หน้าหลัก / รักโบราณ / สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์ / บทที่188 เจ้าจะพาลูกไปที่ใด

แชร์

บทที่188 เจ้าจะพาลูกไปที่ใด

ผู้เขียน: ม่อเยี่ยน
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-01-11 16:00:01
อินชิงเสวียนเงยหน้าขึ้นทั้งน้ำตา สูดลมหายใจเข้าและถามว่า “ลูก... จะไม่เป็นอะไรจริงๆ ใช่ไหม?”

เย่จิ่งอวี้เพิ่งเคยเห็นอินชิงเสวียนเป็นเช่นนี้ครั้งแรก เมื่อก่อนนางมักจะเต็มไปด้วยจิตวิญญาณและวิธีการ วันนี้กลับบอบบางและซีดเซียว อ่อนแอราวกับดอกไม้ที่ละเอียดอ่อน ช่างน่าสงสารยิ่งนัก

ความอ่อนโยนในใจของเย่จิ่งอวี้ถูกสัมผัสได้ในทันที เขาอดไม่ได้ที่จะอ้าแขนออกกว้าง และโอบอินชิงเสวียนไว้ในอ้อมอก

ลดสายตาลงแล้วพูดว่า “ข้าบอกว่าไม่เป็นไร เสี่ยวหนานเฟิงก็จะต้องไม่เป็นไร”

กลิ่นดอกไม้ที่หอมจางๆ พุ่งเข้าสู่จมูกของนาง เมื่อมองไปที่คอเสื้อปักเงินอันงดงามที่อยู่ตรงหน้า อินชิงเสวียนก็ตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่งแล้วผลักเย่จิ่งอวี้ออกไป

“ฝ่าบาท... คือว่า... ตอนนี้ก็ดึกมาแล้ว ฝ่าบาทกลับไปปพักผ่อนเถอะพ่ะย่ะค่ะ”

นางลุกขึ้นจากเตียงด้วยน้ำเสียงที่แสดงถึงความตื่นตระหนก

เย่จิ่งอวี้ขมวดคิ้วเล็กน้อย พูดด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ “ข้าไม่ไป คืนนี้ข้าจะอยู่ที่ตำหนักจินหวู”

อินชิงเสวียนหันหลังและพูดว่า “เสี่ยวหนานเฟิงป่วยอยู่ ฝ่าบาททรงอยู่ที่นี่ กระหม่อมเกรงว่าจะดูแลได้ไม่ทั่วถึง”

“ข้าไม่ต้องการให้เจ้าดูแล เจ้าดูแลลูกให
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่189 เจ้าปีศาจตัวน้อย

    เมื่อมองดูดวงตาที่แดงก่ำเล็กน้อยเหล่านั้น อินชิงเสวียนหายใจเล็กน้อยแล้วรีบก้มศีรษะลง“กระหม่อมอยากอาบน้ำให้เสี่ยวหนานเฟิงพ่ะย่ะค่ะ”เย่จิ่งอวี้ลุกขึ้นจากเตียง พลางตำหนิเสียงต่ำ “ไร้สาระ ลูกยังนอนหลับอยู่ จะอาบน้ำได้อย่างไร?”อินชิงเสวียนไกวเสี่ยวหนานเฟิง และพูดเสียงเบาว่า “กระหม่อมจึงอยากปลุกเสี่ยวหนานเฟิงไงเล่าพ่ะย่ะค่ะ”เย่จิ่งอวี้ก็มองไปเห็นไป๋เสวี่ย ขมวดคิ้วและถามว่า “เจ้ามาได้อย่างไร?”ร่างกายที่เหมือนลูกม้าน้อยของไป๋เสวี่ยยืดตรง ยื่นลิ้นใหญ่ไปเลียตุ่มแดงที่ขาของเสี่ยวหนานเฟิงเย่จิ่งอวี้รีบดึงขนบนหัวของไป๋เสวี่ย ตะคอกเสียงเบาว่า “ลุกขึ้น”ไป๋เสวี่ยส่งเสียงร้องคร่ำครวญด้วยควานน้อยใจออกมา สายตาคู่นั้นจับจ้องไปที่อินชิงเสวียน“มันคงเป็นห่วงเสี่ยวหนานเฟิง พระองค์อย่าได้ตำหนิมันเลยพ่ะย่ะค่ะ”ทันทีที่พูดจบ เย่จิ่งอวี้ก็ส่งเสียงแปลกใจออกมาส่วนที่โดนไป๋เสวี่ยเลีย จุดแดงก็ค่อยๆ จางลงไปเย่จิ่งอวี้รีบปล่อยมือออกทันที และลูบขนไป๋เสวี่ยสองครั้งอินชิงเสวียนก็เห็นเช่นกัน จึงอดแปลกใจไม่ได้ในเวลาเพียงไม่นาน ตุ่มสีแดงบนข้อเท้าของเสี่ยวหนานเฟิงก็หายวับไปเมื่อเห็นรอย

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-01-11
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่190 ฝ่าบาทคงไม่เป็นสุขแล้วสินะ

