Share

บทที่ 608 เจอผี

Author: ม่อเยี่ยน
last update Last Updated: 2024-10-29 19:42:56
เย่จิ่งหลานเงยหน้าขึ้น และสบตากับอาซือหลาน และโพล่งคำว่าไอเชี้ยออกมาอย่างอดไม่ได้

มารดิสิ ใครจะคิดว่าไอ้สุนัขตัวนี้จะกลับมาว่องไวเช่นนี้ และยังจับตัวสาวรับใช้ของเขามาด้วย

อาซือหลานก็ทำสีหน้างุนงงเช่นกัน หวังซุ่นโผล่มาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร?

“เจ้า...”

อาซือหลานยังไม่ทันพูดจบ เขาก็พุ่งตัวเข้ามาจับเย่จิ่งหลาน

วินาทีถัดไป เรื่องที่ทำให้เขาต้องประหลาดใจก็คือ ไม่เพียงแต่หวังซุ่น แม้แต่เป่าเล่อเอ่อร์ก็หายตัวไปแล้วเช่นกัน

อาซือหลานเดินอยู่บนพื้นสองก้าว แต่ก็ไม่พบกลไกใดๆ อีกทั้งที่นี่คือใต้ดิน ยังสามารถขุดทำกลไกใดได้อีก แม้ว่าจะมีอยู่จริงๆ ก็ไม่อาจเล็ดลอดสายตาเขาไปได้

และทั้งสามคนนี้กลับหายตัวไปกลางอากาศต่อหน้าของเขา ซึ่งหายไปเหมือนกับอินชิงเสวียน

หรือว่าเจอผี?

จากนั้นเขาก็ส่ายหน้าอีกครั้ง

เขาไม่เคยเชื่อเรื่องผีสาง หากบนโลกนี้มีผีอยู่จริงๆ ผู้คนที่ตายไปแล้วนับพันปีก็คงยืนอยู่เต็มดินแดนจงหยวนไปหมดแล้วสิ คนที่ถูกเขาฆ่าตายยิ่งมีจำนวนไม่น้อย หากวิญญาณมีอยู่จริงๆ คงตามมาแก้แค้นเขานานแล้ว จะต้องมีกลไกซ่อนอยู่อย่างแน่นอน

“ทหาร ตรวจค้นที่นี่อย่างละเอียด คนพวกนี้คงหนีไปได้ไม่ไกล และค้นหาละแวกใก
Locked Chapter
Continue to read this book on the APP

Related chapters

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 609 มิตรภาพของผู้มีคุณธรรมไม่มีผลประโยชน์แอบแฝง

    ณ พระราชวังอินชิงเสวียนมองเห็นสัญญาณ จึงลุกขึ้นนั่งทันทีนางรู้ว่าหวังซุ่นอยู่ในมิติของเย่จิ่งหลาน เขาจะต้องคิดหาวิธีหนี จึงได้เปิดเผยตัวตนของหวังซุ่นออกมาแต่เพียงแค่ไม่กี่วินาที สัญญาณนั้นก็หายไปทว่ามันก็นานมากพอที่อินชิงเสวียนจะจำตำแหน่งได้อย่างคร่าวๆ“ไปเรียกฉินเทียนและหลี่ชีเข้ามา”เย่จิ่งอวี้กำลังเข้าราชสำนัก หากไม่มีความจำเป็น นางก็ไม่อยากไปรบกวน จึงให้ฉินเทียนและหลี่ชีนำลูกน้องจำนวนหนึ่งไปตรวจดูบริเวณใกล้ๆ ก่อนหลังจากนั้นไม่นาน ฉินเทียนและหลี่ชีก็ก้มหัวเดินเข้ามาทั้งสองคนคุกเข่าอยู่ไกลๆ อยู่ที่หน้าประตู ไม่กล้าเข้าไปใกล้เพราะเป็นห้องนอนของกุ้ยเฟย แม้ว่าจะทำงานร่วมกับอินชิงเสวียนอยู่หลายครั้ง แต่กลับยังไม่กล้ารีบร้อนอินชิงเสวียนพูดอย่างอ่อนโยนว่า “ไม่ต้องมากพิธี พวกเจ้าลุกขึ้นเถอะ”ฉินเทียนและหลี่ชีจึงลุกขึ้นยืน และก้มหน้าถามว่า “กุ้ยเฟยมีคำสั่งอะไรพ่ะย่ะค่ะ?”อินชิงเสวียนพูดว่า “พวกเจ้านำลูกน้องสักจำนวนหนึ่งไปในระยะสามลี้จากเมืองเฉิงหนาน เพื่อตรวจสอบดูว่าละแวกใกล้เคียงมีคนต่างชนเผ่าหรือไม่ รวมทั้งบ้านที่ทิ้งว่าง จำไว้ว่าอย่าเข้าไปตรวจในบ้าน เพียงเรียกเฉยๆ ก็พอ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 610 ความฝันของอินชิงเสวียน

