เวินเหลียงรับชุดนอนมา เห็นฟู่เจิงจ้องเธอเขม็ง สีหน้าก็คล้ำดำหมองขึ้นทันที “ออกไป”“ใช่ว่าไม่เคยเห็นสักหน่อย”ฟู่เจิงกวาดสายตามองไปตรงอื่น เขาก็ยังยอมหมุนตัวเดินออกไปอยู่ดีเมื่อเวินเหลียงเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จ ก็เริ่มกินข้าวเช้าอันที่จริงเธอหิวจนท้องร้องจ๊อก ๆ แล้ว แถมอาหารที่ป้าหวังทำนั้นถูกปากเธอมาก ๆ ไม่นานเธอก็กินจนเกลี้ยงเวินหลียงยกถาดลงมาจากชั้นบน ฟู่ซือฝานกำลังนั่งกินข้าวเข้าอยู่บนโต๊ะกินข้าว เมื่อเห็นเวินเหลียงเธอโบกมือทั้งดีอกดีใจ “คุณป้า!”“ฝานฝานกินข้าวดี ๆ นะ ป้าเป็นหวัด เล่นเป็นเพื่อนเธอไม่ได้” เวินเหลียงยกถาดอาหารไปยังห้องครัว ป้าหวังกำลังเริ่มเก็บหม้อไหถ้วยชามล่วงหน้าแล้วเธอวางถาดอาหารลง ก่อนจะเปรยถามขึ้นว่า “ป้าหวังคะ อาการป่วยของหลานป้าหายดีขึ้นหรือยังคะ?”“ดีขึ้นเยอะแล้วค่ะ อีกสองสามวันก็น่าจะหายดีแล้ว”“ดีแล้วค่ะ” เวินเหลียงเดินไปด้านนอก “ป้าทำงานต่อเถอะค่ะ งั้นฉันออกไปก่อนนะคะ”“เดี๋ยวค่ะ คุณผู้หญิง!” ป้าหวังเรียกให้เธอหยุด“ป้าลืมไปแล้วเหรอ ฉันไม่ได้เป็นคุณผู้หญิงฟู่แล้ว”“ในใจของฉันยังไงคุณก็เป็นคุณผู้หญิงของคุณผู้ชายเหมือนเดิม คุณผู้หญิงคุณไม่รู้ เม
“เมื่อกี้เธอว่าอะไรนะ?” ฟู่เจิงหันหน้าไปจ้องเธอเวินเหลียงส่ายหน้าอย่างที่คิดเอาไว้จริง ๆ “ไม่ได้พูดอะไรนี่ คุณหูฝาดแล้ว เอาโทรศัพท์มาให้ฉัน!”เธอมองฟู่เจิงอย่างแน่วแน่ในโทรศัพท์มีความลับอยู่มากมาย เธอจะให้ฟู่เจิงรู้เข้าไม่ได้เด็ดขาดถ้าเขาเอาโทรศัพท์ของเธอไปส่งข้อความหาเมิ่งเซ่อมั่วซั่ว ความพยายามของเธอในช่วงนี้ก็จะสูญเปล่าอีกอย่างคือเวินเหลียงกลัวว่าเขาจะเห็นบทสนทนาของเธอกับอวิ๋นเฉียว และเดาเป้าหมายที่เธอเข้าหาเมิ่งเซ่อออกหากรู้ว่าเธอไม่ได้ชอบเมิ่งเซ่อจริง ๆ เขาก็มีแต่จะยิ่งตอแยอย่างกำเริบเสิบสาน“โทรศัพท์มันสำคัญขนาดนั้นเลยเหรอ?”ในใจของเวินเหลียงเริ่มลุกโชนไปด้วยไฟโทสะอีกครั้ง เธอจ้องฟู่เจิงพลางสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ เฮือกหนึ่ง ก่อนจะฝืนก้มหน้า “ตอนนี้ฉันออกไปไม่ได้ซะหน่อย คุณเอาโทรศัพท์ให้ฉันก็ไม่มีอะไรหรอก”ฟู่เจิงนึกถึงอะไรบางอย่าง นัยน์ตาเขาเปล่งประกาย พลางจ้องเวินเหลียงเขม็งทั้งสองคนสบตากัน ในใจของเวินเหลียงเกิดลางสังหรณ์ไม่ดีอย่างหนึ่งขึ้นมา“จูบฉันก่อนสิ แล้วฉันจะเอาให้เธอ” ในน้ำเสียงของฟู่เจิงเผยความพอใจออกมาเล็กน้อยเวินเหลียงอ้าปากค้างจนคางแทบหลุดออกมาอยู่แล้
