Home / รักโบราณ / สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์ / บทที่ 505 ระวังจะไม่มีคนขอแต่งงาน

Share

บทที่ 505 ระวังจะไม่มีคนขอแต่งงาน

Author: ม่อเยี่ยน
last update Last Updated: 2024-03-25 16:00:00
สี่ชั่วยามต่อมา หญิงสาวทั้งสองก็ปรากฏตัวขึ้นในย่านใจกลางเมือง

ทุกครั้งที่อินชิงเสวียนออกจากวังนางมักจะรีบเร่งอยู่เสมอ ไม่เคยเดินเที่ยวเล่นเช่นนี้มาก่อน เมื่อมองดูผู้คนที่ยุ่งวุ่นวายทำการค้าบนถนน จู่ๆ นางก็รู้สึกเหมือนกำลังเดินเล่นที่ตลาดนัดกลางคืน

ทั้งสองมองไปรอบๆ รู้สึกผ่อนคลายและสบายใจมาก

ฉินเทียนและหลี่ฉีติดตามทั้งสองอยู่ข้างหลัง แต่กลับทำท่าระแวดระวังราวกับเผชิญหน้ากับศัตรูที่น่าเกรงขาม

คนผู้นี้เป็นถึงกุ้ยเฟยของฝ่าบาทองค์ปัจจุบัน ทั้งยังมีบุตรีคนที่สี่ของแม่ทัพอิน หากเกิดอะไรขึ้น พวกเขาไม่สามารถรับผิดชอบไหว

“ท่านพี่ น้ำตาลปั้นเจ้าค่ะ!”

อินจื่อลั่วชี้ไปที่คนขายน้ำตาลปั้น แล้วทำท่าเหมือนอยากไปลองกิน

อินชิงเสวียนพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ไป พวกเราไปชื้อมาลองชิมสองอัน”

นับตั้งแต่ออกจากวังเย็น อินชิงเสวียนก็มีความกังวลเกี่ยวกับสิ่งต่างๆ มากมาย ยากมากที่อินชิงเสวียนจะผ่อนคลายจิตใจเช่นนี้

อินจื่อลั่ววิ่งไปที่แผงขายน้ำตาลปั้น หมายตาน้ำตาลปั้นเล็กๆ ที่อยู่ด้านบนสุด นางเอื้อมมือจะไปหยิบ แต่กลับมีมืออีกข้างหนึ่งมาฉวยไปก่อน

อินจื่อลั่วจ้องตามมือไปหาเจ้าของมือ แล้วก็เห็นว่าคนที่แย่งน้ำตาลปั้
Locked Chapter
Continue to read this book on the APP

Related chapters

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 506 ล้อเด็กเล่น

    อินชิงเสวียนหน้าเปลี่ยนสี มองไปที่เย่จิ่งหลานโดยไม่รู้ตัวเย่จิ่งหลานก็มองไปที่ชายชราด้วยสายตาเคร่งขรึมเล็กน้อยอินจื่อลั่วกลับตกใจเมื่อเห็นภาพนั้น นางร้องกรี๊ดพร้อมกับเอามือปิดตาอินชิงเสวียนกอดอินจื่อลั่วและตบหลังนางเบาๆ “ไม่ต้องกลัวนะ พี่อยู่นี่แล้ว”อินจื่อลั่วซุกหน้าไว้ในอ้อมแขนของพี่สาว กลัวเกินกว่าจะมองกลับไปอินชิงเสวียนส่งสายตาให้เย่จิ่งหลาน“เราไปนั่งโรงน้ำชาใกล้ๆ กันเถอะ”พวกเขาทั้งสามเดินขึ้นไปชั้นบนในโรงน้ำชา ส่วนองครักษ์รออยู่ที่ชั้นล่างอินชิงเสวียนสั่งชาให้อินจื่อลั่วดื่ม แล้วมองไปที่เย่จิ่งหลาน“เรื่องนี้เจ้าจะว่าอย่างไร”เย่จิ่งหลานหยิบถ้วยชาขึ้นมาจิบ แล้วถามกลับว่า “เจ้าคิดว่าข้าจะเย็บแผลที่ไม่น่าดูขนาดนี้หรือ ในความคิดของข้า การผ่าตัดก็เป็นศิลปะเช่นกัน”เมื่อสบตากัน เย่จิ่งหลานก็ไม่หลบสายตา ดวงตาของเขาก็ชัดเจนและสงบมากพอนึกว่าเขาเป็นศัลยแพทย์ ก็ดูไม่น่าจะเย็บบาดแผลที่น่าเกลียดเช่นนี้ได้จริงๆ“แล้วเกิดอะไรขึ้นกันนี่”เย่จิ่งหลานยักไหล่“ข้าจะรู้ได้อย่างไร เรื่องนี้ไม่ใช่ความรับผิดชอบของข้า”อินชิงเสวียนยังคงจ้องมองเขาเย่จิ่งหลานพูดอย่างช่วยไม่ได้

    Last Updated : 2024-03-25
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 507 หาเรื่องโดนตบ

