Home / รักโบราณ / สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์ / บทที่ 229 ใช้พิษต้านพิษ

Share

บทที่ 229 ใช้พิษต้านพิษ

Author: ม่อเยี่ยน
last update Last Updated: 2024-01-22 16:00:00
รอยยิ้มของเย่จิ่งอวี้จางหายไป

“ส่งมา”

“พ่ะย่ะค่ะ”

องครักษ์ขึ้นไปที่ศาลาเล็ก คุกเข่าข้างหนึ่งแล้วยื่นจดหมายให้เย่จิ่งอวี้

เย่จิ่งอวี้เปิดจดหมายออกแล้วอ่านอย่างรวดเร็ว เขาโกรธจัดทันที ตบโต๊ะหินดังปัง

“แค่เมืองเล็กๆ กล้าดีอย่างไรมาขอแต่งงานกับองค์หญิง ช่างไม่สำเหนียกตัวเสียเลย”

อินชิงเสวียนที่นั่งอยู่ข้างๆ เขา พอจะมองเห็นอะไรอยู่บ้าง ประมาณว่าเจียงวูต้องการแต่งงานกับองค์หญิง เพื่อเชื่อมสัมพันธไมตรีกับต้าโจว เพื่อหยุดสงคราม

เมื่อนึกถึงท่าทางที่ไร้เดียงสาและน่ารักของเย่ไห่ถัง นางก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกโมโห

“คนชั่วพวกนี้ช่วงบังอาจจิงๆ องค์หญิงแห่งต้าโจวจะอภิเสกสมรสกับชนเผ่าเล็กๆ กับพวกเขาได้รึ”

เย่จิ่งอวี้พูดอย่างจงเกลียดจงชัง “ถูกต้อง หากวันนี้องค์หญิงต้าโจวแต่งงาน พรุ่งนี้พวกเขาจะขอองค์หญิงคนที่สองจากข้าอีก หรือแม้แต่องค์หญิงคนที่สามหรือสี่ด้วยซ้ำ”

“แล้วฝ่าบาทมีแผนจะทำเช่นไรเพคะ”

เย่จิ่งอวี้นวดขมับ ยืนขึ้นแล้วพูดว่า “ข้าจะตอบกลับพวกเขาก่อน แล้วค่อยตัดสินใจ เจ้าก็อย่าอยู่ข้างนอกนานนัก หลังฝนตกอากาศชื้น เดี๋ยวจะเป็นหวัดเอา”

หลังจากที่เย่จิ่งอวี้พูดจบ เขาก็สะบัดชายเสื้อเดินไปจากศาลา
Locked Chapter
Continue to read this book on the APP

Related chapters

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 230 หาเรื่องกล่าวหา

    ไทเฮาจ้อมมองนางปานจะกินเลือดกินเนื้อ“เรื่องหลวงจีนเพิ่งจะจบไป เจ้าก็คิดจะหานักพรตมาอีก เจ้าคิดว่าเย่จิ่งอวี้จะเห็นด้วยหรือไม่ ทำไมพูดจาไม่ใช้สมองนะ”ลู่จิ้งเสียนกัดริมฝีปากพูดว่า “เช่นนั้นควรทำอย่างไรดี จะมองดูนางเที่ยวใช้อำนาจบาตรใหญ่โดยไม่ทำอะไรงั้นหรือเพคะ”“ย่อมไม่เป็นเช่นนั้นแน่”ไทเฮาเหลือบมองออกไปนอกหน้าต่างอย่างรวดเร็วแล้วพูดว่า “ข้าได้ยินว่าฮ่องเต้ต้องการตรวจสอบเรื่องของของตระกูลอินอีกครั้ง หากอินจ้งกลับราชสำนักไม่ได้ นางก็จะไม่มีที่พึ่ง ที่ฮ่องเต้โปรดปรานก็มีเพียงภาพลวงตาเท่านั้น ไม่สามารถคงอยู่ได้ตลอดไป พวกเราต้องหาคนอื่นในวังมาแบ่งปันความโปรดปรานกับนาง”เมื่อได้ยินเช่นนี้ ลู่จิ้งเสียนก็ไม่พอใจอีกครั้ง“ถ้าข้าหาคนอื่นมาเอาใจฝ่าบาท แล้วเขาจะยังสนใจหม่อมฉันหรือ”ไทเฮาพูดอย่างไม่ได้ดั่งใจว่า “ถ้าไม่หาคน แล้วเขาจะสนใจเจ้ารึ ทั้งหมดนี้ก็เป็นเพราะเจ้าไม่ใช่หรือ ข้าให้เจ้าไปมาหาสู่กับองค์หญิงบ่อยๆ เจ้าได้ทำตามที่ข้าบอกหรือไม่”ลู่จิ้งเสียนหุบปากทันทีนางดูถูกเย่ไห่ถัง เมื่อฮ่องเต้องค์ก่อนยังมีชีวิตอยู่ มารดาของเย่ไห่ถังก็ไม่ได้รับความโปรดปราน แม้ว่าเย่จิ่งอวี้จะดีกับนาง แ

