น้ำขิงไม่รู้เลยว่าเวลานี้กี่โมงแล้ว ผ่านไปนานเท่าไหร่แต่เธอยังคงอยู่บนเตียงกับชายหนุ่มที่ไม่มีทีท่าว่าจะหยุดกอบโกยความสุขจากเรือนร่างของเธอ
น้ำขิงเองก็ยังไม่อยากให้เขาหยุดเช่นกันเพราะเธอราวกับถูกสาปให้ตอบสนองเขาโดยไม่รู้ตัว ร่างกายเหมือนจะไม่ฟังคำสั่งเลย ทุกครั้งที่ถูกเขากระตุ้นเธอเองก็พร้อมที่จะตอบสนองเขาทันที
“อ๊าา คุณ….”
“หันหลังอีกทีนะ เดี๋ยวจะให้พักแล้ว”
“อื้อ…อ๊าา คุณ!! เข้ามาลึกเกินไปแล้ว อ๊าา”
“โทษทีนะ แต่มัน…อาาา เสียวมากจน….อาา”
เสียงครางของทั้งคู่ยังดังต่อเนื่องจนถึงตอนดึกที่คุณหมอหนุ่มหมดแรงจริง ๆ และนอนหลับสนิทอยู่ข้าง ๆ เธอ มือหนายังก่ายกอดเธออยู่ราวกับกลัวว่าเธอจะแอบหนีไปเมื่อน้ำขิงเริ่มขยับตัว คนข้าง ๆ ก็ดึงเอาไว้
“จะไปไหน”
“ขิง…จะไปล้างตัวค่ะ”
“อืม…กี่โมงแล้วล่ะนี่ ตีสามแล้ว ไปสิ ไปอาบด้วยกัน”
“ไม่นะคะ ขิง…”
“ทำไมล่ะ มานึกอายอะไรตอนนี้ไม่ทันแล้ว มาเถอะผมยังมีเรื่องต้องเคลียร์กับคุณอีกนี่”
“แต่…ขิงไม่สะดวก คุณ…ไม่ต้องจ่ายเพิ่มแล้วก็ได้….”
“เรื่องมากจังเลย มานี่..อย่าดื้อน่ะ”
เขาเดินลงจากเตียงและรวบตัวเธอขึ้นมาอุ้มและพาเดินเข้าไปในห้องน้ำเพื่อเริ่มอาบน้ำให้เธอ ทั้งตัวของเธอมีแต่รอยจ้ำแดง ๆ ที่เขาฝากเอาไว้ทั้งที่หน้าอก คอและแผ่นหลัง เมื่อเขาลูบเธอผ่านสายน้ำฝักบัวที่รดมายังร่างของทั้งคู่ คุณหมอก็เริ่มรู้สึกต้องการเธออีกครั้ง
“เธอชื่อขิงงั้นเหรอ”
“น้ำ…น้ำขิงค่ะ”
“ชื่อเพราะมากเลยนะ เงยหน้าสิขอดูหน้าชัด ๆ หน่อย”
เธอเองก็พึ่งจะเห็นใบหน้าที่หล่อราวกับพระเอกหนังของเขาเต็มตาเป็นครั้งแรกเช่นกัน น้ำขิงแทบจะตะลึงเพราะไม่คิดว่าเขาจะหน้าตาดีถึงขนาดนี้ เขาก้มลงมาใกล้ ๆ และจูบเธออีกครั้ง น้ำขิงก็ไม่อาจปฏิเสธเขาได้เลย
“อื้ม…น้ำขิง….”
มือเธอคว้าไปที่รอบคอเขาเพราะเธอกลัวว่าจะลื่นและล้มลงไป มือหนาของเขาเกี่ยวเอวเธอเข้ามาจนชิด กายล่างที่แข็งขืนนั้นทำให้เธอรู้ว่าภารกิจในคืนนี้คงยากที่จะจบลงง่าย ๆ เมื่อเขาเริ่มบดเบียดเข้ามาหาเธออีกครั้ง
“คุณไม่ป้องกันเหรอคะ อ๊ะ…”
“ไม่ต้องห่วงนะ ผมมียาคุม”
“คุณ!!”
“อย่าพึ่งพูดเลย ถ้าไม่ต้องการคงไม่แอ่นรับแบบนี้มั้งน้ำขิง”
“อื้อ…อ๊าา เจ็บนะ!!”
เขากางขาเธอออกทำให้เธอเริ่มเจ็บเพราะพึ่งจะผ่านสงครามบนเตียงที่หนักหน่วงกันมา กล่องถุงยางที่ใช้แล้วข้างนอกนั้นเป็นพยานให้เธอได้ว่าเขาหื่นกระหายแค่ไหนแล้วนี่ยังอยู่นอกเหนือข้อตกลงที่มีอยู่อีกมากก่อนที่เธอจะรับงานนี้
“อ๊ะ…ขิงไม่ไหวแล้ว…ไม่…ไม่ไหวแล้ว….”
“ขิง…น้ำขิง!!”
เขาพึ่งจะพุ่งน้ำอุ่น ๆ เข้าไปในร่างของเธอและยังไม่ทันจะล้างตัว เธอก็สลบคาอ้อมกอดของเขาหมอภาคย์ต้องเปลี่ยนมาเช็ดตัวให้เธอแทนและอุ้มเธอกลับไปนอนที่เตียง เขายืนเช็ดผมและมองเธอที่หลับสนิทอยู่บนเตียง
เห็นทีว่าเขาคงจะหักโหมกับเธอมากไปจริง ๆ เขาไม่เคยมีความต้องการมากขนาดนี้มาก่อน อย่างมากก็แค่สองรอบก็แยกย้ายกันแล้วแต่นี่….
“เกือบสองกล่องเลยเหรอวะเนี่ย หื่นเกินไปแล้วอดอยากมาจากไหนกันวะเนี่ย”
เขาคว้ามือถือขึ้นมาและกดไปยังแอปธนาคารที่พึ่งใช้เมื่อครู่นี้ และกดบางอย่างออกไปก่อนจะเดินยิ้มมองคนที่นอนหลับสนิทอยู่บนเตียงและค่อย ๆ เปิดผ้าห่มเข้าไปนอนใกล้ ๆ เธอทั้ง ๆ ที่หากเป็นผู้หญิงคนอื่นเขาจะต้องปลุกและส่งพวกเธอกลับไปแล้ว แต่กับเธอคนนี้….
