เธอเปิดหน้าจอดู นั่นคือข้อความที่ฟู่เจิงส่งมา “ฉันอยู่ห้อง 0104”ห้องของบรรดาเพื่อนร่วมงามได้จัดเตรียมเอาไว้แล้ว ผู้หญิงนอนห้องละสองคน ผู้ชายห้องละสี่คนส่วนฟู่เจิงอยู่ห้องเดี่ยว ห้องเพรสซิเดนสูทเวินเหลียงตอบกลับไปว่า “ไม่ต้องมั้งคะ”เธอมีรูมเมท ถ้าเธอไม่อยู่ในห้องตอนกลางคืนต้องถูกเอาไปเล่าแน่“ห้องฉันมีบ่อออนเซ็นส่วนตัว”เวินเหลียง “...”คราวนี้เธอลังเลแล้วสิครั้งนี้บริษัทเป็นเจ้าภาพจัดทีมบิวดิง จะจัดให้มีบ่อน้ำส่วนตัวทุกห้องไม่ได้แน่เพื่อนร่วมงานคนอื่น ๆ ต้องไปแช่ที่บ่อใหญ่ และเธอก็ไม่ชอบแช่ร่วมกับคนอื่น บ่อออนเซ็นส่วนตัว... จุดนี้ดึงดูเธอมากรถบัสขับเข้าออนเซ็นและจอดตรงที่โล่ง ทุกคนลงจากรถอีกครั้ง ตามเลขาจ้าวไปเอาคีย์การ์ดที่รีเซฟชั่นเลขาจ้าวส่งข้อความเข้าไลน์กลุ่ม : คืนนี้ทุกคนเข้าห้องพักแล้วฟรีสไตล์ พรุ่งนี้ตอนเที่ยงกินปิ้งย่างด้วยกันที่ห้องอาหารชั้นสองพร้อมส่งแผนที่ของที่พักพนักงานหญิงที่อยู่ห้องเดียวกับเวินเหลียงชื่อจางซิง เป็นพนักงานฝ่ายเอ็มเอฟคนหนึ่งทั้งสองกลับเข้าห้องตัวเองเพื่อเก็บของให้เรียบร้อยก่อนจางซิงตอบข้อความและพูดกับเวินเหลียงว่า “ผู้อำนวยการ
เธอตัวอ่อนระทวยพิงอยู่ในอ้อมอกของฟู่เจิง ใบหน้าแดงซ่าน ริมฝีปากเผยอหอบหายใจเล็กน้อยพอรู้สึกว่าเธอตัวสั่น ฟู่เจิงก็เอามือออกมา“รู้สึกเป็นยังไงบ้าง? ผ่อนคลายทั้งตัวแล้วใช่ไหม?”เวินเหลียงพิงอยู่ในอ้อมแขนของเขา ไม่อยากกระดุกกระดิก ตอบว่า “อือ” เบา ๆ ราวกับเสียงแมวเหมียวฟู่เจิงใช้สองแขนอุ้มเธอขึ้นมา ให้เธอนั่งตักของเขาเวินเหลียงตระหนักในจุดประสงค์ของอีกฝ่ายจึงดิ้น “ไม่ได้ ๆ...”ถ้ายังปล่อยตัวอีก เด็กจะรับไม่ไหวฟู่เจิงพูด “ได้ พรุ่งนี้ไม่ต้องทำงาน”เขาอดอยากปากแห้งมาสองเดือนแล้วยิ่งไม่ต้องพูดถึง หลายวันนี้ช่วยเธอผ่อนคลายตลอด มันทำให้เขาข่มใจลำบากมากขึ้นเวินเหลียงสู้เขาไม่ได้ ทันใดนั้นเอง จู่ ๆ ข้างนอกก็มีเสียงเคาะประตูเวินเหลียงโล่งอก ผลักเขาออก “คุณไปเปิดประตูเร็ว”ฟู่เจิงหลับตา สาปแช่งคำหนึ่ง มาไม่ได้เวลาเลย ข้างนอกน่าจะเป็นคนมาส่งมื้อเย็นเขาได้แต่ใส่ชุดคลุมอาบน้ำแล้วไปเอามื้อเย็นที่หน้าห้องมื้อเย็นเยอะมาก ฟู่เจิงวางไว้ตรงขอบบ่อออนเซ็นเวินเหลียงแช่ออนเซ็นไปก็กินมื้อเย็นไป อย่าให้พูดเลยว่าสุขีสโมสรขนาดไหนหลังจากกินมื้อเย็นเสร็จ เวินเหลียงก็ลุกขึ้นยืนอยู่ในบ่อ คล
