Share

บทที่ 396 ไม่ยุติธรรม

Author: ม่อเยี่ยน
last update Last Updated: 2024-02-29 16:00:00
นี่เป็นครั้งแรกที่อินชิงเสวียนได้ยินเสียงพูดที่ชัดเจนเช่นนี้ จึงอดดีใจเสียไม่ได้

“เก่งจริงๆ ขนาดคำพูดยากๆ ลูกชายของข้าก็พูดได้แล้ว”

เสี่ยว‍หนาน‍เฟิงดูเหมือนจะรู้ว่าอินชิงเสวียนกำลังชื่นชมตัวเอง จากที่ร้องไห้ก็เปลี่ยนเป็นหัวเราะลั่นทันที

เมื่อเห็นลูกชายยิ้มตาหยี อินชิงเสวียนก็อดไม่ได้ที่จะจูบใบหน้าเล็กๆ ที่อวบอ้วนดวงนั้น

“ลูกแม่เป็นเด็กดีจริงๆ คืนนี้แม่จะนอนกับเจ้านะ”

เสี่ยว‍หนาน‍เฟิงวางหน้าเล็กๆ บนไหล่ของอินชิงเสวียน ท่าทางน่ารักน่าเอ็นดูยิ่งนัก

อินชิงเสวียนตบก้นกลมของเขาเบาๆ

“เราไปนอนกันดีกว่า ยายหลี่ ท่านกับอวิ๋นฉ่ายก็กลับไปกันเถอะ”

“ทราบแล้วเพคะพระสนม หม่อมฉันทูลลา”

ทั้งสองโค้งคำนับและออกจากห้องโถงกลาง อินชิงเสวียนประแป้งให้เสี่ยว‍หนาน‍เฟิง แล้วอุ้มเขาพาเข้านอน

เด็กได้นอนหลับแล้วหนหนึ่ง ตอนนี้จึงยังคึกคักมากทีเดียว อินชิงเสวียนจึงแลกตัวต่อไม้ที่มีตัวอักษรมาจากมิติ แล้วสอนให้เสี่ยว‍หนาน‍เฟิงต่อตัวต่อไม้ ขณะเดียวกันก็เรียนรู้ตัวอักษรไปด้วย

เสี่ยว‍หนาน‍เฟิงทำปากมู่ทู่ เรียนกับอินชิงเสวียนด้วยสีหน้าจริงจัง เมื่อเป็นคำที่อ่านออกเสียงยาก ตอนที่เขาพูดน้ำลายก็แตกฟองฟุ้ง

สองแม่ลู
Locked Chapter
Continue to read this book on the APP

Related chapters

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 397 อดทน

    หานปิงยืนรอรับใช้อยู่ข้างๆเมื่อเห็นสวีจือย่วนดื่มสุราจอกแล้วจอกเล่า ดวงตาก็เต็มไปด้วยความปวดร้าว“นายหญิง อย่าดื่มอีกเลย ท่านเมาแล้ว”สวีจือย่วนดูคล้ายจะไม่ได้ยิน ยังคงดื่มจอกแล้วจอกเล่าหานปิงลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แล้วก้าวไปแย่งจอกสุรา“ดื่มสุราทำร้ายร่างกาย ถ้านายหญิงดื่มจนเสียสุขภาพ จะต่อสู้กับอินชิงเสวียนได้อย่างไร”สวีจือย่วนเงยหน้าที่เมามายขึ้น แล้วพูดเยาะ “ข้าจะมีคุณสมบัติอะไรไปแข่งกับนางได้ ตอนนี้นางเป็นหวงกุ้ยเฟย แต่ข้าเป็นเพียงนายหญิงเล็กๆ ฝ่าบาทไม่สนใจความรู้สึกของข้าที่มีต่อเขาเลยด้งยซ้ำ”นางแค่นเสียงหึแล้วพูดต่ออีกว่า “อินจ้งกลับมาที่ราชสำนักและกลับสู่ตำแหน่งเดิมแล้ว พ่อของข้าได้รับการเลื่อนตำแหน่งเป็นผู้ช่วยเจ้ากรมเท่านั้น ไม่น่าเกรงขามเหมือนแม่ทัพ ได้ยินมาว่าฝ่าบาทยังอนุญาตให้นางกลับไปพักอยู่กับพ่อกับพี่ชายสักพักด้วย แต่ข้ากลับทำได้เพียงพูดคุยกับท่านพ่อไม่กี่คำ ในตอนที่เขามาเข้าเฝ้าฝ่าบาทเท่านั้น เราต่างก็เป็นคนเหมือนกัน เหตุใดฝ่าบาทจึงเลือกที่รักมักที่ชัง จะให้ข้ายอมได้อย่างไร”หานปิงเม้มริมฝีปากแล้วพูดว่า “หากนายหญิงเลือกฝ่าบาทตั้งแต่ตอนที่เข้าวัง ผลลัพธ์ก็คงไม่เ

    Last Updated : 2024-02-29
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 398 ขบวนยิ่งใหญ่