“น้ำขิง ชื่อน่ารักมาก ฝันดีนะ…น้ำขิง
วันรุ่งขึ้น
หมอภาคย์ตื่นมาอีกครั้ง เขาสะดุ้งเล็กน้อยและเริ่มหันไปมองข้าง ๆ ที่ว่างเปล่าและเริ่มนึกย้อนกลับไป เมื่อคืนนี้เขาคงใช้แรงจนหมดจริง ๆ ถึงได้หลับเป็นตายขนาดนี้
“ไปไหนแล้วล่ะเนี่ย”
ร่างเปลือยเดินลงมาจากเตียงพร้อมกับคว้าชุดคลุมมาสวม เขาพบว่าทั้งกล่องถุงยางใช้แล้วและชุดคลุมถูกเก็บไว้อย่างเรียบร้อย ไม่เหลือแม้แต่ถุงขยะที่เคยทิ้งของเอาไว้
“ทำซะหมดจดเชียวนะ แอบหนีไปตอนไหนวะเนี่ย”
เขาเดินออกจากห้องนอนใหญ่ออกมาและเปิดดูห้องนอนเล็กที่เขาให้เธอใช้อาบน้ำเมื่อคืนนี้แต่เธอก็ไม่อยู่ที่นั่น เดิมทีเขาคิดว่าจะใช้ห้องนี้นอนกับเธอเมื่อคืนเพราะเขาค่อนข้างหวงความเป็นส่วนตัวแม้แต่เพื่อนสนิทก็ยังไม่เคยเข้าไปในห้องนอนใหญ่ของเขาเลยสักคน แต่เมื่อคืนนี้เขากลับใช้เวลากับเธอในห้องนอนของตัวเองอย่างลืมตัว
“เมื่อคืนนี้ทำไมถึงพาเธอไปห้องนั้นกันนะ ท่าจะเพี้ยนแล้ว”
เมื่อเขาหันกลับมาก็เห็นสิ่งที่ไม่น่าจะได้พบกับการบริการในครั้งนี้ อาหารเช้าที่ถูกแรปด้วยพลาสติกใสเอาไว้และวางอยู่ที่โต๊ะพร้อมกับน้ำผลไม้คั้นสดและขนมปังอีกสองสามแผ่น
“อะไรเนี่ย ทำอาหารเช้าให้ก่อนออกไปด้วยเหรอ”
มีกระดาษโน้ตวางอยู่บนอาหารเช้าเขาจึงหยิบขึ้นมาดู เขียนเพียงคำขอบคุณสั้น ๆ แต่เขากลับรู้สึกอบอุ่นอย่างประหลาด ไม่เคยมีใครทำเรื่องแบบนี้ให้เขามาก่อน ส่วนใหญ่นอนกับเขาเสร็จก็รับเงินแล้วต่างคนต่างไป
“น่าสนใจดีนี่…น้ำขิง…อยากรู้จริง ๆ ว่าเธอต้องการใช้เงินมากขนาดนั้นเพื่ออะไรกันนะ”
อีกด้านหนึ่งน้ำขิงที่กว่าจะพาตัวเองเดินออกมาจากคอนโดของหมอภาคย์ในตอนเช้าได้ก็แทบจะเดินไม่ไหว ขาเธอสั่นและหมดแรงเมื่อรีบลุกขึ้นมาสวมชุดที่ใส่เมื่อคืนและทำอาหารเช้าให้เขา
อีกชุดหนึ่งเธอเดินเอาลงมาให้ รปภ ด้านล่างเพื่อติดสินบนให้เขาเปิดประตูให้เพราะเธอต้องรีบกลับมาที่ห้องพักของตัวเองเพื่อจะกลับไปโรงพยาบาล
“เฮ้อ…นึกว่าจะตายคาเตียงเสียแล้วสิ”
น้ำขิงเดินเข้ามาในห้องของตัวเองและล้มตัวลงไปด้วยความหมดแรงอีกครั้ง เมื่อมาถึงเธอแทบจะไม่ได้ทำอะไรเลยนอกจากเปิดเครื่องปรับอากาศและนอนหลับสนิทไปอีกรอบโดยไม่ทันได้เช็กข้อความในมือถือด้วยซ้ำไป
บ่ายวันนั้น
น้ำขิงสะดุ้งตื่นขึ้นมาอีกครั้งในตอนเที่ยง เธอรีบลุกขึ้นมาอาบน้ำแต่งตัวและพาตัวเองมายังโรงพยาบาลทันทีเพื่อไปยังห้องพิเศษที่แม่ของเธอพักอยู่
“แม่..ขิงมาแล้วค่ะ”
“ขิง ทำไมแกดูโทรมจังเลย นี่อดนอนวาดการ์ตูนอีกแล้วเหรอ แม่บอกแล้วว่า…”
“แม่ ขิงนอนมากไปต่างหากล่ะคะ งานน่ะส่งไปหมดแล้วก็เลยนอนจนลืมเวลา นี่ไงคะขิงซื้อของโปรดแม่มาด้วยนะจะกินเลยไหม”
“ไม่เอา ไม่อยากกิน”
“แม่…กินหน่อยนะคะ นี่ข้าวต้มปลาร้านที่แม่ชอบเลยนะ”
“เฮ้อ…นั่นสินะ กินสักหน่อยก็ดีจะมีโอกาสได้กินอีกนานแค่ไหนก็ไม่รู้”
น้ำขิงชะงักไปทันทีเมื่อได้ยินแม่เธอพูดแบบนั้น แม่เธอป่วยเป็นมะเร็งปอดระยะที่สองซึ่งหมอบอกว่าต้องผ่าตัดและทำคีโมแบบต่อเนื่องอาการจะได้ดีขึ้น และยังปลอบใจเธอว่าโชคดีที่พบได้ทันจะได้ทำการรักษาได้รวดเร็ว
แต่ค่าผ่าตัดและรักษานั้นก็แพงมากจนเธอที่ยอมขายทรัพย์สินทุกอย่างจนเหลือเพียงคอนโดที่ซื้อเอาไว้เพียงห้องเดียวในตอนนี้ก็แทบจะไม่พอค่ารักษาและค่ายา และการผ่าตัดในครั้งนี้ก็มีค่าใช้จ่ายสูง ทางเดียวที่เธอมีตอนนี้ก็คือขายเรือนร่าง นึกไม่ถึงจริง ๆ ว่าจะมีคนยอมซื้อและยอมจ่ายให้มากกว่าสองเท่าจากที่เธอขอ
“บ้าไปแล้ว นี่เขา…โอนเงินมาอีกงั้นเหรอ”
"ห้าแสน" เป็นเงินทั้งหมดที่น้ำขิงได้มาจากหมอภาคย์เมื่อคืนนี้แลกกับความบริสุทธิ์หนึ่งคืนของเธอ แต่หากนึกย้อนกลับไปเขาก็….กินเธอจนหนำใจแล้วไม่ใช่เหรอ
