เวินเหลียงชะงักไป สบตากับฟู่เจิงเงียบ ๆ ทีหนึ่ง แล้วยิ้มกับคุณย่า “เที่ยวนี้ลืมไปค่ะ เที่ยวหน้านะคะ เที่ยวหน้าต้องใส่มาให้คุณย่าดูแน่”ซูชิงอวิ๋นพูดสมทบ “ใช่ดวงใจแห่งมหาสมุทรในงานเลี้ยงการกุศลอ็อยเลอร์หรือเปล่า? ฉันได้ยินมานานแล้ว แต่คืนนั้นมีธุระเลยไม่ได้ไป ไม่คิดว่าอาเจิงจะประมูลให้อาเหลียง เอาไว้วันไหนอาเหลียงต้องใส่มาให้ฉันได้เปิดหูเปิดตาหน่อยนะ”กับคุณย่ายังจะพอกลบเกลื่อนไปได้ แต่ซูชิงอวิ๋นเอ่ยปากแล้ว คงไม่ง่ายอย่างนั้น“เปิดหูเปิดตาอะไรกันคะ นี่พี่เยว่ไม่ไหวเลย ทำไมถึงให้พี่ชิงอวิ๋นมองตาละห้อยได้ล่ะ? พี่เยว่ต้องหามาให้พี่ชิงอวิ๋นสักวงนะคะ ได้ยินว่าเนื้อหยกที่ทำดวงใจแห่งมหาสมุทรชิ้นใหญ่มาก น่าจะได้ทำได้หลายวง วงนี้เป็นแค่ของลองเชิงขิงเจ้าของเท่านั้น”“จริงเหรอ?” ซูชิงอวิ๋นถูกเวินเหลียงเบนความสนใจเวินเหลียงพยักหน้า “ก็ต้องจริงสิคะ”ซูชิงอวิ๋นมองฟู่เยว่ทีหนึ่งฟู่เยว่จนใจ “ได้ ๆ ๆ ผมจะให้คนจับตาดู เอาไวมีข่าวแล้วจะเอามา”“ค่อยยังชั่ว”“พี่เยว่ดีกับพี่ชิงอวิ๋นจังเลยนะคะ” เวินเหลียงมองปฏิสัมพันธ์ของทั้งสอง เกิดความรู้สึกอิจฉาและสะท้อนใจ“อาเจิงก็ดีกับเธอมากนะ” ซูชิงอวิ๋นพูด “กำไลหลาย
แต่พอคิดดูอีกทีกลับไม่มีความจำเป็นต้องถาม ส่วนมากแล้วน่าจะเป็นความจริงตอนนั้นพวกเขาไม่ได้สนิทกัน ไม่มีเหตุผลที่ฟู่เจิงจะซื้อขนมเค้กให้เธออีกอย่างถ้าเธอถาม เขาจะรู้ว่าเธอชอบเขาจะให้เขารู้ไม่ได้“ไม่เข้าใจเหรอ?” ฟู่เจิงถามถามอย่างบีบคั้นเวินหลียงเงยหน้ามองฟู่เจิง “คุณเอาจริงเหรอ?”“ก็ต้องจริงสิ” ฟู่เจิงสบสายตากับเธอ “ฉันตั้งใจรักษาสัญญาที่ให้ไว้กับคุณปู่เสมอ”เวินเหลียงหลุบตาลงไม่พูด หลายวันนี้เธอสัมผัสถึงความห่วงใยของฟู่เจิงที่มีต่อเธอราง ๆ เพียงแต่เธอไม่เชื่อฟู่เจิงแล้ว ยอมรับอย่างสงบไม่ได้อาจเป็นเพราะเธอกำลังกลัวกลัวว่าตัวเองจะถลำลึกอีกครั้งแล้วถอนตัวไม่ขึ้น สูญเสียความเป็นตัวเองตัวเอง ไม่กล้ายอมรับเห็นเวินเหลียงเงียบ ฟู่เจิงจึงขยับเข้ามาใกล้ กดศีรษะของเธอเข้ากับทรวงอกของตัวเอง “อาเหลียง อย่าทำตัวห่างเหินฉัน ในเมื่อเธอรับปากกับคุณปู่แล้ว ทำไมไม่ลองเปิดใจกับฉันดูบ้างล่ะ”“งั้นก็ต้องดูการกระทำของคุณแล้ว” เวินเหลียงพูดเสียงแผ่วเบาปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติแล้วกันเธอไม่ห่างเหินเขาได้ กลับเข้าหาทำสนิทสนมด้วยไม่ได้ ประกันว่าก่อนที่อันตรายจะมาถึงจะสามารถถอนตัว“อืม งั้น
