“ไม่ต้อง หนังสือสัญญาหย่าของก่อนหน้านี้ยังมีผล ยกคฤหาสน์ย่านซิงเหอวานให้เธอ ฉันจะย้ายออกไป” ฟู่เจิงพูดด้วยใบหน้าราบเรียบ ในใจเลือดซิบเวินเหลียงส่ายหน้า “คุณเอาไปเถอะค่ะ ถ้าคุณไม่ต้องการ งั้นฉันจะให้ทางเอเจนท์ช่วยขาย”ตอนที่เซ็นหนังสือสัญญาหย่าเมื่อก่อนหน้านี้ เธออยากได้บ้านหลังนี้เพราะที่นั่นมีร่องรอยการอยู่ร่วมกันของพวกเขาตลอดสามปี เธออยากเก็บเอาไว้เพื่อค่อย ๆ รำลึกในภายหลัง พร้อมกันนั้นก็อยากให้บ้านหลังนี้ถูกฉู่ซืออี๋ยึดครองแต่ตอนนี้เธอไม่อยากได้มันแล้ว เพราะสำหรับเธอความทรงจำสมัยก่อนเหลือแต่ความทุกข์และความเสียใจในเมื่อเลือกที่จะปล่อยวาง งั้นก็ทิ้งมันไปให้หมดเถอะพอได้ยินดังนั้นฟู่เจิงก็เหมือนถูกน้ำเย็นสาดใส่กะละมังหนึ่ง รู้สึกหนาวขึ้นมาทั้งตัว หัวใจเหมือนมีก้อนหินก้อนใหญ่ทับ หายใจติดขัด หายใจไม่ออกเธอถึงกับอยากขายบ้านที่พวกเราอยู่ร่วมกันสามปีทิ้ง ไม่อยากเก็บความทรงจำสักนิดเลยเหรอ?!เธออยากตัดเขาให้ขาดอย่างนี้เลย?!“ฉันกลับก่อนนะคะ”เวินเหลียงหยิบกระเป๋าแล้วออกจากห้องพักผู้ป่วยฟู่เจิงหลับตาปี๋ นอนอยู่บนเตียงอย่างไร้เรี่ยวแรง หัวใจเหมือนถูกเฉือนออกไปส่วนหนึ่งทั้งอย่า
เวินเหลียงอุ้มปุ๊กลุกเดินลงบันไดเช้าวันต่อมา เธอจะส่งปุ๊กลุกไปที่เพ็ทช็อปก่อน แต่ตอนจะออกบ้านกลับเจอแม่บ้านกลับมาพอดี“ป้าหวัง ทำไมกลับมาล่ะคะ?”“เลขาหยางไปแล้วค่ะ คุณผู้ชายไม่ต้องให้ฉันดูแล” แม่บ้านยิ้มตอบ “คุณผู้หญิง นี่คุณจะเอาปุ๊กลุกไปไหนคะ?”“ป้าคะ ฉันหย่ากับเขาแล้ว ต่อไปไม่ต้องเรียกฉันว่าคุณผู้หญิงแล้วนะคะ เดี๋ยวฉันจะไปเที่ยวแล้ว อยากเอาปุ๊กลุกไปฝากเลี้ยงที่เพ็ทช็อประยะหนึ่งก่อนนะคะ”“เอาไว้นี่ไม่ได้เหรอคะ? ปุ๊กลุกคุ้นเคยกับที่นี่แล้ว ถ้าส่งมันไปเพ็ทช็อปแปลกที่มันอาจไม่ชินก็ได้ มันยังเล็กอยู่เลย”เวินเหลียงเผยความลำบากใจออกมาจากใบหน้า “นี่เป็นบ้านของเขา เอาไว้ที่นี่กลัวจะไม่ดีนะคะ”“ไม่เป็นไรค่ะ คุณผู้ชายก็เป็นคนเอามันกลับมา เลี้ยงไว้ที่นี่ก่อนสองสามวันก็ได้ คุณผู้ชายบอกว่าตอนนี้จะยังไม่ขาย เอาไว้ค่อยว่ากัน บ้านใหญ่ขนาดนี้ ถึงจะขายก็ต้องใช้เวลา ฉันก็ยังอยู่ไม่ใช่เหรอคะ? ถ้าคุณผู้ชายจะขายบ้านหลังนี้จริง ๆ ฉันจะเอามันกลับไปเลี้ยงที่บ้านสองสามวัน ยังไงมันก็คุ้นเคยกับฉัน และฉันก็ชอบมันมากเหมือนกันค่ะ”ให้ป้าหวังดูแลดีกว่าเพ็ทช็อปหน่อยจริง ๆเวินเหลียงคิดแล้วจึงตอบ “ป้าหวัง