    ช่วงกลางวันอินชิงเสวียนเตรียมพร้อมแล้วกระโปรงคาดอกสีชมพูอิงฮวาขับเน้นให้รูปร่างของนางดูเพรียวบางได้ส่วนสัดงามงด กระโปรงปักด้วยดอกไม้ขนาดใหญ่ ซึ่งดูหรูหราและสง่างาม เมื่อชุดสีนี้ถูกสวมใส่บนเรือนร่างของอินชิงเสวียน กลับไม่ทำให้ดูไร้รสนิยมแม้แต่น้อยบนศีรษะประดับด้วยปิ่นปักผมที่แกะสลักจากหินโมรา แต่งขอบด้วยหมู่มวลผกาเล็กๆ ให้กลิ่นอายโดดเด่นสดใส สง่างามและสูงศักดิ์เสี่ยว‍หนาน‍เฟิงก็แต่งตัวเรียบร้อยแล้วเช่นกัน เขาสวมเสื้อผ้าฝ้ายสีฟ้าอ่อน เข้าคู่กับรองเท้าคู่เล็กสีเดียวกัน ซึ่งทำให้ใบหน้าดวงเล็กจ้อยดูขาวกระจ่างตายิ่งขึ้น แพขนตาหนาสีดำงอนเด้ง ราวกับตุ๊กตาเด็กที่ตั้งขายในห้างสรรพสินค้า เมื่อเห็นว่าลูกชายน่ารักแค่ไหน อินชิงเสวียนก็รักเอ็นดูจนอุ้มไม่ยอมวางขณะที่กำลังลูบใบหน้าเล็กๆ ของเขา เสี่ยวอานจื่อก็วิ่งเข้ามาเขากล่าวด้วยสีหน้าเบิกบานว่า “พระสนม ฝ่าบาททรงมีรับสั่ง ตรัสว่าให้รอเสด็จที่ประตูตงฮว๋า ประตูตงฮว๋าเป็นประตูเข้าออกสำหรับเจ้าหน้าที่ขุนนางทุกภาคส่วน ฝ่าบาทอนุญาตให้พระสนมเสด็จออกทางประตูนี้ พอจะเห็นถึงความใหญ่โตแล้ว!”อินชิงเสวียนอยู่ในวังมานานแล้ว พอจะรู้กฎบางอย่างในวังอยู

    Last Updated : 2024-02-29
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 399 ซูหมิงหลานผู้ระมัดระวัง

    เย่‍จิ่ง‍อวี้คลี่ยิ้มบางๆ แล้วพูดว่า “ทุกท่านลุกขึ้นเถิด”ทั้งสองคำนับอีกครั้ง และยืนขึ้นด้วยความเคารพนบนอบ“ฝ่าบาทเชิญด้านนี้พ่ะย่ะค่ะ”เย่‍จิ่ง‍อวี้พยักหน้าและก้าวเข้าไปในบ้านซูหมิงหลานมองดูเด็กที่อวิ๋นฉ่ายอุ้มไว้อีกครั้งเสี่ยว‍หนาน‍เฟิงตัวอ้วนท้วนผิวขาวอมชมพู กำลังกัดกำปั้นน้อยๆ ของตัวเองพลางสอดส่ายสายตาไปรอบๆ ดวงตาคล้ายองุ่นสีดำผลใหญ่เต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็นช่างเป็นเด็กที่รูปงามจริงๆ!ซูหมิงหลานเห็นแล้วก็ชอบ อดไม่ได้ที่จะมองดูอีกสักหน่อยทว่าอินชิงเสวียนกลับกำลังมองนางอย่างสำรวจตรวจตรา รู้สึกว่าสตรีคนนี้ดูท่าทางใจดี เค้าหน้าได้สัดส่วน ดูเหมือนคนที่มีแผนร้ายซุกซ่อนอยู่เลยแต่ว่าจะตัดสินคนจากรูปลักษณ์ภายนอกไม่ได้ ไม่มีใครรู้ว่านางคิดอะไรอยู่ในใจครั้นจึงขยิบตาให้อวิ๋นฉ่าย แล้วเดินตามเย่‍จิ่ง‍อวี้เข้าประตูไปทุกคนต่างนั่งในตำแหน่งที่เหมาะสม แต่อินจ้งกลับไม่มีของสิ่งใดที่จะต้อนรับขับสู้ฝ่าบาท จึงร฿สึกกระดากอายอย่างอดไม่ได้ก่อนหน้านี้ยังพอจะเหลือใบชาคุณภาพแย่อยู่บ้าง จึงรีบสั่งคนไปชงชามาต้อนรับเย่‍จิ่ง‍อวี้ยิ้มบางๆ แล้วพูดว่า “แม่ทัพอินไม่ต้องเกรงใจ ข้าจะนั่งพักสั

    Last Updated : 2024-03-01
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 400 ปลาใหญ่ในอวน

