“กรี๊ดดดดด... อาภพขา...”
สุขเกินสุข เสียวเกินเสียว เร่าร้อน รุมเร้า และร่อนร่าน จนเกินกว่าทุกสิ่งที่เธอเคยได้รับ มันคือความสุขเหมือนกับหัวสมองลอยคว้างอยู่กลางอากาศ คือหลุมดำอันมืดมิดที่มีแสงสว่างเป็นจุดเล็กสีขาวที่ปลายทาง และเธอต้องไปให้ถึง เพราะคนที่ควบขี่เธออยู่นี้กำลังเร่ง
ทุกจังหวะแห่งการกดกระหน่ำลงลึก พร้อมๆ กับหน้าท้องที่ถูกช้อนให้สูง เพื่อให้หัวเข่าเป็นจุดที่สัมผัสกับที่นอนนุ่มแทนร่างกายท่อนล่าง นั่นยิ่งทำให้เธอต้องบีบรัดความยิ่งใหญ่ของเขาเอาไว้แน่น เพราะความเสียวพุ่งริ้วสูงสุดจนถึงโสตประสาท ความล้ำลึกทำให้ขนอ่อนทั่วทั้งกายลุกพึ่บอย่างหยุดไม่ได้ สิ่งที่ทำได้คือผ่อนปรนระบายความเสียวของลมหายใจผ่านริมฝีปาก แต่ยิ่งซู้ด มันก็ยิ่งซี้ด ยิ่งเธอซี้ด เขาก็ยิ่งกดกระแทกไม่ยั้ง
“โอว... อูย... โอว... เยี่ยม... โอว... เยี่ยมที่สุด... โอว...”
รอยยิ้มเกิดขึ้นโดยอัตโนมัติเมื่อได้ยินเสียงแหบพร่าแสดงความสุขสมของเขา เพราะเธอก็สุขไม่แพ้กัน ทั้งสุขทั้งเสียวสุดๆ จนต้องระบายความซาบซ่านนั้นลงไปหาสิ่งที่ใกล้มือ
ปลายเล็บจิกทึ้งลงไปที่หมอนนุ่มสีขาวสะอาดตา ผ่อนระบายความอัดอั้นทั้งหมดลงไป และเมื่อความแข็งแกร่งครูดออกจากช่องทางฉ่ำชื้นของเธอจนเกือบสุด ก่อนจะกดกระหน่ำเข้าลึกจนสุดช่องทาง ทุกความซ่านเสียวจึงถูกระบายลงไปที่ความอ่อนนุ่มสีขาวในทันที ช่างแนบแน่นและรุนแรงจนเธอต้องกรีดร้องออกมาสุดเสียง
“กรี๊ดดดดด...” เสียงร้องทั้งที่ไม่รู้ว่านี่เป็นครั้งที่เท่าไหร่แล้วของค่ำคืนนี้ รู้แต่ว่าเธอต้องทำ เพื่อให้ร่างกายได้ปลดปล่อยความอัดอั้น เพราะหากไม่ได้ระบายออก เธอคงต้องตายแน่
สิ้นสุดเสียงกรีดร้องแว่วหวาน ใบหน้างามที่ฉ่ำชื้นไปด้วยเม็ดเหงื่อก็ซุกซบลงไปกับหมอนนุ่มในทันที หอบหายใจสะท้านรัวเร็ว เพราะได้ผ่อนคลายจากความอึดอัดที่คับแน่นอยู่กึ่งกลางกายไปบ้างแล้ว และความรู้สึกที่เข้ามาแทนที่ก็คือ ความสุขสุดแสนจะบรรเจิด ราวกับร่างกายของเธอกำลังล่องลอยขึ้นสู่ที่สูง จนไม่รู้จุดหมายที่จะไป ล่องลอย บางเบา ไม่ต่างจากขนสีขาวของสัตว์ปีกที่ลอยฟุ้งกระจายไปทั่วทั้งห้องในขณะนี้ และทั้งหมดนั้นก็ยังไม่สิ้นสุด เมื่อสิ่งที่เขาต้องการนั้นยังไม่มอดดับไป และตัวเธอเองก็ยังต้องการอีก
แรงกระแทกกระทั้นยังคงขับเคลื่อนอย่างต่อเนื่องให้เธอต้องพานพบสวรรค์อีก 1 ครั้ง 2 ครั้ง 3 ครั้ง หรือจนกว่าแสงแรกแห่งวันพรุ่งนี้จะมาเยือน ซึ่งนั่นคงต้องแลกมาด้วยหยาดเหงื่อท่วมท้นร่างกาย ความเหน็ดเหนื่อยแห่งการขับเคลื่อน เสียงหอบหายใจแว่วหวานสอดประสานกับความดุดัน แต่ทั้งหมดนั้นก็จะได้มาซึ่งความสุขสุดยอดอย่างที่ไม่อาจจะมีอะไรมาเทียบได้เลยทีเดียว เมื่อเธอยังต้องการ และเขาก็ยังอยากได้อีก คงไม่มีอะไรจะมาฉุดรั้งให้เธอและเขาแยกออกจากกันได้
“โอว... สุดยอด... สุดยอด! โอว...”