    บนถนนสายยาว อินชิงเสวียนเดินทางอย่างเชื่องช้าเมื่อเข้าใกล้วัง จู่ๆ ก็รู้สึกหงุดหงิดไม่รู้ว่าจะสามารถกำจัดพิษกู่นี้ได้เมื่อไหร่ วันหนึ่งเย่‍จิ่ง‍อวี้จะจำตัวเองไม่ได้หรือไม่พอคิดถึงกวนเซี่ยวที่รู้เรื่องนี้แต่ไม่รายงาน ก็รู้สึกอัดอั้นตันใจมากยิ่งขึ้นเมื่อเห็นว่าอินชิงเสวียนไม่มีความสุข อวิ๋นฉ่ายจึงพูดว่า “พระสนม ท่านกังวลใจหรือเพคะ”“ไม่มีอะไร ข้ากำลังคิดว่ามื้อเย็นจะกินอะไรดี”เรื่องเหล่านี้เป็นเรื่องสำคัญ เด็กสาวอย่างอวิ๋นฉ่ายไม่สามารถแก้ไขได้แน่นอน พูดคุยกับนางก็คงไม่ช่วยอะไร รังแต่จะเพิ่มปัญหาเท่านั้นอวิ๋นฉ่ายคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดว่า “หม่อมฉันจะทำขนมเปี๊ยะไส้น้ำตาลให้พระสนมดีกว่า ได้ยินคนพูดว่าการกินของหวานจะทำให้คนมีความสุข”“ข้าก็เคยได้ยินคำพูดนี้เหมือนกัน แต่ไม่เอาดีกว่า กินหวานมากไปจะทำให้อ้วน มากินหม้อไฟกันดีกว่า”เมื่อเข้าสู่ช่วงปลายฤดูใบไม้ร่วงแล้วอุณหภูมิก็ค่อยๆ ลดลง หลังจากพระอาทิตย์ตกดินแล้วอากาศก็ยังค่อนข้างเย็นอวิ๋นฉ่ายพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ได้เพคะ กลับตำหนักแล้วหม่อมฉันจะเตรียมวัตถุดิบให้เอง”ขณะที่พูด อินชิงเสวียนก็มาถึงประตูวัง นางลงจากหลังม้า แล้วส่งหนิ

    Last Updated : 2024-03-25
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 508 ข้าจะถลกหนังเจ้า

    อินชิงเสวียนใช้พลังมิติ จูอวี้เหยียนก็ถูกกระแทกออกไปทันที ร่างของนางก็กระแทกโต๊ะอย่างแรงทันใดนั้นก็มีเสียงกระเบื้องเคลือบแตกกระจาย กาน้ำชาและชามกระเบื้องบนโต๊ะก็ร่วงลงพื้น แล้วจูอวี้เหยียนก็ล้มลงกับพื้นเสียงดังครืน เห็นด้วยตาเปล่าว่าแก้มของนางก็บวมขึ้นทันทีทุกคนตกตะลึง ไม่มีใครคาดคิดว่าอินชิงเสวียนจะกล้าแสดงความเกรี้ยวกราดต่อหน้าฝ่าบาทเช่นนี้ และไม่มีมครคิดว่านางจะมีพละกำลังมากมายปานนี้จูอวี้เหยียนได้รับการปรนนิบัติในเจียงวูอย่างดีมาโดยตลอด แม้แต่ราชาเผ่าก็ยังต้องยอมอ่อนข้อในนางสามส่วน ตั้งแต่นางมาถึงต้าโจว ก็ถูกควบคุมทุกอย่างจนเกือบจะระเบิดความโกรธออกมา“ฝ่าบาท!”นางกัดฟันกระตุ้นหนอนกู่ ซึ่งใบหน้างามเปื้อนน้ำตาดั่งดอกสาลี่ต้องหยาดฝนเย่‍จิ่ง‍อวี้ขมวดคิ้วเล็กน้อย“เสวียน‍เอ๋อร์”อินชิงเสวียนพูดเรียบๆ “ทำไม หรือว่าหม่อมฉันจะสั่งสอนบ่าวรับใช้ไม่ได้หรือเพคะ”เมื่อมองดูใบหน้าที่บวมแดงครึ่งหน้าของจูอวี้เหยียน เย่‍จิ่ง‍อวี้ก็พูดว่า “ไม่ใช่ว่าทำไม่ได้ เพียงแต่เสวียน‍เอ๋อร์ลงมือรุนแรงไปหน่อย”จูอวี้เหยียนคว้าชายเสื้อของเย่‍จิ่ง‍อวี้ทันที พูดด้วยความคับข้องใจอย่างยิ่ง “ฝ่าบาท แม้ว่

    Last Updated : 2024-03-26
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 509 เฉยชา