หลังจากออกจากบ้านใหญ่ เวินเหลียงก็นำสัมภาระไปยังที่พักของถังซือซือถังซือซือไม่ได้พักอยู่ที่บ้าน แต่อยู่ในเพนท์เฮ้าส์ตามลำพัง มีพื้นที่กว้างขวาง ทัศนวิสัยสว่าง ผ่อนคลายมากเวินเหลียงคิด เอาไว้เธอกลับมาจากการท่องเที่ยวแล้วก็ซื้อเพนท์เฮ้าส์อยู่เองสักห้องได้แต่นั่นคือเรื่องในอนาคตถังซือซือแพลนเส้นทางการเที่ยวเรียบร้อยแล้วหลายวันก่อนตอนที่มาเยี่ยมเวินเหลียงก็เอาพาสปอร์ตของเวินเหลียงไปทำวีซ่า ซื้อตั๋วเครื่องบินและเตรียมการทุกอย่างเรียบร้อยแล้วเวินเหลียงเก็บสัมภาระของตัวเองอยู่ในเพนท์เฮ้าส์ของถังซือซืออีกครั้งคืนวันนั้น เวินเหลียง ถังซือซือและจูฝานมุ่งหน้าไปยังสนามบิน เตรียมเริ่มออกเดินทางไปท่องเที่ยวสถานีแรกของพวกเขา นั่นก็คือนอร์เวย์นอร์เวย์หมายถึงถนนที่ทะลุทางเหนือ เป็นหนึ่งในห้าประเทศยุโรปเหนือ การท่องเที่ยวที่นอร์เวย์ในฤดูหนาวคือการเล่นสกีและดูแสงเหนือเป็นหลักและตามแผนการของถังซือซือ พวกเขาจะไปตามแสงเหนือเป็นหลัก สัมผัสกับคนและวัฒนธรรมของนอร์เวย์ เล่นสกีเป็นแค่ของแถมเท่านั้นแสงเหนือคือปรากฏการณ์ทางธรรมชาติอย่างหนึ่ง ท้องนภาซึ่งอยู่ใกล้กับขั้วโลกเหนือและขั้วโลกใต้ ยามค่
หลังจากเกิดอุบัติเหตุ เธอไม่เคยได้รับคำขอโทษจากคนขับรถเลย มีแต่เงินชดเชยที่ศาลบังคับและเรื่องจากเวินเหลียงจะให้ลงโทษคนขับรถอย่างหนัก ดังนั้นเงินชดเชยจึงไม่มาก แต่เงินส่วนนี้แทบจะเป็นทรัพย์สินทั้งหมดของคนขับรถบรรทุกแล้วถ้าเธอเป็นแค่เด็กกำพร้าทั่วไป คิดจะเอาเงินส่วนนี้ยังไม่รู้ว่าต้องรอถึงเมื่อไรขณะนั้นเรื่องจากฐานะของพ่อจึงมีคนให้ความสนใจกับอุบัติเหตุทางรถยนต์มาก ด้วยความช่วยเหลือจากคุณปู่ฟู่และคนจากวงการต่าง ๆ รวมถึงสื่อ คนขับรถเรื่องจากดื่มสุราแล้วขับรถจนทำให้คนถึงแก่ความตายจากนั้นยังหลบหนีจึงถูกตัดสินจำคุกเจ็ดปี และนี่ก็เป็นบทลงโทษที่ค่อนข้างหนักแล้วและตอนนี้เจ็ดปีผ่านไป คนขับออกจากเรือนจำก็เป็นเรื่องปกติถึงไม่ว่าจะเป็นบทลงโทษหนักขนาดนี้ก็ชดเชยความสูญเสียจากการเสียพ่อของเวินเหลียงไม่ได้ แต่เวินเหลียงก็ไม่ได้ทำอะไรอีกเห็นได้ชัดว่าคนขับรถบรรทุกจำเธอไม่ได้ เขาเดินผ่านหน้าเธอไปและเข้าห้องน้ำชาย“อาเหลียง เธอกำลังดูอะไรเหรอ?”ถังซือซือออกมาจากห้องน้ำ เห็นเวินเหลียงเหม่อลอยจึงมองไปตามสายตาของเธอ และมองเข้าไปในห้องน้ำชาย แต่ไม่พบอะไร“ไม่มีอะไร” เวินเหลียงส่ายหน้า “พวกเราไปกั
