“ช่างเถอะ ๆ ว่าแต่มึงบอกว่าน้องมิวไม่น่าสนใจแล้วทำไมถึงให้กูหาประวัติมาให้ล่ะ”
“เรื่องนั้นน่ะเหรอ เพราะว่ากูสงสัยอะไรบางอย่างน่ะสิ”
"อะไรวะ"
“เออ ไม่มีอะไรรอกูพิสูจน์ให้รู้เรื่องก่อนถ้าใช่แล้วจะบอกมึงเป็นคนแรกเลย”
“เออ ๆ ก็ดีแต่กูขอล่ะไอ้วินทร์ วันนั้นที่โดนด่ากันไปเซตใหญ่กูว่ามึงก็บอกไอ้พวกนั้นปล่อยน้องมันไปเหอะ เห็นแล้วสงสารว่ะ กูยังต้องขอให้น้องมันช่วยอีกเยอะ”
“เออ กูจะบอกให้แต่พักหลังพวกมันก็ไม่แซวแล้วนี่”
“ก็คงไม่กล้าแล้วละมั้ง สงสัยจะกลัวปากใบมีดโกนของน้องมิวไปอีกนานเลยล่ะ”
“น้องมิวเหรอ”
“ใช่ ชื่อเล่นชื่อมิวไง กูถามน้องวันที่เจอที่หอสมุด”
“เหอะ ไม่ใช่ว่ามึงจะจีบน้องแว่นเฉิ่มเนิร์ดนี่หรอกเหรอไอ้กรเห็นพูดถึงบ่อย ๆ”
“ส้นตึกเถอะไอ้วินทร์อย่าพูดอะไรน่าขนลุกแบบนั้นได้ไหม รุ่นน้องก็คือรุ่นน้องโว้ย ไปได้แล้ว”
“เออ ๆ”
วันศุกร์ / Q-Bar
“สุดหล่อมาแล้วเหรอ”
“หวัดดีครับ”
“ไฮพี่วินทร์”
“หวัดดีคนสวย”
ภาวินทร์เดินเข้ามาผ่อนคลายที่บาร์เพราะสองวันที่ผ่านมาเขากับเพื่อน ๆ แทบจะไม่ได้นอนเพราะลุยทำงานโปรเจคจบส่งอาจารย์
ทั้งกลุ่มตกลงกันว่าศุกร์ เสาร์จะเป็นวันพักผ่อนที่ไม่ต้องมาทำรายงานอีกเพื่อไม่ให้เครียดกันจนเกินไป เขาเดินมาที่บาร์และสั่งเครื่องดื่มอย่างเดิมซึ่งวันนี้เขาเห็นว่าเป็นบาร์เทนเดอร์ผู้หญิง ซึ่งมีป้ายชื่อ “เรเน่” ติดเอาไว้
“เครื่องดื่มของคุณค่ะ”
“ขอบใจ”
เธอรีบหันหลังให้เขาทันทีและแกล้งทำเป็นเช็ดแก้วเพราะกลัวว่าภาวินทร์จะจำเธอได้ แม้ว่าจะแต่งหน้าจัดใส่คอนแทคเลนส์และทาปากสีเข้มจนจำภาพเดิมไม่ได้ก็ตาม
“รสชาติที่คุณผสม อร่อยกว่าบาร์เทนเดอร์อีกคน”
“ขอบคุณมากค่ะคุณผู้ชาย”
“เป็นมารยาทของคนชงเหล้าเหรอที่ต้องเอียงข้างคุยกับลูกค้า”
“เอ่่อ…”
“พี่วินทร์ขา…. วันนี้มาได้ด้วยเหรอคะ ไม่เจอกันตั้งนานไปแดนซ์กันหน่อยดีไหมคะ”
“ได้สิพี่กำลังเบื่ออยู่พอดี”
สาวสวยคนนั้นโอบรอบเอวของภาวินทร์และพากันหายเข้าไปที่โซนแสงสีเสียงอีกฝั่งหนึ่งของบาร์ มิวที่ยืนอยู่ที่บาร์ถึงกับพ่นจมูกออกมา
“พวกคนเจ้าชู้ก็ยังน่าเกลียดเหมือนเดิม”
ไม่นานเขาก็ควงผู้หญิงที่พึ่งพาไปที่โซนเต้นกลับมาและสั่งเครื่องดื่มอีกคนละชุด เธอทำหน้าที่ชงให้ทั้งคู่ก่อนที่หญิงสาวที่เริ่มเมาแล้วจะหันไปจูบเขาโดยไม่ตั้งใจ ภาวินทร์ที่ตกใจและไม่ชอบดันเธอออกไปทันทีจนเครื่องดื่มนั้นหก
“ว้าย! พี่วินทร์ผลักนินนี่ทำไมคะ”
“เธอ! ทำอะไรน่ะ”
“ก็จูบไงคะ ไม่ได้เหรอ”
“ไปให้พ้น”
“พี่วินทร์...”
“ไปให้พ้น!!”
มิวถึงกับตกใจตาค้างเมื่อเห็นว่าภาวินทร์ด่าและไล่ผู้หญิงคนนั้นออกไป เธอยังไม่ทันได้ดื่มคอกเทลที่เขาสั่งเลยแต่ตอนนี้ยืนร้องไห้อยู่หน้าเขา เสียงเพลงยังดังอยู่แต่คนในร้านเริ่มหันมามองทำให้ผู้หญิงคนนั้นเริ่มอาย
“พี่วินทร์ นินนี่ก็แค่…”
“ฉันบอกให้เธอไปให้พ้น!”
