Share

บทที่ 495 สั่งสอน

Author: ม่อเยี่ยน
last update Last Updated: 2024-03-21 16:00:00
“นี่เป็น...เรื่องจริงงั้นหรือ”

รูม่านตาของเย่‍จิ่ง‍อวี้หดตัวลงพลัน เรียวตาหงส์คู่นั้นจ้องมองภาพในโทรศัพท์

อินชิงเสวียนพูดเบาๆ “แน่นอนว่าเป็นเรื่องจริง เมื่อครู่ฝ่าบาทก็ปรากฏตัวด้วย ย่อมรู้ว่าสิ่งนี้ไม่สามารถปลอมแปลงได้”

เย่‍จิ่ง‍อวี้พยักหน้า

เมื่อครู่เขาอยู่ในหอซีอวิ๋น และฉากภายในก็เคยเกิดขึ้นมาก่อนจริงๆ

เมื่อคิดถึงสิ่งที่เขาทำโดยไม่ได้ออกมาจากใจ เรียวตาหงส์ก็เปลี่ยนเป็นเย็นชา

“เจียงวูไม่มีเจตนาดีจริงๆ”

อินชิงเสวียนพยักหน้าและกล่าวว่า “ตอนนี้ฝ่าบาทอยู่ภายใต้การควบคุมของกู่เสน่หา อาจส่งผลกระทบต่อความคิดและจิตใจ ฉะนั้นเรื่องนี้มอบให้หม่อมฉันจัดการจึงเหมาะสมที่สุด”

จู่ๆ เย่‍จิ่ง‍อวี้ก็นึกถึงถ้วยชาที่จูอวี้เหยียนส่งให้เขา อดไม่ได้ที่จะพูดอย่างเกลียดชัง “คงเป็นเพราะชาถ้วยนั้น”

อินชิงเสวียนส่ายศีรษะ

“ฝ่าบาทก็ได้ยินแล้ว เมื่อใดที่กู่พิษเลือกแล้ว คนผู้นั้นก็จะหนีไม่พ้น พวกนางมาถึงเมืองหลวง เราก็ไม่มีทางหลีกเลี่ยงได้”

“โจรถ่อยพวกนี้...”

เย่‍จิ่ง‍อวี้ต้องการสั่งให้คนจับตัวพวกนางไปทั้งหมด แต่มีเสียงในใจบอกเขาว่า ห้ามจับ

เขาไม่สามารถควบคุมความคิดของเขาได้ และมีอาการปวดหัวอีกครั้ง

เมื
Locked Chapter
Continue to read this book on the APP
Comments (2)
goodnovel comment avatar
ชลลดา เสน่ห์มิตร
ถ้าสั่งปบ่อยจะเลิกอ่าน
goodnovel comment avatar
เสฏฐวุฒิ สิมพล
กำลังดีเลยลุ้นๆ
VIEW ALL COMMENTS

Related chapters

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 496 ผลกระทบ

    มีเสียงฝีเท้าดังขึ้น เย่‍จิ่ง‍อวี้ที่สวมชุดคลุมมังกรก็เดินเข้ามาจากด้านนอก“เสวียน‍เอ๋อร์”อินชิงเสวียนหันกลับไปมอง พอเห็นมาลามงกุฎบนศีรษะของเขา ก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย“ฝ่าบาท เหตุใดท่านจึงมาที่นี่”ในเวลานี้ เย่‍จิ่ง‍อวี้ต้องประชุมเช้าอยู่ในราชสำนัก เขาไม่เคยมาวังหลังโดยที่ไม่ถอดมาลามงกุฎ แต่วันนี้กลับดูเร่งร้อนขนาดนี้จู่ๆ จูอวี้เหยียนก็แสดงสีหน้ายินดี นางคลานไปข้างหน้าสองก้าว แล้วกอดขาของเย่‍จิ่ง‍อวี้“ฝ่าบาท กุ้ยเฟยบอกว่าพวกหม่อมฉันเป็นสายลับที่เจียงวูส่งมา มาถึงก็ทุบตีพวกหม่อมฉันโดยไม่ถามถูกผิด ขอฝ่าบาทช่วยให้ความเป็นธรรมกับพวกหม่อมฉันด้วยเพคะ”เย่‍จิ่ง‍อวี้อดทนต่ออาการปวดหัวแทบระเบิด พูดด้วยน้ำเสียงทุ้ม “เสวียน‍เอ๋อร์พูดถูก เห็นได้ชัดว่าพวกเจ้าเป็นสายลับ”จูอวี้เหยียนเงยหน้าขึ้น ใบหน้างามเปื้อนน้ำตาดั่งดอกสาลี่ต้องหยาดฝนพูดว่า “ฝ่าบาททรงปรีชา หม่อมฉันไม่ใช่สาบลับจริงๆ หม่อมฉันถูกใส่ร้าย”เมื่อสบตากัน เย่‍จิ่ง‍อวี้ก็ตะลึงงันเสียงในใจของเขาพูดว่า ใช่แล้ว สตรีที่อ่อนแอเช่นนี้จะเป็นสายลับได้อย่างไรเขาอดไม่ได้ที่จะเงยหน้าขึ้น มองไปที่อินชิงเสวียน“เสวียน‍เอ๋อร์ เจ้าคงสับสนกร

    Last Updated : 2024-03-22
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 497 แผนรับมือ

