Share

ตอนที่ 2 ไม่ใช่พ่อ 2

last update Last Updated: 2024-12-05 23:22:40

นางถูกเลี้ยงดูโดยแม่นมเฉาตั้งแต่ยังเยาว์ มารดาของนางแทบจะจดจำใบหน้าไม่ได้ บิดาต่างสายเลือดเคยบอกไว้ว่ามารดาของนางป่วยเป็นโรคประหลาดจึงกลับไปรักษาตัวที่บ้านเกิดตั้งแต่เย่วเยี่ยยังมิได้ความ นางเติบโตและคลุกคลีอยู่กับบ่าวไพร่ในจวน ส่วนเส้าชิงก็ไม่ค่อยจะได้เห็นหน้าเห็นตาเพราะต้องเดินทางทำการค้าที่ต่างเมืองอยู่บ่อยครั้ง

เยว่เยี่ยกลายเป็นบุตรีที่ขาดแคลนความรักความอบอุ่นจากบุพการี คำสั่งสอนส่วนใหญ่จะมาจากแม่นมเฉาซิ่น แต่ก็ไม่ได้เป็นคำสั่งสอนที่ดีนัก นางจึงคล้อยตามบ้างแหวกกฎบ้าง เฉกเช่นเหตุการณ์ที่นางแอบไปพบกับผู้ชายในป่าดอกท้อ ด้วยวัยที่อยากริอยากลองของเด็กสาวจึงทำให้นางแอบไปพลอดรักกับมู่หรงเหยียน ลูกชายคนโตตระกูลมู่

เช้าวันต่อมา อากาศค่อนข้างจะสดใสแสงแดดอ่อน ๆ ยามเช้า เสียงนกร้องกระจิบกระจับ แม่นมเฉาเข้ามาช่วยอาบน้ำแต่งตัวให้กับเยว่เยี่ย นางทำหน้าที่อย่างเต็มที่และเต็มใจ ความรักและทะนุถนอมเฉกเช่นลูกในไส้ของตน

“แม่นม ข้าทำเองก็ได้ ข้าโตแล้วนะ ไม่ได้เป็นเด็กแล้ว”

“ไม่ได้นะเจ้าคะ คุณหนูต้องให้นมสางผมให้ เพราะว่าตอนยังเยาว์ คุณหนูเคยกรีดร้องลั่น วิ่งไปทั่วจวนผมเผ้ายุ่งเหยิง ตะโกนโยเยจะให้นมสางผมให้ ใครสางให้ก็ไม่ยอม นึกถึงอดีตช่างน่าขันยิ่งนัก” เฉาซิ่นบอกเล่าเรื่องราวน่าเอ็นดูในอดีตของเยว่เยี่ยพลันจับหวีไม้ขึ้นมาสางผมให้กับเยว่เยี่ยอย่างเบามือ จัดแต่งอาภรณ์ให้อย่างเรียบร้อยสวยงามด้วยชุดฮั่นฝูสีชมพูอ่อน

อาหารมื้อเช้าจัดเรียงน่าตาน่าทาน กลิ่นหอมลอยละล่องชวนให้ลิ้มชิมรส เยว่เยี่ยเดินเข้ามายอบกายให้กับเส้าชิงพร้อมกับนั่งทานอาหารร่วมกับเขาด้วยบรรยากาศที่เรียบง่าย

“ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ยามซวีเจ้าต้องเข้าไปท่องตำราที่ห้องหนังสือทุกวันยกเว้นวันที่ข้าไม่อยู่เท่านั้น”

“ข้าก็ไปเรียนทุกวันที่สถานศึกษาเหตุใดจึงต้องท่องหนังสือด้วยละเจ้าคะ” เยว่เยี่ยเอ่ยสวนกลับฉับพลัน

“เจ้าถึงวัยปักปิ่นมีอีกหลายสิ่งที่เจ้ายังไม่รู้ความ ข้าจะต้องอบรมบ่มนิสัยให้เจ้าได้มีวิชาติดตัว ไปเป็นสะใภ้บ้านไหนจะได้ไม่มีคำติฉินนินทาว่าตระกูลฝูอบรมสั่งสอนบุตรหลานไม่เอาไหน”

หลังจากรับมื้อเช้าเรียบร้อยก็ต่างแยกย้ายกัน ฝูเส้าชิงไปที่โรงผ้าทอดูแลกิจการ ส่วนเยว่เยี่ยก็เดินทางไปสถานศึกษาโดยรถม้าที่ห่างออกไปประมาณหกลี้

ยามซวี

บรรยากาศอบอุ่นด้วยกลิ่นหอมของกระดาษเก่าและหมึกจีน ประตูไม้สีเข้มที่แกะสลักด้วยลวดลายโบราณ แสงสลัวๆ จากโคมไฟกระดาษสีแดงอ่อน ห้องหนังสือถูกจัดแต่งอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย โต๊ะไม้ขนาดใหญ่ตั้งอยู่กลางห้อง บนโต๊ะมีม้วนหนังสือและกระดาษเขียนเป็นระเบียบ