เขาครางเสียงต่ำ อ้าปากค้าง เมื่ออารมณ์โหมกระหน่ำสุดกู่ จนไม่อาจยั้งที่จะฟาดฝ่ามือลงไปบนบั้นท้ายกลมกลึงที่กำลังส่ายร่อนรับแรงกระแทกกระทั้นของเขาได้ เพราะมันช่างยั่วเย้าอยากให้เขาสัมผัสและบีบเคล้น ซึ่งเขาก็ทำทั้งหมดนั้นตามที่คิด
ทุกแรงกระทำ ทุกครั้งที่ขับเคลื่อน เปี่ยมไปด้วยความต้องการ ไม่มีความเจ็บปวด หรือเสียงกรีดร้องใดจะหยุดเขาได้ เพราะเขาต้องไปต่อให้สุดทาง ไปจนสุดเส้นทางสวรรค์ที่โน้มร่างลงมาหา ไปให้สุดความต้องการที่ยังคงทำให้ความแข็งแกร่งตั้งตรงไม่มีทางที่ล้มลงได้ง่าย ไปจนกว่าความปรารถนาจะพาร่างแข็งแกร่งของเขาให้หลับใหลไปด้วยความเหนื่อยอ่อน
แต่เส้นทางคงอีกยาวไกล เพราะเพียงความอุ่นวาบพวยพุ่งได้ไม่นาน แรงตอดรัดจากโพรงชุ่มฉ่ำก็บีบรัดให้ความแข็งแกร่งของเขาผงกหัวขึ้นทักทายอีกแล้ว นั่นเป็นสัญญาณของการซ่อนซุกหาความอบอุ่นครั้งใหม่ และการร่วมรักอย่างมาราธอนจนนับครั้งไม่ถ้วน ก็ทำให้เขาต้องตักตวงความสุขครั้งแล้วครั้งเล่าอย่างตะกละตะกลาม
สุขมากมายท่วมท้นจนไม่รับรู้ถึงช่วงเวลาที่ผ่านไป รู้แต่เพียงว่า เสียงไก่ขันที่ดังไกลมาจากสวนของเพื่อนบ้าน มาพร้อมๆ กับความสุขที่พวยพุ่งไปสู่เส้นทางอันอบอุ่นอีกครั้ง และมันก็ตอดรัดบีบคั้นให้เขาครวญคราง ก่อนจะซบใบหน้าลงสู่ความหยุ่นนุ่มเต็มไม้เต็มมืออย่างหมดแรง
.
.
