Beranda / รักโบราณ / สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์ / บทที่ 530 ตกตะลึงพรึงเพริด

Share

บทที่ 530 ตกตะลึงพรึงเพริด

Penulis: ม่อเยี่ยน
last update Terakhir Diperbarui: 2024-04-02 16:00:00
อินชิงเสวียนตกตะลึง ดวงตาเบิกโพลง

พอเปิดมิติดู ก็เห็นเย่‍จิ่ง‍อวี้นอนอยู่ในมิติแล้วจริงๆ

ทำไมเขาถึงสามารถเข้าสู่มิติได้

หรือว่าทุกคนก็สามารถเข้ามาอยู่ในมิติของนางได้อย่างนั้นหรือ

ถ้าเป็นเช่นนั้น ก็สุดยอดแล้วน่ะสิ!

เมื่อใดก็ตามที่นางต้องการโจมตีที่แห่งใด ก็สามารถยกกองทหารทั้งหมดเข้าไปในมิติ แล้วนางก็เดินทางไปคนเดียว ไม่เพียงแต่สามารถประหยัดเสบียงอาหารเท่านั้น แต่ยังสามารถประหยัดแรงได้อีกด้วย

อินชิงเสวียนค่อนข้างตื่นเต้น นางมาที่ประตู แล้วคว้าข้อมือของอวิ๋นฉ่าย

อวิ๋นฉ่ายมองไปที่อินชิงเสวียนด้วยสีหน้ามึนงง

“พระสนม เป็นอะไรไปเพคะ”

อินชิงเสวียนไม่ได้พูดอะไร แต่ใช้ความคิดเพื่อจะพาอวิ๋นฉ่ายเข้าไปในมิติ

ทว่า ยังได้รับคำเตือนจากระบบอยู่ว่า บุคคลภายนอกไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าไปในมิติ!

แต่ทำไมเย่‍จิ่ง‍อวี้ถึงถูกตัดสินว่าเป็นตัวเอง

หรือว่า...เพราะเคยมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับตัวเอง?

อินชิงเสวียนคิดอยู่นานก็ไม่ได้คำตอบ นางจึงต้องปล่อยผ่านไปเช่นนี้

“ไม่มีอะไร ไปทำงานของเจ้าเถอะ”

อินชิงเสวียนปล่อยอวิ๋นฉ่าย ในเมื่อใส่เย่‍จิ่ง‍อวี้เข้าในมิติได้ จึงไม่มีอะไรต้องกลัวอีกแล้ว

แม้ว่าการจี้สกัดจุ
Bab Terkunci
Membaca bab selanjutnya di APP

Bab terkait

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 531 มโนภาพ

    “ตอนนี้ขอพูดสักเรื่องหนึ่ง”อินชิงเสวียนเหลือบมองนางอย่างเยือกเย็น เดินไปข้างหน้าสองสามก้าวแล้วพูดว่า “ข้ามีความสนใจเรื่องพิษกู่ ขอเพียงเจ้าสอนวิธีการใช้และวิธีการแก้กู่เสน่หาให้ข้า ใบหน้าของเจ้าก็จะถูกรักษาไว้ได้”จูอวี้เหยียนทำเสียงฮึดฮัดแล้วพูดว่า “ฝันไปเสียเถอะ พิษกู่ต้องเลี้ยงด้วยเลือดบริสุทธิ์ จะเรียนรู้ภายในเวลาสั้นๆ ได้อย่างไรกัน”อินชิงเสวียนพูดว่า “สามารถเรียนได้หรือไม่เป็นเรื่องของข้า ส่วนเจ้าจะสอนหรือไม่?”“ต่อให้ข้ายินยอมจะสอนท่าน ท่านก็ไม่สามารถเรียนรู้ได้”จูอวี้เหยียนไม่ได้พูดโกหก หากสามารถฝึกฝนหนอนกู่ได้ง่ายดายขนาดนั้นจริงๆ นางคงฝึกนับร้อยนับพันตัว ควบคุมให้ฮ่องเต้และขุนนางต่างก็เชื่อฟังนางทุกคน ไม่จำเป็นต้องเปลืองเรี่ยวแรงเช่นนี้“ในเมื่อเจ้าไม่ยินยอม ทหาร ขูดหน้านางต่อไป”ผู้คุมเรือนจำเดินเข้ามาด้วยสีหน้ามืดครึ้มน่าสะพรึงกลัวในทันทีจูอวี้เหยียนหดคอกลับโดยไม่รู้ตัว สีหน้าซีดอย่างรวดเร็วแม้นางไม่เคยรักใครด้วยใจจริง แต่ก็เพลิดเพลินกับการที่ถูกผู้ชายไล่ตาม หากไร้ซึ่งใบหน้านี้ นางก็คงไม่เหลืออะไรแล้ว“อย่า ไม่เอานะ อินชิงเสวียน ไม่ใช่ว่าข้าไม่อยากสอนท่าน แต่สิ

    Terakhir Diperbarui : 2024-04-02
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 532 ความหวังที่ริบหรี่

