เวินเหลียงกดเปิดดู เธอเลิกคิ้ว วิจารณ์กันแบบไม่มีฟิลเตอร์ที่แฟนคลับใส่ ถือว่าเป็นหนุ่มหล่อคนหนึ่งจริง ๆ หน้าตามีขอบมนดีล้ำเลิศสุด ๆเพียงแต่ไม่รู้ทำไม เวินเหลียงรู้สึกว่าเขาดูคุ้นตาอยู่เล็กน้อย เหมือนเคยเห็นที่ไหนมาก่อน เธอพยายามเค้นความทรงจำ ทว่าคลำหาที่เกี่ยวข้องไม่เจอเลยปุ๊กลุกกระโดดขึ้นเตียงในทีเดียว ก่อนจะมาถูไถเวินเหลียงเวินเหลียงลูบศีรษะน้อย ๆ ของปุ๊กลุกไปทันใดนั้นนัยน์ตาก็สว่างเป็นประกายขึ้นมา!เธอนึกออกแล้ว!มิน่าล่ะเธอถึงรู้สึกว่าตงเจ๋อดูคุ้นตาอยู่หน่อย ๆ เป็นเพราะว่าหน้าตาของเขามีส่วนคล้ายกับฟู่เจิงอยู่สองสามส่วน!เมื่อพูดขึ้นมา ตระกูลฟู่ตั้งแต่คุณท่านฟู่ ไปจนถึงฟู่เจี๋ยอารอง พี่ใหญ่ฟู่เยว่ พี่สามฟู่เซิง ด้านหน้าตาก็นับว่าเป็นหนุ่มหล่อได้ทุกคน พวกเขายังมีลักษณะที่เหมือนกันอย่างหนึ่ง นั่นก็คือสีหน้าชืด ๆเนื่องด้วยเหตุนี้เมื่อเทียบกันแล้ว ฟู่เยว่ดูแล้วจะละมุนละม่อมกว่าหน่อย เหมือนกับพระรองแสนอบอุ่นในนิยายอยู่เล็กน้อยส่วนฟู่เจิงนับเป็นคนที่หน้าคมเข้มเพียงคนเดียวในตระกูลฟู่ หน้าตาเอาเรื่องน่าดูเธอเคยเห็นรูปของฟู่หรง หน้าตาค่อนข้างคล้ายกับฟู่เยว่หน้าตาของฟู่เจิงคง
เมิ่งเซ่อจองโรงแรมใกล้ ๆ ไว้ห้องหนึ่ง เขาวางเซี่ยมู่ไปบนเตียงก่อน แล้วค่อยไปดูตัวเองหน้ากระจกในห้องน้ำ บนหน้าเขามีรอยฟกช้ำดำเขียวเต็มไปหมดเมิ่งเซ่อรู้สึกโชคดีที่ช่วงนี้ยุ่งอยู่หน่อย ๆ ถึงตอนไปทีมบิวดิงแผลพวกนี้ก็น่าจะหายดีแล้ว ถ้าเกิดแบกหน้าแบบนี้ไปเจอพี่เวินเหลียง มันจะน่าขายหน้าขนาดไหน! แถวนี้ไม่มีร้านขายยา ที่โรงแรมเองก็ไม่มียาทาภายนอกสำหรับอาการบาดเจ็บจากการฟกช้ำสำรองเอาไว้เมิ่งเซ่อจึงสั่งซื้อมาจากในเน็ตกล่องหนึ่ง รอดิลิเวอรีมาส่งเขานั่งไถโทรศัพท์อยู่บนเก้าอี้ทันใดนั้นก็ได้ยินหญิงสาวที่อยู่บนเตียงกลัวจนละเมอออกมา ราวกับกำลังฝันร้ายอยู่ “...อย่าเข้ามานะ...อย่านะ...อย่านะ...”เมิ่งเซ่อรีบวางโทรศัพท์ลง แล้วไปนั่งข้างเตียง ก่อนจะปลอบด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาว่า “ไม่เป็นไรแล้วนะ คนร้ายหนีไปแล้ว!”เซี่ยมู่ค่อย ๆ ลืมตาขึ้นมา จากนั้นก็พลันโผเข้าไปในอ้อมอกของเมิ่งเซ่อ ร้องไห้ฮือ ๆ อย่างทุกข์ตรมเมิ่งเซ่ออึ้งไปครู่หนึ่ง พร้อมลองผลักเซี่ยมู่ออก “คุณ...”ทว่าเซี่ยมู่ไม่ยอมปล่อยมือ กลับยิ่งออกแรงกอดเมิ่งเซ่อแน่นขึ้น แล้วร้องไห้อย่างเจ็บปวดใจ “ฉันกลัว...ฉันกลัวมากจริง ๆ...”เมิ่งเซ่อล