    “ฟางรั่ว!”กวนเซี่ยวตะโกนเสียงดัง ฟางรั่วก็หายไปไม่เห็นแม้แต่เงาความโกรธประดังเข้ารุมเร้าหัวใจ เลือดก็กระอักออกจากปากในระหว่างที่เขาล้มคลุกลงบนพื้น มือข้างหนึ่งเข้ามาจับเขาไว้กวนเซี่ยวผ่อนคลายลง และเงยหน้ามอง“พี่สิงอวิ๋น”อินสิงอวิ๋นปล่อยมือ และถามด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “สหายกวนจะไปที่ใด จะไปพบหน้าจอมโจรนั่นใช่หรือไม่?”กวนเซี่ยวไม่ค่อยกล้าเผชิญหน้ากับเขา เพราะเขาเอาน้องสาวของผู้อื่นมาทำข้อตกลง เขาจึงเบี่ยงสายตาไปอีกด้าน และพูดเสียงเบาว่า “ไม่ใช่ ข้าเพียงออกมาเดินเล่นเท่านั้น”อินสิงอวิ๋นมองเขาด้วยสีหน้าที่เคร่งขรึม และพูดเสียงเข้มว่า “สหายกวน ข้าหวังว่าเจ้าจะรู้ผิดรู้ชอบ อย่าทำเรื่องที่ผิดต่อผู้อื่นและไม่เกิดผลดีต่อตัวเอง ข้าถูกอาซือหลานหลอกลวงมาแล้วหนึ่งครั้ง ครั้งนี้ต้องการคิดบัญชีกับเขา หากเจ้ารู้ที่อยู่ของเขา หวังว่าเจ้าจะบอกข้าได้”“ข้าไม่รู้จริงๆ ข้าเองก็อยากตามหาเขาเพื่อช่วยหญิงงามคนรู้ใจของข้า และหวังว่าสหายอินจะช่วยข้าได้อีกแรง”กวนเซี่ยวพยายามระงับกลิ่นคาวที่พุ่งเข้ามาในลำคอ และมีการอ้อนวอนอยู่ในน้ำเสียงของเขาอินสิงอวิ๋นไม่อยากถามเรื่องของกวนเซี่ยว ขอเพียงมั่น

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 611 ผิดทำนองคลองธรรม

    สีหน้าของเฟิงเอ้อร์เหนียงเปลี่ยนไปเล็กน้อย คลี่ยิ้มทันทีและพูดว่า “มีป้ายตราคำสั่งหรือไม่”อาซือหลานหยิบป้ายหยกดำออกมาจากมือ เฟิงเอ้อร์เหนียงมองดูแวบหนึ่ง นางอดแปลกใจเสียมิได้ คนผู้นี้อายุน้อยขนาดนี้ แต่เป็นถึงผู้อาวุโสเชียวรึ“มากับข้าสิ”เมื่อมาถึงเรือนหลัง เฟิงเอ้อร์เหนียงพูดด้วยรอยยิ้ม “แม้ว่าหอฮวาเย่ว์ของเราจะรับใช้สำนักเซียวเหยา แต่ร้านก็มีกฎของร้าน เชื่อว่าคุณชายท่านนี้คงทราบดีกระมัง”อาซือหลานหยิบก้อนทองหยวนเป่าขนาดเท่าฝ่ามือออกมา แล้วโยนให้เฟิงเอ้อร์เหนียง“ไม่ต้องพูดมาก ข้าค่อนข้างรีบ”เฟิงเอ้อร์เหนียงรับก้อนทองหยวนเป่าไว้ เหลือบมองเบาๆ แล้วพูดกับอาซือหลาน “หวังว่าคุณชายจะมีเมตตาต่อสาวๆ เรา”นางชี้ไปที่ประตูห้องที่ดีที่สุด อาซือหลานแทบรอไม่ไหวที่จะเดินเข้าไปเจ้าเด็กเปรตเย่จิ่งหลานจู่ๆ ก็หายตัวไป ช่างน่าแปลกมากจริงๆ อาซือหลานไม่แน่ใจว่าเขาได้ออกจากระเบียงแล้วหรือยังไม่ว่าเจ้าเด็กเปรตนั่นจะหนีไปแล้วหรือไม่ก็ตาม การต่อสู้อันดุเดือดก็รออยู่ข้างหน้าหากอินสิงอวิ๋นรู้ว่าตัวเองจับตัวเป่าเล่อเอ่อร์ไว้ เขาต้องลงมือแน่นอน รวมไปถึงเย่จิ่งอวี้ เย่จั้น และองครักษ์เงามากมายในวั

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 612 ข้าคือโมริตะคาวาสึบาเมะ