บรรยากาศยามเช้าของโฮมสเตย์ ‘บ้านแผ่นภพ’ ยังคงร่มรื่นและร่มเย็นไปด้วยแมกไม้นานาพันธุ์ที่เจ้าของตั้งใจจัดหามาปลูก ไม่ว่าจะเป็นไม้หายากที่อาจเคยเห็นในยามเด็กหรือในตามชนบทต่างๆ หรือจะเป็นผลไม้ไทยที่บางพันธุ์นั้นคงไม่มีใครเคยได้เห็นอีกแล้ว แต่ที่นี่เพราะเจ้าของใส่ใจ พันธุ์ไม้เหล่านี้จึงยังมีให้เห็น
‘ธารธารา’ ยิ้มให้กับธรรมชาติรอบด้าน พลางใช้ฝ่ามือปัดกิ่งชมพู่น้ำดอกไม้ที่โล้ลงมาขวางใบหน้าของเธอออก และนั่นทำให้เธอต้องยิ้มมากขึ้น เพราะผลสุกสีเหลืองนวลพวงใหญ่ตรงหน้าส่งกลิ่นหอมจนเธออดใจไม่ไหวต้องยื่นใบหน้าพาจมูกเข้าไปใกล้กับพวงนั้น
กลิ่นหอมเฉพาะที่ไม่คิดว่าจะมีผลไม้ใดที่มีกลิ่นแบบนี้ คือความหอมหวาน หอมนวล หอมจนติดอยู่ที่ปลายจมูก หอมเหมือนดอกกุหลาบแรกแย้ม หอมจนเธอแทบอยากจะหยุดเวลาไว้ที่ตรงนี้ แต่คงไม่ได้ เพราะวันนี้เธอมีภารกิจสำคัญที่ทำให้ต้องขับรถและต่อเรือมาเพื่อให้ถึงที่นี่แต่เช้าตรู่ ดวงตาสวยหวานที่แต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางอย่างประณีตมองตรงไปยังเรือนไม้สักทองหลังงามที่แยกออกจากโฮมสเตย์ที่มีไว้ให้แขกพัก โดยมีคลองหลอดทำหน้าที่แบ่งอาณาเขตและมีสะพานไม้ตีกว้างประมาณ 1 เมตรเป็นตัวเชื่อม เธอก็ไม่รั้งรอที่จะก้าวข้ามไปในทันที ทว่า... “อุ้ย!” ร่างแบบบางล้มคะมำไปด้านหน้าจนกระแทกกับพื้นกระดานให้ได้เจ็บ ธารธาราซู้ดปากเพราะฝ่ามือที่ค้ำยันร่างเอาไว้นั้นถูกเสี้ยนของแผ่นกระดานตำเข้าไป “ก็ใครใช้ให้เธอใส่รองเท้าส้นสูงมาบ้านสวนกันล่ะ สมแล้ว” ธารธาราบ่นกับตัวเอง พลางมองรองเท้าส้นสูงสีน้ำตาลแบบผู้ดีที่เจ้าส้นแหลมสูง 3 นิ้ว เข้าไปติดอยู่ในร่องของแผ่นไม้ที่ตีไว้ไม่ชิด ชุดสวยเปื้อนไปด้วยรอยชื้นของแผ่นกระดานจนเห็นเป็นคราบดำปนเขียวของตะไคร่น้ำกระจายอยู่ ทั้งฝ่ามือก็เป็นแผลถลอกแ
“พี่จันทร์!” ธารธาราสะบัดให้พ้นจากการดุนหลังของจันทร์ พร้อมส่งเสียงแข็งอย่างหมดความอดทน นี่เกิดอะไรขึ้น จันทร์ถึงได้ตั้งใจให้เธอไปจากที่นี่ ความพยายามจะผลักดันเธอให้ออกไปด้านนอกนั้น ก็เพื่อไม่ต้องการให้เธอขึ้นในข้างบนอย่างนั้นเหรอ บนชั้น 2 มีอะไรอยู่ หรือในห้องของเขามีอะไรที่เป็นสิ่งร้ายแรงมาก จนจันทร์ให้เธอเห็นไม่ได้ “คุณน้ำคะ...” “พี่จันทร์ไม่ต้องพูดอีกแล้วค่ะ น้ำไม่ใช่เด็กเล็กๆ แล้วนะคะ ถึงจะมาใช้แผนหลอกล่อน้ำแบบนี้ บอกมาเถอะค่ะว่าพี่ภพอยู่ไหน หรือว่าพี่ภพซ่อนใครไว้ในห้อง พี่จันทร์...” “ไม่... ไม่มี คุณภพไม่ได้ซ่อนใครทั้งนั้น ไม่มีจริงๆ ค่ะ คุณน้ำกลับบ้านก่อนนะคะ เดี๋ยวคุณภพตื่น พี่จะรีบให้โทรหาค่ะ นะคะ พี่ขอร้องล่ะค่ะ กลับบ้านนะคะ” “พี่จันทร์นี่พูดไม่รู้เรื่อง น้ำไม่กลับค่ะ น้ำมีธุระกับพี่ภพ และน้ำก็จะขึ้นไปหาพี่ภพที่ห้องนอนด้วย หลีกค่ะ” น้ำเสียงขาดห้วนพูดได้ไม่เต็มปากนัก เพราะธุระของเธอกับเขานั้นไม่มีหรอก มีแต่เธอต้องการจะมาเซอร์ไพรส์วันเกิดของคู่หมั้นต่างหาก แต่ตอนนี้เหมือนว่าเธอกำลังจะถูกเซอร์ไพ
