เวลานี้ เสี่ยวปาสามารถเบียดเข้าไปได้ง่าย ๆ ทั้งยังพาเจ้าก้อนกลมติดตัวไปด้วย“นายท่าน เด็กน้อยคราวก่อน เขาเหมือนจะเดินหลงไปอีกแล้ว บ่าวเลยพาเขามาด้วย”เสี่ยวหลางฟุบอยู่บนใบหน้าของเสี่ยวปา ใบหน้ากลมดิ๊กหมดอาลัยตายอยากเมื่อครู่เขาเห็นคนคุ้นเคยเรียกเขาประโยคหนึ่ง แต่ไม่คิดว่าท่านอาผู้นี้จะจำเขาได้ในทันที ยังอดรู้สึกไม่ได้ว่าหากเขาเดินหลงไป อาจจะถูกจับตัวไปมั่วเฉินซางหันกลับไป สายตาจับจ้องอยู่ที่ดวงตาสีฟ้าของเสี่ยวหลาง ความรู้สึกเหมือนโดนดูดเลือดถาโถมเข้ามาอย่างไม่อาจควบคุมได้เมื่อคิดว่าเด็กคนนี้อาจถูกเผ่าพันธุ์ของเขาละทิ้ง เขาก็รู้สึกผิดอย่างหนักความละเลยในฐานะราชาหมาป่าเงินของเขา นำไปสู่โศกนาฏกรรมในครั้งนี้ พวกเขาเผ่าหมาป่าเงินภักดีต่อคู่ของตัวเองมาโดยตลอด ชั่วชีวิตไม่เคยเปลี่ยนใจไม่นึกว่า จะได้เห็นใครละทิ้งลูกเมียแบบนี้ต่อหน้าต่อตาเขาเพียงแต่ว่า...เวลานั้นหญิงโง่อย่างไป๋ซือหวง ไปพบกับคนในเผ่าพันธุ์ของเขาได้อย่างไร?หรือว่านางจะถูกบังคับ?มั่วเฉินซางยิ่งคิดความรู้สึกผิดในใจก็ยิ่งหนักอึ้งขึ้นเสี่ยวหลางจ้องมองมั่วเฉินซาง มีท่าทีเชื่อฟังขึ้นมาทันที เขาชอบพี่ชายคนนี้ทุกค
“สุนัขตัวใหญ่หล่อมาก!”พอเสี่ยวหลางเห็นหมาป่าสีเทาตัวใหญ่ที่สง่างาม ก็กระโจนเข้าใส่อย่างตื่นเต้นไป๋ซือหวงเห็นดังนั้นก็บีบหัวใจ นี่คือหมาป่านะ!นางกำลังจะวิ่งไปปกป้อง แต่กลับหยุดลงเห็นเพียงหมาป่าสีเทาปล่อยให้เสี่ยวหลางแตะหัวของมันอย่างอ่อนโยน เสี่ยวหลางยังกอดคอสีขาวของหมาป่าสีเทาไว้ด้วยความรัก ทั้งสองดูเหมือนพี่น้องกันสุดยอด ทักษะนี้ถ่ายทอดทางพันธุกรรมได้ด้วยหรือ?มั่วเฉินซางยังคงมีท่าทีเงียบขรึม เมื่อเห็นนางมีท่าทีประหลาดใจและสับสน ก็อดยิ้มมุมปากบาง ๆ ไม่ได้เผ่าหมาป่าเงินของพวกเขาครองอำนาจในโลกของสัตว์อยู่แล้ว สามารถกำราบสัตว์ส่วนใหญ่ได้“เอาล่ะ ลูกรัก เราควรกลับได้แล้ว”เวลานี้ เฉียนซานเดินเข้ามาพร้อมรอยยิ้ม “นังหนู นี่คือค่าจ้างสำหรับการแสดงครั้งนี้ของเจ้า เจ้าลองนับดูสิ?”ไป๋ซือหวงมองไปที่ตั๋วเงิน แล้วยิ้มอย่างพึงพอใจทันที นางก็มีสมบัติก้นหีบแล้วเหมือนกัน“ไม่ต้องหรอก ข้าเชื่อใจอาเฉียน”นางรับตั๋วเงินแล้วดึงเสี่ยวหลางออกไปแต่เสี่ยวหลางไม่ยอม เหมือนติดหมาป่าสีเทาเข้าแล้ว กอดมันออดอ้อนเอาใจ“ท่านแม่ พาหมาป่าตัวใหญ่กลับบ้านได้ไหม หมาป่าตัวใหญ่ยังต้องกินยาอยู่นะ มันบอ