    Last Updated : 2024-01-23
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 231 ตบปากนาง

    “เกิดเรื่องอะไรขึ้นงั้นหรือ?”อินชิงเสวียนเลิกตากลมโตเสี่ยวอานจื่อพูดขึ้น “ดูเหมือนว่าไทเฮากำลังหาเรื่องพระสนมสวี นางและหานปิงหน้าบวมแดงเหมือนโดนตบเลยล่ะ บอกว่าเป็นเพราะพระสนมสวีค้างที่ตำหนักจินหวูเมื่อคืนวาน”“แค่เพราะว่านอนค้างก็ถูกตบหรือ บนโลกนี้มีเหตุผลแบบนี้ที่ไหนกัน แม่มดแก่นี่ตั้งใจพุ่งเป้ามาที่ข้าชัดๆ เลย”อินชิงเสวียนโมโหจนลุกขึ้นยืน“เจ้าไปเรียกยายหลี่เข้ามา ให้นางดูแลเสี่ยวหนานเฟิง พวกเราไปดูที่หอสุ่ยอวิ้นกันหน่อย”“ได้เลย”เสี่ยวอานจื่อเรียกยายหลี่เข้ามา และไปยังหอสุ่ยอวิ้นด้วยกันกับอินชิงเสวียนก่อนออกไปนั้น อินชิงเสวียนสั่งให้เสี่ยวอานจื่อถือถังน้ำแข็งไปอีกด้วยในหอสุ่ยอวิ้น ขันทีน้อยสองคนกำลังนั่งตากลมอยู่ในลานบ้าน ข้าหลวงหญิงยืนอยู่ข้างๆ พร้อมมือที่ถือไม้กวาดและพูดคุยกับพวกเขา ไร้ซึ่งท่าทางของคนรับใช้ในวังเมื่อเห็นอินชิงเสวียน พวกเขาต่างตกใจเล็กน้อย รีบวิ่งมาแล้วบอกว่า “หม่อมฉันทั้งหลายขอถวายบังคมพระนางเหยาเฟย”อินชิงเสวียนขมวดคิ้ว มีสิ่งที่อยากพูดในใจ แต่ไม่รู้ว่าเป็นคำสั่งของสวีจือย่วนหรือไม่ จึงกลืนคำพูดลงคอไป“พระสนมของพวกเจ้าเล่า?”ข้าหล

    Last Updated : 2024-01-23
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 232 ท่านอ๋องผู้ทรงสุขเกษม