    เสี่ยวอานจื่อวิ่งเข้ามาจากด้านนอก“ท่านอาจารย์ ไทเฮาเสด็จมาแล้ว”หลี่เต๋อฝูกลัวรบกวนการนอนหลับพักผ่อนของสามพ่อแม่ลูก จึงรีบดึงตัวเสี่ยวอานจื่อออกมานอกตำหนัก“เช้าขนาดนี้ ไทเฮาเสด็จมาทำอะไร?”“ข้าก็ไม่รู้ ข้าเห็นท่าทางที่ดุดัน คิดว่าเสด็จมาเพื่อหลิวหมัวมัวขอรับ”เมื่อเสี่ยวอานจื่อพูดจบ เสียงของชุยไห่ก็ดังเข้ามาจากด้านนอก“หลี่เต๋อฝู ไทเฮาทรงทราบว่าฝ่าบาทอยู่ที่ตำหนักจินหวู รีบกราบทูลด้วย”ไก่ยังไม่ขัน รอบด้านมีเพียงความเงียบ เสียงพูดจึงดังขึ้นชัดเจนหลี่เต๋อฝูอดไม่ได้ที่จะก่นด่าเบาๆ “ชุยไห่ ไอ้เลวระยำหมา พูดเพ้อเจ้ออะไรมากมาย เจ้าออกไปบอกทีสิ ให้ฝ่าบาทบรรทมต่ออีกหน่อย”“พ่ะย่ะค่ะ”เสี่ยวอานจื่อเพิ่งออกไป เสียงของเย่จิ่งอวี้ก็ดังออกมาจากในตำหนัก“เรื่องอะไรกัน?”หลี่เต๋อฝูโค้งตัวพูดว่า “ชุยไห่พ่ะย่ะค่ะ บอกว่าไทเฮาอยู่ด้านนอก”เสียงของเย่จิ่งอวี้เข้มขึ้นในทันที“ให้นางรอไปก่อน เข้ามาเปลี่ยนชุดให้ข้า”“พ่ะย่ะค่ะ”หลี่เต๋อฝูเดินเข้ามาพร้อมกับขันทีตัวน้อยที่กำลังถือเสื้อผ้า และต้องตกใจเมื่อเห็นเย่จิ่งอวี้นั่งอยู่หน้าเตียงด้วยผมเผ้าที่ยุ่งเหยิง“ฝ่าบาท...”

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-01-12
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 191 ไม่ไปไม่ได้หรือ

    เย่จิ่งอวี้มองลงไปยังไทเฮา ใบหน้าหล่อเหลาเย็นชาน่าครั่นคร้าม เขาหรี่ตาลง แสงเยือกเย็นสะท้อนออกมา“ไทเฮาต้องการทำเช่นนี้จริงหรือ”“ข้ามีหลักฐานเป็นประจักษ์ชัดแจ้ง หญิงตระกูลอินที่อยู่ในวังเย็นออกจากตำหนักโดยพลการ ตามความผิดควรต้องโทษประหารชีวิต ที่ฮ่องเต้อ้างเหตุปฏิเสธครั้งแล้วครั้งเล่า หรือว่าทรงต้องการปกป้องนาง?”ดวงตาของเสนาบดีกวนเมิ่งถิงเป็นประกายวาววับ เดินก้าวออกมากลางท้องพระโรงกล่าวด้วยท่าทีนอบน้อม “ฝ่าบาทควรเรียกตัวออกมาพิสูจน์ตัวตน เช่นนี้จึงจะช่วยขจัดความสงสัยของไทเฮา และเพื่อเป็นการหลีกเลี่ยงความหมางใจระหว่างฝ่าบาทกับไทเฮาด้วยพ่ะย่ะค่ะ”ราชเลขาธิการลู่ทงก็เดินออกไป โค้งคำนับแล้วพูดว่า “ควรเป็นเช่นนั้น ใช่หรือมิใช่ เพียงดูก็ทราบแล้ว ฝ่าบาทไม่ควรทำลายไมตรีของไทเฮาเพราะเรื่องเล็กน้อยนี้”สองคนนี้เป็นขุนนางคนสำคัญในราชสำนัก ทันทีที่พวกเขาปริปาก ก็มีคนคล้อยตามในทันใด“ฝ่าบาทควรเรียกขันทีน้อยมาถามดู”“ไทเฮาเจตนาดี ไม่ประสงค์ให้ฮ่องเต้ถูกคนชั่วหลอก”“ตระกูลอินเป็นขุนนางต้องโทษของต้าโจว หากเป็นเรื่องจริง ก็สมควรถูกประหาร!”“ฝ่าบาท โปรดเรียกคนมาที่นี่เถิดพ่ะย่ะค่ะ”เมื่อ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-01-12
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 192 นางเป็นอนุชายาของข้า