ตำรามีหลากหลายแขนง ทั้งตำราแพทย์ วรรณกรรม ปรัชญา และบันทึกประวัติศาสตร์ หน้าหนังสือถูกเขียนด้วยลายมืออย่างประณีต ใช้หมึกจีนดำขลับที่ยังคงมีกลิ่นหอมของสนและน้ำหมึกอ่อน ๆ บางเล่มถูกปิดด้วยผ้าฝ้ายสีแดงหรือสีเหลือง มีลายปักดอกไม้หรือลายมังกร บางเล่มก็ถูกมัดด้วยเชือกสีทองที่มีพู่เล็ก ๆ ห้อยอยู่

ชายร่างหนาดวงหน้าเคร่งขรึมคิ้วสองข้างขมวดมุ่น ในมือถือตำราสายตาจดจ้องด้วยความตั้งใจ แสงสลัวสาดส่องเข้ามาตามบานประตูที่แย้มออกแล้วปิดลงทันที ร่างบางระหงสาวเท้าเยื้องย่างด้วยความหวาดระแวงอย่างช้า ๆ ใจเต้นเป็นส่ำ เมื่อหยุดยืนที่หน้าโต๊ะตัวใหญ่กลางห้อง

“ทำไมเจ้าถึงได้ชักช้าเยี่ยงนี้ ข้ามารอเจ้าตั้งแต่หนึ่งชั่วยามที่แล้ว เจ้านี่ขัดใจข้ายิ่งนัก!”

เสียงเข้มดุดันแข็งกร้าวตวาดลั่นห้องจนเย่วเยี่ยยืนตัวสั่นเทายิ่งทวีความหวาดกลัวมากขึ้นไปอีกเป็นเท่าตัว

“ขะ ข้า...”

“ยังจะเถียงข้าอีก นี่ ตึ๊ก!”

เยว่เยี่ยไม่ทันได้ตอบกลับ ตำราเล่มไม่หนาไม่บางมากเหวี่ยงมาตรงหน้าของนาง มือเรียวบางเอื้อมหยิบขึ้นเปิดดูลายลักษณ์อักษร บนปกเขียนว่า “ตำรากามสูตร” เขาอ่านแล้วใจเริ่มเต้นสั่นระรัวดวงหน้าหวานไร้เดียงสาของสาววัยปักปิ่นเงยขึ้นมองคนที่เดินมาหยุดยืนที่เบื้องหน้า ร่างสูงกำยำหกฉื่อให้นางปฏิบัติตามบทความในตำราตั้งแต่บรรทัดแรกจนจบบทที่หนึ่ง

เส้าชิงพลางอุ้มนางขึ้นวางบนโต๊ะกลางห้องเสมือนหมูหันตัวน้อยกำลังจะโดนชำแหละ

“ข้าจะสอนวิธีปรนนิบัติสามีให้กับเจ้า เพราะอีกไม่นานเจ้าต้องไปเป็นสะใภ้ตระกูลมู่ ตามที่เจ้าต้องการจะได้ไม่ต้องไปแอบพลอดรักกันในที่ลับตา”

เยว่เยี่ยได้แต่ส่ายหน้าไปมา ท่าทางน่าสงสาร ไม่ถึงสามลมหายใจร่างบอบบางก็อยู่ในสภาพเปลือยเปล่า เส้นขนดำบางเบาพลันลุกซู่ตามความรู้สึกวาบหวิวจากอวัยวะเบื้องล่าง เส้าชิงตวัดลิ้นเลียเม็ดบัวสีชมพูอ่อนสลับกันทั้งสองข้างเบา ๆ

“ทะ..ท่านพ่อ”

“อื้อ” เขาขานรับในลำคอ โดยไม่หยุดละเลงลิ้นบนยอดปทุมถัน เยว่เยี่ยพยายามรวบรวมสติอันน้อยนิดที่เหลืออยู่ ถามไปว่า “พะ..พวกเรามิใช่สายเลือดเดียวกันจริงหรือเจ้าคะ”

“อืม” เส้าชิงตอบได้แค่นั้น ก่อนที่ยอดปทุมถันจะจมหายเข้าไปในปาก เขาดูดเลียมันอย่างเอร็ดอร่อยประหนึ่งกำลังกินอาหารอันโอชะ หลังจากนั้น เยว่เยี่ยก็ไม่เหลือสติ เส้าชิงใช้ปลายลิ้นทำความสะอาดให้นางจนทั่วร่าง จับขาสองข้างอ้าออกกว้างเผยให้เห็นกลีบกุหลาบสีสวยชมพูเข้มสมวัย แต่เขาต้องหักห้ามใจที่จะไม่ยัดอวัยวะเบื้องล่างเข้าทางช่องนี้ เพียงแต่ใช้ปลายลิ้นลิ้มชิมรสกลิ่นสวาทสาวทุกซอกหลืบอย่างดูดดื่ม