    สายลมยามค่ำคืนเย็นสบายแสงจันทร์ที่สาดส่องเป็นเหมือนเด็กหญิงตัวเล็กๆ ขี้อายที่ซ่อนตัวอยู่หลังก้อนเมฆ คอยส่องแสงสลัวๆ แสงจางๆ และนุ่มนวลสะท้อนบนใบหน้างามหยาดเยิ้มของอินชิงเสวียน ทำให้ใบหน้าของนางดูงดงามยิ่งขึ้น ดูงดงามที่เหนือมนุษย์ข้างๆ คือเย่จิ่งอวี้ที่เดินเอามือไพล่หลัง เสื้อคลุมปลิวไสวตามสายลมยามราตรี เงาของร่างผึ่งผายกำยำนั้นทอดยาวทั้งสองคนเงียบไปตลอดทาง ไม่มีใครเอ่ยคำใดจู่ๆ อินชิงเสวียนก็นึกถึงตอนที่ไทเฮาถูกประหารชีวิต ทั้งสองคนกำลังเดินอยู่บนถนนหินกรวดสายนี้ ในเวลานั้น พวกเขาดูเหมือนจะมีเรื่องให้พูดคุยกันอย่างไม่รู้จบ แต่วันนี้ เป็นครั้งแรกที่อินชิงเสวียนรู้สึกถึงความแปลกแยกของเย่‍จิ่ง‍อวี้จนกระทั่งถึงตำหนักเฉิงเทียน เย่‍จิ่ง‍อวี้จึงหยุดเดิน“เสวียน‍เอ๋อร์อยากคุยกับข้าเรื่องสำนักศึกษาหลวงไม่ใช่หรือ”อินชิงเสวียนมองดูเขาแล้วพูดว่า “หม่อมฉันคิดว่าตอนนี้ฝ่าบาทคง ไม่อยากฟังอีกแล้ว”ปฏิกิริยาของเย่‍จิ่ง‍อวี้ดูเหมือนจะช้าเกินไปครึ่งจังหวะ“จะเป็นไปได้อย่างไร ข้าเป็นห่วงเรื่องสำนักศึกษาหลวงมาโดยตลอด หลายวันนี้เสวียน‍เอ๋อร์สอนเป็นอย่างไรบ้าง”อินชิงเสวียนมองไปที่เย่‍จิ่ง‍

    Last Updated : 2024-03-26
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 510 ถ้าข้าตายก็อย่าหวังว่าพวกเขาจะมีชีวิตรอด

    ปกติแล้วอินจ้งก็เชื่อมั่นในคำพูดของอินชิงเสวียนอย่างมากอยู่แล้ว เขารีบช่วยพยุงร่างของอินสิงอวิ๋นขึ้น จับคางแล้วป้อนน้ำให้เขาหมอหลวงเหลียงก็นั่งเขียนใบสั่งยาอยู่ข้างๆ“นี่คือใบสั่งยาสำหรับการเสริมแกร่งภายใน ลองเอามาต้มให้คุณชายใหญ่ดินดูก่อน”อินปู้อวี่รับใบสั่งยา“ขอบคุณท่านหมอหลวงเหลียง ข้าจะส่งคนไปซื้อยามาเดี๋ยวนี้”หมอหลวงเหลียงลูบเคราแล้วพูดว่า “ตอนนี้เราทำได้แต่ต้องรอดูสถานการณ์พรุ่งนี้แล้วค่อยว่ากันอีกที”อินจ้งกล่าวขอบคุณหมอหลวงเหลียง แล้วไปส่งเขาออกจากจวนด้วยตัวเองซูหมิงหลานนั่งข้างเตียง ทำความสะอาดเลือดบนใบหน้าของอินสิงอวิ๋น แล้วพูดด้วยดวงตาแดงก่ำ “เกิดอะไรขึ้นกับเด็กคนนี้กัน ก่อนหน้านี้ยังดีๆ อยู่เลย ถ้าไม่ออกจากเมืองซุ่ยหานก็คงดี คงไม่เป็นเช่นในตอนนี้”เมื่อได้ยินคำนี้ อินชิงเสวียนก็รู้ว่าอินจ้งไม่ได้บอกเรื่องของอินสิงอวิ๋นให้นางทราบนางจึงรีบเข้าไปปลอบว่า “ท่านแม่รองไม่ต้องเป็นห่วงเจ้าค่ะ พี่ใหญ่ของข้าต้องไม่เป็นอะไร”ซูหมิงหลานสูดจมูกแล้วพูดว่า “ตอนนี้ผ่านด่านยากมากมายแล้ว ในที่สุดครอบครัวของเราก็ทนลำบากจนมามีความสุข แต่พี่ใหญ่ของเจ้ากลับเป็นโรคประหลาด น่าเป็นห่

    Last Updated : 2024-03-26
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 511 วิงวอน

    “เจ้าไม่ต้องห่วง พวกเราจะไม่ทำร้ายเจ้า”กระแสเสียงอันทรงพลังดังมาจากด้านหลังอินชิงเสวียน ซึ่งก็คืออินจ้งผู้ที่ปลอมตัวเป็นองครักษ์จูอวี้เหยียนมองดูเขา รู้สึกว่าชายชราผู้นี้มีเค้าโครงคล้ายกับอินสิงอวิ๋นอยู่หลายส่วน นางจึงคาดเดาตัวตนของเขาได้เกือบจะในทันที“ท่านก็คืออินจ้ง?”อินจ้งพยักหน้า“คุณหนูจู ข้า...ขอคุยกับเจ้าตามลำพังได้หรือไม่”ดวงตาของจูอวี้เหยียนหันไปมองใบหน้าของอินจ้ง จากนั้นนางก็หัวเราะเบาๆ “ได้สิ เช่นนั้นก็ให้นางออกไป”อินจ้งหันไปมองอินชิงเสวียน“ชิงเสวียน...”อินชิงเสวียนกลับมองไปที่จูอวี้เหยียนกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ทางที่ดีเจ้าอย่าคิดเล่นลูกไม้ ถ้าเจ้ากล้าทำอะไรท่านพ่อของข้า แม้ข้าต้องกลายเป็นหยกที่แตกละเอียด ก็ไม่ยอมปล่อยให้เจ้ามีชีวิตแน่”จูอวี้เหยียนแค่นเสียงหึขึ้นจมูก“ในเมื่อเจ้าไม่เชื่อ เช่นนั้นเราก็ไม่จำเป็นต้องคุยกันตามลำพัง พวกเจ้าไปเถอะ ไม่เช่นนั้นข้าจะให้คนไปแจ้งฝ่าบาท แม้ว่าท่านจะเป็นขุนนางอาวุโส แต่ความผิดฐานบุกรุกวังหลังโดยพลการเกรงว่าท่านจะรับไม่ไหว”“ไม่จำเป็นต้องพูดพล่ามคำเหล่านี้ ทางด้านฝ่าบาท ข้าจะอธิบายให้ฟังเอง ข้าแค่อยากให้เจ้ารู้