    อินชิงเสวียนออกมาจากมิติแล้วเดิมทีคิดว่าแผนการของตัวเองจะไม่มีสิ่งใดผิดพลาด แต่ความจริงพิสูจน์ให้เห็นว่า นางคิดง่ายเกินไปทว่าทั้งหมดกลับไม่ได้เสียเปล่า เมื่อรู้ว่าคนของหอแห่งเสียงศักดิ์สิทธิ์สามารถช่วยอินสิงอวิ๋นได้ ก็นับว่าประสบความสำเร็จอย่างเต็มเปี่ยมอีกทั้งยังทำให้นางรู้ถึงความสัมพันธ์ของกู่แม่และกู่ลูก ดังนั้นจึงคิดวิธีอื่นได้แล้วภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ จูอวี้เหยียนไม่น่าจะพูดโกหกแต่ผู้อาวุโสที่ชิงเอาพิณไปได้บอกไว้ว่า นางจะไม่กลับมาที่เมืองหลวงอีก เย่จิ่งอวี้ส่งกำลังคนออกไปตามหาจำนวนมาก แต่ก็ไม่ได้ยินข่าวคราวของหอแห่งเสียงศักดิ์สิทธิ์เลย เกรงว่าเส้นทางนี้จะล้มเหลวทันใดนั้น อินชิงเสวียนก็นึกถึงบทเพลงใจหินผาที่ตัวเองได้ร่ำเรียนมา ไม่รู้ว่าจะทดลองได้หรือไม่หากสามารถช่วยอินสิงอวิ๋นได้จริงๆ ก็อาจทดลองกับเย่จิ่งอวี้ได้เช่นกันเมื่อคิดถึงเรื่องเหล่านี้ อินชิงเสวียนก็รู้สึกถึงความหวังที่ริบหรี่อีกครั้งนางรีบเดินมาที่ห้องหนังสือ อินจ้งก็เดินออกมาจากในห้องพอดี เมื่อเห็นอินชิงเสวียน สีหน้าและสายตาก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย“พระนางกุ้ยเฟย”“ท่านพ่อไม่ต้องมาพิธี ข้าจะออกจากวังไปเยี่

    Terakhir Diperbarui : 2024-04-03
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 533 ราษฎรผู้ต่ำต้อยจังอวี้จิ่น

    อินชิงเสวียนบรรเลงเพลงพิณต่อหน้าคนนอกเป็นครั้งแรก นางจึงรู้สึกไม่มั่นใจทักษะการเล่นพิณของนางยังไม่ชำนาญมากพอ อีกทั้งพิณตัวนี้ก็ไม่ใช่พิณการเวก จึงไม่แน่ใจว่าจะบรรเลงได้ผลดีหรือไม่ตอนนี้ทำได้เพียงลองพยายามอย่างเต็มที่เท่านั้น เพื่อเพิ่มพลังในการบรรเลงพิณ อินชิงเสวียนจึงแลกทักษะห้าสิบห้าสิบ ซึ่งเป็นทักษะการเลียนแบบอีกฝ่ายมาจากในมิติ เมื่อพลังไม่มากพอก็จำเป็นต้องใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยเสียงพิณดุจสายน้ำ ไหลออกมาอย่างเชื่องช้า จิตใจของอินชิงเสวียนก็ค่อยๆ สงบลง และใช้สมาธิทั้งหมดในการบรรเลงพิณอากาศที่มองไม่เห็นแผ่ออกมาจากเสียงพิณ คล้ายระลอกคลื่นที่ซัดกระเพื่อมเป็นชั้นๆ คลื่นเสียงสัมผัสร่างของอินสิงอวิ๋นอย่างรวดเร็ว และหายเข้าไปในร่างของเขาทันที ราวกับว่ามันพบทางระบายอินชิงเสวียนมองไม่เห็นระลอกคลื่นเสียงนั้น สมาธิของนางยังคงจดจ่ออยู่ที่ใจหินผา หลังจากนั้นไม่นาน ใจหินผาก็บรรเลงได้ช่ำชองมากขึ้น จังหวะของบทเพลงก็ยิ่งสงบมากขึ้นเรื่อยๆอินปู้อวี่รู้ว่าน้องใหญ่กลับมาแล้ว จึงรีบเข้ามาพบในทันที เมื่อได้ยินเสียงเพลงก็รู้สึกถึงความอบอุ่นที่แวบผ่านเข้ามา เขาคุกเข่าหนึ่งข้างลงที่พื้นและหลับตาตั

    Terakhir Diperbarui : 2024-04-03
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 534 ขอร้องใครก็ต้องหยิบยื่นความจริงใจออกมา