    เรื่องที่อินชิงเสวียนจับสัตว์ประหลาดและขอฝน ทำให้ผู้คนในวังหวาดกลัวนาง แม้ว่าชุ่ยจู๋จะมีความหยาบคาย แต่ตอนนี้เมื่อเห็นอินชิงเสวียนคิ้วคว่ำ ใจของนางอดที่จะสั่นไหวไม่ได้ และไม่กล้าพูดอะไรลู่จิ้งเสียนถูกตบจนผมยุ่งเหยิง แต่ปากยังคงตะโกนพูดจาไม่ปรานีคน “นังคนชั้นต่ำ กล้ามาตบตีข้า เสด็จป้าหญิงของข้าเป็นถึงไทเฮา หากรู้ว่าเจ้ากระทำกับข้าเช่นนี้ จะต้องไม่ไว้ชีวิตเจ้าแน่”เสี่ยวอานจื่อโมโหขึ้นมาทันที ยกมือขึ้นและตบบ้องหูลู่จิ้งเสียนอยู่หลายที“ท่านกล้ามาด่าเหนียงเหนียงของเรา หาเรื่องโดนตบ”“โอ๊ย! ช่วยข้าด้วย!”ลู่จิ้งเสียนถูกตบจนเกลือกกลิ้งไปทั่วเตียง เมื่อถูกข่มขู่ด้วยท่าทีดุดันของพระนางเหยาเฟย คนในวังไม่กล้าขยับและไม่กล้าเงยหน้าอินชิงเสวียนพูดขึ้นด้วยสายตาเย็นชา “ครั้งนี้เจ้านึกจะตะโกนให้ช่วยชีวิตงั้นหรือ ตอนที่ทุบตีผู้อื่น ทำไมไม่คิดว่าตัวเองจะเจ็บบ้างเล่า”ลู่จิ้งเสียนเริ่มด่าในทันที“ชั้นต่ำ เจ้าก็แค่คนชั้นต่ำ”“ยังกล้าต่อปากอีก”อินชิงเสวียนอดไม่ได้ที่จะเดือดดาล นางรีบเร่งฝีเท้ารุดเข้าไป คว้าหม้อเครื่องลายครามบนโต๊ะแล้วทุบลงบนหัวของลู่จิ้งเสียน“วันนี้ข้าจะจัดระเบีย

    Last Updated : 2024-01-23
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 233 หมดซึ่งความสนใจ

    เย่จิ่งอวี้เดินลงมาจากรถม้าพระที่นั่งมังกร พลางพูดขึ้นเสียงเรียบ “ลุกขึ้นเถอะ”“ขอบพระทัยฝ่าบาท”ซูฉ่ายเวยยืดตัวตรงและพูดขึ้น “เมื่อวานกระหม่อมคิดจะมาเยี่ยมพระนางเหยาเฟย แต่ฝนตกอยู่ตลอด วันนี้เมื่อฝนหยุด กระหม่อมจึงรีบเข้ามาเยี่ยมเยียบเพคะ”เย่จิ่งอวี้กวาดตาเหลือบมองนางด้วยแววตานิ่งๆ“พระสนมมีน้ำใจมาก ตามข้าเข้ามาสิ”“เพคะ”ซูฉ่ายเวยเดินตามฝีเท้าของเย่จิ่งอวี้ด้วยความยินดีปรีดา เมื่อเห็นเงาของคนสองคนซ้อนทับกัน ในใจฉันก็เกิดความยินดีอีกครั้งตัวเองควรจะมาเดินที่นี่ให้มากขึ้น ตราบใดที่ได้เห็นฝ่าบาท มักจะมีโอกาสเสมออินชิงเสวียนกำลังหยอกล้อกับเสี่ยวหนานเฟิงอยู่ นับตั้งแต่ผ่านไปร้อยวัน เสี่ยวหนานเฟิงก็ไม่ยอมนอนกลางวันอีกเลย ต่อให้นอนหลับ แต่เพียงครู่เดียวก็ตื่นขึ้นมา อีกทั้งยังติดอินชิงเสวียนมากเป็นพิเศษ เพียงแค่เห็นหน้านางก็จะไม่ยอมให้ผู้ใดอุ้มเลยลูกมีความใกล้ชิดกับตัวเองเช่นนี้ อินชิงเสวียนจึงดีใจมากตามความหมายที่แท้จริง นางไม่ใช่มารดาผู้ให้กำเนิดของเสี่ยวหนานเฟิง ต่เด็กคนนี้เกิดจากร่างกายปัจจุบันของนาง แม้ไม่มีความผูกพันในการตั้งครรภ์ตลอดสิบเดือน แต่มีความรู้สึกผูก