อวัยวะเบื้องล่างพองตัวเต็มที่ เขาอุ้มนางลงมาจากบนโต๊ะ เยว่เยี่ยคุกเข่าอ้าปากกว้างสุดรับตัวตนที่ใหญ่โตมหึมาของเส้าชิงเข้าไปจนทะลักล้นปากเข้าได้แค่ส่วนหัว

“อ๊อก” เยว่เยี่ยรู้สึกเหมือนดุ้นสวาทดันเข้าไปลึกถึงคอหอย เส้าชิงจับศีรษะนางขยับเข้าออกเป็นจังหวะ พร้อมกับสั่งสอนว่านี่คือท่ามัดใจสามี

ความเสียวซ่านเข้าครอบงำอย่างเต็มตัวตน เสียงครางกระเส่าเร้าร้อน อารมณ์ห้วงวสันต์บรรเลงขึ้นตามจังหวะ เขาจับนางลุกให้หันหน้าไปทางโต๊ะยึดสะโพกกลมกลึงไว้สอดใส่ตัวตนที่พองผงาดอย่างเต็มตัวเข้าที่รูสวาทด้านหลังถาโถมใส่นางอย่างไม่ยั้ง จนเยว่เยี่ยเผลอครางออกมาด้วยความรู้สึกวาบหวิวเกินบรรยาย

บั้นท้ายแกร่งขยับเข้าออกอย่างหนักหน่วงขึ้นเรื่อย ๆ พร้อมกับจุมพิตดูดดื่ม สองลิ้นพัวพันในโพรงปาก กระทั่งร่างกายของเยว่เยี่ยเริ่มแข็งเกร็ง ส่วนนั้นถึงได้ขยับอย่างถี่รัว ไม่นานเสียงครางในลำคอของทั้งคู่ก็ดังขึ้น

เยว่เยี่ยสมองขาวโพลน ทว่าเขากลับไม่ยอมให้นางได้พักหายใจ หลังจากที่ปลดปล่อยน้ำแรกไปยังไม่หมดดี ก็จับจ้วงแทงน้ำที่สองด้วยความสุขสมกามอารมณ์ สุดท้ายเยว่เยี่ยถูกกินไม่เหลือซาก ร่วมหนึ่งชั่วยามที่เส้าชิงจมอยู่กับร่างกายของนาง จนเยว่เยี่ยสลบไสลคาอกเขาถึงได้ยอมหยุด

เขากระทำเช่นนี้กับบุตรีต่างสายเลือดแทบจะทุกวันจนกระทั่งจบบทสุดท้ายของตำรากามสูตรเล่มนี้ ด้วยความเคียดแค้นจากคนรักเก่าที่ฝังลึกอยู่ในจิตใจมาอย่างยาวนาน

Related chapters

  • สังเวยรักจี้ฟู่บิดาต่างสายเลือด   อารัมบท 2

    ย้อนไปเมื่อสิบหกปีก่อนฝูเส้าชิงรักสตรีนางหนึ่งจนหมดใจ และได้แต่งกับนางตอนอายุสิบเจ็ด หลังจากแต่งงานกันได้หนึ่งเดือน ด้วยความที่เป็นลูกพ่อค้า เส้าชิงต้องเดินทางไปต่างเมืองบ่อยครั้ง สองสามเดือนแรกยังไม่มีอะไร ทว่าพอเข้าเดือนที่สี่ ภรรยาของเขาก็เริ่มเปลี่ยนไปนางเย็นชา อีกทั้งไม่ยอมให้เขาหลับนอนด้วย จนกระทั่งเข้าเดือนที่ห้า คืนนั้นไม่มีผู้ใดทราบว่าเส้าชิงกลับมา มีคนบอกว่าภรรยาของเขากลับไปดูแลมารดาที่กำลังป่วยแต่ฝูเส้าชิงไม่ได้เชื่อเช่นนั้น ในกระท่อมกลางป่านอกเมือง ภาพที่เขาเห็น คือภรรยาอันเป็นที่รักกำลังเสพสังวาสกับชายอื่นภาพที่นางร่างกายเปลือยเปล่านั่งคร่อมช่วงล่างของชายผู้นั้นยังติดตามาจนถึงทุกวันนี้ ยิ่งคิดไปถึงอดีต อวัยวะเบื้องล่างยิ่งจ้วงแทงหนักขึ้น โดยไม่กลัวว่าช่องทางอ่อนนุ่มจะฉีกขาด ประหนึ่งว่าต้องการใช้ทัณฑ์นี้ระบายความเคียดแค้นตลอดหลายปีที่มีมา สองมือที่จับยึดปทุมถันอวบอัดไว้อย่างละข้างออกแรงบีบขยำอย่างไร้ความปรานีท่อนกายแกร่งขนาดผิดธรรมดา มุดเข้าออกช่องทางด้านหลังของบุตรสาวต่างสายเลือดแทนการลงหวายในขณะที่เยว่เยี่ยคิดว่าตนคงต้องตาย ร่างกายกลับมีความรู้สึกอื่นเข้ามาแทนที่ น

