"ส่วนเรื่องหอเดือนดับ คราวหลังพาพี่ไปด้วยได้หรือไม่ พี่อยากจะไปศึกษาอะไรเพิ่มเสียหน่อย"น้ำเสียงที่แผ่วเบาอยู่แล้วยิ่งเบาลงไปอีก แต่กระนั้นเจิ้งจื่อห้าวที่นั่งอยู่ไม่ไกลก็คอยเงี่ยหูฟังตลอดว่าทั้งสองคุยอะไรกัน แม้ว่าตรงหน้าเขากำลังพูดคุยกับเจิ้งลู่เหอเกี่ยวกับการสร้างถนนก็ตาม"ศึกษาอะไรหรือเพคะ?""ท่วงท่าการร่วมรักของหญิงคณิกาอย่างไรเล่า"พรวด!!"แค่ก ๆ"เจิ้งจื่อห้าวที่กำลังดื่มน้ำชาพลันสำลักน้ำชาออกมาทันที"เป็นอะไรเจ้าสาม เหตุใดถึงได้สำลักน้ำชาได้เล่า""เสด็จพี่อย่าได้ทรงกังวลเลยพ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมไม่ได้เป็นอะไรมากแล้ว"ขณะตอบเจิ้งไห่ถัง สายตาของเขาก็ได้สบประสานกับสายตาของอวี้หลันเข้าพอดี นางยกยิ้มมุมปากพลางแสร้งเลียริมฝีปากของตนช้า ๆ โดยที่ไม่มีผู้ใดสังเกตเห็น เจิ้งจื่อห้าวที่เห็นเช่นนั้น แทบอยากจะอุ้มพระชายาของตนกลับไปลงโทษที่วังเจียวจินเสียเดี๋ยวนี้เลยนางรู้ว่าเขาแอบฟังอยู่สินะ!"เสด็จพี่สามนี่ไม่ไหวเลยนะเจ้าคะ แค่ดื่มน้ำชาก็สำลักขึ้นมาเสียได้ ดีที่ข้าไม่ได้นั่งอยู่ใกล้ ๆ หากน้ำชา
บทที่ 16ไม่ใช่เรื่องสำคัญ วังเจียวจินทันทีที่ทั้งสองกลับมาถึงวังเจียวจิน อวี้หลันก็เร่งฝีเท้าเดินกลับเรือนของตนอย่างเร่งรีบ โดยที่นางไม่แม้แต่จะชายตาแลเจิ้งจื่อห้าวที่เร่งเดินตามมาด้วยเลย"พระชายาโกรธอะไรข้าหรือ""ไม่มีนี่เพคะ องค์ชายสามทรงเข้าใจผิดแล้วเพคะ"ดวงหน้างดงามเชิดใบหน้าขึ้น แล้วสั่งการกับรั่วซีด้วยน้ำเสียงรัวเร็ว"ข้าอยากอยู่คนเดียว เจ้าไม่ต้องเข้าไปปรนนิบัติข้า แล้วงานที่ข้าส่งให้ไปทำถึงไหนแล้ว"รั่วซีไม่รู้ว่าเจ้านายสาวทรงแง่งอนองค์ชายสามด้วยเรื่องใด แต่เวลานี้เห็นทีนางจะต้องสงบปากสงบคำหากไม่อยากโดนลูกหลงไปด้วย"เอ่อ ตอนนี้มีรายชื่อทั้งหมดกว่าสิบคนแล้วเพคะ แต่เรื่องส่วนตัวที่ต้องลงลึกลงไปนั้น หม่อมฉันไม่สามารถสืบทราบได้เพคะ""ช่างเถอะ เดี๋ยวเจ้าเอารายชื่อทั้งหมดมาให้ข้าก็เป็นพอ""เพคะพระชายา"เจิ้งจื่อห้าวยืนฟังอย