“เรารอดแล้วล่ะแม่”
“ขิงว่ายังไงนะลูก แล้ว…งานขิงมันได้เงินเยอะพอจริง ๆ เหรอลูก"
“แม่คะ วันนี้คุณหมอนพดลมาหรือยังคะ ขิงว่าจะปรึกษาคุณหมอเรื่องการรักษาแม่สักหน่อย”
"แก้วตา" มองหน้าลูกสาวด้วยความเข้าใจโลก เธอเองก็รู้ดีว่าเธอคงอยู่ได้อีกไม่นานเพราะโรคร้ายนี้เริ่มกัดกินเธอมาปีกว่า ๆ แล้ว แต่เพราะเธอยังเหลือลูกสาวอย่างน้ำขิงอีกคน แต่เธอก็ไม่อยากเบียดเบียนลูกเพราะพวกเธอสูญเสียมามากแล้วกับค่ารักษาที่มันไม่มีทางทำให้ดีขึ้น
"แม่ตัดสินใจแล้วว่าไม่ต้องผ่าตัด แม่คิดว่าลูกควรจะเก็บเงินเอาไว้นะขิง เพื่อในอนาคตของลูกเอง”
“แม่ อนาคตของขิงก็คือแม่นะ แม่อย่าพึ่งยอมแพ้สิ คุณหมอบอกว่า….”“ก๊อก ก๊อก”เสียงของหมอเจ้าของไข้เดินเข้ามาพร้อมกับพยาบาลสาวที่คุ้นเคยกับพวกเธอ เมื่อเดินเข้ามาและวัดชีพจรและความดันเสร็จแล้วหมอก็เรียกเธอไปนั่งปรึกษาที่ห้อง“แม่คุณบอกแล้วใช่ไหมครับว่าเธอจะไม่ยอมผ่าตัด”“แต่ว่าคุณหมอคะ ทำไมเราไม่ผ่าละคะ หากว่าติดขัดเรื่องเงินตอนนี้ขิงจัดการได้แล้วนะคะ”“ฟังหมอก่อนนะครับคุณณัฐชา คือแบบนี้ครับที่คุณแม่คุณไม่ยอมผ่าตัดมันมีสาเหตุนะครับและก็…เอ่อ…นี่คือภาพล่าสุดที่เราพบหลังจากผลคีโมครั้งล่าสุดครับ”“หมายความว่า….ยังไงเหรอคะ”หมอนำภาพปอดที่ติดเชื้อของแม่เธอมาให้ดูเพื่อร่วมกันตัดสินใจครั้งสุดท้ายโดยหมอนพดลเองก็ต่อสู้ร่วมกับพวกเธอสองแม่ลูกมาร่วมหนึ่งปีตั้งแต่เริ่มรู้ว่าแม่ของเธอเริ่มไอไม่หยุดจนพบสาเหตุของโรคมะเร็งนี้“หมายความว่าแม่….”“ตอนนี้มะเร็งมันลุกลามเข้าสู่ระยะที่สามแล้ว หมอเลยคิดว่า…”“ไม่นะคะ เรา…ทำคีโม บำบัดกินยาผ่าตัด ทำทุกอย่างแล้ว…ทำไมถึง….”“แต่ถ้าคุณอยากจะลองผมก็อาจจะปรึกษาแพทย์ที่ชำนาญเฉพาะทางมะเร็งอีกท่านหนึ่งให้ช่วยได้นะครับ”เธอเงยหน้าขึ้นพร้อมกับหยดน้ำตาที่ไหลออกมาแต่สีหน้าแห
น้ำขิงหันมามองใบหน้าของหมออีกคนที่เดินเข้ามาอย่างไร้มารยาทและพูดกระแทกเสียงใส่เธอ แต่ใบหน้าของหมอหนุ่มที่สวมแว่นตาอยู่พร้อมกับชุดแพทย์และเสื้อกาวน์ตรงหน้าทำให้น้ำขิงตกใจจนตัวแข็งทื่อไปทันที“หมอภาคย์ ใจเย็น ๆ ก่อนนะ น้ำขิงเธอก็แค่ตกใจน่ะ เธอพึ่งจะ….”ดูเหมือนว่าหมอภาคย์เองก็ตกใจไม่ต่างกับเธอ หมอนพดลที่พึ่งจะสังเกตเห็นท่าทีของทั้งคู่ก็หยุดพูดเมื่อเห็นสีหน้าและแววตาของหมอภาคย์ที่มองญาติคนไข้ของเขาราวกับรู้จักกัน และไม่ทันที่เขาจะพูดอะไรต่อหมอภาคย์ก็ดึงแขนของน้ำขิงที่ร้องไห้ตาแดงก่ำตรงหน้าออกไป“มานี่!! เราต้องคุยกัน!!”“เฮ้ย!! หมอภาคย์ ใจเย็น ๆ ก่อน”น้ำขิงเองก็ตกใจแต่ก็ถูกหมอภาคย์ดึงตัวมาอีกห้องหนึ่งทันที เขาพาเธอเข้ามาและปิดล็อกประตูทันทีพร้อมกับน้ำขิงที่เริ่มตั้งสติได้และสะบัดมือจากแขนของเขา“ปล่อยนะ”เธอสะบัดออกมาและถอยห่างจากเขา ผู้ชายตรงหน้านี้เป็นถึงคุณหมอที่หมอนพดลบอกว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญงั้นเหรอ ไม่นึกเลยว่าจะเป็นเขา ไม่คิดว่าจะมาพบกันอีกครั้งในรูปแบบนี้“นั่งลง คุยกันก่อน”“คุณหมอไม่ใช่หมอเจ้าของไข้”“ตอนนี้ใช่แล้ว นั่งลง!!”“หมายความว่ายังไง….คะ”“หึ….ผมจะไม่พูดอีกเป็นรอบที่สาม