ตอนที่เขาติดจีพีเอส เวินเหลียงกำลังเหม่ออยู่ ยังนึกว่าตัวเองไม่ทันระวังชนเขา ไม่สงสัยสักนิดแสงมืดแวบเข้ามาในดวงตาของฟู่เจิง วางสายโทรศัพท์ทันที จากนั้นก็เปิดแอปพลิเคชันหนึ่งในโทรศัพท์มือถือพร้อมกลั้นลมหายใจเหมือนอย่างที่คิด ในแผนที่ปรากฏจุดสีฟ้า กำลังหยุดอยู่ที่สนามบินนานาชาติเจียงเฉิงฟู่เจิงอมยิ้มเล็กน้อยแล้วหลับตาเขาสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ และพูดกับเลขาหยางที่อยู่อีกด้านหนึ่งของโซฟา “ไปทำเรื่องออกโรงพยาบาลให้ผมหน่อย”เลขาหยางอึ้ง “ประธานฟู่ คุณยังไม่หายดีเลยนะคะ”“ไม่เป็นไร”เห็นเลขาหยางยังยืนเฉย ฟู่เจิงจึงเงยหน้ามองไป “ยังไม่ไปอีก?”เลขาหยางยังลังเล “ประธานฟู่คะ มีเรื่องหนึ่งฉันไม่รู้ว่าคุณทราบหรือเปล่า สมควรบอกคุณหรือเปล่า”“เรื่องอะไร?”“เกี่ยวกับคุณผู้หญิงค่ะ”เธอรู้ว่าประธานฟู่รีบร้อนออกจากโรงพยาบาลก็เพราะอยากไปหาคุณผู้หญิงถึงคุณผู้หญิงจะเป็นคนดี แต่เจ้านายของเธอคือประธานฟู่ เธอไม่อยากเห็นประธานฟู่ถูกปิดหูปิดตาเกี่ยวกับเวินเหลียง?ฟู่เจิงเลิกคิ้ว “ว่ามา”แล้วพูดขึ้นอีก “ผมจะไม่โทษคุณ”เลขาหยางลังเลแล้วจึงเอ่ยปาก “ก่อนหน้านี้ตอนที่คุณผู้หญิงแท้ง คุณเคยเห็นประวัต
หมอไม่เข้าใจข้อสงสัยของฟู่เจิง “ใช่สิคะ ผู้หญิงที่เคยมีลูกก็เป็นแบบนี้ทั้งนั้นแหละ คุณเวินถือว่าเป็นคุณแม่ที่ฟื้นฟูได้ดีแล้วนะ ดูไม่ออกเลยว่าเคยมีลูก! ลูกคนโตคุณคงสามสี่ขวบแล้วสิ?”เลขาหยางลมหายใจชะงัก ไม่กล้าผ่อนลมดัง เหล่ตามองฟู่เจิงแวบหนึ่งเห็นเพียงฟู่เจิงหน้าดำยิ่งว่าท่านเปาฟู่เจิงดวงตาลุ่มลึก มืดสนิทเหมือนบ่อลึก ถามเสียงหนัก “คุณแน่ใจนะครับว่าไม่ได้ตรวจผิด?”“ตรวจผิด?” หมองงฟู่เจิงไขความกระจ่าง “ตอนนี้ผมยังไม่มีลูกเลยนะครับ”อารมณ์บนใบหน้าของหมอมีรอยแตกทันทีฟู่เจิงไม่มีลูก?ดังนั้น?ดังนั้นเวินเหลียงหลอกให้แต่งงานด้วยเหรอ?ให้ตาย คนหนึ่งมีนอกใจ อีกคนหลอกให้แต่งงาน สุดท้ายไม่ใช่ครอบครัวเดียวกันอยู่ด้วยกันไม่ได้ เหมือน ๆ กันนั่นแหละ!หมอสบตากับสายตาคมกริบของฟู่เจิงและอธิบาย “ไม่ได้ตรวจผิดแน่นอนค่ะ ไม่มีทางที่ฉันจะมองผิด อีกอย่างประวัติการรักษานี่ก็มีหมอคนอื่นเซ็นด้วย ถ้าคุณไม่เชื่อจะเรียกเขามาถามก็ได้!”เห็นฟู่เจิงหน้าตาขมึงทึง หมอนึกอะไรขึ้นได้จึงพูด “ก่อนหน้านี้ไม่นานคุณกับคุณเวินครบรอบแต่งงานสามปี? ดูจากการฟื้นฟูของคุณเวิน ตอนที่คลอดน่าจะเป็นเรื่องเมื่อสามสี่ปีก่อ