ด้านหน้าก็เป็นโกดังของหวังต้าไห่แล้วเมื่อแล่นผ่านโค้งหนึ่งไป จู่ ๆ รถเมล์ก็หยุดลงเหล่าเพื่อนร่วมงานต่างชะโงกศีรษะออกไปดูด้านหน้าด้วยความสงสัยด้านหน้ามีรถบรรทุกคันหนึ่งจอดขวางอยู่ กล่องพัสดุมากมายกลิ้งหล่นอยู่สองข้างทาง กล่องเล็กบ้างใหญ่บ้างพนักงานของโกดังกำลังเก็บกันสุดชีวิตหวังต้าไห่ยืนเท้าสะเอวอยู่ริมถนน มองเหตุการณ์ทั้งหมดอย่างสุดจะทน พร้อมส่งสัญญาณให้รถบัสที่ผ่านทางรอสักครู่ฟู่เซิงลุกขึ้นยืน ก่อนจะเดินไปข้างหน้าแล้วเอ่ยถามขึ้นว่า “เกิดอะไรขึ้นเหรอครับ?”คนขับรถบัสกดเปิดประตูแล้วเอ่ยขึ้นว่า “เหมือนรถพัสดุจะเสียหลักน่ะครับ”ฟู่เซิงลงจากรถ แล้วเดินไปพูดคุยกับหวังต้าไห่ ผ่านไปประมาณสองนาที เขาก็กลับขึ้นรถมาอีกครั้ง แล้วเอ่ยกับคนขับรถบัสว่า “รอเดี๋ยวนะครับ พวกเขาเก็บของจะเสร็จแล้ว”มีคนโพล่งถามขึ้นมาว่า “อยู่ดี ๆ รถพัสดุมาเสียหลักได้ยังไงครับ?”“ตอนที่รถบรรทุกกำลังจะเข้าไปในโกดังน่ะจู่ ๆ ยางรถก็เกิดแบนขึ้นมา” ฟู่เซิงตอบหวังต้าไห่เดือดจนด่าสาดเสียเทเสียออกมา “ไม่รู้ไอ้เซ่อซ่าตัวไหนมาสาดตะปูหมวกเอาไว้บนพื้น!”เมื่อเมิ่งเซ่อเห็นหวังต้าไห่ นัยน์ตาทั้งสองก็เปล่งประกายขึ้น
เมื่อเวินเหลียงถามขึ้นมาแบบนี้ เมิ่งเซ่อเองก็อดไม่ได้ที่จะหวนนึกอย่างจริงจังขึ้นมาก็จริง ตระกูลเมิ่งกับตระกูลหวังล้วนเป็นครอบครัวธรรมดา ๆ ลุงหวังจะไปยืมเงินมากมายขนาดนั้นมาจากเพื่อนที่ไหนกัน?ตอนนั้นใครจะกล้าให้เขาหยิบยืมเงินมากมายขนาดนั้น? โดยที่ไม่กลัวว่าเขาจะเชิดเงินหนีหรือคืนได้ไม่ครบ?คิดยังไงก็คิดไม่ออก เมิ่งเซ่อเงยหน้ามองสีหน้าของเวินเหลียง “พี่ครับ พี่สงสัยว่าที่มาของเงินลุงหวังมันได้มาโดยมิชอบใช่ไหมครับ?”เวินเหลียงหัวเราะชืด ๆ “อย่าหาว่าฉันคิดมากเลยนะ ฉันย่อมต้องเกลียดคนที่เมาแล้วขับจนเป็นสาเหตุทำให้พ่อฉันต้องตายอยู่แล้ว คงยากจะเลี่ยงไม่ให้ไปคาดเดาเขาอย่างมีอคติสุด ๆ”“ผมเข้าใจความรู้สึกของพี่ดีครับ แม้ลุงหวังจะไม่ได้ตั้งใจ แม้จะได้รับโทษแล้วก็ตาม พี่เองก็ไม่จำเป็นต้องให้อภัยหรอกครับ เพราะตั้งแต่ต้นจนจบคุณลุงต้องตายเพราะเขา”ถ้าคุณลุงไม่ตาย พี่เวินเหลียงก็ไม่ต้องไปเจอฟู่เจิงไอ้ผู้ชายซังกะบ๊วยนั่น!“ขอบคุณที่นายเข้าใจนะ อาเซ่อ” นัยน์ตาของเวินเหลียงเต็มไปด้วยความซาบซึ้งเมื่อได้ยินคำเรียกที่ดูสนิทสนมจากปากเวินเหลียง หูเมิ่งเซ่อก็แดงระเรื่อ ในใจเต้นระรัว ถูกเวินเหลียงล้