    Last Updated : 2024-01-23
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 234 คืนนี้ข้าจะพักอยู่ที่นี่

    สวีจือย่วนรีบบีบนิ้วของนางอย่างรวดเร็ว โค้งคำนับและพูดว่า “ไม่เป็นไรเพคะ อีกสักครู่ก็จะหายดี กระหม่อมขอถวายบังคมฝ่าบาท ขอถวายบังคมพระสนมเหนียงเหนียง”หานปิงได้นำผ้าสีขาวผืนหนึ่งมาแล้ว“พระสนม พันแผลไว้ดีกว่าเจ้าค่ะ”ซูฉ่ายเวยยิ้มและพูดว่า “รีบหน่อยเถอะน้องสาว อย่าให้ฝ่าบาทต้องเป็นกังวลเลย”สวีจือย่วนจึงยื่นนิ้วออกมา ให้หานปิงพันนิ้วให้เย่จิ่งอวี้เหลือบมองใบหน้าของนาง ยังคงบวมแดงเล็กน้อยการทุบตีนางสนมเพราะความผิดที่ไม่มีมูลเช่นนี้ ไทเฮาช่างน่าขยะแขยงจริงๆเขาขมวดคิ้ว และพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “เหยาเฟยได้บอกข้าแล้ว ทำให้เจ้าต้องได้รับความไม่เป็นธรรม”สวีจือย่วนก้มลงอย่างสง่างามและกล่าวด้วยความเคารพ “ฝ่าบาททรงเป็นห่วง กระหม่อมรู้สึกไม่สบายใจมาก ขอฝ่าบาทอย่าได้ตำหนิพระนางเหยาเฟย นางทำเพื่อกระหม่อมเพคะ”ซูฉ่ายเวยพูดต่อว่า “เจ้าวางใจเสียเถอะ ฝ่าบาทจะตำหนิน้องเหยาเฟยได้อย่างไร”เมื่อนึกถึงท่าทางของอินชิงเสวียนที่เต็มไปด้วยความแค้นเคืองต่อความไม่เป็นธรรม เย่จิ่งอวี้ยกมุมปากขึ้น และทันใดนั้นเสียงของเขาก็อ่อนโยนลงมาก“นางไม่ได้มีความผิดอะไร ข้าไม่ตำหนินางแน่นอน”สวีจือย

    Last Updated : 2024-01-24
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 235 อนาคตยังอีกยาวไกล

    เมื่อเห็นใบหน้าหล่อเหลาที่อยู่ห่างเพียงคืบเดียว อินชิงเสวียนกระโดดโหยงในทันทีครูดถอยหลังหลายก้าวและพูดว่า “กระหม่อมมีระดู ไม่อาจปรนนิบัติฝ่าบาทได้เพคะ เชิญฝ่าบาทหาคนอื่นเถอะเพคะ”นางไม่เคยแม้แต่จะมีความรักกับใคร จู่ๆ จะให้ขึ้นหอลงเรือนร่วมเตียง ไม่มีทางทนไหวแน่เย่จิ่งอวี้ดึงมือของนางไว้ ยิ้มและพูดว่า “ไม่เป็นไร ข้าก็ไม่ได้คิดจะทำสิ่งใด ได้พูดคุยกับเจ้าก็พอแล้ว”อินชิงเสวียนชักมือกลับมา“เช่นนั้นก็คุยที่นี่เลยเพคะ”เย่จิ่งอวี้พูดขึ้นอย่างทำอะไรไม่ได้ “ตอนนี้ก็ถึงเวลาดึกมากแล้ว เจ้ายังคิดจะยืนคุยกับข้าตรงนี้หรือ พรุ่งนี้ข้ายังมีทำราชกิจเช้าอีกนะ”พูดจบก็เดินมาข้างเตียง และต่างคนต่างถอดรองเท้าอินชิงเสวียนรีบร้อนขึ้นมาทันที“นี่ ท่านคงไม่คิดจะพักที่นี่จริงๆ นะเพคะ?”ใครจะเชื่อคำพูดบ้าๆ ของผู้ชายได้เย่จิ่งอวี้ถอดหยกคาดเอวออก และคลายเสื้อคลุมด้านนอกลงทันที กล้ามเนื้อหน้าท้องที่ผลุบๆ โผล่ๆ และกระดูกไหปลาร้าอันประณีตงดงามผ่านเข้าม่านตาของอินชิงเสวียนทันทีอินชิงเสวียนรีบเบี่ยงเบนสายตาไปอีกด้าน แม้จะเคยเห็นร่างเปลือยของเย่จิ่งอวี้ แต่ความรู้สึกตอนนี้ที่ถือพิณปิดบังใบ

