Home / รักโบราณ / สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์ / บทที่ 615 ความหวาดกลัวของอาซือหลาน

Share

บทที่ 615 ความหวาดกลัวของอาซือหลาน

Author: ม่อเยี่ยน
last update Last Updated: 2024-04-19 16:50:58
อินชิงเสวียนขมวดคิ้ว ดุด้วยเสียงทุ้มต่ำ “อย่าเห่าสิ”

ทันใดนั้นไป๋เสวี่ยก็ดูเหมือนไม่ค่อยสบายใจ ครางหงิงๆ บนพื้น หันกลับมาอยู่หลายครั้ง แล้วก็เห่าขึ้นอีก จากนั้นก็พลางเห่าพลางเดินถอยหลัง

อินชิงเสวียนรู้สึกพิศวงงงงวย ไป๋เสวี่ยฉลาดมาก อารมณ์ก็มั่นคงพอสมควร ปกติไม่ค่อยส่งเสียงเช่นนั้น เว้นแต่ต้องการน้ำพุวิญญาณ หรือเมื่อรู้สึกดีใจเป็นพิเศษ

จึงลุกขึ้นแล้วถามว่า “เจ้าเป็นอะไรไป”

ไป๋เสวี่ยส่งเสียงคำรามต่ำๆ ในลำคอ ราวกับพูดอะไรบางอย่าง ดวงตาฉายแววกังวลอยู่บ้าง แถมยังกระดิกหางใหญ่ปุกปุยไม่หยุด

ยายหลี่และอวิ๋นฉ่ายก็มองหน้ากันเลิ่กลั่ก

อินชิงเสวียนก้าวไปข้างหน้าอีกก้าว แล้วไป๋เสวี่ยวิ่งออกจากห้องโถงกลาง และยืนส่งเสียงเห่าที่ประตู

อินชิงเสวียนขมวดคิ้วเล็กน้อย นางก็รีบเดินตามไปที่ประตู ในขณะที่เจ้าสุนัขก็วิ่งออกจากตำหนักไปอีก

อินชิงเสวียนครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดว่า “มันอาจต้องการพาข้าไปที่ไหนสักแห่ง ข้าจะตามไปดูหน่อย พวกเจ้าดูแลเสี่ยว‍หนาน‍เฟิงให้ดีนะ”

“แต่สุขภาพของพระสนม...”

ยายหลี่วิ่งตามไปด้วยความเป็นห่วง

“ไม่เป็นไร ทำตามที่ข้าบอก!”

อินชิงเสวียนกระชับเสื้อคลุมกันลมไว้แน่น แล้ววิ่ง
Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App

Related chapters

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 616 ตื่นตระหนกเพราะการเปลี่ยนแปลง

    เย่จิ่งอวี้เปลี่ยนกระบวนท่าอย่างรวดเร็ว ปลายกระบี่แตะบนพื้น แล้วคนก็อาศัยจังหวะเหาะหนีไปได้อาซือหลานคว้าได้เพียงความว่างเปล่า แต่มันเป็นเพียงการสับขาหลอก เขาหันหลังกลับทันที แล้วทะยานไปหาเย่จั้นคนตงหลิวที่กำลังดูความตื่นเต้นอดไม่ได้ที่จะถามว่า “ทำไมเจ้าไม่อธิบายต่อแล้วล่ะ”คนตาแดงจ้องมองเข้าไปในวงการต่อสู้ จากนั้นส่ายศีรษะแล้วพูดว่า “ลมปราณของอาซือหลานเปลี่ยนไป การเคลื่อนไหวก็เร็วขึ้นกว่าเดิมหลายเท่า ลำพังแค่ตาของข้า ไม่สามารถจับการเคลื่อนไหวได้แม่นยำอีกแล้ว”อีกคนอดไม่ได้ที่จะถามว่า “ขนาดเจ้ายังมองเห็นไม่ชัดเลยหรือ”“ใช่แล้ว บากะ (โง่เง่า) ทำไมคนจงหยวนถึงเก่งกาจขนาดนี้ ดูเหมือนว่าจักรพรรดิของเราจะข้ามขึ้นเหนือมา ไม่ใช่เรื่องง่ายแล้ว”“ปากหมาๆ อย่าพ่นคำอัปมงคลออกมาสิ จักรพรรดิของเราคือผู้ที่เก่งกาจที่สุดในโลก ตราบใดที่สามารถหาพิณการเวกได้ การจัดการกับพวกเขา ก็ไม่ใช่เรื่องยาก”“บากะ เจ้าอย่าตีหัวข้าบ่อยๆ สิ”คนญี่ปุ่นตาแดงถูกตีอีกครั้ง เอามือปิดหัวอย่างอดไม่ได้ เมื่อพวกเขาเงยหน้าขึ้น แขนเสื้อคลุมสีขาวประดุจหิมะของเย่จั้นก็ถูกย้อมเป็นสีแดง“เสด็จอา!”เมื่อเห็นว่าเย่จั้นได้รับ

    Last Updated : 2024-04-19
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 617 สังหารโหดอาซือหลาน