เธอเปิดโทรศัพท์เลื่อนดู เมื่อวานเมิ่งเซ่อกับถังซือซือส่งข้อความมาหาเธออย่างที่คิดเอาไว้จริง ๆฟู่เจิงตอบกลับแทนเธอ มิหนำซ้ำยังหาเหตุผลไปอธิบายสาเหตุที่เธอไม่กลับไปกับถังซือซืออีกด้วยโชคดีที่เขาไม่ได้พูดไปส่งเดชและไม่รู้ว่าเขาเห็นประวัติสนทนาของเธอกับอวิ๋นเฉียวหรือเปล่าให้ดีที่สุดคือขออย่าเห็นเลยเช้าวันนี้ เมิ่งเซ่อส่งมาอีกสองข้อความ ตอนเจ็ดโมงสามสิบนาที ข้อความหนึ่งคือมีมพระอาทิตย์ และอีกข้อความส่งตามมาติด ๆ ว่า “อรุณสวัสดิ์ครับพี่”ตอนนี้เป็นเวลาแปดโมงกว่าแล้ว เวินเหลียงตอบกลับไปว่า “อรุณสวัสดิ์”ผ่านไปครู่หนึ่ง เมิ่งเซ่อก็ส่งข้อความตอบกลับเวินเหลียงมาว่าเขาเข้างานแล้วเวินเหลียงบอกเรื่องที่ตัวเองเป็นหวัดไปทั้งสองคนคุยกันอยู่พักหนึ่งไม่นานถังซือซือก็มาที่คฤหาสน์ พร้อมถือถุงกระดาษอยู่ในมือ ข้างในใส่เสื้อผ้าของเวินเหลียงเอาไว้เวินเหลียงเป็นคนเรียกให้เธอมาฟู่เจิงช่างซื่อบื้อจริง ๆ คิดจริง ๆ เหรอว่าเธอจะอยู่ในคฤหาสน์เฉย ๆ?ถังซือซือเข้ามาในห้องนอนหลัก ก่อนจะเอ่ยปากพูดเธอเช็กให้มั่นใจก่อนโดยเฉพาะว่าฟู่ซือฝานอยู่ข้างล่าง จากนั้นถึงปิดประตูแล้วก่นด่าว่า “อีตามืดบอดฟู่นี
หลังเวินเหลียงคุยกับฟู่เซิงเสร็จ เธอก็ใช้โน้ตบุ๊กจัดการแบ่งประเภทรูปภาพทั้งหมดที่ถ่ายในช่วงนี้เธอไม่ลืมว่าตัวเองยังต้องเข้าร่วมการแข่งขันด้วยแม้จะบอกว่าตัวเธอมีพรสวรรค์ในด้านนี้ ทว่ายึดเอาความคิดของตัวเองเป็นหลักไม่สนความเป็นจริงไม่ได้เวินเหลียงจัดการแปลงเป็นไฟล์บีบอัด แล้วส่งให้จูฝานไฟล์หนึ่ง “จูจู นี่เป็นผลงานช่วงนี้ของฉัน ว่างแล้วช่วยให้คำแนะนำฉันหน่อยนะ”จูฝานรีบตอบกลับ “โอเค ๆ!”จูฝานถามขึ้นอีกว่า “แน่ใจเรื่องแนวการแข่งหรือยัง?”เวินเหลียงตอบกลับไป “ยังเลย”อันที่จริงเธอยังดอดไปเข้าร่วมกลุ่มสนทนาของการแข่งขันถ่ายภาพอีกด้วย ในกลุ่มมีทั้งช่างถ่ายรูปมืออาชีพและมือสมัครเล่นมากมาย ทุกคนต่างแลกเปลี่ยนกันในกลุ่มอยู่บ่อย ๆเวินเหลียงจะโพสต์ผลงานภาพสองภาพลงไปในกลุ่ม เพื่อให้สมาชิกร่วมกันลงความเห็นอยู่บ่อยครั้ง และจะแสดงความคิดเห็นของตัวเองต่อรูปภาพของสมาชิกคนอื่นในกลุ่มเช่นกันเธอเลือกรูปภาพที่ตัวเองพอใจโพสต์ลงในกลุ่มรูปหนึ่ง “รบกวนรุ่นพี่ทุกท่านให้คำแนะนำด้วยค่ะ รูปนี้ต้องปรับแก้ตรงไหนไหมคะ?”เพื่อน ๆ ในกลุ่มเป็นมิตรสุด ๆ บางคนก็เอาแต่เยินยอ บางคนก็แสดงความเห็นของตนในด้านองค์