“แต่ว่า…”“ไหนคุณบอกว่าเข้าใจไงล่ะ คุณไม่อยากฟังแนวทางการรักษาต่อของแม่คุณงั้นเหรอ”“ก็ได้ค่ะ”“งั้นรอผมเดี๋ยวนะ ขอถอดเสื้อกาวน์นี่ก่อน”“ขิงไปรอข้างนอกนะคะ”“ไม่ต้อง เดี๋ยวออกไปพร้อมกัน”“แต่ว่าแบบนี้คุณหมอจะไม่สะดวกนะคะ”“ทำอย่างกับไม่เคยเห็น”“จะดีมากหากว่าคุณหมอไม่พูดเรื่องในคืนนั้นอีก”หมอภาคย์เดินเข้ามาหาเธอจนเธอถอยไปชิดกับประตูห้องของเขาอีกครั้ง เธอหันซ้ายขวาก็เจอแต่แขนของเขาที่ยกขึ้นมาบังเอาไว้“ทำไม คุณกลัวว่าผมจะจับคุณกินหรือกลัวหัวใจตัวเองจะหวั่นไหวเพราะผม”“คุณหมอคะ เราไม่ควรทำอะไรแบบนี้”“แกล้งคุณเล่นน่ะ เอาล่ะเสร็จแล้วรีบไปกันเถอะ”เขาหันไปหยิบกระเป๋าของเธอและจับมือเธอเดินออกจากห้องแต่น้ำขิงรีบสะบัดออกทันทีและแย่งกระเป๋าคืนมา“ขิงถือเองได้ค่ะ ขอบคุณ”“อ้อ ผมก็แค่กลัวคุณจะลืมน่ะ”“คุณหมอนำทางไปเถอะค่ะ”เขาเดินยิ้มออกมาด้วยอารมณ์ที่ดีกว่าทุก ๆ วัน เมื่อพาเธอเดินมาที่ลิฟต์และกดลง คนที่เข้ามาในลิฟต์เริ่มเยอะทำให้พวกเขาต้องเบียดกันด้านใน หัวใจของน้ำขิงเริ่มสั่นอีกครั้งเพราะหมอภาคย์ใช้ตัวของเขาบังเอาไว้ กลิ่นน้ำหอมของเขาโชยมาทำเอาเธอใจเต้นแรงอย่างห้ามไม่ได้ “ถึงแล้ว ออกไปกันเ
“ไม่เป็นไรค่ะ คุณหมอดูเหนื่อยมากเลยนะคะ อดนอนมาเหรอคะ”เขาหาวและบิดขี้เกียจเล็กน้อยใกล้ ๆ เธอ กลิ่นน้ำหอมที่เย้ายวนนี้ทำให้เธอใจสั่นขึ้นมาอีกครั้ง เธอไม่อยากอยู่ใกล้ ๆ เขาแบบนี้เลยเพราะมันจะทำให้เธอกลัวหัวใจตัวเองและเผลอคิดเรื่องในคืนนั้นเสมอเมื่ออยู่กับเขาแบบนี้“อืม ใช่ เมื่อคืนนี้มีผ่าตัดสองเคส ใช้เวลาไปเกือบสิบสองชั่วโมงกลับมาล้างมือกินข้าวได้แค่สามคำก็ต้องวิ่งเข้าห้องผ่าตัดฉุกเฉินอีก นี่พึ่งจะได้พักถ้าขับรถกลับไม่ไหวคงต้องค้างที่โรงพยาบาลอีกคืน”“แต่ถ้าค้างที่นี่ จะไม่ถูกเรียกอีกเหรอคะ”“ทำยังไงได้ล่ะ มันเป็นงานน่ะ”“แต่คอนโดคุณหมออยู่ใกล้ ๆ โรงพยาบาลนี่เองนะคะ”“แต่คนไข้เองก็รอไม่ได้นะถ้าฉุกเฉินขึ้นมาจริง ๆ จะดีกว่าถ้าไม่ต้องขับรถเองไป ๆ มา ๆ ว่าแต่คุณเมื่อยไหม ผมหลับไปโอโห…เกือบหนึ่งชั่วโมงเลยนะ ไหล่คุณคงไม่ทรุดหรอกนะ”“ขิงไม่ได้อ่อนแอขนาดนั้นนะคะคุณหมอ ถ้าอย่างนั้นขิงขอตัวไปดูคุณแม่ก่อนนะคะ”“ไปสิ กลับไปด้วยกัน”“ค่ะ”เธอไม่ได้พูดอะไรอีกเมื่อเขาค่อย ๆ ลุกขึ้นและบิดตัวไปมา เธอเก็บของและสะพายกระเป๋าแต่เขาดึงกระเป๋าไปถือให้อย่างถือวิสาสะ“ถือว่าตอบแทนที่ให้ผมยืมไหล่ก็แล้วกันนะ ไป
หมอภาคย์อมยิ้มไม่หยุดพร้อมด้วยเสียงแซวไม่หยุดของทั้งเบลและหมอนพดลในห้อง “แม่พูดอะไรแบบนั้นคะแบบนี้คุณหมอจะเสียหายนะคะ”“เสียหาย แกจะบ้าเหรอหมอเขายังไม่เห็นว่าอะไรเลย ใช่ไหมคะคุณหมอภาคย์”เขาหันมามองหน้าที่โกรธจนแดงจัดของน้ำขิง นาน ๆ ทีจะเห็นท่าทีแบบนี้ของเธอสักครั้ง เขาหันไปยิ้มตอบกลับให้หญิงสูงวัยตรงหน้าอย่างเต็มใจ“ครับคุณแม่ ไม่ผิดหรอกครับเรียกได้ตามสบายเลย”“นั่นยังไง ฉันบอกแกแล้วว่าลูกเขยฉันใจดีเห็นไหม ไม่อย่างนั้นจะขอมารักษาแม่เองเหรอใช่ไหมลูก”“แม่คะ ขิงจะโกรธแล้วนะคะพอทีเถอะค่ะ ขิงกับคุณหมอ….”“เราก็แค่พึ่งเริ่มคบกันครับ ขิงอาจจะยังไม่ค่อยชินคุณแม่ก็อย่าไปแซวเธอบ่อยเลยครับ”น้ำขิงหันไปมองค้อนเขาอีกครั้ง สายตาโตที่เธอมองเขาทำให้เขานึกอยากจะหิ้วตัวเธอกลับบ้านเดี๋ยวนี้เลยหากไม่ติดว่าตอนนี้ยืนอยู่ต่อหน้าแม่ของเธอ“นั่นยังไงทีนี้จะโกหกอีกไหมขิง”“เอาล่ะครับตรวจเสร็จแล้ว วันนี้พักผ่อนก่อนนะครับคุณแม่ พรุ่งนี้เช้ามีนัดตรวจเลือดแต่เช้า อืม…สองทุ่มเริ่มงดอาหารนะครับ”“ได้จ๊ะ ๆ เชื่อฟังอยู่แล้ว ไป๊ ๆ เด็ก ๆ กลับไปได้แล้ว ได้ยินไหมว่าลูกเขยสั่งแล้วว่าต้องรีบพักผ่อน”“แม่ แต่ขิงยังไม่ได้