“แต่ว่า…”
“เฮ้ย… ไม่เอาน่าสุดหล่อ เอาน่า ๆ นินนี่ไปสนุกทางโน้นเถอะนะ ที่นี่ไม่มีอะไรแล้วขอโทษทีนะครับ”
ผู้ชายอีกคนรีบพาเธอออกไปจากหน้าบาร์ทันที ภาวินทร์หันมาสั่งเครื่องดื่ม และต้องตกใจเมื่อเขาเห็นแววตาที่คุ้นเคยตรงหน้า แต่เขารู้สึกโมโหจนคิดไม่ทันว่าเหมือนเคยเห็นหน้าเธอที่ไหน
“เอามาอีกแก้ว”
“เอ่อ…ค่ะ”
เธอชงเครื่องดื่มตามที่เขาสั่งพร้อมกับเครื่องดื่มอีกแก้วที่เสิร์ฟพร้อมกันจนเขาสงสัย
“นี่อะไร”
“ดื่มเครื่องดื่มที่แรงมาก ๆ ไม่ดีต่อสุขภาพ เครื่องดื่มแก้วเล็ก ๆ นั่นจะช่วยได้ถ้าคุณรู้สึกพะอืดพะอม”
“แต่ผมไม่ได้สั่ง”
“ถือว่าฉันเลี้ยงก็แล้วกันค่ะ”
“เรเน่ ขอพิงค์เลดี้สองแก้วโต๊ะซีสาม”
“โอเค”
เธอรีบหันหลังให้เขาพร้อมกับชงเครื่องดื่มตามที่ลูกค้าสั่ง ภาวินทร์มองไปที่แก้วเล็ก ๆ สีสวยที่มีมะนาวฝานเล็ก ๆ วางอยู่และแผ่นหลังของบาร์เทนเดอร์สาวด้วยความสนใจ
แต่ตอนนี้เขาต้องทำอย่างอื่นจึงได้ดื่มเครื่องดื่มรวดเดียวหมดและลองชิมคอร์กเทลที่เธอทำให้ ปิดท้ายด้วยธนบัตรสีเทาสามใบที่วางเอาไว้ก่อนจะเดินออกไป
“ว้าว วันนี้ทิปเยอะเกินไปหรือเปล่า”
“คุณภาวินทร์น่ะเหรอ ทิปหนักตลอดแหละแล้วยิ่งเข้าถูกจังหวะแบบนี้ก็รวยเละ”
“จริงสิเชน ทำไมเขาถึงได้โกรธเวลาที่สาว ๆ ไปจูบเขาล่ะ ผู้ชายเจ้าชู้แบบนั้นน่าจะชอบไม่ใช่เหรอ”
“ภาพที่เราเห็นก็คงจะเป็นแบบนั้น แม้ว่าเขาจะหิ้วสาว ๆ กลับเกือบทุกวันแต่ไม่มีผู้หญิงคนไหนที่เขาจูบเลยสักคน”
“อะไรนะ เป็นไปได้ด้วยเหรอ”
“อืม ที่จริงผมก็ไม่รู้หรอกแต่ก็รู้ ๆ กันอยู่ ไม่มีข่าวน้ำซุบซิบไหนที่จริงมากกว่าหน้าบาร์อีกแล้ว สาว ๆ ที่เขาพาขึ้นโรงแรมน่ะพูดกันทุกคน ไม่มีใครที่กล้าจูบเขาเลย ทุกคนถ้าเริ่มเข้าใกล้และไปจูบเขาก็โดนไล่ออกมาหมด เหมือนจะเป็นโรคจิตหน่อย ๆ นะแต่คิดว่าคงจะมีอะไรฝังใจละมั้งถึงไม่จูบ”
“เหรอ จะมีอะไรนอกจากกลัวโรคติดต่อล่ะ ทางปากก็เป็นไปได้ยิ่งมั่ว ๆ แบบเขาล่ะก็”
“แหมเรเน่ เขาให้ทิปเธอตั้งเยอะยังกล้านินทาลูกค้าวีไอพีลับหลังอีกเหรอ”
“ทิปก็ส่วนทิปสิ ในเมื่อฉันทำหน้าที่ได้ดีได้ทิปก็ไม่แปลกนี่นา แต่เรื่องที่เขามั่วผู้หญิงมันเกี่ยวอะไรกับฉันด้วยล่ะ”
“นั่นสินะ เธอไม่พูดก็มีคนอื่นพูดถึงเขาอยู่ดี ถือว่าวันนี้สาวน้อยคนนั้นโชคร้ายสุด ๆ เลยล่ะเพราะดันไปจีบเจ้าชายปีศาจเข้าให้”
“เจ้าชายปีศาจ ฉันชอบชื่อนี้”
“หึ ลองดูหน่อยไหมล่ะ”
“อย่าพูดอะไรน่ากลัวแบบนั้นฉันยังไม่อยากตกนรกทั้ง ๆ ที่ยังไม่ตายหรอกนะ"
“เออจริงสิเรเน่ งานที่ติดต่อมาว่ายังไงตกลงจะรับหรือเปล่า งานชงเหล้าในปาร์ตี้ของไฮโซที่จัดบนชั้นดาดฟ้าโรงแรมห้าดาวน่ะ พี่หญิงฝากมาถามเพราะครั้งนี้เห็นว่าลูกค้าเจาะจงเลือกเธอเลยนะ”
“จริงด้วยสิ เกือบลืมไปเลย”
“ค่าจ้างไม่น้อยเลยนะฉันก็ไม่อยากให้เธอพลาดงานดี ๆ เอาไว้จ่ายค่าหอก็ยังดี”
มิวกำลังคิดเรื่องนี้ก่อนหน้านี้เหมือนกันเพราะงานชงเครื่องดื่มนอกสถานที่เธอไม่เคยไปทำมาก่อนแม้ว่าจะไปในฐานะตัวแทนของร้านก็ตาม แต่ครั้งนี้ผู้จัดการของร้าน “พี่หญิง” มาถามเธอเพราะมีกลุ่มลูกค้าที่เป็นวีไอพีของร้านติดใจในรสชาติที่เธอชงจึงได้เจาะจงเลือกเธอโดยเฉพาะ
“ไม่ต้องห่วงนะมีฉันไปด้วยอีกคน วันที่พวกเราไปจะมีคนมาแทน”
“แต่ฉันไม่เคยรับงานนอกสถานที่มาก่อนเลยจะไม่ไปทำเสียเรื่องเหรอ”
“ไม่ต้องกลัวหรอก เธอก็แค่ทำตามปกติของเธอ ดีเสียอีกเพราะเราไม่ได้ยกบาร์ไป พวกเขาก็เลือกเมนูได้ไม่เยอะเหมือนที่นี่เธอก็แค่ชงเครื่องดื่มซ้ำ ๆ สักสามสี่รายการก็พอ”
“อืม ถ้าอย่างนั้นฉันรับก็ได้ มีนายไปด้วยไม่น่ามีปัญหาหรอกว่าแต่ลูกพีชแฟนนายไปด้วยหรือเปล่า"