แรงอารมณ์โหมกระหน่ำ ร้องสั่งให้เจ้าของใบหน้าสวยหวานก้มมองเขา สายตาของเธอสื่ออารมณ์เรียกร้อง เธอแลบลิ้น เธอห่อไหล่ ทั้งยังส่งเสียงเสียดเสียว ก่อนจะส่งเต้าอวบอัดดันใส่ปากของเขาให้มากยิ่งขึ้น ดั่งจะบอกเขาว่าเธอต้องการมากกว่านี้ ไม่รอให้บอกซ้ำ เขาเคลื่อนฝ่ามือจากสะโพกขึ้นมาเคล้นคลึงที่เต้าอวบขาวของเธอด้วยความมันจนเกินจะหยุดได้ ซึ่งเธอก็ตอบสนองด้วยรอยยิ้มพิมพ์ใจ ส่งเสียงสูดลมหายใจรอดไรฟันด้วยความสุข ขณะดวงตาฉ่ำหวานเจือความร้อนแรงในอารมณ์ยังคงทอดมองเขาด้วยความรักอย่างท่วมท้นหัวใจ ซึ่งนั่นก็ทำให้เขาถึงกับสะดุ้ง ทว่าไม่ใช่สะดุ้งเพราะใบหน้าของเธอที่กำลังโลดแล่นควบขี่เขานั้นดูคล้ายกับใครคนหนึ่งที่คุ้นเคย แต่เป็นเพราะเสียงกรีดร้องด้วยความตกใจของใครบางคน ที่ดังชัดอยู่ในห้องนอนของเขาต่างหาก ทำให้เขาสะดุ้งสุดตัว พร้อมเปิดเปลือกตาออกเพื่อมองหาที่มาของเสียงนั้น ทว่าสิ่งที่เห็นกลับทำให้ ‘แผ่นภพ เคลย์ วิลคินสัน’ ต้องหลับตาลงไปใหม่ ไม่อาจยอมรับได้ว่าสิ่งที่เห็นนั้นเป็นจริง เพราะเจ้าของใบหน้าสวยหวานแต่ดูซีดเซียวที่กำลังหลับตาพริ้มอยู่ตรงหน้าของเขานี้ ทำให้เขาสะท้านสะเท
เสียงครืดคราดเอี๊ยดอ๊าดอันเกิดจากวัตถุขนาดใหญ่กำลังเคลื่อนตัวเป็นจังหวะจะโคนสม่ำเสมอ สลับกับเสียงครวญครางด้วยความร้อนแรงของหญิงชาย ทำให้รู้ได้โดยอัตโนมัติว่าผู้ที่อยู่ด้านในของห้องนั้นกำลังทำกิจกรรมเข้าจังหวะกันอย่างถึงพริกถึงขิง แค่นั้นก็ทำให้คนที่ยืนเอาหูแนบไว้กับประตูห้องยิ้มออกมาด้วยความสมใจ เมื่อสิ่งที่ลงทุนทำไปเห็นผลชัดเจน แค่เพียงพรุ่งนี้ทั้งเสียงที่ได้ยินและความจริงที่ปฏิเสธไม่ได้จะทำให้ทุกสิ่งง่ายขึ้น หญิงวัยกลางคนมีเค้าสวยจัดแต่วัยสาวระบายยิ้มไปทั่วทั้งใบหน้า ดวงตากวาดมองไปทั่วพื้นที่ของเรือนไม้สักทองขนาดใหญ่อย่างชื่นชม ก่อนจะปรายตามองบานประตูด้านข้างอีกครั้ง เพราะเสียงกรีดร้องเล็กๆ ของผู้หญิงที่ดังแว่วมา ยิ่งตอกย้ำชัดเจนว่า ‘สำเร็จ’ ก่อนจะตวัดสายตามองตรงไปข้างหน้าและพาตัวเองเดินนวยนาดตรงไปยังเรือนพักด้านหลัง แต่ระหว่างทางเดินก็ยังไม่วายจะลูบไล้และชำเลืองมองห้องที่มาดหมายเอาไว้ เพราะพรุ่งนี้เท่านั้น เธอก็จะได้ขึ้นมาจับจองและครอบครองเป็นเจ้าของห้องแต่เพียงผู้เดียว รอแค่เช้าเธอจะขึ้นมารับคนด้านในถึงขอบเตียง คนด้านนอกจากไปอย่างสุขใจแต่คนด้านใ