    อาซือหลานและเย่จั้นก็รู้สึกอึดอัดเช่นกัน ลมปราณของทั้งสองผันผวน ซึ่งเห็นได้ชัดว่าได้รับผลกระทบจากรัศมีของอีกฝ่ายเช่นกัน“ท่านคือใคร”เมื่อได้ยินเขาพูดถึงคำว่าเซี่ยว จู่ๆ เย่จิ่งอวี้ก็นึกถึงตราหยกที่อินชิงเสวียนเก็บได้บนนั้นมีตัวอักษรจีนคำว่าเซี่ยวสลักอยู่ด้วยหรือว่าชายชราคนนี้มีความเกี่ยวข้องกับตราหยกของหอแห่งเสียงศักดิ์สิทธิ์?ผู้คนบนท้องฟ้าก้มศีรษะลงเล็กน้อย มองลงมาด้วยสายตาเย่อหยิ่ง ราวกับกำลังมองมดปลวกก็ไม่ปาน“เจ้ายังกล้าถามข้าว่าข้าเป็นใคร ถ้าไม่ใช่เจ้า...”ชายชราพูดครึ่งประโยค จากนั้นก็กลืนคำพูดตัวเองเขาแค่นเสียงหึอย่างเย็นชาและพูดว่า “รอให้ข้าจัดการกับขยะนี่ก่อน แล้วค่อยเก็บกวาดเจ้า”ทันทีที่สะบัดนิ้ว ท่อสีดำก็มาจรดริมฝีปาก มีเสียงดนตรีแปลกๆ ดังออกมาจากท่อสีดำ ทันใดนั้นทุกคนก็รู้สึกปวดหัวอย่างรุนแรงฟางรั่วที่ถูกทำลายวรยุทธ์ ไม่มีความสามารถในการต้านทาน ในเวลานี้นางหน้ามืดตามัว และเป็นลมล้มลงกับพื้นเย่จิ่งอวี้กับเย่จั้นก็รู้สึกอึดอัดเช่นกัน รีบนั่งลงบนพื้น และหมุนเวียนกำลังภายในเพื่อต่อต้านคนญี่ปุ่นสองคนนั้นก็เหงื่อแตกพลั่ก ชายชราคนนี้โจมตีโดยไม่เลือกหน้าจริงๆ

    Last Updated : 2024-04-19
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 618 ผู้แข็งแกร่งที่อยู่เหนือกฎแห่งสวรรค์

    เจวี๋ยอิ่งตกใจมาก ตะโกนเรียกฝ่าบาท และรีบรุดพุ่งเข้าไปพร้อมกับกลุ่มองครักษ์เงาสำหรับคนธรรมดาทั่วไป พวกเขาเหล่านี้นับเป็นยอดฝีมือจริงๆ แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าชายชราคนนี้ พวกเขาเป็นเหมือนมดปลวกที่คิดจะสั่นคลอนต้นไม้ใหญ่ เป็นตั๊กแตนตำข้าวที่พยายามขวางรถ ไม่สามารถตอบโต้ได้ด้วยซ้ำชายชราโบกแขนเสื้อ ทุกคนก็ล้มระเนระนาดลงกับพื้นราวกับถูกจี้สกัดจุด เย่จั้นตกตะลึง รีบคุกเข่าลงสามารถปราบหน่วยองครักษ์เงาได้หลายสิบคนในคราวเดียว วรยุทธ์ของคนผู้นี้เรียกได้ว่าลึกล้ำอย่างไม่อาจหยั่งรู้ได้“ผู้อาวุโสโปรดเมตตาด้วย จิ่งอวี้คือเจ้าผู้ครองแคว้น ถ้าผู้อาวุโสต้องการเลือด สามารถใช้เลือดของผู้เยาว์แทนได้”“เจ้าคิดว่าเจ้าเป็นใคร กล้าดีอย่างไรมาเจรจาข้อตกลงกับข้า”ชายชราโบกแขนเสื้อ ร่างของเย่จั้นก็ลอยละลิ่วออกไปทันทีต่อหน้าผู้แข็งแกร่งที่อยู่เหนือกฎแห่งสวรรค์เช่นนี้ แม้ว่าเขาจะพยายามอย่างเต็มที่ แต่ก็ไม่สามารถขยับตัวได้แม้แต่น้อยเย่จั้นล้มลงกับพื้น ทันใดนั้นก็รู้สึกหมดหนทางยิ่งกว่านั้นชายชราคนนี้ดูเหมือนจะไร้เหตุผล ต้องทำอย่างไรดีนะเย่จิ่งอวี้ก็ทั้งกังวลทั้งเดือดดาลเช่นกัน เขาคิดว่าชายชรามาที่นี่เพ

    Last Updated : 2024-04-19
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 619 ปกป้องภรรยาเป็นหน้าที่ของเขา