"กระหม่อมจะช่วยองค์ชายเองพ่ะย่ะค่ะ"ฉีหมิงอยากจะหัวเราะแต่ต้องกลั้นขำเอาไว้ เขาล่ะนึกสงสัยเสียแล้วว่าตกลงพระชายา หรือองค์ชายของเขากันแน่ที่มีอำนาจมากกว่ากัน ภายนอกพระชายาก็ทรงยอมอ่อนข้อและให้เกียรติองค์ชายของเขา แต่จากที่เขาสังเกตมานั้นองค์ชายของเขากลับเป็นฝ่ายที่ยอมอ่อนข้อให้พระชายาเสียมากกว่า แค่คำพูดเพียงประโยคเดียวของพระชายา องค์ชายก็พร้อมจะยอมทำตามทุกสิ่งทุกอย่างที่พระชายาทรงปรารถนาแล้ว"ขอบใจเจ้ามาก เจ้าไปได้แล้วล่ะ""พ่ะย่ะค่ะ"เจิ้งจื่อห้าวจมกับความคิดของตนเอง ตัวเขาเองก็เริ่มรู้สึกได้ว่าการกระทำของตนนั้นมันแปลกไป เขาที่แทบจะไม่แยแสผู้ใดกลับเริ่มหันมาใส่ใจความรู้สึกของอวี้หลัน กระวนกระวายทุกครั้งที่นางรู้สึกไม่สบอารมณ์ และร้อนใจที่นางรู้สึกไม่สบายใจ หรือว่าเขา...อ่า คงไม่ใช่หรอก คงจะเป็นเพราะเขารู้สึกดีที่ได้หลับนอนกับนางต่างหากเล่า จึงไม่อยากให้นางรู้สึกไม่ดีจนพาลไม่อยากหลับนอนกับเขาด้วยคงเป็นแบบนั้นแหละ! ตัวเขาจะหลงรักใครเป็นด้วยหรือ? ไม่มีทางหรอก ต้องไม่ใช่แน่ ๆ!! เมื่อถึงยามซวี (เวลา 19.00 - 20.59 น.) เจิ้
บทที่ 17หวังดีกับน้องสาว หลังจากที่ทั้งสองทานมื้อเช้าด้วยกันแล้ว ฉีหมิงก็ได้นำรายชื่อของคุณชายในเมืองหลวง และประวัติที่เขาพอจะสืบทราบได้มามอบให้กับเจิ้งจื่อห้าว ชายหนุ่มรับมาด้วยความยินดี รอยยิ้มของเขากว้างขึ้นจนอวี้หลันรู้สึกหมั่นไส้"นี่เป็นรายชื่อและประวัติที่กระหม่อมพอจะสืบทราบได้พ่ะย่ะค่ะ""ขอบใจเจ้ามากฉีหมิง เจ้าออกไปก่อนเถิด""พ่ะย่ะค่ะ"เจิ้งจื่อห้าวรีบเข้ามาจูงมืออวี้หลันเข้าไปยังห้องหนังสือ พานางมานั่งลงที่เก้าอี้ตัวโปรดของเขา มืออีกข้างก็รีบย้ายหนังสือและงานของตนเองออกไปจากบนโต๊ะ เพื่อให้หญิงสาวได้ใช้โต๊ะของเขาได้ เจิ้งจื่อห้าวมอบรายชื่อทั้งหมดให้กับอวี้หลันด้วยความยินดี ใบหน้าหล่อเหลาเกลื่อนไปด้วยรอยยิ้มกว้าง"พระชายาสามารถใช้โต๊ะทำงานของข้าได้เลย ไม่ว่าเวลาใดก็สามารถเข้ามาที่ห้องหนังสือของข้าได้เช่นกัน""ขอบพระทัยเสด็จพี่เพคะ"คำเรียกขานของอวี้หลันเปลี่ยนไปตามความรู้สึกข
