามา เท่าที่มองผ่านตา เขายังไม่เห็นว่าจะมีน้องคนไหนถูกสเปกเลยสักคน

“ไม่เล่นได้ไหมวะ หน้าตาไม่เข้าเบ้าเลยสักคน” วายุส่ายหน้าบอกเพื่อนด้วยท่าทางเซ็ง ๆ ทว่าเพื่อน ๆ ไม่คิดจะปล่อยผ่านเขาไป

“สัส มึงอย่ามาหาข้ออ้าง เมื่อกี้กูโดนน้องตุ้ยนุ้ยไปแล้ว”

สานัสพูดแล้วทำท่าขนลุก ก่อนหน้านี้สานัสเล่นคนแรก แล้วทายผิด ต้องไปตามจีบน้องคณะบัญชีน้ำหนักกว่าร้อยกิโล เรื่องอะไรเขาจะยอมเป็นผู้ประสบภัยคนเดียว คิดได้ดังนั้นแล้ว สานัสที่กำลังมองไปที่เด็กผู้หญิงท่าทางเฉิ่มเชยก็ชี้ไปที่เด็กคนนั้น

“เอาคนนนี้ มึงทายมาเดี๋ยวนี้ ไอ้ยุ”

เพื่อนอีกสองคนหันไปมอง พอเห็นรุ่นน้องที่ว่าก็พากันหัวเราะ อย่างที่บอกเด็กหนุ่มกลุ่มนี้ตกอยู่ในสายตาผู้คน ย่อมเป็นไปไม่ได้ที่การกระทำของพวกเขาจะไม่มีใครสนใจ เวลานี้ โต๊ะข้าง ๆ ที่คอยมองพวกเขาอยู่ต่างพากันหันไปมองรุ่นน้องคนนั้นเป็นตาเดียว

วายุมองไปที่เด็กคนนั้นด้วยสายตาดูแคลน พลางเบ้ปากตอบ “กูทายว่าคณะแพทย์”

“เปลี่ยนใจไม่ได้แล้วนะมึง น้องเขาเดินข้ามเส้นมาแล้ว”

“เออ”

“ปันมึงตามไปถ่ายรูปมา”

จุดปฐมนิเทศของแต่ละคณะไม่ได้จัดที่เดียวกันย่อมไม่ใช่เรื่องยากที่จะพิสูจน์ว่าน้องใหม่เรียนคณะอะไร เพราะแต่ละคนจะแยกไปปฐมนิเทศยังจุดของตนเอง

เด็กหนุ่มที่ชื่อปันรีบตามรุ่นน้องคนที่ว่าไป คนที่รอลุ้นไม่ได้มีแค่โต๊ะของวายุ แม้แต่สาว ๆ โต๊ะข้าง ๆ ยังพลอยรอลุ้นไปด้วย เพราะวายุคือหนุ่มฮ็อตที่สุดในมหาลัย พวกเธอต้องให้ความสนใจเป็นธรรมดา

ร่างเล็กของลิตาหญิงสาวที่มีอายุเพิ่งเข้าสิบแปดปีมาหมาด ๆ กำลังสาวเท้าเดินอยู่บริเวณขอบริมฟุตบาทมหาลัยเอกชนชื่อดัง ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยที่เธอเลือกเข้าเรียนต่อในระดับปริญญาตรี

หญิงสาวเดินไปหยุดที่หน้าตึกคณะศิลปศาตร์สายตาเบิกกว้างไปรอบ ๆ บริเวณชั้นล่างใต้ตึกคณะ โต๊ะไม้ที่ถูกจัดวางเรียงตรงมุมเสาเพื่อให้น้องนักศึกษาใหม่มาลงชื่อเข้ารับรายงานตัว

“เชี่ยยย!!” วายุอุทานออกมาเสียงดังพลางถลึงตาโต

“คณะศิลปศาสตร์!!”