    Last Updated : 2024-01-24
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 236 ท่านพ่อ เขาไม่ใช่คนบ้ากาม

    อินชิงเสวียนนอนหลับค่อนข้างเบา นับตั้งแต่ตอนที่เย่จิ่งอวี้ผลักขาของนาง นางก็ตื่นขึ้นแล้วเพื่อหลีกเลี่ยงความอึดอัดใจโดยไม่จำเป็น นางจึงแกล้งหลับต่อไปจนกระทั่งฝีเท้าของเย่จิ่งอวี้เดินจากไปไกล นางจึงค่อยๆ ถอนหายใจช้าๆนางรู้อยู่นานแล้วว่าท่านอนของตัวเองดูไม่ดีมากนัก ตอนเรียนมหาวิทยาลัยยังเคยตกจากที่นอน เมื่อคืนนี้นางพยายามอย่างดีที่สุดที่จะเตือนตัวเองว่าผู้ที่นอนข้างกายคือฝ่าบาท แต่ร่างกายกลับไม่รู้ตัวแต่ก็ดี เย่จิ่งอวี้ถูกขี่ครั้งเดียวน่าจะไม่มาอีกแล้วอินชิงเสวียนพลิกตัวเพื่อเตรียมนอนหลับต่อ เมื่อคิดได้ว่าวันนี้จะได้ออกจากวัง จู่ๆ หัวใจก็รู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อย และความง่วงนอนก็หายไปในทันทีนางหยิบโทรศัพท์สับปะรดเครื่องใหญ่ของตัวเองออกมาจากใต้หมอน เมื่อเปิดหน้าจอก็พบรูปหน้าจอของครอบครัวสามคนหากไม่ใช่ยุคโบราณ อินชิงเสวียนแทบคิดว่าเป็นรูปถ่ายในละครมันมีกลิ่นอายโบราณมากเกินไปจริงๆ และใบหน้าของเย่จิ่งอวี้ที่หล่อเหลาสามร้อยหกองศาไม่มีมุมดับ แต่งกายด้วยชุดลำลอง สีหน้าของเขาไม่เย็นชาและเคร่งขรึมมากนัก ราวกับเทพบุตรผู้ทรงสง่าเมื่อเห็นแววตาที่ประหลาดใจของเขา อินชิงเสวียนอดไ

    Last Updated : 2024-01-24
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 237 เจ้าอยากทำธุรกิจนี้จริงหรือ