    เมื่อเย่จิ่งหลานได้ฟังการสนทนาระหว่างทั้งสอง จู่ๆ ก็เกิดความคิดกล้าหาญแวบขึ้นมาในใจทันทีหากตัวเองสวมรอยเป็นคนญี่ปุ่นเหล่านี้...ดูเหมือนหวังซุ่นจะอ่านความคิดเขาออก จึงพูดขึ้นทันควัน “ท่านอ๋องน้อยอย่าพยายามดีกว่า ไอ้บ้าสองคนนี้โหดเหี้ยมอำมหิตมาก ถ้าไม่ใช่เพราะถูกพวกเขาสังเกตเห็นข้อพิรุธ ข้าคงไม่ถูกคว้านท้อง ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่า ท่านอ๋องน้อยไม่มีทักษะวรยุทธ์เลยด้วยซ้ำ”เป่าเล่อเอ่อร์ที่อยู่ข้างๆ ก็พูดเกลี้ยกล่อมอีกคน “รออีกหน่อยเถอะ ประเดี๋ยวก็มีคนมาช่วยเราเอง”เย่จิ่งหลานพูดว่า “แทนที่จะรอคนอื่น ไม่สู้หาทางช่วยตัวเองก่อนดีกว่า อย่างน้อยก็ได้พยายามแล้ว ถึงล้มเหลวก็ไม่น่าเสียดาย อยู่อย่างนี้ต่อไปมันบัดซบจริงๆ ข้าเบื่อจะตายอยู่แล้ว” เขาพูดภาษาญี่ปุ่นกับหวังซุ่นหลายคำ แล้วถามว่า “สำเนียงของข้าเหมือนคนญี่ปุ่นแท้ๆ ไหม”หวังซุ่นยกนิ้วโป้งให้“ที่ท่านอ๋องพูดเหมือนคนญี่ปุ่นมากกว่าข้าอีก”เดิมทีเจ้าหมอนี่ก็รู้จักประจบประแจงอยู่แล้ว ตอนนี้มาติดตามเย่จิ่งหลาน ได้กินของที่ไม่เคยลิ้มลองมาก่อน ใครมีน้ำนมเลี้ยงก็เรียกเป็นแม่ จึงคิดที่จะอยู่ที่นี่ไม่ไปไหนแล้ว เย่จิ่งหลานพูดอย่างไม่เกรงใจ “ตา

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 613 เมื่อศัตรูเผชิญหน้ากันโทสะพลันพลุ่งพล่าน

    “บากะ (โง่เง่า)!”ชายตงหลิวคนหนึ่งตะโกนด่า“ห้ามเจ้าว่าท่านอ๋องน้อยของพวกเราแบบนี้นะ”อาซือหลานพูดภาษาของพวกเขา “แหกตาหมาๆ ของเจ้ามองดูให้ชัดเจน นี่คือฝูอี้อ๋องแห่งต้าโจว จะกลายเป็นท่านอ๋องน้อยของพวกเจ้าได้อย่างไร”เย่จิ่งหลานตะโกนด่า “บากะยาโร่ว (ไอ้พวกโง่) อย่าฟังเขาพูดเหลวไหล ฆ่าเขาซะ”ทั้งสองคนที่ขาดความเฉลียวฉลาดรีบพุ่งพรวดเข้าไปทันที ซัดฝ่ามือใส่อาซือหลานทันทีเย่จิ่งหลานถือโอกาสเข้าไปหลบซ่อนตัวอยู่ในมิติตอนนี้อยู่บนถนน ไม่มีทางที่อาซือหลานจะมานั่งเฝ้าดูเขาอยู่ที่นี่ทุกวัน นี่ก็เท่ากับว่าหลบหนีออกมาได้แล้ว ในเวลาเดียวกันก็ยุยงให้คนโง่สองคนก่อกบฏได้ เป็นผลกำไรล้วนๆ เลยทีเดียวหวังซุ่นยกนิ้วให้เย่จิ่งหลานทันที“ท่านอ๋องร้ายกาจจริงๆ หลอกลวงพวกเขาได้ด้วย”เย่จิ่งหลานยิ้มอย่างภาคภูมิใจและพูดว่า “เรื่องเล็กน้อย”หวังซุ่นถามอีกครั้ง “เหตุใดท่านอ๋องจึงพูดภาษาตงหลิวได้”“คิดว่าเป็นพรสวรรค์พิเศษของข้าก็แล้วกัน แล้วเจ้ามาที่ต้าโจวได้อย่างไร”เย่จิ่งหลานพลางสังเกตสถานการณ์ภายนอก พลางหาเรื่องคุยไปเรื่อยหวังซุ่นถอนหายใจแล้วพูดว่า “อาจารย์ของข้าเป็นคนจงหยวน ปีนั้นเขาข้ามทะเลเป่ย

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 614 สังหรณ์ใจไม่ดี

    ณ ตำหนักจินหวูอินชิงเสวียนกำลังรอเย่จิ่งอวี้เลิกประชุมเช้าในช่วงนี้ นางดื่มน้ำพุวิญญาณ และเช็ดบาดแผลด้วยน้ำพุวิญญาณซึ่งไม่เจ็บ แต่กลับรู้สึกอบอุ่น สุขสบายมากตอนที่เย่จั้นและเย่จิ่งอวี้ได้รับบาดเจ็บทั้งคู่ก็ไปแช่ตัวในน้ำพุวิญญาณ การอาบน้ำไม่ใช่เรื่องยาก แต่สามัญสำนึกทำให้อินชิงเสวียนไม่อาจทดลองได้ง่ายๆนางเปลี่ยนผ้าก๊อซฆ่าเชื้อ แล้วพันแผลใหม่ ทันทีที่นางทำเสร็จ เย่จิ่งอวี้ก็เดินเข้ามาจากด้านนอก“เสวียน‍เอ๋อร์ วันนี้เจ้ารู้สึกอย่างไรบ้าง”“ดีขึ้นมากแล้วเพคะ”อินชิงเสวียนลุกขึ้นยืน ขณะที่กำลังจะพูดเรื่องของหวังซุ่น ก็ได้ยินเสี่ยวอานจื่อพูดจากข้างนอก “พระสนม องครักษ์ฉินและองครักษ์หลี่ต้องการเข้าพบพ่ะย่ะค่ะ”“ให้พวกเขาเข้ามาเร็ว”เย่จิ่งอวี้หรี่ตาลงแล้วถามว่า “มีอะไรรึ เกิดอะไรขึ้น”“หม่อมฉันเห็นตำแหน่งโดยประมาณของหวังซุ่น จึงให้ฉินเทียนกับหลี่ชีออกไปตรวจสอบ ที่พวกเขากลับมาในเวลานี้ คงมีข่าวคราวแน่ๆ”อินชิงเสวียนเล่ากระชับได้ใจความ เล่าสิ่งที่เห็นในกล้องวงจรปิดให้ฟัง เย่จิ่งอวี้ก็พยักหน้า“เป็นเช่นนี้เอง!”ทันทีที่เขาพูดจบ ฉินเทียนและหลี่ชีก็เดินเข้ามา“กระหม่อมถวายบังคมฝ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 615 ความหวาดกลัวของอาซือหลาน