“ฮ่ะๆ” เสียงหัวเราะสนุกสนานดังครืนขึ้นมาทันทีเขาพูดจบ หนุ่ม ๆ ในโต๊ะ บางคนผิวปาก บางคนตบมือชอบใจ “ไอ้วายุ คราวนี้ล่ะมึง ฮะๆ ไปจีบน้องเขาเลยมึง”

เวลานี้ปากของวายุยังหุบไม่ลง เสียงหยอกล้อของพวกเพื่อน ๆ ฟังแล้วบาดหู สายตาที่กำลังจับจ้องไปยังผู้หญิงแต่งตัวเฉิ่มเชยเริ่มจะดูเซ็ง ๆ

รุ่นน้องคนที่ว่าสะพายกระเป๋าผ้าใบใหญ่ใส่แว่นตาหนาเตอะ มิหนำซ้ำมือข้างหนึ่งถืออมยิ้ม ท่าทางเหมือนเด็กปัญญาอ่อน ซึ่งแน่นอนว่าผู้หญิงแบบนี้ไม่เพียงจะไม่ใช่สเปก แต่วายุค่อนข้างไม่ชอบเลยก็ว่าได้ เจอแบบนี้เข้าไปไม่ให้เซ็งยังไงไหว

ซวยฉิบหาย

ขณะที่ลิตากำลังเดินอยู่บริเวณริมฟุตบาทหลังจากจบกิจกรรมปฐมนิเทศของคณะ ลิตาหยิบหูฟังไร้สายออกมาสวมใส่พร้อมกับกดเปิดเพลงที่คุ้นหู

แต่แล้วจังหวะที่ลิตากำลังเดินข้ามถนนเพื่อไปฝั่งตรงข้ามจู่ ๆ ก็มีบิ๊กไบค์คันหนึ่งขับมาด้วยความเร็ว ก่อนจะหักหลบไปเบียดฟุตบาท

โครม!!!

“ว้าย!” ลิตาตกใจสุดขีด หัวใจร่วงไปที่ตาตุ่ม พอตั้งสติได้ เธอรีบเดินเข้าไปหา ตั้งใจจะเข้าไปช่วยประคอง ทว่าร่างสูงกลับไม่รอให้เธอช่วยเหลือ ลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็ว

สองมือที่มีรอยถลอกถอดหมวกกันน๊อคเต็มใบสีดำบนศีรษะออกแล้วตวัดตามองตัวต้นเหตุ

“ข้ามถนนประสาอะไรของเธอ!”

ตั้งแต่ขี่รถมา ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่วายุประสบอุบัติเหตุ มิหนำซ้ำ อุบัติเหตุที่ว่า ยังเกิดจากความเซ่อซ่าของใครบางคน ถ้าไม่หัวเสียคงแปลกเต็มที “ถ้ารถฉันเป็นอะไร ฉันเอาเธอตายแน่!”

น้ำเสียงดุดันของเขาทำให้ร่างบอบบางที่กำลังจะเข้าไปช่วยหยุดชะงัก ลิตาเป็นคนพูดไม่เก่ง อีกทั้งยังเป็นคนขี้กลัว พอโดนดุ เธอจึงเริ่มลนลานทำอะไรไม่ถูก สุดท้ายก็ตัดสินใจวิ่งหนี

“เฮ้ย!” วายุอุทานออกมาได้คำเดียว ร่างเล็กก็วิ่งหายเข้าไปในตึกแล้ว “แม่งวิ่งเร็วฉิบ! ขอโทษสักคำก็ไม่มี อย่าให้เจอนะมึง!”