    จวนจิ้งอ๋องเย่จั้นกำลังเก็บจัดเสื้อผ้า ตอนนี้อาการบาดเจ็บของเขาหายดีแล้ว ถึงเวลาออกเดินทางแล้วเมื่อไม่กี่วันก่อนเขาได้เตรียมตัวที่จะออกจากเมืองหลวง เนื่องจากเมืองซุ่ยหานส่งจดหมายมาแจ้งว่าเป่ยมู่ต๋าถอนกำลังทหารออกไปแล้ว เย่‍จิ่ง‍อวี้จึงขอให้เขาอยู่ต่ออีกสองสามวันเย่จั้นบังเอิญไปที่วัดสุ่ยจิ้ง จากนั้นไปที่โรงน้ำชาเพื่อสอบถามข่าวเป่ยไห่ อย่างไรก็ตาม คนเหล่านี้รู้เรื่องเพียงเล็กน้อย จึงไม่มีประโยชน์ที่จะอยู่ต่ออีกทันทีที่เก็บของเสร็จเรียบร้อย คนรับใช้ก็มารายงาน“ท่านอ๋อง หวงกุ้ยเฟยเสด็จมาพ่ะย่ะค่ะ”เย่จั้นรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย หลายวันนี้อินชิงเสวียนอยู่ที่สำนักศึกษาหลวงไม่ใช่หรือ ทำไมถึงมาที่จวนอ๋องได้“กุ้ยเฟยมากับใคร”คนรับใช้กล่าวอย่างพินอบพิเทา “มีเพียงองค์ชายน้อย และบ่าวรับใช้สองคนเท่านั้น”เย่จั้นพยักหน้า“เชิญเข้ามา”ครู่ต่อมา อินชิงเสวียนก็อุ้มเสี่ยว‍หนาน‍เฟิงเดินเข้ามาจากด้านนอกเย่จั้นโค้งคำนับ กล่าวว่า “ถวายพระพรกุ้ยเฟย”อินชิงเสวียนยิ้มเบาๆ ตอบว่า “ท่านอ๋องตามสบาย ข้ามาที่นี่เพราะข้ามีเรื่องสำคัญจะหารือกับท่านอ๋อง”พวกเขาทั้งสองก็นับว่าเคยร่วมงานกันหลายครั้ง

    Last Updated : 2024-03-22
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 498 ฆ่าทันที

    เมื่อเห็นใบหน้าที่เคร่งเครียดของอินชิงเสวียน ยายหลี่ก็ไม่กล้าพูดอะไรอีก นางโค้งคำนับแล้วถอยออกไปอินชิงเสวียนกำลังนั่งอยู่ในห้องโถง เล่นเกมไปด้วย มองกล้องวงจรปิดด้านนอกไปด้วยชั่วพริบตาก็ถึงยามไห้ (เวลา 21.00 - 23.00 น.)อินชิงเสวียนกำลังเล่นเกมแคนดี้ครัชอยู่ลำพัง แต่ทันใดนั้นนางก็ได้ยินเสียงจากกล้องวงจรปิดแล้วมีคนตะโกน “นั่นใคร”ฟางรั่วและคนอื่นๆ ไม่คาดคิดว่าจะมีทหารองครักษ์เฝ้าอยู่ในตำหนักจินหวูจำนวนมาก พวกนางตกใจทันทีนางพลิกฝ่ามือแล้วกระแทกใส่คนหนึ่งในนั้นออกไป และกระซิบ “รีบสู้รีบกลับ จัดการกับพวกเขาโดยเร็ว”อินชิงเสวียนอุ้มเสี่ยว‍หนาน‍เฟิงขึ้นมา แล้วพาเขาเข้าไปในมิติจากนั้นก็เปิดประตู แล้วเดินออกจากเรือนอย่างสงบ“ถ้าข้าเดาไม่ผิด เจ้าคงเป็นฟางรั่วกระมัง ในเมื่อเจ้าชื่นชอบเจ้านายของเจ้ามากถึงเพียงนั้น ทำไมเจ้าถึงกลับมาที่ต้าโจวอีก”หัวใจของฟางรั่วเต้นรัว อินชิงเสวียนสามารถเดาตัวตนของนางได้!ขณะที่กำลังตกตะลึง ทหารองครักษ์ก็เข้าโจมตีแล้วฟางรั่วไม่กล้าวอกแวก ต่อสู้กับทหารองครักษ์ทันทีอินชิงเสวียนมองไปที่ฟางรั่วอย่างเย็นชา พูดเชิงสัพยอก “คิดว่าจูอวี้เหยียนคงไปที่ห้องห

    Last Updated : 2024-03-22
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 499 เกลียดเข้ากระดูกดำ