แต่ตำรวจสืบไม่เจอความสัมพันธ์ระหว่างจางกั๋วอันและเมิ่งจินถึง ไม่งั้นหากออกประกาศจับจางกั๋วอันแล้ว ไม่มีทางทำเมิ่งจินถังตกหล่นแน่แต่เห็นได้ชัดว่าพวกเขารู้จักกัน!เพียงแต่เมิ่งจินถังกลับประเทศได้ ทว่าจางกั๋วอันไม่กล้าเมิ่งเซ่อช่วยเก็บตะเกียบขึ้นมาวางไว้ข้าง ๆ แล้วช่วยหยิบตะเกียบคู่ใหม่ให้เวินเหลียงเวินเหลียงสงบลงมาแล้ว “ขอบใจนะ”เธอฉีกยิ้มให้เมิ่งเซ่อทีหนึ่ง แล้วคีบหมูเส้นให้เขาชิ้นหนึ่ง “จางกั๋วอัน? เขาเป็นคนเมืองเจียงเฉิง? เหมือนไม่เคยได้ยินชื่อนี้มาก่อน...”“ไม่ใช่ครับ...เขาไม่ได้อยู่ในประเทศ เหมือนจะอยู่ที่ย่างกุ้ง?”ย่างกุ้งเป็นเมืองหลวงเก่าของเมียนมาร์ เป็นเมืองใหญ่อันดับหนึ่งของเมียนมาร์ ไม่ว่าจะเป็นจำนวนประชากรหรือว่าเศรษฐกิจต่างก็เจริญรุ่งเรืองเป็นอย่างมาก“อ๋อ” หัวใจของเวินเหลียงถึงขั้นเต้นผิดจังหวะ เธอเปลี่ยนเรื่องคุยอย่างแยบยล “อันที่จริงคราวก่อนฉันกับถังถังมีความคิดจะไปเที่ยวที่เมียนมาร์ แต่สุดท้ายก็เลือกไปนอร์เวย์”จางกั๋วอันลอยนวลอยู่ต่างประเทศ ทางตำรวจในประเทศทำอะไรเขาไม่ได้เธอกำลังครุ่นคิด ตอนนี้รู้แล้วว่าเขาอยู่ย่างกุ้ง คิดหาวิธีไปตามหาเขา แล้วลักพาตัวกลับ
เมิ่งเซ่อเงยหน้าขึ้นมา แล้วพยักหน้าพลางยิ้มให้หญิงสาว “คุณเซี่ย บังเอิญขนาดนี้เชียว?”เซี่ยมู่พยักหน้า พลางจงใจชำเลืองมองเวินหลียงที่อยู่ข้างเมิ่งเซ่อ แล้วเอ่ยขึ้นอย่างอ่อนโยนว่า “ฉันเองก็ไม่นึกเหมือนกันว่าจะเจอคุณอีกครั้งที่นี่ ฉันกับเพื่อนมาผ่อนคลายอารมณ์กันน่ะ”“บริษัทเรามาทีมบิวดิงกันน่ะ”“คืนหลายวันก่อนต้องขอบคุณที่คุณพาฉันไปส่งโรงแรมด้วยนะคะ แผลที่ตัวคุณดีขึ้นหรือยังคะ?”เมิ่งเซ่อมองเวินเหลียงทีหนึ่ง ก่อนจะฉีกยิ้ม “ดีขึ้นเยอะแล้วครับ แล้วคุณล่ะบอกกับตำรวจไปหรือยัง?”เวินเหลียงคีบข้าวขึ้นมากินสองคำ สายตามองสลับไปมาระหว่างหญิงสาวกับเมิ่งเซ่อพร้อมความสงสัยไปส่งที่โรงแรม?“ลงบันทึกประจำวันไว้แล้วค่ะ ฉันต้องขอบคุณคุณมากจริง ๆ นะคะ คุณไม่รู้ว่าตอนนั้นฉันกลัวขนาดไหน ถ้าไม่ได้คุณ เกรงว่าฉันจะ...ฉันไม่รู้จริง ๆ ว่าต้องขอบคุณคุณยังไงดี” นัยน์ตาทั้งสองของเซี่ยมู่ใสกิ๊งดุจหยดน้ำ มองเมิ่งเซ่ออย่างมีความหมายลึกซึ้งเวินเหลียงมองออกว่าเธอชอบเมิ่งเซ่อ“ไม่ต้องขอบคุณผมหรอกครับ เรื่องเล็กน้อย” เมิ่งเซ่อชี้เวินหลียงที่นั่งอยู่ตรงหน้า “จริงสิ ผมขอแนะนำให้คุณรู้จัก นี่คือเวินเหลียงแฟนผมครับ
“ไม่เป็นไร พอมองออกว่าฟู่เซิงให้ความสำคัญกับนายมาก นี่เป็นโอกาสของนาย นายรีบไปเถอะ”ใช่ว่าเมิ่งเซ่อไม่เคยเห็นแฟนสาวของรูมเมตสรรหาเรื่องทะเลาะสารพัดเพราะรูมเมตของเขามีเวลาอยู่ด้วยน้อย เมื่อเปรียบเทียบกันแล้ว การสนับสนุนที่เวินเหลียงมีต่อเขาในเรื่องงานเป็นเรื่องที่น่ายกย่องมาก ๆ“ขอบคุณครับพี่! ไม่งั้นผมไปส่งพี่แช่ออนเซ็นก่อนดีไหม?”