ลิตาเป็นเด็กต่างจังหวัด มีพี่น้องสามคนลิตาเป็นลูกคนโต ฐานะทางบ้านไม่ได้ร่ำรวยอะไรมากนัก แต่ด้วยที่ว่าลิตาเป็นคนหัวดีเรียนเก่งจึงสอบติดเข้ามาเรียนในมหาวิทยาลัยเอกชนชื่อดังในกรุงเทพฯได้ ลิตาเช่าคอนโดที่ราคาถูกไม่แพงมากนัก ถึงอยู่ไกลจากมหาลัยหน่อยแต่ก็มีรถเมล์วิ่งผ่านไปถึงหน้ามหาลัยตลอดเธอจึงเลือกพักที่นี่

หลังจากปฐมนิเทศ มหาวิทยาลัยยังปิดต่อไปอีกสองวัน เช้าวันจันทร์ ลิตาแต่งตัวมามหาลัยแต่เช้า เพราะเธอมีเรียนตอนเก้าโมง

บทที่เกี่ยวข้อง

  • สาวช่างศิลป์กับหนุ่มวิศวะ   ตอนที่ 1 เปิดเทอม #1

    เช้าวันจันทร์ อากาศตอนเช้าค่อนข้างมืดครึ้ม ลมพัดโชยเอากลิ่นอายฝนมาจากที่ห่างไกล คล้ายว่าที่อื่นฝนกำลังตก บรรยากาศเรียกได้ว่าค่อนข้างโรแมนติก ทางเข้ามหาลัยเริ่มมีนักศึกษาทยอยกันเดินเข้ามา ถ้าเป็นพวกปีสองขึ้นไป ส่วนใหญ่จะมาด้วยรถส่วนตัว ลิตาคือหนึ่งในนั้น เด็กสาวที่ไม่มีจุดเด่น เธอเดินเข้ามาพร้อมคนอื่น ๆ และกลมกลืนไปกับฝูงชนโดยไม่มีใครสังเกตเห็น ขณะที่เธอกำลังจะเดินไปที่ตึกของคณะ บังเอิญได้ยินนักศึกษาสาวหลายคนส่งเสียงกรี๊ดกร๊าดราวกับว่าได้เจอดารา “พี่วายุโคตรเท่เลยว่ะแก นาน ๆ จะเห็นพี่เขาขับ BMWเปิดประทุนมาเรียน” “ทำไงเราจะได้มีวาสนาเป็นตุ๊กตาหน้ารถของพี่เขาบ้าง” “ฝันไปก่อนเถอะ” เสียงหัวเราะคิกคักของนักศึกษาหญิงกลุ่มใหญ่ ทำให้ลิตาต้องมองไปที่รถยนต์สีดำคันหรูที่เพิ่งจะเลี้ยวเข้าไปจอดหน้าตึกคณะวิศวกรรมศาสตร์ แต่ก่อนที่เจ้าของรถจะก้าวลงมา เธอก็ดึงสายตากลับ บ้านของลิตาไม่ใช่คนมีฐานะ เธอจึงมักหลีกเลี่ยงพวกลูกคนรวย เมื่อเห็นรถหรูราคาหลายล้าน เธอเลยไม่ให้ความสนใจ สองเท้าหนักของวายุสาวเท้าเดินเข้ามาในกลุ่มของตัวเองที่นั่งอยู่โต๊ะหินอ่อนบริเวณข้างตึกวิศวะพร้อมกับสายตาของนักศึกษาหลายคนที่ค

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-17
  • สาวช่างศิลป์กับหนุ่มวิศวะ   ตอนที่ 1 เปิดเทอม #2