    Last Updated : 2024-03-27
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 512 บาปกรรม

    จูอวี้เหยียนมองอินจ้งอย่างดูถูกเหยียดหยาม กล่าวด้วยรอยยิ้มเยาะ “เช่นนั้นก็ได้ ข้าจะให้มีดสั้นแก่ท่าน ให้ท่านตายต่อหน้าข้าเดี๋ยวนี้ เมื่อใดที่ท่านตาย ข้าจะให้ยาถอนพิษแก่อินสิงอวิ๋น”ใบหน้าของอินจ้งเหยเกบิดเบี้ยว“ข้ากับแม่นางไม่มีความแค้นต่อกัน เหตุใดแม่นางต้องทำถึงเพียงนี้ด้วย”จูอวี้เหยียนเหยียดยิ้มอย่างเย็นชา“ท่านรู้ได้อย่างไรว่าข้ากับท่านไม่มีความแค้นต่อกัน ในโลกนี้ ไม่มีใครเกลียดตระกูลอินมากไปกว่าข้าแล้ว”อินจ้งมีความคิดหนึ่งแวบขึ้นในหัว ถามทันทีว่า “ทำไม”จูอวี้เหยียนพูดด้วยน้ำเสียงเหี้ยมเกรียม “ท่านก็กล่าวถึงตงเหอหยวนแล้ว รู้แล้วยังจะถามอีก หลังจากท่านจากไป หญิงแซ่จูผู้นั้นก็โศกเศร้าไม่เสื่อมคลาย จนเสียชีวิตบนเตียง นี่เป็นหนี้ของหนึ่งชีวิต หรือท่านไม่สมควรชดใช้กระนั้นหรือ”อินจ้งถามด้วยความประหลาดใจ “ความจริงแล้วเจ้าก็คือ...”จูอวี้เหยียนกล่าวอย่างรุนแรง “ไม่ ข้าไม่เกี่ยวข้องกับตระกูลอินของท่าน อินจ้ง ออกไปซะ ข้าจะทำให้ลูกชายคนโตของท่านค่อยๆ ตาย แล้วมองดูลูกสาวของท่านถูกฝ่าบาทปลดออกจากฐานะสนม ข้าต้องการทำให้ตระกูลอินของพวกท่านตายไม่เหลือซาก เพื่อปลอบขวัญวิญญาณของหญิงแซ่จ

    Last Updated : 2024-03-27
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 513 เมื่อไร้วาสนาก็ไม่ต้องอยู่ด้วยกัน

    ดูเหมือนว่าชิงเสวียนไม่ได้โกหกเขา น้ำนี้ไม่ฤทธิ์ธรรมดาจริงๆนางได้สิ่งนี้มาจากที่ใดเมื่อคิดถึงเมล็ดพันธุ์เหล่านั้นที่ตัวเองไม่เคยได้ยินมาก่อน อินจ้งก็อดขมวดคิ้วไม่ได้พอนึกย้อนกลับไปอย่างละเอียด อินชิงเสวียนในวันนี้ แตกต่างจากลูกสาวคนก่อนจริงๆอินชิงเสวียนในอดีตชื่นชอบเพลงดนตรี มีนิสัยชอบเก็บตัว วันๆ เอาแต่หมกมุ่นอยู่ในโลกของตัวเอง ไม่สนใจเรื่องอื่นเป็นเพราะเรื่องของตระกูลอินที่ทำให้นางเติบโตจนเป็นเช่นในวันนี้ หรือเกิดอะไรขึ้นถึงได้กลับตาลปัตรเช่นนี้ แต่ไม่ว่าอินชิงเสวียนจะเปลี่ยนไปอย่างไร สิ่งหนึ่งที่ยังคงเหมือนเดิม และนั่นคือความรู้สึกของนางที่มีต่อพวกเขาเมื่อนึกถึงตรงนี้ อินจ้งก็ถอนหายใจอย่างเงียบๆ ลำบากลูกๆ แล้วอายุยังน้อยอยู่แท้ๆ ต้องมาแบกรับภาระชีวิตที่ไม่ควรจะมี และเขาในฐานะพ่อ กลับไม่สามารถปกป้องลูกๆ ได้ ช่างน่าละอายใจต่อพวกเขาเหลือเกินในขณะที่กำลังตกอยู่ในห้วงภวังค์ อินปู้อวี่ก็ล้างเนื้อล้างตัว แล้วเดินออกจากอ่างน้ำแล้วอินจ้งรีบหยิบเสื้อผ้ามาคลุมตัวให้อินปู้อวี่“รีบใส่เสื้อผ้าเร็ว อย่าให้เป็นหวัด”อินปู้อวี่ตบอกผาง แล้วพูดว่า “ท่านพ่อไม่ต้องกังวล ลูกไม่เป