ส่วนตงเจ๋อในกลุ่มนั้น เวินเหลียงไปทำความเข้าใจในกูเกิลและเฟซบุ๊กตงเจ๋อ ชื่อจริงฮั่วตงเฉิง อายุสามสิบเอ็ดปี เมื่อเทียบกับสองคนก่อนหน้าอายุน้อยกว่าอยู่หน่อย เป็นช่างถ่ายภาพยุคใหม่ และเป็นเจ้าของผลงานรางวัลพิเศษในการแข่งขันการถ่ายภาพระดับนานาชาติซานเหอครั้งหนึ่งในก่อนหน้านี้ สิ่งที่เชี่ยวชาญคือภาพถ่ายแบบคนกับวิว ใช้วิวมาขับให้ตัวบุคคลเด่น ใช้ตัวบุคคลมาเสริมให้ภาพวิวเด่น ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว ทำให้จุดเด่นของทั้งสองอย่างยิ่งเด่นชัดขึ้นพอมาดูการแนะนำของคลาส แต่ละคลาสมีลักษณะพิเศษ และเวลาที่เปิดก็ใกล้แล้ว เวินเหลียงพลันลำบากใจขึ้นมาเธอมองนาฬิกา แล้วเก็บโทรศัพท์ เดี๋ยวค่อยคิดอีกทีก็แล้วกันใกล้ถึงเวลาเที่ยงแล้ว เธอตกลงกับฟู่ซือฝานไว้ว่าจะไปกินข้าวเที่ยงเป็นเพื่อนเธอ และยังต้องเอารถของฟู่เจิงกลับไปคืนด้วยหลังกินข้าวเที่ยงเสร็จ เวินเหลียงกินยาเรียบร้อยแล้ว มีอาการง่วงนิดหน่อย จึงไปนอนกลางวันในห้องนอนหลักตื่นขึ้นมาก็เป็นเวลาบ่ายสองโมงกว่าแล้ว เมิ่งเซ่อส่งข้อความมาหาเธอ “พี่ครับ! มีข่าวดีกับข่าวร้าย พี่อยากฟังเรื่องไหนก่อน?”เวินเหลียงเดาออกแล้วว่าข่าวดีคืออะไร จึงตอบกลับไปว่า “ฟัง
เลขาหยางลังเลอยู่สองสามวินาที ก่อนจะรายงานต่อ “ปีนี้ทางกรุ๊ปเตรียมจะลงทุนในสวนสนุกสองสามแห่งที่เจียงหนาน หลังวางแผนขั้นแรก ก็ไม่นึกว่าจะมีคนจากตระกูลฮั่วมาติดต่อสองสามแห่งนั่นเช่นกัน...”“มีเรื่องอะไรอีกไหม? ถ้าไม่มีก็กลับไปก่อนเถอะ”เลขาหยาง “...”“ค่ะ...งั้นฉันกลับก่อนนะคะ...” เลขาหยางถือแฟ้มเอกสารเดินออกไปจากห้องอย่างรวดเร็วฟู่เจิงลุกขึ้นยืนแล้วเดินไปข้างหน้าต่าง ก่อนต่อสายโทรหาเซี่ยมู่หลังสั่งอะไรเสร็จ เขาก็ปิดมือถือแล้วใส่เข้าไปในกระเป๋ากางเกง มองไปที่ไกล ๆ ด้วยนัยน์ตาลึกซึ้งเขาไม่เชื่อว่า พอเกิดเรื่องพรรค์นั้นขึ้นแล้ว เวินเหลียงยังจะชอบเมิ่งเซ่อได้ลงอีก!ฟู่เจิงยืนอยู่ที่เดิม ก่อนจะหยิบเสื้อโค้ตแล้วออกไปจากห้องผู้ป่วยเพิ่งเดินไปได้ไม่กี่ก้าว ก็มีคนเรียกเขาให้หยุดจากเบื้องหลัง “เดี๋ยวค่ะ คุณฟู่?”ฟู่เจิงหยุดฝีเท้าพร้อมหันหน้าไป “คุณหมอจาง”“ฉันดูเคสของคุณแล้ว ตอนนี้คุณทำการผ่าตัดได้แล้ว คุณว่าจะกำหนดเป็นเมื่อไรดีคะ?” หมอจางเอ่ยถามขึ้น“ผมเปลี่ยนใจแล้วครับ ครั้งนี้รักษาแบบอนุรักษ์ไปก่อนก็แล้วกันครับ” ฟู่เจิงเอ่ยเดิมทีเขาคิดจะทำการผ่าตัด เพียงแต่ไม่คิดว่าจู่ ๆ เวินเ
เวินเหลียงกดเปิดดู เธอเลิกคิ้ว วิจารณ์กันแบบไม่มีฟิลเตอร์ที่แฟนคลับใส่ ถือว่าเป็นหนุ่มหล่อคนหนึ่งจริง ๆ หน้าตามีขอบมนดีล้ำเลิศสุด ๆเพียงแต่ไม่รู้ทำไม เวินเหลียงรู้สึกว่าเขาดูคุ้นตาอยู่เล็กน้อย เหมือนเคยเห็นที่ไหนมาก่อน เธอพยายามเค้นความทรงจำ ทว่าคลำหาที่เกี่ยวข้องไม่เจอเลยปุ๊กลุกกระโดดขึ้นเตียงในทีเดียว ก่อนจะมาถูไถเวินเหลียงเวินเหลียงลูบศีรษะน้อย ๆ ของปุ๊กลุกไปทันใดนั้นนัยน์ตาก็สว่างเป็นประกายขึ้นมา!