เขามองเวินเหลียงด้วยความซาบซึ้ง ยิ่งรู้สึกว่าการเลือกของตัวเองนั้นถูกต้องเข้าไปใหญ่ พี่เวินเหลียงยังสาวยังสวย มีความเป็นผู้ใหญ่และมีความหนักแน่น เข้าอกเข้าใจคนอื่น ช่วยตนได้ในหลายด้านมาก ๆ“ฉันยังไม่ไปดีกว่า ว่าจะนั่งอยู่ที่นี่ต่ออีกหน่อย”“โอเคครับ งั้นผมขอตัวก่อนนะ”เมิ่งเซ่อออกไปจากศาลาก่อนเวินเหลียงยืนอยู่ที่เดิม มองดอกล่าเหมยตรงหน้าต่อ พลางหยิบกล้องถ่ายรูปขึ้นมาจู่ ๆ เบื้องหลังก็มีเสียงฝีเท้าแว่วดังขึ้นเวินเหลียงไม่ได้หันหน้ากลับไป ได้แต่เอ่ยถามขึ้นว่า “ทำไมถึงกลับมาอีกล่ะ?”ไม่มีใครตอบ ได้ยินแต่เสียงฝีเท้าใกล้เข้ามาเรื่อย ๆเวินเหลียงแอบสบถว่ามันดูแปลกพิกล ขณะกำลังคิดจะหันหลังกลับไป ทันใดนั้นก็ถูกคนสวมกอดจากเบื้องหลัง!มือใหญ่ของชายหนุ่มค
“คุณเป็นหมาพันธุ์เทดดีกลับชาติมาเกิดเหรอ?!!”เวินเหลียงขยับปลายเท้าไปด้านหน้าอีกหน่อย แล้วโยกย้ายส่วนก้นออกมาจากตัวเขาอย่างยากลำบากทว่าฟู่เจิงรีบแนบตัวเข้ามา ก่อนจะแนบเข้าไปข้างหูเธอแล้วเป่าลมเบา ๆ “คุณก็มีอารมณ์ไม่ใช่เหรอ?!”“ไม่!” นัยน์ตาเวินเหลียงเปล่งประกาย รีบปฏิเสธทันควัน “คุณรีบปล่อยฉันเลยนะ”“ไม่งั้นเหรอ?” ฟู่เจิงถามกลับด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา น้ำเสียงน่าดึงดูดกระแทกอยู่ตรงแก้วหูของเวินเหลียง เกือบทำเธอหลงเสน่ห์ไปแล้วเชียวเวินเหลียงปกป้องที่นาผืนน้อยไว้อย่างแน่นหนา พลางเกร็งคอส่ายหน้า “ไม่”ฟู่เจิงที่อยู่เบื้องหลังเงียบไปเขาไม่ปริปากเอ่ยออกมาแม้แต่คำเดียว เวินเหลียงกลับยิ่งเป็นกังวลไปทั้งเนื้อทั้งตัว เธอจึงทำเป็นดิ้นลองเชิงจู่ ๆ ฟู่เจิงเอ่ยขึ้นมาว่า “งั้นให้ฉันตรวจสอบดูก่อน”เวินเหลียงเบิกตาโพลง เดือดพล่านจนกระทืบเท้า “นี่จะตรวจสอบยังไงล่ะ?!!”“เรามาพนันกันว่าเธอมีอารมณ์หรือเปล่า ถ้าฉันแพ้ หลังจากนี้ฉันจะไม่มาตามตอแยเธออีกเด็ดขาด”ฟู่เจิงพูดต่อว่า “แน่นอนว่า ถ้าฉันชนะ คืนนี้จะต้องตามใจฉันทั้งคืน เธอคิดว่ายังไง?”“ไม่ยังไงทั้งนั้น! ทำไมฉันต้องพนันกับคุณด้วย?”“เธอไม
อิเลียลุกขึ้นพรวด พลางมองเยี่ยนหวยอย่างเหลือเชื่อ“ถ้าเธอยังเห็นฉันเป็นพี่ชายของเธออยู่ ก็เชื่อฟังฉัน แล้วกลับไปเมืองฟิลาเดลเฟียพรุ่งนี้ซะ!” เยี่ยนหวยนั่งตัวตรงพลางเงยหน้ามองเธออยู่บนโซฟา“ฉันไม่กลับ!” อิเลียเดือดดาลจนแค่นเสียงฮึออกมาทีหนึ่ง ก่อนจะกลับไปนั่งตรงมุมโซฟา “อยากกลับพี่ก็กลับไปเองซะเลยสิ!”