    อินชิงเสวียนพลิกตัวลงจากหลังม้า และพยุงจังอวี้จิ่นขึ้นมา“แม่นางไม่ต้องมากพิธี ต่อไปก็ทำการค้าขายอย่างระวังด้วย อย่าให้ชายหนุ่มที่มีความประพฤติเลวทรามเหล่านี้เข้ามาวุ่นวายได้”จังอวี้จิ่นกลับไม่ยอมลุกขึ้น แต่คำนับต่ออินชิงเสวียน พร้อมพูดอย่างดื้อรั้นว่า “ในเมื่อคุณชายช่วยผู้ต่ำต้อยเอาไว้ ผู้ต่ำต้อยก็ควรตอบแทนบุญคุณตลอดจนวันตาย คุณชายได้โปรดรับผู้ต่ำต้อยไปด้วย ผู้ต่ำต้อยยอมรับใช้คุณชายไปตลอดชีวิต”จังอวี้จิ่นเติบโตขึ้นในหมู่บ้านชาวประมง นางไม่เคยได้รับการศึกษา เพียงแต่เคยได้ยินพ่อสอนว่าต้องรู้จักตอบแทนบุญคุณเดิมทีนางต้องการตอบแทนผู้ที่ช่วยชีวิตนางไว้ แต่คนเหล่านั้นต่างปกปิดใบหน้า จากนั้นก็ทิ้งเงินให้นางแล้วหายตัวไปทั้งหมด จังอวี้จิ่นใช้เงินเหล่านั้นในการทำมาค้าขาย เป้าหมายก็เพื่อตามหาพวกเขาเพียงแต่นางไม่เคยเห็นหน้าค่าตาของผู้คนเหล่านั้น จึงไม่รู้ว่าควรเริ่มตามหาจากที่ใด ตอนนี้นางถูกคุณชายท่านนี้ช่วยไว้อีกครั้ง ในใจจึงคิดอยากตอบแทนบุญคุณ วิธีเดียวที่นางคิดได้คือการเป็นบ่าวรับใช้อินชิงเสวียนใช้แรงมากขึ้น เพื่อพยุงจังอวี้จิ่นให้ลุกขึ้น“แม่นาง ไม่ต้องคิดมากไป การช่วยเหลือเจ้าเป็น

    Terakhir Diperbarui : 2024-04-03
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 535 สัญญาณเตือน

    อินจ้งยังคงอยู่ในห้อง เมื่อเห็นว่าอินชิงเสวียนเชิญฝูอี้อ๋องมาจริงๆ จึงรีบคุกเข่าลงทำความเคารพ“กระหม่อมอินจ้งขอถวายบังคมฝูอี้อ๋อง”เย่จิ่งหลานเอามือเล็กไพล่หลัง และแสดงท่าทางของท่านอ๋องพร้อมพูดขึ้นเบาๆ “ลุกขึ้นเถิด แม่ทัพอินไม่ต้องมากพิธี”อินจ้งลุกขึ้นมือ ประสานมือคำนับแล้วพูดว่า “ขอบพระทัยท่านอ๋อง ลูกสาวข้าบอกว่าท่านอ๋องมีวิชาการแพทย์เป็นเลิศ ท่านอ๋องได้โปรดตรวจดูอาการให้ลูกชายข้าด้วย ตอนนี้เขามีอาการเป็นอย่างไรบ้าง?”เย่จิ่งหลานตอบรับและพูดว่า “พวกเจ้าออกไปข้างนอกเถอะ เหลือเพียงพระนางกุ้ยเฟยอยู่ที่นี่ก็พอ”อินจ้งรีบมองไปที่อินชิงเสวียนทันที เมื่อเห็นลูกสาวพยักหน้า จึงพาอินปู้อวี่ออกไปจากห้องอินจื่อลั่วมาถึงในบ้านพอดี เมื่อได้ยินว่าพี่สาวกลับมาแล้ว จึงรีบนึกถึงของขวัญของตัวเอง รีบไปหยิบเสื้อคลุมขนกระต่ายให้กับเสี่ยวหนานเฟิง และวิ่งออกมาด้วยความดีใจอินจ้งขวางนางเอาไว้“ท่านพี่ของเจ้าเชิญผู้สูงส่งมาตรวจท่านพี่ใหญ่ของเจ้า อย่าเพิ่งเข้าไป”อินจื่อลั่วตอบรับ และยืนอีกด้านอย่างเชื่อฟังด้านในห้องอินสิงอวิ๋นนอนหลับไปแล้วเขาไม่ได้กินอาหารหลายวัน และมีชีวิตอยู่ได้ด้วยน้ำพุวิ

    Terakhir Diperbarui : 2024-04-03
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 536 จิตใจของจังอวี้จิ่น

    อินชิงเสวียนครุ่นคิดครู่หนึ่งแล้วพูดว่า “เหมือนมีคนจ้องข้าอยู่”อินปู้อวี่ขยับเท้าเล็กน้อยโผบินขึ้นหลังคา เมื่อมองไปรอบๆ ก็พูดขึ้นว่า “ไม่มีใครเลยนะ?”อินชิงเสวียนขมวดคิ้วเล็กน้อย“ข้าอาจมองผิดพลาดไป เฝ้าพี่ใหญ่ไว้ให้ดี ข้าจะไปดูที่โถงด้านหน้า”อินปู้อวี่หัวเราะอย่างไม่คิดอะไรมาก“น้องใหญ่วางใจได้ ตอนนี้พี่ใหญ่ไม่เป็นอะไรแล้ว สองวันนี้ข้าจะดูแลเขาให้ดี”อินชิงเสวียนพยักหน้า และพูดกำชับอีกว่า “อาซือหลานยังไม่ตาย เขาจะมาถึงเมืองหลวงตอนไหนก็ย่อมได้ คนคนนี้มีแผนการซับซ้อน พี่และท่านพ่อต้องระวังไว้ให้ดีที่สุด”“ข้ารู้แล้ว”อินปู้อวี่ตอบรับอย่างอารมณ์ดีตอนนี้พี่ใหญ่หายดีแล้ว ครอบครัวได้กลับมาอยู่พร้อมหน้ากันจริงๆ เสียทีขณะเดียวกันนั้น ในตรอกที่ไม่ไกลมากนักคนตัวเตี้ยหลายคน หน้าตาอัปลักษณ์ กำลังรวมตัวกันและพูดภาษาที่ผู้อื่นฟังไม่เข้าใจหนึ่งคนในนั้นชี้ไปที่ตระกูลอิน อีกหลายคนพูดคุยกันอยู่ครู่หนึ่ง หนึ่งคนในนั้นก็หยิบหมวกไม้ไผ่ออกมา และทันทีที่มีควันลอยขึ้นมา คนคนนั้นก็หายตัวไปอย่างลึกลับคนที่เหลือต่างมองหน้ากัน และหายไปในฝูงคนตระกูลอินอินชิงเสวียนเดินมายังบ้านส่วนหน้าอิน