"พระชายาตั้งใจให้นางเห็นหรือ?"เจิ้งจื่อห้าวเป็นผู้มีวรยุทธ์ซึ่งเรื่องนี้มีน้อยคนนักที่จะรู้ สตรีที่เดินผ่านพวกเขาไปเมื่อครู่นี้ก็คือคุณหนูรองซุนหนิงเหอนั่นเอง เขาได้เห็นทุกการกระทำของพระชายาทุกอย่าง ภายในใจของเจิ้งจื่อห้าวรู้สึกดีเล็กน้อย ราวกับว่าอวี้หลันกำลังแสดงความเป็นเจ้าข้าวเจ้าของเขา และนางยังหึงหวงได้น่ากลัวยิ่ง"หม่อมฉันทำให้นางปวดใจไม่ได้หรือเพคะ?"อวี้หลันเลิกคิ้วขึ้นเป็นเชิงถาม ปลายน้ำเสียงติดห้วนเล็กน้อยอย่างไม่ใคร่จะพอใจนัก เจิ้งจื่อห้าวรีบเอ่ยแก้ตัวทันที"ไม่ใช่เช่นนั้น คนเดียวที่ข้ากลัวจะปวดใจก็มีแค่พระชายาคนเดียวเท่านั้น ที่ข้าถามเพราะสงสัยว่าพระชายารู้ได้อย่างไรว่านางจะมารอแอบดูพวกเราต่างหากเล่า"เจิ้งจื่อห้าวสงสัยตั้งแต่ที่อวี้หลันสั่งให้คนจอดรถม้าที่หน้าจวนตระกูลอวี้แล้ว แทนที่จะให้คนบังคับรถม้าเข้าไปด้านในเลย"ความรู้สึกของสตรีเพคะ เรารีบเข้าไปด้านในกันเถิดเพคะ"อวี้หลันไม่ได้ไขข้อข้องใจให้แก่เจิ้งจื่อห้าว นางเดินนำเขาเข้าไปในจวนตระกูลอวี้ซึ่งบัดนี้ทุกคนได้มารอพบนางกันหมดแล้ว"ถวายพระพรองค์
บทที่ 18มารยาของสตรี หลันหนิงเหมยปิดประตูหน้าต่างแน่นเพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ใดเข้ามาได้ยินในสิ่งที่พวกนางจะคุยกัน โดยหน้าห้องยังมีรั่วซีและสาวใช้ของนางคอยเฝ้าเอาไว้ด้วย แม้แต่แมลงสักตัวก็ไม่สามารถเล็ดลอดเข้ามาได้ยินบทสนทนานี้ได้"คุณชายท่านใดคือคนที่พระชายาต้องการเพคะ?"อวี้หลันยกยิ้มด้วยความถูกใจ หลันหนิงเหมยคือสตรีที่เฉลียวฉลาด แค่นางเห็นรายชื่อก็รู้แล้วว่าจะต้องทำอย่างไร "แล้วแต่ท่านพ่อว่าจะเลือกคุณชายท่านใด นี่เป็นวาสนาของน้องรอง แต่ในความคิดของข้าคุณชายใหญ่ซุนก็ถือว่าใช้ได้เลยล่ะ""เข้าใจแล้วเพคะ หม่อมฉันจะช่วยพระชายาในเรื่องนี้เองเพคะ"สตรีทั้งสองส่งยิ้มให้แก่กันและกัน ก่อนจะเปลี่ยนเรื่องคุยเป็นเรื่องอื่น"แม่สามเป็นอย่างไรบ้าง คุ้นเคยกับจวนตระกูลอวี้หรือยัง""พระชายาอย่าได้ทรงเป็นห่วงเลยเพคะ ตอนนี้หม่อมฉันมีคนของตนเองเพิ่มขึ้นแล้วเพคะ จะทำการสิ่งใดก็ง่ายดายนัก ท่านพี่เองก็ให้คว