    อินชิงเสวียนขมวดคิ้ว ดุด้วยเสียงทุ้มต่ำ “อย่าเห่าสิ”ทันใดนั้นไป๋เสวี่ยก็ดูเหมือนไม่ค่อยสบายใจ ครางหงิงๆ บนพื้น หันกลับมาอยู่หลายครั้ง แล้วก็เห่าขึ้นอีก จากนั้นก็พลางเห่าพลางเดินถอยหลังอินชิงเสวียนรู้สึกพิศวงงงงวย ไป๋เสวี่ยฉลาดมาก อารมณ์ก็มั่นคงพอสมควร ปกติไม่ค่อยส่งเสียงเช่นนั้น เว้นแต่ต้องการน้ำพุวิญญาณ หรือเมื่อรู้สึกดีใจเป็นพิเศษจึงลุกขึ้นแล้วถามว่า “เจ้าเป็นอะไรไป”ไป๋เสวี่ยส่งเสียงคำรามต่ำๆ ในลำคอ ราวกับพูดอะไรบางอย่าง ดวงตาฉายแววกังวลอยู่บ้าง แถมยังกระดิกหางใหญ่ปุกปุยไม่หยุดยายหลี่และอวิ๋นฉ่ายก็มองหน้ากันเลิ่กลั่กอินชิงเสวียนก้าวไปข้างหน้าอีกก้าว แล้วไป๋เสวี่ยวิ่งออกจากห้องโถงกลาง และยืนส่งเสียงเห่าที่ประตูอินชิงเสวียนขมวดคิ้วเล็กน้อย นางก็รีบเดินตามไปที่ประตู ในขณะที่เจ้าสุนัขก็วิ่งออกจากตำหนักไปอีกอินชิงเสวียนครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดว่า “มันอาจต้องการพาข้าไปที่ไหนสักแห่ง ข้าจะตามไปดูหน่อย พวกเจ้าดูแลเสี่ยว‍หนาน‍เฟิงให้ดีนะ”“แต่สุขภาพของพระสนม...”ยายหลี่วิ่งตามไปด้วยความเป็นห่วง“ไม่เป็นไร ทำตามที่ข้าบอก!”อินชิงเสวียนกระชับเสื้อคลุมกันลมไว้แน่น แล้ววิ่ง

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 616 ตื่นตระหนกเพราะการเปลี่ยนแปลง

    เย่จิ่งอวี้เปลี่ยนกระบวนท่าอย่างรวดเร็ว ปลายกระบี่แตะบนพื้น แล้วคนก็อาศัยจังหวะเหาะหนีไปได้อาซือหลานคว้าได้เพียงความว่างเปล่า แต่มันเป็นเพียงการสับขาหลอก เขาหันหลังกลับทันที แล้วทะยานไปหาเย่จั้นคนตงหลิวที่กำลังดูความตื่นเต้นอดไม่ได้ที่จะถามว่า “ทำไมเจ้าไม่อธิบายต่อแล้วล่ะ”คนตาแดงจ้องมองเข้าไปในวงการต่อสู้ จากนั้นส่ายศีรษะแล้วพูดว่า “ลมปราณของอาซือหลานเปลี่ยนไป การเคลื่อนไหวก็เร็วขึ้นกว่าเดิมหลายเท่า ลำพังแค่ตาของข้า ไม่สามารถจับการเคลื่อนไหวได้แม่นยำอีกแล้ว”อีกคนอดไม่ได้ที่จะถามว่า “ขนาดเจ้ายังมองเห็นไม่ชัดเลยหรือ”“ใช่แล้ว บากะ (โง่เง่า) ทำไมคนจงหยวนถึงเก่งกาจขนาดนี้ ดูเหมือนว่าจักรพรรดิของเราจะข้ามขึ้นเหนือมา ไม่ใช่เรื่องง่ายแล้ว”“ปากหมาๆ อย่าพ่นคำอัปมงคลออกมาสิ จักรพรรดิของเราคือผู้ที่เก่งกาจที่สุดในโลก ตราบใดที่สามารถหาพิณการเวกได้ การจัดการกับพวกเขา ก็ไม่ใช่เรื่องยาก”“บากะ เจ้าอย่าตีหัวข้าบ่อยๆ สิ”คนญี่ปุ่นตาแดงถูกตีอีกครั้ง เอามือปิดหัวอย่างอดไม่ได้ เมื่อพวกเขาเงยหน้าขึ้น แขนเสื้อคลุมสีขาวประดุจหิมะของเย่จั้นก็ถูกย้อมเป็นสีแดง“เสด็จอา!”เมื่อเห็นว่าเย่จั้นได้รับ