ตามที่เธอรู้ เวินเหลียงจะไม่เอาเอาโพสต์ให้ฟู่เจิงดูเด็ดขาด ดังนั้นเธอจึงกล้าทำ แต่คิดไม่ถึงว่าฟู่เจิงยังรู้เข้าจนได้ฟู่เจิงเงียบทันทีที่เห็นโพสต์ ภาพพจน์ของฉู่ซืออี๋ในใจเขาก็เกิดการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยปลายสาย ฉู่ซืออี๋ยังคงอธิบายไม่หยุด ขอร้องให้เขายกโทษให้“อาเจิง อาเจิง คุณยกโทษให้ฉันได้ไหมคะ? ฉันไปขอโทษกับเวินเหลียงก็ได้ ขอแค่คุณอย่าทิ้งฉัน อย่าให้ฉันไปจากคุณ”“แค่ครั้งนี้นะ ลบโพสต์ทิ้งซะ”“ได้ค่ะ ๆ ๆ ฉันจะลบเดี๋ยวนี้ อาเจิง คุณยกโทษให้ฉันแล้วใช่ไหม? ขอโทษค่ะ อาเจิง ฉันทำให้คุณผิดหวัง ฉันทำแบบนี้กับเวินเหลียงได้ยังไงนะ ฉันทำร้ายเขาอีกแล้ว ตอนนี้เขาคงเกลียดฉันตายแน่”“เขาน่าจะยังไม่เห็น คุณไม่ต้องตำหนิตัวเอง ต่อไปอยู่ห่างเขาหน่อย”“รู้แล้วค่ะ”ปากฉู่ซืออี๋ว่าไปอย่างนั้น แต่ในใจเจ็บแค้นเวินเหลียงไม่เห็นโพสต์นี้ น่าเสียดายจริง ๆหลังจากวางสาย ฟู่เจิงใช้โทรศัพท์ของเวินเหลียงเปิดดูไทม์ไลน์อีก โพสต์นั้นหายไปแล้วเขาเบาใจเล็กน้อยแบบนี้เวินเหลียงน่าจะไม่รู้แล้วสินะ ว่าคืนนั้นเขาออกไปข้างนอกมาตอนนี้เอง ข้างนอกมีเสียงเคาะประตูฟู่เจิงเดินไปเปิดประตู คนที่มาคือเวินเหลียงอย่
กลางวันของวันต่อมา เวินเหลียงเดินชมทิวทัศน์กับเพื่อนร่วมงานคนอื่น ๆ และถ่ายรูปจำนวนหนึ่งกลับมาเที่ยงครึ่งเหมาสามโต๊ะที่ห้องอาหารชั้นสอง ร่วมกินปิ้งย่างกับพนักงานทุกคนพวกผู้หญิงหนึ่งโต๊ะ ผู้ชายสองโต๊ะพวกผู้หญิงเปิดน้ำผลไม้สองสามขวด ส่วนเพื่อนร่วมงานผู้ชายเปิดเบียร์สองลังทุกคนเฮฮาปาร์ตี้ถึงขนาดว่าบางคนดื่มไปสองแก้วก็ใจกล้าพูดล้อเล่นลามปามไปถึงฟู่เจิงฟู่เจิงหัวเราะเล็กน้อย ไม่ได้โกรธ เหล่าพนักงานจึงปล่อยตัวตามสบายมากกว่าเดิมหลังจากกินมื้อเที่ยงเสร็จ มีคนเสนอเล่นเกมพวกพนักงานสนุกสนานติดลมบน กำลังคึกคักจึงตกลงกันเป็นแถว“เอาสิ เล่นก็เล่น จะเล่นอะไรล่ะ?”“เอาที่ง่ายที่สุดแล้วกัน เล่นหมุนขวดเหล้า” มีคนถือขวดเบียร์เปล่าวางนอนไว้บนโต๊ะ “ปากขวดชี้ไปที่ใคร คนนั้นต้องเลือกว่าจะพูดความจริงหรือจะรับความท้าทาย”“ได้” พนักงานจำนวนไม่น้อยต่างตอบรับประธานฟู่อยู่ ไม่มีใครบอกว่าไม่เล่นแบบไม่รู้จักดูสถานการณ์ ถึงจะไม่อยากเล่นอย่างไรก็ต้องฝืนใจเล่นผู้อำนวยการเฉินของฝ่ายเอ็มเอฟถาม “ประธานฟู่ครับ คุณจะเล่นด้วยกันไหมครับ? เล่นกับพวกเราสักเกม? ทุกคนอยากเล่นกับคุณแน่ะ ได้ไหมครับ?”“นั่นสิ ๆ