ฟู่เจิงเบิกตาโพลงอยู่กับที่“เวินเหลียง”เวินเหลียงไม่ตอบกลับ พลิกตัวแล้วนอนต่อแบบนี้อีกแล้วนี่ปั่นหัวเขาเล่นเหรอ?ไม่นานก็มีเสียงลมหายใจสม่ำเสมอดังมาจากข้างตัวฟู่เจิง “...”ฟู่เจิงนอนอยู่ด้านข้าง ทรมานจนอย่างไรก็นอนไม่หลับเหมือนตัวเองถูกผู้หญิงขายบริการเอาฟรีคนที่อยู่ด้านข้างก็คือผู้ชายสารเลวที่พอใส่เสื้อผ้าแล้วก็ไม่สนใจ……เครื่องแต่งกายฤดูกาลใหม่แบรนด์เอ็มคิวเข้าสู่ช่วงประชาสัมพันธ์แล้วโฆษณาของฉู่ซืออี๋แบ่งถ่ายเป็นซีรีส์ต่าง ๆ ออกตัวอย่างเป็นทางการตามลำดับ ปรากฏอยู่หน้าหนึ่งของสื่อและแพลตฟอร์มต่าง ๆก่อนหน้านี้มีเรื่องการแต่งหน้าของฉู่ซืออี๋ สื่อและชาวเน็ตต่างให้ความสนใจกับแอมบาสเดอร์ครั้งนี้เวินเหลียงก็ให้พนักงานของตัวเองจับตาดูทิศทางลมเหมือนกัน ต้องเป็นที่รู้จักและควบคุมคลื่นใต้น้ำได้นอกจากจะเปิดตัวในอินเทอร์เน็ตแล้ว การประชาสัมพันธ์ข้างนอกก็ดำเนินไปอย่างร้อนแรงด้วยจอแอลอีดีในลานกว้างต่าง ๆ ของเจียงเฉิงขึ้นแอมบาสเดอร์ของฉู่ซืออี๋แล้ว ตามรถไฟฟ้าใต้ดิน สถานีรถโดยสาร สนามบินและที่อื่น ๆ ก็พบเห็นการประชาสัมพันธ์ของเอ็มคิวหมดเวินเหลียงยุ่งงวดหลายวันจริง ๆ พอร
ถูกต้อง ข่าววงในก็คือข่าวที่เวินเหลียงให้คนติดต่อบรรดาแอคปั่นข่าวให้ปล่อยข่าวออกไปเธอต้องเตรียมตัวออกโรงเองจริง ๆกระแสเรื่องเธอยังไม่ผ่านพ้นไป ถึงจะเป็นข่าวฉาวแต่ก็ทำให้คนพูดถึงเอ็มคิวได้ไม่น้อยกอปรกับกระแสของฟู่เจิงกับฉู่ซืออี๋ ทำให้งานแถลงข่าวพุ่งขึ้นติดการค้นหายอดฮิตตั้งแต่ยังไม่เริ่ม บรรดาชาวเน็ตต่างตั้งตารอคอยก่อนงานแถลงข่าวหนึ่งวัน ฟู่เจิงส่งข้อความถึงเวินเหลียงก่อนเลิกงาน “ตอนเย็นรอฉันกลับพร้อมกัน”เวินเหลียงตอบ “ค่ะ”หลังเลิกงาน เธอทำโอทีในห้องทำงานพักหนึ่ง ส่งข้อไลน์หาฟู่เจิงและไปรอเขาในรถก่อนเวินเหลียงไปที่ชั้นใต้ดินก่อน นั่งเล่นโทรศัพท์มือถือตรงที่นั่งด้านหลังประมาณสิบกว่านาที ฟู่เจิงจึงปรากฏตัวอยู่ที่ลานจอดรถชั้นใต้ดินเขาเปิดประตูรถด้านหลังขึ้นนั่ง พูดกับคนขับรถข้างหน้าว่า “กลับเถอะ”คนขับรถสตาร์ตเครื่องออกจากที่จอดรถ“ได้ยินว่าคุณจี้ป่วย” ฟู่เจิงถามเวินเหลียง“ค่ะ ป่วยตั้งแต่สองวันก่อนแล้ว ตอนนี้ยังอยู่โรงพยาบาล เมื่อวานฉันเพิ่งไปเยี่ยมมา” เวินเหลียงตอบตามความจริงฟู่เจิงมองเธอ “เธอคิดจะออกงานแถลงข่าวพรุ่งนี้เองจริงเหรอ?”เขาเห็นการค้นหายอดฮิตแล้ว แวบเ