    ไทเฮากล่าวด้วยสีหน้าเย็นชา “ใช่แล้ว ขันทีน้อยคนนี้คือหญิงตระกูลอินแห่งวังเย็น”เย่จิ่งอวี้แค่นเสียงเย็นชา ดวงตามองจับไปยังอินชิงเสวียน“ข้าบอกว่านางไม่ใช่ นายหญิงของวังเย็นเสียชีวิตจาการป่วยเมื่อหนึ่งเดือนที่แล้ว หญิงตระกูลอินจะมาที่นี่ได้อย่างไร”ไทเฮาก้าวไปทางอินชิงเสวียน บีบให้จนมุมด้วยเสียงกร้าว “เจ้าเป็นผู้ใด ต่อหน้าขุนนางทั้งฝ่ายบุ๋นฝ่ายบู๊ บอกตัวตนของเจ้ามาให้ชัดเจน”อินชิงเสวียนถอนหายใจ “ไยไทเฮาจึงบีบเค้นกันถึงเพียงนี้ นอกจากหลานสาวของท่านแล้ว ไทเฮาจะทรงยอมหญิงผู้อื่นไม่ได้หรือเพคะ”เมื่อได้ยินดังนั้น ไทเฮาก็หัวเราะเสียงดัง พูดกับขุนนางทั้งฝ่ายบุ๋นฝ่ายบู๊ว่า “พวกท่านคงได้ยินแล้ว นางยอมรับว่านางเป็นหญิง ตระกูลอินสมคบคิดกับศัตรู หญิงตระกูลอินควรถูกประหารไปนานแล้ว บัดนี้กลับใช้แผนต้นหลี่ตายแทนต้นท้อ ปลอมตัวออกจากวังเย็น เอาเกียรติ์ของราชวงค์ไว้ที่ไหน!”อินชิงเสวียนยักไหล่ พูดด้วยรอยยิ้ม “ดูเหมือนว่าไทเฮาจะสับสนแล้ว หม่อมฉันเป็นสตรีก็จริง แต่มิใช่หญิงจากตระกูลอิน”ทันทีที่กล่าวคำนี้ บรรดาขุนนางก็เกิดความโกลาหลขันทีน้อยคนนี้เป็นหญิงจริงๆ หรือแต่นางก็บอกว่านางไม่ใช่หญิงตระ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-01-12
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 193 คิดซับซ้อน

    องครักษ์หลายคนมาพาตัวไทเฮากลับไปส่งที่ตำหนักฉือหนิงทันทีเย่จิ่งอวี้แค่นเสียงเย็นชา “เลิกประชุม!”ภายใต้พระที่นั่งมังกร ความคิดของอินชิงเสวียนสลับซับซ้อนเหตุใดเย่จิ่งอวี้ถึงช่วยนางขนาดนี้เขาเกลียดตระกูลอินมาโดยตลอดไม่ใช่หรือหรือว่าเขาชอบตัวเองไม่ใช่ๆ นั่นดูไม่น่าเป็นไปได้งั้นต้องเป็นเพราะเขาชื่นชอบเด็กแนน่ๆดูท่าคำกล่าวที่ว่ามารดาเรืองอำนาจเพราะบุตร จะเป็นเรื่องจริง!แต่จะทำอย่างไรต่อไปล่ะหลังจากคืนฐานะแล้ว ตัวนางก็นับว่าเป็นภรรยานางสนมของฮ่องเต้หากไม่ปกปิดตัวตนด้วยฐานะขันที นางก็ไม่สามารถออกจากวังได้เลย ชั่วชีวิตนี้ของนางจะต้องเน่าตายอยู่ในวังไปตลอดอย่างนั้นหรือนอกจากเรื่องที่น่าหงุดหงิดเหล่านี้แล้ว อินชิงเสวียนยังมีอีกสิ่งหนึ่งที่ทำให้นางกลัวนั่นคือเย่จิ่งเย่าถ้าเขาโผล่ออกมาชี้ตัวนางจริง นางจะทำเช่นไนดีตอนนี้เย่จิ่งอวี้และไทเฮากำลังแข็งข้อต่อกันอยู่ ยายแม่มดเฒ่าคงไม่ยอมรามือง่ายๆ แน่และแต่ไหนแต่ไรมาไม่เคยปรากฏว่ามีฮ่องเต้พระองค์ใดที่ลงโทษประหารชีวิตไทเฮาเลย บัดนี้เย่จิ่งอวี้งัดข้อกับยายแม่มดเฒ่าผู้นั้นเพื่อนาง เกรงว่าจะเป็นที่ครหาของผู้คนเมื่อนึกถึงลูกระ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-01-13
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 194 ความขี้ขลาด

    กวนลี่จือรู้สึกคันยุบยิบที่หัวใจทันทีเขาไปที่โรงบ่อนไม่ใช่แค่เพื่อเล่นการพนันเท่านั้น แต่เพราะเขาอยากเห็นแม่นางผู้สวมชุดสีดำ คลุมผ้าคลุมหน้าผู้หนึ่งดวงตาทั้งคู่ของแม่นางผู้นั้นเรียวราวกับพระจันทร์เสี้ยว ทำให้กวนลี่จือตกหลุมรักตั้งแต่แรกเห็น อิริยาบถยามเคลื่อนไหวก็ช่างแสนจะเปิดเผย ได้เล่นทอยลูกเต๋ากับนางถือเป็นการเสพสุขอย่างที่สุดแล้วเมื่อคิดถึงแม่นางผู้นั้น ใบหน้าอันแสนน่าเกลียดของอาโฉ่วก็ไม่ดูขัดตาอีก“นับว่าเจ้ารู้หน้าที่ดี เอาผลผิงกั่วลงมาเถอะ ข้าจะไปบอกท่านปู่สักหน่อย”กวนลี่จือเดินเข้าไปในห้อง แล้วพูดเสียงเอื่อยๆ “ท่านปู่ ข้าอยากออกไปเล่นสักหน่อย”กวนเมิ่งถิงด่าทอทันที “วันๆ รู้จักแต่เล่น กงการไม่ยอมทำ”กวนลี่จือดึงแขนเสื้อของกวนเมิ่งถิง แล้วพูดอย่างประจบประแจง “มีปู่ที่เก่งกาจเช่นท่าน ข้ายังต้องทำอะไรอีก รอสืบทอดกิจการตระกูลจากท่านไม่พอแล้วหรือ”กวนเมิ่งถิงสะบัดเขาออก พูดด้วยความโกรธ “นี่เจ้ากำลังรอให้ข้าตายอยู่รึ”กวนลี่จือสะดุ้งโหยง ลนลานคุกเข่าลงทันที“ท่านปู่ ข้าไม่ได้หมายความเช่นนั้น”กวนเมิ่งถิงมีหลานชายเพียงคนเดียว ตัดใจดุด่าว่ากล่าวเขาอย่างรุนแรงไม่ลง จึงโบก