    อินจื่อลั่วลืมตาขึ้นด้วยความไม่เชื่อ“ท่านพี่ ข้าอุ้มเขาได้จริงหรือเจ้าคะ”“อืม”อินชิงเสวียนตอบด้วยรอยยิ้มทันใดนั้นอินจื่อลั่วก็ดูมีความสุข นางอุ้มเสี่ยว‍หนาน‍เฟิงอย่างระมัดระวัง แล้วพาเขาไปนั่งบนเก้าอี้จู่ๆ เสี่ยว‍หนาน‍เฟิงก็รู้สึกอยากรู้อยากเห็นในตัวอินจื่อลั่ว ซูหมิงหลานรีบมาอยู่ข้างๆ ลูกสาว ด้วยกลัวว่านางจะอุ้มไม่ดี ทำให้เด็กตกได้เมื่อมองดูความกังวลบนใบหน้าของซูหมิงหลานที่ดูไม่เหมือนการเสแสร้งแกล้งทำ อีกทั้งหน้าตาของนางก็ดูเอื้ออารี ไม่เหมือนคนใจร้าย บางทีเป็นเพราะเจ้าของร่างเดิมคิดไปเองเกินไปอินปู้อวี่พูดด้วยรอยยิ้มว่า “น่าเสียดายที่ข้าไม่มีเงิน ไม่เช่นนั้นข้าจะได้ซื้อของเล่นให้จ้าวเอ๋อร์เล่น”เขามีนิสัยตรงไปตรงมา คิดสิ่งใดก็พูดไปตามนั้น เขามีใบหน้าที่สง่างามและหล่อเหลา แต่จริงๆ แล้วเขามีนิสัยง่ายๆ หลังจากได้ยินเขาพูดเช่นนี้ อินชิงเสวียนก็จำได้ว่าตัวเองกลับมาเพื่อเอาเงินไว้ให้เขาจึงรีบหยิบตั๋วเงินปึกหนาออกมาจากแขนเสื้อ แล้วส่งให้อินจ้ง“นี่เป็นเงินจำนวนหนึ่งที่ลูกสะสมตั้งแต่ตอนที่อยู่ในวัง เดิมทีอยากฝากจิ้งอ๋องนำไปมอบให้ท่านพ่อ แต่เมื่อรู้ว่าท่านพ่อจะกลับเมืองหลว

    Last Updated : 2024-03-01
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 401 ซูหมิงหลานเกิดความสะเทือนใจ

    ชาวประมงก็ประหลาดใจอยู่พักหนึ่ง ไม่ว่าอย่างไรก็คาดไม่ถึงว่าจะลากอวนขึ้นมาเป็นคนได้มีคนก้าวไปลองแตะดูอย่างใจกล้า พบว่ายังมีลมหายใจอุ่นๆ มาจากคนผู้นั้นทุกคนรีบกดหน้าท้องของเขา แต่ชายผู้นั้นกลับไม่สำลักน้ำออกมาเลยชายสูงอายุขมวดคิ้วแล้วพูดว่า “ดูท่าทางไม่เหมือนคนจมน้ำเลย”“จริงด้วย แต่เขาตายแล้วหรือยังมีชีวิตอยู่ล่ะ”หลายคนเห็นว่ามือและเท้าของเขาเย็นเฉียบ จึงไม่สามารถตัดสินได้ชั่วขณะหนึ่งชายชราจับหน้าอกของเขาอีกครั้ง แล้วพูดอย่างหนักแน่น “คนผู้นี้ยังไม่ตายแน่นอน อุ้มเขาไปที่บ้านของข้าก่อนเถอะ!”“ได้”ชาวประมงล้วนเป็นบุรุษเรียบง่าย ไม่นานก็พาคนผู้นั้นไปที่บ้านของชายชราแซ่จังอย่างสบายๆจังอวี้จิ่นผู้เป็นลูกสาวกำลังตากปลาแห้งอยู่ที่ลานบ้าน เมื่อนางเห็นพ่อประคองใครบางคนเข้ามา นางก็รีบเช็ดมือแล้ววิ่งไปถามว่า “ท่านพ่อ นี่ใครเจ้าคะ”ผู้เฒ่าจังพูดว่า “ข้าก็ไม่รู้จักเขาเหมือนกัน วันนี้ลากตัวเขาขึ้นมาได้ตอนเอาปลาน่ะ ข้าจับดูยังมีลมหายใจอุ่นๆ อยู่ จึงพากลับมา เจ้าไปต้มน้ำร้อนเร็วเข้า จะได้เพิ่มความอบอุ่นแก่เขา น้ำในแม่น้ำของเราหนาวเย็นมากจริง ไม่แน่ว่าอาจจะแข็งตายแล้วก็ได้”จังอวี้จิ่น

    Last Updated : 2024-03-01
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 402 งานปักสองด้าน

    “ไม่ต้องร้องไห้แล้วเจ้าค่ะ เราผ่านความยากลำบากมาแล้ว”อินชิงเสวียนจับมืออันหยาบกร้านของซูหมิงหลานขึ้นมา และตบเบาๆ ซูหมิงหลานยกแขนเสื้อขึ้นเช็ดน้ำตาของนาง แต่น้ำตาหยดใหม่ก็ไหลอาบหน้าทันที“ข้าไม่ได้ตั้งใจจะทำลายบรรยากาศนะ จริงๆ แล้ว...จริงๆ แล้ว...”ซูหมิงหลานสูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วพูดอย่างยากลำบาก “ข้าคิดว่าเจ้าทุ่มเทเพื่อตระกูลอินมากเกินไป เดิมทีเจ้าไม่ชอบฝ่าบาท แต่เจ้าต้องทนความยากลำบากในวังเพื่อครอบครัวของเรา ทุกครั้งที่ข้าคิดถึงเรื่องนั้น ก็จะรู้สึกเสียใจมาก แม้ว่าเจ้าจะไม่ใช่ลูกสาวแท้ๆ ของข้า แต่ข้าก็ปฏิบัติต่อเจ้าไม่ต่างจากจื่อลั่ว ความลำบากของเจ้าที่อยู่ในวัง ข้าย่อมรู้ดี”หลังจากฟังคำพูดของซูหมิงหลานแล้ว อินชิงเสวียนก็รู้สึกตกตะลึงไม่รู้จะร้องไห้หรือหัวเราะดีมิน่าละตั้งแต่ที่ตัวเองเข้ามา นางก็มองตัวเองด้วยความสงสาร ที่แท้นางกำลังคิดเช่นนี้อยู่นี่เองแต่นางไม่รู้ว่าตัวเองที่เป็นในวังมีชีวิตเหมือนปลาที่อยู่ในน้ำ จะมีความลำบากอะไร ไม่ต้องพูดถึงการได้รับความรักจากหนึ่งบุรุษที่ทุกคนใฝ่ฝัน ก็แทบเพียงพอให้อยู่อย่างสบายแล้ว ยิ่งไปกว่านั้น นางยังชอบเย่‍จิ่ง‍อวี้อีกด้วยไม่ว่าในแ