“ไปสิเธอต้องเป็นเด็กเสิร์ฟในงานน่ะ ไม่ต้องห่วงนะงานนี้เป็นงานเลี้ยงภายใน เรื่องที่เธอยังเป็นนักศึกษาไม่มีใครรู้หรอก พี่หญิงเองก็บอกแล้วว่าปลอดภัย”
"ถ้าอย่างนั้นฉันกลับก่อนนะเชน”
“กลับดี ๆ ล่ะ”
“โอเค”
มิวเดินออกมาเปลี่ยนเสื้อผ้าและลบเครื่องสำอางก่อนจะรีบเก็บของและเดินออกประตูหลังร้านเหมือนกับทุก ๆ วันที่เลิกงาน เมื่อขึ้นรถไปแล้ว คนที่กำลังเฝ้าดูอยู่ก็เดินออกมามองแท็กซี่ที่วิ่งออกไป
“แบบนี้นี่เอง ลักษิกา…"เรเน่" ที่แท้ก็คนเดียวกัน น้องมิว หึ น่าสนใจดีนี่ แบบนี้สิถึงจะสนุก"
วันถัดมา Q-Barวันนี้ภาวินทร์ตั้งใจจะมาที่นี่เพื่อจะมองหน้าบาร์เทนเดอร์สาวอีกครั้งเพื่อความแน่ใจกับสิ่งที่เขาเห็นเมื่อคืนนี้ หากว่าเธอคือลักษิการุ่นน้องสาวแว่นตัวแสบที่เขารู้จัก คราวนี้ก็ถึงเวลาที่เขาจะแก้แค้นเธอแล้ว“ดราย์ มาร์ตินี่”“ค่ะ”มิวหันไปมองแขกที่มักจะมาประจำในช่วงนี้ ตอนนี้เธอลดความกลัวเขาลงไปมากแล้ว เพราะดูเหมือนว่าภาวินทร์จะไม่ได้ใส่ใจเธอและมาที่นี่เพื่อท่องราตรีเพียงอย่างเดียว เรเน่ชงตามสูตรและส่งเครื่องดื่มที่เขาสั่งประจำให้เขา“ขอบใจนะสำหรับเครื่องดื่มแก้แฮงค์เมื่อวาน”“ไม่เป็นไรค่ะ ขอบคุณสำหรับทิปด้วยค่ะคุณผู้ชาย”“ไม่เป็นไรเพราะผมจะเอาคืนมากกว่าทิปแน่…เรเน่”เธอหันไปยิ้มให้เขา รอยยิ้มของเธอทำให้เขามั่นใจว่าเธอคือ “ยัยลูกแกะน้อย” ที่เขาเจอในห้องสมุดครั้งก่อนตอนที่เพื่อนของเขาไปยืมหนังสือ นึกไม่ถึงเลยว่าเวลาที่เธอแต่งตัวเซ็กซี่และหมุนแก้วชงของบาร์เทนเดอร์พร้อมลีลาการหมุนผสมเครื่องดื่มทำให้เขาตื่นตาตื่นใจทุกครั้งจนละสายตาไม่ได้ เครื่องดื่มน้ำเมาแก้วต่อแก้วที่เธอชงส่งต่อให้สาว ๆ ออกไปเสิร์ฟให้ลูกค้าทำให้เขาเผลอมองอย่างลืมตัว มารู้ตัวอีกทีก็ชอบมองเธอชงเมนูต่าง ๆ อย่างตั
มิวรู้สึกว่าตัวเองพลาดไปแล้ว เมื่อบอกเขาไปแบบนั้นมันก็ไม่เท่ากับว่าเธอได้จับตัวเองใส่พานให้เขาด้วยตัวเองหรอกเหรอ สายตาของภาวินทร์ในตอนนี้เองก็ใช่ว่าจะน่าไว้ใจ เขาโยนบางอย่างให้เธอ “นี่อะไรคะ”“กุญแจห้องนี้”“แล้ว?”“จากนี้มาที่นี่อาทิตย์ละสามวัน จะวันไหนก็แล้วแต่เธอ”“มาที่นี่เหรอคะ”“ใช่ ทางที่ดีมาตอนกลางวัน ค่ำ ๆ หน่อยก็ได้”“นี่คือ…”“ทำความสะอาด ทำอาหาร พี่ไม่ค่อยกลับมาแต่ช่วงนี้คงต้องมาบ่อย ๆ เพราะต้องทำโปรเจคจบ”“เอ่อ…แค่นี้”“ทำไมล่ะ ไหนบอกทำได้ทุกอย่าง”“ค่ะ! ถ้าเป็นแบบนี้ก็ได้ค่ะ มิวยินดีค่ะจะทำให้ดีที่สุดค่ะ เอาเป็นวันจันทร์ พุธ กับศุกร์ช่วงบ่ายนะคะจะไม่ขาดสักวันเลยค่ะ”“ได้งานคนใช้ต้องดีใจขนาดนั้นเลยเหรอ”“ค่ะ ดีใจค่ะถ้าอย่างนั้นมิวกลับได้เลยใช่ไหม”“เดี๋ยว…”“คะ?"“ทำไมต้องแต่งตัวแบบนี้หรือว่ามันเป็นกฎของร้าน”มิวก้มลงมองตัวเองที่แต่งตัวค่อนข้างโป๊และโชว์รูปร่างที่ซ่อนรูปของเธอที่ค่อนข้างเซ็กซี่เกินคาดไปมาก เขาไม่เคยนึกเลยว่าภายใต้ชุดนักศึกษาและกระโปรงหลวม ๆ แล้วยังรองเท้าผ้าใบสีชมพูที่น่ารำคาญนั่นจะซ่อนรูปร่างที่สวยและเซ็กซี่มากกว่าดาวมหาลัยยังชิดซ้ายเอาไว้“คือว่า… เป็น