ฉู่ซืออี๋มองเวินเหลียงด้วยความหวังเดิมทีฉู่ซืออี๋ก็ทำให้เธอรู้สึกขยะแขยงมากพออยู่แล้วพอได้ยินฟู่เจิงพูดอย่างนี้อีก เวินเหลียงขยะแขยงจนคลื่นไส้ทำเป็นจิตใจดีอยากชดเชยให้เธอน่าขำชะมัดใช้คำว่าจิตใจดีมาบรรยายฉู่ซืออี๋ ทำให้คำนี้แปดเปื้อนจริง ๆเห็นเวินเหลียงเงียบ ฉู่ซืออี๋จึงพูดต่อ “อาเหลียง ฉันรู้ว่าเธอยังโทษฉันอยู่..ถ้าเธอไม่เอาก็ให้ฉันเถอะ ฉันจะเอาไปทิ้ง”ว่าแล้วฉู่ซืออี๋ก็เอาถุงกระดาษกลับมาจากมือของเวินเหลียง“ช่างเถอะ ฉันรับไว้แล้ว คุณไปซ้อมเถอะ” เวินเหลียงพูดเรียบแถวนี้ไม่ได้มีแต่ฟู่เจิง ยังมีสตาฟคนอื่น ๆ และกล้องวงจรปิดอีก ถ้าเธอดื้อดึงไม่รับ จะทำให้เกิดประเด็นได้ง่ายไม่แน่ว่าพรุ่งนี้ภาพกล้องวงจรปิดอาจถูกอัปขึ้นในอินเทอร์เน็ต ตำหนิว่าเธอรังแกฉู่ซืออี๋ฉู่ซืออี๋ยิ้มด้วยความดีใจ “ขอบใจนะ อาเหลียง”“อาเจิง ฉันไปซ้อมก่อนนะคะ คุณอย่าลืมจับตาดูอาเหลียงกินเค้กด้วยล่ะ”ว่าแล้วฉู่ซืออี๋ก็เดินไปกับผู้ช่วยด้านหลังเวินเหลียงวางเค้กลงบนโต๊ะแบบสบาย ๆ ในตอนที่เธอกำลังคิดจะไป ฟู่เจิงก็เรียกเธอไว้ “เธอทำงานมาตั้งนาน นั่งพักก่อนแล้วกินเค้กไม่ดีกว่าเหรอ?”ฟู่เจิงพูดพลางเอากล่องขน
คอมเมนต์ในช่องไลฟ์สดของแต่ละแพลตฟอร์มเด้งขึ้นมาเร็วมากมีคนพูดว่า “โอ้โฮ ฟู่เจิงหล่อจังเลย”และมีคนพูดว่า “ผู้ชายสารเลว”ต่อจากฟู่เจิงก็คือผู้บริหารระดับสูงสองสามคนของฟู่ซื่อ ตามด้วยเวินเหลียงคลิปของเวินเหลียงที่เผยแพร่อยู่มากที่สุดในอินเทอร์เน็ตก็คือคลิปที่ถูกสื่อสัมภาษณ์แถว ๆ โรงพยาบาลเนื่องจากกล้องทำให้หน้าจืดและเวินเหลียงในตอนนั้นสีหน้าไม่สู้ดี บวกกับความละเอียดของคลิปแย่จนแม่ยังจำไม่ได้ ถูกคนตัดเอามาทำเป็นปกเปรียบเทียบความงามกับฉู่ซืออี๋แต่ครั้งนี้เวินเหลียงสู้หน้ากับสื่ออย่างเป็นทางการลำดับต่อไปเธอจะขึ้นเวทีแนะนำผลิตภัณฑ์ในฐานะโฆษกของแบรนด์ และทำกิจกรรมกับแขกรับเชิญ แต่งหน้าทำทรงผมเพื่องานนี้โดยเฉพาะ ในกล้อง เธอใบหน้าราบเรียบ มีความเป็นธรรมชาติพอเวินเหลียงโผล่มา คอมเมนต์ก็วุ่นไปกันหมด มีคนชมก็ต้องมีคนด่า มีคนเริ่มตบตีกันในจอสาธารณะ และมีแฟนคลับไม่เข้าใจว่าทำไมเวินเหลียงถึงออกมาก่อนฉู่ซืออี๋?งานแถลงข่าวกระแสมียอดวิวมากขึ้นเรื่อย ๆ คอมเมนต์เลื่อนขึ้นไม่หยุดคอมเมนต์ราวกับมดแตกรัง กระทั่งกล้องจับไปที่ฉู่ซืออี๋ คอมเมนต์สนับสนุนของคนจำนวนมากดันคอมเมนต์ขึ้นไปสองรายการ
พิธีกรพูดขึ้นมาด้วยความตื่นเต้น “วันนี้โชคดีจริง ๆ เลยนะคะ พอจับก็สุ่มได้ประธานฟู่เลย ขอเชิญคุณฟู่ขึ้นเวทีด้วยค่ะ”สื่อมวลชนถ่ายภาพกันใหม่ แสงแฟลชกะพริบไม่หยุดคอมเมนต์ระเบิดแล้ว“ตบตาจังเลย”“วางแผนมาแล้วมั้ง?”“มีเรื่องสนุกให้ดูแล้วสิ”ฟู่เจิงขึ้นเวที“ก่อนจะเริ่ม พวกเรามาสัมภาษณ์กันเล็กน้อยก่อนนะคะ คุณฟู่คะ ไม่ทราบว่าคุณทราบไหมว่าเกมแรกคืออะไร?”