    Last Updated : 2024-03-27

Latest chapter

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1540 สองพระองค์ครองราชย์ จบบริบูรณ์

    ปีที่สามของการครองราชย์ในราชวงศ์ต้าโจวฮองเฮาให้กำเนิดพระธิดา ได้รับพระราชทานนามว่าองค์หญิงเจ๋อเทียน นามว่าเจิน มีชื่อเล่นว่าฝูเอ๋อร์ในเดือนเก้าของปีเดียวกัน เย่จิ่งอวี้และอินชิงเสวียนปกครองร่วมกัน แบ่งกันปกครองบ้านเมืองและการดำรงชีวิตของผู้คน ราษฎรเคารพทั้งสองในฐานะพระองค์ฝ่ายซ้ายและฝ่ายขวา ประวัติศาสตร์ได้บันทึกช่วงเวลานี้ไว้ด้วยถ้อยคำที่งดงามที่สุด และเรียกช่วงเวลานี้อย่างเคารพว่า ยุคที่สององค์ปกครอง!ห้าปีต่อมา เครื่องกำเนิดพลังงานลมเครื่องแรกปรากฏขึ้นด้วยฝีมือความสามารถของชาวต้าโจว ซึ่งก้าวล้ำหน้าสมัยโบราณที่ล้าหลังไปอย่างมากด้วยก้าวที่ยิ่งใหญ่นักเรียนจากทั่วแคว้นได้แสดงความสามารถ พัฒนาสิ่งที่ล้ำหน้าต่างๆ ผ่านความรู้ทางคณิตศาสตร์ ฟิสิกส์ และเคมีใหม่ล่าสุด บุปผานับร้อยบานสะพรั่งพร้อมกัน ก่อให้เกิดยุครุ่งเรืองของราชวงศ์ต้าโจวตอนนี้อาหารไม่ขาดแคลน ราษฎรไม่ต้องทนทุกข์กับความหิวโหยอีกต่อไป ยิ่งไม่มีการอพยพย้ายถิ่นฐาน โครงการคลองส่งน้ำก็สำเร็จลุล่วง ด้วยการคมนาคมสะดวกระหว่างภาคเหนือและภาคใต้ ก็สามารถแลกเปลี่ยนสิ่งที่ต้องการได้ในที่สุด อ่างเก็บน้ำที่สร้างขึ้นยังสามารถเปลี่ยนเส้นท

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1539 เสวียนเอ๋อร์ขอบคุณเจ้านะ

    ตำหนักจินอู๋อินชิงเสวียนอดทนต่อความเจ็บปวดที่ถาโถมเข้ามาราวกับกระแสน้ำ แต่ไม่กล้าโคจรกำลังภายในต้านทานไว้ เพราะกลัวว่าจะทำร้ายลูกของนางเมื่อเห็นนางกัดริมฝีปากล่างแน่น มีเหงื่อไหลอาบหน้า หัวใจของเย่จิ่งอวี้ก็รู้สึกเหมือนถูกมีดคมๆ นับพันทิ่มแทง รู้สึกเจ็บปวดอย่างยิ่ง“ต้องทำอย่างไรถึงจะช่วยบรรเทาความเจ็บปวดของฮองเฮาได้ ต้องปล่อยให้นางเจ็บปวดทนทุกข์เช่นนี้หรือ”หมอตำแยกล่าวอย่างกล้าหาญว่า “สตรีคลอดบุตรก็เป็นเช่นนี้เพคะ อดทนไว้ แล้วจะดีเอง”เย่จิ่งอวี้พูดด้วยความโกรธ “ฮองเฮาของข้าจะเทียบได้กับสตรีทั่วไปได้อย่างไร รีบหาทางบรรเทาความเจ็บปวดของฮองเฮาเดี๋ยวนี้”“ข้าไม่เป็นไร อาอวี้ออกไปก่อนเถอะ!”เสียงของอินชิงเสวียนนั้นอ่อนแรง แม้จะเป็นสามีภรรยากัน แต่ถูกเห็นเข้าในสถานการณ์เช่นนี้ก็น่าอายอยู่เหมือนกันเย่จิ่งอวี้เดินก้าวเดียวก็ไปถึงเตียง จับมือของนางแน่นๆ แล้วพูดอย่างกระวนกระวายใจ “ข้าไม่วางใจ มีวิธีถ่ายทอดความเจ็บปวดให้ข้าได้ไหม เจ้าอยู่กับลั่วสุ่ยชิงมานานแล้ว ไม่ได้เรียนวิชาอาคมอะไรจากนางบ้างหรือ”อินชิงเสวียนเจ็บปวดเจียนตายอยู่แล้ว เมื่อได้ยินคำนี้ก็ไม่รู้จะหัวเราะหรือร้องไห้ดี