เธอนึกออกแล้ว!มิน่าล่ะเธอถึงรู้สึกว่าตงเจ๋อดูคุ้นตาอยู่หน่อย ๆ เป็นเพราะว่าหน้าตาของเขามีส่วนคล้ายกับฟู่เจิงอยู่สองสามส่วน!เมื่อพูดขึ้นมา ตระกูลฟู่ตั้งแต่คุณท่านฟู่ ไปจนถึงฟู่เจี๋ยอารอง พี่ใหญ่ฟู่เยว่ พี่สามฟู่เซิง ด้านหน้าตาก็นับว่าเป็นหนุ่มหล่อได้ทุกคน พวกเขายังมีลักษณะที่เหมือนกันอย่างหนึ่ง นั่นก็คือสีหน้าชืด ๆเนื่องด้วยเหตุนี้เมื่อเทียบกันแล้ว ฟู่เยว่ดูแล้วจะละมุนละม่อมกว่าหน่อย เหมือนกับพระรองแสนอบอุ่นในนิยายอยู่เล็กน้อยส่วนฟู่เจิงนับเป็นคนที่หน้าคมเข้มเพียงคนเดียวในตระกูลฟู่ หน้าตาเอาเรื่องน่าดูเธอเคยเห็นรูปของฟู่หรง หน้าตาค่อนข้างคล้ายกับฟู่เยว่หน้าตาของฟู่เจิงคง
เมิ่งเซ่อจองโรงแรมใกล้ ๆ ไว้ห้องหนึ่ง เขาวางเซี่ยมู่ไปบนเตียงก่อน แล้วค่อยไปดูตัวเองหน้ากระจกในห้องน้ำ บนหน้าเขามีรอยฟกช้ำดำเขียวเต็มไปหมดเมิ่งเซ่อรู้สึกโชคดีที่ช่วงนี้ยุ่งอยู่หน่อย ๆ ถึงตอนไปทีมบิวดิงแผลพวกนี้ก็น่าจะหายดีแล้ว ถ้าเกิดแบกหน้าแบบนี้ไปเจอพี่เวินเหลียง มันจะน่าขายหน้าขนาดไหน! แถวนี้ไม่มีร้านขายยา ที่โรงแรมเองก็ไม่มียาทาภายนอกสำหรับอาการบาดเจ็บจากการฟกช้ำสำรองเอาไว้เมิ่งเซ่อจึงสั่งซื้อมาจากในเน็ตกล่องหนึ่ง รอดิลิเวอรีมาส่งเขานั่งไถโทรศัพท์อยู่บนเก้าอี้ทันใดนั้นก็ได้ยินหญิงสาวที่อยู่บนเตียงกลัวจนละเมอออกมา ราวกับกำลังฝันร้ายอยู่ “...อย่าเข้ามานะ...อย่านะ...อย่านะ...”เมิ่งเซ่อรีบวางโทรศัพท์ลง แล้วไปนั่งข้างเตียง ก่อนจะปลอบด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาว่า “ไม่เป็นไรแล้วนะ คนร้ายหนีไปแล้ว!”เซี่ยมู่ค่อย ๆ ลืมตาขึ้นมา จากนั้นก็พลันโผเข้าไปในอ้อมอกของเมิ่งเซ่อ ร้องไห้ฮือ ๆ อย่างทุกข์ตรมเมิ่งเซ่ออึ้งไปครู่หนึ่ง พร้อมลองผลักเซี่ยมู่ออก “คุณ...”ทว่าเซี่ยมู่ไม่ยอมปล่อยมือ กลับยิ่งออกแรงกอดเมิ่งเซ่อแน่นขึ้น แล้วร้องไห้อย่างเจ็บปวดใจ “ฉันกลัว...ฉันกลัวมากจริง ๆ...”เมิ่งเซ่อล
อิเลียลุกขึ้นพรวด พลางมองเยี่ยนหวยอย่างเหลือเชื่อ“ถ้าเธอยังเห็นฉันเป็นพี่ชายของเธออยู่ ก็เชื่อฟังฉัน แล้วกลับไปเมืองฟิลาเดลเฟียพรุ่งนี้ซะ!” เยี่ยนหวยนั่งตัวตรงพลางเงยหน้ามองเธออยู่บนโซฟา“ฉันไม่กลับ!” อิเลียเดือดดาลจนแค่นเสียงฮึออกมาทีหนึ่ง ก่อนจะกลับไปนั่งตรงมุมโซฟา “อยากกลับพี่ก็กลับไปเองซะเลยสิ!”