    “เชี่ยยย นั่นมันพี่เขานี่ เอาไงดีวะ” เสียงคนตัวเล็กพูดบ่นเบาๆ ก่อนจะค่อยๆ ย่องหมุนตัวหนีออกมาจากตรงนั้นให้ไวที่สุด แต่ทว่าเธอไม่อาจรอดพ้นสายตาอันแหลมคมของเขาได้ “ไง” เสียงทุ้มเอ่ยทักคนตัวเล็กที่อยู่ตรงหน้า “เชี่ยยแล้ว เห็นจนได้” คำอุทานหลุดออกมาจากปากของลิตาก่อนที่เธอจะหมุนตัวไปหาเขา “เจอกันอีกแล้ว” เรียวปากสวยเอ่ยพูดพร้อมกับฉีกยิ้มหวาน พยายามใจดีสู้เสือ “ทำให้ฉันรถล้มแล้วก็วิ่งหนีไปหน้าตาเฉย” วายุเลิกคิ้วขึ้นก่อนจะจับข้อมือของลิตาแน่น “ปล่อยสิ จับทำไมมันเจ็บ” ลิตาสะบัดแขนที่ถูกมือแกร่งของวายุจับไว้แน่น แต่ทว่ายิ่งเธอสะบัดเขาก็ยิ่งจับแน่นขึ้นอีก “ถ้าพี่ไม่ปล่อยเจอดีแน่” “ตัวเท่าลูกหมาจะทำอะไรฉันได้” “ก็ซัดพี่ร่วงลงได้เหมือนกันนั่นแหละ” “ประสาท! แค่ฉันจับเธอยังดิ้นไม่หลุดเลย” “แล้วพี่จะมาจับเราไว้ทำไม” “เธอไม่คิดจะรับผิดชอบอะไรเลยเหรอ” วายุเลิกคิ้วถามคนตัวเล็กด้วยสีหน้าเอาเรื่อง “รับผิดชอบเรื่องอะไร” ลิตาทำหน้านิ่งใส่คนตรงหน้า “ที่เธอทำรถสุดหวงของฉันล้มเมื่อวาน” “แล้วพี่จะให้เรารับผิดชอบยังไง ถ้าเงินเราไม่มีหรอกนะ” “ทำได้ทุกอย่างเลยใช่ไหมรับปากมาสิ” เสียงทุ้มหนักเอ่ยถามก

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-17
  • สาวช่างศิลป์กับหนุ่มวิศวะ   ตอนที่ 2 ทำแผล #1

    ป้ายรถเมล์คนตัวเล็กเดินสาวเท้ามาหยุดอยู่ที่ป้ายรถเมล์พร้อมกับเอามือขึ้นมายีที่หัวของตัวเองด้วยความโมโหให้กับคนตัวสูงร่างใหญ่ที่พึ่งจะแยกกันที่ลานจอดรถของมหาลัยเมื่อสักครู่“ยิ่งคิดก็ยิ่งหงุดหงิด หลอกให้เราพาวิ่งเหนื่อยหอบจนแทบจะหยุดหายใจ” หลังจากพูดจบคนตัวเล็กก็ยกเท้าขึ้นมาเตะไปที่กระป๋องเปล่าน้ำอัดลมที่ถูกวางทิ้งไว้กับพื้นที่อยู่ตรงหน้าอย่างเต็มแรง“อ๊ากกก นิ้วฉันหักแล้วมั้งโคตรเจ็บเลย มีน้ำในกระป๋องนี่หว่าใครมาโยนทิ้งไว้เนี่ย”คนตัวเล็กทรุดตัวนั่งลงไปนั่งที่เก้าอี้นั่งรอรถโดยสารด้วยความเจ็บปวด จากนั้นก็เอื้อมมือไปถอดรองเท้าคัชชูสีดำออก ลิตาถึงกับร้องตกใจเมื่อเห็นมีเลือดไหลซึมออกมาที่บริเวณนิ้วโป้งข้างขวา“โอ๊ยยย เจ็บสุด ๆ เอาไงดีวะเนี่ยจะเดินไปขึ้นรถยังไงเนี่ย ส้มโอก็ยังไม่เลิกเรียนด้วย” ลิตาบ่นให้กับความเซ่อซ่าของตัวเองก่อนจะเงยหน้ามองรถBMเปิดประทุนคันหรูที่มีชายร่างสูงที่พึ่งจะแยกกันเมื่อสักครู่กำลังขับผ่านตรงหน้าไปแต่ทว่าขณะที่ร่างเล็กกำลังนั่งก้มหน้าด้วยความเจ็บปวดอยู่นั้นก็มีชายร่างสูงใหญ่ที่ดูคุ้นตากำลังยืนตรงหน้าเธอ“ไง!ไปฟัดกับหมาที่ไหนมาอีกถึงได้มานั่งเจ็บอยู่ตรงนี้” พูดจ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-17
  • สาวช่างศิลป์กับหนุ่มวิศวะ   ตอนที่ 2 ทำแผล #2