เรือนไม้หลังงามที่เพิ่งปรับปรุงใหม่จนงดงามหรูหรา คือเรือนที่พักอาศัยของหลันหนิงเหมย ฮูหยินสามของท่านเสนาบดีอวี้ หญิงสาวบรรจงแช่น้ำมันหอมระเหยนานกว่าปกติเล็กน้อย ทั้งยังบรรจงใช้น้ำมันหอมมาทาบำรุงผิวอีกกว่าสามตำรับ เพราะในค่ำคืนนี้ นางจะต้องใช้เสน่ห์ของตนเพื่อหว่านล้อมสามีให้จงได้"เรียบร้อยแล้วเจ้าค่ะฮูหยินสาม"สาวใช้คนสนิทเดินถอยหลังออกไป เมื่อนางทำหน้าที่ของตนเสร็จแล้ว"ขอบใจเจ้ามาก เจ้ากลับไปพักได้แล้วล่ะ""เจ้าค่ะ"คล้อยหลังที่สาวใช้เดินจากไป หลันหนิงเหมยก็ได้ลุกขึ้นไปเปลี่ยนอาภรณ์ของตนเอง นางจงใจสวมชุดนอนที่บางเบากว่าทุกครั้ง เมื่อตรวจดูความเรียบร้อยจนเป็นที่น่าพอใจแล้ว หลันหนิงเหมยจึงได้สวมผ้าคลุมผืนใหญ่เพื่อปกปิดร่างกายของตนเองเอาไว้ หญิงสาวเดินออกไปพบอวี้เฉินฟู่ที่กำลังนั่งทำงานอยู่ในห้องถัดไป"ท่านพี่เจ้าคะ ข้าขอเข้าไปด้านในได้หรือไม่เจ้าคะ"น้ำเสียงหวานละมุนที่ช่างออดอ้อนดังขึ้นมาจากหน้าห้อง อวี้เฉินฟู่ที่กำลังอ่านรายชื่อที่ได้รับมาเงยหน้าขึ้นมามองด้วยสงสัยปนแปลกใจ เพราะทุกคราหลันหนิงเหมยจะรอเขาอยู่ที่ห้องของนาง
บทที่ 19คุณชายใหญ่ซุนหลีเหว่ย จวนตระกูลซุนซุนหนิงเหอกลับมาที่จวนด้วยสีหน้าไม่สู้ดีนัก นางทั้งโมโหและเจ็บใจที่ถูกอวี้หลันเยาะเย้ย ความแค้นในครั้งนี้นางจะต้องชำระอย่างแน่นอน"ผู้ใดมาทำให้น้องสาวของพี่ต้องขุ่นเคืองใจกันนะ"'ซุนหลีเหว่ย' ที่เพิ่งกลับมาจากด้านนอกเอ่ยถามด้วยความห่วงใย สีหน้าที่อยากจะสังหารคนของน้องสาวทำให้เขานึกสงสัย"หากข้าบอกไป พี่ใหญ่ช่วยข้าได้หรือไม่เจ้าคะ""เจ้าก็ลองบอกมาก่อนสิ""พระชายาขององค์ชายสามเจ้าค่ะ นางจงใจยั่วโทสะข้า!"ชายหนุ่มที่ได้ฟังคำของน้องสาวก็ส่ายหัวไปมาด้วยความจนใจ คนตระกูลซุนผู้ใดไม่รู้บ้างว่าน้องสาวของเขาหลงรักองค์ชายสามผู้นี้มาก ทั้งที่อีกฝ่ายมีดีแค่หน้าตาแต่กลับไม่เอาไหนสักอย่าง ไม่รู้ว่าน้องสาวของเขาไปชอบพอได้อย่างไร เจิ้งจื่อห้าวผู้นี้ก็แค่โชคดีที่ได้เกิดเป็นองค์ชายเท่านั้นเอง หากเกิดในตระกูลขุนนางเขาก็คือชายที่ไร้ประโยชน์ ไร้ค่าราวกับมดปลวก!