ถ้าไม่อยากพูดความจริง และไม่อยากรับความท้าทาย อย่างนั้นก็ต้องลงโทษดื่มเหล้าสามแก้วจำนวนคนมากจริง ๆ ถ้าจะให้เวียนครบทุกคนจะต้องเล่นอย่างน้อยสี่สิบรอบดังนั้นจึงไม่ถึงตาเวินเหลียงสักที ระหว่างนั้นเคยชี้ไปที่เพื่อนร่วมงานหญิงคนอื่นบางคน คำถามที่ถามไม่ล่อแหลมมากผู้อำนวยการเฉินเพิ่งรับความท้าทายเสร็จ “ถึงตาผมหมุนสักที ดูสิว่าจะชี้ไปที่ใคร?”ขวดเบียร์หมุนอยู่ตรงกลางทุกคนจ้องเป็นตาเดียว ถือปากขวดเบียร์ขึ้นมาแกว่ง สุดท้ายมันชี้ไปทางคนที่ทำให้ทุกคนโห่ขึ้นมา——ฟู่เจิงผู้อำนวยการเฉินยิ้มเจ้าเล่ห์ “ประธานฟู่เหรอ ประธานฟู่ ในที่สุดก็ถึงตาคุณแล้วนะครับ คุณจะเลือกพูดความจริงหรือจะรับความท้าทายดี?”ฟู่เจิง “พูดความจริงแล้วกัน”“งั้นผมจะถามแล้วนะ ครั้งแรกของประธานฟู่ใช่คุณฉู่ไหมครับ?”ทุกคนสูดลมเย็นเฮือก พูดในใจว่าผู้อำนวยการเฉินก็ช่างกล้าถามนะพวกเขาหูผึ่งรอฟังเป็นแถว หน้าสีฉายอารมณ์อยากรู้เรื่องชาวบ้าน อดรนทนไม่ไหว อยากรู้คำตอบของฟู่เจิงฟู่เจิงมองเวินเหลียงแวบหนึ่งอย่างที่ไม่มีใครเห็น “ไม่ใช่”สมัยก่อนเขาคบหากับซืออี๋ กลับไม่เคยแตะต้องเธอเขาเป็นลูกนอกสมรส จะยับยั้งตัวเองในด้านนี้เป็
ภายใต้การมองของทุกคน เธอกระแอมกระไอแล้วตอบ “สิบแปดเซ็นมั้ง”“ยาวงั้นเลย? จริงหรือเปล่า?”ทุกคนโห่ขึ้นมาอีกครั้งจากนั้นเวินเหลียงก็หมุนขวดเบียร์ คิดว่าถามเสร็จก็หมดเรื่องแล้ว ใครจะรู้ ปากขวดดันบังเอิญชี้ไปทางฟู่เจิงชั่วขณะนั้น เธอสบตากับฟู่เจิง จ้องกันไปจ้องกันมา“ประธานฟู่ คุณเลือกพูดความจริงหรือจะรับความท้าทายคะ?” เวินเหลียงมองเขาพลางถาม“พูดความจริง”ถ้าไม่ใช่เพราะไม่ถูกกาลเทศะ เวินเหลียงอยากถามเขามากว่าเขามีใจให้เธอสักนิดบ้างไหมทุกคนพูดจ้อกแจ้กจอแจ เสนอคำถามให้เวินเหลียงบ้างให้ถามว่าฟู่เจิงยาวเท่าไรบ้างให้ถามว่าครั้งแรกของฟู่เจิงนานแค่ไหนบ้างให้ถามว่าฟู่เจิงเคยนอนกับผู้หญิงมาแล้วกี่คนเธอรู้ว่าฟู่เจิงยาวเท่าไร ส่วนที่เหลือไม่มีความจำเป็นต้องรู้ ถึงเธอจะไม่สนใจเรื่องส่วนตัวของเขาก่อนแต่งงาน แต่ก็รู้แล้วรังแต่จะทุกข์ใจเปล่า ๆ ไม่รู้มันเสียจะดีกว่าสำหรับข้อมูลส่วนใหญ่ของฟู่เจิง เธอรู้หมด เธอต้องถามเรื่องที่ตัวเองไม่รู้เวินเหลียงคิดแล้วจึงถามว่า “คุณรู้จักและคบหากับคุณฉู่ได้ยังไงคะ?”เหล่าพนักงานหูผึ่ง รอฟังให้ฟู่เจิงเล่านิทานฟู่เจิงนัยน์ตาวับวาบ มองไปทางเวินเหล
ใช้ตาตุ่มคิดยังรู้เลยว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่ เวินเหลียงตอบกลับไปทันที “ไม่ไป ฉันอยากพักค่ะ”“แน่ใจว่าไม่มา? เหลือเวลาอยู่ที่นี่แค่พรุ่งนี้วันเดียวแล้วนะ หรือว่าเธอจะไปแช่ออนเซ็นบ่อใหญ่?”