    Last Updated : 2024-12-05
  • สังเวยรักจี้ฟู่บิดาต่างสายเลือด   ตอนที่ 3 ท่านพ่อใจร้าย 1

    เจ็ดวันต่อมาวันนี้ตระกูลมู่ส่งแม่สื่อไปทาบทามคุณหนูตระกูลฝูการเจรจาเป็นไปอย่างราบรื่น หลังจากตกลงแลกวันเดือนปีเกิดกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แม่สื่อที่มาก็กลับไปแจ้งแก่คนตระกูลมู่สามวันหลังจากนั้น รถม้าสองคันก็มาหยุดหน้าประตูจวนตระกูลฝู เพื่อส่งของหมั้นหมายหีบทรงสี่เหลี่ยมทำจากไม้จันทน์แดงสลักลวดลายดอกโบตั๋นลงรักสีแดงและปิดทองประดับตกแต่งหรูหราบ่งบอกถึงความมั่งคั่งร่ำรวยของผู้ที่ส่งมอบ ชายรูปร่างกำยำหกคนช่วยกันแบกหีบสามใบทยอยเข้ามาภายในบรรจุ ทองคำแท่ง เครื่องประดับเงิน รวมถึงสร้อยคอ กำไล แหวน ต่างหู และปิ่นปักผม เครื่องประดับที่ทำจากหยกถือเป็นของที่มีค่าสูงผ้าไหมเนื้อละเอียดและผ้าฝ้ายคุณภาพสูงที่มีลวดลายสวยงาม มักจะถูกมอบให้ฝ่ายหญิงเพื่อใช้ในการตัดเย็บเสื้อผ้า ผ้าที่ปักลวดลายดอกไม้และสัตว์เป็นสัญลักษณ์ของความเจริญรุ่งเรืองและความเป็นสิริมงคล เพราะเชื่อว่าจะนำโชคลาภและความคุ้มครองมาให้ทุกหีบถูกเปิดออกเพื่อให้ฝ่ายเจ้าสาวตรวจดู หลังจากพ่อบ้านตรวจตราดีแล้ว คนตระกูลมู่ก็พากันกลับฝูเส้าชิงสั่งให้ยกทุกหีบไปที่เรือนบุตรี โดยไม่คิดจะเหลือบมองมัน แม้แต่ตัวเขาเองตอนนี้ ยังไม่รู้ว่ากำลังคิดส

    Last Updated : 2024-12-05
  • สังเวยรักจี้ฟู่บิดาต่างสายเลือด   ตอนที่ 4 ท่านพ่อใจร้าย 2

    “ท่านพ่อ ท่านใจร้ายเกินไปที่ทำกับข้าเช่นนี้ ฮึก ฮือ”“ข้าเองก็ไม่เห็นว่าเจ้าจะขัดขืน เสียงครางของเจ้าบ่งบอกถึงไฟร่านในตัวเหมือนแม่เจ้าไม่มีผิด หึ”น้ำเสียงแข็งกร้าวตะคอกออกมาด้วยความเคียดแค้นภายในใจของเส้าชิง“ข้าอยากรู้ว่าทำไมท่านถึงต้องให้ข้าแต่งงานกับมู่หรงเหยียนด้วย ข้าไม่อยากแต่ง” เยว่เยี่ยยังเอ่ยถามเขาต่อด้วยเสียงสั่นเครือ มือเรียวบางเอื้อมโอบกอดอกแกร่งไว้แต่ไม่เป็นผลเส้าชิงผละออก พลันลุกจัดแต่งอาภรณ์“ถึงวัยปักปิ่นเจ้าก็ต้องแต่งงานออกเรือน เจ้าเป็นบุตรีคนเดียวถ้าไม่แต่ง จะให้ข้าโดนชาวบ้านประณามอย่างนั้นเหรอ”“แต่ข้ารักท่านพ่อ ข้าไม่อยากไปอยู่ที่อื่นนะเจ้าคะ ฮึก ฮือ”เยว่เยี่ยเอ่ยด้วยเสียงสะอึกสะอื้นน้ำใสไหลลงอาบแก้มตามประสาสตรีขี้แย“หุบปาก!” เขาตวาดกลับมาทันควัน เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เขาหวาดกลัวที่สุด กลัวว่าจะใจอ่อนกับนาง “เจ้ากลับไปได้แล้ว! และต่อไปไม่ต้องมาที่ห้องหนังสืออีก เตรียมตัวแต่งงานก็พอ!”“ท่านพ่อ ฮึก!”“ข้าบอกให้กลับไป!”ร่างบอบบางหมุนตัววิ่งออกประตูไปพร้อมกับเสียงสะอื้นไห้ ครั้งนี้เป็นครั้งที่นางเสียใจที่สุด เสียใจจนถึงขั้นที่ว่าจะตัดใจจากเขาสองอาทิตย์ต่อมาจวนตร