    Terakhir Diperbarui : 2024-04-03
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 537 พูดอย่างไม่อ้อมค้อม

    “ขอบคุณลุงต่ง”อินชิงเสวียนพูดขอบคุณอย่างมีมารยาท อย่างไรเขาก็เป็นผู้รับใช้เก่าแก่ที่ภักดีของตระกูลอิน นางเคยได้ยินซูหมิงหลานเล่าว่า เหลาต่งเคยเผชิญอันตรายเพื่อปกป้องตระกูลเอาไว้ นางจึงเคารพเขามากเหลาต่งยิ้มอย่างพึงพอใจ จากนั้นก็ขี่รถม้าออกไปอินชิงเสวียนจึงพาจังอวี้จิ่นตรงไปที่ตำหนักจินหวูเมื่อเห็นดอกไม้หลากหลายชนิดในวังที่มีสีเหลืองอร่ามแวววาว จังอวี้จิ่นก็ตื่นตาตื่นใจอย่างอดไม่ได้ ไม่คิดว่าพระราชวังจะงดงามเช่นนี้ อาคารสีสันสวยงาม ด้านบนแกะสลักรูปมังกร นกฟีนิกซ์ ดอกไม้และนกต่างๆ เอาไว้ ซึ่งดูหรูหรากว่าบ้านในหมู่บ้านมากสองนายบ่าวมาถึงตำหนักจินหวูอย่างรวดเร็ว ทันทีที่เข้าประตูก็ได้ยินเสียงหัวเราะของเสี่ยวหนานเฟิงยายหลี่มองเห็นอินชิงเสวียน จึงรีบออกมาต้อนรับ“เหนียงเหนียง ท่านกลับมาแล้ว แม่นางผู้นี้คือ...”อินชิงเสวียนอุ้มเสี่ยวหนานเฟิงขึ้นมา และหอมลงบนใบหน้าที่อวบอ้วนของเขา“นี่คือเด็กสาวที่ข้าช่วยเอาไว้ที่ตลาด บอกอวิ๋นฉ่ายหาเสื้อผ้าที่นางสามารถสวมใส่ได้ให้นางเปลี่ยน สอนมารยาทในวังแก่นาง ข้าจะเข้าห้องไปพักเสียหน่อย ไม่ต้องเข้ามารับใช้”ยายหลี่เข้าใจในทันที เหนียงเหนียงอยา

    Terakhir Diperbarui : 2024-04-03
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 538 เจตนาฆ่า

    จูอวี้เหยียนตกใจเล็กน้อย“ท่านจะเอากู่แม่ไปทำอะไร?”อินชิงเสวียนพูดเสียงเรียบ “นี่คือเรื่องของข้า เจ้าไม่จำเป็นต้องรู้”จูอวี้เหยียนมองนางอยู่ครู่หนึ่ง และถามเย้ยหยันว่า “พิษกู่ของเย่จิ่งอวี้ยังไม่ได้แก้ใช่หรือไม่?”อินชิงเสวียนพูดด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ว่า “กู่แม่อยู่ในหัวใจของเจ้า แก้แล้วหรือไม่ เจ้าน่าจะรู้ชัดเจนกว่าข้า”จูอวี้เหยียนกัดฟันกรามกรอดๆ และถามว่า “ท่านคิดจะทำสิ่งใด?”“ข้าขอพูดอีกรอบว่า นี่คือเรื่องของข้า เจ้าจะยินยอมหรือไม่”อินชิงเสวียนพูดจบก็หยิบเม็ดยาที่ห่อด้วยกล่องสีขาวออกจากเสื้อพูดกับผู้คุมคุกหลวงว่า “ให้นางกินลงไป”ตอนนี้ฟางรั่วก็ถูกจับแล้ว หมากตัวนี้ของนางไร้ประโยชน์เสียแล้ว ไม่ว่าวันนี้ต้องใช้วิธีการใด นางก็ต้องเอากู่เสน่หามาไว้ในมือให้ได้จูอวี้เหยียนลนลานในทันที“ท่านให้ข้ากินอะไรเข้าไป?”นางพยายามส่ายหัวไปมา แต่มือและเท้าถูกโซ่ตรวนล่ามเอาไว้ ไม่มีทางที่จะหลุดออกไปได้ จึงถูกบังคับยัดเข้าไปในปากอินชิงเสวียนมองนางแล้วพูดว่า “นี่คือยาพิษที่ข้าค้นคว้ามาด้วยตัวเอง หากไม่มีการแก้พิษ หลังจากนี้อีกสามวันจะเปื่อยพุพองไปทั่วทั้งร่างกายจนตาย สุดท้ายก็เละเป็นกอ