“ฟู่เจิงไม่ใช่คนดี ต่อให้ระหว่างพวกเธอมีลูกด้วยกัน เขาก็ไม่มีทางคบกับเธอ”ก่อนหน้านี้ฟู่เจิงเคยมีเรื่องอื้อฉาวว่ามีชู้ ตอนนี้ก็มีอดีตภรรยาที่มีความสัมพันธ์คลุมเครือมาอีกคน ขอให้เป็นผู้ใหญ่ที่รักลูกสาว ก็จะไม่มีวันเลือกเขาทั้งนั้น“พี่รู้ได้ยังไงว่าเขาไม่ใช่คนดี? พี่รู้ได้ไงว่าเขาจะไม่คบกับฉัน? วันนี้ตอนเที่ยงเรายังไปกินข้าวด้วยกันอยู่เลย!”เมื่อเห็นอิเลียดื้อดึง ในใจของเยียนหวยก็รู้สึกไม่ได้ดั่งใจ เขาแสยะยิ้มออกมาทีหนึ่ง ก่อนจะเอ่ยว่า “พวกเธอไม่ได้ไปกินข้าวด้วยกันตามลำพัง แต่ฟู่ซือฝานอยู่ข้าง ๆ ใช่ไหม?”ในช่วงเวลาสำคัญแบบนี้ ฟู่เจิงจะมากินข้าวกับอิเลียตามลำพังได้ยังไง? นอกเสียจากเขาคิดจะเลิกกับเวินเหลียงจริง ๆ“...ใช่ ก็เขาเป็นลูกของพวกเรานี่” เมื่อเห็นว่าถูกเดาทางถูก อิเลียก็พูดอึ
แต่หลังจากเดินตามแผนแล้วถึงได้พบว่า นี่มันไม่ใช่เรื่องเล็ก ๆ เลยถ้าพ่อแม่คุณลุงคุณป้ารู้ว่าเธอมีลูกนอกสมรสข้างนอก ต้องเข้ามาแทรก และไม่แน่ว่าจะพาตัวเธอกับลูกกลับไป“อิเลีย ผมเข้าใจนะครับคุณในฐานะแม่แท้ ๆ คุณอยากรีบกระชับความสัมพันธ์กับฝานฝาน แต่ก็อย่าตื่นตระหนกจนทำอะไรไม่ถูก โดยเฉพาะมักจะไปหาฝานฝานที่โรงเรียนอนุบาล แบบนี้จะส่งผลกระทบกับชีวิตของเธอได้นะครับ”“ฉันรู้แล้วค่ะ ต่อไปจะไม่ไปหาเขาที่โรงเรียนอนุบาลอีก ฉันเห็นว่าคุณกินน้อยมาก อาหารที่เหลือไม่ถูกปากหรือเปล่า?”ฟู่เจิง “...ก่อนมาผมกินมาบ้างแล้ว”หลังกินข้าวเที่ยงเสร็จ ฟู่ซือฝานรบเร้าขอกลับกับฟู่เจิงเธอล้วงกลยุทธ์ร้องไห้งอแงชักดิ้นชักงออยู่ที่พื้นของเด็กห้าขวบออกมาอย่างล้ำลึก ไม่มีเหตุผล ทว่าอิเลียฝืนเธอไม่ได้อิเลียทำได้เพียงกลับไปที่บ้านของเซี่ยเจิน“อิเลีย เธอกลับมาแล้วเหรอ?”เมื่อเห็นอลิซนั่งอยู่บนโซฟา อิเลียเดินมานั่งลง “เป็นยังไงบ้าง? ครั้งนี้เธอไปเมืองซีกับซีซาร์ ได้แสร้งทำเป็นเจอโดยบังเอิญ แล้วไปกินข้าวกับเขาอะไรหรือเปล่า?”อลิซเบะปาก “เปล่า”“ทำไมล่ะ? โอกาสดีขนาดนั้นทำไมเธอไม่คว้าเอาไว้?”“เขางานยุ่งมาก ฉันกล
อิเลียจัดผมด้วยท่าทางราวกับไม่มีเจตนาอื่น หน้าตาเผยความตื่นเต้นออกมาดูท่าเธอจะเลือกวิธีถูกจริง ๆในตอนนี้เธอเพิ่งเข้าใกล้ฟู่ซือฝานไม่เท่าไร ท่าทีของฟู่เจิงเขาก็ผ่อนคลายลงเยอะแล้วผ่านไปยี่สิบนาที ฟู่เจิงก็ปรากฏตัวขึ้นในห้องรับรองนี่เป็นการเจอกันครั้งที่สองหลังจากวันนั้นเขานั่งลงข้าง ๆ ฟู่ซือฝาน พลางพยักหน้าให้อิเลียเบา ๆ “รบกวนแล้ว ไม่ถือสาที่ผมมาร่วมโต๊ะด้วยใช่ไหม?”