เมื่อเขาพามาจอดที่ร้านข้าวต้มและเริ่มสั่ง มิวก็เริ่มหันไปมองรอบ ๆ ตอนนี้ถุงร้อนของเธอเริ่มเย็นแล้วเขาจึงได้บอกให้เธอเอาออกมาให้“เอามาสิ”“ทำไมคะ”“บอกให้เอามาก็เอามาเถอะ”เธอยื่นถุงน้ำร้อนไปให้เขาตามคำสั่งอย่างว่าง่าย ภาวินทร์ลุกขึ้นเดินนำถุงน้ำร้อนนั้นเอาไปให้เด็กในร้าน เขาพูดไม่กี่ประโยคเธอก็ยิ้มและโค้งให้เขาก่อนจะหายไปพร้อมกับถุงน้ำร้อน“รอเดี๋ยวนะ”“พี่วินทร์ให้เขาไปทำอะไรเหรอคะ”“เปลี่ยนน้ำร้อนให้เธอน่ะสิ”“คะ? แล้วเขาทำให้ได้ด้วยเหรอคะ ที่จริงไม่ต้องลำบากถึงขนาดนั้นก็ได้”ไม่ทันที่จะได้ตอบอาหารหอม ๆ ที่ทำใหม่ ๆ ก็เริ่มทยอยมาวางตรงหน้า มิวรู้สึกหิวขึ้นมาเล็กน้อยจากที่ไม่ได้คิดอะไรแต่เพราะอาหารที่น่ากินและข้าวต้มร้อน ๆ ที่นำมาวางก็ทำให้เธอไม่มีสมาธิ“กินเถอะ อาหารพวกนี้ดีต่อสุขภาพ เดี๋ยวจะพาไปซื้อยา”“ขอบคุณค่ะ”เธอไม่พูดอะไรเมื่อเขาอนุญาตให้เธอกินก่อน อาหารที่ทำมาไม่ว่าจะเป็นผัดผักบุ้งไฟแดง หัวไชโป๊ผัดไข่ ไข่เจียวหมูสับกรอบ ๆ เมื่อได้กินข้าวต้มร้อน ๆ มิวก็เริ่มรู้สึกดีขึ้น ภาวินทร์ที่กินไปด้วยและมองข้าวของเธอที่หมดก่อนเขาก็นึกประหลาดใจไม่น้อย“เอาข้าวเพิ่มอีกไหม”“อื้ม ขอบคุณค่ะ
ภาวินทร์หันไปมองคนที่พูด ลักษิกายังไม่ทิ้งความปากเปราะที่ชอบพูดขยี้จิตใจคนอื่น แต่ครั้งนี้ดูเหมือนว่าจะทำอะไรเขาไม่ได้เพราะภาวินทร์ไม่แม้แต่จะไปหยิบดูเลยด้วยซ้ำ“เอาไปทิ้งให้หมด”“อะไรนะคะ ทิ้งหมดนี่เลยเหรอคะ”“เอาเก็บไว้ทำไมล่ะ ขยะก็ต้องทิ้งถูกแล้วนี่”“ขยะเหรอคะ แต่ว่านี่… บางชิ้นเหมือนจะเป็นของแบรนด์เนมเลยนะคะ”“ขยะก็คือขยะ เก็บไว้ทำไมหรือถ้าเธอเสียดายก็เก็บไปขายสิ น่าจะได้หลายพันอยู่นะ”“ฉันไม่ใช่ขโมยนะคะ”“ก็ถึงได้บอกให้เอาไปทิ้งยังไงล่ะ ฟังไม่รู้เรื่องเหรอยัยลูกแกะน้อย”“ฉันไม่ใช่...”“รีบเอาไปทิ้งจะได้พาไปกินข้าว”“ไม่ดีกว่าค่ะ ทำงานเสร็จแล้วมิวขอตัวกลับเลยนะคะวันนี้มีนัดต่อ”“อะไรนะ มีนัดเหรอ?”“ค่ะ ถ้าอย่างนั้น…”เธอรวบห่อบนโต๊ะทั้งหมดใส่กระเป๋าไปอีกครั้ง ภาวินทร์ไม่ได้ว่าอะไรเพราะเขามอบหน้าที่นี้ให้เธอจัดการแล้ว“อันนี้มิวขอนะคะ แล้วก็ขอตัวเลยค่ะเจอกันวันพุธ”“มีนัดกับใคร”“เรื่องส่วนตัวค่ะ ขอตัวก่อนนะคะ”เธอไม่ตอบยิ่งทำให้เขารู้สึกหงุดหงิด เธอยิ้มก่อนจะออกไปพร้อมกับถุงขยะย่อม ๆ โดยทิ้งเขาให้ยืนโมโหอยู่ที่เดิมก่อนจะเดินออกไปที่ระเบียงเพื่อมองดูว่าเธอขึ้นรถอะไรกลับบ้านสักพัก
ภัทรและธิศกินเสร็จแล้วก็เดินออกไปจากโรงอาหารทันที ไม่นานเขาก็เห็นเธอเดินมาสั่งของหวานที่ร้านน้ำแข็งไสตรงหน้าส่วนเขาก็เดินไปสั่งข้าวแกงร้านข้าง ๆ เมื่อเธอเดินกลับไปนั่งที่เดิมเขาจึงเดินตามเธอไปนั่งตรงข้าม มิวถึงกับตกใจเมื่อหันไปมองและเห็นว่าเพื่อนของเขาไปหมดแล้ว“ไม่ต้องมองพวกมันไปหมดแล้ว”“แล้วทำไมต้องมานั่งที่นี่ล่ะคะ”“ก็อยากนั่ง มีเรื่องจะคุยด้วย”“อะไรคะ”“มิวทำพี่เป็นแผล คิดว่าอีกนานคงจะหายดังนั้นคงต้องรับผิดชอบสักหน่อย”“อะไรนะคะ ก็มิว….”เธอลดเสียงลงเมื่อหลาย ๆ คนเริ่มมองมาที่เธอ ทุกคนไม่เข้าใจเลยสักนิดว่าทำไมภาวินทร์หนุ่มสุดหล่อคณะวิศวะที่สาว ๆ เฝ้าฝันว่าอยากจะกินข้าวกับเขาสักมื้อ ทำไมถึงต้องไปเลือกนั่งกับคนหน้าตาเฉิ่มแว่นหนาอย่างมิวคณะพยาบาล คนที่จืดชืดเหมือนกับกาแฟเย็นที่น้ำแข็งละลายผสมจนหมดรสชาติแบบนั้น“เบาหน่อยสิ แต่ว่าพี่ต้องใช้นิ้วมือในการทำโปรเจคแต่ตอนนี้มันบาดเจ็บดังนั้นก็ต้องเป็นหน้าที่มิวที่จะต้อง…”“อะไรนะคะ เดี๋ยวก่อนนะคะแค่หน้าที่แม่บ้านสามวันต่อสัปดาห์…”"ทุกวันพุธและวันศุกร์ไม่ต้องทำความสะอาด ทำแค่วันจันทร์วันเดียวพอ"“ทำไมล่ะคะ”“เพราะว่าพี่มีงานอื่นให้ทำ”“งา