    Last Updated : 2024-03-01
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 403 เจอผู้ที่มาแย่งชิงพิณอีกครั้ง

    แม่ลูกทั้งสามคุยกันจนดึกดื่น แล้วซูหมิงหลานก็พาอินจื่อลั่วที่ไม่เต็มใจกลับไปนอนยายหลี่พาเสี่ยว‍หนาน‍เฟิงเข้านอนแล้ว เมื่อเห็นว่าอินชิงเสวียนคุยกับพวกนางอย่างถูกชะตา ยายหลี่ก็พูดอย่างมีความสุข “นิสัยของพระสนมเปลี่ยนไปมาก ฮูหยินรองจะต้องมีความสุขมากอย่างแน่นอน”อินชิงเสวียนตบเสี่ยว‍หนาน‍เฟิงเบาๆ หันกลับมาแล้วถามว่า “จากสายตาของยายหลี่ ฮูหยินรองเป็นคนดีหรือไม่ดี”ยายหลี่พูดด้วยความจริงใจ “มีสุขร่วมเสพนั้นเป็นเรื่องง่าย แต่มีทุกข์ร่วมต้านนั้นเป็นเรื่องยาก แม้ว่าตระกูลอินจะถูกเนรเทศ ฮูหยินรองก็ยังไม่จากไปไหน คนเช่นนี้หาได้ยากนิ่งนัก นอกจากนี้ตั้งแต่นางแต่งเข้ามา นางก็คอยดูแลพระสนมและคุณชายทั้งสองเป็นอย่างดี พอนางรู้ว่าพระสนมชอบอันผิงอ๋อง ยังคิดที่จะให้คุณหนูสี่แต่งงานเข้าจวนรัชทายาทแทนพระสนมด้วยซ้ำ เพื่อให้พระสนมกับอันผิงอ๋องหนีไปด้วยกัน ทว่าอันผิงอ๋องกลับไปแต่งงานกับบุตรีของโหวเหนือ นางจึงต้องปล่อยวางเรื่องนี้ ฮูหยินรองปฏิบัติต่อพระสนมและคุณชายทั้งสองเช่นนี้มาหลายปีแล้ว เรื่องเช่นนี้ไม่สามารถเสแสร้งได้”อินชิงเสวียนพยักหน้า“เช่นนี้ก็พิสูจน์ว่าข้าไม่ได้ดูคนผิด ซูหมิงหลานเป็นคนดีอย่าง

    Last Updated : 2024-03-02
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 404 เจ้าถามมากเกินไปแล้ว

    “ชิงเสวียน!”อินปู้อวี่ยกกระบี่ขึ้นรับหน้าคนชุดดำ คนชุดดำส่งเสียงเหยียดหยาม ก้าวตัดในแนวทแยงมุมสามก้าว และสะบัดฝ่ามือใส่ที่ข้อมือของอินปู้อวี่ความเร็วของอินปู้อวี่ไม่ได้ช้า หมัดซ้ายได้เหวี่ยงออกไป ตรงไปยังรักแร้ของคนชุดดำคนชุดดำแค่นเสียงหึอย่างแหบแห้ง“สมแล้วที่เป็นคนตระกูลอิน พอมีฝีมืออยู่บ้าง”คนผู้นั้นหลบหมัดของอินปู้อวี่ บิดร่างกายด้วยท่าประหลาด และโจมตีไปยังอินชิงเสวียนอีกครั้งการเคลื่อนไหวนี้รวดเร็วมาก ความเร็วเทียบได้กับสายอสุนีบาตที่ฟาดเปรี้ยงลงมา อินชิงเสวียนก็เตรียมพร้อมเช่นกัน นางรู้ว่าคนชุดดำมีวรยุทธ์สูง พลังมิติไม่สามารถจัดการกับคนผู้นั้นได้เลย ดังนั้นนางจึงแลกทักษะห้าสิบห้าสิบมาโดยไม่ต้องคิดทันใดนั้น ทั้งสองก็ก้าวเท้าจังหวะเดียวกัน ปะทะฝ่ามือออกไปพร้อมกันมีเสียงดังเปรี้ยง ฝ่ามือทั้งสองที่ปะทะกันทำให้ฝุ่นฟุ้งกระจายคลุ้งลานบ้านทั้งสองต่างถอยกลับไปสามก้าว แต่คนชุดดำก็หยุดเคลื่อนไหวอีกครั้ง“เจ้าเป็นใครกันแน่” คนผู้นั้นถามด้วยน้ำเสียงอึมครึมอินชิงเสวียนก็มองเขาด้วยสายตาที่เย็นชาเช่นกัน“แล้วเจ้าเป็นใคร เหตุใดถึงพยายามแย่งชิงพิณการเวกไป”คนชุดดำพูดอย่างเย