    Last Updated : 2024-12-05
  • สังเวยรักจี้ฟู่บิดาต่างสายเลือด   อารัมภบท 1

    ย่างเข้าเดือนหก ท้องฟ้าเริ่มโปร่งใส ใบไม้เริ่มจะเปลี่ยนสีเตรียมร่วงโรยออกจากต้น ลมฤดูใบไม้ร่วงทำให้อากาศในเมืองสุ่ยเปี้ยนแลดูร่มรื่นขึ้นเป็นกอง ผู้คนเริ่มออกมาสัญจรไปมากันขวักไขว่ พ่อค้าแม่ค้า พากันกู่ร้องขายของกันอย่างคึกคักป่าดอกท้อนอกเมือง ซึ่งเป็นสถานที่ที่ชายหนุ่มหญิงสาวมักแอบมาพลอดรักกัน ท่ามกลางดอกท้อปลิดปลิวในฤดูใบไม้ร่วง ชายหญิงคู่หนึ่งกำลังยืนจุมพิตกันอย่างดูดดื่ม แต่ก่อนที่ฝ่ามือของฝ่ายชายจะทันได้ล้วงเข้าไปในสาบเสื้อของฝ่ายหญิง ทั้งร่างก็ถูกกระชากอย่างแรงจนกระเด็นไปกระแทกต้นไม้ครั้นฝ่ายหญิงเห็นว่าผู้ใดเป็นคนลงมือ ดวงตาของนางพลันเบิกโพลง“ท่านพ่อ!”ฝูเยว่เยี่ยย่อมรู้บิดาโหดร้ายแค่ไหน ใบหน้างามจึงซีดเผือด แขนบอบบางถูกกระชากอย่างแรงผู้ที่ถูกเรียกว่าท่านพ่อไม่สนใจสักนิดว่านางจะเจ็บหรือไม่ เขาลากร่างเล็กอย่างไม่ปรานีปราศรัย แล้วจับไปโยนใส่รถม้าบนถนนเรียบแม่น้ำฮู่ยโห มีจวนใหญ่อยู่หลังหนึ่ง ป้ายชื่อบนซุ้มประตูเป็นสีทองอร่าม ไม่มีผู้ใดในเมืองที่จะไม่รู้ว่าอักษรคำว่าจวนตระกูลฝูนั้น เขียนด้วยลายพระหัตถ์ของไท่ซางหวง บ่งบอกถึงคุณงามความดีที่เจ้าของจวนกระทำเพื่อแผ่นดิน ว่ากันว่าแม้แ

    Last Updated : 2024-12-05
  • สังเวยรักจี้ฟู่บิดาต่างสายเลือด   ตอนที่ 1 ไม่ใช่พ่อ 1

    ในเรือนไผ่งามดวงตาบวมแดงของเด็กสาวยังคงเหม่อลอย เยว่เยี่ยปล่อยให้แม่นมอาบน้ำทำความสะอาดร่างกายจนเสร็จโดยไม่มีการตอบสนอง ท่านพ่อที่นางโหยหามาตั้งแต่วัยเยาว์กลับกระทำกับนางเช่นนี้ จิตใจของเยว่เยี่ยมีหรือจะไม่บอบช้ำ ตอนยังเด็ก นางเคยภาวนาขอแค่ได้เห็นรอยยิ้มจากเขา แต่จนแล้วจนรอดท่านพ่อก็ไม่เคยยิ้มให้นาง ทุกครั้งเจอ หากไม่ดุด่า นางก็จะถูกตีเพราะเช่นนี้ เยว่เยี่ยจึงมักทำผิดบ่อย ๆ เพื่อจะได้เจอหน้าท่านพ่อ แต่ใครจะรู้ ว่าท่านพ่อที่นางโหยหา กลับไม่ใช่พ่อแท้ ๆ คิดแล้ว น้ำตาของเยว่เยี่ยก็ไหลลงมาอาบแก้มแม่นมเฉาถือถ้วยยาเดินเข้ามาเห็น รู้สึกสะท้อนใจยิ่ง คุณหนูของนางช่างน่าสงสารยิ่งนัก มารดาไม่ใส่ใจ บิดาไม่ใช่บิดา เรื่องนี้จะโทษใครได้ คงเป็นเวรกรรม คิดแล้วแม่นมเฉาได้แต่ทำใจ เดินถือถ้วยยาเข้าไปหาเด็กสาวบนเตียง“คุณหนูยาเจ้าค่ะ”แค่ได้กลิ่น ใบหน้าซีดเซียวก็เบือนหน้าหนีแล้ว“แม่นมเฉา ข้าไม่กินได้หรือไม่” เยว่เยี่ยส่ายหน้าไปมา นางเป็นคนกินยายากมาตั้งแต่ไหนแต่ไร ซึ่งแม่นมเฉาเองค่อนข้างอ่อนใจกับเรื่องนี้ สุดท้าย แม่นมเฉาก็ไม่กล้าบังคับ“ถ้าอย่างงั้นคุณหนูนอนพักผ่อนนะเจ้าคะ”ไม่ต้องรอให้แม่นมเฉาบอก เยว