    Terakhir Diperbarui : 2024-04-03

Bab terbaru

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1540 สองพระองค์ครองราชย์ จบบริบูรณ์

    ปีที่สามของการครองราชย์ในราชวงศ์ต้าโจวฮองเฮาให้กำเนิดพระธิดา ได้รับพระราชทานนามว่าองค์หญิงเจ๋อเทียน นามว่าเจิน มีชื่อเล่นว่าฝูเอ๋อร์ในเดือนเก้าของปีเดียวกัน เย่จิ่งอวี้และอินชิงเสวียนปกครองร่วมกัน แบ่งกันปกครองบ้านเมืองและการดำรงชีวิตของผู้คน ราษฎรเคารพทั้งสองในฐานะพระองค์ฝ่ายซ้ายและฝ่ายขวา ประวัติศาสตร์ได้บันทึกช่วงเวลานี้ไว้ด้วยถ้อยคำที่งดงามที่สุด และเรียกช่วงเวลานี้อย่างเคารพว่า ยุคที่สององค์ปกครอง!ห้าปีต่อมา เครื่องกำเนิดพลังงานลมเครื่องแรกปรากฏขึ้นด้วยฝีมือความสามารถของชาวต้าโจว ซึ่งก้าวล้ำหน้าสมัยโบราณที่ล้าหลังไปอย่างมากด้วยก้าวที่ยิ่งใหญ่นักเรียนจากทั่วแคว้นได้แสดงความสามารถ พัฒนาสิ่งที่ล้ำหน้าต่างๆ ผ่านความรู้ทางคณิตศาสตร์ ฟิสิกส์ และเคมีใหม่ล่าสุด บุปผานับร้อยบานสะพรั่งพร้อมกัน ก่อให้เกิดยุครุ่งเรืองของราชวงศ์ต้าโจวตอนนี้อาหารไม่ขาดแคลน ราษฎรไม่ต้องทนทุกข์กับความหิวโหยอีกต่อไป ยิ่งไม่มีการอพยพย้ายถิ่นฐาน โครงการคลองส่งน้ำก็สำเร็จลุล่วง ด้วยการคมนาคมสะดวกระหว่างภาคเหนือและภาคใต้ ก็สามารถแลกเปลี่ยนสิ่งที่ต้องการได้ในที่สุด อ่างเก็บน้ำที่สร้างขึ้นยังสามารถเปลี่ยนเส้นท

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1539 เสวียนเอ๋อร์ขอบคุณเจ้านะ

    ตำหนักจินอู๋อินชิงเสวียนอดทนต่อความเจ็บปวดที่ถาโถมเข้ามาราวกับกระแสน้ำ แต่ไม่กล้าโคจรกำลังภายในต้านทานไว้ เพราะกลัวว่าจะทำร้ายลูกของนางเมื่อเห็นนางกัดริมฝีปากล่างแน่น มีเหงื่อไหลอาบหน้า หัวใจของเย่จิ่งอวี้ก็รู้สึกเหมือนถูกมีดคมๆ นับพันทิ่มแทง รู้สึกเจ็บปวดอย่างยิ่ง“ต้องทำอย่างไรถึงจะช่วยบรรเทาความเจ็บปวดของฮองเฮาได้ ต้องปล่อยให้นางเจ็บปวดทนทุกข์เช่นนี้หรือ”หมอตำแยกล่าวอย่างกล้าหาญว่า “สตรีคลอดบุตรก็เป็นเช่นนี้เพคะ อดทนไว้ แล้วจะดีเอง”เย่จิ่งอวี้พูดด้วยความโกรธ “ฮองเฮาของข้าจะเทียบได้กับสตรีทั่วไปได้อย่างไร รีบหาทางบรรเทาความเจ็บปวดของฮองเฮาเดี๋ยวนี้”“ข้าไม่เป็นไร อาอวี้ออกไปก่อนเถอะ!”เสียงของอินชิงเสวียนนั้นอ่อนแรง แม้จะเป็นสามีภรรยากัน แต่ถูกเห็นเข้าในสถานการณ์เช่นนี้ก็น่าอายอยู่เหมือนกันเย่จิ่งอวี้เดินก้าวเดียวก็ไปถึงเตียง จับมือของนางแน่นๆ แล้วพูดอย่างกระวนกระวายใจ “ข้าไม่วางใจ มีวิธีถ่ายทอดความเจ็บปวดให้ข้าได้ไหม เจ้าอยู่กับลั่วสุ่ยชิงมานานแล้ว ไม่ได้เรียนวิชาอาคมอะไรจากนางบ้างหรือ”อินชิงเสวียนเจ็บปวดเจียนตายอยู่แล้ว เมื่อได้ยินคำนี้ก็ไม่รู้จะหัวเราะหรือร้องไห้ดี