พอนึกถึงว่าความเป็นไปได้นี้เป็นความจริง ฟู่เจิงก็ทั้งเปรี้ยว ทั้งขื่น ทั้งขม ทั้งเค็ม ทั้งโกรธ ทั้งโมโห! เอ็นเขียวบนหน้าผากเต้นตุบ ๆ กัดฟันกรามกรอด พยายามหักห้ามความหุนหันที่จะปะทุ!ลูกของเขากับเวินเหลียงไม่ได้เกิดออกมาแต่เธอกลับเคยมีลูกกับผู้ชายคนอื่น!!!ผู้ชายคนนั้นเป็นใคร?!!!ใช่ผู้ชายคนแรกของเธอหรือเปล่า?!!เขากลับให้เวินเหลียงคลอดลูกตามลำพัง และไม่รับผิดชอบต่อเธอ?!ถ้าให้เขารู้นี้ เขาต้องจับคนคนนั้นมาสับเป็นหมื่น ๆ ชิ้นแน่!!!ก่อนหน้านี้เวินเหลียงอยากไปเมืองนอกกับโจวอวี่ตลอด หรือว่าผู้ชายคนนั้นก็คือโจวอวี่?!พวกเรามีรังรักอยู่เมืองนอก?!ตอนที่เวินเหลียงอยู่ปีสาม พวกเขาก็คบหากันแล้ว?!มุมมืดมิดหนึ่งในหัวใจดวงไฟลุกโชนโหมกระหน่ำฉับพลัน ไฟพุ่งสูงมาก ยิ่งไหม้ก็ยิ่งร้อนแรง แทบจะกลืนกันสติทั้งหมดของฟู่เจิง!เลขาหยางยืนพิงกำแพงเหมือนเสาต้นหนึ่งอยู่นอกห้องผู้ป่วย เงี่ยหูฟังเงียบ ๆในห้องไม่มีเสียงอะไรเลยเหมือนไม่มีคนอยู่เลขาหยางคิดในใจ ตอนนี้ประธานฟู่คงกำลังเสียใจมากแน่ กำลังนึกความทรงจำอยู่คนเดียวเงียบ ๆ เงียบบาดแผลในใจเงียบ ๆ ย่อยสลายความระทมทั้งหมดเงียบ ๆเพล้ง...ใ
“อือ”ฟู่เจิงค่อย ๆ ลืมตาขึ้นแววตาอับไร้แสง ราบเรียบไร้คลื่น มืดลึกเหมือนหลุมดำ ในดวงตาเต็มไปด้วยเส้นเลือดฝอยเนื่องจากไม่ได้หลับทั้งคืน รอยยับตรงหนังตาทั้งสองจึงลึกกว่าเดิม คิ้วกดลงต่ำมาก ท่าทางแข็งกร้าว เนื้อตัวแผ่กลิ่นอายชั่วร้ายออกมา เขาลุกขึ้นยืนแล้วข้ามสิ่งของบนพื้นตรงไปยังห้องข้าง ๆเลขาหยางตามเขาอยู่ข้างหลัง เทน้ำวางให้เขาบนโต๊ะแล้วถาม “ประธานฟู่ มีอะไรให้ฉันไปจัดการไหมคะ?”เธอไม่เชื่อว่าพอรู้ข่าวแล้ว ฟู่เจิงจะไม่ทำอะไรเลยฟู่เจิงนั่งลงบนโซฟา สองขาวเรียวยาวทับซ้อนกัน นั่งพิงแบบขี้เกียจ นวดหว่างคิ้วด้วยนิ้วหัวแม่มือและนิ้วชี้ ระหว่างที่ยกมือเผยให้เห็นนาฬิกาเหล็กตรงข้อมือเขายกแก้วขึ้นมาจิบคำหนึ่งช้า ๆ แล้วพูดเสียงขรึม “หาคนไปสืบดูว่าตอนคุณผู้หญิงเรียนปีสามที่เมืองนอกเกิดเรื่องอะไรขึ้น ละเอียดหน่อย”นั่งสลดอยู่ในห้องพักผู้ป่วยทั้งคืน สูบบุหรี่ทั้งคืน ในที่สุดเขาก็สงบสติอารมณ์ได้ นึกถึงความผิดปกติของเรื่องอันดับแรก เขามีเรื่องที่สับสนอยู่เรื่องหนึ่ง การท้องครั้งนี้เห็นชัดว่าเวินเหลียงเป็นมือใหม่ ไม่ค่อยเข้าใจ ถ้าเวินเหลียงเคยมีลูกจริงก็น่าจะมีประสบการณ์บ้างอย่างที่สอง