ที่เกรตโอเชียนโรดมีนักท่องเที่ยวมากมาย ฉะนั้นในทุกอำเภอเล็ก ๆ ระหว่างทางจึงมีศูนย์นักท่องเที่ยวอยู่ศูนย์นักท่องเที่ยวของอ่าวอะพอลโลอยู่ไม่ไกลจากที่นี่ ไม่นานตำรวจก็มาถึงจุดเกิดเหตุ…ในวินาทีนี้ บนเฮลิคอปเตอร์ เวินหลียงพาดอยู่บนตัวฟู่เจิงราวกับหมึกยักษ์ตัวยาว“ร้อนจัง...”เธอบ่นพึมพำด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาพลางล้วงเข้าไปในเสื้อเชิ้ตของฟู่เจิง ลูบกล้ามเนื้อแสนแน่นของเขาไปตามอำเภอใจอืม...สบายตัวจัง...แต่มันยังไม่พอเธอฉีกเสื้อเชิ้ตของฟู่เจิงโดยไม่รู้สึกตัว กระดุมสองเม็ดบนสุดของเสื้อเชิ้ตฟู่เจิงปริออก เวินเหลียงแนบหน้าเข้าไปเลยคนที่ใจถวิลหาอยู่ในอ้อมอกของตน ร่างกายอรชรอ้อนแอ้นแสนประณีตบิดไปบิดมา ฟู่เจิงควบคุมไม่อยู่ ส่วนลึกในร่างกายมีไฟชั่วร้ายลุกโชนขึ้นมาสายหนึ่ง แทบอยากจะสำเร็จโทษเวินเหลียงเสียตรงนี้เลยทว่าเมื่อนึกถึงที่เวินเหลียงตำหนิทั้งน้ำตาเมื่อวาน เขาก็ไม่กล้าไปถึงขั้นนั้นภายในสถานการณ์ที่เธอไม่รู้สึกตัว เขากลัวว่าจะไปร้ายเธอเข้า กลัวว่าเธอจะเกลียดเขาเมื่อครู่ตอนเห็นฉากพรรค์นั้นในเต็นท์ ฟู่เจิงก็เดือดพล่านจนแทบจะระเบิดแล้ว หากไม่ใช่เพราะสติบอกเขาว่าเวินเหลียงรอไม่ได้แล้
“อืม...” เวินเหลียงหลับตาลง มือทั้งสองอดไม่ได้ที่จะโอบคอของฟู่เจิงเอาไว้ และตอบสนองเขากลับอย่างเร่าร้อนทั้งสองคนแลกของเหลวซึ่งกันและกัน ฟู่เจิงค่อย ๆ ผละออกจากริมฝีปากของเวินเหลียง ระหว่างนั้นเส้นเงินอุ่นโปร่งแสงสายหนึ่งก็ถูกชักออกมา สุดท้ายก็ขาดช่วงจากตรงกลางบนหน้าเขาแฝงไปด้วยสีหน้าของความอดกลั้น กดคิ้วจนต่ำสุด นัยน์ตาทั้งสองจ้องสีหน้าของเวินเหลียง ปรับจังหวะที่มือนัยน์ตาทั้งสองของเวินเหลียงหรี่ลงเล็กน้อย ตาปรือ สีหน้าแดงระเรื่อ ริมฝีปากที่ทั้งแดงและชุ่มชื้นเผยอออกเล็กน้อย พร้อมทั้งเปล่งเสียงครางทรงเสน่ห์ออกมาเสียงหนึ่งมืออีกข้างของฟู่เจิงรีบเอามาปิดไว้บนริมฝีปากของเวินเหลียงในทันที สกัดเสียงครางเบา ๆ ที่ยังไม่ทันได้เปล่งออกมาของเธอกลับเข้าไปคิ้วอันงดงามของเวินเหลียงขมวดเล็กน้อยเธอหลับตาลง เสียงลมหายใจรัวถี่ขึ้นเรื่อย ๆ ในลำคอพลางเปล่งเสียงครางแผ่วเบาอย่างยากจะอดกลั้นเอาไว้ออกมาทันใดนั้นเธอก็แข็งทื่อไปทั้งตัว นัยน์ตาทั้งสองหลับปี๋ สีหน้าสวยเพริศแพร้วดุจบุปผา ทั้งเนื้อทั้งตัวอ่อนปวกเปียกจนทรงตัวไม่อยู่ มือทั้งสองข้างไหลลงมาจากคอของฟู่เจิงอย่างไร้เรี่ยวแรง เกือบจะล้มลงไปบน