“ไม่ครับ” ฟู่เจิงส่ายหน้าเขาไม่รู้จริง ๆฟู่ซื่อกรุ๊ปมีส่วนร่วมกับทุกธุรกิจ มีแบรนด์มากมาย เขามักร่วมกิจกรรมประเภทนี้บ่อย ๆ เคยชินนานแล้ว เมื่อก่อนพอขึ้นกล่าวสุนทรพจน์จบก็จะออกงานเลย ไม่เคยให้ความสนใจกับการดำเนินกิจกรรมของทั้งงาน“งั้นคุณน่าจะทราบว่าต้องเล่นกับผู้อำนวยการเวินใช่ไหมคะ? คุณลองพูดสักหน่อยว่าคุณมีภาพจำเกี่ยวกับผู้อำนวยการเวินยังไงบ้างคะ?”ฟู่เจิงมองเวินเหลียงที่อยู่ด้านข้างทีหนึ่ง “ความสามารถสูง ถ้าไม่มีเวินเหลียง เอ็มคิวก็ไม่มีความสำเร็จในวันนี้ ผมขอขอบคุณเธอจากใจจริง ณ ที่นี้ด้วยครับ”พิธีกรกระแอมกระไอ จงใจมองบรรดาสื่อที่อยู่ข้างล่าง “ประธานฟู่ คุณก็ทราบว่าพวกเราไม่ได้อยากฟังเรื่องนี้”ฟู่เจิงไม่คิดว่าพิธีกรจะถา
เวินเหลียงสบตากับฟู่เจิงทีหนึ่ง เริ่มกระบวนการสนเข็มฟู่เจิงกัดเข็ม หันรูและขยับไปทางด้ายของเวินเหลียง ส่วนเวินเหลียงก็ให้ความร่วมมือหน้าผากของทั้งสองแทบจะติดกันแล้ว ปลายจมูกแตะกัน บรรยากาศละมุนละไมช่างภาพรู้งานมาก จงใจซูมใบหน้าของทั้งสองอย่างไม่ได้ตั้งใจ ริมฝีปากของทั้งสองเฉียดกันไปตอนนี้เอง ผู้กำกับไม่ลืมที่จะส่องกล้องไปทางฉู่ซืออี๋คอมเมนต์เดือดพล่านแล้วเกมนี้มีความยากประมาณหนึ่งเกือบจะสำเร็จหลายที แต่ดันคลาดไปนิดเดียวเอง“แม่เอ๊ย ยัยนี่จงใจแกว่งใช่ไหม?”“ขนาดนี้แล้ว ถ้าไม่ได้กิ๊กกันฉันไม่เชื่อหรอก”“ความจริงนี่ก็ไม่มีอะไรสักหน่อย แค่เกมไม่ใช่เหรอ?”หน้าจอใหญ่เริ่มนับเวลาถอยหลังสุดท้ายก็สนเข็มสำเร็จในสิบกว่าวินาทีสุดท้ายชนะเกม“ยินดีด้วยค่ะ ประธานฟู่กับผู้อำนวยการเวินไม่ต้องถูกลงโทษ เฮ้อ น่าเสียดายจัง ลำดับต่อไปเชิญประธานฟู่กลับที่นั่งสักครู่นะคะ พวกเราจะสุ่มแขกรับเชิญท่านที่สองมาร่วมเล่นเกมต่อ”จอภาพใหญ่เริ่มหมุน และสุ่มได้ฉู่ซืออี๋ตามความคาดหมาย“ต้องล็อกเอาไว้แล้วแน่เลย”“รู้จักวางแผนจริง ๆ”ฉู่ซืออี๋ขึ้นเวทีท่ามกลางสายตาผู้คนกล้องทำกรอบให้ฉู่ซืออี๋กั
อิเลียลุกขึ้นพรวด พลางมองเยี่ยนหวยอย่างเหลือเชื่อ“ถ้าเธอยังเห็นฉันเป็นพี่ชายของเธออยู่ ก็เชื่อฟังฉัน แล้วกลับไปเมืองฟิลาเดลเฟียพรุ่งนี้ซะ!” เยี่ยนหวยนั่งตัวตรงพลางเงยหน้ามองเธออยู่บนโซฟา“ฉันไม่กลับ!” อิเลียเดือดดาลจนแค่นเสียงฮึออกมาทีหนึ่ง ก่อนจะกลับไปนั่งตรงมุมโซฟา “อยากกลับพี่ก็กลับไปเองซะเลยสิ!”“ฟู่เจิงไม่ใช่คนดี ต่อให้ระหว่างพวกเธอมีลูกด้วยกัน เขาก็ไม่มีทางคบกับเธอ”ก่อนหน้านี้ฟู่เจิงเคยมีเรื่องอื้อฉาวว่ามีชู้ ตอนนี้ก็มีอดีตภรรยาที่มีความสัมพันธ์คลุมเครือมาอีกคน ขอให้เป็นผู้ใหญ่ที่รักลูกสาว ก็จะไม่มีวันเลือกเขาทั้งนั้น“พี่รู้ได้ยังไงว่าเขาไม่ใช่คนดี? พี่รู้ได้ไงว่าเขาจะไม่คบกับฉัน? วันนี้ตอนเที่ยงเรายังไปกินข้าวด้วยกันอยู่เลย!”