    “หา? คิดราคาเท่าใดกัน?” อินชิงเสวียนถาม“ต่ำกว่าราคาตลาดเล็กน้อย แต่โชคดีที่มีปริมาณมาก ข้าจึงขายทั้งหมด”หลิวเหล่าไท่ไท่ครุ่นคิด และพูดขึ้นว่า “อีกฝ่ายบอกอีกว่าอยากได้เมล็ดพันธุ์ หากว่ามีเมล็ดพันธุ์ พวกเขาจะให้ราคาเป็นสองเท่า”“ราคาสองเท่างั้นหรือ?”อินชิงเสวียนอดใจเต้นไม่ได้“คนแบบใดกันที่มาซื้อไป?”หลิวเหล่าไท่ไท่ครุ่นคิดและพูดว่า “เป็นแม่นางคนหนึ่ง ท่าทางสะสวยทีเดียว”แม่นาง?ในระหว่างที่อินชิงเสวียนครุ่นคิด หลิวเหล่าไท่ไท่ก็พูดขึ้นว่า “ไม่เพียงแต่ร้านของพวกเรา แต่ทุกร้านที่มีข้าวและเส้นหมี่ต่างถูกพวกเขาซื้อไปหมด ทว่าร้านค้าแบบนี้ไม่ได้มีมาก ในเมืองหลวงมีเพียงสองสามร้านเท่านั้น”ตอนนี้ข้าวและเส้นหมี่ยังไม่ค่อยกระจายมากนัก จึงมีไม่เยอะจริงๆอินชิงเสวียนจับคางและพยักหน้าเบาๆ“ข้ารู้แล้ว อีกครู่ข้าจะให้คนทิ้งแป้งหมี่ขาวไว้ให้จำนวนหนึ่ง หากพวกเขามาอีก ก็บอกว่าเรามีเมล็ดพันธุ์ แต่ให้พวกเขาทิ้งที่อยู่ไว้ ข้าจะหาเวลามาเจรจากับพวกเขาเอง”หลิวเหล่าไท่ไท่พยักหน้าติดต่อกันและพูดว่า “ได้ ข้าจดไว้แล้ว”นางเดินไปที่ด้านหลังข้างๆ ถุงข้าวใบหนึ่ง แล้วหยิบตั๋วเงินออกมาจำนวน

    Last Updated : 2024-01-24

Latest chapter

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1509 เข้าสู่เมือง

    ทหารที่อยู่ข้างหน้าเริ่มเข้ามาใกล้มากขึ้นเรื่อยๆ ครั้นแล้วก็มองเห็นชุดเกราะสีแดงรางๆเฉิงเฟิ่งโหลวสะดุ้งเล็กน้อย นี่...อาจเป็นทหารเปลวเพลิงสีชาดของราชาสงครามอาภรณ์ขาวกระมัง?ถ้ามารับเสด็จฮ่องเต้ เหตุใดจึงสวมชุดเกราะ ถืออาวุธหนัก?หรือว่าว่ามีการเปลี่ยนแปลงในเมืองหลวง อ๋องสิบสาม...ก่อกบฏ?มือที่กุมกระบี่ของเฉิงเฟิ่งโหลวสั่นเทา เขาดึงสายบังเหียนออกทันที แม้ว่าเจ้านายกับนายหญิงจะมีทักษะวรยุทธ์สูง แต่มือเดียวสู้มือหลายไม่ได้ ใบหน้าที่อ่อนเยาว์ของเขาดูสิ้นหวัง “ฝ่าบาท เสด็จขึ้นรถม้าเร็วเข้า”เย่จิ่งอวี้หัวเราะเบาๆ แม้ว่าทั่วทั้งโลกจะทรยศเขา แต่เสด็จอาจะไม่มีวันทรยศเขา นี่คือความมั่นใจของเขา การสวมชุดเกราะ ถืออาวุธหนัก ถือเป็นมารยาทสูงสุดของค่ายเปลวเพลิงสีชาดในชั่วพริบตา ทหารม้าขบวนนั้นก็มาถึงเบื้องหน้า พวกเขาควบม้าและเคลื่อนไหวอย่างพร้อมเพรียงกัน จากนั้นแยกออกจากกันเป็นสองทาง เผยให้เห็นร่างที่สวมชุดคลุมสีขาวชายผู้นั้นมีใบหน้าที่หล่อเหลา ท่วงท่าไม่ธรรมดาสามัญ แต่งกายด้วยชุดสีขาวสะอาดราวกับหิมะ และเสื้อผ้าพลิ้วไหวดุจดั่งเทพเซียนเขาพลิกตัวลงจากม้า เดินเร็วๆ ไปที่รถม้า สะบัดเสื้อคล