เวินเหลียงคิดหนักอยู่ค่อนวันจึงจะตอบ “กลางคืนฉันจะไปแช่สักหน่อยแล้วกัน”“มีเศษอาหารอยู่ก้นบ่อ ทางที่พักประกาศว่าห้ามแช่ไปด้วยกินไปด้วย”ฟู่เจิงกลัวว่าเธอจะแช่ไปด้วยกินไปด้วย พอกินเสร็จก็หนีอีก“ก็ได้ค่ะ งั้นฉันกินเสร็จแล้วค่อยไป”เวินเหลียงนิ่งพิงหัวเตียง เล่นมือถืออย่างสบาย ๆฉู่ซืออี๋ติดการค้นหายอดฮิต : #ภาษาเยอรมันฉู่ซืออี๋#เวินเหลียงกดเข้าไปดูหลังจากฉู่ซืออี๋กลับประเทศก็ร่วมรายการวาไรตี้หนึ่ง วันนี้เป็นวันที่รายการนี้ออกอากาศในการค้นหายอดฮิตเป็นคลิปวาไรตี้ช่วงหนึ่ง ฉู่ซืออี๋แนะนำตัวเองเป็นภาษาเยอรมันแขกรับเชิญคนอื่น ๆ ให้เธอลองพูดนิดหน่อย ฉู่ซืออี๋จึงพูด “งั้นฉันจะเล่านิทานเป็นภาษาเยอรมันก็แล้วกันนะคะ”ถัดมาคือการพูดภาษาเยอรมันเป็นพรวนของฉู่ซืออี๋คงเพราะเคยฟังฟู่เจิงเล่านิทานเป็นภาษาเยอรมันมาเยอะ เวินเหลียงจึงรู้สึกคุ้น ๆฉู่ซืออี๋พูด “นี่เป็นนิทานที่คลาสสิกมากค่ะ อีกากับสุนัขจิ้ง
สองทุ่ม ฟู่เจิงไลน์มาหาเวินเหลียง “กินข้าวเย็นหรือยัง? ทำไมยังไม่มาอีก?”เวินเหลียงอ่านข้อความแล้วก็ออกจากไลน์ ตามด้วยปิดหน้าจอโทรศัพท์มือถือผ่านไปพักหนึ่งโทรศัพท์ก็สั่นอีก มีข้อความไลน์ส่งมาอีกแล้วเวินเหลียงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูแวบหนึ่ง เห็นฟู่เจิงส่งมาว่า “ตอบข้อความฉันเดี๋ยวนี้ ไม่งั้นฉันจะไปหาเธอที่ห้องตอนนี้เลย”เวินเหลียงกระตุกมุมปากและตอบกลับ “คืนนี้ไม่ไปแล้ว”“เพราะอะไร? ทำไมเมื่อกี้ไม่สนใจฉัน?”“เมื่อกี้ไม่เห็น คืนนี้รู้สึกเพลีย ๆ ไม่อยากไปแล้วค่ะ”ข้ออ้างคำพูดเหล่านี้แค่ดูก็รู้ว่าเป็นข้ออ้าง“เวินเหลียง บอกความจริงกับฉันมา เพราะอะไร?”“ที่ฉันพูดเมื่อกี้ก็คือความจริง ฉันอยากนอนแล้ว”หลังจากส่งไลน์เสร็จ เวินเหลียงก็ถือโทรศัพท์เอาไว้พักหนึ่ง แต่ฟู่เจิงไม่ได้ตอบกลับมาเวินเหลียงจึงวางโทรศัพท์ไว้บนเตียงเตรียมจะนอนด้านนอกมีเสียงเคาะประตูดังขึ้นมาทันใด เวินเหลียงสะดุ้งสัญชาตญาณเธอบอกว่าคนที่เคาะประตูอยู่ข้างนอกก็คือฟู่เจิงเตียงของจางซิงอยู่ด้านนอก เธอลงจากเตียงแล้วเดินลากเท้าไปถึงประตูและถาม “ใครคะ?”“ผมเอง” เสียงทุ้มต่ำลอดมาจากประตู “ฉันมีธุระกับเวินเหลียง ให้เ
อิเลียลุกขึ้นพรวด พลางมองเยี่ยนหวยอย่างเหลือเชื่อ“ถ้าเธอยังเห็นฉันเป็นพี่ชายของเธออยู่ ก็เชื่อฟังฉัน แล้วกลับไปเมืองฟิลาเดลเฟียพรุ่งนี้ซะ!” เยี่ยนหวยนั่งตัวตรงพลางเงยหน้ามองเธออยู่บนโซฟา“ฉันไม่กลับ!” อิเลียเดือดดาลจนแค่นเสียงฮึออกมาทีหนึ่ง ก่อนจะกลับไปนั่งตรงมุมโซฟา “อยากกลับพี่ก็กลับไปเองซะเลยสิ!”“ฟู่เจิงไม่ใช่คนดี ต่อให้ระหว่างพวกเธอมีลูกด้วยกัน เขาก็ไม่มีทางคบกับเธอ”ก่อนหน้านี้ฟู่เจิงเคยมีเรื่องอื้อฉาวว่ามีชู้ ตอนนี้ก็มีอดีตภรรยาที่มีความสัมพันธ์คลุมเครือมาอีกคน ขอให้เป็นผู้ใหญ่ที่รักลูกสาว ก็จะไม่มีวันเลือกเขาทั้งนั้น“พี่รู้ได้ยังไงว่าเขาไม่ใช่คนดี? พี่รู้ได้ไงว่าเขาจะไม่คบกับฉัน? วันนี้ตอนเที่ยงเรายังไปกินข้าวด้วยกันอยู่เลย!”