    อินชิงเสวียนกัดฟัน คิดในใจว่า ถ้าทุ่มสุดตัวแล้ว จะประสบความสำเร็จหรือไม่ก็ต้องลองดู การนั่งรอความตายไม่ใช่ลักษณะของนางนางค่อยๆ ยืนขึ้น ลูกตาขาวตัดกับตาดำชัดเจนมองตรงไปยังชายชราที่สวมหน้ากากโดยไม่หลบเลี่ยงแม้แต่น้อยเสียงนั้นแจ่มชัดราวกับน้ำพุ แจ่มแจ้งและเยือกเย็น ผ่านเข้าสู่หูของชายชราที่สวมหน้ากากทีละคำ“ข้าจะไม่ถอย ขอให้ผู้อาวุโสจากไปเถอะ แม้ว่าเราจะไม่ใช่ชาวยุทธ์ แต่ก็ใช่ว่าจะไร้พลังป้องกันตัวเอง ถ้าขืนผู้อาวุโสยังบีบบังคับต่อไป ผู้เยาว์จะไม่เกรงใจแล้ว”ชายชราหัวเราะร่า เหมือนจะชื่นชมอินชิงเสวียนมาก“แม่หนูน้อยพูดจาใหญ่โตดีนี่ งั้นขอข้าดูหน่อย ว่าเจ้าจะไม่เกรงใจอย่างไร”“เสวียน‍เอ๋อร์ อย่าสู้กับเขา”เย่จิ่งอวี้บังคับตัวเองให้หยิบกระบี่ขึ้นมา แต่รู้สึกว่าร่างกายอ่อนแอลง และนั่งแหมะลงบนพื้นอีกครั้งสถานการณ์ของเย่จั้นก็ไม่ได้ดีไปกว่ากันมากนัก เสื้อสีขาวราวกับหิมะถูกย้อมเป็นสีแดงฉาน ราวกับดอกไม้ที่กำลังบาน ซึ่งดูน่าตกใจยิ่งนักเขาไม่มีกำลังเช่นกัน แต่เมื่อใดก็ตามที่เขาเคลื่อนไหวได้ เขาจะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อปกป้องเย่จิ่งอวี้ ประการแรกเป็นเพราะความสัมพันธ์ระหว่างอาหลาน ประกา

    Last Updated : 2024-04-19
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 620 จบแล้ว จบสิ้นแล้ว

    เมื่อมองดูแผ่นหลังตระหง่านผึ่งผายกำยำ ที่จู่ๆ ก็หดเล็กลง หัวใจของอินชิงเสวียนคล้ายจะถูกมือใหญ่ที่มองไม่เห็นคว้าไว้ รู้สึกเจ็บปวดจวนจะหายใจไม่ออก“อาอวี้!”อินชิงเสวียนตะโกนด้วยความเจ็บปวด หยัดกายลุกขึ้นยืนขอบตาแดงก่ำคู่นั้นมองไปยังชายชราที่สวมหน้ากากด้วยความโกรธเกรี้ยว“ผู้อาวุโสกล้าประมือกับข้าอีกสามฝ่ามือหรือไม่ หากข้ามีชีวิตรอดได้ ท่านก็ปล่อยสามีข้าไป”ชายชราที่สวมหน้ากากแค่นเสียงขึ้นจมูกเบาๆ ทันทีที่สะบัดข้อมือ เย่จิ่งอวี้ก็ล้มแน่นิ่งลงกับพื้นราวกับถูกจี้สกัดจุดชายชราหรี่ตามองเขา แล้วพูดด้วยความดูหมิ่น “สตรีในโลกนี้ล้วนมีจิตใจอ่อนโยน แม้ว่าความรักของพวกเจ้าจะสะเทือนฟ้าดิน แต่แล้วอย่างไรล่ะ เมื่ออายุมากขึ้น ผู้ชายก็จะเปลี่ยนใจ โดยเฉพาะผู้ที่เป็นฮ่องเต้ ใจจืดใจดำที่สุด เจ้ารับรองได้หรือว่าเขาจะรักเจ้าไปตลอดชีวิต”อินชิงเสวียนเป็นห่วงเย่จิ่งอวี้ เหลือบมองเขาอย่างไร้สุ้มเสียง กระวนกระวายใจดังไฟแผดเผานางสบตากับชายชราแล้วพูดว่า “นั่นเป็นเรื่องของข้า ขอถามแค่ว่าผู้อาวุโสรับปากหรือไม่”ชายชราที่สวมหน้ากากพูดเบาๆ “ไม่รับปากก็เป็นเรื่องของข้า แม่หนูน้อย เจ้ารีบตื่นรู้เสียเถิด”ก

    Last Updated : 2024-04-19
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 621 ถึงอย่างไรชีวิตนี้ก็ได้มาเปล่าๆ

    เย่จิ่งหลานได้นำอุปกรณ์ออกมาแล้ว เริ่มตรวจรักษาให้เย่จั้น อินชิงเสวียนก็หยิบน้ำพุวิญญาณออกมา ให้หวังซุ่นเป็นคนช่วยประคองให้เย่จั้นดื่มหลังจากผ่านไปราวๆ สิบห้านาที เย่จิ่งหลานก็วางอุปกรณ์ลงเขาพูดด้วยสีหน้าพิศวงงงงวย “เย่จั้นไม่มีอาการบาดเจ็บภายนอก แต่ก็ไม่ได้ทำร้ายอวัยวะภายใน แม้ว่าเขาจะกระอักเลือด แต่ก็ไม่ได้ส่งผลกระทบมากนัก คนผู้นี้ลงมือค่อนข้างแยกแยะได้ทีเดียว บางทีเขา อาจช่วยกระตุ้นการไหลเวียนโลหิตและขจัดภาวะเลือดอุดตันให้ก็ได้”“ไม่เป็นไรจริงหรือ?”เมื่อมองไปที่เสื้อคลุมที่เต็มไปด้วยเลือดสีแดงสดของเย่จั้น อินชิงเสวียนก็ขมวดคิ้วใบหน้าเล็กๆ ของเย่จิ่งหลานพูดด้วยสีหน้าจริงจัง “อย่ากังขาในการวินิจฉัยของแพทย์ นั่นเป็นการดูถูกข้า”ทันทีที่เขาพูดจบ เย่จั้นก็ลืมตาขึ้นเมื่อเห็นมิติที่ไม่คุ้นเคยนี้ เขาก็คว้ากระบี่โดยไม่รู้ตัวทันทีอินชิงเสวียนกล่าวขึ้นทันควัน “ท่านอ๋องไม่จำเป็นต้องตื่นตระหนก ที่นี่คือตำหนักเฉิงเทียน ตอนนี้ท่านอ๋องรู้สึกอย่างไรบ้าง”เย่จั้นตรวจสอบตัวเองอย่างระมัดระวัง และพบว่าไม่มีอาการไม่สบาย“ข้าไม่เป็นไร แล้วฝ่าบาทล่ะ?”เมื่อได้ยินสองคำนี้ อินชิงเสวียนก็หลุบ