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-01-13
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 195 แต่งตั้งสนม

    ณ ตำหนักจินหวูอินชิงเสวียนกอดเสี่ยวหนานเฟิง เอนตัวลงบนเตียงอย่างเหม่อๆเมื่อนึกถึงทุกสิ่งที่เย่จิ่งอวี้ทำเพื่อปกป้องนางในตำหนักจินหลวน ความรู้สึกที่อธิบายไม่ได้ก็สะท้อนอยู่ในอกในความเจ็บปวดรวดร้าว กลับยังรู้สึกถึงความหวานอันไม่ทราบสาเหตุ!เหตุใดบุรุษที่มีกำลังความสามารถมากเพียงนี้ จึงต้องเป็นฮ่องเต้ด้วยแต่ถ้าเขาไม่ใช่ฮ่องเต้ เขาจะสามารถปกป้องนางได้งั้นหรือเมื่อนึกถึงความสุขุมเยือกเย็นยามที่เขาเผชิญหน้าต่อหน้าไทเฮาและเหล่าขุนนาง อินชิงเสวียนก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจนี่เป็นการถอนหายใจครั้งที่ยี่สิบของนางแล้วในเวลานี้เอง มีเสียงฝีเท้าดังมาจากด้านนอกประตูเย่ไห่ถังพาอวิ๋นเฟิงเดินเร็วๆ เข้ามาถามด้วยท่าทางกังวล “เสี่ยวเสวียนจื่อ ข้าได้ยินมาว่าเสี่ยวหนานเฟิงเป็นผื่นแถมยังตัวร้อนเพราะสวมชุดที่ข้านำมา เป็นเรื่องจริงหรือ”อินชิงเสวียนรีบลุกขึ้นทันที แล้วคำนับถวายพระพรองค์หญิงดูท่าว่าเรื่องที่เกิดขึ้นในราชสำสักเมื่อเช้านี้ยังมาไม่ถึงวังหลัง ทุกคนจึงยังไม่ทราบว่านางได้กลายเป็นหลิวเสวียนแล้ว“เป็นเช่นนั้นจริง แต่ตอนนี้ไม่เป็นไรแล้ว องค์หญิงไม่ต้องกังวล”ทันใดนั้นเย่ไห่ถังก็ตาแดง

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-01-13
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 196 ไม่กลัวตายแล้วรึ

    อินชิงเสวียนถูกกดให้นั่งบนเก้าอี้ แต่เมื่อสางผมไปได้เพียงครึ่ง นางก็กระโดดขึ้น“ไม่ได้ ไม่ได้ วันนี้ข้าไม่สามารถพบฝ่าบาทได้”ฮ่องเต้คงมาที่นี่เพราะอยากให้นางปรนนิบัติเรื่องบนเตียงแน่ๆ บุรุษส่วนเป็นสิ่งมีชีวิตที่ขับเคลื่อนด้วยอวัยวะท่อนล่างในยุคปัจจุบันนางก็เป็นแค่ดอกเดซี่ดอกน้อยๆ บริสุทธ์ที่รอการเบ่งบาน ยังไม่เคยสัมผัสมือชายใดด้วยซ้ำ อยู่ๆ ก็จะให้ไปขึ้นเตียงทำเรื่องพรรค์นั้นกับคนอื่น เป็นไปไม่ได้เด็ดขาด!อินชิงเสวียนยิ่งคิดก็ยิ่งตกประหม่า นางผลักยายหลี่ออกไปอย่างกะทันหัน กลิ้งตัวลงบนเตียง แล้วดึงผ้าห่มมาคลุมตัวเองยายหลี่ยกผ้าห่มขึ้น กล่อมด้วยรอยยิ้ม “นี่ไม่ใช่ครั้งแรกของพระสนมกับฝ่าบาทเสียหน่อย ลูกก็มีกันแล้ว ยังต้องกลัวอะไรอีก รีบลุกขึ้นเร็ว พวกเราไปแต่งตัวให้งดงามเลย”อินชิงเสวียนคลุมผ้าห่มทันที พูดเสียงดัง “ถึงเป็นอย่างนั้นก็ไม่ได้ เจ้ากับอวิ๋นฉ่ายไปเฝ้าที่ประตู ถ้าฝ่าบาทเสด็จมา ให้บอกไปว่าข้ารู้สึกไม่สบาย ให้เขาไปหาคนอื่น”ยายหลี่พูดอย่างอดทน “พระสนมพูดเหลวไหลอะไร ความโปรดปรานของฮ่องเต้นั้นมีค่ากว่าทองพันชั่ง ตอนนี้ฝ่าบาทได้แต่งตั้งยศศักดิ์ให้พระสนมแล้ว ซึ่งนี่เป็นการเริ่ม