“ฟู่เจิงไม่ใช่คนดี ต่อให้ระหว่างพวกเธอมีลูกด้วยกัน เขาก็ไม่มีทางคบกับเธอ”ก่อนหน้านี้ฟู่เจิงเคยมีเรื่องอื้อฉาวว่ามีชู้ ตอนนี้ก็มีอดีตภรรยาที่มีความสัมพันธ์คลุมเครือมาอีกคน ขอให้เป็นผู้ใหญ่ที่รักลูกสาว ก็จะไม่มีวันเลือกเขาทั้งนั้น“พี่รู้ได้ยังไงว่าเขาไม่ใช่คนดี? พี่รู้ได้ไงว่าเขาจะไม่คบกับฉัน? วันนี้ตอนเที่ยงเรายังไปกินข้าวด้วยกันอยู่เลย!”เมื่อเห็นอิเลียดื้อดึง ในใจของเยียนหวยก็รู้สึกไม่ได้ดั่งใจ เขาแสยะยิ้มออกมาทีหนึ่ง ก่อนจะเอ่ยว่า “พวกเธอไม่ได้ไปกินข้าวด้วยกันตามลำพัง แต่ฟู่ซือฝานอยู่ข้าง ๆ ใช่ไหม?”ในช่วงเวลาสำคัญแบบนี้ ฟู่เจิงจะมากินข้าวกับอิเลียตามลำพังได้ยังไง? นอกเสียจากเขาคิดจะเลิกกับเวินเหลียงจริง ๆ“...ใช่ ก็เขาเป็นลูกของพวกเรานี่” เมื่อเห็นว่าถูกเดาทางถูก อิเลียก็พูดอึ
แต่หลังจากเดินตามแผนแล้วถึงได้พบว่า นี่มันไม่ใช่เรื่องเล็ก ๆ เลยถ้าพ่อแม่คุณลุงคุณป้ารู้ว่าเธอมีลูกนอกสมรสข้างนอก ต้องเข้ามาแทรก และไม่แน่ว่าจะพาตัวเธอกับลูกกลับไป“อิเลีย ผมเข้าใจนะครับคุณในฐานะแม่แท้ ๆ คุณอยากรีบกระชับความสัมพันธ์กับฝานฝาน แต่ก็อย่าตื่นตระหนกจนทำอะไรไม่ถูก โดยเฉพาะมักจะไปหาฝานฝานที่โรงเรียนอนุบาล แบบนี้จะส่งผลกระทบกับชีวิตของเธอได้นะครับ”“ฉันรู้แล้วค่ะ ต่อไปจะไม่ไปหาเขาที่โรงเรียนอนุบาลอีก ฉันเห็นว่าคุณกินน้อยมาก อาหารที่เหลือไม่ถูกปากหรือเปล่า?”ฟู่เจิง “...ก่อนมาผมกินมาบ้างแล้ว”หลังกินข้าวเที่ยงเสร็จ ฟู่ซือฝานรบเร้าขอกลับกับฟู่เจิงเธอล้วงกลยุทธ์ร้องไห้งอแงชักดิ้นชักงออยู่ที่พื้นของเด็กห้าขวบออกมาอย่างล้ำลึก ไม่มีเหตุผล ทว่าอิเลียฝืนเธอไม่ได้อิเลียทำได้เพียงกลับไปที่บ้านของเซี่ยเจิน“อิเลีย เธอกลับมาแล้วเหรอ?”เมื่อเห็นอลิซนั่งอยู่บนโซฟา อิเลียเดินมานั่งลง “เป็นยังไงบ้าง? ครั้งนี้เธอไปเมืองซีกับซีซาร์ ได้แสร้งทำเป็นเจอโดยบังเอิญ แล้วไปกินข้าวกับเขาอะไรหรือเปล่า?”อลิซเบะปาก “เปล่า”“ทำไมล่ะ? โอกาสดีขนาดนั้นทำไมเธอไม่คว้าเอาไว้?”“เขางานยุ่งมาก ฉันกล
อิเลียจัดผมด้วยท่าทางราวกับไม่มีเจตนาอื่น หน้าตาเผยความตื่นเต้นออกมาดูท่าเธอจะเลือกวิธีถูกจริง ๆในตอนนี้เธอเพิ่งเข้าใกล้ฟู่ซือฝานไม่เท่าไร ท่าทีของฟู่เจิงเขาก็ผ่อนคลายลงเยอะแล้วผ่านไปยี่สิบนาที ฟู่เจิงก็ปรากฏตัวขึ้นในห้องรับรองนี่เป็นการเจอกันครั้งที่สองหลังจากวันนั้นเขานั่งลงข้าง ๆ ฟู่ซือฝาน พลางพยักหน้าให้อิเลียเบา ๆ “รบกวนแล้ว ไม่ถือสาที่ผมมาร่วมโต๊ะด้วยใช่ไหม?”