เมื่อเห็นอิเลียดื้อดึง ในใจของเยียนหวยก็รู้สึกไม่ได้ดั่งใจ เขาแสยะยิ้มออกมาทีหนึ่ง ก่อนจะเอ่ยว่า “พวกเธอไม่ได้ไปกินข้าวด้วยกันตามลำพัง แต่ฟู่ซือฝานอยู่ข้าง ๆ ใช่ไหม?”ในช่วงเวลาสำคัญแบบนี้ ฟู่เจิงจะมากินข้าวกับอิเลียตามลำพังได้ยังไง? นอกเสียจากเขาคิดจะเลิกกับเวินเหลียงจริง ๆ“...ใช่ ก็เขาเป็นลูกของพวกเรานี่” เมื่อเห็นว่าถูกเดาทางถูก อิเลียก็พูดอึ
แต่หลังจากเดินตามแผนแล้วถึงได้พบว่า นี่มันไม่ใช่เรื่องเล็ก ๆ เลยถ้าพ่อแม่คุณลุงคุณป้ารู้ว่าเธอมีลูกนอกสมรสข้างนอก ต้องเข้ามาแทรก และไม่แน่ว่าจะพาตัวเธอกับลูกกลับไป“อิเลีย ผมเข้าใจนะครับคุณในฐานะแม่แท้ ๆ คุณอยากรีบกระชับความสัมพันธ์กับฝานฝาน แต่ก็อย่าตื่นตระหนกจนทำอะไรไม่ถูก โดยเฉพาะมักจะไปหาฝานฝานที่โรงเรียนอนุบาล แบบนี้จะส่งผลกระทบกับชีวิตของเธอได้นะครับ”“ฉันรู้แล้วค่ะ ต่อไปจะไม่ไปหาเขาที่โรงเรียนอนุบาลอีก ฉันเห็นว่าคุณกินน้อยมาก อาหารที่เหลือไม่ถูกปากหรือเปล่า?”ฟู่เจิง “...ก่อนมาผมกินมาบ้างแล้ว”หลังกินข้าวเที่ยงเสร็จ ฟู่ซือฝานรบเร้าขอกลับกับฟู่เจิงเธอล้วงกลยุทธ์ร้องไห้งอแงชักดิ้นชักงออยู่ที่พื้นของเด็กห้าขวบออกมาอย่างล้ำลึก ไม่มีเหตุผล ทว่าอิเลียฝืนเธอไม่ได้อิเลียทำได้เพียงกลับไปที่บ้านของเซี่ยเจิน“อิเลีย เธอกลับมาแล้วเหรอ?”เมื่อเห็นอลิซนั่งอยู่บนโซฟา อิเลียเดินมานั่งลง “เป็นยังไงบ้าง? ครั้งนี้เธอไปเมืองซีกับซีซาร์ ได้แสร้งทำเป็นเจอโดยบังเอิญ แล้วไปกินข้าวกับเขาอะไรหรือเปล่า?”อลิซเบะปาก “เปล่า”“ทำไมล่ะ? โอกาสดีขนาดนั้นทำไมเธอไม่คว้าเอาไว้?”“เขางานยุ่งมาก ฉันกล
อิเลียจัดผมด้วยท่าทางราวกับไม่มีเจตนาอื่น หน้าตาเผยความตื่นเต้นออกมาดูท่าเธอจะเลือกวิธีถูกจริง ๆในตอนนี้เธอเพิ่งเข้าใกล้ฟู่ซือฝานไม่เท่าไร ท่าทีของฟู่เจิงเขาก็ผ่อนคลายลงเยอะแล้วผ่านไปยี่สิบนาที ฟู่เจิงก็ปรากฏตัวขึ้นในห้องรับรองนี่เป็นการเจอกันครั้งที่สองหลังจากวันนั้นเขานั่งลงข้าง ๆ ฟู่ซือฝาน พลางพยักหน้าให้อิเลียเบา ๆ “รบกวนแล้ว ไม่ถือสาที่ผมมาร่วมโต๊ะด้วยใช่ไหม?”