แรงอารมณ์โหมกระหน่ำ ร้องสั่งให้เจ้าของใบหน้าสวยหวานก้มมองเขา สายตาของเธอสื่ออารมณ์เรียกร้อง เธอแลบลิ้น เธอห่อไหล่ ทั้งยังส่งเสียงเสียดเสียว ก่อนจะส่งเต้าอวบอัดดันใส่ปากของเขาให้มากยิ่งขึ้น ดั่งจะบอกเขาว่าเธอต้องการมากกว่านี้
ไม่รอให้บอกซ้ำ เขาเคลื่อนฝ่ามือจากสะโพกขึ้นมาเคล้นคลึงที่เต้าอวบขาวของเธอด้วยความมันจนเกินจะหยุดได้ ซึ่งเธอก็ตอบสนองด้วยรอยยิ้มพิมพ์ใจ ส่งเสียงสูดลมหายใจรอดไรฟันด้วยความสุข ขณะดวงตาฉ่ำหวานเจือความร้อนแรงในอารมณ์ยังคงทอดมองเขาด้วยความรักอย่างท่วมท้นหัวใจ ซึ่งนั่นก็ทำให้เขาถึงกับสะดุ้ง
ทว่าไม่ใช่สะดุ้งเพราะใบหน้าของเธอที่กำลังโลดแล่นควบขี่เขานั้นดูคล้ายกับใครคนหนึ่งที่คุ้นเคย แต่เป็นเพราะเสียงกรีดร้องด้วยความตกใจของใครบางคน ที่ดังชัดอยู่ในห้องนอนของเขาต่างหาก ทำให้เขาสะดุ้งสุดตัว พร้อมเปิดเปลือกตาออกเพื่อมองหาที่มาของเสียงนั้น
ทว่าสิ่งที่เห็นกลับทำให้ ‘แผ่นภพ เคลย์ วิลคินสัน’ ต้องหลับตาลงไปใหม่ ไม่อาจยอมรับได้ว่าสิ่งที่เห็นนั้นเป็นจริง เพราะเจ้าของใบหน้าสวยหวานแต่ดูซีดเซียวที่กำลังหลับตาพริ้มอยู่ตรงหน้าของเขานี้ ทำให้เขาสะท้านสะเทือนไปทั้งหัวใจ ก่อนจะเปิดเปลือกตาขึ้นอีกครั้ง เพื่อมองว่าสิ่งที่เขาเห็นอยู่ตรงหน้านี้เป็นเพียงภาพลวงตา ไม่ใช่ความจริงที่จะทำร้ายทุกคน
แต่เรือนร่างเปล่าเปลือยที่มีเพียงผ้าแพรผืนบางห่มคลุมปิดช่วงเอวคอดเผยให้เห็นทรวงอกอวบอิ่มสีชมพูระเรื่อ เห็นส่วนเว้าส่วนโค้งที่งดงาม และเห็นร่องรอยแห่งความปรารถนาที่ปรากฏชัดอยู่บนโนมเนื้อ สิ่งที่เห็นอยู่นี้จะปฏิเสธได้อย่างไรว่าไม่จริง
โดยเฉพาะดวงตาสวยล้อมกรอบไปด้วยแพขนตาหนางอนงามที่กำลังกะพริบช้าๆ ราวกับจะรับรู้ถึงเสียงกรีดร้องดังชัดไม่ต่างจากเขา ก็ทำให้แผ่นภพต้องสะท้านไปทั้งร่าง เมื่อประสาทสัมผัสรับรู้ได้ว่าในห้องนอนของเขานี้ ไม่ได้มีเพียงเขาอยู่กับคนที่เปิดดวงตากว้างและมองเขาอย่างตื่นตะลึงนี้ แต่ยังมีคนอื่นอยู่ด้วย
เสียงกรีดร้องพร้อมเสียงสะอื้นฮึกฮักที่ดังอยู่ไม่ไกลก็ทำให้แผ่นภพทะลึ่งตัวลุกขึ้นนั่งในทันที ใบหน้าหล่อเหลาคมเข้มตามสไตล์ลูกครึ่งยุโรปไทยหันมองที่มาของเสียง เพื่อมาพบกับอีกหนึ่งความจริงที่โหดร้ายยิ่งกว่า สิ่งที่เขาไม่สามารถปฏิเสธได้เลยว่า ‘เธอกำลังเข้าใจผิด’ แต่เขาก็ไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น ไม่รู้เลยว่าทำไมเขากับ...