เฉียนซานไม่สามารถละสายตาจากเสี่ยวหลางได้ นางเลิกคิ้วเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “ท่านอาเฉียน ท่านไม่ได้คิดอะไรกับลูกข้าใช่ไหม?”เมื่อได้ยินเช่นนั้น เฉียนซานก็ถอนสายตากลับทันที พลางกระแอมเบาๆ สองครั้ง “อาเฉียนจะเป็นคนแบบนั้นได้ยังไงล่ะ”“ข้ายังสงสัยว่าเด็กคนนี้จะมีอาชีพเสริมอะไรได้ ถ้าท่านอาเฉียนไม่มีความคิดอะไร ก็ลืมเรื่องนี้ไปเถอะ”ความเจ้าเล่ห์แวบขึ้นในดวงตาของไป๋ซือหวง จงใจพูดด้วยความเสียดาย“นังหนู เจ้าอย่าหยอกข้าอีกเลย”เฉียนซานร้อนใจ เขาจะยอมให้ตัวเองสูญเสียโอกาสทางการค้าได้อย่างไร?“ข้ากำลังเตรียมเปิดร้านขายเสื้อผ้าเด็กที่นี่ ทุกอย่างจะเสร็จในเวลาที่กำหนด รบกวนหนูน้อยช่วยเรียกเพื่อน ๆ ไปอุดหนุนหน้าร้านข้าหน่อยได้หรือไม่?”เสี่ยวหลางที่ถูกระบุตัวหันไปมองมารดาเหมือนเป็นการตั้งคำถาม หลังจากได้รับการยืนยันจากมารดาแล้ว เขาก็ทุบอกตัวเองกล่าวเสียงใสซื่อ “ไม่มีปัญหา”“การดึงลูกค้าสู้ให้ลูกค้าเข้ามาเองไม่ได้ ท่านว่าเด็กน้อยอย่างข้า ถึงเวลานั้นไปเป็นนายแบบให้ท่านดีไหม?”ไป๋ซือหวงนึกถึงนายแบบเสื้อผ้าเด็กที่กำลังได้รับความนิยมบนเว็บไซต์ในช่วงนี้ คิดว่านี่อาจเป็นโอกาสทางธุรกิจที่ไม่เลวและลูกร
ค่ำคืนพระจันทร์เต็มดวง วันที่สิบห้าเดือนสาม จวนท่านอ๋องผู้สำเร็จราชการยามราตรีปกคลุมทั่วผืนดิน พระจันทร์ลอยเด่นบนฟากฟ้า ลึกลับยากจะหยั่งถึงมั่วเฉินซางนั่งอยู่บนสระน้ำใสแจ๋ว ล้อมรอบด้วยรัศมีสีม่วง ดูน่าเกรงขามเขาหลับตาทั้งสอง เม้มริมฝีปากบางแน่น ปลดปล่อยกำลังภายในทั้งหมดออกมา สร้างสมดุลกับหลอดเลือดที่ปะทุอยู่ในร่างกายลมเย็นพัดผ่านเส้นผมที่ข้างหูของเขา ทำให้รูปลักษณ์ที่โอหังและหล่อเหลายิ่งดูเข้าถึงได้ยากภายใต้แสงจันทร์ เมื่อสังเกตดี ๆ จะพบว่ามีเพียงชั้นน้ำบาง ๆ โดยมีชั้นน้ำแข็งอยู่ลึกลงไปด้านล่าง!เสี่ยวปาและอิ่งจือเฝ้าสระน้ำ เพื่อป้องกันการลอบสังหารท่านอ๋องผู้สำเร็จราชการในช่วงที่กำลังอ่อนแอพวกเขามีสีหน้าเคร่งเครียด ประสาทสัมผัสตื่นตัวสูงสุด ไม่ปล่อยผ่านการเคลื่อนไหวใด ๆ เด็ดขาดเสี่ยวปารู้สึกตึงเครียดจนถึงขีดสุด กำอาวุธไว้ในมือแน่นทุกคืนพระจันทร์เต็มดวงในแต่ละเดือน สายเลือดของเผ่าหมาป่าสีเงินจะถูกปลุกขึ้นมาในวันนี้หลังจากสายเลือดเกิดขึ้นอย่างฉับพลัน สัญชาตญาณสัตว์ในตัวพวกเขาจะถูกปลุกขึ้นมา เอกลักษณ์ของหมาป่าจะปรากฏขึ้นอย่างควบคุมไม่ได้โดยเฉพาะสายเลือดของมั่วเฉินซาง