“ไม่ถือสา นั่งเถอะค่ะ”สีหน้าของอิเลียเย็นชา ราวกับยังอยู่ต่อหน้าคุณหญิงและฟู่ชิงเยว่ครั้งก่อน เธอไม่ได้โกรธที่ฟู่เจิงปฏิเสธเธออย่างไร้ความปรานี“งานผมยุ่งมาก ยากที่จะใส่ใจคุณกับฝานฝานได้มากขนาดนั้น”“ฝานฝานเป็นลูกของฉัน นี่เป็นสิ่งที่สมควรอยู่แล้ว ฉันไม่รู้ว่าคุณจะมา ก็เลยสั่งอาหารไปสุ่ม ๆ เดี๋ยวอาหารมาเสิร์ฟคุณก็ดูแล้วกันว่าอยากจะสั่งเพิ่มไหม”“ผมไม่เลือกกิน” ฟู่เจิงตอบจากนั้นพนักงานก็เริ่มมาเสิร์ฟอาหารฟู่เจิงมองเนื้อแพะที่มาเสิร์ฟเต็มโต๊ะ เขาเงียบไปครู่หนึ่ง จากนั้นก้มหน้าไปมองฟู่ซือฝานฟู่ซือฝานก้มศีรษะน้อย ๆ อย่างกระวนกระวายอิเลียหยิบตะเกียบขึ้นมา “ไม่ต้องเกรงใจ กินเลยค่ะ”ฟู่เจิงลังเลอยู่ครู่หนึ่
เจียงเฉิงเที่ยงวันศุกร์ อิเลียไปรับฟู่ซือฝานออกไปกินข้าวเที่ยงที่คฤหาสน์ย่านซิงเหอวานเธอฉีกยิ้มพลางพูดกับฟู่ซือฝานว่า “เมื่อวานแม่ว่าจะไปรับหนูที่โรงเรียนอนุบาล จู่ ๆ ก็นึกถึงคำพูดของหนูเมื่อครั้งก่อนได้ ก็เลยมาวันนี้ วันนี้ตอนบ่ายแม่จะพาหนูไปเล่นดี ๆ เป็นยังไงจ๊ะ?”ฟู่ซือฝานเอียงคอพลางครุ่นคิด “ตอนบ่ายหนูต้องทำการบ้าน แค่กินข้าวเที่ยงก็พอแล้วค่ะ”“ก็ได้ งั้นหนูคิดไว้หรือเปล่าว่าอยากกินอะไร?”“ไปร้านอาหารที่มีเมนูเนื้อแพะแนะนำแล้วกันค่ะ” ฟู่ซือฝานเอ่ยขึ้นด้วยทีท่าจริงจัง “วันนี้คุณลุงบอกว่าจะไปกินข้าวเที่ยงเป็นเพื่อนหนู ไม่รู้ว่าจะมาไหม”นัยน์ตาอิเลียวาบความปลื้มปีติออกมา “จริงเหรอ?”“เขาเคยบอกไว้แบบนี้ค่ะ คุณน้าคะ ที่คุณน้ารับหนูออกมา ไม่ใช่เป็นเพราะอยากกระชับความสัมพันธ์กับหนูสองต่อสองเหรอคะ? ทำไมถึงหวังให้คุณลุงมาด้วยล่ะคะ?”เจ้าตัวน้อยเอ่ยถามขึ้นด้วยใบหน้าจริงจัง“น้า...น้ามีเรื่องอยากพูดคุยกับพ่อของหนูน่ะ แล้วก็หวังว่าเราจะได้กินข้าวด้วยกันพร้อมหน้าพร้อมตากันทั้งครอบครัว” อิเลียรีบหาข้ออ้างทันทีเจ้าเด็กคนนี้ หูตาเฉียบแหลมจริง ๆ“อ้อ”“น้าจะหาร้านอาหารเนื้อแพะเดี๋ยวน
“เรียกฉันทำไม?” เยี่ยนหวยมองเธอด้วยสีหน้าไร้เดียงสา“ตอนนี้มันฤดูร้อน”ผ่านฤดูใบไม้ผลิมาแล้ว“ฉันแค่นึกถึงวันนั้นที่ไปติวให้เธอแล้วเจอแม่เธอเข้าโดยบังเอิญ เธอคิดไปถึงไหน?” เยี่ยนหวยเลิกคิ้วถังซือซือชะงักไปมีครั้งหนึ่งตอนที่เธอติวอยู่ในบ้าน แล้วบังเอิญเจอแม่ของเธอเข้าจริง ๆ แต่นั่นมันเรื่องตอนเทอมที่สองเยี่ยนหวยต้องจงใจพูดถึงวันนั้นตอนเทอมแรกแน่ ๆ ให้เธอเข้าใจผิดถ้าเธอชี้ไปเลยว่าเยี่ยนหวยจำผิด ก็จะเข้าแผนของเยี่ยนหวย เหมือนว่าเธอยังไม่เคยลืมเรื่องในอดีต คิดถึงเรื่องราวเหล่านั้นของเธอกับเยี่ยนหวยอยู่ตลอด“ตอนนี้ไม่ใช่ฤดูร้อนเหรอ? นายคิดไปถึงไหนอีก?” เธอปัดตกเรื่องนี้ไปอย่างมั่นใจทันทีหลังพูดจบ เธอก็หมุนตัวเดินไปด้านหน้าต่อ “ไม่พูดแล้ว รีบไปร้านถัดไปเถอะ”อยู่ข้างนอกจนถึงสี่ทุ่ม ทั้งสองคนถึงกลับไปยังโรงแรมด้วยกันถังซือซืออยากเรียกรถกลับไปเอง ไม่อยากให้เยี่ยนหวยไปส่งเธอเยี่ยนหวยจึงเอ่ยไปตามตรงว่า “ฉันพักอยู่ที่โรงแรมเดียวกันกับเธอ”ถังซือซือ “...”นี่ไม่ใช่ครั้งแรกแล้วคราวก่อนตอนที่เวินเหลียงถ่ายรูปเยี่ยนหวยรูปแรกที่เมืองฟิลาเดลเฟีย เวินเหลียงก็ถามว่าช่วงนี้เยี่ยนหวย