เขาเองก็กำลังพยายามหาทางที่จะคุยกับน้ำขิง แต่ดูท่าทางของเธอแล้วก็ดูเหมือนว่าเธอจะเริ่มรู้และเริ่มทำใจแล้วเช่นกันเกี่ยวกับอาการของแม่แก้วตาถึงแม้ว่าเขาจะยังไม่ได้บอกเธอ“หมอคะ…”“ครับ มาแล้ว”เขาเดินออกจากห้องนอนออกมา เธอยังสวมชุดคลุมตัวเดิมที่เคยมาในครั้งที่แล้ว แต่เขาในวันนี้กับในวันนั้นแตกต่างจากเดิมมาก เขาไม่ได้มองเธอเป็นแค่คนที่บำบัดความใคร่หรือคนคลายเหงาให้เขาอีกต่อไปแล้ว“หิวไหม ผมจะสั่งข้าวมาให้กิน”“หมอบอกว่า..จะให้ขิงทำให้กินไม่ใช่เหรอคะ”“คุณจะทำเหรอ แต่ว่าผมไม่แน่ใจว่า…มีอะไรเหลือบ้างเราสั่งมากินก็ได้ผมเองก็ไม่ได้กลับมาที่นี่หลายวันแล้ว”“คุณนอนค้างที่โรงพยาบาลตลอดเลยเหรอคะ”“เอ่อ…”“หมอคะ เวลาของคุณแม่….เหลืออีกไม่นานแล้วใช่ไหมคะ”นับตั้งแต่ที่เขามารับหน้าที่ต่อจากหมอนพ นี่เป็นครั้งแรกที่น้ำขิงจะกล้าถามเขาตรง ๆ เกี่ยวกับอาการของคุณแม่ของเธอ“น้ำขิง….คือ…”“ขิงทำใจเอาไว้แล้วค่ะ คุณแม่…จะทรมานไหมคะ คุณทำให้แม่….ทรมานน้อยที่สุดได้ไหม”“ผม….”เขาเดินมาและดึงเธอเข้ามากอด เธอตัวสั่นแม้ว่าจะถามเขาด้วยเสียงที่ปกติ เขารู้ว่าเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นได้เสมอ เขาเป็นหมอและพบเจอเหตุการณ์
น้ำขิงมองหน้าของคุณหมอภาคย์ที่ยังจับมือเธออยู่ข้าง ๆ เขาค่อย ๆ ดึงเธอมากอดให้กำลังใจ สิ่งนี้น่าจะเป็นสิ่งที่เธอต้องการที่สุดในตอนนี้และเป็นสิ่งที่หมอภาคย์พอจะทำได้เพื่อให้เธอรู้สึกดีขึ้น เธอไม่ต้องเผชิญกับเรื่องนี้คนเดียวอีกต่อไปแล้ว“ขอบคุณค่ะคุณหมอ”“รีบกินข้าวเถอะ ร้านนี้ทำอร่อยมากนะจะได้รีบนอนพักเอาแรง”หนึ่งเดือนถัดมา“เดี๋ยวผลตรวจออกแล้วผมจะรีบเอามาให้ดู”“ขอบคุณค่ะหมอภาคย์”“ตอนนี้งดของที่มีรสเค็มก่อนนะ ผมกลัวว่ามันจะไม่ดีกับกระเพาะ”“ได้ค่ะ ขิงจำได้แล้วค่ะ”“คุณส่งงานหมดแล้วใช่ไหม คืนนี้จะได้นอนพักเต็มที่”“เอ่อ..ยังเหลืออีกงานหนึ่งค่ะ แต่ทำร่วมกับทีมงานอีกคน ขิงนัดกับพี่ในทีมเอาไว้น่าจะใกล้มาถึงแล้ว”“นัดที่ไหนล่ะ”“ร้านกาแฟใต้ตึกนี้แหละค่ะพอดีว่าเขาจะมาเยี่ยมคุณแม่ด้วย”“อืม งั้นก็รีบไปเถอะทางนี้มีผมอยู่ไม่ต้องห่วง”“ขอบคุณค่ะคุณหมอ”“เรียกที่รักสิ”“หมอ!!”“เปลี่ยนได้แล้วน่า นี่ก็เดือนหนึ่งแล้วนะ”เขากับเธอตกลงคบหากันแล้ว แม่แก้วตาก็รับรู้แล้วส่วนหนึ่งเพราะน้ำขิงอยากให้แม่สบายใจและไม่ต้องห่วงเธอมากจนเกินไปหมอภาคย์ขอให้เธอย้ายมาอยู่ด้วยที่คอนโดแต่เธอปฏิเสธซึ่งเขาก็ไม่ได้ว่า
“ผมไม่ชอบเลยทำไมคุณต้องทำงานกับเขา คุณไม่เห็นสายตาเขาที่มองคุณเหรอขิง”“หมอคะ ใจเย็น ๆ ก่อน อ๊ะ หมอ เดี๋ยวค่ะขิงยังไม่พร้อม หมอ!! ฮึก!!….หมอภาคย์ อ๊าา”เขาสอดใส่จากด้านหลังเข้าไปในทันที น้ำขิงที่กำลังตกใจเมื่อถูกเขาจู่โจมเข้ามาในทันทีก็เริ่มกลัวแต่เมื่อเขาพูดแบบนี้ออกมาเธอก็พอจะเริ่มเข้าใจหมอภาคย์แล้วว่าเขากำลัง “หึง” นี่เอง“หมอคะ อ๊าา อื้อ….หมอ อ๊าาา สะ..เสียว อื้อ…”“ขิง ผมไม่ชอบเลยที่คุณคุยกับผู้ชายคนอื่นแบบนี้”เธอหันมาและจับเขามาจูบทันที หมอภาคย์เมื่อถูกเธอจูบก็ยิ่งได้ใจเร่งกระแทกจนเธอทนไม่ไหวอีกครั้ง“อ๊าา หมอคะ ขิงจะ…เสร็จ หมอ!!”เขายกบั้นท้ายเธอขึ้นมาและขย่มกลับไปอีกครั้ง คราวนี้ทั้งแรงและถี่จนเธอและเขาถึงสวรรค์ไปพร้อม ๆ กัน หมอภาคย์ล้มตัวลงข้าง ๆ น้ำขิงที่ยังนอนคว่ำหอบอยู่ข้าง ๆ เขา เธอแอบดีใจที่เขาหึงเธอแต่เธอเองก็อยากให้เขารู้ว่าภาวัตรเป็นแค่เพื่อนร่วมงานของเธอเท่านั้น เธอค่อย ๆ ขยับตัวขึ้นมาคร่อมทับบนตัวเขาอีกครั้ง“หมอคะ หมอโกรธขิงเหรอคะ”“ผมไม่ชอบเขา”“หมอกำลังหึงเหรอคะ”“อยากโดนอีกรอบเหรอขิง ผมยังทำต่อได้นะถ้าคุณยังถามยั่วอารมณ์ผมแบบนี้”“เดี๋ยวสิคะไม่ต้องรีบร้อน ตอบข