    สติสัมปชัญญะของเย่‍จิ่ง‍อวี้ตกอยู่ในภวังค์ทันที“เสวียน‍เอ๋อร์ เจ้าแน่ใจหรือว่านักฆ่าคือคนเหล่านี้จริงๆ”อินชิงเสวียนพูดไม่ออกชั่วขณะ หากนางไม่รู้ว่าเย่‍จิ่ง‍อวี้ถูกครอบงำโดยกู่เสน่หา อินชิงเสวียนคงจะสงสัยว่าฝ่าบาทที่อยู่ตรงหน้านี้ไม่ใช่คนเดิมฮ่องเต้น้อยที่ครั้งหนึ่งเคยเข้มแข็งและเด็ดเดี่ยว แววตาเฉียบคม กลับกลายมาเป็นเช่นนี้ ซึ่งทำให้นางทั้งหงุดหงิด ทั้งปวดใจจริงๆไม่ว่าต้องใช้วิธีใด นางก็ต้องช่วยเย่‍จิ่ง‍อวี้กำจัดพิษกู่ให้ได้ นังแม่มดจูอวี้เหยียนก็ต้องชดใช้เช่นกัน“หม่อมฉันแน่ใจ ทหารองครักษ์เหล่านี้ล้วนถูกส่งมาจากฝ่าบาท แม้ว่าฝ่าบาทจะไม่เชื่อหม่อมฉัน แต่จะไม่เชื่อพวกเขาหรือเพคะ”ทหารองครักษ์คุกเข่าลงทันที ก้มศีรษะลงแล้วพูดว่า “คนเหล่านี้คือคนที่มาที่ตำหนักจินหวูเพื่อลอบสังหารจริงๆ พ่ะย่ะค่ะ”จูอวี้เหยียนกล่าวอีกครั้ง “ฝ่าบาท เป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอน”อินชิงเสวียนจึงพูดว่า “ฝ่าบาท มีสายตาหลายคู่จ้องมองอยู่ หม่อมฉันจะโป้ปดมดเท็จได้หรือเพคะ”เย่‍จิ่ง‍อวี้ตกอยู่ในความสับสนเนื่องจากอิทธิพลของหนอนกู่ แต่ตอนนี้เมื่อเขาได้ยินพวกนางทะเลาะกัน เขาก็เริ่มปวดหัวอีกครั้ง“เรื่องนี้ไว้ค่อย

    Last Updated : 2024-03-23
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 500 อดีต

    จูอวี้เหยียนกลอกตา เหลือบมองหญิงสาวเหล่านั้น แล้วหัวเราะเบาๆ “พวกเจ้าจงรักภักดีต่อข้า?”ทุกคนคุกเข่าลงอย่างลนลาน “พวกบ่าวไม่มีทางคิดไม่ซื่อต่อราชครู”จูอวี้เหยียนยังคงยิ้มอยู่ นางหยิบยาลูกกลอนสีเขียวหลายเม็ดออกจากแขนเสื้อ แล้ววางลงบนโต๊ะ“ในเมื่อพวกเจ้าภักดีต่อข้า เช่นนั้นก็กินยานี่ ต่อไปทุกวันที่หนึ่งของเดือน ข้าจะให้ยาแก้พิษกับพวกเจ้า”หญิงสาวเหล่านั้นต่างมองหน้ากัน แล้วทยอยเดินไปหยิบยาทุกคนจูอวี้เหยียนเงยหน้าขึ้นมอง“ฟางรั่ว ถึงตาเจ้าแล้ว”ใบหน้าของฟางรั่วเปลี่ยนไปเล็กน้อย ถามด้วยเสียงแผ่วต่ำ “บ่าวก็ต้องกินด้วยหรือ”จูอวี้เหยียนพูดด้วยรอยยิ้มแต่แววตาไม่ยิ้ม “ฟางรั่ว เจ้าไม่ใช่หน่วยกล้าตายของอา‍ซือ‍หลานอีกต่อไปแล้ว เป็นข้าที่ช่วยเจ้าไว้ เจ้าต้องเชื่อฟังคำสั่งของข้าไปตลอดชีวิต เจ้าคิดว่าเจ้าควรกินหรือไม่เล่า”ฟางรั่วเม้มริมฝีปากแรงๆ แล้วหยิบยาเม็ดหนึ่งใส่เข้าไปในปากในอีกด้านหนึ่งของหน้าจอโทรศัพท์ อินชิงเสวียนกำลังดูภาพในหอซีอวิ๋นสำหรับความคิดเห็นของเย่จั้น นางไม่มีความหวังมากนัก แต่ในตอนนี้ไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากต้องเฝ้าจับตาดูจูอวี้เหยียนก่อน แล้วค่อยหาข้อพิรุธให้เจอ

    Last Updated : 2024-03-23
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 501 รู้สึกผิด

    ผู้เฒ่ากวนกล่าวว่า “ข้าแค่คาดเดา แต่ข้าไม่รู้ว่าราชครูแซ่จูผู้นั้นอายุเท่าไหร่”อินจ้งส่ายศีรษะ แม้ว่าเขาจะได้พบกับจูอวี้เหยียนในระหว่างการโจมตีเมืองลั่วซย่าในวันนั้น แต่ท้องฟ้าก็มืดเกินไป เขาไม่สามารถมองเห็นได้ชัดเจน“ศิษย์ก็มองเห็นได้ไม่ชัดเจนเช่นกัน แต่หากพิจารณาจากเสียงแล้ว นางน่าจะเป็นหญิงสาว”ผู้เฒ่ากวนพยักหน้าแล้วพูดว่า “ข้ารู้สึกสงสัย เมื่อไม่กี่วันก่อนจึงส่งคนไปตามหาคนแซ่จู แต่กลับกลายเป็นว่างเปล่า เรื่องนี้ควรจะสอบสวนโดยละเอียดดีกว่า บางที...สตรีคนนี้อาจมีความเชื่อมโยงกับเจ้าอยู่บ้าง”อินจ้งขมวดคิ้ว หรือว่า...เป็นไปไม่ได้เมื่อเห็นสีหน้าของเขาเปลี่ยนไป ผู้เฒ่ากวนก็ตบมือของเขา แล้วพูดอย่างใจดี “ข้าแค่พูดไปเฉยๆ เจ้าไม่จำเป็นต้องคิดมาก ตอนนี้สิ่งสำคัญคือต้องกำจัดพิษกู่ของสิงอวิ๋น ข้าได้ยินมาว่าพิษกู่สามารถกำจัดโดยคนที่เสกพิษกู่ใส่ นอกจากนี้ เราสามารถหาคนที่มีกำลังภายในสูงเท่านั้น ถึงจะขับไล่พิษกู่ออกจากร่างกายได้ ในจวนข้ามีชาวยุทธ์มามากมายพอดี พรุ่งนี้ข้าจะถามพวกเขาดู ว่ายังมีวิธีอื่นหรือไม่”อินจ้งลุกขึ้นยืนประกบมือคำนับทันที“ขอบคุณท่านอาจารย์”“สำหรับข้า สิงอวิ๋นและ