เมื่อเห็นอิเลียดื้อดึง ในใจของเยียนหวยก็รู้สึกไม่ได้ดั่งใจ เขาแสยะยิ้มออกมาทีหนึ่ง ก่อนจะเอ่ยว่า “พวกเธอไม่ได้ไปกินข้าวด้วยกันตามลำพัง แต่ฟู่ซือฝานอยู่ข้าง ๆ ใช่ไหม?”ในช่วงเวลาสำคัญแบบนี้ ฟู่เจิงจะมากินข้าวกับอิเลียตามลำพังได้ยังไง? นอกเสียจากเขาคิดจะเลิกกับเวินเหลียงจริง ๆ“...ใช่ ก็เขาเป็นลูกของพวกเรานี่” เมื่อเห็นว่าถูกเดาทางถูก อิเลียก็พูดอึ
แต่หลังจากเดินตามแผนแล้วถึงได้พบว่า นี่มันไม่ใช่เรื่องเล็ก ๆ เลยถ้าพ่อแม่คุณลุงคุณป้ารู้ว่าเธอมีลูกนอกสมรสข้างนอก ต้องเข้ามาแทรก และไม่แน่ว่าจะพาตัวเธอกับลูกกลับไป“อิเลีย ผมเข้าใจนะครับคุณในฐานะแม่แท้ ๆ คุณอยากรีบกระชับความสัมพันธ์กับฝานฝาน แต่ก็อย่าตื่นตระหนกจนทำอะไรไม่ถูก โดยเฉพาะมักจะไปหาฝานฝานที่โรงเรียนอนุบาล แบบนี้จะส่งผลกระทบกับชีวิตของเธอได้นะครับ”“ฉันรู้แล้วค่ะ ต่อไปจะไม่ไปหาเขาที่โรงเรียนอนุบาลอีก ฉันเห็นว่าคุณกินน้อยมาก อาหารที่เหลือไม่ถูกปากหรือเปล่า?”ฟู่เจิง “...ก่อนมาผมกินมาบ้างแล้ว”หลังกินข้าวเที่ยงเสร็จ ฟู่ซือฝานรบเร้าขอกลับกับฟู่เจิงเธอล้วงกลยุทธ์ร้องไห้งอแงชักดิ้นชักงออยู่ที่พื้นของเด็กห้าขวบออกมาอย่างล้ำลึก ไม่มีเหตุผล ทว่าอิเลียฝืนเธอไม่ได้อิเลียทำได้เพียงกลับไปที่บ้านของเซี่ยเจิน“อิเลีย เธอกลับมาแล้วเหรอ?”เมื่อเห็นอลิซนั่งอยู่บนโซฟา อิเลียเดินมานั่งลง “เป็นยังไงบ้าง? ครั้งนี้เธอไปเมืองซีกับซีซาร์ ได้แสร้งทำเป็นเจอโดยบังเอิญ แล้วไปกินข้าวกับเขาอะไรหรือเปล่า?”อลิซเบะปาก “เปล่า”“ทำไมล่ะ? โอกาสดีขนาดนั้นทำไมเธอไม่คว้าเอาไว้?”“เขางานยุ่งมาก ฉันกล
อิเลียจัดผมด้วยท่าทางราวกับไม่มีเจตนาอื่น หน้าตาเผยความตื่นเต้นออกมาดูท่าเธอจะเลือกวิธีถูกจริง ๆในตอนนี้เธอเพิ่งเข้าใกล้ฟู่ซือฝานไม่เท่าไร ท่าทีของฟู่เจิงเขาก็ผ่อนคลายลงเยอะแล้วผ่านไปยี่สิบนาที ฟู่เจิงก็ปรากฏตัวขึ้นในห้องรับรองนี่เป็นการเจอกันครั้งที่สองหลังจากวันนั้นเขานั่งลงข้าง ๆ ฟู่ซือฝาน พลางพยักหน้าให้อิเลียเบา ๆ “รบกวนแล้ว ไม่ถือสาที่ผมมาร่วมโต๊ะด้วยใช่ไหม?”