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-01-14

บทล่าสุด

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1503 เรื่องราวจบลง

    ลั่วสุ่ยชิงพูดอย่างเย็นชา “แม้แต่เป็นฮ่องเต้ข้ายังไม่สนใจด้วยซ้ำ จะสนใจพระชายาอ๋องได้อย่างไร”“พูดมาก็มีเหตุผล งั้นข้ายังมีที่อื่นที่อยากไป”เย่จิ่งหลานค่อยๆ หยัดกายขึ้นนั่ง หยิบแผนที่ออกมาจากอกเสื้อ“ตอนที่ข้ากำลังเดินทางไปตงหลิว พบว่ามีหลายแคว้นอยู่ใกล้เคียง ทำไมเจ้ากับข้าไม่พยายามพิชิตพวกเขาทั้งหมดล่ะ”ลั่วสุ่ยชิงสาดน้ำเย็นใส่เขาทันที“ตอนนี้เจ้ายังมีความสามารถนั้นอยู่รึ?”“หากเจ้าเต็มใจที่จะบ่มเพาะร่างกายและจิตวิญญาณกับข้า บางทีวรยุทธ์ของข้าอาจจะกลับคืน”ลั่วสุ่ยชิงถูกเขาทำให้โกรธจนกำลังภายในพุ่งสูงขึ้น กระทั่งจุดที่ถูกจี้สกัดได้คลายออก นางตบศีรษะเย่จิ่งหลานทันที“ไร้ยางอาย”“เจ้าหายแล้ว?”เย่จิ่งหลานมีความสุขมาก เขาพยายามคุกเข่า ฝืนยืนขึ้น ร่างกายโงนเงน ล้มลงตรงหน้าลั่วสุ่ยชิง ฉวยโอกาสกอดเอวของนาง“จอมยุทธ์หญิงลั่ว ข้ายืนไม่ไหว โปรดช่วยพยุงข้าด้วย”ใบหน้าของลั่วสุ่ยชิงเปลี่ยนเป็นสีแดง ยกมือขึ้นผลักเขาลงไปที่พื้น เย่จิ่งหลานล้มหงายหลัง เหมือนกับเต่าที่นอนหงายลั่วสุ่ยชิงอดไม่ได้ที่จะหัวเราะงอหาย เมื่อนางหัวเราะมากพอแล้ว ก็ทรุดตัวนั่งลงบนพื้นอย่างเงียบๆ และบ่นว่า “เสด็จ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1502 หน้าด้านหน้าทน

    อินชิงเสวียนเหลือบมองเย่จิ่งหลานแวบหนึ่ง“แน่นอนว่ามีคนไม่อยากให้เจ้าไป”เมื่อเห็นเย่จิ่งหลานมองมาทางนี้ ลั่วสุ่ยชิงก็เริ่มวิตกกังวล“ปล่อยข้านะ!”อินชิงเสวียนกระตุกมุมปากยิ้มๆ“ถ้าอย่างนั้นก็ต้องถามก่อนว่าเขาเห็นด้วยหรือไม่”เย่จิ่งหลานลุกขึ้นยืนโดยมีพี่ชายช่วยพยุงขึ้นอินชิงเสวียนเดินเข้าไปถาม“เจ้าสบายดีไหม มิติของเจ้า พังจริงๆ หรือ”เย่จิ่งหลานพูดอย่างอ่อนแรง “ยังไงตอนนี้ก็ยังมีลมหายใจอยู่ ถ้ามันไม่พัง ชิงผิงกับชิงอานก็คงไม่ได้ออกมา”อินชิงเสวียนมองเขาด้วยความเห็นอกเห็นใจ“นี่เป็นเรื่องที่ร้ายแรง”เย่จิ่งหลานถามอย่างไร้ยางอาย “เฮ้ นี่เจ้าไม่คิดจะดูแลข้าแล้วรึ”อินชิงเสวียนกระตุกริมฝีปากยิ้มๆ“ก็มีคนรอดูแลเจ้าอยู่ไม่ใช่หรือ เจ้าไปเองสิ อาอวี้ เรากลับไปดื่มสุรากันต่อเถอะ”เย่จิ่งอวี้พยักหน้าและตบไหล่เย่จิ่งหลาน“พวกเราช่วยเจ้าได้แค่นี้”เมื่อเห็นว่าหมู่เมฆหายไป ชาวยุทธ์หลายคนก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก เฮ่อยวนแอบโคจรกำลังภายใน พูดเสียงดัง “ตอนนี้เมื่อวิกฤติคลี่คลายแล้ว เฮ่อยวนจึงจัดงานเลี้ยงอีกครั้ง จัดเลี้ยงส่งเพื่อคลายความกังวลให้แก่เพื่อนพ้องในยุทธภพ!”คราวนี้เป็นกา