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1538 ไท่เฟยไท่ผินออกจากวัง

    อินชิงเสวียนอดทนต่อความเจ็บปวดและกล่าวว่า “ฝ่าบาทไม่จำเป็นต้องอยู่ที่นี่ วันนี้เป็นวันแต่งงานของไห่ถัง ในฐานะพี่ชาย ควรเป็นประธานงานแต่งของนางด้วยตนเอง หากไม่มีคนในราชวงศ์ไป ไห่ถังจะผิดหวังได้”แม้น้องสาวจะเป็นญาติ แต่ก็ไม่ชิดเชื้อเท่ากับภรรยา ลูกคนแรกเกิดในตำหนักเย็น ซึ่งทำให้เย่จิ่งอวี้รู้สึกผิดไปครึ่งชีวิตแล้ว ยากนี้เด็กคนนี้คือสมบัติล้ำค่าที่แท้จริงระหว่างพวกเขา ในฐานะพ่อของลูก เขาจะจากไปได้อย่างไรเมื่อเห็นว่าใบหน้าของนางซีด มีเม็ดเหงื่อเม็ดเล็กๆ ผุดพรายขึ้นเต็มขมับของนาง เย่จิ่งอวี้ก็รีบก้าวไปข้างหน้าเพื่อปลอบนาง “ไม่เป็นไร มีแม่ทัพอินและจอมพลกวนอยู่ด้วย ไห่ถังก็ไม่นับว่าเสียเกียรติอะไรนัก”อินชิงเสวียนคว้าแขนของเขา“จะได้อย่างไร หากไม่มีใครจากในวังไป มันจะกลายเป็นปมในใจของไห่ถังอย่างแน่นอน นี่คือวันที่สำคัญที่สุดในชีวิตของนาง”ไม่ว่าอย่างไรเย่จิ่งอวี้ก็ไม่ยอมไป แต่ก็ไม่สามารถปล่อยให้น้องสาวเสียหน้าได้ เขาหรี่ตาลงเล็กน้อย มีความคิดอยู่ในใจ“เจวี๋ยอิ่ง ไปเชิญไท่เฟยไท่ผินทุกท่าน ให้พวกนางออกจากวัง ร่วมงานเสกสมรสขององค์หญิงเดี๋ยวนี้”ทุกคนตกตะลึง ไม่มีใครคาดคิดว่าเย่จิ่งอวี้จ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1537 ฮองเฮาทรงมีพระประสูติการ

    เย่ไห่ถังยังคงมีความสุข แต่จู่ๆ เสียงของหลี่เต๋อฝูก็ทำให้นางรู้สึกไม่พอใจเล็กน้อยเมื่อเปิดประตู เห็นเสด็จพี่และเสด็จพี่สะใภ้ยืนอยู่ที่กลางเรือน น้ำตาก็ไหลออกมาจากดวงตา“ไห่ถังคารวะเสด็จพี่ เสด็จพี่สะใภ้เพคะ!”เย่ไห่ถังกำลังจะคุกเข่าลง แต่เย่จิ่งอวี้ก็ปราดเข้าประคองนางพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “ในฐานะสตรีที่ออกเรือนแล้ว ทุกสิ่งต้องคำนึงถึงสถานการณ์โดยรวม จะทำตัวเหลวไหลซุกซนเหมือนอยู่ในวังไม่ได้ หากใช้ชีวิตนอกวังจนเบื่อแล้ว ก็สามารถกลับมาได้ตลอดเวลา วังหลวงจะเป็นบ้านของเจ้าตลอดไป”อินชิงเสวียนก็ก้าวไปข้างหน้าและพูดว่า “ถ้าพี่รองของข้ารังแกเจ้า เจ้าก็บอกข้าได้เลย ข้าจะทวงความยุติธรรมให้กับเจ้าแน่นอน”ถ้าคนที่เย่ไห่ถังแต่งงานด้วยไม่ใช่อินปู้อวี่ เย่จิ่งอวี้คงพูดคำนี้ไปนานแล้วเย่ไห่ถังสูดจมูก“ขอบพระทัยเสด็จพี่และเสด็จพี่สะใภ้เพคะ ตอนแรกข้าค่อนข้างมีความสุข แต่ตอนนี้ไม่อยากจากไปเลย”เมื่อเห็นว่าจมูกของเย่ไห่ถังแดง กำลังจะร้องไห้อีก เย่จิ่งอวี้จึงตีหน้าขรึมพูดทันที “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ งั้นข้าจะให้คนไปแจ้งอินปู้อวี่ ว่าการแต่งงานครั้งนี้ไม่มีแล้ว หลี่เต๋อฝู!”หลี่เต๋อฝูก็เป็นคนเจ้าเ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1536 องค์หญิงกำลังจะเสกสมรส