“ไม่ถือสา นั่งเถอะค่ะ”สีหน้าของอิเลียเย็นชา ราวกับยังอยู่ต่อหน้าคุณหญิงและฟู่ชิงเยว่ครั้งก่อน เธอไม่ได้โกรธที่ฟู่เจิงปฏิเสธเธออย่างไร้ความปรานี“งานผมยุ่งมาก ยากที่จะใส่ใจคุณกับฝานฝานได้มากขนาดนั้น”“ฝานฝานเป็นลูกของฉัน นี่เป็นสิ่งที่สมควรอยู่แล้ว ฉันไม่รู้ว่าคุณจะมา ก็เลยสั่งอาหารไปสุ่ม ๆ เดี๋ยวอาหารมาเสิร์ฟคุณก็ดูแล้วกันว่าอยากจะสั่งเพิ่มไหม”“ผมไม่เลือกกิน” ฟู่เจิงตอบจากนั้นพนักงานก็เริ่มมาเสิร์ฟอาหารฟู่เจิงมองเนื้อแพะที่มาเสิร์ฟเต็มโต๊ะ เขาเงียบไปครู่หนึ่ง จากนั้นก้มหน้าไปมองฟู่ซือฝานฟู่ซือฝานก้มศีรษะน้อย ๆ อย่างกระวนกระวายอิเลียหยิบตะเกียบขึ้นมา “ไม่ต้องเกรงใจ กินเลยค่ะ”ฟู่เจิงลังเลอยู่ครู่หนึ่
เจียงเฉิงเที่ยงวันศุกร์ อิเลียไปรับฟู่ซือฝานออกไปกินข้าวเที่ยงที่คฤหาสน์ย่านซิงเหอวานเธอฉีกยิ้มพลางพูดกับฟู่ซือฝานว่า “เมื่อวานแม่ว่าจะไปรับหนูที่โรงเรียนอนุบาล จู่ ๆ ก็นึกถึงคำพูดของหนูเมื่อครั้งก่อนได้ ก็เลยมาวันนี้ วันนี้ตอนบ่ายแม่จะพาหนูไปเล่นดี ๆ เป็นยังไงจ๊ะ?”ฟู่ซือฝานเอียงคอพลางครุ่นคิด “ตอนบ่ายหนูต้องทำการบ้าน แค่กินข้าวเที่ยงก็พอแล้วค่ะ”“ก็ได้ งั้นหนูคิดไว้หรือเปล่าว่าอยากกินอะไร?”“ไปร้านอาหารที่มีเมนูเนื้อแพะแนะนำแล้วกันค่ะ” ฟู่ซือฝานเอ่ยขึ้นด้วยทีท่าจริงจัง “วันนี้คุณลุงบอกว่าจะไปกินข้าวเที่ยงเป็นเพื่อนหนู ไม่รู้ว่าจะมาไหม”นัยน์ตาอิเลียวาบความปลื้มปีติออกมา “จริงเหรอ?”“เขาเคยบอกไว้แบบนี้ค่ะ คุณน้าคะ ที่คุณน้ารับหนูออกมา ไม่ใช่เป็นเพราะอยากกระชับความสัมพันธ์กับหนูสองต่อสองเหรอคะ? ทำไมถึงหวังให้คุณลุงมาด้วยล่ะคะ?”เจ้าตัวน้อยเอ่ยถามขึ้นด้วยใบหน้าจริงจัง“น้า...น้ามีเรื่องอยากพูดคุยกับพ่อของหนูน่ะ แล้วก็หวังว่าเราจะได้กินข้าวด้วยกันพร้อมหน้าพร้อมตากันทั้งครอบครัว” อิเลียรีบหาข้ออ้างทันทีเจ้าเด็กคนนี้ หูตาเฉียบแหลมจริง ๆ“อ้อ”“น้าจะหาร้านอาหารเนื้อแพะเดี๋ยวน
“เรียกฉันทำไม?” เยี่ยนหวยมองเธอด้วยสีหน้าไร้เดียงสา“ตอนนี้มันฤดูร้อน”ผ่านฤดูใบไม้ผลิมาแล้ว“ฉันแค่นึกถึงวันนั้นที่ไปติวให้เธอแล้วเจอแม่เธอเข้าโดยบังเอิญ เธอคิดไปถึงไหน?” เยี่ยนหวยเลิกคิ้วถังซือซือชะงักไปมีครั้งหนึ่งตอนที่เธอติวอยู่ในบ้าน แล้วบังเอิญเจอแม่ของเธอเข้าจริง ๆ แต่นั่นมันเรื่องตอนเทอมที่สองเยี่ยนหวยต้องจงใจพูดถึงวันนั้นตอนเทอมแรกแน่ ๆ ให้เธอเข้าใจผิดถ้าเธอชี้ไปเลยว่าเยี่ยนหวยจำผิด ก็จะเข้าแผนของเยี่ยนหวย เหมือนว่าเธอยังไม่เคยลืมเรื่องในอดีต คิดถึงเรื่องราวเหล่านั้นของเธอกับเยี่ยนหวยอยู่ตลอด“ตอนนี้ไม่ใช่ฤดูร้อนเหรอ? นายคิดไปถึงไหนอีก?” เธอปัดตกเรื่องนี้ไปอย่างมั่นใจทันทีหลังพูดจบ เธอก็หมุนตัวเดินไปด้านหน้าต่อ “ไม่พูดแล้ว รีบไปร้านถัดไปเถอะ”อยู่ข้างนอกจนถึงสี่ทุ่ม ทั้งสองคนถึงกลับไปยังโรงแรมด้วยกันถังซือซืออยากเรียกรถกลับไปเอง ไม่อยากให้เยี่ยนหวยไปส่งเธอเยี่ยนหวยจึงเอ่ยไปตามตรงว่า “ฉันพักอยู่ที่โรงแรมเดียวกันกับเธอ”ถังซือซือ “...”นี่ไม่ใช่ครั้งแรกแล้วคราวก่อนตอนที่เวินเหลียงถ่ายรูปเยี่ยนหวยรูปแรกที่เมืองฟิลาเดลเฟีย เวินเหลียงก็ถามว่าช่วงนี้เยี่ยนหวย