    Last Updated : 2024-03-02

Latest chapter

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1540 สองพระองค์ครองราชย์ จบบริบูรณ์

    ปีที่สามของการครองราชย์ในราชวงศ์ต้าโจวฮองเฮาให้กำเนิดพระธิดา ได้รับพระราชทานนามว่าองค์หญิงเจ๋อเทียน นามว่าเจิน มีชื่อเล่นว่าฝูเอ๋อร์ในเดือนเก้าของปีเดียวกัน เย่จิ่งอวี้และอินชิงเสวียนปกครองร่วมกัน แบ่งกันปกครองบ้านเมืองและการดำรงชีวิตของผู้คน ราษฎรเคารพทั้งสองในฐานะพระองค์ฝ่ายซ้ายและฝ่ายขวา ประวัติศาสตร์ได้บันทึกช่วงเวลานี้ไว้ด้วยถ้อยคำที่งดงามที่สุด และเรียกช่วงเวลานี้อย่างเคารพว่า ยุคที่สององค์ปกครอง!ห้าปีต่อมา เครื่องกำเนิดพลังงานลมเครื่องแรกปรากฏขึ้นด้วยฝีมือความสามารถของชาวต้าโจว ซึ่งก้าวล้ำหน้าสมัยโบราณที่ล้าหลังไปอย่างมากด้วยก้าวที่ยิ่งใหญ่นักเรียนจากทั่วแคว้นได้แสดงความสามารถ พัฒนาสิ่งที่ล้ำหน้าต่างๆ ผ่านความรู้ทางคณิตศาสตร์ ฟิสิกส์ และเคมีใหม่ล่าสุด บุปผานับร้อยบานสะพรั่งพร้อมกัน ก่อให้เกิดยุครุ่งเรืองของราชวงศ์ต้าโจวตอนนี้อาหารไม่ขาดแคลน ราษฎรไม่ต้องทนทุกข์กับความหิวโหยอีกต่อไป ยิ่งไม่มีการอพยพย้ายถิ่นฐาน โครงการคลองส่งน้ำก็สำเร็จลุล่วง ด้วยการคมนาคมสะดวกระหว่างภาคเหนือและภาคใต้ ก็สามารถแลกเปลี่ยนสิ่งที่ต้องการได้ในที่สุด อ่างเก็บน้ำที่สร้างขึ้นยังสามารถเปลี่ยนเส้นท

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1539 เสวียนเอ๋อร์ขอบคุณเจ้านะ

    ตำหนักจินอู๋อินชิงเสวียนอดทนต่อความเจ็บปวดที่ถาโถมเข้ามาราวกับกระแสน้ำ แต่ไม่กล้าโคจรกำลังภายในต้านทานไว้ เพราะกลัวว่าจะทำร้ายลูกของนางเมื่อเห็นนางกัดริมฝีปากล่างแน่น มีเหงื่อไหลอาบหน้า หัวใจของเย่จิ่งอวี้ก็รู้สึกเหมือนถูกมีดคมๆ นับพันทิ่มแทง รู้สึกเจ็บปวดอย่างยิ่ง“ต้องทำอย่างไรถึงจะช่วยบรรเทาความเจ็บปวดของฮองเฮาได้ ต้องปล่อยให้นางเจ็บปวดทนทุกข์เช่นนี้หรือ”หมอตำแยกล่าวอย่างกล้าหาญว่า “สตรีคลอดบุตรก็เป็นเช่นนี้เพคะ อดทนไว้ แล้วจะดีเอง”เย่จิ่งอวี้พูดด้วยความโกรธ “ฮองเฮาของข้าจะเทียบได้กับสตรีทั่วไปได้อย่างไร รีบหาทางบรรเทาความเจ็บปวดของฮองเฮาเดี๋ยวนี้”“ข้าไม่เป็นไร อาอวี้ออกไปก่อนเถอะ!”เสียงของอินชิงเสวียนนั้นอ่อนแรง แม้จะเป็นสามีภรรยากัน แต่ถูกเห็นเข้าในสถานการณ์เช่นนี้ก็น่าอายอยู่เหมือนกันเย่จิ่งอวี้เดินก้าวเดียวก็ไปถึงเตียง จับมือของนางแน่นๆ แล้วพูดอย่างกระวนกระวายใจ “ข้าไม่วางใจ มีวิธีถ่ายทอดความเจ็บปวดให้ข้าได้ไหม เจ้าอยู่กับลั่วสุ่ยชิงมานานแล้ว ไม่ได้เรียนวิชาอาคมอะไรจากนางบ้างหรือ”อินชิงเสวียนเจ็บปวดเจียนตายอยู่แล้ว เมื่อได้ยินคำนี้ก็ไม่รู้จะหัวเราะหรือร้องไห้ดี