ไป๋ซือหวงมองปราดเดียวก็จำพี่ชายสุดหล่อคนนี้ที่คบหาพูดคุยกับนางในคณะละครสัตว์ได้แล้วพี่ชายสุดหล่อคนนี้จดจำเสื้อกั๊กของนางได้ไม่ใช่ประเด็น แต่จุดประสงค์ของการแต่งตัวเช่นนี้ออกมาในยามวิกาลคืออะไร?ขณะนี้ นางเห็นดวงตาสีน้ำเงินเยือกเย็นคู่นั้นที่ต่างจากเมื่อก่อน เหมือนกับของเสี่ยวหลางไม่มีผิด!“อืม ในวันที่อยู่ในคณะละครสัตว์ เดิมทีข้ามีเรื่องสำคัญจะบอกเจ้า แต่ถูกเลื่อนออกไปเพราะมีเรื่องเร่งด่วนอื่นเข้ามา”ทันใดนั้น เสียงคำรามที่น่าเวทนาก็ดังออกมาจากภายในห้องไป๋ซือหวงตกใจจนขวัญหนีดีฝ่อในทันใด ไม่ทันได้สนใจชายคนไหน หันหลังวิ่งเข้าไปในห้องมั่วเฉินซางมองไปรอบ ๆ อย่างระแวดระวัง แล้วเดินตามเข้าไปในห้องติด ๆทันทีที่ก้าวเข้ามาในห้อง ความยุ่งเหยิงทั่วทั้งห้องก็ปรากฏเต็มตา ลูกหมาป่าผอมซูบดูดุร้ายขนเต็มตัวนั่งยอง ๆ อยู่บนเตียง ส่งเสียงร้องโหยหวนปานจะขาดใจไป๋ซือหวงกำลังจะลงมือฝึกให้เชื่อง แต่เมื่อเห็นเสื้อผ้าสีแดงบนร่างกายของเขา ก็ถึงกับมึนงงในทันใดนี่คือเสี่ยวหลางหรือ?!ในเงามืด เสี่ยวหลางมีขนสีเงินอ่อนปกคลุมทั่วร่าง ใบหูเล็กกลมคู่หนึ่งของมันตั้งชันอยู่บนหัว ดวงตาสีครามเข้มใสสะอาดกลายเ
ดูเหมือนจะคาดเดาความคิดของเขาออกแล้ว ไป๋ซือหวงหยิบยาสลบออกมาอีกเข็ม แล้วแทงเข้าที่มือของเขามั่วเฉินซางมองดูของเหลวค่อย ๆ ไหลเข้าไป แต่กลับไม่รู้สึกถึงการเคลื่อนไหวใด ๆ ในเส้นเลือดบางทีประสิทธิภาพอาจจะยังไม่เร็วขนาดนั้นก็ได้หลังจากฉีดเสร็จ ไป๋ซือหวงก็มองดูใบหน้าที่หล่อเหลาและเย่อหยิ่งของมั่วเฉินซางในระยะใกล้ แทบนิ่งไว้ไม่อยู่นางรู้สึกค่อนข้างคันไม้คันมือ อดไม่ได้ที่จะเอื้อมมือออกไปจับหัวที่มีขนฟูของเขาทั้งสองด้าน “นี่ถือเป็นค่ารักษาพยาบาล”มั่วเฉินซางตกตะลึงไปชั่วขณะ เหลือบมองไป๋ซือหวงด้วยสายตาแปลก ๆเขาไม่เคยชอบวิธีการเข้าหาและการสัมผัสของผู้หญิง แต่ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใด จึงมักจะมีความรู้สึกคุ้นเคยกับนางอย่างบอกไม่ถูกอยู่เสมอดังนั้นการกระทำนี้ เขาจึงไม่ต่อต้านอย่างน่าประหลาดใจด้วยความรู้สึกคุ้นเคยที่มหัศจรรย์ อาการเลือดลมพลุ่งพล่านในกายเขาได้หายไป รู้สึกได้ว่าความกระสับกระส่ายภายในร่างกายค่อย ๆ สงบลง คลื่นลูกใหญ่ผุดขึ้นภายในหัวใจของเขายาตัวนี้มีความสามารถในการยับยั้งการหมุนเวียนของเลือดได้จริง แม้ว่าผลลัพธ์จะเป็นเพียงชั่วคราวก็ตาม แต่หากนำไปใช้กับร่างกายมนุษย์ที่กำลังจะก