Latest chapter

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1468 อย่าได้คืบจะเอาศอก

    “สามวันติดแล้ว ที่ข้าสัมผัสลมปราณของชิงฮุยไม่ได้ หรือว่าเขาจะ...”ที่ด้านบนยอดเขา อินชิงเสวียนหยิบโต๊ะพกพาขนาดเล็กและเบาะที่นั่งสองที่นั่งออกมา ซึ่งบนโต๊ะเต็มไปด้วยน้ำผลไม้และอาหารอร่อยแม้จะบอกว่าออกมาตามหาคน แต่ในเมื่อมีปัจจัยที่อุดมสมบูรณ์เช่นนี้ ทำไมต้องไปทนทุกข์ทรมานโดยไม่จำเป็นล่ะนางหยิบนมพุทราจีนหนึ่งแก้วขึ้นมา แล้วยื่นให้ลั่วสุ่ยชิง“ว่ากันว่าถ้ากินพุทราจีนประจำ จะไม่แก่เร็ว มาลองกัน”ลั่วสุ่ยชิงหยิบขวดโยเกิร์ตขึ้นมาจิบ มันมีรสหวานอมเปรี้ยวและรสชาติค่อนข้างดี ในช่วงไม่กี่วันที่ออกมาข้างนอกกับอินชิงเสวียน สรรหาของมาให้นางกินจนเคยปากหมดแล้ว“เจ้าเป็นผู้หญิงที่แปลกจริงๆ จนป่านนี้แล้ว ยังมีรสนิยมสูงแบบนี้ได้อีก”อินชิงเสวียนเม้มปากเป็นรอยยิ้ม“คนก็เหมือนเหล็ก อาหารก็เหมือนเหล็ก ถ้าไม่กินข้าวสักมื้อจะหิวโหย เมื่อมีปัจจัยที่เพียบพร้อมเช่นนี้แล้ว ย่อมไม่ควรทำให้ตัวเองลำบาก”“ในมิติของเจ้า มีทุกอย่างจริงๆ หรือ”ลั่วสุ่ยชิงรู้แล้วว่าอินชิงเสวียนมีมิติมาด้วย จึงอดไม่ได้ที่จะสนใจใคร่รู้อยู่บ้าง“ประมาณนั้น แต่น่าเสียดายที่คนนอกเข้ามาในมิติของข้าไม่ได้ ไม่อย่างนั้นจะได้ให้เจ้าเ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1467 ฉันอยากกลับไป

    อินชิงเสวียนดึงมือออก“คุณจำคนผิดแล้ว ฉันไม่ใช่เพื่อนบ้านเดียวกันของคุณ แต่เป็นลูกสาวของแม่ทัพแห่งต้าโจว อินชิงเสวียน!”“คุณ คือเจ้าของร่างเดิมของอินชิงเสวียน?”เย่จิ่งหลานมองเธอขึ้นๆ ลงๆ ดวงตาเต็มไปด้วยความประหลาดใจ รูปร่างเหมือนกันทุกประการ แต่หากสังเกตให้ดี จะเห็นได้ว่าเพื่อนบ้านเดียวกันของเขามีพลังความมุ่งมั่นที่ไม่ยอมแพ้ ส่วนผู้หญิงตรงหน้าเขาดูอ่อนโยนและอ่อนแอกว่ามากในเวลาเดียวกัน เขาก็รู้ด้วยว่าทำไมเขาถึงดูคุ้นตากับเด็กน้อยคนนี้ ตอนที่ตัวเองเพิ่งข้ามภพไปยังต้าโจว เขาก็มีรูปร่างหน้าตาลักษณะเหมือนแบบนี้เลยความทรงจำก็เหมือนกับคลื่นทะเล เป็นคลื่นที่ซัดมาระลอกแล้วระลอกเล่า ในที่สุดเย่จิ่งหลานก็ค่อยๆ จำทุกสิ่งที่เกิดขึ้นในต้าโจวได้ทุกคนช่วยกันต่อต้านชิงฮุยในหุบเขาเชื่อมเมฆา แต่แล้วเขาก็กลับมาในเวลานี้ และกลับมาโดยที่ร่างกายสมบูรณ์ครบถ้วนเมื่อนึกถึงความชั่วร้ายและความเจ้าเล่ห์เพทุบายของชิงฮุย เย่จิ่งหลานก็รู้สึกสับสนอย่างอธิบายไม่ถูก“หรือว่าผมข้ามภพมาได้เพราะป้ายตราคำสั่งนี้ ผมต้องรีบกลับไปโดยเร็วที่สุด”เมื่อเห็นท่าทางกังวลอย่างกะทันหันของเย่จิ่งหลาน อินชิงเสวียนก็ตระหนัก

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1466 ความปรารถนาในใจสำเร็จแล้ว