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1538 ไท่เฟยไท่ผินออกจากวัง

    อินชิงเสวียนอดทนต่อความเจ็บปวดและกล่าวว่า “ฝ่าบาทไม่จำเป็นต้องอยู่ที่นี่ วันนี้เป็นวันแต่งงานของไห่ถัง ในฐานะพี่ชาย ควรเป็นประธานงานแต่งของนางด้วยตนเอง หากไม่มีคนในราชวงศ์ไป ไห่ถังจะผิดหวังได้”แม้น้องสาวจะเป็นญาติ แต่ก็ไม่ชิดเชื้อเท่ากับภรรยา ลูกคนแรกเกิดในตำหนักเย็น ซึ่งทำให้เย่จิ่งอวี้รู้สึกผิดไปครึ่งชีวิตแล้ว ยากนี้เด็กคนนี้คือสมบัติล้ำค่าที่แท้จริงระหว่างพวกเขา ในฐานะพ่อของลูก เขาจะจากไปได้อย่างไรเมื่อเห็นว่าใบหน้าของนางซีด มีเม็ดเหงื่อเม็ดเล็กๆ ผุดพรายขึ้นเต็มขมับของนาง เย่จิ่งอวี้ก็รีบก้าวไปข้างหน้าเพื่อปลอบนาง “ไม่เป็นไร มีแม่ทัพอินและจอมพลกวนอยู่ด้วย ไห่ถังก็ไม่นับว่าเสียเกียรติอะไรนัก”อินชิงเสวียนคว้าแขนของเขา“จะได้อย่างไร หากไม่มีใครจากในวังไป มันจะกลายเป็นปมในใจของไห่ถังอย่างแน่นอน นี่คือวันที่สำคัญที่สุดในชีวิตของนาง”ไม่ว่าอย่างไรเย่จิ่งอวี้ก็ไม่ยอมไป แต่ก็ไม่สามารถปล่อยให้น้องสาวเสียหน้าได้ เขาหรี่ตาลงเล็กน้อย มีความคิดอยู่ในใจ“เจวี๋ยอิ่ง ไปเชิญไท่เฟยไท่ผินทุกท่าน ให้พวกนางออกจากวัง ร่วมงานเสกสมรสขององค์หญิงเดี๋ยวนี้”ทุกคนตกตะลึง ไม่มีใครคาดคิดว่าเย่จิ่งอวี้จ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1537 ฮองเฮาทรงมีพระประสูติการ

    เย่ไห่ถังยังคงมีความสุข แต่จู่ๆ เสียงของหลี่เต๋อฝูก็ทำให้นางรู้สึกไม่พอใจเล็กน้อยเมื่อเปิดประตู เห็นเสด็จพี่และเสด็จพี่สะใภ้ยืนอยู่ที่กลางเรือน น้ำตาก็ไหลออกมาจากดวงตา“ไห่ถังคารวะเสด็จพี่ เสด็จพี่สะใภ้เพคะ!”เย่ไห่ถังกำลังจะคุกเข่าลง แต่เย่จิ่งอวี้ก็ปราดเข้าประคองนางพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “ในฐานะสตรีที่ออกเรือนแล้ว ทุกสิ่งต้องคำนึงถึงสถานการณ์โดยรวม จะทำตัวเหลวไหลซุกซนเหมือนอยู่ในวังไม่ได้ หากใช้ชีวิตนอกวังจนเบื่อแล้ว ก็สามารถกลับมาได้ตลอดเวลา วังหลวงจะเป็นบ้านของเจ้าตลอดไป”อินชิงเสวียนก็ก้าวไปข้างหน้าและพูดว่า “ถ้าพี่รองของข้ารังแกเจ้า เจ้าก็บอกข้าได้เลย ข้าจะทวงความยุติธรรมให้กับเจ้าแน่นอน”ถ้าคนที่เย่ไห่ถังแต่งงานด้วยไม่ใช่อินปู้อวี่ เย่จิ่งอวี้คงพูดคำนี้ไปนานแล้วเย่ไห่ถังสูดจมูก“ขอบพระทัยเสด็จพี่และเสด็จพี่สะใภ้เพคะ ตอนแรกข้าค่อนข้างมีความสุข แต่ตอนนี้ไม่อยากจากไปเลย”เมื่อเห็นว่าจมูกของเย่ไห่ถังแดง กำลังจะร้องไห้อีก เย่จิ่งอวี้จึงตีหน้าขรึมพูดทันที “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ งั้นข้าจะให้คนไปแจ้งอินปู้อวี่ ว่าการแต่งงานครั้งนี้ไม่มีแล้ว หลี่เต๋อฝู!”หลี่เต๋อฝูก็เป็นคนเจ้าเ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1536 องค์หญิงกำลังจะเสกสมรส