    Last Updated : 2024-04-19
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 622 นี่คือพี่สะใภ้ของเจ้า

    อินชิงเสวียนตอบรับเสียงเรียบ “ได้”เย่จั้นได้นำหน้ากากผิวหนังมนุษย์ออกมา ไม่เคยคิดเลยว่าจะได้ใช้ของสิ่งนี้อีกครั้งดูเหมือนว่าสิ่งที่อินชิงเสวียนพูดนั้นถูกต้อง คนอย่างหวังซุ่น ไม่อาจสังหารได้หวังซุ่นไปซ่อนตัวอยู่ข้างๆ เขายังคงกลัวเย่จั้นอยู่เล็กน้อยนี่คือราชาสงครามแห่งต้าโจว ตอนที่เขาเพิ่งเดินทางมาถึงจงหยวน ก็เคยได้ยินชื่อนี้มาก่อนแล้วอินชิงเสวียนนำชุดลำลองของเย่จิ่งอวี้มาให้“ระยะนี้ต้องรบกวนเสด็จอาแล้ว”เย่จั้นยื่นมือออกไปรับ สีหน้าเศร้าหมองเขาและเย่จิ่งอวี้สนิทสนมกันมาตั้งแต่เด็กๆ ทุกครั้งที่กลับเมืองหลวง เขาจะแอบพาเด็กคนนี้ออกไปเล่นนอกวัง บัดนี้ไม่รู้ว่าเขาจะเป็นหรือตาย เมื่อเห็นเสื้อผ้าที่คุ้นเคยเหล่านี้ ทำให้เขานึกถึงเย่จิ่งอวี้ในตอนเด็กที่เดินตามหลังเขาต้อยๆ เขาถอนหายใจเบาๆ แล้วเย่จั้นก็เดินเข้าไปในห้องโถงด้านนอกเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้าเป่าเล่อเอ่อร์ที่ยืนอยู่ข้างๆ บีบนิ้วแน่น แอบมองอย่างอดไม่ได้ที่แท้ที่นี่คือวังหลวงของต้าโจว สวยงามเช่นนี้เอง จากนั้นก็ลอบมองหน้าอินชิงเสวียนอย่างเงียบๆเนื่องจากทุกคนเรียกนางว่ากุ้ยเฟย ฉะนั้นนางต้องเป็นน้องสาวของอินสิงอวิ๋นแน่ๆนา

    Last Updated : 2024-04-20
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 623 มนุษย์ล้วนไม่อาจหลีกหนีคำว่ารักได้

    “แล้ว...พี่ใหญ่อิน...”เมื่อคิดว่าจะได้พบหน้าอินสิงอวิ๋นเร็วๆ นี้ เป่าเล่อเอ่อร์ก็รู้สึกเป็นกันเองมากขึ้น หัวใจพะวักพะวนจู่ๆ อินชิงเสวียนก็จำได้ว่าอินสิงอวิ๋นเคยถามตัวเอง ว่านางรู้จักสตรีคนหนึ่งหรือไม่ ซึ่งสตรีที่เขาพูดถึงคงเป็นเป่าเล่อเอ่อร์แม้ว่าความทรงจำจะสูญหายไป แต่ความประทับใจนี้ยังคงอยู่ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความรักอันลึกซึ้งซึ่งก็เป็นอย่างนั้น มนุษย์ล้วนไม่อาจหลีกหนีคำว่ารักได้ อินชิงเสวียนคิดถึงตัวเองและเย่จิ่งอวี้ นางคลี่ยิ้มอย่างขมขื่นและพูดว่า “ได้พบเจ้า พี่ใหญ่คงจะดีใจมาก ข้าจะกลับไปหาจ้าวเอ๋อร์ก่อน แล้วค่อยไปส่งเจ้ากลับตระกูลอิน”“อื้ม ข้ารู้แล้ว”เสียงของเป่าเล่อเอ่อร์แผ่วเบา ว่าง่ายมากเมื่อมองดูท่าทางอ่อนโยนของนาง อินชิงเสวียนก็ยิ่งรู้สึกชอบในเวลานี้ เย่จั้นได้เดินเข้ามาจากห้องโถงด้านนอกอินชิงเสวียนตกอยู่ในความงุนงงอยู่ครู่หนึ่ง รูปร่างของพวกเขาสองอาหลานดูคล้ายกันมาก หลังจากสวมหน้ากากแล้ว ก็แทบจะแทนกันได้เลยเย่จั้นรู้สึกขัดเขินเล็กน้อย ไอแห้งๆอินชิงเสวียนตื่นจากภวังค์ทันที นางกระแอมและพูดว่า “ถ้าเสด็จอารู้สึกไม่สบาย ก็พักผ่อนในตำหนักเฉิงเทียนเถิด ข้าจะกล