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1538 ไท่เฟยไท่ผินออกจากวัง

    อินชิงเสวียนอดทนต่อความเจ็บปวดและกล่าวว่า “ฝ่าบาทไม่จำเป็นต้องอยู่ที่นี่ วันนี้เป็นวันแต่งงานของไห่ถัง ในฐานะพี่ชาย ควรเป็นประธานงานแต่งของนางด้วยตนเอง หากไม่มีคนในราชวงศ์ไป ไห่ถังจะผิดหวังได้”แม้น้องสาวจะเป็นญาติ แต่ก็ไม่ชิดเชื้อเท่ากับภรรยา ลูกคนแรกเกิดในตำหนักเย็น ซึ่งทำให้เย่จิ่งอวี้รู้สึกผิดไปครึ่งชีวิตแล้ว ยากนี้เด็กคนนี้คือสมบัติล้ำค่าที่แท้จริงระหว่างพวกเขา ในฐานะพ่อของลูก เขาจะจากไปได้อย่างไรเมื่อเห็นว่าใบหน้าของนางซีด มีเม็ดเหงื่อเม็ดเล็กๆ ผุดพรายขึ้นเต็มขมับของนาง เย่จิ่งอวี้ก็รีบก้าวไปข้างหน้าเพื่อปลอบนาง “ไม่เป็นไร มีแม่ทัพอินและจอมพลกวนอยู่ด้วย ไห่ถังก็ไม่นับว่าเสียเกียรติอะไรนัก”อินชิงเสวียนคว้าแขนของเขา“จะได้อย่างไร หากไม่มีใครจากในวังไป มันจะกลายเป็นปมในใจของไห่ถังอย่างแน่นอน นี่คือวันที่สำคัญที่สุดในชีวิตของนาง”ไม่ว่าอย่างไรเย่จิ่งอวี้ก็ไม่ยอมไป แต่ก็ไม่สามารถปล่อยให้น้องสาวเสียหน้าได้ เขาหรี่ตาลงเล็กน้อย มีความคิดอยู่ในใจ“เจวี๋ยอิ่ง ไปเชิญไท่เฟยไท่ผินทุกท่าน ให้พวกนางออกจากวัง ร่วมงานเสกสมรสขององค์หญิงเดี๋ยวนี้”ทุกคนตกตะลึง ไม่มีใครคาดคิดว่าเย่จิ่งอวี้จ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1537 ฮองเฮาทรงมีพระประสูติการ

    เย่ไห่ถังยังคงมีความสุข แต่จู่ๆ เสียงของหลี่เต๋อฝูก็ทำให้นางรู้สึกไม่พอใจเล็กน้อยเมื่อเปิดประตู เห็นเสด็จพี่และเสด็จพี่สะใภ้ยืนอยู่ที่กลางเรือน น้ำตาก็ไหลออกมาจากดวงตา“ไห่ถังคารวะเสด็จพี่ เสด็จพี่สะใภ้เพคะ!”เย่ไห่ถังกำลังจะคุกเข่าลง แต่เย่จิ่งอวี้ก็ปราดเข้าประคองนางพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “ในฐานะสตรีที่ออกเรือนแล้ว ทุกสิ่งต้องคำนึงถึงสถานการณ์โดยรวม จะทำตัวเหลวไหลซุกซนเหมือนอยู่ในวังไม่ได้ หากใช้ชีวิตนอกวังจนเบื่อแล้ว ก็สามารถกลับมาได้ตลอดเวลา วังหลวงจะเป็นบ้านของเจ้าตลอดไป”อินชิงเสวียนก็ก้าวไปข้างหน้าและพูดว่า “ถ้าพี่รองของข้ารังแกเจ้า เจ้าก็บอกข้าได้เลย ข้าจะทวงความยุติธรรมให้กับเจ้าแน่นอน”ถ้าคนที่เย่ไห่ถังแต่งงานด้วยไม่ใช่อินปู้อวี่ เย่จิ่งอวี้คงพูดคำนี้ไปนานแล้วเย่ไห่ถังสูดจมูก“ขอบพระทัยเสด็จพี่และเสด็จพี่สะใภ้เพคะ ตอนแรกข้าค่อนข้างมีความสุข แต่ตอนนี้ไม่อยากจากไปเลย”เมื่อเห็นว่าจมูกของเย่ไห่ถังแดง กำลังจะร้องไห้อีก เย่จิ่งอวี้จึงตีหน้าขรึมพูดทันที “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ งั้นข้าจะให้คนไปแจ้งอินปู้อวี่ ว่าการแต่งงานครั้งนี้ไม่มีแล้ว หลี่เต๋อฝู!”หลี่เต๋อฝูก็เป็นคนเจ้าเ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1536 องค์หญิงกำลังจะเสกสมรส