    ในวันที่หนึ่งเดือนสี่ ลำดับการสอบการต่อสู้ชี้ให้เห็นว่า เฉินเซียงเยว่ที่อินชิงเสวียนสนใจ สอบได้ลำดับหนึ่ง คนผู้นี้หน้าตาดูดุร้ายและน่าเกลียด แต่กลับมีจิตใจอ่อนโยนดังเช่นสตรี ไม่เพียงแต่วรยุทธ์ดีเลิศเท่านั้น แต่ยังเก่งในเรื่องการจัดขบวนทัพด้วย เป็นยอดแม่ทัพที่หาได้ยากนางได้ลำดับหนึ่งก็คือจอหงวนด้านวิชาการต่อสู้ ไม่มีใครไม่ยอมรับเลย แค่ยืนอยู่เฉยๆ ก็ดูฮึกเหิมมีพลังมากกว่าผู้ชายทุกคนในตอนนั้นเด็กผู้หญิงอีกคนหนึ่งแซ่หลิวมีชื่อว่าเยว่ ก็ได้รับเลือกให้ติดอยู่ในสามอันดับแรก รั้งอยู่ในเมืองหลวงฝ่าบาทขานรายชื่อสตรีมามากขนาดนี้ เหล่าขุนนางข้าราชบริพารก็อดไม่ได้ที่จะพูดถึงเรื่องนี้ ต่างรู้สึกว่ามันไม่ถูกต้องตามระเบียบประเพณี แต่ก็กล้าที่จะวิพากษ์วิจารณ์เป็นการส่วนตัวเท่านั้น ต้าโจวในวันนี้เปลี่ยนไปแล้ว ที่ฝ่าบาทยินดีฟังพวกเขา ก็ถือเป็นการให้เกียรติพวกเขาแล้ว หากฝ่าบาทไม่อยากฟัง ถึงพูดมากไปก็ไร้ผลแต่ไม่มีใครกล้าพูดว่าเย่จิ่งอวี้เป็นทรราช ฝ่าบาททรงงานปกครองบ้านเมืองอย่างหนัก แม้ว่าพระองค์จะทรงปฏิรูปครั้งใหญ่ แต่ก็ทำเพื่อประชาชนในราชวงศ์ต้าโจวเท่านั้น ขณะนี้แผ่นดินสงบสุข มีธัญพืชอุดมสมบูรณ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1535 เหลวไหลจริงๆ

    เสียงเรียกว่าท่านพี่นั้นทำให้เย่จิ่งอวี้ใจอ่อนลงมากโข ความโกรธทั้งหมดพลันหายไปอย่างไร้ร่องรอยในทันทีไม่เช่นนั้นจะทำอะไรได้อีก ภรรยาที่เลือกมาเอง มีแต่ต้องตามใจเองเท่านั้น“เจ้าคนโกหกตัวน้อย กลับไปสามีจะคิดบัญชีเจ้าหนักๆ ถอนกำลังภายในของเจ้าออก สามีจะทำแทนเจ้าเอง ประเดี๋ยวจะทำร้ายลูกในท้องเอา”เสียงของเย่จิ่งอวี้เชื่อมโยงเป็นเส้น ไหลผ่านกระทบโสตประสาทของอินชิงเสวียนคำต่อคำอย่างแจ่มชัดนางยกมุมปากขึ้น เผยเป็นรอยยิ้มภาคภูมิใจเมื่อสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของเย่จิ่งอวี้ นางจึงเปิดโสตประสาท เหตุผลที่ขอให้เย่จิ่งอวี้ช่วย ก็เพราะว่ากำลังภายในในร่างกายของนางซับซ้อนเกินไป ยากต่อการควบคุม ในงานที่ละเอียดอ่อนเช่นนี้ จะให้เกิดข้อผิดพลาดไม่ได้เด็ดขาดเย่จิ่งอวี้ไม่เหมือนกัน เขาบำเพ็ญตบะกำลังภายในของหอแห่งเสียงศักดิ์สิทธิ์ ทั้งยังประสานพลังแห่งฟ้าดิน แม้ว่าอินชิงเสวียนจะมีพลังลมปราณของหลายสำนัก แต่ก็ไม่สามารถเทียบกับกำลังภายในอันบริสุทธิ์และทรงพลังของฮ่องเต้ได้ในชั่วพริบตา กำลังภายในดุจธารานิ่งลึกหลั่งไหลเข้ามาจากด้านนอกประตู เหมือนโลกลึกล้ำ โอบกอดและยืดหยุ่น บรรยากาศที่มืดมนในห้องโถงคล้ายจะถูก

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1534 ท่านพี่ช่วยข้าได้ไหม

    “ฟางรั่วเข้าวัง?”เย่จิ่งอวี้หยุดฝีเท้าหลี่เต๋อฝูโค้งคำนับและพูดว่า “กระหม่อมถามองครักษ์ที่เฝ้าหน้าประตูวังแล้ว แม่นางฟางรั่วเข้ามาเมื่อสามชั่วยามที่แล้ว”เจวี๋ยอิ่งคุกเข่าลงและพูดว่า “กระหม่อมเห็นฟางรั่วเข้าไปในตำหนักจินอู๋ แต่ไม่เห็นนางและฮองเฮาออกมา”เย่จิ่งอวี้หรี่ตาลงเล็กน้อย สายตาคล้ายจะสดใสและมืดมน กำลังตกอยู่ในอาการครุ่นคิดด้วยวรยุทธ์ของฟางรั่ว ไม่มีทางเป็นไปได้ที่จะทำอันตรายต่ออินชิงเสวียน นางยังมีใบมีดแห่งมิติอยู่ในมือ แม้ว่าเหล่าเทพเซียนจะลงมาเอง แต่นางก็ยังสามารถต่อสู้ได้จากมุมมองนี้ ควรไม่ใช่การหายตัวไปง่ายๆ นางเรียกฟางรั่วมา ต้องมีเหตุผลอื่นเป็นแน่เจวี๋ยอิ่งโค้งคำนับและถามว่า “ต้องการให้กระหม่อมปิดล้อมพระนคร สืบหาที่อยู่ของฮองเฮาอย่างถี่ถ้วนหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ”เย่จิ่งอวี้เหลือบมองเจวี๋ยอิ่ง“ไม่ต้อง หลี่เต๋อฝู ไปเชิญกวนเซี่ยวเข้ามาด้วย”ครู่ต่อมา กวนเซี่ยวก็วิ่งเหยาะๆ มาถึงประตูตำหนัก ยกเสื้อคลุมขึ้นและคุกเข่าลงกับพื้น“กวนเซี่ยวถวายบังคมฝ่าบาท ฝ่าบาททรง...”เย่จิ่งอวี้ได้ยินเช่นนั้นก็รำคาญ โบกมือห้าม“ตามสบาย เจ้ารู้ไหมว่าทำไมฟางรั่วถึงมาที่วัง”กวนเซี่ยว