เวินเหลียงหันหน้าไปแล้วสบตากับฟู่เจิงพอดี ทว่าไม่มีทีท่าจะหลบแต่อย่างใด “ฉันชอบเขามากจริง ๆ ทั้งยังหนุ่มทั้งหล่อดูสดใสร่าเริง เอาแต่เรียกฉันว่าพี่สาวครับ ๆ ทำเอาฉันกระชุ่มกระชวยหัวใจ ทำให้ฉันที่เดิมทีตายด้านพลันรู้สึกเด็กลง”“เพราะงั้น เมื่อคืนฉันก็เสียแรงเปล่า แถมทำเธอเสียเรื่องใช่ไหม?” ฟู่เจิงฝืนเค้นประโยคนี้ออกมาจากร่องฟัน“ก็ไม่เป็นไรหรอก เรื่องพรรค์นี้ค่อยนัดกันอีกทีวันหลังก็ได้ ฉันแค่อยากบอกคุณเฉย ๆ ว่า อย่ายัดเยียดความคิดและความชอบของคุณให้ฉัน ก็เหมือนกับที่คุณคอยตามดูฉัน คิดเองเออเองว่ามันดีกับฉัน แต่ความจริงแล้วมันกลับทำให้ฉันโคตรเบื่อสุด ๆ คุณคิดเองเออเองว่าทำไปเพื่อฉัน แต่อันที่จริงแล้วสำหรับฉันมันไม่นับว่าเป็นอะไรเลย เพราะงั้นฉันขอร้องล่ะ ต่อจากนี้อย่ามาตามฉันอีก โอเคไหม?!”เมื่อได้ยินวลีที่ว่าค่อยนัดกันอีกทีวันหลัง เลือดลมที่อกฟู่เจิงก็ปั่นป่วนอันที่จริงแล้วสำหรับเธอนั่นมันไม่นับว่าเป็นอะไรเลย?!เพื่อทำให้เขาไม่ตามเธออีก เธอถึงขั้นใช้คำว่า ‘ขอร้อง’?ฟู่เจิงขบกรามแน่น พูดไปชะงักไป “เวินเหลียง! เมื่อก่อนเธอไม่ได้เป็นแบบนี้นี่! ฉันไม่ควรปล่อยให้เธอออกมาเที่ยวกับถังซือซ
เวินเหลียงและถังซือซือโทรคุยกันถังซือซือเล่าว่า ที่เต็นท์มีรอยนิ้วมือของเฮ่อหมิง ไกด์นำเที่ยวและนักท่องเที่ยวคนอื่นชี้ว่าเฮ่อหมิงมีโอกาสแตะต้องแก้วของเวินเหลียง จางชวนเองก็บอกเล่าว่ายานอนหลับของตัวเองหายไปเม็ดหนึ่ง มิหนำซ้ำยังมีการรับรองของเจ้าของร้านขายของเล่นผู้ใหญ่ในตำบล เฮ่อหมิงถูกจับกุมเรียบร้อยแล้วเพียงแต่น่าเสียดายที่ วันที่สองของการท่องเที่ยวในเกรตโอเชียนสองวันเสียเปล่าไปเลย พวกเขาไม่ได้ออกเดินทางจากอ่าวอะพอลโล ไม่ได้นั่งเฮลิคอปเตอร์ ไม่ได้ดูจิงโจ้ น่าเสียดายเป็นอย่างมากมีเพียงนักท่องเที่ยวสองสามคนที่ยังมีเวลาเหลือเฟือ สามารถไปทัวร์กับไกด์นำเที่ยวครั้งต่อไปได้ฟรีส่วนคนที่มาร่วมในครั้งถัดไปไม่ได้ ไกด์นำเที่ยวก็คืนค่าใช้จ่ายให้ครึ่งหนึ่ง นี่ถือเป็นการปลอบใจเพียงอย่างเดียวถังซือซือถามความเห็นของเวินเหลียง เวินเหลียงถามขึ้นว่า “ทัวร์ครั้งหน้าคือเมื่อไร?”“อีกสามวัน”“งั้นพวกเราเข้าร่วมทัวร์ครั้งหน้ากันไหม”“โอเค งั้นเดี๋ยวฉันไปบอกกับไกด์นำเที่ยวนะ”ภายในระยะเวลาสามวันนี้ เวิเนหลียงและถังซือซือได้ไปที่เคนส์กันมาเที่ยวหนึ่ง นั่งเรือไปเกรตแบร์ริเออร์รีฟ สัมผัสประสบการณ์น