“ไม่ถือสา นั่งเถอะค่ะ”สีหน้าของอิเลียเย็นชา ราวกับยังอยู่ต่อหน้าคุณหญิงและฟู่ชิงเยว่ครั้งก่อน เธอไม่ได้โกรธที่ฟู่เจิงปฏิเสธเธออย่างไร้ความปรานี“งานผมยุ่งมาก ยากที่จะใส่ใจคุณกับฝานฝานได้มากขนาดนั้น”“ฝานฝานเป็นลูกของฉัน นี่เป็นสิ่งที่สมควรอยู่แล้ว ฉันไม่รู้ว่าคุณจะมา ก็เลยสั่งอาหารไปสุ่ม ๆ เดี๋ยวอาหารมาเสิร์ฟคุณก็ดูแล้วกันว่าอยากจะสั่งเพิ่มไหม”“ผมไม่เลือกกิน” ฟู่เจิงตอบจากนั้นพนักงานก็เริ่มมาเสิร์ฟอาหารฟู่เจิงมองเนื้อแพะที่มาเสิร์ฟเต็มโต๊ะ เขาเงียบไปครู่หนึ่ง จากนั้นก้มหน้าไปมองฟู่ซือฝานฟู่ซือฝานก้มศีรษะน้อย ๆ อย่างกระวนกระวายอิเลียหยิบตะเกียบขึ้นมา “ไม่ต้องเกรงใจ กินเลยค่ะ”ฟู่เจิงลังเลอยู่ครู่หนึ่
เจียงเฉิงเที่ยงวันศุกร์ อิเลียไปรับฟู่ซือฝานออกไปกินข้าวเที่ยงที่คฤหาสน์ย่านซิงเหอวานเธอฉีกยิ้มพลางพูดกับฟู่ซือฝานว่า “เมื่อวานแม่ว่าจะไปรับหนูที่โรงเรียนอนุบาล จู่ ๆ ก็นึกถึงคำพูดของหนูเมื่อครั้งก่อนได้ ก็เลยมาวันนี้ วันนี้ตอนบ่ายแม่จะพาหนูไปเล่นดี ๆ เป็นยังไงจ๊ะ?”ฟู่ซือฝานเอียงคอพลางครุ่นคิด “ตอนบ่ายหนูต้องทำการบ้าน แค่กินข้าวเที่ยงก็พอแล้วค่ะ”“ก็ได้ งั้นหนูคิดไว้หรือเปล่าว่าอยากกินอะไร?”“ไปร้านอาหารที่มีเมนูเนื้อแพะแนะนำแล้วกันค่ะ” ฟู่ซือฝานเอ่ยขึ้นด้วยทีท่าจริงจัง “วันนี้คุณลุงบอกว่าจะไปกินข้าวเที่ยงเป็นเพื่อนหนู ไม่รู้ว่าจะมาไหม”นัยน์ตาอิเลียวาบความปลื้มปีติออกมา “จริงเหรอ?”“เขาเคยบอกไว้แบบนี้ค่ะ คุณน้าคะ ที่คุณน้ารับหนูออกมา ไม่ใช่เป็นเพราะอยากกระชับความสัมพันธ์กับหนูสองต่อสองเหรอคะ? ทำไมถึงหวังให้คุณลุงมาด้วยล่ะคะ?”เจ้าตัวน้อยเอ่ยถามขึ้นด้วยใบหน้าจริงจัง“น้า...น้ามีเรื่องอยากพูดคุยกับพ่อของหนูน่ะ แล้วก็หวังว่าเราจะได้กินข้าวด้วยกันพร้อมหน้าพร้อมตากันทั้งครอบครัว” อิเลียรีบหาข้ออ้างทันทีเจ้าเด็กคนนี้ หูตาเฉียบแหลมจริง ๆ“อ้อ”“น้าจะหาร้านอาหารเนื้อแพะเดี๋ยวน
“เรียกฉันทำไม?” เยี่ยนหวยมองเธอด้วยสีหน้าไร้เดียงสา“ตอนนี้มันฤดูร้อน”ผ่านฤดูใบไม้ผลิมาแล้ว“ฉันแค่นึกถึงวันนั้นที่ไปติวให้เธอแล้วเจอแม่เธอเข้าโดยบังเอิญ เธอคิดไปถึงไหน?” เยี่ยนหวยเลิกคิ้วถังซือซือชะงักไปมีครั้งหนึ่งตอนที่เธอติวอยู่ในบ้าน แล้วบังเอิญเจอแม่ของเธอเข้าจริง ๆ แต่นั่นมันเรื่องตอนเทอมที่สองเยี่ยนหวยต้องจงใจพูดถึงวันนั้นตอนเทอมแรกแน่ ๆ ให้เธอเข้าใจผิดถ้าเธอชี้ไปเลยว่าเยี่ยนหวยจำผิด ก็จะเข้าแผนของเยี่ยนหวย เหมือนว่าเธอยังไม่เคยลืมเรื่องในอดีต คิดถึงเรื่องราวเหล่านั้นของเธอกับเยี่ยนหวยอยู่ตลอด“ตอนนี้ไม่ใช่ฤดูร้อนเหรอ? นายคิดไปถึงไหนอีก?” เธอปัดตกเรื่องนี้ไปอย่างมั่นใจทันทีหลังพูดจบ เธอก็หมุนตัวเดินไปด้านหน้าต่อ “ไม่พูดแล้ว รีบไปร้านถัดไปเถอะ”อยู่ข้างนอกจนถึงสี่ทุ่ม ทั้งสองคนถึงกลับไปยังโรงแรมด้วยกันถังซือซืออยากเรียกรถกลับไปเอง ไม่อยากให้เยี่ยนหวยไปส่งเธอเยี่ยนหวยจึงเอ่ยไปตามตรงว่า “ฉันพักอยู่ที่โรงแรมเดียวกันกับเธอ”ถังซือซือ “...”นี่ไม่ใช่ครั้งแรกแล้วคราวก่อนตอนที่เวินเหลียงถ่ายรูปเยี่ยนหวยรูปแรกที่เมืองฟิลาเดลเฟีย เวินเหลียงก็ถามว่าช่วงนี้เยี่ยนหวย