เมืองซีในฐานะเมืองใหญ่ของเจียงหนาน ประเภทของกินเล่นมีมากมาย ของกินเอกลักษณ์ที่ขึ้นชื่อไปทั่วประเทศอาทิ เต้าหู้เหม็น ไส้กรอกยักษ์ เส้นหมีเฝิ่น กุ้งเผ็ดเป็นต้นถังซือซือเคยมาเมืองซีตอนมาทำงานต่างถิ่นก่อนหน้านี้ เวลาค่อนข้างกระชั้นชิด จึงทำได้เพียงเดินช็อปปิงที่อื่น แต่เพิ่งเคยมาถนนคนเดินที่นี่เป็นครั้งแรกเธอซื้อไส้กรอกยักษ์สองชิ้นก่อน และแบ่งให้เยี่ยนหวยหนึ่งชิ้นกินไปได้เพียงครึ่งเดียว ถังซือซือก็หยุดอยู่ตรงหน้าร้านขายขนมฉือปา เธอกลืนน้ำลายแล้วถามขึ้นว่า “รู้ไหมคะว่าตรงไหนมีถังขยะบ้าง?”“ที่เหลือเธอไม่กินแล้วเหรอ?”“อืม”“ไม่อร่อย?”“ไม่ใช่ อร่อยมาก แต่ว่ายังมีของอร่อยอื่น ๆ อีกเยอะแยะ ฉันอยากเก็บท้องเอาไว้”เยี่ยนหวย “...”“เอามาให้ฉันก็ได้” เยี่ยนหวยรับไส้กรอกครึ่งชิ้นที่เหลืออยู่มาจากในมือของเธอ ก่อนจะเติมเข้าไปในท้องอย่างไม่มีภาระใด ๆถังซือซือซื้อขนมฉือปาแล้วเธอทำตัวอย่างกับโจร แต่ละร้านไม่ยอมปล่อยไปเลย ทว่าก็ชิมเพียงสองสามคำ ทั้งหมดที่เหลือก็โยนให้เยี่ยนหวยอย่างสบายใจเยี่ยนหวยเพลิดเพลินกับพฤติกรรมพรรค์นี้ ในใจเข้าใจได้ในทันที ราวกับกลับไปเมื่อเจ็ดปีก่อนหลังเรียนอย
“มันเรื่องอะไรกันแน่?”ก่อนหน้านี้ที่เยี่ยนหวยอยู่ที่เจียงเฉิง กลับไม่ได้สังเกตเท่าไรว่าอิเลียกำลังทำอะไรอยู่ เธอออกไปข้างนอกทุกวัน เยี่ยนหวยคิดเพียงแค่ว่าเธอกำลังไปเที่ยวเล่นถังซือซือไม่ใช่คนที่จะกุเรื่องมั่วซั่ว เธอพูดแบบนี้ ต้องรู้อะไรบางอย่างแน่ ๆ“พูดไปแล้วก็ยาว ตอนแรกฟู่ชิงเยว่อาของฟู่เจิงรับเลี้ยงเด็กกำพร้าอยู่ที่เมืองนอก ตอนนี้อายุห้าขวบแล้ว ปีที่แล้วอาเหลียงแท้ง แล้วฟู่ชิงเยว่ติดธุระพอดี เลยส่งเด็กคนนั้นกลับประเทศมาให้ฟู่เจิงดูแลช่วงหนึ่ง ฟู่เจิงเลยให้เด็กคนนั้นอยู่ในประเทศไปเลยเพื่อง้ออาเหลียง ปกติจะมาอยู่เป็นเพื่อนอาเหลียง และเด็กคนนั้นเองก็เข้าไปอยู่ในทะเบียนบ้านของฟู่เจิง แต่ว่า...”เยี่ยนหวยเดาเรื่องที่จะเกิดขึ้นต่อไปออกแล้ว จึงรับช่วงเอ่ยขึ้นต่อว่า “แต่ว่าจู่ ๆ ก่อนหน้านี้ก็มีข่าวบอกว่าเด็กผู้หญิงคนนั้นเป็นลูกของฟู่เจิงกับอิเลีย?”“ใช่ รายละเอียดฉันก็ไม่ค่อยแน่ใจเหมือนกัน เหมือนว่าจะเกี่ยวข้องกับอาของฟู่เจิงนิดหน่อย เธอรู้ตัวตนของเด็กผู้หญิงคนนั้นมาตั้งแต่แรก และไม่ชอบอาเหลียงมาโดยตลอด ยังไงตอนนี้อาเหลียงก็อยู่กับฉัน เขากับฟู่เจิงทะเลาะกันอีกแล้ว”เยี่ยนหวยเอ่ยควา