    ไม่ว่าซูเยี่ยจะจำอดีตกับเขาหรือไม่ก็ตาม มันก็ไม่สำคัญสำหรับเย่จิ่งหลานอีกต่อไปแล้วสวรรค์ทำให้เขาได้เจอผู้หญิงคนนี้อีกครั้ง อาจเป็นเพราะต้องการให้เขาได้เห็นโฉมหน้าที่แท้จริงของซูเยี่ย ผู้หญิงประเภทนี้ จริงๆ แล้วมันไม่จำเป็นต้องให้เขาเสียเวลาด้วยซ้ำเขาเพิ่งอายุได้ยี่สิบแปดปี อนาคตยังอีกยาวไกล ซูเยี่ยเป็นเพียบใบไหม้ที่ร่วงไปจากชีวิตของเขา ไม่มีความสำคัญอะไรเลยเย่จิ่งหลานกระตุกมุมปากขึ้นยิ้ม ค่อยๆ รู้สึกปลอดโปร่งใจเขาเดินออกจากสวนสาธารณะอย่างช้าๆ และทันใดนั้นก็มีอีกคำถามหนึ่งผุดขึ้นมาใบหน้านี้ไม่ใช่หน้าตาเดิมของเขา ใครเป็นคนทำศัลยกรรมให้เขา?พลังในร่างกาย มาจากไหนกันแน่แล้วผู้หญิงที่อยู่ในหัวของเขา เป็นใครกันแน่หรือว่าเขาฝึกฝนจนสำเร็จเคล็ดวิชาลับบางอย่าง และผู้หญิงคนนั้นคือแก่นวิญญาณของเขา?เย่จิ่งหลานดึงขอบเอวกางเกงของเขาโดยไม่รู้ตัว ไอ้นั่นยังคงอยู่ตรงนั้น ไม่อย่างนั้นเขาคงคิดว่าตัวเองฝึกฝนวิชาจนกลายเป็นตงฟางปุ๊ป้ายในเรื่องกระบี่เย้ยยุทธจักรแล้วแต่การมีสิ่งเหล่านี้จะมีประโยชน์อะไร เอามาใช้กินใช้ดื่มไม่ได้ ตอนนี้ท้องของเขาร้องโครกคราก แต่ไม่มีเงินอยู่ในกระเป๋าเลยขณะที่

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1465 คนแพศยามักจะสำออยแบบนี้แหละ

    ชายคนนั้นหยิบกระดาษทิชชู่ออกจากกระเป๋า เช็ดนิ้วด้วยความรังเกียจ แล้วเดินจากไปโดยไม่หันกลับมามองซูเยี่ยนั่งบนพื้นร้องไห้เสียงดัง ความฝันที่จะแต่งเข้าไปอยู่ในครอบครัวที่ร่ำรวย ได้พังทลายอีกครั้งมือที่มีเห็นข้อต่อเด่นชัดยื่นออกไปต่อหน้าซูเยี่ยซูเยี่ยเงยหน้าขึ้น แล้วก็เห็นใบหน้าหล่อเหลาราวกับดาราทันทีสิ่งที่ทำให้เธอตื่นเต้นยิ่งกว่านั้นคือ ชายคนนั้นสวมเสื้อผ้าแบรนด์ดัง ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเขามีฐานะที่ดีหากสามารถเกาะเกี่ยวลูกเศรษฐีที่ทั้งหล่อทั้งรวยแบบนี้ได้ ถูกตบหน้าแค่ครั้งเดียวจะเป็นไรไป บางทีนี่อาจเป็นความยากลำบากทั้งหมดที่สวรรค์ส่งมาให้ ที่มาอยู่ที่นี่ ก็เพื่อให้ได้เจอกับคนที่ดีกว่าเธอสูดจมูก จับมือนั้นไว้ เพิ่งยืนขึ้นมาได้ครึ่งตัว มือก็คลายออกซูเยี่ยเสียการทรงตัว และล้มลงกับพื้นอีกครั้งเธอมองเย่จิ่งหลานด้วยความประหลาดใจ ไม่เข้าใจว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่เย่จิ่งหลานยกมุมปากขึ้น คุกเข่าลงต่อหน้าเธอ ถามด้วยรอยยิ้มคล้ายไม่ยิ้ม “รู้สึกยังไงที่ถูกทิ้ง?”“อะไรนะ...คุณหมายความว่ายังไง?”ซูเยี่ยถามด้วยเสียงต่ำ ดวงตาสีแดงทั้งคู่ ทำให้เขาดูมีเสน่ห์มากกว่าเมื่อก่อนนี่ไม่ใช่ฉากที่ป