    Last Updated : 2024-12-05

Latest chapter

  • สังเวยรักจี้ฟู่บิดาต่างสายเลือด   ตอนที่ 4 ท่านพ่อใจร้าย 2

    “ท่านพ่อ ท่านใจร้ายเกินไปที่ทำกับข้าเช่นนี้ ฮึก ฮือ”“ข้าเองก็ไม่เห็นว่าเจ้าจะขัดขืน เสียงครางของเจ้าบ่งบอกถึงไฟร่านในตัวเหมือนแม่เจ้าไม่มีผิด หึ”น้ำเสียงแข็งกร้าวตะคอกออกมาด้วยความเคียดแค้นภายในใจของเส้าชิง“ข้าอยากรู้ว่าทำไมท่านถึงต้องให้ข้าแต่งงานกับมู่หรงเหยียนด้วย ข้าไม่อยากแต่ง” เยว่เยี่ยยังเอ่ยถามเขาต่อด้วยเสียงสั่นเครือ มือเรียวบางเอื้อมโอบกอดอกแกร่งไว้แต่ไม่เป็นผลเส้าชิงผละออก พลันลุกจัดแต่งอาภรณ์“ถึงวัยปักปิ่นเจ้าก็ต้องแต่งงานออกเรือน เจ้าเป็นบุตรีคนเดียวถ้าไม่แต่ง จะให้ข้าโดนชาวบ้านประณามอย่างนั้นเหรอ”“แต่ข้ารักท่านพ่อ ข้าไม่อยากไปอยู่ที่อื่นนะเจ้าคะ ฮึก ฮือ”เยว่เยี่ยเอ่ยด้วยเสียงสะอึกสะอื้นน้ำใสไหลลงอาบแก้มตามประสาสตรีขี้แย“หุบปาก!” เขาตวาดกลับมาทันควัน เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เขาหวาดกลัวที่สุด กลัวว่าจะใจอ่อนกับนาง “เจ้ากลับไปได้แล้ว! และต่อไปไม่ต้องมาที่ห้องหนังสืออีก เตรียมตัวแต่งงานก็พอ!”“ท่านพ่อ ฮึก!”“ข้าบอกให้กลับไป!”ร่างบอบบางหมุนตัววิ่งออกประตูไปพร้อมกับเสียงสะอื้นไห้ ครั้งนี้เป็นครั้งที่นางเสียใจที่สุด เสียใจจนถึงขั้นที่ว่าจะตัดใจจากเขาสองอาทิตย์ต่อมาจวนตร

  • สังเวยรักจี้ฟู่บิดาต่างสายเลือด   ตอนที่ 3 ท่านพ่อใจร้าย 1

    เจ็ดวันต่อมาวันนี้ตระกูลมู่ส่งแม่สื่อไปทาบทามคุณหนูตระกูลฝูการเจรจาเป็นไปอย่างราบรื่น หลังจากตกลงแลกวันเดือนปีเกิดกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แม่สื่อที่มาก็กลับไปแจ้งแก่คนตระกูลมู่สามวันหลังจากนั้น รถม้าสองคันก็มาหยุดหน้าประตูจวนตระกูลฝู เพื่อส่งของหมั้นหมายหีบทรงสี่เหลี่ยมทำจากไม้จันทน์แดงสลักลวดลายดอกโบตั๋นลงรักสีแดงและปิดทองประดับตกแต่งหรูหราบ่งบอกถึงความมั่งคั่งร่ำรวยของผู้ที่ส่งมอบ ชายรูปร่างกำยำหกคนช่วยกันแบกหีบสามใบทยอยเข้ามาภายในบรรจุ ทองคำแท่ง เครื่องประดับเงิน รวมถึงสร้อยคอ กำไล แหวน ต่างหู และปิ่นปักผม เครื่องประดับที่ทำจากหยกถือเป็นของที่มีค่าสูงผ้าไหมเนื้อละเอียดและผ้าฝ้ายคุณภาพสูงที่มีลวดลายสวยงาม มักจะถูกมอบให้ฝ่ายหญิงเพื่อใช้ในการตัดเย็บเสื้อผ้า ผ้าที่ปักลวดลายดอกไม้และสัตว์เป็นสัญลักษณ์ของความเจริญรุ่งเรืองและความเป็นสิริมงคล เพราะเชื่อว่าจะนำโชคลาภและความคุ้มครองมาให้ทุกหีบถูกเปิดออกเพื่อให้ฝ่ายเจ้าสาวตรวจดู หลังจากพ่อบ้านตรวจตราดีแล้ว คนตระกูลมู่ก็พากันกลับฝูเส้าชิงสั่งให้ยกทุกหีบไปที่เรือนบุตรี โดยไม่คิดจะเหลือบมองมัน แม้แต่ตัวเขาเองตอนนี้ ยังไม่รู้ว่ากำลังคิดส