ห้องส่งตัวพ่อทั้งสองรออยู่ในห้องส่งตัว เมื่อเบล หนึ่งและน้ำผึ้งพาน้ำขิงออกมาจากห้องแต่งตัวของคู่บ่าวสาวก็เจอหมอภาคย์และหมอนพยืนรออยู่หน้าห้องแล้ว“เข้าไปกันเถอะ”“ค่ะ”หมอนพและเบลเป็นคนเปิดประตูให้ทั้งคู่เดินเข้าไปและกราบพ่อของทั้งสอง“ขอให้ลูก ๆ ทั้งสองรักและเข้าใจกันนาน ๆ มีสติในการครองคู่ มีปัญหาก็อย่าได้หนีต้องหันหน้าเข้าหากันและคุยให้จบ อย่าให้มือที่สามเข้ามายุ่งเกี่ยวและอย่าทำปัญหาให้ลุกลาม ไฟในอย่านำออก ไฟนอกอย่าได้นำเข้า ภาคย์ ต่อไปต้องจัดการเวลาให้ครอบครัวมากขึ้นอย่าให้น้องรู้สึกน้อยใจ ต่อไปมีลูกก็ต้องใช้ความอดทนให้มากกว่านี้ แล้วที่สำคัญอย่าลืมมีหลานให้ปู่กับตาหลาย ๆ คนนะลูกนะ”ทั้งสองก้มลงกราบคุณสุรศักดิ์เมื่อเขาให้พรทั้งคู่จบจากนั้นจึงเป็นคุณวิศาลที่มองมาที่ทั้งคู่และยิ้มให้“น้องอาจจะดื้อหน่อย ภาคย์ก็ใจเย็น ๆ กับน้องหน่อยนะ น้ำขิงต่อไปก็ต้องลดทิฐิลงอ่อนน้อมถ่อมตนให้มากขึ้นเราไม่ได้ตัวคนเดียวแล้ว นับจากนี้จะเป็นแม่คนแล้วต้องหัดใจเย็น จากนับหนึ่งถึงสิบ มีชีวิตคู่ต้องนับถึงร้อย มีลูกให้นับถึงพัน ค่อย ๆคิดนะลูกนะ ตอนนี้มีสองคนแล้วอย่าคิดเองคนเดียว สองคนรวมเป็นหนึ่งสร้างครอบค
สองเดือนถัดมา“ไม่เอา ๆ หนึ่งเอาขึ้นสูงกว่านี้อีกนิด แบบนั้นแหละ หมอนพคะ แขวนเลยค่ะ”“ผึ้ง อันนี้ให้เอาวางไว้ตรงไหน”“อะไรนะเบล อ๋อ แชมเปญวางไว้ตรงนั้นก่อนเบล ๆๆ อย่าลืม ๆ โบที่เราคิดกันเอาไว้”“โอเค ๆ ไม่ลืม ๆ ตายแล้ว!!”เบลร้องขึ้นมาด้วยความตกใจจนน้ำผึ้งหันมามองและรีบเดินมาหาเธอทันที“อะไรเบล ลืมอะไร”“ลืมไปเอาเค้ก ทำยังไงดีล่ะเมื่อกี้มัวแต่นึกถึงแชมเปญ”“อ๋อ เรื่องนั้นให้คุณพ่อแวะเอาให้แล้ว”“พ่อไหนอ่ะ”“พ่อวิศาลไง แกประชุมเสร็จพอดีแกโทรมาถามผึ้งแล้วว่าจะให้แวะซื้ออะไรเข้ามาไหม”“เฮ้อ โล่งอกไป ว่าแต่หมอภาคย์กับขิงจะมาถึงกี่โมง หมอนพ ทำไมแค่ตรวจครรภ์ถึงไปกันครึ่งค่อนวันแบบนี้ล่ะ”“ผมเองก็ไม่รู้ก็คุณยังไม่เคยท้องนี่ ลองท้องก่อนสิจะได้รู้ว่าทำไมตรวจนานขนาดนี้”“หมอนพ!!”“พอเลย ๆ เลิกทะเลาะกันได้แล้ว หนึ่งคะให้เด็ก ๆ ไปช่วยปูผ้าทางโน้นทีนะคะ”“ได้เลยฮะ หมอฮะ หนึ่งขอตัวไปทางโน้นก่อน”“โอเคครับขอบใจมากคุณหนึ่ง”“อะไรล่ะผึ้งอย่าห้าม หมอนพนี่นับวันยิ่งปากเสีย มันน่าตีปากนัก….”“มานี่เลย ๆ มันใช่เวลาไหม เอานี่กรรไกรไปจัดดอกไม้ใส่แจกันเร็ว ดูทำหน้าเข้าเร็ว ๆ เดี๋ยวอีหมอภาคย์กลับมาก็บ่นอีกว่า
“ค่ะ งั้นขิงไม่รอกินข้าวนะคะ”"ครับผม แล้วคุณต้องไปบริษัทนั้นอีกหรือเปล่า"“อืม ถ้าไม่มีแก้งานแล้วก็ไม่ต้องไปแล้วค่ะ”“แล้ว…จะรับงานอีกหรือเปล่า ผมว่าแค่ดูแลบ้านกับดูแลผมก็เหนื่อยแล้วนะ”“แต่ขิงรักงานนี้นะคะแล้วก็ไม่ได้รับบ่อย ๆ ส่วนมากแค่รับวาดปกนิยายตารางงานก็เต็มแล้วค่ะ โปรเจคใหญ่ ๆ แบบนี้ขิงไม่ค่อยได้รับหรอกค่ะเพราะมันกินเวลาแล้วบางครั้งก็ต้องออกไปนอกสถานที่”“เหมือนกับครั้งก่อนที่หนีผมไปเชียงใหม่”“ใช่ค่ะ นอนได้แล้วค่ะพรุ่งนี้มีผ่าตัดตอนเช้านะคะ ลืมแล้วเหรอ”“ก็ได้ ๆ ดุยิ่งกว่าแม่อีกจะเป็นเมียหรือจะเป็นแม่ครับ”“งั้นไม่เป็นอะไรเลยดีกว่า”“ไม่เอา ๆ ผมล้อเล่น จูบก่อนสิครับ กู๊ดไนท์คิสไง”“จูบอย่างเดียวนะ”“อืม จูบ….”เมื่อจับตัวเธอหันมาได้และเริ่มจูบเขาก็เริ่มล้วงเข้าไปในชุดนอนของเธอโดยอัตโนมัติ จูบอย่างเดียวของหมอภาคย์ไม่เคยมีจริงเลยสักครั้ง รวมถึงคืนนี้ด้วยแต่เธอต้องจับแขนเขาเอาไว้“พรุ่งนี้ต้องตื่นแต่เช้านะคะ ห้ามเกินสองรอบ”“รับทราบครับผม มีคำสั่งอื่นอีกไหมครับหลังจากนี้ไม่อนุญาตให้พูดแล้วนะที่รัก”“อื้อ…คนบ้า อ๊าา”นี่เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่เขาห้ามเธอใช้มือถือก่อนที่จะนอนเพราะมั