    Last Updated : 2024-03-23
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 502 เหตุใดเจ้าถึงไม่บอกท่านพ่อกับท่านพี่ของข้า

    หลี่เต๋อฝูรีบตอบรับ “กระหม่อมน้อมรับคำสั่ง จะไม่ยอมให้บุคคลภายนอกรบกวนฝ่าบาทในห้องหนังสืออีก”เย่‍จิ่ง‍อวี้พยักหน้าแล้วสั่ง “พรุ่งนี้ให้ห้องครัวหลวงทำอาหารอร่อยๆ ข้าอยากจะกินข้าวเย็นกับเสวียน‍เอ๋อร์”หลี่เต๋อฝูตอบด้วยใบหน้ามีความสุข “กระหม่อมทราบแล้ว จะจัดการกับเรื่องนี้อย่างดีแน่นอน”จู่ๆ เย่‍จิ่ง‍อวี้ก็รู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น“ข้ายังไม่ง่วง ไปห้องหนังสือกันเถอะ ยังเหลือฎีกาอีกหลายฉบับ ข้าจะอ่านให้หมด”“พ่ะย่ะค่ะ”เมื่อเห็นว่าฝ่าบาทอารมณ์ดี สีหน้าของหลี่เต๋อฝูก็มีรอยยิ้มวันรุ่งขึ้นอินชิงเสวียนตื่นมาล้างหน้าล้างตาแต่เช้าตรู่ จากนั้นก็รับประทานอาหารเช้าอย่างเร่งรีบ แล้วพา เสี่ยว‍หนาน‍เฟิงไปที่สำนักศึกษาหลวงแม้ว่าปัญหาเรื่องพิษกู่จะต้องรีบจัดการ แต่สำนักศึกษาหลวงก็ไม่สามารถทิ้งไว้ได้ เหล่าบัณฑิตเฒ่าหลายคนกำลังทำงานกันอย่างหนัก วิชาเรียนจะต้องไม่ถูกขัดจังหวะในเวลานี้เนื่องจากตัวเองต้องสวมชุดบุรุษออกมาข้างนอก จึงไม่สะดวกที่พาเสี่ยว‍หนาน‍เฟิงไปด้วย อินชิงเสวียนจึงฝากลูกชายไว้ที่จวนแม่ทัพ มีเพียงฝากลูกไว้กับพ่อและพี่ชายเท่านั้น นางถึงจะสบายใจได้เมื่ออินจื่อลั่วเห็นหลานชายมา นาง

    Last Updated : 2024-03-24
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 503 ตวาด

    กวนเซี่ยวก้มศีรษะลงแล้วพูดว่า “ข้าแค่รู้สึกว่านางดูคุ้นตา จนกระทั่งเดินทางออกจากเจียงวู ถึงได้สงสัยว่านางอาจจะเป็นฟางรั่ว”อินชิงเสวียนมองไปยังกวนเซี่ยวด้วยสายตานิ่งขึง“พี่ชายกวน เจ้าชอบฟางรั่วอย่างนั้นหรือ”กวนเซี่ยวตัวสั่นเล็กน้อย“กุ้ยเฟยโปรดอย่าเดาส่งเดช”เสียงของอินชิงเสวียนเย็นชาเล็กน้อย“ถ้าไม่ใช่ เจ้าจะปิดบังเรื่องนี้ไม่ยอมรายงานได้อย่างไร เจ้าน่าจะรู้ว่าฟางรั่วเป็นสาวใช้คนสนิทของอา‍ซือ‍หลาน การที่นางเดินทางมาในขบวนด้วย ไม่น่าสงสัยเลยกระนั้นหรือ”ศีรษะของกวนเซี่ยวหดลงเล็กน้อย“ตอนนั้นพวกนางสวมผ้าปิดหน้ากันหมด ข้าไม่สามารถมองรูปร่างหน้าตาของพวกนางได้เลย”“นี่เป็นเพียงข้อแก้ตัว ตลอดการเดินทางสิบกว่าวัน หากเจ้าอยากตรวจสอบก็มีโอกาสมากมาย ขอแค่ไม่เข้าเมืองหลวง ทุกอย่างก็จะเปลี่ยนไป”ยิ่งอินชิงเสวียนพูดมากเท่าไหร่ นางก็ยิ่งหงุดหงิดมากขึ้นเท่านั้น หากกวนเซี่ยวรายงานเรื่องนี้ อินจ้งจะต้องมีแผนรับมืออย่างแน่นอน หากสาวใช้เหล่านี้ไม่ได้เข้ามาในเมืองหลวง เย่‍จิ่ง‍อวี้ก็คงไม่ถูกเสกกู่ใส่กวนเซี่ยวกัดฟัน คุกเข่าลงกับพื้น“เป็นข้าที่ประมาท หวังว่ากุ้ยเฟยจะเมตตา กวนเซี่ยวเต็มใจที่