“มิว แกจะเหนื่อยไปหรือเปล่าถ้าไม่ไหวก็หยุดสักงานเถอะโดยเฉพาะงานที่ไม่ได้เงิน”“แกคิดว่าฉันอยากทำเหรอ แต่เพราะเขารู้ความลับนี้ถ้าหากเขาจะแก้แค้นแล้วบอกเรื่องนี้กับทางมหาลัย ฉันก็ต้องหาเงินมาจ่ายค่าเทอมเองแล้วอีกอย่างก็จะช่วยคุณยายไม่ได้”“มิว… หรือว่าแกจะลองติดต่อพ่อ...”“อย่าพูดถึงเขาเลย”“ก็ได้”แยมไม่พูดต่อเพราะเรื่องนี้เธอรู้ดีว่ามิวไม่มีทางยอมรับ แม้ว่าคุณยายของเธอจะป่วยเป็นโรคหัวใจ แต่มิวไม่เคยขอความช่วยเหลือจากพ่อของเธอเลยสักนิดทั้ง ๆ ที่พ่อของมิวก็เป็นนักธุรกิจและมีบริษัทใหญ่โต แต่เมื่อแม่ของมิวแยกทางกับพ่อมิวก็ไม่เคยติดต่อพ่อของเธออีกเลยสองวันถัดมา / คอนโดภาวินทร์มิวมาทำความสะอาดให้เขาตามที่ตกลงเอาไว้จนครบหนึ่งเดือน แม้ว่าภาวินทร์บอกว่าไม่ต้องทำแล้วแต่ตอนนี้ยังไม่ได้เริ่มงานโปรเจคที่เขาบอกเอาไว้ เธอจึงมาทำให้เขาตามที่ตกลงและได้แลกเบอร์กันเอาไว้เพื่อจะได้สะดวกในการติดต่อ“นี่อะไรคะ”“ค่าจ้างไง คิดว่าพี่จะให้มิวทำฟรี ๆ เหรอ”“แต่นี่มันไม่มากเกินไปเหรอคะ”“ก็ไม่ได้ต่างกับทิปที่ให้ที่ผับนี่นา”“ทำความสะอาดทีละห้าพัน ยอดไปเลยแต่ว่ามิวไม่อยากเอาเปรียบพี่วินทร์หรอกค่ะ”“ไม่เอาใช่ไ
สายตาของภาวินทร์เหมือนจะฆ่าคนได้อยู่แล้วเมื่อนิรุตเพื่อนสนิทของวิทขอร้องให้เขาปล่อยเพื่อน ก่อนที่จะถูกภาวินทร์รัดคอจนตาย“ปล่อยก่อนพี่ ผมจะรีบเล่าให้ฟังเอง”เขาหันไปมองรุตก่อนจะปล่อยวิท และหันมาลากคอรุตไปที่โต๊ะและถามอีกที“มึงรีบเล่ามาก่อนที่กูจะกระทืบมึง”“คืออย่างนี้พี่ ผู้จัดการที่นี่...พี่หญิงน่ะ ถ้ามีเสี่ยคนไหนถูกใจเด็กแกก็จะทาบทามให้ แต่ว่าครั้งนี้เรเน่ไม่ใช่เด็กของแกและเป็นบาร์เทนเดอร์ อีกอย่างเรเน่ไม่ใช่เด็กแบบนั้นพี่หญิงก็เลยวางแผนกับไอ้เสี่ยนั่นจัดปาร์ตี้ลับขึ้นเพื่อจะพาเรเน่…อย่าชกผม!”ภาวินทร์ยั้งมือได้และรีบวิ่งออกไปจากผับทันที เขาไม่เคยรู้สึกรีบร้อนถึงขนาดนี้ โชคดีที่ถนนช่วงนี้โล่งเพราะเป็นวันอาทิตย์ ใช้เวลาแค่สิบนาทีก็มาถึงโรงแรมที่ว่านั่น“มิว!! อยู่ไหนมิว”มิวที่แทบจะหมดแรงเริ่มทนไม่ไหว สาธิตใส่ยากระตุ้นให้เธอกินและตอนนี้เธอก็เริ่มร้อนและหมดแรงแต่ก็ต้องพยายามกลั้นเสียงเอาไว้เพื่อไม่ให้คนที่ตามมาได้ยิน ชุดที่เธอใส่เริ่มเปียกจนเธอไม่สบายตัว“มิว! ได้ยินพี่ไหม มิว!”เขายังวิ่งหาเธอไปทั่วบันไดหนีไฟ ไม่นานก็เห็นเธอยืนหอบอยู่ที่ทางออก แต่พยายามปิดปากตัวเองเพื่อกลั้นเสียง เ
“อื้อ…ตกลง อ๊ะ”เขาค่อย ๆ เปิดทางและเริ่มสอดใส่เข้าไปพร้อมกับดูดและโลมเลียหน้าอกของเธอไปด้วยเพื่อให้เธอคลายความเจ็บปวดกับครั้งแรกที่อาจจะทำให้เธอเจ็บ เพราะขนาดที่ใหญ่ของเขาอาจจะทำให้เธอบาดเจ็บได้“อ๊ะ!! เดี๋ยวก่อนค่ะ มันเจ็บ โอ๊ย!! มัน อ๊าา…”แต่เขาทนไม่ไหวแล้ว เสียงที่เธอพยายามขอร้องและเล็บที่เริ่มจิก ข่วนที่หลังของเขากลับทำให้เขายิ่งต้องการเธอมากขึ้นและในที่สุดก็สอดใส่เข้าไปจนสุด“อ๊าา!!”ด้านในที่คับแน่นและตอดรัดเกือบทำให้เขาตายคาอกเธอแทน ตัวเขาสั่นอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ไม่ว่าจะผ่านผู้หญิงมากี่คนก็ไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน จากที่รำคาญและเกลียดลักษิกาจนอยากจะแก้แค้นเพราะเธอเป็นผู้หญิงคนเดียวที่กล้ายืนด่าเขา จากที่อยากแก้แค้นโดยการแกล้งเธอให้ทำความสะอาดและหลอกให้ช่วยงานโปรเจค แต่ทำไมตอนนี้ถึงกลายเป็นเขาที่ตื่นเต้นในการมีเซ็กส์ครั้งแรกกับเธอเสียเอง“แย่แล้ว อาา!!”เขายังไม่ทันขยับแต่ความเสียวจากการบีบรัดนี้ก็ทำให้เขาทนไม่ไหว ไม่คิดว่าเขาจะแตกออกมาได้ในเวลาเพียงไม่กี่นาที ไม่ทันได้ขยับเลยด้วยซ้ำ อีกอย่างก็พึ่งจะสอดเข้าไปเท่านั้นก็ทนไม่ไหวแล้วโชคดีที่อีกฝ่ายไม่ทันได้รู้ตัว เขาค่อย ๆ ดึงอ