  • สังเวยรักจี้ฟู่บิดาต่างสายเลือด   อารัมบท 2

    ย้อนไปเมื่อสิบหกปีก่อนฝูเส้าชิงรักสตรีนางหนึ่งจนหมดใจ และได้แต่งกับนางตอนอายุสิบเจ็ด หลังจากแต่งงานกันได้หนึ่งเดือน ด้วยความที่เป็นลูกพ่อค้า เส้าชิงต้องเดินทางไปต่างเมืองบ่อยครั้ง สองสามเดือนแรกยังไม่มีอะไร ทว่าพอเข้าเดือนที่สี่ ภรรยาของเขาก็เริ่มเปลี่ยนไปนางเย็นชา อีกทั้งไม่ยอมให้เขาหลับนอนด้วย จนกระทั่งเข้าเดือนที่ห้า คืนนั้นไม่มีผู้ใดทราบว่าเส้าชิงกลับมา มีคนบอกว่าภรรยาของเขากลับไปดูแลมารดาที่กำลังป่วยแต่ฝูเส้าชิงไม่ได้เชื่อเช่นนั้น ในกระท่อมกลางป่านอกเมือง ภาพที่เขาเห็น คือภรรยาอันเป็นที่รักกำลังเสพสังวาสกับชายอื่นภาพที่นางร่างกายเปลือยเปล่านั่งคร่อมช่วงล่างของชายผู้นั้นยังติดตามาจนถึงทุกวันนี้ ยิ่งคิดไปถึงอดีต อวัยวะเบื้องล่างยิ่งจ้วงแทงหนักขึ้น โดยไม่กลัวว่าช่องทางอ่อนนุ่มจะฉีกขาด ประหนึ่งว่าต้องการใช้ทัณฑ์นี้ระบายความเคียดแค้นตลอดหลายปีที่มีมา สองมือที่จับยึดปทุมถันอวบอัดไว้อย่างละข้างออกแรงบีบขยำอย่างไร้ความปรานีท่อนกายแกร่งขนาดผิดธรรมดา มุดเข้าออกช่องทางด้านหลังของบุตรสาวต่างสายเลือดแทนการลงหวายในขณะที่เยว่เยี่ยคิดว่าตนคงต้องตาย ร่างกายกลับมีความรู้สึกอื่นเข้ามาแทนที่ น

  • สังเวยรักจี้ฟู่บิดาต่างสายเลือด   ตอนที่ 2 ไม่ใช่พ่อ 2

    นางถูกเลี้ยงดูโดยแม่นมเฉาตั้งแต่ยังเยาว์ มารดาของนางแทบจะจดจำใบหน้าไม่ได้ บิดาต่างสายเลือดเคยบอกไว้ว่ามารดาของนางป่วยเป็นโรคประหลาดจึงกลับไปรักษาตัวที่บ้านเกิดตั้งแต่เย่วเยี่ยยังมิได้ความ นางเติบโตและคลุกคลีอยู่กับบ่าวไพร่ในจวน ส่วนเส้าชิงก็ไม่ค่อยจะได้เห็นหน้าเห็นตาเพราะต้องเดินทางทำการค้าที่ต่างเมืองอยู่บ่อยครั้งเยว่เยี่ยกลายเป็นบุตรีที่ขาดแคลนความรักความอบอุ่นจากบุพการี คำสั่งสอนส่วนใหญ่จะมาจากแม่นมเฉาซิ่น แต่ก็ไม่ได้เป็นคำสั่งสอนที่ดีนัก นางจึงคล้อยตามบ้างแหวกกฎบ้าง เฉกเช่นเหตุการณ์ที่นางแอบไปพบกับผู้ชายในป่าดอกท้อ ด้วยวัยที่อยากริอยากลองของเด็กสาวจึงทำให้นางแอบไปพลอดรักกับมู่หรงเหยียน ลูกชายคนโตตระกูลมู่เช้าวันต่อมา อากาศค่อนข้างจะสดใสแสงแดดอ่อน ๆ ยามเช้า เสียงนกร้องกระจิบกระจับ แม่นมเฉาเข้ามาช่วยอาบน้ำแต่งตัวให้กับเยว่เยี่ย นางทำหน้าที่อย่างเต็มที่และเต็มใจ ความรักและทะนุถนอมเฉกเช่นลูกในไส้ของตน“แม่นม ข้าทำเองก็ได้ ข้าโตแล้วนะ ไม่ได้เป็นเด็กแล้ว”“ไม่ได้นะเจ้าคะ คุณหนูต้องให้นมสางผมให้ เพราะว่าตอนยังเยาว์ คุณหนูเคยกรีดร้องลั่น วิ่งไปทั่วจวนผมเผ้ายุ่งเหยิง ตะโกนโยเยจะให้นมสางผ