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1464 แพศยาอย่างเธอ

    เย่จิ่งหลานโบกมือ ประตูก็เปิดออกแสงจากด้านนอกประตูส่องเข้าไปในห้องรังสีวินิจฉัย ทุกคนก็เห็นหลี่ไห่ตงนอนอยู่บนพื้นทันที และมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอยภัยนอนระเกะระกะอยู่ข้างๆชายหนุ่มรูปหล่อคนนี้เดินออกไปโดยไม่มีร่องรอยเลือด หรือฝุ่นผงบนร่างกายเลยทุกคนก้าวถอยหลัง มองดูเย่จิ่งหลานด้วยสีหน้าหวาดกลัวเย่จิ่งหลานเดินขึ้นไปที่ลิฟต์โดยไม่หรี่ตามองในช่วงที่เขาถูกบีบให้ออกจากโรงพยาบาลระดับตติยภูมิ แต่ละนาทีแต่ละวินาที เขามักจะจินตนาการถึงการทุบตีหลี่ไห่ตงอย่างรุนแรง ได้ระบายความโกรธ วันนี้ ในที่สุดเขาก็ทำได้แล้ว สำหรับสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต เย่จิ่งหลานไม่อยากคิดอะไรมากเขารีบออกจากโรงพยาบาล มาที่สวนสาธารณะเล็กๆ ใกล้ ๆ มีชายชราคนหนึ่งที่อาบแดดอยู่ เย่จิ่งหลานเหลือบมองเขา และนั่งอีกด้านหนึ่งทั้งสองคนไม่ได้คุยกัน แค่พบกันโดยบังเอิญ ต่างไม่รู้จักกัน และไม่จำเป็นต้องพูดคุยกันเขาค่อยๆ ผ่อนคลายร่างกาย เอนหลังพิงเก้าอี้ หรี่ตาเหมือนที่ชายชราทำ ความอบอุ่นของดวงอาทิตย์ที่ส่องบนร่างกายของเขาช่างทำให้รู้สึกผ่อนคลายจริงๆหลังจากสงบสติอารมณ์ได้แล้ว เย่จิ่งหลานก็คิดถึงเรื่องหนึ่งขึ้นมาพลังลมป

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1463 ฉันชื่อเย่จิ่งหลาน

    ความเจ็บปวดจากไฟฟ้า ทำให้เย่จิ่งหลานกลับมามีสติอีกครั้งหลี่ไห่ตงซ่อนตัวอยู่ข้างหลังเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย เขาไออย่างบ้าคลั่ง และมองไปที่เย่จิ่งหลานด้วยสีหน้าแห่งความเกลียดชัง“ทุบตีมัน ทุบตีมันให้ตาย ตีมันตายแล้วฉันจะรับผิดชอบเอง”เมื่อเห็นว่าเย่จิ่งหลานไม่ขัดขืน เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยก็ยิ่งมีความสุขมากขึ้น กระแสไฟฟ้าสีฟ้าพุ่งใส่ร่างของเย่จิ่งหลาน ทำให้ห้องรังสีวินิจฉัยที่มืดมิดสว่างไสวขึ้นมาเย่จิ่งหลานหลับตา ใช้ประสาทสัมผัสตรวจสอบอย่างระมัดระวัง และยกมุมริมฝีปากขึ้นเล็กน้อยเขาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับร่างกายของตัวเอง แต่สัมผัสได้ ความรุนแรงเท่านี้ไม่สามารถเอาชีวิตเขาได้เลย รู้สึกเหมือนกับถูกแมลงต่อยสองครั้ง ถ้าเขาจะโดนฟ้าผ่า ก็ถือว่าเป็นการได้สัมผัสประสบการณ์ล่วงหน้าเป็นเวลาสิบวินาทีเต็มๆ เขาค่อยๆ ลืมตาขึ้น ดวงตาเรียวแคบของเขาเหมือนถูกรายล้อมไปด้วยงูทองคำพ่นไฟ ดุดันน่าเกรงขาม แม้ในความมืดมิดเช่นนี้ ก็สามารถมองเห็นใบหน้าอันน่าเกลียดของทุกคนได้ชัดเจนเขาอาจจะฆ่าคนไม่ได้ แต่สามารถทุบตีพวกเขาได้ และตราบใดที่พวกเขายังหายใจอยู่ ก็ไม่ถือว่าตายเมื่อนึกถึงสิ่งนี้ เขาก็ค่อ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1462 ปีศาจในชุดดำ

    “แกเป็นใคร ทำไมถึงมาทำร้ายฉัน”หลี่ไห่ตงเมื่อถูกทุ่มลงพื้นก็กรีดร้องอย่างน่าเวทนา ชายหนุ่มรูปงามตรงหน้านี้ เป็นราวกับเจ้าแห่งความตายในนรก ทำให้เขารู้สึกหวาดผวาอย่างสุดซึ้งจนแทบจะรู้สึกได้ถึงความกลัวที่มาจากจิตวิญญาณเขาไม่สงสัยเลยว่าชายคนนี้จะกล้าฆ่าเขาจริงๆหรือไม่“ฉันไม่รู้จักแกเลย แกจำคนผิดหรือเปล่า หรือคนในครอบครัวของแกอยู่ในโรงพยาบาลที่นี่ ถ้าขาดเงิน ฉันช่วยแกแก้ปัญหาได้”หลี่ไห่ตงรู้สึกว่าตัวเองยังพอมีหวัง จึงพยายามอย่างเต็มที่ที่จะสร้างความประทับใจให้กับชายผมดำยุ่งเหยิงตรงหน้าเย่จิ่งหลานมองไปที่หลี่ไห่ตงอย่างเย็นชา ความทรงจำในอดีตก็หลั่งไหลกลับมาเพื่อให้ได้ทำงานในโรงพยาบาลต่อ ถึงจะนอนดึกกว่าหมา ตื่นเช้ากว่าไก่ ทำงานหนักเยี่ยงทาส ทำงานหนักมาสามปีก็ตาม แต่เพราะบังเอิญไปเห็นสิ่งที่ไม่ควรเห็น จึงถูกส่งไปยังโรงพยาบาลเล็กๆ แห่งหนึ่งที่ตั้งแต่เช้าจรดค่ำก็ไม่เจอใคร การทำงานหนักและค่าตอบแทนทั้งหมดของเขาถูกทำลายลงเพราะไอ้สารเลวยิ่งกว่าหมาคนนี้ เขากลับอยากมีชีวิตอยู่งั้นเหรอ ในโลกนี้ จะมีเรื่องดีๆ แบบนั้นได้อย่างไรโลกไม่ยุติธรรม เช่นนั้นก็ให้เขาได้ผดุงความยุติธรรม จัดการสัตว์ร้าย