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1501 สายล่อฟ้าปรากฏ

    ทันทีที่เขาพูดจบ ร่างในชุดสีดำก็เหาะมาจากระยะไกล ลอยอยู่บนอากาศคนผู้นี้รูปร่างโปร่ง ชุดผ้าโปร่งสีดำปลิวไปตามสายลม เรือนผมดำขลับสยายออก ในชั่วพริบตา ร่างนั้นก็ถูกปกคลุมไปด้วยหมอกหนาสีดำเมื่อเห็นคนผู้นี้ เย่จิ่งหลานก็พยายามลุกขึ้นยืน“ลั่วสุ่ยชิง เจ้าบ้าไปแล้วหรือ หนีไป!”ลั่วสุ่ยชิงยกมือขวาขึ้นสู่ท้องฟ้า เผชิญหน้ากับเสียงฟ้าคำรน พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “เย่จิ่งหลาน เจ้าฆ่าพ่อของข้า ถ้าเจ้าตายแบบนี้ จะไม่ดูถูกเจ้าเกินไปหรือ เจ้าควรจะอยู่ในโลกนี้ต่อไป ทนทุกข์ต่อความเจ็บปวดทีละน้อย!”เย่จิ่งหลานจะไม่รู้ได้อย่างไรว่าทุกคำที่นางพูดล้วนเป็นพูดด้วยอารมณ์โกรธ ถ้านางไม่มีใจต่อเขา นางจะกลับมาได้อย่างไรอย่างไรก็ตาม ร่างกายของเขาเหมือนกับเส้นบะหมี่ ที่ไม่สามารถยืนตรงได้ จึงไม่สามารถหยุดยั้งลั่วสุ่ยชิงได้เลยเมื่อมองดูร่างเพรียวบางที่ต่อสู้กับฟ้าผ่า พลันรู้สึกเจ็บปวดกระบอกตา หยาดน้ำตาสองหยดร่วงหล่นกลืนหายไปในสายลมในเวลานี้ มีร่างเพรียวอีกร่างหนึ่งลอยออกมา โดยถือวัตถุที่มีลักษณะคล้ายแท่งไม้ขนาดใหญ่อยู่ในมือ มีปลายโค้งยาวมากซึ่งดูแปลกตา“ลั่วสุ่ยชิง ข้าจะใช้สายล่อฟ้าช่วยเจ้า!”ของสิ่งนั้นห

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1500 มิติพังแล้ว

    “จิ่งหลาน!”เย่จิ่งอวี้คว้าคอเสื้อของเขารวดเร็ว หลบหลีกการโจมตีได้อย่างหวุดหวิดตูม!อสุนีบาตฟาดเปรี้ยง บนพื้นมีหลุมลึกเกิดขึ้น ทุกคนล้วนหวาดกลัวกับฟ้าที่ผ่าลงมา ต่างใช้วิชาตัวเบาหนีไปทุกทิศทางอินชิงเสวียนถามด้วยความตกใจ “นักพรตเทียนชิง มันเกิดขึ้นได้อย่างไร”นักพรตเทียนชิงขมวดคิ้วกล่าวว่า “ชิงฮุยมาจากแดนศักดิ์สิทธิ์ เย่จิ่งหลานฆ่าเขา ศิลาตอบสวรรค์อาจมองว่าเขาเป็นคนชั่วร้ายมาก และออกจากแดนศักดิ์สิทธิ์ด้วยตัวเอง”เมื่อเห็นว่ายังมีฟ้าผ่าลงมา อินชิงเสวียนพูดอย่างกังวล “ศิลาตอบสวรรค์ไม่แยกแยะผิดถูกเช่นนี้ได้อย่างไร คนที่เย่จิ่งหลานฆ่านั้นคือคนชั่วร้ายจริงๆ ท่านนักพรตสามารถสื่อสารกับศิลาตอบสวรรค์ได้หรือไม่”นักพรตเทียนชิงส่ายศีรษะ“ไม่ได้ ศิลาตอบสวรรค์มีวิธีการตัดสินใจของตัวเอง”“แล้วต้องทำอย่างไรดี”อินชิงเสวียนเป็นกังวล และทันใดนั้นดวงตาก็พลันสว่างขึ้น“เย่จิ่งหลาน เจ้ารีบหลบเข้าไปในมิติเร็ว”เย่จิ่งอวี้พูดอย่างวิตกกังวล “เสวียนเอ๋อร์พูดถูก จิ่งหลาน เจ้าเข้าไปหลบในมิติก่อน”เมื่อเห็นด้วยตาตัวเองว่ามีฟ้าแลบฟ้าผ่าเปล่งแสงแปลบปลาบ เย่จิ่งหลานก็รู้สึกชาดิกไปทั้งหนังศีรษะ หากถูกโ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1499 เคราะห์ตอบสวรรค์