ไม่ได้กลับมาเกือบหนึ่งเดือน ทุกที่ภายในห้องมีขี้ฝุ่นร่วงหล่นลงมาชั้นหนึ่ง เครื่องใช้ภายในห้องครัวก็ต้องล้างทำความสะอาดเพียงแต่ตอนนี้พวกเธอไม่มีกะจิตกะใจจะไปทำความสะอาด หลังนอนบนโซฟาอยู่นานสองนาน ถังซือซือไถโทรศัพท์ไปพลางถามขึ้นว่า “เธออยากกินอะไร?”เวินเหลียงเข้าใจในทันทีว่าถังซือซือจะสั่งดิลิเวอรี เธอแจ๊บ ๆ ปาก ก่อนจะเปิดแอพดิลิเวอรี “ฉันสั่งเป็ดย่าง”“งั้นฉันจะสั่งไก่ทอดก็แล้วกัน...พูดคำว่าไก่ไม่พูดคำว่าก็แล้วกันต่อท้าย[1] จะได้ฟังดูสุภาพทุกคน”เวินเหลียง “...”อาหารดิลิเวอรีที่ทั้งสองคนสั่งมาถึงตามลำดับก่อนปีใหม่ภายในประเทศมีหนังสองสามเรื่องที่รอเข้าฉายอยู่นานแล้ว ตอนนี้เข้าแอพดูหนังแล้วในเพนส์เฮ้าส์ของถังซือซือมีห้องดูหนังขนาดย่อมห้องหนึ่งทั้งสองคนยกอาหารดิลิเวอรีไปในห้องดูหนังด้วยกัน ดูหนังไปด้วยกินอาหารดิลิเวอรีไปด้วยหลังกินอาหารดิลิเวอรีเสร็จ ทั้งสองคนก็นอนดูหนังบนโซฟากันอย่างไม่ห่วงภาพลักษณ์เวินเหลียงเอ่ยขึ้นพร้อมทั้งนั่งไขว่ห้าง “ดีจริง ๆ ฉันก็อยากซื้อเพนส์เฮ้าส์ห้องหนึ่งพอดี อยู่คนเดียวมีความสุขดี”ไม่ดีที่เธอจะมาพลอยอาศัยอยู่กับถังซือซือที่นี่ ทว่าก็ไม่คิดจะ
รถของเวินเหลียงแล่นไปยังคฤหาสน์ย่านซิงเหอวานเมื่อมาถึงช่วงถนนใกล้จะถึงคฤหาสน์ ความเร็วในการขับขี่ของเธอก็อดไม่ได้ที่จะช้าลงมีความรู้สึกยิ่งใกล้บ้านก็ยิ่งหวั่นใจอย่างหนึ่งผุดขึ้นมาอย่างไร้สาเหตุเวินเหลียงสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ เฮือกหนึ่ง พยายามสงบจิตใจลงรถยนต์มาหยุดที่ประตูใหญ่ของคฤหาสน์ย่านซิงเหอวานป้ายทะเบียนรถยังอยู่ในกล้องวงจรปิดของ รปภ. ในย่าน ไม้กั้นยกขึ้น เธอเหยียบคันเร่งขับรถเข้าไป ก่อนจะไปหยุดลงนอกคฤหาสน์ป้าหวังกำลังทำความสะอาดห้องน้ำในลานบ้าน ครั้นได้ยินเสียงเครื่องยนต์ของรถ เธอก็เงยหน้าขึ้นมามอง เมื่อเห็นก็วางไม้กวาดลงด้วยความดีใจปนแปลกใจ ก่อนจะมารับหน้า “คุณผู้หญิง คุณกลับมาแล้วเหรอคะ?”เวินเหลียงยิ้มชืด ๆ ทีหนึ่ง “ป้าหวัง ฉันหย่ากับเขาแล้ว ป้าเลิกเรียกฉันว่าคุณผู้หญิงได้แล้วค่ะ ที่ฉันมาวันนี้ เพราะจะมารับปุ๊กลุกค่ะ”ป้าหวังอุททาน “ให้ตายเถอะ” ขึ้นเสียงหนึ่ง “คุณเวิน ตอนนี้ปุ๊กลุกไม่ได้อยู่ที่นี่ค่ะ”เวินเหลียงประหลาดใจ “ปุ๊กลุกไม่ได้อยู่ที่นี่?”“ใช่ค่ะ” ป้าหวังถอนหายใจอีกครั้ง “ทั้งหมดต้องโทษฉัน วันนั้นฉันอุ้มปุ๊กลุกไปเล่นในลาน อาจเป็นเพราะมันยังเล็กเกินไป ภูม
เลขาหยางที่อยู่ปลายสาย “ประธานฟู่??? นี่คุณกำลังพูดเรื่องอะไรอยู่คะเนี่ย?”“ตกลงตามนี้ละกัน แค่นี้นะ” ฟู่เจิงกดวางสายด้วยใบหน้าที่มีสีหน้าคงเดิม จากนั้นก็วางโทรศัพท์ไว้บนโต๊ะ ทว่าตากลับเอาแต่มองไปที่หน้าของเวินเหลียงอยู่ตลอด สีหน้าแฝงความไม่ยอมปล่อยเวินเหลียงไปอยู่เล็กน้อยเลขาหยาง “???”นี่เขาคิดจะขายคฤหาสน์หลังนี้เหรอ?