ซุนหลีเหว่ยออกมาเที่ยวที่หอเดือนดับ เขาเป็นคุณชายที่ตำแหน่งไม่ธรรมดา อายุเพียงแค่นี้ก็ได้เป็นถึงขุนนางขั้นห้า มีหน้าที่ดูแลเมืองกวงที่อยู่ไม่ห่างจากเมืองหลวงมากนัก แต่เพราะเขาได้รับคำสั่งให้กลับมาช่วยงานในเมืองหลวง เวลานี้เขาจึงสามารถอยู่ในเมืองหลวงได้อย่างสำราญใจ"คิดว่าใครที่ไหน ที่แท้ก็คุณชายใหญ่นี่เอง"เจิ้งจื่อห้าวเดินเข้ามาทักทายซุนหลีเหว่ยอย่างอารมณ์ดี พัดในมือที่ด้ามทำจากไม้ราคาแพงโบกไปมา สายตาคู่คมกำลังพิจารณาอีกฝ่ายไปด้วย เพราะคำเตือนของอวี้หลันทำให้เขาเริ่มหันเหมาสนใจตระกูลซุน ผู้เป็นแขกประจำของหอเดือนดับ"คารวะองค์ชายสามพ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมไม่คิดเลยว่าจะโชคดีได้พบองค์ชายสามด้วยพ่ะย่ะค่ะ"ซุนหลีเหว่ยแสร้งยกยิ้มราวกับยินดีเหลือเกิน ทั้งที่ในใจของเขาอยากจะหลีกหนีเจิ้งจื่อห้าวไปให้ไกล บุรุษเช่นองค์ชายสามไม่ควรจะเสวนาด้วย!"ข้าก็มาเป็นแขกประจำของที่นี่อยู่บ่อยครั้ง แต่เพิ่งเคยพบเจ้าที่นี่เหมือนกัน""กระหม่อมแค่มาพบสหายพ่ะย่ะค่ะ อีกไม่นานก็จะกลับแล้ว""อ้อ...เช่นนั้นข้าไม่รบกวนเจ้าแล้วล่ะ ข้าเองก็กำลังรีบไปเล่น...เอ่
บทที่ 19คุณชายใหญ่ซุนหลีเหว่ย จวนตระกูลซุนซุนหนิงเหอกลับมาที่จวนด้วยสีหน้าไม่สู้ดีนัก นางทั้งโมโหและเจ็บใจที่ถูกอวี้หลันเยาะเย้ย ความแค้นในครั้งนี้นางจะต้องชำระอย่างแน่นอน"ผู้ใดมาทำให้น้องสาวของพี่ต้องขุ่นเคืองใจกันนะ"'ซุนหลีเหว่ย' ที่เพิ่งกลับมาจากด้านนอกเอ่ยถามด้วยความห่วงใย สีหน้าที่อยากจะสังหารคนของน้องสาวทำให้เขานึกสงสัย"หากข้าบอกไป พี่ใหญ่ช่วยข้าได้หรือไม่เจ้าคะ""เจ้าก็ลองบอกมาก่อนสิ""พระชายาขององค์ชายสามเจ้าค่ะ นางจงใจยั่วโทสะข้า!"ชายหนุ่มที่ได้ฟังคำของน้องสาวก็ส่ายหัวไปมาด้วยความจนใจ คนตระกูลซุนผู้ใดไม่รู้บ้างว่าน้องสาวของเขาหลงรักองค์ชายสามผู้นี้มาก ทั้งที่อีกฝ่ายมีดีแค่หน้าตาแต่กลับไม่เอาไหนสักอย่าง ไม่รู้ว่าน้องสาวของเขาไปชอบพอได้อย่างไร เจิ้งจื่อห้าวผู้นี้ก็แค่โชคดีที่ได้เกิดเป็นองค์ชายเท่านั้นเอง หากเกิดในตระกูลขุนนางเขาก็คือชายที่ไร้ประโยชน์ ไร้ค่าราวกับมดปลวก!