    ในวันที่หนึ่งเดือนสี่ ลำดับการสอบการต่อสู้ชี้ให้เห็นว่า เฉินเซียงเยว่ที่อินชิงเสวียนสนใจ สอบได้ลำดับหนึ่ง คนผู้นี้หน้าตาดูดุร้ายและน่าเกลียด แต่กลับมีจิตใจอ่อนโยนดังเช่นสตรี ไม่เพียงแต่วรยุทธ์ดีเลิศเท่านั้น แต่ยังเก่งในเรื่องการจัดขบวนทัพด้วย เป็นยอดแม่ทัพที่หาได้ยากนางได้ลำดับหนึ่งก็คือจอหงวนด้านวิชาการต่อสู้ ไม่มีใครไม่ยอมรับเลย แค่ยืนอยู่เฉยๆ ก็ดูฮึกเหิมมีพลังมากกว่าผู้ชายทุกคนในตอนนั้นเด็กผู้หญิงอีกคนหนึ่งแซ่หลิวมีชื่อว่าเยว่ ก็ได้รับเลือกให้ติดอยู่ในสามอันดับแรก รั้งอยู่ในเมืองหลวงฝ่าบาทขานรายชื่อสตรีมามากขนาดนี้ เหล่าขุนนางข้าราชบริพารก็อดไม่ได้ที่จะพูดถึงเรื่องนี้ ต่างรู้สึกว่ามันไม่ถูกต้องตามระเบียบประเพณี แต่ก็กล้าที่จะวิพากษ์วิจารณ์เป็นการส่วนตัวเท่านั้น ต้าโจวในวันนี้เปลี่ยนไปแล้ว ที่ฝ่าบาทยินดีฟังพวกเขา ก็ถือเป็นการให้เกียรติพวกเขาแล้ว หากฝ่าบาทไม่อยากฟัง ถึงพูดมากไปก็ไร้ผลแต่ไม่มีใครกล้าพูดว่าเย่จิ่งอวี้เป็นทรราช ฝ่าบาททรงงานปกครองบ้านเมืองอย่างหนัก แม้ว่าพระองค์จะทรงปฏิรูปครั้งใหญ่ แต่ก็ทำเพื่อประชาชนในราชวงศ์ต้าโจวเท่านั้น ขณะนี้แผ่นดินสงบสุข มีธัญพืชอุดมสมบูรณ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1535 เหลวไหลจริงๆ

    เสียงเรียกว่าท่านพี่นั้นทำให้เย่จิ่งอวี้ใจอ่อนลงมากโข ความโกรธทั้งหมดพลันหายไปอย่างไร้ร่องรอยในทันทีไม่เช่นนั้นจะทำอะไรได้อีก ภรรยาที่เลือกมาเอง มีแต่ต้องตามใจเองเท่านั้น“เจ้าคนโกหกตัวน้อย กลับไปสามีจะคิดบัญชีเจ้าหนักๆ ถอนกำลังภายในของเจ้าออก สามีจะทำแทนเจ้าเอง ประเดี๋ยวจะทำร้ายลูกในท้องเอา”เสียงของเย่จิ่งอวี้เชื่อมโยงเป็นเส้น ไหลผ่านกระทบโสตประสาทของอินชิงเสวียนคำต่อคำอย่างแจ่มชัดนางยกมุมปากขึ้น เผยเป็นรอยยิ้มภาคภูมิใจเมื่อสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของเย่จิ่งอวี้ นางจึงเปิดโสตประสาท เหตุผลที่ขอให้เย่จิ่งอวี้ช่วย ก็เพราะว่ากำลังภายในในร่างกายของนางซับซ้อนเกินไป ยากต่อการควบคุม ในงานที่ละเอียดอ่อนเช่นนี้ จะให้เกิดข้อผิดพลาดไม่ได้เด็ดขาดเย่จิ่งอวี้ไม่เหมือนกัน เขาบำเพ็ญตบะกำลังภายในของหอแห่งเสียงศักดิ์สิทธิ์ ทั้งยังประสานพลังแห่งฟ้าดิน แม้ว่าอินชิงเสวียนจะมีพลังลมปราณของหลายสำนัก แต่ก็ไม่สามารถเทียบกับกำลังภายในอันบริสุทธิ์และทรงพลังของฮ่องเต้ได้ในชั่วพริบตา กำลังภายในดุจธารานิ่งลึกหลั่งไหลเข้ามาจากด้านนอกประตู เหมือนโลกลึกล้ำ โอบกอดและยืดหยุ่น บรรยากาศที่มืดมนในห้องโถงคล้ายจะถูก

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1534 ท่านพี่ช่วยข้าได้ไหม

    “ฟางรั่วเข้าวัง?”เย่จิ่งอวี้หยุดฝีเท้าหลี่เต๋อฝูโค้งคำนับและพูดว่า “กระหม่อมถามองครักษ์ที่เฝ้าหน้าประตูวังแล้ว แม่นางฟางรั่วเข้ามาเมื่อสามชั่วยามที่แล้ว”เจวี๋ยอิ่งคุกเข่าลงและพูดว่า “กระหม่อมเห็นฟางรั่วเข้าไปในตำหนักจินอู๋ แต่ไม่เห็นนางและฮองเฮาออกมา”เย่จิ่งอวี้หรี่ตาลงเล็กน้อย สายตาคล้ายจะสดใสและมืดมน กำลังตกอยู่ในอาการครุ่นคิดด้วยวรยุทธ์ของฟางรั่ว ไม่มีทางเป็นไปได้ที่จะทำอันตรายต่ออินชิงเสวียน นางยังมีใบมีดแห่งมิติอยู่ในมือ แม้ว่าเหล่าเทพเซียนจะลงมาเอง แต่นางก็ยังสามารถต่อสู้ได้จากมุมมองนี้ ควรไม่ใช่การหายตัวไปง่ายๆ นางเรียกฟางรั่วมา ต้องมีเหตุผลอื่นเป็นแน่เจวี๋ยอิ่งโค้งคำนับและถามว่า “ต้องการให้กระหม่อมปิดล้อมพระนคร สืบหาที่อยู่ของฮองเฮาอย่างถี่ถ้วนหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ”เย่จิ่งอวี้เหลือบมองเจวี๋ยอิ่ง“ไม่ต้อง หลี่เต๋อฝู ไปเชิญกวนเซี่ยวเข้ามาด้วย”ครู่ต่อมา กวนเซี่ยวก็วิ่งเหยาะๆ มาถึงประตูตำหนัก ยกเสื้อคลุมขึ้นและคุกเข่าลงกับพื้น“กวนเซี่ยวถวายบังคมฝ่าบาท ฝ่าบาททรง...”เย่จิ่งอวี้ได้ยินเช่นนั้นก็รำคาญ โบกมือห้าม“ตามสบาย เจ้ารู้ไหมว่าทำไมฟางรั่วถึงมาที่วัง”กวนเซี่ยว