    Last Updated : 2024-03-24

Latest chapter

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1540 สองพระองค์ครองราชย์ จบบริบูรณ์

    ปีที่สามของการครองราชย์ในราชวงศ์ต้าโจวฮองเฮาให้กำเนิดพระธิดา ได้รับพระราชทานนามว่าองค์หญิงเจ๋อเทียน นามว่าเจิน มีชื่อเล่นว่าฝูเอ๋อร์ในเดือนเก้าของปีเดียวกัน เย่จิ่งอวี้และอินชิงเสวียนปกครองร่วมกัน แบ่งกันปกครองบ้านเมืองและการดำรงชีวิตของผู้คน ราษฎรเคารพทั้งสองในฐานะพระองค์ฝ่ายซ้ายและฝ่ายขวา ประวัติศาสตร์ได้บันทึกช่วงเวลานี้ไว้ด้วยถ้อยคำที่งดงามที่สุด และเรียกช่วงเวลานี้อย่างเคารพว่า ยุคที่สององค์ปกครอง!ห้าปีต่อมา เครื่องกำเนิดพลังงานลมเครื่องแรกปรากฏขึ้นด้วยฝีมือความสามารถของชาวต้าโจว ซึ่งก้าวล้ำหน้าสมัยโบราณที่ล้าหลังไปอย่างมากด้วยก้าวที่ยิ่งใหญ่นักเรียนจากทั่วแคว้นได้แสดงความสามารถ พัฒนาสิ่งที่ล้ำหน้าต่างๆ ผ่านความรู้ทางคณิตศาสตร์ ฟิสิกส์ และเคมีใหม่ล่าสุด บุปผานับร้อยบานสะพรั่งพร้อมกัน ก่อให้เกิดยุครุ่งเรืองของราชวงศ์ต้าโจวตอนนี้อาหารไม่ขาดแคลน ราษฎรไม่ต้องทนทุกข์กับความหิวโหยอีกต่อไป ยิ่งไม่มีการอพยพย้ายถิ่นฐาน โครงการคลองส่งน้ำก็สำเร็จลุล่วง ด้วยการคมนาคมสะดวกระหว่างภาคเหนือและภาคใต้ ก็สามารถแลกเปลี่ยนสิ่งที่ต้องการได้ในที่สุด อ่างเก็บน้ำที่สร้างขึ้นยังสามารถเปลี่ยนเส้นท

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1539 เสวียนเอ๋อร์ขอบคุณเจ้านะ

    ตำหนักจินอู๋อินชิงเสวียนอดทนต่อความเจ็บปวดที่ถาโถมเข้ามาราวกับกระแสน้ำ แต่ไม่กล้าโคจรกำลังภายในต้านทานไว้ เพราะกลัวว่าจะทำร้ายลูกของนางเมื่อเห็นนางกัดริมฝีปากล่างแน่น มีเหงื่อไหลอาบหน้า หัวใจของเย่จิ่งอวี้ก็รู้สึกเหมือนถูกมีดคมๆ นับพันทิ่มแทง รู้สึกเจ็บปวดอย่างยิ่ง“ต้องทำอย่างไรถึงจะช่วยบรรเทาความเจ็บปวดของฮองเฮาได้ ต้องปล่อยให้นางเจ็บปวดทนทุกข์เช่นนี้หรือ”หมอตำแยกล่าวอย่างกล้าหาญว่า “สตรีคลอดบุตรก็เป็นเช่นนี้เพคะ อดทนไว้ แล้วจะดีเอง”เย่จิ่งอวี้พูดด้วยความโกรธ “ฮองเฮาของข้าจะเทียบได้กับสตรีทั่วไปได้อย่างไร รีบหาทางบรรเทาความเจ็บปวดของฮองเฮาเดี๋ยวนี้”“ข้าไม่เป็นไร อาอวี้ออกไปก่อนเถอะ!”เสียงของอินชิงเสวียนนั้นอ่อนแรง แม้จะเป็นสามีภรรยากัน แต่ถูกเห็นเข้าในสถานการณ์เช่นนี้ก็น่าอายอยู่เหมือนกันเย่จิ่งอวี้เดินก้าวเดียวก็ไปถึงเตียง จับมือของนางแน่นๆ แล้วพูดอย่างกระวนกระวายใจ “ข้าไม่วางใจ มีวิธีถ่ายทอดความเจ็บปวดให้ข้าได้ไหม เจ้าอยู่กับลั่วสุ่ยชิงมานานแล้ว ไม่ได้เรียนวิชาอาคมอะไรจากนางบ้างหรือ”อินชิงเสวียนเจ็บปวดเจียนตายอยู่แล้ว เมื่อได้ยินคำนี้ก็ไม่รู้จะหัวเราะหรือร้องไห้ดี