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1461 เศษสวะ

    ไอ้ชาติชั่วนี่ ใช้อุบายเก่าๆ ของเขาอีกแล้วเย่จิ่งหลานเหลือบมองแพทย์หญิง แม้ว่าเธอจะสวมหน้ากากปลอดเชื้อสีเขียว แต่ยังคงมองเห็นความไม่เต็มใจและความลังเลในดวงตาที่เหนื่อยล้าของเธอทั้งสองเดินสวนทางกัน แพทย์หญิงก็เดินเข้าไปในห้องรังสีวินิจฉัยข้างๆ เย่จิ่งหลานอุ้มเด็กเดินเข้าไปในห้องผ่าตัด แต่ยังคงมองย้อนกลับไปที่แพทย์หญิงคนนั้น จากนั้นก็ได้ยินเสียงคลิก ซึ่งเป็นเสียงล็อคประตู“เด็กคนนี้ได้รับบาดเจ็บที่กระดูกหน้าอก ขาทั้งสองข้างก็ถูกทับ”เย่จิ่งหลานอธิบายอาการของเด็กสั้นๆ จากนั้นรีบเดินไปที่ห้องรังสีวินิจฉัย ดึงที่จับประตูบานใหญ่ แต่สุดท้ายก็ไม่ได้ดึงให้เปิดออกเมื่อนึกถึงไอ้คนชาติชั่วคนนั้นที่โรงพยาบาลเดิมใช้เส้นสายสารพัด ทำเหมือนกับว่าตัวเองเป็นแค่หมา สุดท้ายยังถูกเขาส่งไปยังโรงพยาบาลชุมชนที่อยู่ห่างไกลที่ไม่มีโอกาสก้าวหน้า เขาก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกโกรธเขาออกแรง รู้สึกว่ามีแรงแปลกๆ ออกมาจากจุดตันเถียน ไปถึงท่อนแขนของเขาในทันที จากนั้นเขาก็ได้ยินเสียงกึก ประตูที่ถูกล็อคก็หักแกเป็นสองท่อนหลี่ไห่ตงกำลังจะกอดแพทย์หญิงคนนั้นทำเรื่องงามไส้ มีสายตามองจากข้างนอกเข้าไป อีกทั้งเรือนผมยาวส

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1460 ความคิดชั่วร้าย

    ทันใดนั้นก็มีเสียงเบรกดังมาจากด้านหน้าผู้หญิงคนหนึ่งขี่สกู๊ตเตอร์ชนจนล้มกระแทกพื้น เด็กที่อยู่ข้างหลังก็กระเด็นห่างออกไปหลายเมตรเช่นกันหน้าที่ของแพทย์ทำให้เย่จิ่งหลานเหาะไปข้างหน้า กระโดดไปหลายสิบเมตรในก้าวเดียว และลงจอดต่อหน้าผู้หญิงคนนั้นรถที่ผ่านไปมาต่างก็อึ้งกันไปหมด นี่กำลังถ่ายหนัง หรือเรื่องจริง?คนนี้ไม่มีสายสลิงผูกอยู่บนตัวนั้นา แล้วทำไมเขาถึงเหาะได้ไกลขนาดนี้ในคราวเดียวล่ะ?เย่จิ่งหลานเองก็สะดุ้งนี้...มันเป็นไปได้อย่างไรเป็นวรยุทธ์งั้นหรือเขาไม่มีเวลาคิด ก้มลงห้ามเลือดของผู้หญิงคนนั้นทันที กลิ่นเลือดปะทะเข้าจมูกของเขา หัวใจพลันสั่นขึ้นมาเล็กน้อยดูเหมือนมีบางอย่างตื่นขึ้นมา ไฝแดงระหว่างคิ้วก็สว่างวาบขึ้นเล็กน้อยมือของเขานิ่งค้าง จากนั้นเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์หลายคนก็วิ่งเข้ามา“คุณคนนี้ คุณเป็นหมอเหรอ”เย่จิ่งหลานพยักหน้าโดยไม่รู้ตัว“ฉันเป็นศัลยแพทย์”คนที่ดูเหมือนพยาบาลกล่าวว่า “คนไข้ได้รับบาดเจ็บสาหัส คุณช่วยตามพวกเราไปที่รถพยาบาล ช่วยรักษาฉุกเฉินได้ไหม”เย่จิ่งหลานสูดหายใจเข้าลึกๆ“ได้”เขาก้าวเข้าไปในรถพยาบาล ผู้หญิงและเด็กถูกพาไปที่เตียงในรถพยาบาล

DMCA.com Protection Status