“เยี่ยนหวย!!”ประตูลิฟต์เปิดออก ทั้งสองคนเข้าไปกันตามลำดับ แล้วลงไปยังลานจอดรถใต้ดินตรงมุมเลี้ยว ในหัวของผู้หญิงสวมหน้ากากอนามัยวาบภาพที่เห็นเมื่อครู่ขึ้นมา หมัดที่ห้อยอยู่กำขึ้นแน่น เธอก้มหน้าทั้งดวงตาที่ประกายความอำมหิตออกมาหากเวินเหลียงอยู่ตรงนี้ คงจะจำได้แน่ ๆ ว่าผู้หญิงที่สวมหน้ากากอนามัยคนนี้ก็คืออลิซที่เธอมาเจียงเฉิง ก็เพราะเยี่ยนหวย เยี่ยนหวยมาเมืองซีเมื่อสองวันก่อน เธอเองก็ตามมาเช่นกันอิเลียถามเลขาของเยี่ยนหวย เมื่อรู้โรงแรมของเขาก็บอกกับอลิซทีแรกอลิซคิดว่าเยี่ยนหวยมาทำธุระที่เมืองซี จากนั้นก็ค่อย ๆ พบว่ามันไม่ชอบมาพากลเยี่ยนหวยไม่ยุ่งเลยสักนิดแถมยังมีเวลาไปสอบถามร้านอาหารท้องถิ่น ถนนคนเดิน จุดชมวิวของเมืองซีเป็นต้น อีกต่างหาก ไม่เหมือนมาทำงานต่างถิ่น แต่เหมือนมาเที่ยวเสียมากกว่าจนกระทั่งวันนี้ เมื่อได้เห็นภาพนั้น อลิซถึงเข้าใจทุกอย่างที่แท้คนที่ซีซาร์ชอบไม่ใช่เฟย์ แต่เป็นถังซือซือเพื่อนของเฟย์!ที่แท้เขาไม่ได้มาทำงานต่างถิ่นที่เมืองซี แต่มาเพื่อตามจีบถังซือซือ!ที่เขาสอบถามร้านอาหารและจุดชมวิวของเมืองซี ก็เพื่อพาถังซือซือไปวันนี้!ในใจอลิซอิจฉาเป็นอย่างม
เมื่อเยี่ยนหวยได้ยินดังนั้น ก็รู้ในทันทีว่าเวินเหลียงไม่ได้รักษาคำมั่นสัญญาแต่เขาก็เตรียมตัวไว้นานแล้ว วันนั้นหลังจากกลับไปก็ให้คนไปตรวจสอบกล้องวงจรปิด แล้วตัดคลิปมาใส่ไว้ในโทรศัพท์เมื่อได้ยินถังซือซือถามขึ้น เขาก็รีบส่งให้เธอทันที “ก็แค่คนที่ไม่สลักสำคัญอะไรคนหนึ่ง ฉันปฏิเสธเขาไปแล้ว”ถังซือซือดูคลิปรอบหนึ่ง ก่อนจะเบะปาก “อยู่ต่างประเทศคุณเยี่ยนมีสาวมาชอบเพียบเลยนะคะ”“แต่ฉันสนใจอยากจะครอบครองแค่เธอ”“จะยอมให้ฉันครอบครองไหม คุณถัง?”เยี่ยนหวยนั่งเอี้ยวตัว แขนข้างหนึ่งพาดอยู่บนพนักพิงเก้าอี้ เขาโน้มตัวเข้ามา ตัวท่อนบนใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ กลิ่นหอมฉุยจาง ๆ และกลิ่นอายของชายหนุ่มที่มาพร้อมกับการบุกรุกโอบล้อมเธอเอาไว้เขาดันแว่นตากรอบทอง สีหน้าอบอุ่น ฉีกยิ้มทว่าก็ราวกับไม่ยิ้ม มุมปากกระตุกรอยยิ้มเล็กน้อย ค่อนข้างมีความรู้สึกประเภทหน้าเนื้อใจเสือถังซือซือเหม่อไปครู่หนึ่ง“คุณถัง?”ใบหน้าหล่อเหลาตรงหน้าขยายใหญ่ขึ้นอีกครั้ง ไออุ่นร้อนปะทะเข้ามาที่หน้า ในที่สุดถังซือซือก็ได้สติกลับมา เธอเอนหลังพลางตบหน้าอก “นายทำฉันตกใจหมด...ไป ไปเดินหาของกินเล่นกันเถอะ”เธอลุกขึ้นและเดินออกไปอย่าง