เมืองซีในฐานะเมืองใหญ่ของเจียงหนาน ประเภทของกินเล่นมีมากมาย ของกินเอกลักษณ์ที่ขึ้นชื่อไปทั่วประเทศอาทิ เต้าหู้เหม็น ไส้กรอกยักษ์ เส้นหมีเฝิ่น กุ้งเผ็ดเป็นต้นถังซือซือเคยมาเมืองซีตอนมาทำงานต่างถิ่นก่อนหน้านี้ เวลาค่อนข้างกระชั้นชิด จึงทำได้เพียงเดินช็อปปิงที่อื่น แต่เพิ่งเคยมาถนนคนเดินที่นี่เป็นครั้งแรกเธอซื้อไส้กรอกยักษ์สองชิ้นก่อน และแบ่งให้เยี่ยนหวยหนึ่งชิ้นกินไปได้เพียงครึ่งเดียว ถังซือซือก็หยุดอยู่ตรงหน้าร้านขายขนมฉือปา เธอกลืนน้ำลายแล้วถามขึ้นว่า “รู้ไหมคะว่าตรงไหนมีถังขยะบ้าง?”“ที่เหลือเธอไม่กินแล้วเหรอ?”“อืม”“ไม่อร่อย?”“ไม่ใช่ อร่อยมาก แต่ว่ายังมีของอร่อยอื่น ๆ อีกเยอะแยะ ฉันอยากเก็บท้องเอาไว้”เยี่ยนหวย “...”“เอามาให้ฉันก็ได้” เยี่ยนหวยรับไส้กรอกครึ่งชิ้นที่เหลืออยู่มาจากในมือของเธอ ก่อนจะเติมเข้าไปในท้องอย่างไม่มีภาระใด ๆถังซือซือซื้อขนมฉือปาแล้วเธอทำตัวอย่างกับโจร แต่ละร้านไม่ยอมปล่อยไปเลย ทว่าก็ชิมเพียงสองสามคำ ทั้งหมดที่เหลือก็โยนให้เยี่ยนหวยอย่างสบายใจเยี่ยนหวยเพลิดเพลินกับพฤติกรรมพรรค์นี้ ในใจเข้าใจได้ในทันที ราวกับกลับไปเมื่อเจ็ดปีก่อนหลังเรียนอย
“มันเรื่องอะไรกันแน่?”ก่อนหน้านี้ที่เยี่ยนหวยอยู่ที่เจียงเฉิง กลับไม่ได้สังเกตเท่าไรว่าอิเลียกำลังทำอะไรอยู่ เธอออกไปข้างนอกทุกวัน เยี่ยนหวยคิดเพียงแค่ว่าเธอกำลังไปเที่ยวเล่นถังซือซือไม่ใช่คนที่จะกุเรื่องมั่วซั่ว เธอพูดแบบนี้ ต้องรู้อะไรบางอย่างแน่ ๆ“พูดไปแล้วก็ยาว ตอนแรกฟู่ชิงเยว่อาของฟู่เจิงรับเลี้ยงเด็กกำพร้าอยู่ที่เมืองนอก ตอนนี้อายุห้าขวบแล้ว ปีที่แล้วอาเหลียงแท้ง แล้วฟู่ชิงเยว่ติดธุระพอดี เลยส่งเด็กคนนั้นกลับประเทศมาให้ฟู่เจิงดูแลช่วงหนึ่ง ฟู่เจิงเลยให้เด็กคนนั้นอยู่ในประเทศไปเลยเพื่อง้ออาเหลียง ปกติจะมาอยู่เป็นเพื่อนอาเหลียง และเด็กคนนั้นเองก็เข้าไปอยู่ในทะเบียนบ้านของฟู่เจิง แต่ว่า...”เยี่ยนหวยเดาเรื่องที่จะเกิดขึ้นต่อไปออกแล้ว จึงรับช่วงเอ่ยขึ้นต่อว่า “แต่ว่าจู่ ๆ ก่อนหน้านี้ก็มีข่าวบอกว่าเด็กผู้หญิงคนนั้นเป็นลูกของฟู่เจิงกับอิเลีย?”“ใช่ รายละเอียดฉันก็ไม่ค่อยแน่ใจเหมือนกัน เหมือนว่าจะเกี่ยวข้องกับอาของฟู่เจิงนิดหน่อย เธอรู้ตัวตนของเด็กผู้หญิงคนนั้นมาตั้งแต่แรก และไม่ชอบอาเหลียงมาโดยตลอด ยังไงตอนนี้อาเหลียงก็อยู่กับฉัน เขากับฟู่เจิงทะเลาะกันอีกแล้ว”เยี่ยนหวยเอ่ยควา