    นอกห้วงทะเลแห่งจิต อินชิงเสวียนมองไปยังลิ่นเซียวที่ประทับฝ่ามืออยู่บนหลังของเย่จิ่งหลานอย่างประหม่า“อาจารย์ ท่านสัมผัสถึงแก่นวิญญาณของเย่จิ่งหลานได้แล้วหรือยัง ตอนนี้เขาเป็นอย่างไรบ้าง”“คงจะสำเร็จแล้ว”ลิ่นเซียวถอนมือออก และแน่นอนว่าเพียงครู่หนึ่ง เย่จิ่งอวี้และคนอื่นๆ ก็รู้สึกตัวขึ้นมาพร้อมกัน“ชิงเสวียน ผู้อาวุโสลิ่น นี่คือ...”“ศิษย์น้อง ทำไมเจ้าถึงมาที่นี่”เฮ่ออวิ๋นทงก็ดูประหลาดใจเช่นกัน“ทำไมพวกเจ้าถึงมาที่นี่กันหมดล่ะ เกิดอะไรขึ้น”ทุกคนสูญเสียความทรงจำในช่วงเวลานั้นไป ต่างเพ่งมองไปยังอินชิงเสวียน“ผู้อาวุโสทุกท่านตกอยู่ภายใต้อาคมของชิงฮุย...”อินชิงเสวียนเล่าสั้นๆ อธิบายสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ ทุกคนตกใจเมื่อรู้ว่าชิงฮุยได้ช่วงงชิงร่างของลั่วสุ่ยชิงไปเมื่อได้ยินว่าเย่จิ่งหลานกลับมาที่เพียวเหมี่ยวอิ๋นเฉิงแล้ว และแก่นวิญญาณก็อยู่ในห้วงทะเลแห่งจิตของลั่วสุ่ยชิง ทุกคนก็เป็นกังวลอีกครั้งทุกคนเบิกตากว้าง มองไปยังเย่จิ่งหลานและลั่วสุ่ยชิงที่กำลังนั่งขัดสมาธิอยู่บนพื้น ไม่มีใครรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นข้างในหลังจากผ่านไปครึ่งชั่วยาม ในที่สุดลั่วสุ่ยชิงก็ลืมตาขึ้น ดวงตาหรี่ลง

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1498 ชิงฮุยตาย

    เย่จิ่งหลานขบกรามแน่น“ข้าสามารถให้ร่างกายแก่เจ้าได้ แต่เจ้าต้องสาบานอย่างจริงจัง ว่าจะไม่ทำร้ายต้าโจว หากผิดคำสาบาน ลูกหลานชาวเฟยเหยาทั้งหมดรวมทั้งตัวเจ้าเอง จะถูกสวรรค์ลงโทษ ไม่ได้ผุดได้เกิดอีกเลย!”ในชีวิตนี้ของเขา เขาได้เป็นหมอที่ตัวเองชอบ ได้ข้ามภพ แถมยังได้ข้ามภพมาเป็นท่านอ๋องที่มีสถานะสูง ได้เดินทางจากการต่อสู้แย่งชิงในวังสู่ยุทธภพ และจากการไร้ชื่อเสียงเรียงนาม มาเป็นยอดฝีมือชั้นหนึ่งในยุทธจักร ยังได้สัมผัสประสบการณ์การปล่อยให้ความคิดไหลไปในทางที่เต็มไปด้วยความเกลียดชังอีกครั้งหนึ่ง พอใคร่ครวญดูแล้ว มันก็คุ้มค่าจริงๆหากเขาสามารถยุติสงครามนี้ด้วยชีวิตของตัวเองได้ เย่จิ่งหลานก็ยินดีที่จะทำเช่นนั้นแม้ว่าเขาจะเป็นคนที่รักตัวกลัวตาย แต่เมื่อเผชิญกับความชอบธรรม เขาก็มีความตระหนักรู้ ในฐานะคนสมัยใหม่ เขาจะต้องไม่แย่กว่าอินชิงเสวียนอย่างแน่นอนยิ่งไปกว่านั้น ยังมีชาดแห่งบาปในร่างกายของเขาที่ยังไม่ถูกกำจัด หากชิงฮุยกล้าใช้ร่างกายของเขาเพื่อฆ่าผู้บริสุทธิ์ตามอำเภอใจ มันจะดึงดูดฟ้าผ่า ผ่าเขาให้เป็นเถ้าถ่านอย่างแน่นอนหลังจากฟังคำพูดของเย่จิ่งหลานแล้ว ชิงฮุยก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะเสี

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1497 ตัดสินใจไม่ได้

    “ไม่นะ เขาเป็นผู้บริสุทธิ์”ลั่วสุ่ยชิงเหยียดแขนทั้งสองข้างออก และมาขวางอยู่เบื้องหน้าของเย่จิ่งหลานอีกครั้งเสียงดังปัง ลั่วสุ่ยชิงถูกกระแทกห่างออกไปหลายจั้ง และในไม่ช้าก็จมลงไปในหมอกสีดำหนาทึบ“ลั่วสุ่ยชิง ลั่วสุ่ยชิง!”เย่จิ่งหลานเหาะเข้าไปในหมอกสีดำอย่างกระวนกระวายใจ คลำหาลั่วสุ่ยชิง และช่วยพยุงนางลุกขึ้นชิงฮุยเคลื่อนฝีเท้า และมาปรากฏตัวต่อหน้าทั้งสองอีกครั้ง“ลั่วสุ่ยชิง นังสารเลว วันนี้ข้าขอถามเจ้า ต้องการพ่อ หรือผู้ชายคนนี้?”แก่นวิญญาณของลั่วสุ่ยชิงก็ยังสั่นเทา นางกำเสื้อคลุมไว้แน่น มีเส้นเลือดปรากฏขึ้นที่หลังมือนี่เป็นสิ่งที่เลือกยากมากจริงๆไม่อาจปฏิเสธได้ว่า นางตกหลุมรักเย่จิ่งหลานจริงๆไม่รู้ว่าความรู้สึกนี้มาจากไหน แต่มันค่อยๆ ฝังแน่นอยู่ในใจแล้วอาจเป็นเพราะการเข้าฝัน อาจเป็นเพราะตัวเองเคยเดินทางไปกับเขา หรืออาจเป็นเพราะความใกล้ชิดของแก่นวิญญาณของเขา ลั่วสุ่ยชิงไม่สามารถค้นหาติดตามได้อีกแล้วแม้ว่านางจะเป็นสตรีงดงามแห่งสวรรค์ แต่ก็ไม่มีใครที่เข้าตาของนาง แต่ดันเป็นเย่จิ่งหลานผู้ที่พูดเรื่องไร้สาระทั้งวัน ผู้ที่ไม่มีท่าทีจริงจัง กลับกลายเป็นคนที่อยู่ในใจนาง