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1538 ไท่เฟยไท่ผินออกจากวัง

    อินชิงเสวียนอดทนต่อความเจ็บปวดและกล่าวว่า “ฝ่าบาทไม่จำเป็นต้องอยู่ที่นี่ วันนี้เป็นวันแต่งงานของไห่ถัง ในฐานะพี่ชาย ควรเป็นประธานงานแต่งของนางด้วยตนเอง หากไม่มีคนในราชวงศ์ไป ไห่ถังจะผิดหวังได้”แม้น้องสาวจะเป็นญาติ แต่ก็ไม่ชิดเชื้อเท่ากับภรรยา ลูกคนแรกเกิดในตำหนักเย็น ซึ่งทำให้เย่จิ่งอวี้รู้สึกผิดไปครึ่งชีวิตแล้ว ยากนี้เด็กคนนี้คือสมบัติล้ำค่าที่แท้จริงระหว่างพวกเขา ในฐานะพ่อของลูก เขาจะจากไปได้อย่างไรเมื่อเห็นว่าใบหน้าของนางซีด มีเม็ดเหงื่อเม็ดเล็กๆ ผุดพรายขึ้นเต็มขมับของนาง เย่จิ่งอวี้ก็รีบก้าวไปข้างหน้าเพื่อปลอบนาง “ไม่เป็นไร มีแม่ทัพอินและจอมพลกวนอยู่ด้วย ไห่ถังก็ไม่นับว่าเสียเกียรติอะไรนัก”อินชิงเสวียนคว้าแขนของเขา“จะได้อย่างไร หากไม่มีใครจากในวังไป มันจะกลายเป็นปมในใจของไห่ถังอย่างแน่นอน นี่คือวันที่สำคัญที่สุดในชีวิตของนาง”ไม่ว่าอย่างไรเย่จิ่งอวี้ก็ไม่ยอมไป แต่ก็ไม่สามารถปล่อยให้น้องสาวเสียหน้าได้ เขาหรี่ตาลงเล็กน้อย มีความคิดอยู่ในใจ“เจวี๋ยอิ่ง ไปเชิญไท่เฟยไท่ผินทุกท่าน ให้พวกนางออกจากวัง ร่วมงานเสกสมรสขององค์หญิงเดี๋ยวนี้”ทุกคนตกตะลึง ไม่มีใครคาดคิดว่าเย่จิ่งอวี้จ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1537 ฮองเฮาทรงมีพระประสูติการ

    เย่ไห่ถังยังคงมีความสุข แต่จู่ๆ เสียงของหลี่เต๋อฝูก็ทำให้นางรู้สึกไม่พอใจเล็กน้อยเมื่อเปิดประตู เห็นเสด็จพี่และเสด็จพี่สะใภ้ยืนอยู่ที่กลางเรือน น้ำตาก็ไหลออกมาจากดวงตา“ไห่ถังคารวะเสด็จพี่ เสด็จพี่สะใภ้เพคะ!”เย่ไห่ถังกำลังจะคุกเข่าลง แต่เย่จิ่งอวี้ก็ปราดเข้าประคองนางพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “ในฐานะสตรีที่ออกเรือนแล้ว ทุกสิ่งต้องคำนึงถึงสถานการณ์โดยรวม จะทำตัวเหลวไหลซุกซนเหมือนอยู่ในวังไม่ได้ หากใช้ชีวิตนอกวังจนเบื่อแล้ว ก็สามารถกลับมาได้ตลอดเวลา วังหลวงจะเป็นบ้านของเจ้าตลอดไป”อินชิงเสวียนก็ก้าวไปข้างหน้าและพูดว่า “ถ้าพี่รองของข้ารังแกเจ้า เจ้าก็บอกข้าได้เลย ข้าจะทวงความยุติธรรมให้กับเจ้าแน่นอน”ถ้าคนที่เย่ไห่ถังแต่งงานด้วยไม่ใช่อินปู้อวี่ เย่จิ่งอวี้คงพูดคำนี้ไปนานแล้วเย่ไห่ถังสูดจมูก“ขอบพระทัยเสด็จพี่และเสด็จพี่สะใภ้เพคะ ตอนแรกข้าค่อนข้างมีความสุข แต่ตอนนี้ไม่อยากจากไปเลย”เมื่อเห็นว่าจมูกของเย่ไห่ถังแดง กำลังจะร้องไห้อีก เย่จิ่งอวี้จึงตีหน้าขรึมพูดทันที “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ งั้นข้าจะให้คนไปแจ้งอินปู้อวี่ ว่าการแต่งงานครั้งนี้ไม่มีแล้ว หลี่เต๋อฝู!”หลี่เต๋อฝูก็เป็นคนเจ้าเ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1536 องค์หญิงกำลังจะเสกสมรส