“ไม่ถือสา นั่งเถอะค่ะ”สีหน้าของอิเลียเย็นชา ราวกับยังอยู่ต่อหน้าคุณหญิงและฟู่ชิงเยว่ครั้งก่อน เธอไม่ได้โกรธที่ฟู่เจิงปฏิเสธเธออย่างไร้ความปรานี“งานผมยุ่งมาก ยากที่จะใส่ใจคุณกับฝานฝานได้มากขนาดนั้น”“ฝานฝานเป็นลูกของฉัน นี่เป็นสิ่งที่สมควรอยู่แล้ว ฉันไม่รู้ว่าคุณจะมา ก็เลยสั่งอาหารไปสุ่ม ๆ เดี๋ยวอาหารมาเสิร์ฟคุณก็ดูแล้วกันว่าอยากจะสั่งเพิ่มไหม”“ผมไม่เลือกกิน” ฟู่เจิงตอบจากนั้นพนักงานก็เริ่มมาเสิร์ฟอาหารฟู่เจิงมองเนื้อแพะที่มาเสิร์ฟเต็มโต๊ะ เขาเงียบไปครู่หนึ่ง จากนั้นก้มหน้าไปมองฟู่ซือฝานฟู่ซือฝานก้มศีรษะน้อย ๆ อย่างกระวนกระวายอิเลียหยิบตะเกียบขึ้นมา “ไม่ต้องเกรงใจ กินเลยค่ะ”ฟู่เจิงลังเลอยู่ครู่หนึ่
เจียงเฉิงเที่ยงวันศุกร์ อิเลียไปรับฟู่ซือฝานออกไปกินข้าวเที่ยงที่คฤหาสน์ย่านซิงเหอวานเธอฉีกยิ้มพลางพูดกับฟู่ซือฝานว่า “เมื่อวานแม่ว่าจะไปรับหนูที่โรงเรียนอนุบาล จู่ ๆ ก็นึกถึงคำพูดของหนูเมื่อครั้งก่อนได้ ก็เลยมาวันนี้ วันนี้ตอนบ่ายแม่จะพาหนูไปเล่นดี ๆ เป็นยังไงจ๊ะ?”ฟู่ซือฝานเอียงคอพลางครุ่นคิด “ตอนบ่ายหนูต้องทำการบ้าน แค่กินข้าวเที่ยงก็พอแล้วค่ะ”“ก็ได้ งั้นหนูคิดไว้หรือเปล่าว่าอยากกินอะไร?”“ไปร้านอาหารที่มีเมนูเนื้อแพะแนะนำแล้วกันค่ะ” ฟู่ซือฝานเอ่ยขึ้นด้วยทีท่าจริงจัง “วันนี้คุณลุงบอกว่าจะไปกินข้าวเที่ยงเป็นเพื่อนหนู ไม่รู้ว่าจะมาไหม”นัยน์ตาอิเลียวาบความปลื้มปีติออกมา “จริงเหรอ?”“เขาเคยบอกไว้แบบนี้ค่ะ คุณน้าคะ ที่คุณน้ารับหนูออกมา ไม่ใช่เป็นเพราะอยากกระชับความสัมพันธ์กับหนูสองต่อสองเหรอคะ? ทำไมถึงหวังให้คุณลุงมาด้วยล่ะคะ?”เจ้าตัวน้อยเอ่ยถามขึ้นด้วยใบหน้าจริงจัง“น้า...น้ามีเรื่องอยากพูดคุยกับพ่อของหนูน่ะ แล้วก็หวังว่าเราจะได้กินข้าวด้วยกันพร้อมหน้าพร้อมตากันทั้งครอบครัว” อิเลียรีบหาข้ออ้างทันทีเจ้าเด็กคนนี้ หูตาเฉียบแหลมจริง ๆ“อ้อ”“น้าจะหาร้านอาหารเนื้อแพะเดี๋ยวน
“เรียกฉันทำไม?” เยี่ยนหวยมองเธอด้วยสีหน้าไร้เดียงสา“ตอนนี้มันฤดูร้อน”ผ่านฤดูใบไม้ผลิมาแล้ว“ฉันแค่นึกถึงวันนั้นที่ไปติวให้เธอแล้วเจอแม่เธอเข้าโดยบังเอิญ เธอคิดไปถึงไหน?” เยี่ยนหวยเลิกคิ้วถังซือซือชะงักไปมีครั้งหนึ่งตอนที่เธอติวอยู่ในบ้าน แล้วบังเอิญเจอแม่ของเธอเข้าจริง ๆ แต่นั่นมันเรื่องตอนเทอมที่สองเยี่ยนหวยต้องจงใจพูดถึงวันนั้นตอนเทอมแรกแน่ ๆ ให้เธอเข้าใจผิดถ้าเธอชี้ไปเลยว่าเยี่ยนหวยจำผิด ก็จะเข้าแผนของเยี่ยนหวย เหมือนว่าเธอยังไม่เคยลืมเรื่องในอดีต คิดถึงเรื่องราวเหล่านั้นของเธอกับเยี่ยนหวยอยู่ตลอด“ตอนนี้ไม่ใช่ฤดูร้อนเหรอ? นายคิดไปถึงไหนอีก?” เธอปัดตกเรื่องนี้ไปอย่างมั่นใจทันทีหลังพูดจบ เธอก็หมุนตัวเดินไปด้านหน้าต่อ “ไม่พูดแล้ว รีบไปร้านถัดไปเถอะ”อยู่ข้างนอกจนถึงสี่ทุ่ม ทั้งสองคนถึงกลับไปยังโรงแรมด้วยกันถังซือซืออยากเรียกรถกลับไปเอง ไม่อยากให้เยี่ยนหวยไปส่งเธอเยี่ยนหวยจึงเอ่ยไปตามตรงว่า “ฉันพักอยู่ที่โรงแรมเดียวกันกับเธอ”ถังซือซือ “...”นี่ไม่ใช่ครั้งแรกแล้วคราวก่อนตอนที่เวินเหลียงถ่ายรูปเยี่ยนหวยรูปแรกที่เมืองฟิลาเดลเฟีย เวินเหลียงก็ถามว่าช่วงนี้เยี่ยนหวย