“คุณลืมไปแล้วเหรอคะว่าวันนี้ติดไฟแดง”“คุณเองนั่นแหละที่ทะลึ่งคิดไปเอง ผมหมายถึงทำอย่างอื่น เช่น…คุณอยากดูอัลบั้มรูปผมตอนเด็ก ๆ ไหม”“หืม…อยากสิคะ ไปค่ะ”เขาพาเธอเดินกลับเข้าไปในห้องและปิดประตูระเบียง หมอภาคย์เริ่มขนอัลบั้มออกมาและเปิดให้เธอดูรูปของเขาตั้งแต่เขายังเด็กและค่อย ๆ เติบโต “ตายจริงคุณหมออ้วนขนาดนี้เชียว เอ๊ะ แต่ตอนนี้ทำไมชอบสวมชุดทหารล่ะคะ”“ตอนนั้นผมบ้าหนังสงครามมาก อินจนอยากเป็นทหารน่ะ”“ดูสิ มิน่าล่ะ คุณนี่หล่อตั้งแต่เด็ก ๆ เลยนี่คะ”“มันแน่นอนอยู่แล้วครับ คนอย่างผมฮอตตั้งแต่เด็ก ๆ เลยนะจำได้ว่าครั้งหนึ่งวิ่งหนีสาว ๆ รุ่นพี่ที่ชอบมาจับแก้มเล่น….น้ำขิง….คงจะเหนื่อยสินะ”เธอหลับไปที่ตักของเขาโดยที่ยังไม่ทันฟังเขาพูดจบ หมอภาคย์ปิดอัลบั้มรูปและค่อย ๆ อุ้มเธอขึ้นมานอนบนเตียงและห่มผ้าให้ เขาเดินมาเก็บอัลบั้มรูปเก่า ๆ ไปเก็บที่ชั้นและเดินมานอนข้าง ๆ เธอตั้งแต่เมื่อไหร่ก็จำไม่ได้แล้วว่าเขาจะหลับสนิทถ้ามีเธอนอนอยู่ข้าง ๆ แบบนี้ และมักจะสะดุ้งตื่นขึ้นมากลางดึกหากว่าวันนั้นไม่มีเธอนอนอยู่ด้วยสองวันถัดมา “ห้องนี้แหละ”หมอภาคย์พาน้ำขิงและเบลเดินเข้ามาในห้องพักผู้ป่วยที่มีน้ำผึ้ง
“คุณเห็นหรือยัง พิษของการที่ไม่คุยกันและหนีปัญหา มันลุกลามจนน่ากลัวขนาดไหน”“ขิงจะจำเอาไว้ค่ะ ก็ขิง…พึ่งจะเคยมีแฟนจริง ๆ จัง ๆ นี่คะก็เลยไม่รู้ว่าควรทำยังไง”“เฮ้อ…เกือบเสียเมียไปแล้วไงล่ะ โชคดีนะที่วันนี้เป็นฮีโร่ช่วยสาวงามก็เลยได้เมียคืนมา”“คุณนี่นะ!!”“โอ๊ย!! ผมบาดเจ็บอยู่นะครับ เบา ๆ หน่อยสิ เรารีบอาบน้ำกันเถอะ เดี๋ยวต้องไปที่วัดอีก”“ลุกไหวไหมคะ”“ค่อย ๆ ลุกพอไหวอยู่ คุณลุกก่อนเถอะ” งานศพคืนสุดท้ายน้ำขิงเข้มแข็งขึ้นแล้วเมื่อมีหมอภาคย์อยู่ข้าง ๆ และเธอจะไม่โดดเดี่ยวอีกต่อไป พ่อของเธอเดินมาและกอดเธอเอาไว้เพื่อปลอบใจเธอ คืนนี้พ่อของหมอภาคย์ก็มาด้วยเมื่อเห็นว่าหมอภาคย์ยืนกอดเธอเอาไว้เขาก็เข้าใจในทันที“ภาคย์ หลังจากจบงานนี้เรียบร้อยแล้วก็ต้องเตรียมตัวแล้วนะ”“ครับพ่อ”“อะไรกันผมยังไม่ทันได้พูดอะไรเลยนะครับคุณสุรศักดิ์”“แหมคุณวิศาลอย่างเรายังต้องพูดกันมาก ๆ ด้วยเหรอ หุ้นของคุณที่โรงพยาบาลก็ไม่ได้มีน้อยกว่าผมนะ คนละสามสิบเปอร์เซ็นต์เท่ากัน”""อะไรนะคะ/ครับ""สุรศักดิ์และวิศาลหันมาหัวเราะให้กับทั้งคู่ที่ไม่เคยรู้มาก่อนว่าคุณวิศาล พ่อของน้ำขิงก็มีหุ้นอยู่ในโรงพยาบาลนี้ด้วย“คุณวิศาล
เธอค่อย ๆ ปลดกระดุมเสื้อให้เขาและค่อย ๆ ช่วยเขาถอดเสื้อผ้าออก เขาเองก็เริ่มปลดชุดที่บดบังสายตาของเขาออกอย่างชำนาญราวกับไม่ได้บาดเจ็บ ใช่แล้วเพราะมีดนั้นเฉียดแค่ถาก ๆ เท่านั้นแต่แค่นั้นก็ทำให้เลือดไหลออกมามากพอที่จะทำให้น้ำขิงตกใจและยอมยกโทษกับเรื่องทั้งหมดนั้นและยอมกลับมาที่นี่กับเขา ก็นับว่าการที่เขาเจ็บตัวครั้งนี้คุ้มค่ามาก“อื้ม…..ขิง ผมอยากกินคุณแล้ว”“หมอคะ เบาหน่อยค่ะ อ๊าา”“ไม่ไหวแล้วผมหิวมาก เดี๋ยวนี้เลยได้ไหมผมไม่ได้รักคุณมานานแล้วนะที่รัก อย่าห้ามอีกเลยนะ”“แต่ว่าขิง…อ๊าา ยังไม่ได้อาบน้ำ อ๊าา หมอ!!”เขาไม่สนที่เธอร้องขอ ลิ้นของเขาก้มลงไปยังจุดสงวนขอเธอในทันทีขาที่กางออกนั้นเริ่มดิ้นเกร็งเพราะความเร่าร้อนของปลายลิ้นที่กระดกรุนแรงและนิ้วที่สอดเข้าไป ไม่นานเธอก็เสร็จไปถึงสองรอบเพราะถูกเขากระตุ้น“หมอคะ เข้ามาได้แล้วอย่าเอา….แต่เลีย อ๊าา หมอ!! ขิงจะทนไม่ไหวแล้ว”“ที่รักคุณใจร้อนไปแล้ว จะเสร็จอีกสักทีผมก็ไม่ว่าคุณหรอกแต่ผมยังกินไม่อิ่มเลย”“อ๊าา อย่ายก!!”เขาดันเรียวขาและบั้นท้ายเธอยกขึ้นเพื่อจะได้เอื้อมมาบีบและเคล้นยอดอกของเธอได้พร้อม ๆ กับโลมเลียที่ร่องสวาทที่เต็มไปด้วยน้ำหล่อ