    Last Updated : 2024-04-20

Latest chapter

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1540 สองพระองค์ครองราชย์ จบบริบูรณ์

    ปีที่สามของการครองราชย์ในราชวงศ์ต้าโจวฮองเฮาให้กำเนิดพระธิดา ได้รับพระราชทานนามว่าองค์หญิงเจ๋อเทียน นามว่าเจิน มีชื่อเล่นว่าฝูเอ๋อร์ในเดือนเก้าของปีเดียวกัน เย่จิ่งอวี้และอินชิงเสวียนปกครองร่วมกัน แบ่งกันปกครองบ้านเมืองและการดำรงชีวิตของผู้คน ราษฎรเคารพทั้งสองในฐานะพระองค์ฝ่ายซ้ายและฝ่ายขวา ประวัติศาสตร์ได้บันทึกช่วงเวลานี้ไว้ด้วยถ้อยคำที่งดงามที่สุด และเรียกช่วงเวลานี้อย่างเคารพว่า ยุคที่สององค์ปกครอง!ห้าปีต่อมา เครื่องกำเนิดพลังงานลมเครื่องแรกปรากฏขึ้นด้วยฝีมือความสามารถของชาวต้าโจว ซึ่งก้าวล้ำหน้าสมัยโบราณที่ล้าหลังไปอย่างมากด้วยก้าวที่ยิ่งใหญ่นักเรียนจากทั่วแคว้นได้แสดงความสามารถ พัฒนาสิ่งที่ล้ำหน้าต่างๆ ผ่านความรู้ทางคณิตศาสตร์ ฟิสิกส์ และเคมีใหม่ล่าสุด บุปผานับร้อยบานสะพรั่งพร้อมกัน ก่อให้เกิดยุครุ่งเรืองของราชวงศ์ต้าโจวตอนนี้อาหารไม่ขาดแคลน ราษฎรไม่ต้องทนทุกข์กับความหิวโหยอีกต่อไป ยิ่งไม่มีการอพยพย้ายถิ่นฐาน โครงการคลองส่งน้ำก็สำเร็จลุล่วง ด้วยการคมนาคมสะดวกระหว่างภาคเหนือและภาคใต้ ก็สามารถแลกเปลี่ยนสิ่งที่ต้องการได้ในที่สุด อ่างเก็บน้ำที่สร้างขึ้นยังสามารถเปลี่ยนเส้นท

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1539 เสวียนเอ๋อร์ขอบคุณเจ้านะ

    ตำหนักจินอู๋อินชิงเสวียนอดทนต่อความเจ็บปวดที่ถาโถมเข้ามาราวกับกระแสน้ำ แต่ไม่กล้าโคจรกำลังภายในต้านทานไว้ เพราะกลัวว่าจะทำร้ายลูกของนางเมื่อเห็นนางกัดริมฝีปากล่างแน่น มีเหงื่อไหลอาบหน้า หัวใจของเย่จิ่งอวี้ก็รู้สึกเหมือนถูกมีดคมๆ นับพันทิ่มแทง รู้สึกเจ็บปวดอย่างยิ่ง“ต้องทำอย่างไรถึงจะช่วยบรรเทาความเจ็บปวดของฮองเฮาได้ ต้องปล่อยให้นางเจ็บปวดทนทุกข์เช่นนี้หรือ”หมอตำแยกล่าวอย่างกล้าหาญว่า “สตรีคลอดบุตรก็เป็นเช่นนี้เพคะ อดทนไว้ แล้วจะดีเอง”เย่จิ่งอวี้พูดด้วยความโกรธ “ฮองเฮาของข้าจะเทียบได้กับสตรีทั่วไปได้อย่างไร รีบหาทางบรรเทาความเจ็บปวดของฮองเฮาเดี๋ยวนี้”“ข้าไม่เป็นไร อาอวี้ออกไปก่อนเถอะ!”เสียงของอินชิงเสวียนนั้นอ่อนแรง แม้จะเป็นสามีภรรยากัน แต่ถูกเห็นเข้าในสถานการณ์เช่นนี้ก็น่าอายอยู่เหมือนกันเย่จิ่งอวี้เดินก้าวเดียวก็ไปถึงเตียง จับมือของนางแน่นๆ แล้วพูดอย่างกระวนกระวายใจ “ข้าไม่วางใจ มีวิธีถ่ายทอดความเจ็บปวดให้ข้าได้ไหม เจ้าอยู่กับลั่วสุ่ยชิงมานานแล้ว ไม่ได้เรียนวิชาอาคมอะไรจากนางบ้างหรือ”อินชิงเสวียนเจ็บปวดเจียนตายอยู่แล้ว เมื่อได้ยินคำนี้ก็ไม่รู้จะหัวเราะหรือร้องไห้ดี