เรือนไม้หลังงามที่เพิ่งปรับปรุงใหม่จนงดงามหรูหรา คือเรือนที่พักอาศัยของหลันหนิงเหมย ฮูหยินสามของท่านเสนาบดีอวี้ หญิงสาวบรรจงแช่น้ำมันหอมระเหยนานกว่าปกติเล็กน้อย ทั้งยังบรรจงใช้น้ำมันหอมมาทาบำรุงผิวอีกกว่าสามตำรับ เพราะในค่ำคืนนี้ นางจะต้องใช้เสน่ห์ของตนเพื่อหว่านล้อมสามีให้จงได้"เรียบร้อยแล้วเจ้าค่ะฮูหยินสาม"สาวใช้คนสนิทเดินถอยหลังออกไป เมื่อนางทำหน้าที่ของตนเสร็จแล้ว"ขอบใจเจ้ามาก เจ้ากลับไปพักได้แล้วล่ะ""เจ้าค่ะ"คล้อยหลังที่สาวใช้เดินจากไป หลันหนิงเหมยก็ได้ลุกขึ้นไปเปลี่ยนอาภรณ์ของตนเอง นางจงใจสวมชุดนอนที่บางเบากว่าทุกครั้ง เมื่อตรวจดูความเรียบร้อยจนเป็นที่น่าพอใจแล้ว หลันหนิงเหมยจึงได้สวมผ้าคลุมผืนใหญ่เพื่อปกปิดร่างกายของตนเองเอาไว้ หญิงสาวเดินออกไปพบอวี้เฉินฟู่ที่กำลังนั่งทำงานอยู่ในห้องถัดไป"ท่านพี่เจ้าคะ ข้าขอเข้าไปด้านในได้หรือไม่เจ้าคะ"น้ำเสียงหวานละมุนที่ช่างออดอ้อนดังขึ้นมาจากหน้าห้อง อวี้เฉินฟู่ที่กำลังอ่านรายชื่อที่ได้รับมาเงยหน้าขึ้นมามองด้วยสงสัยปนแปลกใจ เพราะทุกคราหลันหนิงเหมยจะรอเขาอยู่ที่ห้องของนาง
บทที่ 18มารยาของสตรี หลันหนิงเหมยปิดประตูหน้าต่างแน่นเพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ใดเข้ามาได้ยินในสิ่งที่พวกนางจะคุยกัน โดยหน้าห้องยังมีรั่วซีและสาวใช้ของนางคอยเฝ้าเอาไว้ด้วย แม้แต่แมลงสักตัวก็ไม่สามารถเล็ดลอดเข้ามาได้ยินบทสนทนานี้ได้"คุณชายท่านใดคือคนที่พระชายาต้องการเพคะ?"อวี้หลันยกยิ้มด้วยความถูกใจ หลันหนิงเหมยคือสตรีที่เฉลียวฉลาด แค่นางเห็นรายชื่อก็รู้แล้วว่าจะต้องทำอย่างไร "แล้วแต่ท่านพ่อว่าจะเลือกคุณชายท่านใด นี่เป็นวาสนาของน้องรอง แต่ในความคิดของข้าคุณชายใหญ่ซุนก็ถือว่าใช้ได้เลยล่ะ""เข้าใจแล้วเพคะ หม่อมฉันจะช่วยพระชายาในเรื่องนี้เองเพคะ"สตรีทั้งสองส่งยิ้มให้แก่กันและกัน ก่อนจะเปลี่ยนเรื่องคุยเป็นเรื่องอื่น"แม่สามเป็นอย่างไรบ้าง คุ้นเคยกับจวนตระกูลอวี้หรือยัง""พระชายาอย่าได้ทรงเป็นห่วงเลยเพคะ ตอนนี้หม่อมฉันมีคนของตนเองเพิ่มขึ้นแล้วเพคะ จะทำการสิ่งใดก็ง่ายดายนัก ท่านพี่เองก็ให้คว
"พระชายาตั้งใจให้นางเห็นหรือ?"เจิ้งจื่อห้าวเป็นผู้มีวรยุทธ์ซึ่งเรื่องนี้มีน้อยคนนักที่จะรู้ สตรีที่เดินผ่านพวกเขาไปเมื่อครู่นี้ก็คือคุณหนูรองซุนหนิงเหอนั่นเอง เขาได้เห็นทุกการกระทำของพระชายาทุกอย่าง ภายในใจของเจิ้งจื่อห้าวรู้สึกดีเล็กน้อย ราวกับว่าอวี้หลันกำลังแสดงความเป็นเจ้าข้าวเจ้าของเขา และนางยังหึงหวงได้น่ากลัวยิ่ง"หม่อมฉันทำให้นางปวดใจไม่ได้หรือเพคะ?"