“พี่ภพ! พี่ภพทำอย่างนี้ได้ยังไง พี่ภพ! พี่ภพ...”
“น้ำ... เดี๋ยวนะน้ำ น้ำกำลังเข้าใจพี่ผิด พี่... พี่ไม่ได้...”
แผ่นภพก้มมองตัวเองก่อนจะรีบคว้าเอาเสื้อผ้าที่ตกเรี่ยราดอยู่แทบพื้นขึ้นมาปกปิดส่วนที่ออกมาเปิดเผย ก่อนจะมองไปยังคนที่นอนอยู่ด้านข้าง ซึ่งเธอเองก็รีบลุกขึ้นนั่งพร้อมคว้าผ้าแพรขึ้นมาห่มร่างเปล่าเปลือยของตัวเองอย่างเร็ว ทั้งดวงตาสวยหวานยังคงตะลึงมองเขาทีมองธารธาราทีอย่างงุนงงไม่แพ้กัน
“เข้าใจผิดเหรอ เห็นอยู่ตำตาแบบนี้ พี่ภพยังจะหาว่าน้ำเข้าใจผิดอีกเหรอ พี่ภพพูดออกมาได้ยังไง!”
“น้ำ... พี่ไม่รู้ว่ามันเกิดเรื่องแบบนี้ได้ยังไง แต่พี่... พี่... อิงฟ้าบอกฉันทีนี่มันเกิดอะไรขึ้น มันเกิดอะไรขึ้น อิงฟ้า!”
แผ่นภพหันไปตวาดถามหญิงสาวที่นั่งสั่นอยู่ด้านข้างของเขา เขาต้องการคำตอบเดี๋ยวนี้ เพราะหากเขาไม่รู้ เธอเท่านั้นที่ต้องรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
‘อิงฟ้า’ สะดุ้งสุดตัวกับเสียงตวาดลั่น จนเธอต้องขยับหนีและนั่นก็ทำให้ร่างเปล่าเปลือยยิ่งเจ็บปลาบไปทั้งร่าง ใบหน้านองน้ำตาส่ายไปมาเพราะเธอไม่รู้จริงๆ ว่าเกิดอะไรขึ้น รู้แต่ว่าทั่วทั้งร่างกายปวดขบและเจ็บร้าวที่สุดในจุดนั้น ซึ่งคือคำตอบว่ามีอะไรเกิดขึ้นกับตัวเธอบ้าง สิ่งที่ไม่มีวันเรียกคืนกลับมาได้อีก
“อิงฟ้า มันเกิดอะไรขึ้น บอกฉันมาเดี๋ยวนี้ อิงฟ้า!”
“ฟ้า... ฟ้าไม่รู้ค่ะอาภพ... ฟ้าไม่รู้จริงๆ ฟ้า... ฟ้าไม่รู้...”
“เธอจะไม่รู้ได้ยังไง ในเมื่อฉันไม่รู้ เธอสิที่ต้องรู้ อิงฟ้า! บอกมา!”
“อาภพ ฟ้าไม่รู้ค่ะ อาภพ!”
ฝ่ามือใหญ่ตรงเข้ากระชากแขนของอิงฟ้าเพื่อให้เธอพูดในสิ่งที่เขาอยากได้ยิน เพื่อที่จะทำให้ธารธาราเข้าใจให้ถูกต้อง แต่เรี่ยวแรงแห่งความโกรธที่กระทำกับร่างกายที่อ่อนล้ากลับทำให้ผ้าแพรที่อิงฟ้ายื้อเอาไว้ปกปิดร่างกายถูกกระชากออกไปด้วย และนั่นก็ทำให้แผ่นภพตะลึงมอง
ร่องรอยแดงช้ำและเขียวคล้ำจากความรุนแรงไม่ได้มีเฉพาะที่เนินอกอวบ แต่กระจัดกระจายเป็นจ้ำไปทั่วทั้งเนื้อตัวที่อิงฟ้าพยายามเบียดเรือนร่างเข้าหากันเพื่อปกปิดเอาไว้ รวมทั้งผ้าปูที่นอนที่มีร่องรอยด่างแดงเป็นดวง เล็กบ้างใหญ่บ้างตามแรงกระทำ หลักฐานเหล่านั้นคงไม่ใช่อิงฟ้าทำตัวเองเป็นแน่ แต่นั่นมาจากน้ำมือของเขา ความแหลกลาญนั้น เขาเป็นคนทำเอง