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1533 เจ้าน่ะ ยังมีนิสัยดื้อรั้นเหมือนเดิม

    “ในเมื่อเจ้าเตรียมตัวพร้อมแล้ว เช่นนั้นก็ตามข้าไปที่อื่น”อินชิงเสวียนดีดปลายเท้าขึ้น ร่างนั้นก็กระโดดออกจากตำหนักจินอู๋ ท่วงท่ากิริยาเบาบางและสง่างาม ราวกับเทพธิดาในวังพระจันทร์ที่ทิ้งร่องรอยความงดงามไว้บนโลกมนุษย์ฟางรั่วติดตามอย่างใกล้ชิด พลางชื่นชมในใจอินชิงเสวียนเป็นคนพิเศษจริงๆ!ราวสิบห้านาที ร่างที่สง่างามทั้งสองก็ปรากฏตัวขึ้นในตำหนักฉือหนิงหลังจากไทเฮาสิ้นพระชนม์ สถานที่แห่งนี้ก็ว่างเปล่า ขณะนี้มีไท่เฟยและไท่ผินเพียงไม่กี่คนที่เหลืออยู่ในวัง ที่พักอาศัยมีมากมาย เหตุผลที่อินชิงเสวียนเลือกสถานที่นี้ ก็เพราะเย่จิ่งอวี้จะไม่มาจากนั้นก็นึกในใจ ครั้นแล้วถังไม้ขนาดใหญ่ก็ปรากฏขึ้นตรงหน้า และในพริบตาเดียว มันก็เต็มไปด้วยน้ำพุวิญญาณที่ใสสะอาด“เข้าไปสิ สิ่งนี้สามารถรับรองความปลอดภัยของเจ้าได้ในระดับสูงสุด”“เพคะ”ฟางรั่วก้าวเข้าไปในถังโดยไม่ลังเลใดๆ แม้เป็นฤดูหนาว น้ำในถังนี้กลับไม่เย็น แต่เต็มไปด้วยความอบอุ่นที่ปกคลุมผิวหนังและเส้นลมปราณทั้งหมดของนางอินชิงเสวียนตามเข้ามา จากนั้นนั่งตรงข้ามนางแม้ว่าจะเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น น้ำพุวิญญาณก็สามารถรับรองความปลอดภัยในชีวิตขอ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1532 คืนชีวิตให้ท่านแล้วจะเป็นไร

    “เจ้าลุกขึ้น ข้าหมายถึงอาจจะทำได้ แต่จะมีโอกาสฟื้นตัวได้มากเพียงใด ข้าก็ไม่แน่ใจ เรื่องนี้ เจ้าควรปรึกษากับกวนเซี่ยวก่อนดีกว่า ถึงอย่างไรเรื่องนี้ก็ไม่ได้เกี่ยวกับเจ้าเท่านั้น แต่ยังเกี่ยวกับเขาด้วย”อินชิงเสวียนพยุงฟางรั่วด้วยมือทั้งสองข้าง และอธิบายข้อดีข้อเสียฟางรั่วพยักหน้า“ข้าเข้าใจ เพียงแต่ สุขภาพของฮองเฮา”อินชิงเสวียนท้องโตขนาดนี้ หากมีอะไรผิดพลาดขึ้นมา นางไม่สามารถรับผิดชอบไหวอินชิงเสวียนยิ้มละไม“ร่างกายของข้าแข็งแรงมาก ไม่เป็นไร เจ้าคิดดีแล้วก็มาหาข้าที่วังหลวงได้เลย”“เพคะ”ขณะที่กำลังคุยกัน ทั้งสองคนก็เดินไปที่แท่นประลองข้างๆ แล้วเห็นเด็กหญิงคนหนึ่งอายุสิบห้าหรือสิบหกปี ถือดาบคู่อยู่ในมือ กระโดดขึ้นลงด้วยท่าทางที่เบาและกล้าหาญ บีบชายที่อยู่ตรงข้ามหลังให้ล่าถอยทีละก้าว จนตกแท่นประลอง ล้มลงต่อหน้าผู้ชม อินชิงเสวียนอดไม่ได้ที่จะชื่นชมมัน“ทำได้ดีมาก!”ใบหน้าของฟางรั่วแสดงถึงความภาคภูมิใจ“เด็กหญิงคนนี้ชื่อหลิวซู่เยว่ เมื่อก่อนเป็นลูกสาวของหัวหน้าคณะละคร นางมีทักษะการต่อสู้อยู่บ้าง หลังจากที่บิดาเสียชีวิต นางไม่สามารถดูแลคณะละครได้ จึงมาที่เมืองหลวง เข้ามาเรี

DMCA.com Protection Status