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1538 ไท่เฟยไท่ผินออกจากวัง

    อินชิงเสวียนอดทนต่อความเจ็บปวดและกล่าวว่า “ฝ่าบาทไม่จำเป็นต้องอยู่ที่นี่ วันนี้เป็นวันแต่งงานของไห่ถัง ในฐานะพี่ชาย ควรเป็นประธานงานแต่งของนางด้วยตนเอง หากไม่มีคนในราชวงศ์ไป ไห่ถังจะผิดหวังได้”แม้น้องสาวจะเป็นญาติ แต่ก็ไม่ชิดเชื้อเท่ากับภรรยา ลูกคนแรกเกิดในตำหนักเย็น ซึ่งทำให้เย่จิ่งอวี้รู้สึกผิดไปครึ่งชีวิตแล้ว ยากนี้เด็กคนนี้คือสมบัติล้ำค่าที่แท้จริงระหว่างพวกเขา ในฐานะพ่อของลูก เขาจะจากไปได้อย่างไรเมื่อเห็นว่าใบหน้าของนางซีด มีเม็ดเหงื่อเม็ดเล็กๆ ผุดพรายขึ้นเต็มขมับของนาง เย่จิ่งอวี้ก็รีบก้าวไปข้างหน้าเพื่อปลอบนาง “ไม่เป็นไร มีแม่ทัพอินและจอมพลกวนอยู่ด้วย ไห่ถังก็ไม่นับว่าเสียเกียรติอะไรนัก”อินชิงเสวียนคว้าแขนของเขา“จะได้อย่างไร หากไม่มีใครจากในวังไป มันจะกลายเป็นปมในใจของไห่ถังอย่างแน่นอน นี่คือวันที่สำคัญที่สุดในชีวิตของนาง”ไม่ว่าอย่างไรเย่จิ่งอวี้ก็ไม่ยอมไป แต่ก็ไม่สามารถปล่อยให้น้องสาวเสียหน้าได้ เขาหรี่ตาลงเล็กน้อย มีความคิดอยู่ในใจ“เจวี๋ยอิ่ง ไปเชิญไท่เฟยไท่ผินทุกท่าน ให้พวกนางออกจากวัง ร่วมงานเสกสมรสขององค์หญิงเดี๋ยวนี้”ทุกคนตกตะลึง ไม่มีใครคาดคิดว่าเย่จิ่งอวี้จ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1537 ฮองเฮาทรงมีพระประสูติการ

    เย่ไห่ถังยังคงมีความสุข แต่จู่ๆ เสียงของหลี่เต๋อฝูก็ทำให้นางรู้สึกไม่พอใจเล็กน้อยเมื่อเปิดประตู เห็นเสด็จพี่และเสด็จพี่สะใภ้ยืนอยู่ที่กลางเรือน น้ำตาก็ไหลออกมาจากดวงตา“ไห่ถังคารวะเสด็จพี่ เสด็จพี่สะใภ้เพคะ!”เย่ไห่ถังกำลังจะคุกเข่าลง แต่เย่จิ่งอวี้ก็ปราดเข้าประคองนางพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “ในฐานะสตรีที่ออกเรือนแล้ว ทุกสิ่งต้องคำนึงถึงสถานการณ์โดยรวม จะทำตัวเหลวไหลซุกซนเหมือนอยู่ในวังไม่ได้ หากใช้ชีวิตนอกวังจนเบื่อแล้ว ก็สามารถกลับมาได้ตลอดเวลา วังหลวงจะเป็นบ้านของเจ้าตลอดไป”อินชิงเสวียนก็ก้าวไปข้างหน้าและพูดว่า “ถ้าพี่รองของข้ารังแกเจ้า เจ้าก็บอกข้าได้เลย ข้าจะทวงความยุติธรรมให้กับเจ้าแน่นอน”ถ้าคนที่เย่ไห่ถังแต่งงานด้วยไม่ใช่อินปู้อวี่ เย่จิ่งอวี้คงพูดคำนี้ไปนานแล้วเย่ไห่ถังสูดจมูก“ขอบพระทัยเสด็จพี่และเสด็จพี่สะใภ้เพคะ ตอนแรกข้าค่อนข้างมีความสุข แต่ตอนนี้ไม่อยากจากไปเลย”เมื่อเห็นว่าจมูกของเย่ไห่ถังแดง กำลังจะร้องไห้อีก เย่จิ่งอวี้จึงตีหน้าขรึมพูดทันที “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ งั้นข้าจะให้คนไปแจ้งอินปู้อวี่ ว่าการแต่งงานครั้งนี้ไม่มีแล้ว หลี่เต๋อฝู!”หลี่เต๋อฝูก็เป็นคนเจ้าเ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1536 องค์หญิงกำลังจะเสกสมรส