เวินเหลียงกัดริมฝีปากเงียบ ๆดูท่าเขาคงคิดตกแล้ว ว่าจะบอกลาการแต่งงานที่ผ่านมาสามปีโดยสิ้นเชิงเขาคงกำลังจะแต่งงานกับฉู่ซืออี๋นี่คือสิ่งที่เธอต้องการไม่ใช่เหรอ?ตอนนั้นเธอเองก็อยากขายคฤหาสน์หลังนี้ทิ้งไปเหมือนกันไม่ใช่เหรอ?แต่ทำไมหลังจากรู้ข่าวนี้ ในใจของเธอกลับว่างเปล่าอยู่นิดหน่อยนะคงเป็นเพราะยังไม่ชินละมั้ง ต่อไปคงค่อย ๆ ดีขึ้นเองเวินเหลียงพยายามคุมอารมณ์ให้มั่นคง “คุณจะขายที่นี่เหรอ?”ฟู่เจิงมองสีหน้าบนหน้าเธออย่างจริงจัง “ก็มีแพลนเรื่องนี้ไว้”“ขายไปก็ดี หย่ากันแล้ว เก็บมันไว้ก็ไม่มีประโยชน์อะไร” เวินหลียงเอ่ยขึ้นชืด ๆ “จริงสิ เมื่อกี้คุณอยากจะพูดอะไรนะ?”เห็นเวินเหลียงไม่สะทกสะท้าน ความโกรธในใจของฟู่เจิงก็พลุ่งพล่านขึ้นมาความเดือดดาลกลิ้งไปมาอ
เวินเหลียงย้ายอาหารแมว ทรายแมวและอาหารกระป๋องแมวของปุ๊กลุกไปไว้บนรถเลยเธอหันมองไปด้านหลังเบา ๆ ทีหนึ่ง ฟู่เจิงไม่ได้ตามมาแม้ในใจเธอจะลอบถอนหายใจเฮือกหนึ่ง ทว่าก็มีความผิดหวังที่ยากจะเชื่ออยู่เล็กน้อยเธอเข้าไปนั่งยังตำแหน่งคนขับ เงียบไปอยู่ครู่หนึ่ง ถึงได้ล้วงโทรศัพท์ออกมา แล้วกดโทรหาเลขาหยางพูดตามตรงตอนที่เห็นสายเวินเหลียงโทรเข้ามา เลขาหยางประหลาดใจเป็นพิเศษเธอรับสายอย่างระมัดระวัง “ฮัลโหล คุณเวิน?”“เลขาหยาง ปุ๊กลุกอยู่โรงพยาบาลสัตว์ไหนคะ?”ใครบอกเธอได้บ้างว่าปุ๊กลุกนี่ใคร?แล้วทำไมเวินเหลียงถึงมาถามเรื่องนี้กับเธอล่ะ?เลขาหยางนึกถึงคำพูดแปลกพิกลสองสามประโยคนั่นตอนที่ฟู่เจิงรับสาย เธอชะงักไปสองสามวินาที ถึงตอบกลับไปว่า “ขอโทษนะคะคุณเวิน ฉันมีงานด่วนกะทันหัน เลยส่งปุ๊กลุกให้ผู้ช่วยไป ตอนนี้ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันค่ะว่ามันอยู่โรงพยาบาลสัตว์ไหน”เวินเหลียง “...”เวินเหลียงพลันหมดคำพูด ไม่รู้ว่าควรพูดอะไรต่อดีมีชั่ววูบหนึ่ง เวินเหลียงสงสัยว่าฟู่เจิงจะทำปุ๊กลุกตาย ถึงได้ใช้เหตุผลแบบนี้มาถ่วงเวลาเลขาหยางพูดขึ้นอีกว่า “เอาแบบนี้นะคะ ฉันจะช่วยถามผู้ช่วยให้คุณเองค่ะ ได้เรื่องแ
อิเลียลุกขึ้นพรวด พลางมองเยี่ยนหวยอย่างเหลือเชื่อ“ถ้าเธอยังเห็นฉันเป็นพี่ชายของเธออยู่ ก็เชื่อฟังฉัน แล้วกลับไปเมืองฟิลาเดลเฟียพรุ่งนี้ซะ!” เยี่ยนหวยนั่งตัวตรงพลางเงยหน้ามองเธออยู่บนโซฟา“ฉันไม่กลับ!” อิเลียเดือดดาลจนแค่นเสียงฮึออกมาทีหนึ่ง ก่อนจะกลับไปนั่งตรงมุมโซฟา “อยากกลับพี่ก็กลับไปเองซะเลยสิ!”