    ห้องปฐมพยาบาลเสียงเคาะประตูดังขึ้นเพื่อให้คนด้านในได้ยิน“เข้ามาได้ค่ะ” เสียงหวานของหมอเจนส่งเสียงบอกให้คนที่อยู่ด้านนอกได้ยิน“สวัสดีค่ะหมอเจน” มุมปากสวยของส้มโอยกยิ้มให้กับคุณหมอ“มาค่ะ คนเจ็บมานั่งตรงนี้ ขอหมอเจนดูแผลหน่อยค่ะ” คุณหมอเอ่ยพูดพร้อมกับส่งยิ้มหวานก่อนจะเลื่อนเก้าอี้มาให้คนเจ็บ“ไปโดนอะไรมาคะ”“เดินไปเตะกระป๋องน้ำอัดลมค่ะ”“น่าจะอักเสบนะ เดี๋ยวหมอทำแผลให้แล้วสั่งยาแก้อักเสบไปไว้ให้กิน” คุณหมอเอ่ยพร้อมกับรอยยิ้มก่อนจะสาวเท้าไปหยิบอุปกรณ์ทำแผล“เสร็จแล้วค่ะ” คุณหมอเอ่ยบอกกับหญิงสาวทั้งสองคนก่อนจะเดินไปหยิบซองยาแก้อักเสบและยาแก้ปวดที่จัดเตรียมไว้ในกล่องเพื่อความสะดวกรวดเร็วกับการจ่ายยา“นี่ยาแก้อักเสบกับยาแก้ปวดค่ะ” ถ้าปวดแผลก็ให้กินยาได้เลยค่ะ“ขอบคุณค่ะ” ลิตายื่นมือเรียวยาวของเธอไปรับยามาก่อนจะส่งยิ้มหวานให้กับคุณหมอคนสวยนานเกือบชั่วโมงหญิงสาวทั้งสองคนก็สาวเท้าเดินออกมาจากห้องปฐมพยาบาล ส้มโอหลุบมองนาฬิกาที่ข้อมือเล็กของตัวเอง ก่อนจะเอ่ยบอกกับเพื่อนสนิท“ลิตาแยกกันตรงนี้นะ จะได้เวลาเข้าเรียนแล้ว”“โอเค ๆ แล้วค่อยคุยกัน”คนตัวเล็กสาวเท้าเดินไปตามริมฟุตบาทที่เป็นระหว่างทาง