    ในวันที่หนึ่งเดือนสี่ ลำดับการสอบการต่อสู้ชี้ให้เห็นว่า เฉินเซียงเยว่ที่อินชิงเสวียนสนใจ สอบได้ลำดับหนึ่ง คนผู้นี้หน้าตาดูดุร้ายและน่าเกลียด แต่กลับมีจิตใจอ่อนโยนดังเช่นสตรี ไม่เพียงแต่วรยุทธ์ดีเลิศเท่านั้น แต่ยังเก่งในเรื่องการจัดขบวนทัพด้วย เป็นยอดแม่ทัพที่หาได้ยากนางได้ลำดับหนึ่งก็คือจอหงวนด้านวิชาการต่อสู้ ไม่มีใครไม่ยอมรับเลย แค่ยืนอยู่เฉยๆ ก็ดูฮึกเหิมมีพลังมากกว่าผู้ชายทุกคนในตอนนั้นเด็กผู้หญิงอีกคนหนึ่งแซ่หลิวมีชื่อว่าเยว่ ก็ได้รับเลือกให้ติดอยู่ในสามอันดับแรก รั้งอยู่ในเมืองหลวงฝ่าบาทขานรายชื่อสตรีมามากขนาดนี้ เหล่าขุนนางข้าราชบริพารก็อดไม่ได้ที่จะพูดถึงเรื่องนี้ ต่างรู้สึกว่ามันไม่ถูกต้องตามระเบียบประเพณี แต่ก็กล้าที่จะวิพากษ์วิจารณ์เป็นการส่วนตัวเท่านั้น ต้าโจวในวันนี้เปลี่ยนไปแล้ว ที่ฝ่าบาทยินดีฟังพวกเขา ก็ถือเป็นการให้เกียรติพวกเขาแล้ว หากฝ่าบาทไม่อยากฟัง ถึงพูดมากไปก็ไร้ผลแต่ไม่มีใครกล้าพูดว่าเย่จิ่งอวี้เป็นทรราช ฝ่าบาททรงงานปกครองบ้านเมืองอย่างหนัก แม้ว่าพระองค์จะทรงปฏิรูปครั้งใหญ่ แต่ก็ทำเพื่อประชาชนในราชวงศ์ต้าโจวเท่านั้น ขณะนี้แผ่นดินสงบสุข มีธัญพืชอุดมสมบูรณ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1535 เหลวไหลจริงๆ

    เสียงเรียกว่าท่านพี่นั้นทำให้เย่จิ่งอวี้ใจอ่อนลงมากโข ความโกรธทั้งหมดพลันหายไปอย่างไร้ร่องรอยในทันทีไม่เช่นนั้นจะทำอะไรได้อีก ภรรยาที่เลือกมาเอง มีแต่ต้องตามใจเองเท่านั้น“เจ้าคนโกหกตัวน้อย กลับไปสามีจะคิดบัญชีเจ้าหนักๆ ถอนกำลังภายในของเจ้าออก สามีจะทำแทนเจ้าเอง ประเดี๋ยวจะทำร้ายลูกในท้องเอา”เสียงของเย่จิ่งอวี้เชื่อมโยงเป็นเส้น ไหลผ่านกระทบโสตประสาทของอินชิงเสวียนคำต่อคำอย่างแจ่มชัดนางยกมุมปากขึ้น เผยเป็นรอยยิ้มภาคภูมิใจเมื่อสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของเย่จิ่งอวี้ นางจึงเปิดโสตประสาท เหตุผลที่ขอให้เย่จิ่งอวี้ช่วย ก็เพราะว่ากำลังภายในในร่างกายของนางซับซ้อนเกินไป ยากต่อการควบคุม ในงานที่ละเอียดอ่อนเช่นนี้ จะให้เกิดข้อผิดพลาดไม่ได้เด็ดขาดเย่จิ่งอวี้ไม่เหมือนกัน เขาบำเพ็ญตบะกำลังภายในของหอแห่งเสียงศักดิ์สิทธิ์ ทั้งยังประสานพลังแห่งฟ้าดิน แม้ว่าอินชิงเสวียนจะมีพลังลมปราณของหลายสำนัก แต่ก็ไม่สามารถเทียบกับกำลังภายในอันบริสุทธิ์และทรงพลังของฮ่องเต้ได้ในชั่วพริบตา กำลังภายในดุจธารานิ่งลึกหลั่งไหลเข้ามาจากด้านนอกประตู เหมือนโลกลึกล้ำ โอบกอดและยืดหยุ่น บรรยากาศที่มืดมนในห้องโถงคล้ายจะถูก

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1534 ท่านพี่ช่วยข้าได้ไหม

    “ฟางรั่วเข้าวัง?”เย่จิ่งอวี้หยุดฝีเท้าหลี่เต๋อฝูโค้งคำนับและพูดว่า “กระหม่อมถามองครักษ์ที่เฝ้าหน้าประตูวังแล้ว แม่นางฟางรั่วเข้ามาเมื่อสามชั่วยามที่แล้ว”เจวี๋ยอิ่งคุกเข่าลงและพูดว่า “กระหม่อมเห็นฟางรั่วเข้าไปในตำหนักจินอู๋ แต่ไม่เห็นนางและฮองเฮาออกมา”เย่จิ่งอวี้หรี่ตาลงเล็กน้อย สายตาคล้ายจะสดใสและมืดมน กำลังตกอยู่ในอาการครุ่นคิดด้วยวรยุทธ์ของฟางรั่ว ไม่มีทางเป็นไปได้ที่จะทำอันตรายต่ออินชิงเสวียน นางยังมีใบมีดแห่งมิติอยู่ในมือ แม้ว่าเหล่าเทพเซียนจะลงมาเอง แต่นางก็ยังสามารถต่อสู้ได้จากมุมมองนี้ ควรไม่ใช่การหายตัวไปง่ายๆ นางเรียกฟางรั่วมา ต้องมีเหตุผลอื่นเป็นแน่เจวี๋ยอิ่งโค้งคำนับและถามว่า “ต้องการให้กระหม่อมปิดล้อมพระนคร สืบหาที่อยู่ของฮองเฮาอย่างถี่ถ้วนหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ”เย่จิ่งอวี้เหลือบมองเจวี๋ยอิ่ง“ไม่ต้อง หลี่เต๋อฝู ไปเชิญกวนเซี่ยวเข้ามาด้วย”ครู่ต่อมา กวนเซี่ยวก็วิ่งเหยาะๆ มาถึงประตูตำหนัก ยกเสื้อคลุมขึ้นและคุกเข่าลงกับพื้น“กวนเซี่ยวถวายบังคมฝ่าบาท ฝ่าบาททรง...”เย่จิ่งอวี้ได้ยินเช่นนั้นก็รำคาญ โบกมือห้าม“ตามสบาย เจ้ารู้ไหมว่าทำไมฟางรั่วถึงมาที่วัง”กวนเซี่ยว