“ฟู่เจิงไม่ใช่คนดี ต่อให้ระหว่างพวกเธอมีลูกด้วยกัน เขาก็ไม่มีทางคบกับเธอ”ก่อนหน้านี้ฟู่เจิงเคยมีเรื่องอื้อฉาวว่ามีชู้ ตอนนี้ก็มีอดีตภรรยาที่มีความสัมพันธ์คลุมเครือมาอีกคน ขอให้เป็นผู้ใหญ่ที่รักลูกสาว ก็จะไม่มีวันเลือกเขาทั้งนั้น“พี่รู้ได้ยังไงว่าเขาไม่ใช่คนดี? พี่รู้ได้ไงว่าเขาจะไม่คบกับฉัน? วันนี้ตอนเที่ยงเรายังไปกินข้าวด้วยกันอยู่เลย!”เมื่อเห็นอิเลียดื้อดึง ในใจของเยียนหวยก็รู้สึกไม่ได้ดั่งใจ เขาแสยะยิ้มออกมาทีหนึ่ง ก่อนจะเอ่ยว่า “พวกเธอไม่ได้ไปกินข้าวด้วยกันตามลำพัง แต่ฟู่ซือฝานอยู่ข้าง ๆ ใช่ไหม?”ในช่วงเวลาสำคัญแบบนี้ ฟู่เจิงจะมากินข้าวกับอิเลียตามลำพังได้ยังไง? นอกเสียจากเขาคิดจะเลิกกับเวินเหลียงจริง ๆ“...ใช่ ก็เขาเป็นลูกของพวกเรานี่” เมื่อเห็นว่าถูกเดาทางถูก อิเลียก็พูดอึ
แต่หลังจากเดินตามแผนแล้วถึงได้พบว่า นี่มันไม่ใช่เรื่องเล็ก ๆ เลยถ้าพ่อแม่คุณลุงคุณป้ารู้ว่าเธอมีลูกนอกสมรสข้างนอก ต้องเข้ามาแทรก และไม่แน่ว่าจะพาตัวเธอกับลูกกลับไป“อิเลีย ผมเข้าใจนะครับคุณในฐานะแม่แท้ ๆ คุณอยากรีบกระชับความสัมพันธ์กับฝานฝาน แต่ก็อย่าตื่นตระหนกจนทำอะไรไม่ถูก โดยเฉพาะมักจะไปหาฝานฝานที่โรงเรียนอนุบาล แบบนี้จะส่งผลกระทบกับชีวิตของเธอได้นะครับ”“ฉันรู้แล้วค่ะ ต่อไปจะไม่ไปหาเขาที่โรงเรียนอนุบาลอีก ฉันเห็นว่าคุณกินน้อยมาก อาหารที่เหลือไม่ถูกปากหรือเปล่า?”ฟู่เจิง “...ก่อนมาผมกินมาบ้างแล้ว”หลังกินข้าวเที่ยงเสร็จ ฟู่ซือฝานรบเร้าขอกลับกับฟู่เจิงเธอล้วงกลยุทธ์ร้องไห้งอแงชักดิ้นชักงออยู่ที่พื้นของเด็กห้าขวบออกมาอย่างล้ำลึก ไม่มีเหตุผล ทว่าอิเลียฝืนเธอไม่ได้อิเลียทำได้เพียงกลับไปที่บ้านของเซี่ยเจิน“อิเลีย เธอกลับมาแล้วเหรอ?”เมื่อเห็นอลิซนั่งอยู่บนโซฟา อิเลียเดินมานั่งลง “เป็นยังไงบ้าง? ครั้งนี้เธอไปเมืองซีกับซีซาร์ ได้แสร้งทำเป็นเจอโดยบังเอิญ แล้วไปกินข้าวกับเขาอะไรหรือเปล่า?”อลิซเบะปาก “เปล่า”“ทำไมล่ะ? โอกาสดีขนาดนั้นทำไมเธอไม่คว้าเอาไว้?”“เขางานยุ่งมาก ฉันกล
อิเลียจัดผมด้วยท่าทางราวกับไม่มีเจตนาอื่น หน้าตาเผยความตื่นเต้นออกมาดูท่าเธอจะเลือกวิธีถูกจริง ๆในตอนนี้เธอเพิ่งเข้าใกล้ฟู่ซือฝานไม่เท่าไร ท่าทีของฟู่เจิงเขาก็ผ่อนคลายลงเยอะแล้วผ่านไปยี่สิบนาที ฟู่เจิงก็ปรากฏตัวขึ้นในห้องรับรองนี่เป็นการเจอกันครั้งที่สองหลังจากวันนั้นเขานั่งลงข้าง ๆ ฟู่ซือฝาน พลางพยักหน้าให้อิเลียเบา ๆ “รบกวนแล้ว ไม่ถือสาที่ผมมาร่วมโต๊ะด้วยใช่ไหม?”