    ในวันที่หนึ่งเดือนสี่ ลำดับการสอบการต่อสู้ชี้ให้เห็นว่า เฉินเซียงเยว่ที่อินชิงเสวียนสนใจ สอบได้ลำดับหนึ่ง คนผู้นี้หน้าตาดูดุร้ายและน่าเกลียด แต่กลับมีจิตใจอ่อนโยนดังเช่นสตรี ไม่เพียงแต่วรยุทธ์ดีเลิศเท่านั้น แต่ยังเก่งในเรื่องการจัดขบวนทัพด้วย เป็นยอดแม่ทัพที่หาได้ยากนางได้ลำดับหนึ่งก็คือจอหงวนด้านวิชาการต่อสู้ ไม่มีใครไม่ยอมรับเลย แค่ยืนอยู่เฉยๆ ก็ดูฮึกเหิมมีพลังมากกว่าผู้ชายทุกคนในตอนนั้นเด็กผู้หญิงอีกคนหนึ่งแซ่หลิวมีชื่อว่าเยว่ ก็ได้รับเลือกให้ติดอยู่ในสามอันดับแรก รั้งอยู่ในเมืองหลวงฝ่าบาทขานรายชื่อสตรีมามากขนาดนี้ เหล่าขุนนางข้าราชบริพารก็อดไม่ได้ที่จะพูดถึงเรื่องนี้ ต่างรู้สึกว่ามันไม่ถูกต้องตามระเบียบประเพณี แต่ก็กล้าที่จะวิพากษ์วิจารณ์เป็นการส่วนตัวเท่านั้น ต้าโจวในวันนี้เปลี่ยนไปแล้ว ที่ฝ่าบาทยินดีฟังพวกเขา ก็ถือเป็นการให้เกียรติพวกเขาแล้ว หากฝ่าบาทไม่อยากฟัง ถึงพูดมากไปก็ไร้ผลแต่ไม่มีใครกล้าพูดว่าเย่จิ่งอวี้เป็นทรราช ฝ่าบาททรงงานปกครองบ้านเมืองอย่างหนัก แม้ว่าพระองค์จะทรงปฏิรูปครั้งใหญ่ แต่ก็ทำเพื่อประชาชนในราชวงศ์ต้าโจวเท่านั้น ขณะนี้แผ่นดินสงบสุข มีธัญพืชอุดมสมบูรณ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1535 เหลวไหลจริงๆ

    เสียงเรียกว่าท่านพี่นั้นทำให้เย่จิ่งอวี้ใจอ่อนลงมากโข ความโกรธทั้งหมดพลันหายไปอย่างไร้ร่องรอยในทันทีไม่เช่นนั้นจะทำอะไรได้อีก ภรรยาที่เลือกมาเอง มีแต่ต้องตามใจเองเท่านั้น“เจ้าคนโกหกตัวน้อย กลับไปสามีจะคิดบัญชีเจ้าหนักๆ ถอนกำลังภายในของเจ้าออก สามีจะทำแทนเจ้าเอง ประเดี๋ยวจะทำร้ายลูกในท้องเอา”เสียงของเย่จิ่งอวี้เชื่อมโยงเป็นเส้น ไหลผ่านกระทบโสตประสาทของอินชิงเสวียนคำต่อคำอย่างแจ่มชัดนางยกมุมปากขึ้น เผยเป็นรอยยิ้มภาคภูมิใจเมื่อสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของเย่จิ่งอวี้ นางจึงเปิดโสตประสาท เหตุผลที่ขอให้เย่จิ่งอวี้ช่วย ก็เพราะว่ากำลังภายในในร่างกายของนางซับซ้อนเกินไป ยากต่อการควบคุม ในงานที่ละเอียดอ่อนเช่นนี้ จะให้เกิดข้อผิดพลาดไม่ได้เด็ดขาดเย่จิ่งอวี้ไม่เหมือนกัน เขาบำเพ็ญตบะกำลังภายในของหอแห่งเสียงศักดิ์สิทธิ์ ทั้งยังประสานพลังแห่งฟ้าดิน แม้ว่าอินชิงเสวียนจะมีพลังลมปราณของหลายสำนัก แต่ก็ไม่สามารถเทียบกับกำลังภายในอันบริสุทธิ์และทรงพลังของฮ่องเต้ได้ในชั่วพริบตา กำลังภายในดุจธารานิ่งลึกหลั่งไหลเข้ามาจากด้านนอกประตู เหมือนโลกลึกล้ำ โอบกอดและยืดหยุ่น บรรยากาศที่มืดมนในห้องโถงคล้ายจะถูก

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1534 ท่านพี่ช่วยข้าได้ไหม

    “ฟางรั่วเข้าวัง?”เย่จิ่งอวี้หยุดฝีเท้าหลี่เต๋อฝูโค้งคำนับและพูดว่า “กระหม่อมถามองครักษ์ที่เฝ้าหน้าประตูวังแล้ว แม่นางฟางรั่วเข้ามาเมื่อสามชั่วยามที่แล้ว”เจวี๋ยอิ่งคุกเข่าลงและพูดว่า “กระหม่อมเห็นฟางรั่วเข้าไปในตำหนักจินอู๋ แต่ไม่เห็นนางและฮองเฮาออกมา”เย่จิ่งอวี้หรี่ตาลงเล็กน้อย สายตาคล้ายจะสดใสและมืดมน กำลังตกอยู่ในอาการครุ่นคิดด้วยวรยุทธ์ของฟางรั่ว ไม่มีทางเป็นไปได้ที่จะทำอันตรายต่ออินชิงเสวียน นางยังมีใบมีดแห่งมิติอยู่ในมือ แม้ว่าเหล่าเทพเซียนจะลงมาเอง แต่นางก็ยังสามารถต่อสู้ได้จากมุมมองนี้ ควรไม่ใช่การหายตัวไปง่ายๆ นางเรียกฟางรั่วมา ต้องมีเหตุผลอื่นเป็นแน่เจวี๋ยอิ่งโค้งคำนับและถามว่า “ต้องการให้กระหม่อมปิดล้อมพระนคร สืบหาที่อยู่ของฮองเฮาอย่างถี่ถ้วนหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ”เย่จิ่งอวี้เหลือบมองเจวี๋ยอิ่ง“ไม่ต้อง หลี่เต๋อฝู ไปเชิญกวนเซี่ยวเข้ามาด้วย”ครู่ต่อมา กวนเซี่ยวก็วิ่งเหยาะๆ มาถึงประตูตำหนัก ยกเสื้อคลุมขึ้นและคุกเข่าลงกับพื้น“กวนเซี่ยวถวายบังคมฝ่าบาท ฝ่าบาททรง...”เย่จิ่งอวี้ได้ยินเช่นนั้นก็รำคาญ โบกมือห้าม“ตามสบาย เจ้ารู้ไหมว่าทำไมฟางรั่วถึงมาที่วัง”กวนเซี่ยว