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-17

บทล่าสุด

  • สาวช่างศิลป์กับหนุ่มวิศวะ   ตอนที่ 2 ทำแผล #2

    ห้องปฐมพยาบาลเสียงเคาะประตูดังขึ้นเพื่อให้คนด้านในได้ยิน“เข้ามาได้ค่ะ” เสียงหวานของหมอเจนส่งเสียงบอกให้คนที่อยู่ด้านนอกได้ยิน“สวัสดีค่ะหมอเจน” มุมปากสวยของส้มโอยกยิ้มให้กับคุณหมอ“มาค่ะ คนเจ็บมานั่งตรงนี้ ขอหมอเจนดูแผลหน่อยค่ะ” คุณหมอเอ่ยพูดพร้อมกับส่งยิ้มหวานก่อนจะเลื่อนเก้าอี้มาให้คนเจ็บ“ไปโดนอะไรมาคะ”“เดินไปเตะกระป๋องน้ำอัดลมค่ะ”“น่าจะอักเสบนะ เดี๋ยวหมอทำแผลให้แล้วสั่งยาแก้อักเสบไปไว้ให้กิน” คุณหมอเอ่ยพร้อมกับรอยยิ้มก่อนจะสาวเท้าไปหยิบอุปกรณ์ทำแผล“เสร็จแล้วค่ะ” คุณหมอเอ่ยบอกกับหญิงสาวทั้งสองคนก่อนจะเดินไปหยิบซองยาแก้อักเสบและยาแก้ปวดที่จัดเตรียมไว้ในกล่องเพื่อความสะดวกรวดเร็วกับการจ่ายยา“นี่ยาแก้อักเสบกับยาแก้ปวดค่ะ” ถ้าปวดแผลก็ให้กินยาได้เลยค่ะ“ขอบคุณค่ะ” ลิตายื่นมือเรียวยาวของเธอไปรับยามาก่อนจะส่งยิ้มหวานให้กับคุณหมอคนสวยนานเกือบชั่วโมงหญิงสาวทั้งสองคนก็สาวเท้าเดินออกมาจากห้องปฐมพยาบาล ส้มโอหลุบมองนาฬิกาที่ข้อมือเล็กของตัวเอง ก่อนจะเอ่ยบอกกับเพื่อนสนิท“ลิตาแยกกันตรงนี้นะ จะได้เวลาเข้าเรียนแล้ว”“โอเค ๆ แล้วค่อยคุยกัน”คนตัวเล็กสาวเท้าเดินไปตามริมฟุตบาทที่เป็นระหว่างทาง

  • สาวช่างศิลป์กับหนุ่มวิศวะ   ตอนที่ 2 ทำแผล #1

    ป้ายรถเมล์คนตัวเล็กเดินสาวเท้ามาหยุดอยู่ที่ป้ายรถเมล์พร้อมกับเอามือขึ้นมายีที่หัวของตัวเองด้วยความโมโหให้กับคนตัวสูงร่างใหญ่ที่พึ่งจะแยกกันที่ลานจอดรถของมหาลัยเมื่อสักครู่“ยิ่งคิดก็ยิ่งหงุดหงิด หลอกให้เราพาวิ่งเหนื่อยหอบจนแทบจะหยุดหายใจ” หลังจากพูดจบคนตัวเล็กก็ยกเท้าขึ้นมาเตะไปที่กระป๋องเปล่าน้ำอัดลมที่ถูกวางทิ้งไว้กับพื้นที่อยู่ตรงหน้าอย่างเต็มแรง“อ๊ากกก นิ้วฉันหักแล้วมั้งโคตรเจ็บเลย มีน้ำในกระป๋องนี่หว่าใครมาโยนทิ้งไว้เนี่ย”คนตัวเล็กทรุดตัวนั่งลงไปนั่งที่เก้าอี้นั่งรอรถโดยสารด้วยความเจ็บปวด จากนั้นก็เอื้อมมือไปถอดรองเท้าคัชชูสีดำออก ลิตาถึงกับร้องตกใจเมื่อเห็นมีเลือดไหลซึมออกมาที่บริเวณนิ้วโป้งข้างขวา“โอ๊ยยย เจ็บสุด ๆ เอาไงดีวะเนี่ยจะเดินไปขึ้นรถยังไงเนี่ย ส้มโอก็ยังไม่เลิกเรียนด้วย” ลิตาบ่นให้กับความเซ่อซ่าของตัวเองก่อนจะเงยหน้ามองรถBMเปิดประทุนคันหรูที่มีชายร่างสูงที่พึ่งจะแยกกันเมื่อสักครู่กำลังขับผ่านตรงหน้าไปแต่ทว่าขณะที่ร่างเล็กกำลังนั่งก้มหน้าด้วยความเจ็บปวดอยู่นั้นก็มีชายร่างสูงใหญ่ที่ดูคุ้นตากำลังยืนตรงหน้าเธอ“ไง!ไปฟัดกับหมาที่ไหนมาอีกถึงได้มานั่งเจ็บอยู่ตรงนี้” พูดจ