เมืองซีในฐานะเมืองใหญ่ของเจียงหนาน ประเภทของกินเล่นมีมากมาย ของกินเอกลักษณ์ที่ขึ้นชื่อไปทั่วประเทศอาทิ เต้าหู้เหม็น ไส้กรอกยักษ์ เส้นหมีเฝิ่น กุ้งเผ็ดเป็นต้นถังซือซือเคยมาเมืองซีตอนมาทำงานต่างถิ่นก่อนหน้านี้ เวลาค่อนข้างกระชั้นชิด จึงทำได้เพียงเดินช็อปปิงที่อื่น แต่เพิ่งเคยมาถนนคนเดินที่นี่เป็นครั้งแรกเธอซื้อไส้กรอกยักษ์สองชิ้นก่อน และแบ่งให้เยี่ยนหวยหนึ่งชิ้นกินไปได้เพียงครึ่งเดียว ถังซือซือก็หยุดอยู่ตรงหน้าร้านขายขนมฉือปา เธอกลืนน้ำลายแล้วถามขึ้นว่า “รู้ไหมคะว่าตรงไหนมีถังขยะบ้าง?”“ที่เหลือเธอไม่กินแล้วเหรอ?”“อืม”“ไม่อร่อย?”“ไม่ใช่ อร่อยมาก แต่ว่ายังมีของอร่อยอื่น ๆ อีกเยอะแยะ ฉันอยากเก็บท้องเอาไว้”เยี่ยนหวย “...”“เอามาให้ฉันก็ได้” เยี่ยนหวยรับไส้กรอกครึ่งชิ้นที่เหลืออยู่มาจากในมือของเธอ ก่อนจะเติมเข้าไปในท้องอย่างไม่มีภาระใด ๆถังซือซือซื้อขนมฉือปาแล้วเธอทำตัวอย่างกับโจร แต่ละร้านไม่ยอมปล่อยไปเลย ทว่าก็ชิมเพียงสองสามคำ ทั้งหมดที่เหลือก็โยนให้เยี่ยนหวยอย่างสบายใจเยี่ยนหวยเพลิดเพลินกับพฤติกรรมพรรค์นี้ ในใจเข้าใจได้ในทันที ราวกับกลับไปเมื่อเจ็ดปีก่อนหลังเรียนอย
“มันเรื่องอะไรกันแน่?”ก่อนหน้านี้ที่เยี่ยนหวยอยู่ที่เจียงเฉิง กลับไม่ได้สังเกตเท่าไรว่าอิเลียกำลังทำอะไรอยู่ เธอออกไปข้างนอกทุกวัน เยี่ยนหวยคิดเพียงแค่ว่าเธอกำลังไปเที่ยวเล่นถังซือซือไม่ใช่คนที่จะกุเรื่องมั่วซั่ว เธอพูดแบบนี้ ต้องรู้อะไรบางอย่างแน่ ๆ“พูดไปแล้วก็ยาว ตอนแรกฟู่ชิงเยว่อาของฟู่เจิงรับเลี้ยงเด็กกำพร้าอยู่ที่เมืองนอก ตอนนี้อายุห้าขวบแล้ว ปีที่แล้วอาเหลียงแท้ง แล้วฟู่ชิงเยว่ติดธุระพอดี เลยส่งเด็กคนนั้นกลับประเทศมาให้ฟู่เจิงดูแลช่วงหนึ่ง ฟู่เจิงเลยให้เด็กคนนั้นอยู่ในประเทศไปเลยเพื่อง้ออาเหลียง ปกติจะมาอยู่เป็นเพื่อนอาเหลียง และเด็กคนนั้นเองก็เข้าไปอยู่ในทะเบียนบ้านของฟู่เจิง แต่ว่า...”เยี่ยนหวยเดาเรื่องที่จะเกิดขึ้นต่อไปออกแล้ว จึงรับช่วงเอ่ยขึ้นต่อว่า “แต่ว่าจู่ ๆ ก่อนหน้านี้ก็มีข่าวบอกว่าเด็กผู้หญิงคนนั้นเป็นลูกของฟู่เจิงกับอิเลีย?”“ใช่ รายละเอียดฉันก็ไม่ค่อยแน่ใจเหมือนกัน เหมือนว่าจะเกี่ยวข้องกับอาของฟู่เจิงนิดหน่อย เธอรู้ตัวตนของเด็กผู้หญิงคนนั้นมาตั้งแต่แรก และไม่ชอบอาเหลียงมาโดยตลอด ยังไงตอนนี้อาเหลียงก็อยู่กับฉัน เขากับฟู่เจิงทะเลาะกันอีกแล้ว”เยี่ยนหวยเอ่ยควา