    ในวันที่หนึ่งเดือนสี่ ลำดับการสอบการต่อสู้ชี้ให้เห็นว่า เฉินเซียงเยว่ที่อินชิงเสวียนสนใจ สอบได้ลำดับหนึ่ง คนผู้นี้หน้าตาดูดุร้ายและน่าเกลียด แต่กลับมีจิตใจอ่อนโยนดังเช่นสตรี ไม่เพียงแต่วรยุทธ์ดีเลิศเท่านั้น แต่ยังเก่งในเรื่องการจัดขบวนทัพด้วย เป็นยอดแม่ทัพที่หาได้ยากนางได้ลำดับหนึ่งก็คือจอหงวนด้านวิชาการต่อสู้ ไม่มีใครไม่ยอมรับเลย แค่ยืนอยู่เฉยๆ ก็ดูฮึกเหิมมีพลังมากกว่าผู้ชายทุกคนในตอนนั้นเด็กผู้หญิงอีกคนหนึ่งแซ่หลิวมีชื่อว่าเยว่ ก็ได้รับเลือกให้ติดอยู่ในสามอันดับแรก รั้งอยู่ในเมืองหลวงฝ่าบาทขานรายชื่อสตรีมามากขนาดนี้ เหล่าขุนนางข้าราชบริพารก็อดไม่ได้ที่จะพูดถึงเรื่องนี้ ต่างรู้สึกว่ามันไม่ถูกต้องตามระเบียบประเพณี แต่ก็กล้าที่จะวิพากษ์วิจารณ์เป็นการส่วนตัวเท่านั้น ต้าโจวในวันนี้เปลี่ยนไปแล้ว ที่ฝ่าบาทยินดีฟังพวกเขา ก็ถือเป็นการให้เกียรติพวกเขาแล้ว หากฝ่าบาทไม่อยากฟัง ถึงพูดมากไปก็ไร้ผลแต่ไม่มีใครกล้าพูดว่าเย่จิ่งอวี้เป็นทรราช ฝ่าบาททรงงานปกครองบ้านเมืองอย่างหนัก แม้ว่าพระองค์จะทรงปฏิรูปครั้งใหญ่ แต่ก็ทำเพื่อประชาชนในราชวงศ์ต้าโจวเท่านั้น ขณะนี้แผ่นดินสงบสุข มีธัญพืชอุดมสมบูรณ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1535 เหลวไหลจริงๆ

    เสียงเรียกว่าท่านพี่นั้นทำให้เย่จิ่งอวี้ใจอ่อนลงมากโข ความโกรธทั้งหมดพลันหายไปอย่างไร้ร่องรอยในทันทีไม่เช่นนั้นจะทำอะไรได้อีก ภรรยาที่เลือกมาเอง มีแต่ต้องตามใจเองเท่านั้น“เจ้าคนโกหกตัวน้อย กลับไปสามีจะคิดบัญชีเจ้าหนักๆ ถอนกำลังภายในของเจ้าออก สามีจะทำแทนเจ้าเอง ประเดี๋ยวจะทำร้ายลูกในท้องเอา”เสียงของเย่จิ่งอวี้เชื่อมโยงเป็นเส้น ไหลผ่านกระทบโสตประสาทของอินชิงเสวียนคำต่อคำอย่างแจ่มชัดนางยกมุมปากขึ้น เผยเป็นรอยยิ้มภาคภูมิใจเมื่อสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของเย่จิ่งอวี้ นางจึงเปิดโสตประสาท เหตุผลที่ขอให้เย่จิ่งอวี้ช่วย ก็เพราะว่ากำลังภายในในร่างกายของนางซับซ้อนเกินไป ยากต่อการควบคุม ในงานที่ละเอียดอ่อนเช่นนี้ จะให้เกิดข้อผิดพลาดไม่ได้เด็ดขาดเย่จิ่งอวี้ไม่เหมือนกัน เขาบำเพ็ญตบะกำลังภายในของหอแห่งเสียงศักดิ์สิทธิ์ ทั้งยังประสานพลังแห่งฟ้าดิน แม้ว่าอินชิงเสวียนจะมีพลังลมปราณของหลายสำนัก แต่ก็ไม่สามารถเทียบกับกำลังภายในอันบริสุทธิ์และทรงพลังของฮ่องเต้ได้ในชั่วพริบตา กำลังภายในดุจธารานิ่งลึกหลั่งไหลเข้ามาจากด้านนอกประตู เหมือนโลกลึกล้ำ โอบกอดและยืดหยุ่น บรรยากาศที่มืดมนในห้องโถงคล้ายจะถูก

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1534 ท่านพี่ช่วยข้าได้ไหม

    “ฟางรั่วเข้าวัง?”เย่จิ่งอวี้หยุดฝีเท้าหลี่เต๋อฝูโค้งคำนับและพูดว่า “กระหม่อมถามองครักษ์ที่เฝ้าหน้าประตูวังแล้ว แม่นางฟางรั่วเข้ามาเมื่อสามชั่วยามที่แล้ว”เจวี๋ยอิ่งคุกเข่าลงและพูดว่า “กระหม่อมเห็นฟางรั่วเข้าไปในตำหนักจินอู๋ แต่ไม่เห็นนางและฮองเฮาออกมา”เย่จิ่งอวี้หรี่ตาลงเล็กน้อย สายตาคล้ายจะสดใสและมืดมน กำลังตกอยู่ในอาการครุ่นคิดด้วยวรยุทธ์ของฟางรั่ว ไม่มีทางเป็นไปได้ที่จะทำอันตรายต่ออินชิงเสวียน นางยังมีใบมีดแห่งมิติอยู่ในมือ แม้ว่าเหล่าเทพเซียนจะลงมาเอง แต่นางก็ยังสามารถต่อสู้ได้จากมุมมองนี้ ควรไม่ใช่การหายตัวไปง่ายๆ นางเรียกฟางรั่วมา ต้องมีเหตุผลอื่นเป็นแน่เจวี๋ยอิ่งโค้งคำนับและถามว่า “ต้องการให้กระหม่อมปิดล้อมพระนคร สืบหาที่อยู่ของฮองเฮาอย่างถี่ถ้วนหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ”เย่จิ่งอวี้เหลือบมองเจวี๋ยอิ่ง“ไม่ต้อง หลี่เต๋อฝู ไปเชิญกวนเซี่ยวเข้ามาด้วย”ครู่ต่อมา กวนเซี่ยวก็วิ่งเหยาะๆ มาถึงประตูตำหนัก ยกเสื้อคลุมขึ้นและคุกเข่าลงกับพื้น“กวนเซี่ยวถวายบังคมฝ่าบาท ฝ่าบาททรง...”เย่จิ่งอวี้ได้ยินเช่นนั้นก็รำคาญ โบกมือห้าม“ตามสบาย เจ้ารู้ไหมว่าทำไมฟางรั่วถึงมาที่วัง”กวนเซี่ยว