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1533 เจ้าน่ะ ยังมีนิสัยดื้อรั้นเหมือนเดิม

    “ในเมื่อเจ้าเตรียมตัวพร้อมแล้ว เช่นนั้นก็ตามข้าไปที่อื่น”อินชิงเสวียนดีดปลายเท้าขึ้น ร่างนั้นก็กระโดดออกจากตำหนักจินอู๋ ท่วงท่ากิริยาเบาบางและสง่างาม ราวกับเทพธิดาในวังพระจันทร์ที่ทิ้งร่องรอยความงดงามไว้บนโลกมนุษย์ฟางรั่วติดตามอย่างใกล้ชิด พลางชื่นชมในใจอินชิงเสวียนเป็นคนพิเศษจริงๆ!ราวสิบห้านาที ร่างที่สง่างามทั้งสองก็ปรากฏตัวขึ้นในตำหนักฉือหนิงหลังจากไทเฮาสิ้นพระชนม์ สถานที่แห่งนี้ก็ว่างเปล่า ขณะนี้มีไท่เฟยและไท่ผินเพียงไม่กี่คนที่เหลืออยู่ในวัง ที่พักอาศัยมีมากมาย เหตุผลที่อินชิงเสวียนเลือกสถานที่นี้ ก็เพราะเย่จิ่งอวี้จะไม่มาจากนั้นก็นึกในใจ ครั้นแล้วถังไม้ขนาดใหญ่ก็ปรากฏขึ้นตรงหน้า และในพริบตาเดียว มันก็เต็มไปด้วยน้ำพุวิญญาณที่ใสสะอาด“เข้าไปสิ สิ่งนี้สามารถรับรองความปลอดภัยของเจ้าได้ในระดับสูงสุด”“เพคะ”ฟางรั่วก้าวเข้าไปในถังโดยไม่ลังเลใดๆ แม้เป็นฤดูหนาว น้ำในถังนี้กลับไม่เย็น แต่เต็มไปด้วยความอบอุ่นที่ปกคลุมผิวหนังและเส้นลมปราณทั้งหมดของนางอินชิงเสวียนตามเข้ามา จากนั้นนั่งตรงข้ามนางแม้ว่าจะเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น น้ำพุวิญญาณก็สามารถรับรองความปลอดภัยในชีวิตขอ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1532 คืนชีวิตให้ท่านแล้วจะเป็นไร

    “เจ้าลุกขึ้น ข้าหมายถึงอาจจะทำได้ แต่จะมีโอกาสฟื้นตัวได้มากเพียงใด ข้าก็ไม่แน่ใจ เรื่องนี้ เจ้าควรปรึกษากับกวนเซี่ยวก่อนดีกว่า ถึงอย่างไรเรื่องนี้ก็ไม่ได้เกี่ยวกับเจ้าเท่านั้น แต่ยังเกี่ยวกับเขาด้วย”อินชิงเสวียนพยุงฟางรั่วด้วยมือทั้งสองข้าง และอธิบายข้อดีข้อเสียฟางรั่วพยักหน้า“ข้าเข้าใจ เพียงแต่ สุขภาพของฮองเฮา”อินชิงเสวียนท้องโตขนาดนี้ หากมีอะไรผิดพลาดขึ้นมา นางไม่สามารถรับผิดชอบไหวอินชิงเสวียนยิ้มละไม“ร่างกายของข้าแข็งแรงมาก ไม่เป็นไร เจ้าคิดดีแล้วก็มาหาข้าที่วังหลวงได้เลย”“เพคะ”ขณะที่กำลังคุยกัน ทั้งสองคนก็เดินไปที่แท่นประลองข้างๆ แล้วเห็นเด็กหญิงคนหนึ่งอายุสิบห้าหรือสิบหกปี ถือดาบคู่อยู่ในมือ กระโดดขึ้นลงด้วยท่าทางที่เบาและกล้าหาญ บีบชายที่อยู่ตรงข้ามหลังให้ล่าถอยทีละก้าว จนตกแท่นประลอง ล้มลงต่อหน้าผู้ชม อินชิงเสวียนอดไม่ได้ที่จะชื่นชมมัน“ทำได้ดีมาก!”ใบหน้าของฟางรั่วแสดงถึงความภาคภูมิใจ“เด็กหญิงคนนี้ชื่อหลิวซู่เยว่ เมื่อก่อนเป็นลูกสาวของหัวหน้าคณะละคร นางมีทักษะการต่อสู้อยู่บ้าง หลังจากที่บิดาเสียชีวิต นางไม่สามารถดูแลคณะละครได้ จึงมาที่เมืองหลวง เข้ามาเรี

DMCA.com Protection Status