“เอ่อ….”เป็นเบลที่ค่อย ๆ หดตัวและนั่งลงอย่างหมดแรง ดีนะที่หมอนพเตือนเธอก่อนหน้านี้ว่าอย่าออกตัวแรงเกินไป แต่เธอเคยตบหมดภาคย์ไปแล้ว และยัง….ด่าพวกเขาอย่างแรงด้วย “คุณทำอะไรคะนั่น ไม่เอาเดี๋ยวผึ้งอายุสั้น”“ขอโทษค่ะ ๆๆๆ”เบลยกมือขึ้นขอโทษน้ำผึ้งทันที น้ำผึ้งรีบดึงมือขอเบลออกพร้อมกับเสียงหัวเราะที่ไม่ค่อยได้ยินมานานแล้วและพวกเธอก็เริ่มคุยกันเมื่อเบลยอมลดมือออกพร้อมกับหัวเราะให้กับความใจร้อนของตัวเองในวันนั้น“จริง ๆ ตอนตรวจก็รู้แล้วค่ะว่าไม่ใช่เนื้อร้ายแต่หมอที่โรงพยาบาลเดิมกลับวินิจฉัยมาอีกอย่างผึ้งก็เลยมาขอร้องภาคย์ให้ตรวจอีกครั้งและทำการผ่าตัด”“ดังนั้นตอนนี้แฟนคุณผึ้งก็…”“ใช่ค่ะ พึ่งผ่าตัดเสร็จไปไม่กี่วัน อีกไม่นานก็หายดีแล้วกลับไปสอนเทควันโดต่อได้แล้ว”“เทควันโด”“ใช่ค่ะ พวกเราเปิดโรงเรียนสอนเทควันโดอยู่ค่ะ นี่ว่าก็ว่าเถอะนะคะ คุณเบลกับคุณน้ำขิงก็น่าจะไปเรียนหน่อยนะ เอาไว้ป้องกันตัว ดูสิ ใบหน้างาม ๆ นี่ต้องมาโดนอีบ้านั่นตบ คิดแล้วเจ็บใจ”“จริงด้วยค่ะคุณผึ้งพูดถูก พูดแล้วเบลมีไฟเลยนะคะเนี่ย”“เดี๋ยวก่อนนะครับคุณผู้หญิงทั้งหลาย ก่อนที่จะพากันไปต่อยตีอะไรนั่น ช่วยถามพวกผมก่อนนะครับ”
“ภาคย์ คุณพาแฟนคุณออกไปก่อน!! ผึ้งจะจัดการอีหมาบ้านี่เอง!!”หมอภาคย์วิ่งเข้าไปรับตัวน้ำขิงเอาไว้ได้ทันเพราะน้ำผึ้งลุกขึ้นเมื่อเห็นว่าหมอภาคย์บาดเจ็บจนเลือดออก น้ำขิงเมื่อเห็นเลือดของเขาเธอก็ตกใจ“หมอคะ เลือด!!....คุณบาดเจ็บ”“ผมไม่เป็นไร ไม่เป็นไรที่รักคุณ…นี่คุณ…บาดเจ็บ”เขาหันมามองหน้าเธอที่มีเลือดออกที่มุมปากด้วยความตกใจและโมโหตัวเองที่มาช้าเกินไป“ขิง..ขิงไม่เป็นไร แต่ว่า….แขนคุณ…บาดเจ็บ”“ภาคย์คุณรีบพาแฟนคุณออกไปก่อน ทางนี้ขอผึ้งจัดเอง มานี่อีเด็กเวร ไม่รู้เสียแล้วว่าแม่มาเอง มานี่เลยแม่จะสอยให้ยับ”“ผึ้ง!!….”“อะไรอีก!! รีบพูดมา!!”“อย่า…แรงมาก พอเป็นพิธีก็พอเดี๋ยวจะยุ่งยาก”“โอเค หุบปากแล้วรีบพาแฟนคุณออกไป ที่นี่กำลังจะนองเลือดแล้ว”น้ำขิงงุนงงกับเหตุการณ์ตรงหน้ามากแต่ในตอนนี้ที่เธอห่วงที่สุดคือบาดแผลที่ต้นแขนของหมอภาคย์ ที่เลือดเริ่มไหลออกมาไม่หยุด“หมอคะ รีบไปทำแผลเถอะค่ะ”“คุณออกมาก่อน หลับตานะที่รักอย่ามองผึ้งไม่ฆ่าเธอหรอก แค่จะสั่งสอนนิดหน่อย”“เธอ…”“เดี๋ยวค่อยคุยกัน เข้าไปข้างในก่อนผมเริ่มเจ็บแผลแล้ว”“รีบไปทำแผลก่อนเถอะค่ะ”“คุณผู้หญิง!! หยุดก่อนครับอย่าพึ่งทำร้ายเธอครั
เมื่อพระสวดอภิธรรมจบแล้วหมอภาคย์ที่เดินไปคุยกับคุณวิศาลไม่นานก็ขอตัวกลับทันทีโดยที่ไม่ได้เข้ามาทักทายเธอเลยแม้แต่คำเดียว เบลที่เดินพยุงน้ำขิงออกมามองเขาที่เดินไปที่รถอยู่ที่ศาลาก็นึกแปลกใจจนต้องถาม“คงรู้ตัวว่าไม่มีหน้ามาคุยกับแก ขิงแกไหวไหม”“อืม ไม่เป็นไร”“กลับไปนอนพักนะ วันนี้หมอนพดลไม่ได้มาคงรอแกอยู่ที่โรงพยาบาลแล้วล่ะ”“อืม เดี๋ยวไปบอกคุณพ่อก่อน”“ได้สิ ไปกันเถอะ”โรงพยาบาล“หมอคะขิงต้องนอนที่นี่ไปอีกกี่วันเหรอคะ”“อืม ขอหมอเช็กอาการคุณพรุ่งนี้อีกสักรอบนะครับถ้าความดันคุณปกติแล้วคืนพรุ่งนี้ก็ไม่ต้องนอนที่โรงพยาบาลแล้วครับ”“ขอบคุณค่ะ ขิงไม่นึกอยากจะนอนที่นี่เท่าไหร่”“ผมเข้าใจคุณนะ ทำใจให้สบายนะครับหมอจะฉีดยาคลายเครียดให้แล้ว ยานี้จะทำให้คุณนอนประมาณแปดชั่วโมง ตื่นมาก็น่าจะเหมือนเมื่อเช้าวันนี้ ราว ๆ เก้าโมง”“ขอบคุณค่ะคุณหมอนพดล”ไม่นานเธอก็หลับตาลง ราวกับถูกมนต์สะกดเพราะน้ำขิงหลับสนิทหลังจากนั้นไม่นาน แต่ก่อนที่จะหลับเธอกลับได้ยินเสียงของบางคน เสียงที่คุ้นหูนั้นคุยบางอย่างกับหมอนพดลแต่เธอจับใจความอะไรไม่ได้เลย…..“วันนี้คุณก็ยังเย็นชากับผมเหมือนเดิม ผมไม่รู้ว่าที่ทำอยู่นี่มันถ