“เยี่ยนหวย!!”ประตูลิฟต์เปิดออก ทั้งสองคนเข้าไปกันตามลำดับ แล้วลงไปยังลานจอดรถใต้ดินตรงมุมเลี้ยว ในหัวของผู้หญิงสวมหน้ากากอนามัยวาบภาพที่เห็นเมื่อครู่ขึ้นมา หมัดที่ห้อยอยู่กำขึ้นแน่น เธอก้มหน้าทั้งดวงตาที่ประกายความอำมหิตออกมาหากเวินเหลียงอยู่ตรงนี้ คงจะจำได้แน่ ๆ ว่าผู้หญิงที่สวมหน้ากากอนามัยคนนี้ก็คืออลิซที่เธอมาเจียงเฉิง ก็เพราะเยี่ยนหวย เยี่ยนหวยมาเมืองซีเมื่อสองวันก่อน เธอเองก็ตามมาเช่นกันอิเลียถามเลขาของเยี่ยนหวย เมื่อรู้โรงแรมของเขาก็บอกกับอลิซทีแรกอลิซคิดว่าเยี่ยนหวยมาทำธุระที่เมืองซี จากนั้นก็ค่อย ๆ พบว่ามันไม่ชอบมาพากลเยี่ยนหวยไม่ยุ่งเลยสักนิดแถมยังมีเวลาไปสอบถามร้านอาหารท้องถิ่น ถนนคนเดิน จุดชมวิวของเมืองซีเป็นต้น อีกต่างหาก ไม่เหมือนมาทำงานต่างถิ่น แต่เหมือนมาเที่ยวเสียมากกว่าจนกระทั่งวันนี้ เมื่อได้เห็นภาพนั้น อลิซถึงเข้าใจทุกอย่างที่แท้คนที่ซีซาร์ชอบไม่ใช่เฟย์ แต่เป็นถังซือซือเพื่อนของเฟย์!ที่แท้เขาไม่ได้มาทำงานต่างถิ่นที่เมืองซี แต่มาเพื่อตามจีบถังซือซือ!ที่เขาสอบถามร้านอาหารและจุดชมวิวของเมืองซี ก็เพื่อพาถังซือซือไปวันนี้!ในใจอลิซอิจฉาเป็นอย่างม
เมื่อเยี่ยนหวยได้ยินดังนั้น ก็รู้ในทันทีว่าเวินเหลียงไม่ได้รักษาคำมั่นสัญญาแต่เขาก็เตรียมตัวไว้นานแล้ว วันนั้นหลังจากกลับไปก็ให้คนไปตรวจสอบกล้องวงจรปิด แล้วตัดคลิปมาใส่ไว้ในโทรศัพท์เมื่อได้ยินถังซือซือถามขึ้น เขาก็รีบส่งให้เธอทันที “ก็แค่คนที่ไม่สลักสำคัญอะไรคนหนึ่ง ฉันปฏิเสธเขาไปแล้ว”ถังซือซือดูคลิปรอบหนึ่ง ก่อนจะเบะปาก “อยู่ต่างประเทศคุณเยี่ยนมีสาวมาชอบเพียบเลยนะคะ”“แต่ฉันสนใจอยากจะครอบครองแค่เธอ”“จะยอมให้ฉันครอบครองไหม คุณถัง?”เยี่ยนหวยนั่งเอี้ยวตัว แขนข้างหนึ่งพาดอยู่บนพนักพิงเก้าอี้ เขาโน้มตัวเข้ามา ตัวท่อนบนใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ กลิ่นหอมฉุยจาง ๆ และกลิ่นอายของชายหนุ่มที่มาพร้อมกับการบุกรุกโอบล้อมเธอเอาไว้เขาดันแว่นตากรอบทอง สีหน้าอบอุ่น ฉีกยิ้มทว่าก็ราวกับไม่ยิ้ม มุมปากกระตุกรอยยิ้มเล็กน้อย ค่อนข้างมีความรู้สึกประเภทหน้าเนื้อใจเสือถังซือซือเหม่อไปครู่หนึ่ง“คุณถัง?”ใบหน้าหล่อเหลาตรงหน้าขยายใหญ่ขึ้นอีกครั้ง ไออุ่นร้อนปะทะเข้ามาที่หน้า ในที่สุดถังซือซือก็ได้สติกลับมา เธอเอนหลังพลางตบหน้าอก “นายทำฉันตกใจหมด...ไป ไปเดินหาของกินเล่นกันเถอะ”เธอลุกขึ้นและเดินออกไปอย่าง