ธารธารามองภาพตรงหน้าด้วยหัวใจที่แหลกสลาย ภาพที่พร่ามัวไปด้วยหยาดน้ำตากบเพราะเธอไม่อาจเก็บกลั้นน้ำตาไว้ได้เลย
เสียงครืดคราดเอี๊ยดอ๊าดอันเกิดจากวัตถุขนาดใหญ่กำลังเคลื่อนตัวเป็นจังหวะจะโคนสม่ำเสมอ สลับกับเสียงครวญครางด้วยความร้อนแรงของหญิงชาย ทำให้รู้ได้โดยอัตโนมัติว่าผู้ที่อยู่ด้านในของห้องนั้นกำลังทำกิจกรรมเข้าจังหวะกันอย่างถึงพริกถึงขิง แค่นั้นก็ทำให้คนที่ยืนเอาหูแนบไว้กับประตูห้องยิ้มออกมาด้วยความสมใจ เมื่อสิ่งที่ลงทุนทำไปเห็นผลชัดเจน แค่เพียงพรุ่งนี้ทั้งเสียงที่ได้ยินและความจริงที่ปฏิเสธไม่ได้จะทำให้ทุกสิ่งง่ายขึ้น หญิงวัยกลางคนมีเค้าสวยจัดแต่วัยสาวระบายยิ้มไปทั่วทั้งใบหน้า ดวงตากวาดมองไปทั่วพื้นที่ของเรือนไม้สักทองขนาดใหญ่อย่างชื่นชม ก่อนจะปรายตามองบานประตูด้านข้างอีกครั้ง เพราะเสียงกรีดร้องเล็กๆ ของผู้หญิงที่ดังแว่วมา ยิ่งตอกย้ำชัดเจนว่า ‘สำเร็จ’ ก่อนจะตวัดสายตามองตรงไปข้างหน้าและพาตัวเองเดินนวยนาดตรงไปยังเรือนพักด้านหลัง แต่ระหว่างทางเดินก็ยังไม่วายจะลูบไล้และชำเลืองมองห้องที่มาดหมายเอาไว้ เพราะพรุ่งนี้เท่านั้น เธอก็จะได้ขึ้นมาจับจองและครอบครองเป็นเจ้าของห้องแต่เพียงผู้เดียว รอแค่เช้าเธอจะขึ้นมารับคนด้านในถึงขอบเตียง คนด้านนอกจากไปอย่างสุขใจแต่คนด้านใ
“กรี๊ดดดดด... อาภพขา...” สุขเกินสุข เสียวเกินเสียว เร่าร้อน รุมเร้า และร่อนร่าน จนเกินกว่าทุกสิ่งที่เธอเคยได้รับ มันคือความสุขเหมือนกับหัวสมองลอยคว้างอยู่กลางอากาศ คือหลุมดำอันมืดมิดที่มีแสงสว่างเป็นจุดเล็กสีขาวที่ปลายทาง และเธอต้องไปให้ถึง เพราะคนที่ควบขี่เธออยู่นี้กำลังเร่ง ทุกจังหวะแห่งการกดกระหน่ำลงลึก พร้อมๆ กับหน้าท้องที่ถูกช้อนให้สูง เพื่อให้หัวเข่าเป็นจุดที่สัมผัสกับที่นอนนุ่มแทนร่างกายท่อนล่าง นั่นยิ่งทำให้เธอต้องบีบรัดความยิ่งใหญ่ของเขาเอาไว้แน่น เพราะความเสียวพุ่งริ้วสูงสุดจนถึงโสตประสาท ความล้ำลึกทำให้ขนอ่อนทั่วทั้งกายลุกพึ่บอย่างหยุดไม่ได้ สิ่งที่ทำได้คือผ่อนปรนระบายความเสียวของลมหายใจผ่านริมฝีปาก แต่ยิ่งซู้ด มันก็ยิ่งซี้ด ยิ่งเธอซี้ด เขาก็ยิ่งกดกระแทกไม่ยั้ง “โอว... อูย... โอว... เยี่ยม... โอว... เยี่ยมที่สุด... โอว...” รอยยิ้มเกิดขึ้นโดยอัตโนมัติเมื่อได้ยินเสียงแหบพร่าแสดงความสุขสมของเขา เพราะเธอก็สุขไม่แพ้กัน ทั้งสุขทั้งเสียวสุดๆ จนต้องระบายความซาบซ่านนั้นลงไปหาสิ่งที่ใกล้มือ ปลายเล็บจิกทึ้งลงไปที่