“โอ้โหน้องมิว วันนี้สวยเหมือนนางฟ้าจริง ๆ เลย”นิธิศเอ่ยปากชมด้วยใจจริง เขาเคยเห็นมิวมาก่อนหน้านี้แล้วในชุดบาร์เทนเดอร์และเห็นด้วยกับวินทร์ว่ามิวต้องสวยโดดเด่นในชุดไทยแน่ ๆ แต่ชินกรและวีรภัทรที่ไม่เคยเห็นถึงกับยืนอึ้งอ้าปากค้าง รวมถึงคนที่เริ่มมามุงดูกันและเริ่มสงสัยว่าเธอเป็นใคร“นั่นใครวะ คนของคณะพยาบาลเหรอ”“นั่นสิหน้าไม่คุ้นเลยแต่สวยฉิบหาย มึงดูรูปร่างสิอย่างกับนางแบบ”“นั่งรถหรูมาขนาดนั้นลูกนักการเมืองหรือเปล่าวะ”“แต่รุ่นพี่วิศวะคนนั้น….เขาแฟนของ…”“เฮ้ย! อย่าบอกนะว่าแฟนพี่ภาวินทร์คณะวิศวะเครื่องกลปีสี่คนนั้นน่ะ ที่ใส่แว่นหนา ๆ”“เชี่ย!! สวยขนาดนี้เลยเหรอวะ”ไม่ใช่แค่พวกเขาที่ตกตะลึงในความขาวและความสวยของลักษิกาตรงหน้า แม้แต่คณะอาจารย์และกรรมการที่เริ่มเดินมาให้คะแนนในรอบแรกที่จะขึ้นรถที่ตกแต่งเอาไว้แล้ว ซึ่งครั้งนี้ชินกรให้คนของคณะวิศวะมาช่วยแต่งรถของมิวด้วยดอกไม้สดทั้งคัน วินทร์เดินเข้ามาหาและถามเธอ“เป็นยังไงบ้างเมื่อยไหม”“ไม่ค่ะแล้วพี่วินทร์ละคะ เหนื่อยไหม”“ไม่เหนื่อยแค่เห็นหน้ามิวก็หายเหนื่อยแล้ว วันนี้มิวสวยมากที่สุดเลย สวยจนอยากขอแต่งงานเลย”“พี่วินทร์ พูดอะไรน่ะ”“หนัก
“คิดเอาไว้ไม่มีผิดเลยว่าต้องมีเรื่องแบบนี้”มิวพูดขึ้นมาหลังจากที่ริชชี่เดินออกมาจากร้านยืมชุดร้านที่สี่ที่เธอรู้จัก “นั่นสิ จะเป็นไปได้ยังไงที่จะไม่มีร้านไหนเลยที่มีชุดเหลือ แบบนี้มันเหมือนแกล้งกันชัด ๆ เลย”“กลับกันเถอะ”“อ้าว แล้วจะทำยังไงละมิว”“ค่อยกลับไปคิดกันใหม่”“แต่ว่าเหลืออีกแค่อาทิตย์เดียวเอง ช่างแต่งหน้าก็ยังหาไม่ได้แล้วไหนจะชุดอีก”“เอาไว้ค่อยคิด”เย็นวันนั้น วินทร์ที่พึ่งกลับมาจากเรียนช่วงบ่ายเข้ามาในห้องก็เห็นว่ามิวนอนอยู่ที่โซฟาโดยมีมือถือวางอยู่ แต่เธอหลับสนิทจึงไม่เห็นข้อความของแยมที่ส่งมาให้“ริชชี่บอกว่าหาไปถึงร้านเวดดิ้งที่ทองหล่อก็ยังหาไม่ได้เหมือนกัน สงสัยงานนี้คงได้ตัดชุดใส่เองแล้วมั้ง ฮ่า ๆ”เขาไม่ได้แอบอ่านเพราะข้อความมันเด้งขึ้นมาเองจากหน้าจอภาวินทร์ถึงได้รู้ว่าเกิดปัญหาขึ้นแต่เขาเห็นว่ามิวยังหลับสนิทอยู่จึงได้โทรไปหาริชชี่เพื่อนสนิทของมิวโดยตรงซึ่งเขามีเบอร์ของเพื่อนมิวเอาไว้ทุกคน“โอเคพี่รู้แล้ว ขอบใจมากนะริชชี่”วินทร์วางหูไปแล้วและรีบกดเบอร์โทรที่คุ้นเคยทันที เสียงปลายสายรับอย่างงัวเงียเพราะยังไม่ถึงเวลาตื่น“ว่าไงไอ้ตัวแสบยังจำเบอร์พี่สาวแกได้อยู่เหร
“ต้องแบบนี้สิวะถึงจะเรียกว่าน้องเขย”วินทร์หันมายักคิ้วให้ชินกรก่อนจะดูดกาแฟเย็นของเขาต่อ วินทร์ยื่นชาเขียวแก้วใหม่ให้มิว“ไม่ต้องห่วงพี่อยู่ข้างมิวเสมอ ไม่ต้องกลัวเพราะแพรวากับพี่ไม่ได้มีอะไรเกินเลยและพี่ไม่เคยล่วงเกินเธอ”“พี่เป็นพยานให้ไอ้วินทร์ได้ในเรื่องนี้ น้องแพรคนนั้นถ้ากูจำไม่ผิดมากับดาวคณะที่บอกว่าเป็นเพื่อนกัน สุดท้ายมาเพื่อจะเข้าหามึงใช่ไหม”“พอไอ้ธิศพูดกูก็นึกออกเพราะพวกเธอตบตีกันเองมึงเลยเลิกติดต่อทั้งคู่ น้องแพรวาอะไรนี่ดูเหมือนจะยังไม่ทันได้คบหากับมึงเลยด้วยนี่ แค่ให้มึงเดินไปที่คณะด้วยกันเพราะเป็นทางผ่าน ตอนนั้นกูก็ไปด้วย”“ไอ้ภัทรมึงความจำแม่นใช้ได้เลยนี่กูก็ลืมไปแล้ว”“ก็หลังจากวันนั้นพวกพยาบาลมาใช้ห้องของคณะเราไงล่ะ มึงกับไอ้ธิศเลยโดนน้องมิวด่าที่หน้าคณะจำได้ไหมล่ะ”“ไอ้เชี่ยภัทรไม่พูดก็ไม่มีใครว่านะ มึงรื้อฟื้นทำไมวะกูอุตส่าห์ลืมไปแล้ว”วินทร์หันมามองหน้ามิวและยิ้มให้กันอย่างเข้าใจ มิวรู้ดีว่าตอนนี้วินทร์จะอยู่ข้างเธอ ไม่ว่าเธอจะตัดสินใจยังไงก็ยังมีวินทร์และชินกร พี่ชายของเธอที่พร้อมจะช่วยเหลืออยู่เสมอ“มิว พ่อโทรมาหาพี่บอกว่าเรื่องที่จะเข้าประกวดพ่อบอกว่าให้มิวทำ