“ไม่ถือสา นั่งเถอะค่ะ”สีหน้าของอิเลียเย็นชา ราวกับยังอยู่ต่อหน้าคุณหญิงและฟู่ชิงเยว่ครั้งก่อน เธอไม่ได้โกรธที่ฟู่เจิงปฏิเสธเธออย่างไร้ความปรานี“งานผมยุ่งมาก ยากที่จะใส่ใจคุณกับฝานฝานได้มากขนาดนั้น”“ฝานฝานเป็นลูกของฉัน นี่เป็นสิ่งที่สมควรอยู่แล้ว ฉันไม่รู้ว่าคุณจะมา ก็เลยสั่งอาหารไปสุ่ม ๆ เดี๋ยวอาหารมาเสิร์ฟคุณก็ดูแล้วกันว่าอยากจะสั่งเพิ่มไหม”“ผมไม่เลือกกิน” ฟู่เจิงตอบจากนั้นพนักงานก็เริ่มมาเสิร์ฟอาหารฟู่เจิงมองเนื้อแพะที่มาเสิร์ฟเต็มโต๊ะ เขาเงียบไปครู่หนึ่ง จากนั้นก้มหน้าไปมองฟู่ซือฝานฟู่ซือฝานก้มศีรษะน้อย ๆ อย่างกระวนกระวายอิเลียหยิบตะเกียบขึ้นมา “ไม่ต้องเกรงใจ กินเลยค่ะ”ฟู่เจิงลังเลอยู่ครู่หนึ่
เจียงเฉิงเที่ยงวันศุกร์ อิเลียไปรับฟู่ซือฝานออกไปกินข้าวเที่ยงที่คฤหาสน์ย่านซิงเหอวานเธอฉีกยิ้มพลางพูดกับฟู่ซือฝานว่า “เมื่อวานแม่ว่าจะไปรับหนูที่โรงเรียนอนุบาล จู่ ๆ ก็นึกถึงคำพูดของหนูเมื่อครั้งก่อนได้ ก็เลยมาวันนี้ วันนี้ตอนบ่ายแม่จะพาหนูไปเล่นดี ๆ เป็นยังไงจ๊ะ?”ฟู่ซือฝานเอียงคอพลางครุ่นคิด “ตอนบ่ายหนูต้องทำการบ้าน แค่กินข้าวเที่ยงก็พอแล้วค่ะ”“ก็ได้ งั้นหนูคิดไว้หรือเปล่าว่าอยากกินอะไร?”“ไปร้านอาหารที่มีเมนูเนื้อแพะแนะนำแล้วกันค่ะ” ฟู่ซือฝานเอ่ยขึ้นด้วยทีท่าจริงจัง “วันนี้คุณลุงบอกว่าจะไปกินข้าวเที่ยงเป็นเพื่อนหนู ไม่รู้ว่าจะมาไหม”นัยน์ตาอิเลียวาบความปลื้มปีติออกมา “จริงเหรอ?”“เขาเคยบอกไว้แบบนี้ค่ะ คุณน้าคะ ที่คุณน้ารับหนูออกมา ไม่ใช่เป็นเพราะอยากกระชับความสัมพันธ์กับหนูสองต่อสองเหรอคะ? ทำไมถึงหวังให้คุณลุงมาด้วยล่ะคะ?”เจ้าตัวน้อยเอ่ยถามขึ้นด้วยใบหน้าจริงจัง“น้า...น้ามีเรื่องอยากพูดคุยกับพ่อของหนูน่ะ แล้วก็หวังว่าเราจะได้กินข้าวด้วยกันพร้อมหน้าพร้อมตากันทั้งครอบครัว” อิเลียรีบหาข้ออ้างทันทีเจ้าเด็กคนนี้ หูตาเฉียบแหลมจริง ๆ“อ้อ”“น้าจะหาร้านอาหารเนื้อแพะเดี๋ยวน
“เรียกฉันทำไม?” เยี่ยนหวยมองเธอด้วยสีหน้าไร้เดียงสา“ตอนนี้มันฤดูร้อน”ผ่านฤดูใบไม้ผลิมาแล้ว“ฉันแค่นึกถึงวันนั้นที่ไปติวให้เธอแล้วเจอแม่เธอเข้าโดยบังเอิญ เธอคิดไปถึงไหน?” เยี่ยนหวยเลิกคิ้วถังซือซือชะงักไปมีครั้งหนึ่งตอนที่เธอติวอยู่ในบ้าน แล้วบังเอิญเจอแม่ของเธอเข้าจริง ๆ แต่นั่นมันเรื่องตอนเทอมที่สองเยี่ยนหวยต้องจงใจพูดถึงวันนั้นตอนเทอมแรกแน่ ๆ ให้เธอเข้าใจผิดถ้าเธอชี้ไปเลยว่าเยี่ยนหวยจำผิด ก็จะเข้าแผนของเยี่ยนหวย เหมือนว่าเธอยังไม่เคยลืมเรื่องในอดีต คิดถึงเรื่องราวเหล่านั้นของเธอกับเยี่ยนหวยอยู่ตลอด“ตอนนี้ไม่ใช่ฤดูร้อนเหรอ? นายคิดไปถึงไหนอีก?” เธอปัดตกเรื่องนี้ไปอย่างมั่นใจทันทีหลังพูดจบ เธอก็หมุนตัวเดินไปด้านหน้าต่อ “ไม่พูดแล้ว รีบไปร้านถัดไปเถอะ”อยู่ข้างนอกจนถึงสี่ทุ่ม ทั้งสองคนถึงกลับไปยังโรงแรมด้วยกันถังซือซืออยากเรียกรถกลับไปเอง ไม่อยากให้เยี่ยนหวยไปส่งเธอเยี่ยนหวยจึงเอ่ยไปตามตรงว่า “ฉันพักอยู่ที่โรงแรมเดียวกันกับเธอ”ถังซือซือ “...”นี่ไม่ใช่ครั้งแรกแล้วคราวก่อนตอนที่เวินเหลียงถ่ายรูปเยี่ยนหวยรูปแรกที่เมืองฟิลาเดลเฟีย เวินเหลียงก็ถามว่าช่วงนี้เยี่ยนหวย