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1496 ความยึดติดที่ฝังลึกอยู่ในใจ

    ชิงฮุยได้รับบาดเจ็บ ทั้งยังมีลั่วสุ่ยชิงที่กำลังต่อสู้กับแก่นวิญญาณของเขา จึงเคลื่อนไหวช้าลิ่นเซียวแทงกระบี่สวน โจมตีจุดถันจงที่อยู่กลางอกของนาง พลังของลั่วสุ่ยชิงถูกยับยั้ง ก้าวหยุดนิ่ง ในเวลาเดียวกัน แก่นวิญญาณของเย่จิ่งหลานก็เข้าสู่ห้วงทะเลแห่งจิตของลั่วสุ่ยชิงในหมอกสีดำ ชายและหญิงกำลังต่อสู้กัน เย่จิ่งหลานหลบเข้าไปในวงการต่อสู้ และช่วยลั่วสุ่ยชิงต่อสู้กับชิงฮุย ชิงฮุยตกตะลึง“เป็นเจ้า!”“ใช่ ข้าเอง!”ขณะที่พูด เย่จิ่งหลานได้ซัดฝ่ามือใส่เขาหลายครั้งแล้วการเข้าร่วมวงการต่อสู้ของเขาทำให้สถานการณ์เปลี่ยนไปทันที ชิงฮุยก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกโกรธตะโกนด้วยความเดือดดาล “ลั่วสุ่ยชิง เจ้าคิดจะช่วยคนนอกจัดการกับข้าจริงๆ อกตัญญู!”ลั่วสุ่ยชิงตกใจเล็กน้อย วิชาฝ่ามือช้าลงครู่หนึ่ง“เจ้าเป็นใครกันแน่”ชิงฮุยคำรามด้วยความโกรธ“เจ้ารู้คำตอบแล้ว ยังต้องการจะถามอีกรึ”ลั่วสุ่ยชิงตัวสั่นเล็กน้อย“จริงหรือ...เป็นท่าน?”เย่จิ่งหลานไม่รู้ว่าทั้งสองกำลังเล่นปริศนาทายคำอะไรอยู่ แค่อยากจะจัดการกับปีศาจชั่วร้ายนี้โดยเร็ว เขาลงมือรวดเร็ว ล้วนหมายไปยังจุดตายของชิงฮุยชิงฮุยบังคับเย่จิ่งหลานใ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1495 อินชิงเสวียนข้าขอร้องเจ้า

    ขณะที่อินชิงเสวียนกำลังจะลงมือ ดวงตาของลั่วสุ่ยชิงก็เปลี่ยนไปอีกครั้ง“เขากำลังกลืนกินแก่นวิญญาณของข้า ถ้าเจ้าไม่ลงมือ ข้าก็คงไม่รอดเช่นกัน อินชิงเสวียน เจ้าไม่อยากช่วยสามีและพ่อแม่ของเจ้าหรือ”เมื่อเห็นท่าทางอันเจ็บปวดของลั่วสุ่ยชิง อินชิงเสวียนก็ไม่สามารถตัดสินใจได้ครู่หนึ่งลั่วสุ่ยชิงสามารถทำเพื่อราษฎร ละทิ้งความคิดที่นางยืนหยัดมานับพันปี ไม่ต้องสงสัยเลยว่านางควรค่าแก่การเคารพเพียงใด แต่ถ้านางไม่ตาย จะไม่มีใครรอดชีวิตได้เมื่อกวาดสายตามองไปยังร่างของทุกคนที่เหมือนถูกจี้สกัดจุด อินชิงเสวียนก็กัดฟันกรอด และพิณการเวกก็อยู่ในมือของนางแล้ว“ลั่วสุ่ยชิง ข้าขอสาบานในนามของฮองเฮาต้าโจวว่า หลังจากที่เจ้าเสียชีวิต จะจัดพิธีศพให้เจ้าอย่างสมเกียรติระดับแคว้น”ร่างของเย่จิ่งหลานหายวับ และยืนขวางอยู่ตรงหน้าอินชิงเสวียน“ยัยบ้า ข้าไม่เคยขอร้องอะไรเจ้าเลย คราวนี้ข้าขอร้องล่ะ ช่วยไว้ชีวิตลั่วสุ่ยชิงด้วย!”“เย่จิ่งหลาน เจ้า...”อินชิงเสวียนใช้นิ้วกดสายพิณ แต่ในใจกลับไม่เข้าใจว่า ทำไมจู่ๆ เย่จิ่งหลานถึงมีความรู้สึกลึกซึ้งต่อลั่วสุ่ยชิงขนาดนี้เสื้อยืดสีขาวของเย่จิ่งหลานเปื้อนเลือดแดงฉาน ดวง

DMCA.com Protection Status