“เยี่ยนหวย!!”ประตูลิฟต์เปิดออก ทั้งสองคนเข้าไปกันตามลำดับ แล้วลงไปยังลานจอดรถใต้ดินตรงมุมเลี้ยว ในหัวของผู้หญิงสวมหน้ากากอนามัยวาบภาพที่เห็นเมื่อครู่ขึ้นมา หมัดที่ห้อยอยู่กำขึ้นแน่น เธอก้มหน้าทั้งดวงตาที่ประกายความอำมหิตออกมาหากเวินเหลียงอยู่ตรงนี้ คงจะจำได้แน่ ๆ ว่าผู้หญิงที่สวมหน้ากากอนามัยคนนี้ก็คืออลิซที่เธอมาเจียงเฉิง ก็เพราะเยี่ยนหวย เยี่ยนหวยมาเมืองซีเมื่อสองวันก่อน เธอเองก็ตามมาเช่นกันอิเลียถามเลขาของเยี่ยนหวย เมื่อรู้โรงแรมของเขาก็บอกกับอลิซทีแรกอลิซคิดว่าเยี่ยนหวยมาทำธุระที่เมืองซี จากนั้นก็ค่อย ๆ พบว่ามันไม่ชอบมาพากลเยี่ยนหวยไม่ยุ่งเลยสักนิดแถมยังมีเวลาไปสอบถามร้านอาหารท้องถิ่น ถนนคนเดิน จุดชมวิวของเมืองซีเป็นต้น อีกต่างหาก ไม่เหมือนมาทำงานต่างถิ่น แต่เหมือนมาเที่ยวเสียมากกว่าจนกระทั่งวันนี้ เมื่อได้เห็นภาพนั้น อลิซถึงเข้าใจทุกอย่างที่แท้คนที่ซีซาร์ชอบไม่ใช่เฟย์ แต่เป็นถังซือซือเพื่อนของเฟย์!ที่แท้เขาไม่ได้มาทำงานต่างถิ่นที่เมืองซี แต่มาเพื่อตามจีบถังซือซือ!ที่เขาสอบถามร้านอาหารและจุดชมวิวของเมืองซี ก็เพื่อพาถังซือซือไปวันนี้!ในใจอลิซอิจฉาเป็นอย่างม
เมื่อเยี่ยนหวยได้ยินดังนั้น ก็รู้ในทันทีว่าเวินเหลียงไม่ได้รักษาคำมั่นสัญญาแต่เขาก็เตรียมตัวไว้นานแล้ว วันนั้นหลังจากกลับไปก็ให้คนไปตรวจสอบกล้องวงจรปิด แล้วตัดคลิปมาใส่ไว้ในโทรศัพท์เมื่อได้ยินถังซือซือถามขึ้น เขาก็รีบส่งให้เธอทันที “ก็แค่คนที่ไม่สลักสำคัญอะไรคนหนึ่ง ฉันปฏิเสธเขาไปแล้ว”ถังซือซือดูคลิปรอบหนึ่ง ก่อนจะเบะปาก “อยู่ต่างประเทศคุณเยี่ยนมีสาวมาชอบเพียบเลยนะคะ”“แต่ฉันสนใจอยากจะครอบครองแค่เธอ”“จะยอมให้ฉันครอบครองไหม คุณถัง?”เยี่ยนหวยนั่งเอี้ยวตัว แขนข้างหนึ่งพาดอยู่บนพนักพิงเก้าอี้ เขาโน้มตัวเข้ามา ตัวท่อนบนใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ กลิ่นหอมฉุยจาง ๆ และกลิ่นอายของชายหนุ่มที่มาพร้อมกับการบุกรุกโอบล้อมเธอเอาไว้เขาดันแว่นตากรอบทอง สีหน้าอบอุ่น ฉีกยิ้มทว่าก็ราวกับไม่ยิ้ม มุมปากกระตุกรอยยิ้มเล็กน้อย ค่อนข้างมีความรู้สึกประเภทหน้าเนื้อใจเสือถังซือซือเหม่อไปครู่หนึ่ง“คุณถัง?”ใบหน้าหล่อเหลาตรงหน้าขยายใหญ่ขึ้นอีกครั้ง ไออุ่นร้อนปะทะเข้ามาที่หน้า ในที่สุดถังซือซือก็ได้สติกลับมา เธอเอนหลังพลางตบหน้าอก “นายทำฉันตกใจหมด...ไป ไปเดินหาของกินเล่นกันเถอะ”เธอลุกขึ้นและเดินออกไปอย่าง