เมืองซีในฐานะเมืองใหญ่ของเจียงหนาน ประเภทของกินเล่นมีมากมาย ของกินเอกลักษณ์ที่ขึ้นชื่อไปทั่วประเทศอาทิ เต้าหู้เหม็น ไส้กรอกยักษ์ เส้นหมีเฝิ่น กุ้งเผ็ดเป็นต้นถังซือซือเคยมาเมืองซีตอนมาทำงานต่างถิ่นก่อนหน้านี้ เวลาค่อนข้างกระชั้นชิด จึงทำได้เพียงเดินช็อปปิงที่อื่น แต่เพิ่งเคยมาถนนคนเดินที่นี่เป็นครั้งแรกเธอซื้อไส้กรอกยักษ์สองชิ้นก่อน และแบ่งให้เยี่ยนหวยหนึ่งชิ้นกินไปได้เพียงครึ่งเดียว ถังซือซือก็หยุดอยู่ตรงหน้าร้านขายขนมฉือปา เธอกลืนน้ำลายแล้วถามขึ้นว่า “รู้ไหมคะว่าตรงไหนมีถังขยะบ้าง?”“ที่เหลือเธอไม่กินแล้วเหรอ?”“อืม”“ไม่อร่อย?”“ไม่ใช่ อร่อยมาก แต่ว่ายังมีของอร่อยอื่น ๆ อีกเยอะแยะ ฉันอยากเก็บท้องเอาไว้”เยี่ยนหวย “...”“เอามาให้ฉันก็ได้” เยี่ยนหวยรับไส้กรอกครึ่งชิ้นที่เหลืออยู่มาจากในมือของเธอ ก่อนจะเติมเข้าไปในท้องอย่างไม่มีภาระใด ๆถังซือซือซื้อขนมฉือปาแล้วเธอทำตัวอย่างกับโจร แต่ละร้านไม่ยอมปล่อยไปเลย ทว่าก็ชิมเพียงสองสามคำ ทั้งหมดที่เหลือก็โยนให้เยี่ยนหวยอย่างสบายใจเยี่ยนหวยเพลิดเพลินกับพฤติกรรมพรรค์นี้ ในใจเข้าใจได้ในทันที ราวกับกลับไปเมื่อเจ็ดปีก่อนหลังเรียนอย
“มันเรื่องอะไรกันแน่?”ก่อนหน้านี้ที่เยี่ยนหวยอยู่ที่เจียงเฉิง กลับไม่ได้สังเกตเท่าไรว่าอิเลียกำลังทำอะไรอยู่ เธอออกไปข้างนอกทุกวัน เยี่ยนหวยคิดเพียงแค่ว่าเธอกำลังไปเที่ยวเล่นถังซือซือไม่ใช่คนที่จะกุเรื่องมั่วซั่ว เธอพูดแบบนี้ ต้องรู้อะไรบางอย่างแน่ ๆ“พูดไปแล้วก็ยาว ตอนแรกฟู่ชิงเยว่อาของฟู่เจิงรับเลี้ยงเด็กกำพร้าอยู่ที่เมืองนอก ตอนนี้อายุห้าขวบแล้ว ปีที่แล้วอาเหลียงแท้ง แล้วฟู่ชิงเยว่ติดธุระพอดี เลยส่งเด็กคนนั้นกลับประเทศมาให้ฟู่เจิงดูแลช่วงหนึ่ง ฟู่เจิงเลยให้เด็กคนนั้นอยู่ในประเทศไปเลยเพื่อง้ออาเหลียง ปกติจะมาอยู่เป็นเพื่อนอาเหลียง และเด็กคนนั้นเองก็เข้าไปอยู่ในทะเบียนบ้านของฟู่เจิง แต่ว่า...”เยี่ยนหวยเดาเรื่องที่จะเกิดขึ้นต่อไปออกแล้ว จึงรับช่วงเอ่ยขึ้นต่อว่า “แต่ว่าจู่ ๆ ก่อนหน้านี้ก็มีข่าวบอกว่าเด็กผู้หญิงคนนั้นเป็นลูกของฟู่เจิงกับอิเลีย?”“ใช่ รายละเอียดฉันก็ไม่ค่อยแน่ใจเหมือนกัน เหมือนว่าจะเกี่ยวข้องกับอาของฟู่เจิงนิดหน่อย เธอรู้ตัวตนของเด็กผู้หญิงคนนั้นมาตั้งแต่แรก และไม่ชอบอาเหลียงมาโดยตลอด ยังไงตอนนี้อาเหลียงก็อยู่กับฉัน เขากับฟู่เจิงทะเลาะกันอีกแล้ว”เยี่ยนหวยเอ่ยควา