อวี้หลันเลิกคิ้วขึ้นเป็นเชิงถาม ปลายน้ำเสียงติดห้วนเล็กน้อยอย่างไม่ใคร่จะพอใจนัก เจิ้งจื่อห้าวรีบเอ่ยแก้ตัวทันที"ไม่ใช่เช่นนั้น คนเดียวที่ข้ากลัวจะปวดใจก็มีแค่พระชายาคนเดียวเท่านั้น ที่ข้าถามเพราะสงสัยว่าพระชายารู้ได้อย่างไรว่านางจะมารอแอบดูพวกเราต่างหากเล่า"เจิ้งจื่อห้าวสงสัยตั้งแต่ที่อวี้หลันสั่งให้คนจอดรถม้าที่หน้าจวนตระกูลอวี้แล้ว แทนที่จะให้คนบังคับรถม้าเข้าไปด้านในเลย"ความรู้สึกของสตรีเพคะ เรารีบเข้าไปด้านในกันเถิดเพคะ"อวี้หลันไม่ได้ไขข้อข้องใจให้แก่เจิ้งจื่อห้าว นางเดินนำเขาเข้าไปในจวนตระกูลอวี้ซึ่งบัดนี้ทุกคนได้มารอพบนางกันหมดแล้ว"ถวายพระพรองค์
บทที่ 17หวังดีกับน้องสาว หลังจากที่ทั้งสองทานมื้อเช้าด้วยกันแล้ว ฉีหมิงก็ได้นำรายชื่อของคุณชายในเมืองหลวง และประวัติที่เขาพอจะสืบทราบได้มามอบให้กับเจิ้งจื่อห้าว ชายหนุ่มรับมาด้วยความยินดี รอยยิ้มของเขากว้างขึ้นจนอวี้หลันรู้สึกหมั่นไส้"นี่เป็นรายชื่อและประวัติที่กระหม่อมพอจะสืบทราบได้พ่ะย่ะค่ะ""ขอบใจเจ้ามากฉีหมิง เจ้าออกไปก่อนเถิด""พ่ะย่ะค่ะ"เจิ้งจื่อห้าวรีบเข้ามาจูงมืออวี้หลันเข้าไปยังห้องหนังสือ พานางมานั่งลงที่เก้าอี้ตัวโปรดของเขา มืออีกข้างก็รีบย้ายหนังสือและงานของตนเองออกไปจากบนโต๊ะ เพื่อให้หญิงสาวได้ใช้โต๊ะของเขาได้ เจิ้งจื่อห้าวมอบรายชื่อทั้งหมดให้กับอวี้หลันด้วยความยินดี ใบหน้าหล่อเหลาเกลื่อนไปด้วยรอยยิ้มกว้าง"พระชายาสามารถใช้โต๊ะทำงานของข้าได้เลย ไม่ว่าเวลาใดก็สามารถเข้ามาที่ห้องหนังสือของข้าได้เช่นกัน""ขอบพระทัยเสด็จพี่เพคะ"คำเรียกขานของอวี้หลันเปลี่ยนไปตามความรู้สึกข
"กระหม่อมจะช่วยองค์ชายเองพ่ะย่ะค่ะ"ฉีหมิงอยากจะหัวเราะแต่ต้องกลั้นขำเอาไว้ เขาล่ะนึกสงสัยเสียแล้วว่าตกลงพระชายา หรือองค์ชายของเขากันแน่ที่มีอำนาจมากกว่ากัน ภายนอกพระชายาก็ทรงยอมอ่อนข้อและให้เกียรติองค์ชายของเขา แต่จากที่เขาสังเกตมานั้นองค์ชายของเขากลับเป็นฝ่ายที่ยอมอ่อนข้อให้พระชายาเสียมากกว่า แค่คำพูดเพียงประโยคเดียวของพระชายา องค์ชายก็พร้อมจะยอมทำตามทุกสิ่งทุกอย่างที่พระชายาทรงปรารถนาแล้ว"ขอบใจเจ้ามาก เจ้าไปได้แล้วล่ะ""พ่ะย่ะค่ะ"เจิ้งจื่อห้าวจมกับความคิดของตนเอง ตัวเขาเองก็เริ่มรู้สึกได้ว่าการกระทำของตนนั้นมันแปลกไป เขาที่แทบจะไม่แยแสผู้ใดกลับเริ่มหันมาใส่ใจความรู้สึกของอวี้หลัน กระวนกระวายทุกครั้งที่นางรู้สึกไม่สบอารมณ์ และร้อนใจที่นางรู้สึกไม่สบายใจ หรือว่าเขา...