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1533 เจ้าน่ะ ยังมีนิสัยดื้อรั้นเหมือนเดิม

    “ในเมื่อเจ้าเตรียมตัวพร้อมแล้ว เช่นนั้นก็ตามข้าไปที่อื่น”อินชิงเสวียนดีดปลายเท้าขึ้น ร่างนั้นก็กระโดดออกจากตำหนักจินอู๋ ท่วงท่ากิริยาเบาบางและสง่างาม ราวกับเทพธิดาในวังพระจันทร์ที่ทิ้งร่องรอยความงดงามไว้บนโลกมนุษย์ฟางรั่วติดตามอย่างใกล้ชิด พลางชื่นชมในใจอินชิงเสวียนเป็นคนพิเศษจริงๆ!ราวสิบห้านาที ร่างที่สง่างามทั้งสองก็ปรากฏตัวขึ้นในตำหนักฉือหนิงหลังจากไทเฮาสิ้นพระชนม์ สถานที่แห่งนี้ก็ว่างเปล่า ขณะนี้มีไท่เฟยและไท่ผินเพียงไม่กี่คนที่เหลืออยู่ในวัง ที่พักอาศัยมีมากมาย เหตุผลที่อินชิงเสวียนเลือกสถานที่นี้ ก็เพราะเย่จิ่งอวี้จะไม่มาจากนั้นก็นึกในใจ ครั้นแล้วถังไม้ขนาดใหญ่ก็ปรากฏขึ้นตรงหน้า และในพริบตาเดียว มันก็เต็มไปด้วยน้ำพุวิญญาณที่ใสสะอาด“เข้าไปสิ สิ่งนี้สามารถรับรองความปลอดภัยของเจ้าได้ในระดับสูงสุด”“เพคะ”ฟางรั่วก้าวเข้าไปในถังโดยไม่ลังเลใดๆ แม้เป็นฤดูหนาว น้ำในถังนี้กลับไม่เย็น แต่เต็มไปด้วยความอบอุ่นที่ปกคลุมผิวหนังและเส้นลมปราณทั้งหมดของนางอินชิงเสวียนตามเข้ามา จากนั้นนั่งตรงข้ามนางแม้ว่าจะเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น น้ำพุวิญญาณก็สามารถรับรองความปลอดภัยในชีวิตขอ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1532 คืนชีวิตให้ท่านแล้วจะเป็นไร

    “เจ้าลุกขึ้น ข้าหมายถึงอาจจะทำได้ แต่จะมีโอกาสฟื้นตัวได้มากเพียงใด ข้าก็ไม่แน่ใจ เรื่องนี้ เจ้าควรปรึกษากับกวนเซี่ยวก่อนดีกว่า ถึงอย่างไรเรื่องนี้ก็ไม่ได้เกี่ยวกับเจ้าเท่านั้น แต่ยังเกี่ยวกับเขาด้วย”อินชิงเสวียนพยุงฟางรั่วด้วยมือทั้งสองข้าง และอธิบายข้อดีข้อเสียฟางรั่วพยักหน้า“ข้าเข้าใจ เพียงแต่ สุขภาพของฮองเฮา”อินชิงเสวียนท้องโตขนาดนี้ หากมีอะไรผิดพลาดขึ้นมา นางไม่สามารถรับผิดชอบไหวอินชิงเสวียนยิ้มละไม“ร่างกายของข้าแข็งแรงมาก ไม่เป็นไร เจ้าคิดดีแล้วก็มาหาข้าที่วังหลวงได้เลย”“เพคะ”ขณะที่กำลังคุยกัน ทั้งสองคนก็เดินไปที่แท่นประลองข้างๆ แล้วเห็นเด็กหญิงคนหนึ่งอายุสิบห้าหรือสิบหกปี ถือดาบคู่อยู่ในมือ กระโดดขึ้นลงด้วยท่าทางที่เบาและกล้าหาญ บีบชายที่อยู่ตรงข้ามหลังให้ล่าถอยทีละก้าว จนตกแท่นประลอง ล้มลงต่อหน้าผู้ชม อินชิงเสวียนอดไม่ได้ที่จะชื่นชมมัน“ทำได้ดีมาก!”ใบหน้าของฟางรั่วแสดงถึงความภาคภูมิใจ“เด็กหญิงคนนี้ชื่อหลิวซู่เยว่ เมื่อก่อนเป็นลูกสาวของหัวหน้าคณะละคร นางมีทักษะการต่อสู้อยู่บ้าง หลังจากที่บิดาเสียชีวิต นางไม่สามารถดูแลคณะละครได้ จึงมาที่เมืองหลวง เข้ามาเรี

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status