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1533 เจ้าน่ะ ยังมีนิสัยดื้อรั้นเหมือนเดิม

    “ในเมื่อเจ้าเตรียมตัวพร้อมแล้ว เช่นนั้นก็ตามข้าไปที่อื่น”อินชิงเสวียนดีดปลายเท้าขึ้น ร่างนั้นก็กระโดดออกจากตำหนักจินอู๋ ท่วงท่ากิริยาเบาบางและสง่างาม ราวกับเทพธิดาในวังพระจันทร์ที่ทิ้งร่องรอยความงดงามไว้บนโลกมนุษย์ฟางรั่วติดตามอย่างใกล้ชิด พลางชื่นชมในใจอินชิงเสวียนเป็นคนพิเศษจริงๆ!ราวสิบห้านาที ร่างที่สง่างามทั้งสองก็ปรากฏตัวขึ้นในตำหนักฉือหนิงหลังจากไทเฮาสิ้นพระชนม์ สถานที่แห่งนี้ก็ว่างเปล่า ขณะนี้มีไท่เฟยและไท่ผินเพียงไม่กี่คนที่เหลืออยู่ในวัง ที่พักอาศัยมีมากมาย เหตุผลที่อินชิงเสวียนเลือกสถานที่นี้ ก็เพราะเย่จิ่งอวี้จะไม่มาจากนั้นก็นึกในใจ ครั้นแล้วถังไม้ขนาดใหญ่ก็ปรากฏขึ้นตรงหน้า และในพริบตาเดียว มันก็เต็มไปด้วยน้ำพุวิญญาณที่ใสสะอาด“เข้าไปสิ สิ่งนี้สามารถรับรองความปลอดภัยของเจ้าได้ในระดับสูงสุด”“เพคะ”ฟางรั่วก้าวเข้าไปในถังโดยไม่ลังเลใดๆ แม้เป็นฤดูหนาว น้ำในถังนี้กลับไม่เย็น แต่เต็มไปด้วยความอบอุ่นที่ปกคลุมผิวหนังและเส้นลมปราณทั้งหมดของนางอินชิงเสวียนตามเข้ามา จากนั้นนั่งตรงข้ามนางแม้ว่าจะเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น น้ำพุวิญญาณก็สามารถรับรองความปลอดภัยในชีวิตขอ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1532 คืนชีวิตให้ท่านแล้วจะเป็นไร

    “เจ้าลุกขึ้น ข้าหมายถึงอาจจะทำได้ แต่จะมีโอกาสฟื้นตัวได้มากเพียงใด ข้าก็ไม่แน่ใจ เรื่องนี้ เจ้าควรปรึกษากับกวนเซี่ยวก่อนดีกว่า ถึงอย่างไรเรื่องนี้ก็ไม่ได้เกี่ยวกับเจ้าเท่านั้น แต่ยังเกี่ยวกับเขาด้วย”อินชิงเสวียนพยุงฟางรั่วด้วยมือทั้งสองข้าง และอธิบายข้อดีข้อเสียฟางรั่วพยักหน้า“ข้าเข้าใจ เพียงแต่ สุขภาพของฮองเฮา”อินชิงเสวียนท้องโตขนาดนี้ หากมีอะไรผิดพลาดขึ้นมา นางไม่สามารถรับผิดชอบไหวอินชิงเสวียนยิ้มละไม“ร่างกายของข้าแข็งแรงมาก ไม่เป็นไร เจ้าคิดดีแล้วก็มาหาข้าที่วังหลวงได้เลย”“เพคะ”ขณะที่กำลังคุยกัน ทั้งสองคนก็เดินไปที่แท่นประลองข้างๆ แล้วเห็นเด็กหญิงคนหนึ่งอายุสิบห้าหรือสิบหกปี ถือดาบคู่อยู่ในมือ กระโดดขึ้นลงด้วยท่าทางที่เบาและกล้าหาญ บีบชายที่อยู่ตรงข้ามหลังให้ล่าถอยทีละก้าว จนตกแท่นประลอง ล้มลงต่อหน้าผู้ชม อินชิงเสวียนอดไม่ได้ที่จะชื่นชมมัน“ทำได้ดีมาก!”ใบหน้าของฟางรั่วแสดงถึงความภาคภูมิใจ“เด็กหญิงคนนี้ชื่อหลิวซู่เยว่ เมื่อก่อนเป็นลูกสาวของหัวหน้าคณะละคร นางมีทักษะการต่อสู้อยู่บ้าง หลังจากที่บิดาเสียชีวิต นางไม่สามารถดูแลคณะละครได้ จึงมาที่เมืองหลวง เข้ามาเรี

DMCA.com Protection Status