  • สาวช่างศิลป์กับหนุ่มวิศวะ   ตอนที่ 1 เปิดเทอม #2

    “เชี่ยยย นั่นมันพี่เขานี่ เอาไงดีวะ” เสียงคนตัวเล็กพูดบ่นเบาๆ ก่อนจะค่อยๆ ย่องหมุนตัวหนีออกมาจากตรงนั้นให้ไวที่สุด แต่ทว่าเธอไม่อาจรอดพ้นสายตาอันแหลมคมของเขาได้ “ไง” เสียงทุ้มเอ่ยทักคนตัวเล็กที่อยู่ตรงหน้า “เชี่ยยแล้ว เห็นจนได้” คำอุทานหลุดออกมาจากปากของลิตาก่อนที่เธอจะหมุนตัวไปหาเขา “เจอกันอีกแล้ว” เรียวปากสวยเอ่ยพูดพร้อมกับฉีกยิ้มหวาน พยายามใจดีสู้เสือ “ทำให้ฉันรถล้มแล้วก็วิ่งหนีไปหน้าตาเฉย” วายุเลิกคิ้วขึ้นก่อนจะจับข้อมือของลิตาแน่น “ปล่อยสิ จับทำไมมันเจ็บ” ลิตาสะบัดแขนที่ถูกมือแกร่งของวายุจับไว้แน่น แต่ทว่ายิ่งเธอสะบัดเขาก็ยิ่งจับแน่นขึ้นอีก “ถ้าพี่ไม่ปล่อยเจอดีแน่” “ตัวเท่าลูกหมาจะทำอะไรฉันได้” “ก็ซัดพี่ร่วงลงได้เหมือนกันนั่นแหละ” “ประสาท! แค่ฉันจับเธอยังดิ้นไม่หลุดเลย” “แล้วพี่จะมาจับเราไว้ทำไม” “เธอไม่คิดจะรับผิดชอบอะไรเลยเหรอ” วายุเลิกคิ้วถามคนตัวเล็กด้วยสีหน้าเอาเรื่อง “รับผิดชอบเรื่องอะไร” ลิตาทำหน้านิ่งใส่คนตรงหน้า “ที่เธอทำรถสุดหวงของฉันล้มเมื่อวาน” “แล้วพี่จะให้เรารับผิดชอบยังไง ถ้าเงินเราไม่มีหรอกนะ” “ทำได้ทุกอย่างเลยใช่ไหมรับปากมาสิ” เสียงทุ้มหนักเอ่ยถามก