อ่า คงไม่ใช่หรอก คงจะเป็นเพราะเขารู้สึกดีที่ได้หลับนอนกับนางต่างหากเล่า จึงไม่อยากให้นางรู้สึกไม่ดีจนพาลไม่อยากหลับนอนกับเขาด้วยคงเป็นแบบนั้นแหละ! ตัวเขาจะหลงรักใครเป็นด้วยหรือ? ไม่มีทางหรอก ต้องไม่ใช่แน่ ๆ!! เมื่อถึงยามซวี (เวลา 19.00 - 20.59 น.) เจิ้
บทที่ 16ไม่ใช่เรื่องสำคัญ วังเจียวจินทันทีที่ทั้งสองกลับมาถึงวังเจียวจิน อวี้หลันก็เร่งฝีเท้าเดินกลับเรือนของตนอย่างเร่งรีบ โดยที่นางไม่แม้แต่จะชายตาแลเจิ้งจื่อห้าวที่เร่งเดินตามมาด้วยเลย"พระชายาโกรธอะไรข้าหรือ""ไม่มีนี่เพคะ องค์ชายสามทรงเข้าใจผิดแล้วเพคะ"ดวงหน้างดงามเชิดใบหน้าขึ้น แล้วสั่งการกับรั่วซีด้วยน้ำเสียงรัวเร็ว"ข้าอยากอยู่คนเดียว เจ้าไม่ต้องเข้าไปปรนนิบัติข้า แล้วงานที่ข้าส่งให้ไปทำถึงไหนแล้ว"รั่วซีไม่รู้ว่าเจ้านายสาวทรงแง่งอนองค์ชายสามด้วยเรื่องใด แต่เวลานี้เห็นทีนางจะต้องสงบปากสงบคำหากไม่อยากโดนลูกหลงไปด้วย"เอ่อ ตอนนี้มีรายชื่อทั้งหมดกว่าสิบคนแล้วเพคะ แต่เรื่องส่วนตัวที่ต้องลงลึกลงไปนั้น หม่อมฉันไม่สามารถสืบทราบได้เพคะ""ช่างเถอะ เดี๋ยวเจ้าเอารายชื่อทั้งหมดมาให้ข้าก็เป็นพอ""เพคะพระชายา"เจิ้งจื่อห้าวยืนฟังอย
"ส่วนเรื่องหอเดือนดับ คราวหลังพาพี่ไปด้วยได้หรือไม่ พี่อยากจะไปศึกษาอะไรเพิ่มเสียหน่อย"น้ำเสียงที่แผ่วเบาอยู่แล้วยิ่งเบาลงไปอีก แต่กระนั้นเจิ้งจื่อห้าวที่นั่งอยู่ไม่ไกลก็คอยเงี่ยหูฟังตลอดว่าทั้งสองคุยอะไรกัน แม้ว่าตรงหน้าเขากำลังพูดคุยกับเจิ้งลู่เหอเกี่ยวกับการสร้างถนนก็ตาม"ศึกษาอะไรหรือเพคะ?""ท่วงท่าการร่วมรักของหญิงคณิกาอย่างไรเล่า"พรวด!!"แค่ก ๆ"เจิ้งจื่อห้าวที่กำลังดื่มน้ำชาพลันสำลักน้ำชาออกมาทันที"เป็นอะไรเจ้าสาม เหตุใดถึงได้สำลักน้ำชาได้เล่า""เสด็จพี่อย่าได้ทรงกังวลเลยพ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมไม่ได้เป็นอะไรมากแล้ว"ขณะตอบเจิ้งไห่ถัง สายตาของเขาก็ได้สบประสานกับสายตาของอวี้หลันเข้าพอดี นางยกยิ้มมุมปากพลางแสร้งเลียริมฝีปากของตนช้า ๆ โดยที่ไม่มีผู้ใดสังเกตเห็น เจิ้งจื่อห้าวที่เห็นเช่นนั้น แทบอยากจะอุ้มพระชายาของตนกลับไปลงโทษที่วังเจียวจินเสียเดี๋ยวนี้เลยนางรู้ว่าเขาแอบฟังอยู่สินะ!"เสด็จพี่สามนี่ไม่ไหวเลยนะเจ้าคะ แค่ดื่มน้ำชาก็สำลักขึ้นมาเสียได้ ดีที่ข้าไม่ได้นั่งอยู่ใกล้ ๆ หากน้ำชา