เมืองซีในฐานะเมืองใหญ่ของเจียงหนาน ประเภทของกินเล่นมีมากมาย ของกินเอกลักษณ์ที่ขึ้นชื่อไปทั่วประเทศอาทิ เต้าหู้เหม็น ไส้กรอกยักษ์ เส้นหมีเฝิ่น กุ้งเผ็ดเป็นต้นถังซือซือเคยมาเมืองซีตอนมาทำงานต่างถิ่นก่อนหน้านี้ เวลาค่อนข้างกระชั้นชิด จึงทำได้เพียงเดินช็อปปิงที่อื่น แต่เพิ่งเคยมาถนนคนเดินที่นี่เป็นครั้งแรกเธอซื้อไส้กรอกยักษ์สองชิ้นก่อน และแบ่งให้เยี่ยนหวยหนึ่งชิ้นกินไปได้เพียงครึ่งเดียว ถังซือซือก็หยุดอยู่ตรงหน้าร้านขายขนมฉือปา เธอกลืนน้ำลายแล้วถามขึ้นว่า “รู้ไหมคะว่าตรงไหนมีถังขยะบ้าง?”“ที่เหลือเธอไม่กินแล้วเหรอ?”“อืม”“ไม่อร่อย?”“ไม่ใช่ อร่อยมาก แต่ว่ายังมีของอร่อยอื่น ๆ อีกเยอะแยะ ฉันอยากเก็บท้องเอาไว้”เยี่ยนหวย “...”“เอามาให้ฉันก็ได้” เยี่ยนหวยรับไส้กรอกครึ่งชิ้นที่เหลืออยู่มาจากในมือของเธอ ก่อนจะเติมเข้าไปในท้องอย่างไม่มีภาระใด ๆถังซือซือซื้อขนมฉือปาแล้วเธอทำตัวอย่างกับโจร แต่ละร้านไม่ยอมปล่อยไปเลย ทว่าก็ชิมเพียงสองสามคำ ทั้งหมดที่เหลือก็โยนให้เยี่ยนหวยอย่างสบายใจเยี่ยนหวยเพลิดเพลินกับพฤติกรรมพรรค์นี้ ในใจเข้าใจได้ในทันที ราวกับกลับไปเมื่อเจ็ดปีก่อนหลังเรียนอย
“มันเรื่องอะไรกันแน่?”ก่อนหน้านี้ที่เยี่ยนหวยอยู่ที่เจียงเฉิง กลับไม่ได้สังเกตเท่าไรว่าอิเลียกำลังทำอะไรอยู่ เธอออกไปข้างนอกทุกวัน เยี่ยนหวยคิดเพียงแค่ว่าเธอกำลังไปเที่ยวเล่นถังซือซือไม่ใช่คนที่จะกุเรื่องมั่วซั่ว เธอพูดแบบนี้ ต้องรู้อะไรบางอย่างแน่ ๆ“พูดไปแล้วก็ยาว ตอนแรกฟู่ชิงเยว่อาของฟู่เจิงรับเลี้ยงเด็กกำพร้าอยู่ที่เมืองนอก ตอนนี้อายุห้าขวบแล้ว ปีที่แล้วอาเหลียงแท้ง แล้วฟู่ชิงเยว่ติดธุระพอดี เลยส่งเด็กคนนั้นกลับประเทศมาให้ฟู่เจิงดูแลช่วงหนึ่ง ฟู่เจิงเลยให้เด็กคนนั้นอยู่ในประเทศไปเลยเพื่อง้ออาเหลียง ปกติจะมาอยู่เป็นเพื่อนอาเหลียง และเด็กคนนั้นเองก็เข้าไปอยู่ในทะเบียนบ้านของฟู่เจิง แต่ว่า...”เยี่ยนหวยเดาเรื่องที่จะเกิดขึ้นต่อไปออกแล้ว จึงรับช่วงเอ่ยขึ้นต่อว่า “แต่ว่าจู่ ๆ ก่อนหน้านี้ก็มีข่าวบอกว่าเด็กผู้หญิงคนนั้นเป็นลูกของฟู่เจิงกับอิเลีย?”“ใช่ รายละเอียดฉันก็ไม่ค่อยแน่ใจเหมือนกัน เหมือนว่าจะเกี่ยวข้องกับอาของฟู่เจิงนิดหน่อย เธอรู้ตัวตนของเด็กผู้หญิงคนนั้นมาตั้งแต่แรก และไม่ชอบอาเหลียงมาโดยตลอด ยังไงตอนนี้อาเหลียงก็อยู่กับฉัน เขากับฟู่เจิงทะเลาะกันอีกแล้ว”เยี่ยนหวยเอ่ยควา