“ฉันว่าคนที่น่าห่วงน่ะไม่ใช่มิวหรอก แต่เป็นคนขี้อิจฉาอย่างเธอมากกว่า”“ยัยแคร์ หมายความว่ายังไง”แคร์ ริชชี่และแยมเดินมาพอดีพร้อมกับดึงมิวเข้ามา ดูท่าทางแพรวาเองก็เหมือนจะไม่ยอมแพ้ง่าย ๆ “ก็เธอโดนทิ้งก็ไม่ได้หมายความว่ามิวจะเป็นอย่างเธอ ที่ฉันเห็นนะมิวกับพี่วินทร์คบหากันมานานเกินครึ่งปีแล้ว อีกอย่างตอนที่มิวโกรธ พี่วินทร์ถึงกับตามไปง้อถึงที่เลยนะ เรื่องแบบนี้เธอเคยเจอบ้างหรือเปล่า”“แก!”“อ๊ะ ๆ แคร์พูดไม่จบฉันขอต่อให้ก็แล้วกันนะ เรื่องของเธอกับมิวมันเอามาเทียบกันไม่ได้ แค่คนที่เคยคุยกับ "แฟน" น่ะ มันก็คนละเรื่องกันแล้ว อีกอย่างนะตอนนี้พี่วินทร์ก็ไม่เคยมองผู้หญิงคนไหนอีกเลย ไม่คิดเลยนะว่าพี่วินทร์จะคลั่งรักขนาดนี้ ไม่น่าเชื่อเลยว่าไหมริชชี่"แพรวากำหมัดแน่นเพราะความอิจฉา เธอเคยคุยกับภาวินทร์และเคยควงเขาอยู่ไม่ถึงสิบวัน อาจเพราะเธอเซ้าซี้เขามากเกินไปและเรียกร้องขอให้เขามารับมาส่ง แต่ไม่เคยมีสักครั้งที่ภาวินทร์จะทำตามที่เธอขอ ไม่เหมือนกับที่เขาถึงกับขับรถมาส่งมิวที่หน้าคณะอย่างเต็มใจแบบนี้“งานลอยกระทงปีนี้ ถ้าเธอคิดว่าเธอแน่จริงกล้ามาแข่งกับฉันไหมล่ะ”“อะไรนะ”“งานลอยกระทงของมหาวิทยาลั
มิวหันมามองหน้าเขาเมื่อรับจานจากวินทร์มาเข้าเครื่องล้างจาน“ทำไมจู่ ๆ พี่วินทร์มาถามเรื่องนี้กับมิวละคะ ไหนบอกว่าไม่อยากให้มิวทำยังไงล่ะ”“ก็ถ้า…พี่เรียนจบแล้วและต้องทำงาน อีกอย่างที่ร้านนั้นตอนนี้พ่อพี่ก็เป็นหุ้นส่วนใหญ่ ถ้าแต่งตัวให้ดี ๆ บาร์เทนเดอร์ไม่จำเป็นต้องแต่งตัวโป๊นี่จริงไหม”“ก็จริงค่ะ ที่จริงมิวก็ไม่ได้ชอบการแต่งตัวแบบนั้นเท่าไหร่หรอกค่ะ แต่ตอนนั้นมันเลือกไม่ได้”“อีกอย่างตอนนี้มิวก็ไม่ต้องห่วงเรื่องทุนการศึกษาแล้วด้วย ไม่จำเป็นต้องปิดบัง พี่แค่อยากถามว่ามิวอยากทำหรือเปล่า แต่ใจพี่ยังไม่อยากให้มิวไปทำหรอกนะ เพราะปีหน้ามิวก็เรียนปีสุดท้ายแล้ว พี่อยากให้มิวเรียนให้จบก่อน”“ที่จริงมิวก็รักงานนี้นะคะ แต่ก็อย่างที่พี่วินทร์พูดนั่นแหละค่ะว่าคงต้องตั้งใจเรียนก่อน เอาเป็นว่าไปช่วยแค่ชั่วครั้งชั่วคราวได้เหมือนกับงานที่แล้ว”“แต่พี่จะไม่ให้ใส่ชุดแบบนั้นแล้วนะ ใส่ให้มันรัดกุมให้ดูเป็นผับที่ดูดีหน่อยไม่ใช่…”“ตอนนี้ที่นั่นมีใครดูแลอยู่เหรอคะ”“พี่รินทร์กับสามีไง วันนี้เธอมาที่นี่เพราะจะคุยเรื่องมิวนั่นแหละ พ่อคงไปบอกเรื่องของเราหมดแล้วเพราะคืนนั้นพ่อเห็นพี่ลากมิวออกมาจากงาน วันนี้พี่ร
มิวที่ช็อกอยู่หน้าประตูพยายามก้าวขาออกจากห้อง แต่ภาพตรงหน้าทำให้เธอตกใจจนขาแทบไม่กระดิก เมื่อสาวสวยคนนั้นหันมามองหน้าเธอ ส่วนภาวินทร์พยายามลุกขึ้นมา“ฟังพี่ก่อนนะ”“เธอเป็นใครน่ะวินทร์”มิวพยายามกลั้นน้ำตาและหันออกไปจากห้องแต่ภาวินทร์ที่พยายามลุกจากโซฟามาหาเธอกลับล้มตึงลงไปกับพื้นจนเธอตกใจและหันมา“ว้าย! ไอ้วินทร์! น้องคะมาช่วยพี่หน่อยเร็ว ๆ เข้า ไอ้บ้านี่ตัวอย่างกับยักษ์ แกไม่ใช่เด็ก ๆ แล้วนะค่อย ๆ ลุก”“พี่รินทร์หลีกไปเลยผมบอกว่า…โอ๊ย!!”มิวตกใจแต่ก็ไม่ทันได้ถาม แต่สรรพนามที่ผู้หญิงสวยคนนั้นเรียกแฟนหนุ่มของเธอ หากฟังไม่ผิดพวกเขาน่าจะไม่ใช่อย่างที่มิวคิดเอาไว้ เธอรีบวิ่งมาประคองภาวินทร์ที่ล้มให้ลุกขึ้น ซึ่งตัวภาวินทร์ร้อนเหมือนไฟ“พี่วินทร์…ไม่สบายเหรอคะ”“ใช่ค่ะ มันไม่ยอมให้พี่โทรบอก น้องมิวใช่ไหมอย่าพึ่งถามตอนนี้ช่วยพี่ลากไอ้เด็กดื้อนี่เข้าห้องนอนก่อน”“เอ่อ ค่ะ ๆ”“ไม่ต้อง พี่รินทร์กลับไปเถอะ ผมมีมิวแล้วเดี๋ยวมิวจัดการเอง โอย…”“พี่วินทร์ อย่าพึ่งพูดเข้าไปในห้องก่อน”“กลับมาแล้วเหรอ กลับมาได้เสียที”แม้แต่เสียงของวินทร์ก็แหบจนแทบไม่มีเสียง มิวไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นแต่เธอก็รีบให้เขา