กลิ่นหอมเฉพาะที่ไม่คิดว่าจะมีผลไม้ใดที่มีกลิ่นแบบนี้ คือความหอมหวาน หอมนวล หอมจนติดอยู่ที่ปลายจมูก หอมเหมือนดอกกุหลาบแรกแย้ม หอมจนเธอแทบอยากจะหยุดเวลาไว้ที่ตรงนี้ แต่คงไม่ได้ เพราะวันนี้เธอมีภารกิจสำคัญที่ทำให้ต้องขับรถและต่อเรือมาเพื่อให้ถึงที่นี่แต่เช้าตรู่ ดวงตาสวยหวานที่แต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางอย่างประณีตมองตรงไปยังเรือนไม้สักทองหลังงามที่แยกออกจากโฮมสเตย์ที่มีไว้ให้แขกพัก โดยมีคลองหลอดทำหน้าที่แบ่งอาณาเขตและมีสะพานไม้ตีกว้างประมาณ 1 เมตรเป็นตัวเชื่อม เธอก็ไม่รั้งรอที่จะก้าวข้ามไปในทันที ทว่า... “อุ้ย!” ร่างแบบบางล้มคะมำไปด้านหน้าจนกระแทกกับพื้นกระดานให้ได้เจ็บ ธารธาราซู้ดปากเพราะฝ่ามือที่ค้ำยันร่างเอาไว้นั้นถูกเสี้ยนของแผ่นกระดานตำเข้าไป “ก็ใครใช้ให้เธอใส่รองเท้าส้นสูงมาบ้านสวนกันล่ะ สมแล้ว” ธารธาราบ่นกับตัวเอง พลางมองรองเท้าส้นสูงสีน้ำตาลแบบผู้ดีที่เจ้าส้นแหลมสูง 3 นิ้ว เข้าไปติดอยู่ในร่องของแผ่นไม้ที่ตีไว้ไม่ชิด ชุดสวยเปื้อนไปด้วยรอยชื้นของแผ่นกระดานจนเห็นเป็นคราบดำปนเขียวของตะไคร่น้ำกระจายอยู่ ทั้งฝ่ามือก็เป็นแผลถลอกแ
“พี่จันทร์!” ธารธาราสะบัดให้พ้นจากการดุนหลังของจันทร์ พร้อมส่งเสียงแข็งอย่างหมดความอดทน นี่เกิดอะไรขึ้น จันทร์ถึงได้ตั้งใจให้เธอไปจากที่นี่ ความพยายามจะผลักดันเธอให้ออกไปด้านนอกนั้น ก็เพื่อไม่ต้องการให้เธอขึ้นในข้างบนอย่างนั้นเหรอ บนชั้น 2 มีอะไรอยู่ หรือในห้องของเขามีอะไรที่เป็นสิ่งร้ายแรงมาก จนจันทร์ให้เธอเห็นไม่ได้ “คุณน้ำคะ...” “พี่จันทร์ไม่ต้องพูดอีกแล้วค่ะ น้ำไม่ใช่เด็กเล็กๆ แล้วนะคะ ถึงจะมาใช้แผนหลอกล่อน้ำแบบนี้ บอกมาเถอะค่ะว่าพี่ภพอยู่ไหน หรือว่าพี่ภพซ่อนใครไว้ในห้อง พี่จันทร์...” “ไม่... ไม่มี คุณภพไม่ได้ซ่อนใครทั้งนั้น ไม่มีจริงๆ ค่ะ คุณน้ำกลับบ้านก่อนนะคะ เดี๋ยวคุณภพตื่น พี่จะรีบให้โทรหาค่ะ นะคะ พี่ขอร้องล่ะค่ะ กลับบ้านนะคะ” “พี่จันทร์นี่พูดไม่รู้เรื่อง น้ำไม่กลับค่ะ น้ำมีธุระกับพี่ภพ และน้ำก็จะขึ้นไปหาพี่ภพที่ห้องนอนด้วย หลีกค่ะ” น้ำเสียงขาดห้วนพูดได้ไม่เต็มปากนัก เพราะธุระของเธอกับเขานั้นไม่มีหรอก มีแต่เธอต้องการจะมาเซอร์ไพรส์วันเกิดของคู่หมั้นต่างหาก แต่ตอนนี้เหมือนว่าเธอกำลังจะถูกเซอร์ไพ