เขาลืมตาทั้งสองที่งุนงง ภาพในดวงตาหยุดนิ่งอยู่ในขณะที่ไป๋ซือหวงสัมผัสมั่วเฉินซางด้วยรอยยิ้มบาง ๆและไม่มีฉากที่มั่วเฉินซางขัดขืน”ขออภัย ขออภัย!”เขารีบเอามือปิดหน้า แล้วหันกลับมา “ข้าไม่เห็น ข้าไม่เห็น”ไป๋ซือหวงรีบชักมือกลับด้วยความเขินอายดวงตาของมั่วเฉินซางก็มืดมนลงเช่นกันทันใดนั้น เสี่ยวหลางเหมือนตระหนักอะไรได้บางอย่าง พลางแตะใบหูกลม ๆ ของตัวเอง“อา ท่านแม่ นี่หูปีศาจจากหนังสือที่ท่านเขียนหรือ? ข้าจะวิวัฒนาการกลายเป็นปีศาจไหม”“ถูกต้อง นี่คือหูปีศาจของเจ้า แต่ใช้ได้เฉพาะวันที่สิบห้าของทุกเดือนเท่านั้น และไม่สามารถพูดคุยกับมนุษย์ธรรมดาคนใดได้ เข้าใจไหม?” ดวงตาอันลุ่มลึกของมั่วเฉินซางหนักแน่น“ท่านเป็นพ่อผู้ให้กำเนิดข้าใช่หรือไม่?”จู่ ๆ เสี่ยวหลางก็ถามขึ้นมา เสียงเด็กน้อยเยาว์วัยมีแววสั่นเครือเขาเลอะเลือนไป เข้าหูซ้ายทะลุหูขวา ได้ยินเพียงคำว่ารับผิดชอบบวกกับดวงตาและใบหูที่เขากับมั่วเฉินซางมีความคล้ายคลึงกัน เขาครุ่นคิดสักครู่ก็จดจำลักษณะเฉพาะของพ่อแท้ ๆ ได้ทันที“ฮือ...”เสี่ยวหลางโผเข้าไปในอ้อมอกของมั่วเฉินซางในทันใด ร้องไห้โฮ หูเล็กกลมลู่ลงมา เผยให้เห็นความคับข้อ
ทางด้านนี้ ไป๋ซือหวงงีบหลับอีกครั้งบนเตียง กำลังวังชาถึงได้ฟื้นคืนนอกเรือน ซวงเอ๋อร์กลับมาในเวลาที่ไม่ทราบแน่ชัด กำลังทำความสะอาดภายในชานเรือนอยู่ แต่ขอบตานั้นแดงเรื่อ“ซวงเอ๋อร์”ซวงเอ๋อร์ได้ยินดังนั้นก็รีบวางไม้กวาดลง พลางเช็ดน้ำตาป้อย ๆ กลัวว่าคุณหนูจะมาเห็นสภาพอันย่ำแย่ของตัวเอง“คุณหนูมีสิ่งใดจะสั่งการหรือเจ้าคะ?”ไป๋ซือหวงเอนกายลงบนเก้าอี้อย่างเฉื่อยชา ชี้ไปที่ดวงตาที่ร้องไห้จนบวมเป่งของนาง แล้วถามว่า “เกิดอะไรขึ้น?”“บ่าว...ไม่เป็นไรเจ้าค่ะ”ซวงเอ๋อร์นึกถึงน้องชายที่หมดทางรักษาแล้ว ปากบอกว่าไม่เป็นไร แต่กลับกลั้นน้ำตาไม่ให้เอ่อล้นออกมาไม่ได้“ไม่เป็นไรแล้วร้องไห้ทำไม?” ไป๋ซือหวงขมวดคิ้ว พลางเช็ดน้ำตาให้นาง “บอกมาว่าเกิดอะไรขึ้น เจ้าพูดออกมา ข้าถึงช่วยเจ้าได้ใช่ไหม?”“เสี่ยวเติงน้องชายของบ่าวล้มป่วย เมื่อวานตอนที่บ่าวกลับไปเยี่ยมเขา เขาก็อาเจียนเป็นเลือดแล้ว”“เรียกหมอมาตรวจ ทุกคนก็บอกว่าหมดทางรักษาแล้ว...ให้บ่าวไปจัดเตรียมโลงศพ”ดวงตาของซวงเอ๋อร์ไร้ชีวิตชีวา ยิ่งพูดก็ยิ่งสิ้นหวังพ่อแม่ของนางเสียชีวิตแล้วทั้งคุ่ เหลือเพียงน้องชายคนนี้คนเดียวเท่านั้น“น้องชายของเจ้า