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1533 เจ้าน่ะ ยังมีนิสัยดื้อรั้นเหมือนเดิม

    “ในเมื่อเจ้าเตรียมตัวพร้อมแล้ว เช่นนั้นก็ตามข้าไปที่อื่น”อินชิงเสวียนดีดปลายเท้าขึ้น ร่างนั้นก็กระโดดออกจากตำหนักจินอู๋ ท่วงท่ากิริยาเบาบางและสง่างาม ราวกับเทพธิดาในวังพระจันทร์ที่ทิ้งร่องรอยความงดงามไว้บนโลกมนุษย์ฟางรั่วติดตามอย่างใกล้ชิด พลางชื่นชมในใจอินชิงเสวียนเป็นคนพิเศษจริงๆ!ราวสิบห้านาที ร่างที่สง่างามทั้งสองก็ปรากฏตัวขึ้นในตำหนักฉือหนิงหลังจากไทเฮาสิ้นพระชนม์ สถานที่แห่งนี้ก็ว่างเปล่า ขณะนี้มีไท่เฟยและไท่ผินเพียงไม่กี่คนที่เหลืออยู่ในวัง ที่พักอาศัยมีมากมาย เหตุผลที่อินชิงเสวียนเลือกสถานที่นี้ ก็เพราะเย่จิ่งอวี้จะไม่มาจากนั้นก็นึกในใจ ครั้นแล้วถังไม้ขนาดใหญ่ก็ปรากฏขึ้นตรงหน้า และในพริบตาเดียว มันก็เต็มไปด้วยน้ำพุวิญญาณที่ใสสะอาด“เข้าไปสิ สิ่งนี้สามารถรับรองความปลอดภัยของเจ้าได้ในระดับสูงสุด”“เพคะ”ฟางรั่วก้าวเข้าไปในถังโดยไม่ลังเลใดๆ แม้เป็นฤดูหนาว น้ำในถังนี้กลับไม่เย็น แต่เต็มไปด้วยความอบอุ่นที่ปกคลุมผิวหนังและเส้นลมปราณทั้งหมดของนางอินชิงเสวียนตามเข้ามา จากนั้นนั่งตรงข้ามนางแม้ว่าจะเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น น้ำพุวิญญาณก็สามารถรับรองความปลอดภัยในชีวิตขอ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1532 คืนชีวิตให้ท่านแล้วจะเป็นไร

    “เจ้าลุกขึ้น ข้าหมายถึงอาจจะทำได้ แต่จะมีโอกาสฟื้นตัวได้มากเพียงใด ข้าก็ไม่แน่ใจ เรื่องนี้ เจ้าควรปรึกษากับกวนเซี่ยวก่อนดีกว่า ถึงอย่างไรเรื่องนี้ก็ไม่ได้เกี่ยวกับเจ้าเท่านั้น แต่ยังเกี่ยวกับเขาด้วย”อินชิงเสวียนพยุงฟางรั่วด้วยมือทั้งสองข้าง และอธิบายข้อดีข้อเสียฟางรั่วพยักหน้า“ข้าเข้าใจ เพียงแต่ สุขภาพของฮองเฮา”อินชิงเสวียนท้องโตขนาดนี้ หากมีอะไรผิดพลาดขึ้นมา นางไม่สามารถรับผิดชอบไหวอินชิงเสวียนยิ้มละไม“ร่างกายของข้าแข็งแรงมาก ไม่เป็นไร เจ้าคิดดีแล้วก็มาหาข้าที่วังหลวงได้เลย”“เพคะ”ขณะที่กำลังคุยกัน ทั้งสองคนก็เดินไปที่แท่นประลองข้างๆ แล้วเห็นเด็กหญิงคนหนึ่งอายุสิบห้าหรือสิบหกปี ถือดาบคู่อยู่ในมือ กระโดดขึ้นลงด้วยท่าทางที่เบาและกล้าหาญ บีบชายที่อยู่ตรงข้ามหลังให้ล่าถอยทีละก้าว จนตกแท่นประลอง ล้มลงต่อหน้าผู้ชม อินชิงเสวียนอดไม่ได้ที่จะชื่นชมมัน“ทำได้ดีมาก!”ใบหน้าของฟางรั่วแสดงถึงความภาคภูมิใจ“เด็กหญิงคนนี้ชื่อหลิวซู่เยว่ เมื่อก่อนเป็นลูกสาวของหัวหน้าคณะละคร นางมีทักษะการต่อสู้อยู่บ้าง หลังจากที่บิดาเสียชีวิต นางไม่สามารถดูแลคณะละครได้ จึงมาที่เมืองหลวง เข้ามาเรี

DMCA.com Protection Status