มิวรีบเดินออกมาจากห้องน้ำและไม่พูดอะไรกับเข้าอีก ปล่อยให้ภาวินทร์ยืนงงอยู่ในห้องน้ำ เขารีบอาบน้ำตามเธอออกมาเพื่อจะมาง้อแฟนสาวที่นั่งเป่าผมอยู่หน้าโต๊ะเครื่องแป้ง“เอ่อ…”เธอเปิดเสียงไดร์เป่าผมให้ดังขึ้นและไม่สนใจเขาอีก วินทร์พยายามเดินวนรอบ ๆ จนต้องยอมถอยเพราะมิวคงไม่ฟังที่เขาพูดแน่ ดังนั้นจึงเดินไปเปลี่ยนชุดนอน มิวปิดที่เป่าผมและเดินมาเปลี่ยนชุดเช่นกัน“เอ่อ…”“ปิดไฟด้วยนะคะ”“เดี๋ยว… คุยกันก่อนไม่ได้เหรอครับ เมียจ๋า”“อย่ารบกวนคนจะนอนถ้ายังพูดอีกพรุ่งนี้มิวจะกลับหอ”วินทร์รูดซิปปากจนสนิทและยอมที่จะปิดไฟนอนแต่โดยดี มันตั้งแต่เมื่อไหร่กันที่เขากลัวเธอมากขนาดนี้ ไม่สิเขาคิดว่าเข้าไม่ได้กลัว เขาแค่รักเธอมากขึ้นทุก ๆ วันจนไม่อยากเสียเธอไปต่างหากจึงได้ยอมลดนิสัยเอาแต่ใจของเขาลง อีกอย่างมิวแทบจะไม่เคยโกรธเขาจริง ๆ มาก่อนเลยถ้าไม่นับเรื่องที่เกิดขึ้นก่อนที่ยายของมิวจะเสีย“ขยับออกไป ร้อน”“แต่ว่าพี่นอนไม่หลับ”“มิวบอกว่ามิวร้อนไม่ได้ยินเหรอคะ จะนอนที่นี่หรือว่าจะไปนอนห้องนอนเล็ก”“ก็ได้ ๆ ไม่กวนแล้วก็ได้อย่าแยกห้องนอนเลยนะครับ”มิวขยับหนีเขาไปเกือบสุดเตียง คนตัวโตได้แต่นอนถอนหายใจและทำท่าเห
ภาวินทร์คว้าข้อมมือของมิวเดินผ่านผู้หญิงสองคนที่ซุบซิบพวกเขาอยู่ พวกเธอหลบตาเขาจนเขาเดินผ่านไปและไม่กล้าแม้แต่จะตอบโต้ มิวเห็นท่าทางโกรธของเขาจึงได้ยิ้มออกมา“ขำอะไรกัน ไม่โมโหเหรอที่ถูกคนว่าลับหลังแบบนั้น”“แล้วพี่วินทร์จะไปฟังทำไมละคะ”“ก็มันน่าโมโหนี่ ถ้ามิวแต่งตัวแต่งหน้าจัดเต็ม สวยกว่าพวกปากมากนั่นอีก”“เฮ้อ… ความปากดีของพี่วินทร์ไม่เคยลดลงเลยนะคะ”“แล้วไม่ชอบเหรอ”ภาวินทร์หันมาคว้าเอวของแฟนสาวเข้ามากอดพร้อมกับค่อย ๆ เอียงหน้าเข้ามาใกล้ ๆ มิวเบี่ยงหลบและตีไปที่ไหล่ของเขาจนวินทร์หัวเราะเพราะเธอเริ่มอายอีกแล้ว“เมือไหร่จะเลิกทำหน้าตาน่ารักนั่นเสียทีนะ พี่จะทนไม่ไหวอีกแล้ว”“พอเลยค่ะรีบกลับเถอะ ผักก็เลือกมาได้ไม่เท่าไหร่เองก็ไปหาเรื่องคนอื่น”“ไปซื้อที่อื่นก็ได้ไม่เห็นจะยากเลย พี่ไม่ชอบให้ใครมาพูดลับหลังแฟนพี่แบบนี้”“รีบไปเถอะค่ะเสียเวลา”“ครับผม”“แล้ววันหลังอย่าไปพูดแบบนี้อีกนะคะ ยังไงพวกเขาก็เป็นผู้หญิง”“ทำไมล่ะพวกนั้นนินทาได้แล้วพี่ตอบโต้กลับไม่ได้เหรอ…. ก็ได้ ๆ ไม่พูดก็ได้ครับ ไปคิดเงินกันนะอย่าโมโหสิ”วินทร์หยุดพูดเมื่อเห็นสายตาขุ่นเขียวที่ส่งมาให้เขา ตอนนี้เขาจะไม่ยั่วโมโหเ
“อะไรวะไอ้กร อย่ามาขู่กูเลย”“กูไม่ได้ขู่แต่มึงไม่เห็นเหรอ พ่อพยายามมาหลายปีให้มิวยอมรับ มึงว่ามหาลัยเรามีทุนให้เรียนมากขนาดนั้นเลยเหรอ”“มึงจะบอกว่าทุนที่มิวคิดว่าเป็นทุนจากมหาลัยนั่นที่จริงแล้ว…”“ทุนจากพ่อทั้งนั้นแหละ พ่อจัดการและคุยกับคณบดีโดยตรงโดยที่มิวไม่รู้มาสามปี ทั้งค่าใช้จ่ายที่โรงพยาบาลของยายและงานศพทั้งหมดนี่ก็ด้วย น้าสายรู้ดีที่สุดแต่มิวไม่รู้คิดว่าน้าสายจะเคลียร์หลังงานจบน่ะ”“กูเริ่มจะกลัวขึ้นมาจริง ๆ แล้วสิทีนี้”“ไม่ต้องห่วงหรอก แม้ว่าพ่อจะดีใจที่ได้ลูกสาวคืนแต่ก็คงไม่ถึงกับสั่งห้ามมิวเรื่องมึงหรอก แค่ต้องระวังให้มาก ๆ หน่อยเท่านั้น เกิดมึงอะไรพลาดขึ้นมากูแค่จะเตือนว่าแม้แต่กูก็ช่วยมึงไม่ได้เท่านั้นเอง”“เฮ้อ จากมิวคนเดียวที่ว่าง้อยากแล้ว นี่ยังเพิ่มพ่อตามาอีกคน กูตายแน่ ๆ ไม่เคยคิดเลยว่ามีเมียมันจะยากขนาดนี้”“เฮ้ย นี่มึงจะถอยตอนนี้เหรอวะ”“ฝันไปเถอะ กูรักของกูขนาดนี้มีเหรอจะยอมแพ้”“ขนาดนั้นเลยเหรอวะ ดูเหมือนว่ามึงจะทิ้งลายเจ้าชู้แล้วจริง ๆ เหรอวะไอ้วินทร์”“เออ ตั้งแต่กูเจอมิวกูก็ไม่ต้องการผู้หญิงคนอื่น ไม่คิดอยากจะหาและไม่มีอารมณ์กับใครด้วยนอกจากมิว”“มึงกล้าพูดแ