  • สาวช่างศิลป์กับหนุ่มวิศวะ   ตอนที่ 1 เปิดเทอม #1

    เช้าวันจันทร์ อากาศตอนเช้าค่อนข้างมืดครึ้ม ลมพัดโชยเอากลิ่นอายฝนมาจากที่ห่างไกล คล้ายว่าที่อื่นฝนกำลังตก บรรยากาศเรียกได้ว่าค่อนข้างโรแมนติก ทางเข้ามหาลัยเริ่มมีนักศึกษาทยอยกันเดินเข้ามา ถ้าเป็นพวกปีสองขึ้นไป ส่วนใหญ่จะมาด้วยรถส่วนตัว ลิตาคือหนึ่งในนั้น เด็กสาวที่ไม่มีจุดเด่น เธอเดินเข้ามาพร้อมคนอื่น ๆ และกลมกลืนไปกับฝูงชนโดยไม่มีใครสังเกตเห็น ขณะที่เธอกำลังจะเดินไปที่ตึกของคณะ บังเอิญได้ยินนักศึกษาสาวหลายคนส่งเสียงกรี๊ดกร๊าดราวกับว่าได้เจอดารา “พี่วายุโคตรเท่เลยว่ะแก นาน ๆ จะเห็นพี่เขาขับ BMWเปิดประทุนมาเรียน” “ทำไงเราจะได้มีวาสนาเป็นตุ๊กตาหน้ารถของพี่เขาบ้าง” “ฝันไปก่อนเถอะ” เสียงหัวเราะคิกคักของนักศึกษาหญิงกลุ่มใหญ่ ทำให้ลิตาต้องมองไปที่รถยนต์สีดำคันหรูที่เพิ่งจะเลี้ยวเข้าไปจอดหน้าตึกคณะวิศวกรรมศาสตร์ แต่ก่อนที่เจ้าของรถจะก้าวลงมา เธอก็ดึงสายตากลับ บ้านของลิตาไม่ใช่คนมีฐานะ เธอจึงมักหลีกเลี่ยงพวกลูกคนรวย เมื่อเห็นรถหรูราคาหลายล้าน เธอเลยไม่ให้ความสนใจ สองเท้าหนักของวายุสาวเท้าเดินเข้ามาในกลุ่มของตัวเองที่นั่งอยู่โต๊ะหินอ่อนบริเวณข้างตึกวิศวะพร้อมกับสายตาของนักศึกษาหลายคนที่ค

  • สาวช่างศิลป์กับหนุ่มวิศวะ   บทนำ

    วันปฐมนิเทศคณะศิลปศาสตร์ในสวนหย่อมมหาวิทยาลัยเวลานี้มีรุ่นพี่หลายคณะมาคอยรับน้องกันอย่างเนืองแน่น เสียงเด็กวิศวะกลุ่มหนึ่งดังขึ้นให้โต๊ะข้าง ๆ ได้ยิน“เฮ้ย มาเล่นเกมทายกัน”“เหมือนเดิมใช่ไหม” หนุ่มหล่อสูงขาวท่าทางไฮโซคนหนึ่งถามขึ้นพลางมองไปที่เส้นแดงบนทางเข้ามหาลัยเกมที่พวกเขากำลังพูดถึงเป็นเกมที่เด็กวิศวะนิยมเล่นกันเป็นประจำ คือการทายว่าน้องที่เดินผ่านเส้นแดงเข้ามาเรียนคณะอะไรบ้าง กฏิกาคือถ้าใครทายผิด ต้องไปจีบน้องคนนั้นให้ติดเด็กวิศวะกลุ่มนี้ เรียกได้ว่าเป็นตัวท็อปของมหาลัย เพราะนอกจากแต่ละคนจะมีรูปร่างหน้าตาดีแล้ว ยังมีฐานะร่ำรวย เวลาที่พวกเขามารวมตัวกันจึงมักตกเป็นเป้าสายตาของนักศึกษาสาวจากทุกคณะ ถ้าจะพูดกันตามจริง พวกเขาไม่จำเป็นต้องไปตามจีบใคร เพราะทุกวันนี้มีผู้หญิงที่มาต่อคิวรอให้เด็กหนุ่มกลุ่มนี้สนใจมีจนนับไม่ถ้วน“ตามึงแล้วไอ้ยุ พวกกูเล่นกันไปหมดแล้ว”คนที่ถูกเรียกชื่อเงยหน้าจากมือถือในมือมามองเพื่อน ก่อนจะมองไปที่นักศึกษาสาวที่กำลังทยอยเดินเข้ามา เท่าที่มองผ่านตา เขายังไม่เห็นว่าจะมีน้องคนไหนถูกสเปกเลยสักคน“ไม่เล่นได้ไหมวะ หน้าตาไม่เข้าเบ้าเลยสักคน” วายุส่ายหน้าบอกเพื่อ

DMCA.com Protection Status