  • สังเวยรักจี้ฟู่บิดาต่างสายเลือด   ตอนที่ 1 ไม่ใช่พ่อ 1

    ในเรือนไผ่งามดวงตาบวมแดงของเด็กสาวยังคงเหม่อลอย เยว่เยี่ยปล่อยให้แม่นมอาบน้ำทำความสะอาดร่างกายจนเสร็จโดยไม่มีการตอบสนอง ท่านพ่อที่นางโหยหามาตั้งแต่วัยเยาว์กลับกระทำกับนางเช่นนี้ จิตใจของเยว่เยี่ยมีหรือจะไม่บอบช้ำ ตอนยังเด็ก นางเคยภาวนาขอแค่ได้เห็นรอยยิ้มจากเขา แต่จนแล้วจนรอดท่านพ่อก็ไม่เคยยิ้มให้นาง ทุกครั้งเจอ หากไม่ดุด่า นางก็จะถูกตีเพราะเช่นนี้ เยว่เยี่ยจึงมักทำผิดบ่อย ๆ เพื่อจะได้เจอหน้าท่านพ่อ แต่ใครจะรู้ ว่าท่านพ่อที่นางโหยหา กลับไม่ใช่พ่อแท้ ๆ คิดแล้ว น้ำตาของเยว่เยี่ยก็ไหลลงมาอาบแก้มแม่นมเฉาถือถ้วยยาเดินเข้ามาเห็น รู้สึกสะท้อนใจยิ่ง คุณหนูของนางช่างน่าสงสารยิ่งนัก มารดาไม่ใส่ใจ บิดาไม่ใช่บิดา เรื่องนี้จะโทษใครได้ คงเป็นเวรกรรม คิดแล้วแม่นมเฉาได้แต่ทำใจ เดินถือถ้วยยาเข้าไปหาเด็กสาวบนเตียง“คุณหนูยาเจ้าค่ะ”แค่ได้กลิ่น ใบหน้าซีดเซียวก็เบือนหน้าหนีแล้ว“แม่นมเฉา ข้าไม่กินได้หรือไม่” เยว่เยี่ยส่ายหน้าไปมา นางเป็นคนกินยายากมาตั้งแต่ไหนแต่ไร ซึ่งแม่นมเฉาเองค่อนข้างอ่อนใจกับเรื่องนี้ สุดท้าย แม่นมเฉาก็ไม่กล้าบังคับ“ถ้าอย่างงั้นคุณหนูนอนพักผ่อนนะเจ้าคะ”ไม่ต้องรอให้แม่นมเฉาบอก เยว

  • สังเวยรักจี้ฟู่บิดาต่างสายเลือด   อารัมภบท 1

    ย่างเข้าเดือนหก ท้องฟ้าเริ่มโปร่งใส ใบไม้เริ่มจะเปลี่ยนสีเตรียมร่วงโรยออกจากต้น ลมฤดูใบไม้ร่วงทำให้อากาศในเมืองสุ่ยเปี้ยนแลดูร่มรื่นขึ้นเป็นกอง ผู้คนเริ่มออกมาสัญจรไปมากันขวักไขว่ พ่อค้าแม่ค้า พากันกู่ร้องขายของกันอย่างคึกคักป่าดอกท้อนอกเมือง ซึ่งเป็นสถานที่ที่ชายหนุ่มหญิงสาวมักแอบมาพลอดรักกัน ท่ามกลางดอกท้อปลิดปลิวในฤดูใบไม้ร่วง ชายหญิงคู่หนึ่งกำลังยืนจุมพิตกันอย่างดูดดื่ม แต่ก่อนที่ฝ่ามือของฝ่ายชายจะทันได้ล้วงเข้าไปในสาบเสื้อของฝ่ายหญิง ทั้งร่างก็ถูกกระชากอย่างแรงจนกระเด็นไปกระแทกต้นไม้ครั้นฝ่ายหญิงเห็นว่าผู้ใดเป็นคนลงมือ ดวงตาของนางพลันเบิกโพลง“ท่านพ่อ!”ฝูเยว่เยี่ยย่อมรู้บิดาโหดร้ายแค่ไหน ใบหน้างามจึงซีดเผือด แขนบอบบางถูกกระชากอย่างแรงผู้ที่ถูกเรียกว่าท่านพ่อไม่สนใจสักนิดว่านางจะเจ็บหรือไม่ เขาลากร่างเล็กอย่างไม่ปรานีปราศรัย แล้วจับไปโยนใส่รถม้าบนถนนเรียบแม่น้ำฮู่ยโห มีจวนใหญ่อยู่หลังหนึ่ง ป้ายชื่อบนซุ้มประตูเป็นสีทองอร่าม ไม่มีผู้ใดในเมืองที่จะไม่รู้ว่าอักษรคำว่าจวนตระกูลฝูนั้น เขียนด้วยลายพระหัตถ์ของไท่ซางหวง บ่งบอกถึงคุณงามความดีที่เจ้าของจวนกระทำเพื่อแผ่นดิน ว่ากันว่าแม้แ

DMCA.com Protection Status