“เยี่ยนหวย!!”ประตูลิฟต์เปิดออก ทั้งสองคนเข้าไปกันตามลำดับ แล้วลงไปยังลานจอดรถใต้ดินตรงมุมเลี้ยว ในหัวของผู้หญิงสวมหน้ากากอนามัยวาบภาพที่เห็นเมื่อครู่ขึ้นมา หมัดที่ห้อยอยู่กำขึ้นแน่น เธอก้มหน้าทั้งดวงตาที่ประกายความอำมหิตออกมาหากเวินเหลียงอยู่ตรงนี้ คงจะจำได้แน่ ๆ ว่าผู้หญิงที่สวมหน้ากากอนามัยคนนี้ก็คืออลิซที่เธอมาเจียงเฉิง ก็เพราะเยี่ยนหวย เยี่ยนหวยมาเมืองซีเมื่อสองวันก่อน เธอเองก็ตามมาเช่นกันอิเลียถามเลขาของเยี่ยนหวย เมื่อรู้โรงแรมของเขาก็บอกกับอลิซทีแรกอลิซคิดว่าเยี่ยนหวยมาทำธุระที่เมืองซี จากนั้นก็ค่อย ๆ พบว่ามันไม่ชอบมาพากลเยี่ยนหวยไม่ยุ่งเลยสักนิดแถมยังมีเวลาไปสอบถามร้านอาหารท้องถิ่น ถนนคนเดิน จุดชมวิวของเมืองซีเป็นต้น อีกต่างหาก ไม่เหมือนมาทำงานต่างถิ่น แต่เหมือนมาเที่ยวเสียมากกว่าจนกระทั่งวันนี้ เมื่อได้เห็นภาพนั้น อลิซถึงเข้าใจทุกอย่างที่แท้คนที่ซีซาร์ชอบไม่ใช่เฟย์ แต่เป็นถังซือซือเพื่อนของเฟย์!ที่แท้เขาไม่ได้มาทำงานต่างถิ่นที่เมืองซี แต่มาเพื่อตามจีบถังซือซือ!ที่เขาสอบถามร้านอาหารและจุดชมวิวของเมืองซี ก็เพื่อพาถังซือซือไปวันนี้!ในใจอลิซอิจฉาเป็นอย่างม
เมื่อเยี่ยนหวยได้ยินดังนั้น ก็รู้ในทันทีว่าเวินเหลียงไม่ได้รักษาคำมั่นสัญญาแต่เขาก็เตรียมตัวไว้นานแล้ว วันนั้นหลังจากกลับไปก็ให้คนไปตรวจสอบกล้องวงจรปิด แล้วตัดคลิปมาใส่ไว้ในโทรศัพท์เมื่อได้ยินถังซือซือถามขึ้น เขาก็รีบส่งให้เธอทันที “ก็แค่คนที่ไม่สลักสำคัญอะไรคนหนึ่ง ฉันปฏิเสธเขาไปแล้ว”ถังซือซือดูคลิปรอบหนึ่ง ก่อนจะเบะปาก “อยู่ต่างประเทศคุณเยี่ยนมีสาวมาชอบเพียบเลยนะคะ”“แต่ฉันสนใจอยากจะครอบครองแค่เธอ”“จะยอมให้ฉันครอบครองไหม คุณถัง?”เยี่ยนหวยนั่งเอี้ยวตัว แขนข้างหนึ่งพาดอยู่บนพนักพิงเก้าอี้ เขาโน้มตัวเข้ามา ตัวท่อนบนใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ กลิ่นหอมฉุยจาง ๆ และกลิ่นอายของชายหนุ่มที่มาพร้อมกับการบุกรุกโอบล้อมเธอเอาไว้เขาดันแว่นตากรอบทอง สีหน้าอบอุ่น ฉีกยิ้มทว่าก็ราวกับไม่ยิ้ม มุมปากกระตุกรอยยิ้มเล็กน้อย ค่อนข้างมีความรู้สึกประเภทหน้าเนื้อใจเสือถังซือซือเหม่อไปครู่หนึ่ง“คุณถัง?”ใบหน้าหล่อเหลาตรงหน้าขยายใหญ่ขึ้นอีกครั้ง ไออุ่นร้อนปะทะเข้ามาที่หน้า ในที่สุดถังซือซือก็ได้สติกลับมา เธอเอนหลังพลางตบหน้าอก “นายทำฉันตกใจหมด...ไป ไปเดินหาของกินเล่นกันเถอะ”เธอลุกขึ้นและเดินออกไปอย่าง