“เยี่ยนหวย!!”ประตูลิฟต์เปิดออก ทั้งสองคนเข้าไปกันตามลำดับ แล้วลงไปยังลานจอดรถใต้ดินตรงมุมเลี้ยว ในหัวของผู้หญิงสวมหน้ากากอนามัยวาบภาพที่เห็นเมื่อครู่ขึ้นมา หมัดที่ห้อยอยู่กำขึ้นแน่น เธอก้มหน้าทั้งดวงตาที่ประกายความอำมหิตออกมาหากเวินเหลียงอยู่ตรงนี้ คงจะจำได้แน่ ๆ ว่าผู้หญิงที่สวมหน้ากากอนามัยคนนี้ก็คืออลิซที่เธอมาเจียงเฉิง ก็เพราะเยี่ยนหวย เยี่ยนหวยมาเมืองซีเมื่อสองวันก่อน เธอเองก็ตามมาเช่นกันอิเลียถามเลขาของเยี่ยนหวย เมื่อรู้โรงแรมของเขาก็บอกกับอลิซทีแรกอลิซคิดว่าเยี่ยนหวยมาทำธุระที่เมืองซี จากนั้นก็ค่อย ๆ พบว่ามันไม่ชอบมาพากลเยี่ยนหวยไม่ยุ่งเลยสักนิดแถมยังมีเวลาไปสอบถามร้านอาหารท้องถิ่น ถนนคนเดิน จุดชมวิวของเมืองซีเป็นต้น อีกต่างหาก ไม่เหมือนมาทำงานต่างถิ่น แต่เหมือนมาเที่ยวเสียมากกว่าจนกระทั่งวันนี้ เมื่อได้เห็นภาพนั้น อลิซถึงเข้าใจทุกอย่างที่แท้คนที่ซีซาร์ชอบไม่ใช่เฟย์ แต่เป็นถังซือซือเพื่อนของเฟย์!ที่แท้เขาไม่ได้มาทำงานต่างถิ่นที่เมืองซี แต่มาเพื่อตามจีบถังซือซือ!ที่เขาสอบถามร้านอาหารและจุดชมวิวของเมืองซี ก็เพื่อพาถังซือซือไปวันนี้!ในใจอลิซอิจฉาเป็นอย่างม
เมื่อเยี่ยนหวยได้ยินดังนั้น ก็รู้ในทันทีว่าเวินเหลียงไม่ได้รักษาคำมั่นสัญญาแต่เขาก็เตรียมตัวไว้นานแล้ว วันนั้นหลังจากกลับไปก็ให้คนไปตรวจสอบกล้องวงจรปิด แล้วตัดคลิปมาใส่ไว้ในโทรศัพท์เมื่อได้ยินถังซือซือถามขึ้น เขาก็รีบส่งให้เธอทันที “ก็แค่คนที่ไม่สลักสำคัญอะไรคนหนึ่ง ฉันปฏิเสธเขาไปแล้ว”ถังซือซือดูคลิปรอบหนึ่ง ก่อนจะเบะปาก “อยู่ต่างประเทศคุณเยี่ยนมีสาวมาชอบเพียบเลยนะคะ”“แต่ฉันสนใจอยากจะครอบครองแค่เธอ”“จะยอมให้ฉันครอบครองไหม คุณถัง?”เยี่ยนหวยนั่งเอี้ยวตัว แขนข้างหนึ่งพาดอยู่บนพนักพิงเก้าอี้ เขาโน้มตัวเข้ามา ตัวท่อนบนใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ กลิ่นหอมฉุยจาง ๆ และกลิ่นอายของชายหนุ่มที่มาพร้อมกับการบุกรุกโอบล้อมเธอเอาไว้เขาดันแว่นตากรอบทอง สีหน้าอบอุ่น ฉีกยิ้มทว่าก็ราวกับไม่ยิ้ม มุมปากกระตุกรอยยิ้มเล็กน้อย ค่อนข้างมีความรู้สึกประเภทหน้าเนื้อใจเสือถังซือซือเหม่อไปครู่หนึ่ง“คุณถัง?”ใบหน้าหล่อเหลาตรงหน้าขยายใหญ่ขึ้นอีกครั้ง ไออุ่นร้อนปะทะเข้ามาที่หน้า ในที่สุดถังซือซือก็ได้สติกลับมา เธอเอนหลังพลางตบหน้าอก “นายทำฉันตกใจหมด...ไป ไปเดินหาของกินเล่นกันเถอะ”เธอลุกขึ้นและเดินออกไปอย่าง