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1508 กลับสู่เมืองหลวง

    ครึ่งเดือนต่อมา ในที่สุดรถม้าก็มาถึงเมืองหลวงอินชิงเสวียนไม่สามารถทนต่อการโคลงเคลงสั่นสะเทือนได้ นางจึงอยู่ในมิติกับเสี่ยวหนานเฟิงเกือบตลอดเวลาในช่วงเวลาที่อยู่ร่วมกันนี้ นางพบว่าเสี่ยวหนานเฟิงไม่เพียงแต่ฉลาดเท่านั้น แต่ยังเป็นต้นกล้าที่ยอดเยี่ยมในการฝึกฝนวรยุทธ์อีกด้วยอายุยังน้อยไม่เพียงแต่เรียนรู้บทกวีในสมัยถังและซ่ง ยังมีกำลังภายในลึกล้ำน่าประหลาดใจ มือซ้ายสามารถใช้เคล็ดวิชาใจเพียวเหมี่ยวได้ มือขวาใช้เคล็ดวิชาใจตำหนักเทพได้ แม้กระทั่งเรียนรู้วิชาขลุ่ยลวงใจของเจ้าสำนักเซี่ยว อินชิงเสวียนนึกไม่ถึงจริงๆ ว่าช่วงที่นางไม่ได้อยู่กับเสี่ยวหนานเฟิงนั้น เขาได้เรียนรู้วิชามาจากทุกคนรอบตัวเขา“แค่กๆ เจ้า...ชอบฝึกวรยุทธ์หรือเปล่า?”จากมุมมองที่เห็นแก่ตัว อินชิงเสวียนไม่ต้องการให้เสี่ยวหนานเฟิงมีฝีมมือสูงส่งเกินไป ท้ายที่สุดแล้ว ยิ่งมีความสามารถสูง ความรับผิดชอบก็ยิ่งสูงตาม ศาสตร์แห่งราชาต่างหาก คือสิ่งที่เขาควรต้องศึกษาเสี่ยวหนานเฟิงกะพริบตาโตแล้วพูดว่า “ชอบสิ รู้วรยุทธ์ ก็สามารถปกป้องท่านแม่ได้”อินชิงเสวียนกอดลูกชายตัวนุ่มนิ่มและมีกลิ่นหอม แล้วพูดอย่างจริงจัง “ต่อจากนี้ไปสิ่งที่เจ้

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1507 ขอบคุณศิษย์พี่ลิ่น

    ระหว่างเจ้าสำนักเซี่ยวและเจ้าสำนักเฮ่อมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันมาก ทว่าระหว่างเซี่ยวอิ่นหวนและลิ่นเซียวนั้นอยู่ในระดับปานกลาง จนแทบจะไม่มีปฏิสัมพันธ์กันเลยบัดนี้เห็นเขาขวางทาง ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เนื่องจากการตายของศิษย์น้องเฟิ่งอี๋ ทำให้กลายเป็นคนสติเลอะเลือน กระทำการสิ่งใดล้วนไม่ผ่านการใช้ความคิด เป็นเรื่องยากสำหรับคนทั่วไปที่จะเข้าใจทันทีว่าเขามีเจตนาอะไรลิ่นเซียวรู้จักนาง พยักหน้าเบาๆ“เฟิ่งอี๋ตายแล้ว ข้ารู้แล้ว”เซี่ยวอิ่นหวนรู้สึกเจ็บปวดในใจ แต่เดิมก็เจ็บปวดจากการพลัดพรากอยู่แล้ว เมื่อได้ยินเขาพูดถึงศิษย์น้องที่รักดุจน้องสาว หางตาก็เปลี่ยนเป็นสีแดงทันทีริมฝีปากของนางสั่นเทา ลดเสียงลง กดซ่อนความเศร้าไว้ในใจ“ศิษย์พี่ลิ่นควรจะออกมาสู่ความจริงได้แล้ว ถ้าศิษย์น้องอยู่บนสวรรค์มีญาณรับรู้ คงไม่อยากเห็นท่านจมปลักอยู่ที่นี่เพราะนางแน่นอน...”ลิ่นเซียวไม่ต่อคำ แต่พูดต่อว่า “ตาเฒ่าเซี่ยวก็จากไปแล้วเช่นกัน”หัวใจของเซี่ยวอิ่นหวนเจ็บปวดรวดร้าวอีกครั้ง ก้มหน้าสะอื้น“พ่อบุญธรรมเสียชีวิตเพื่อผดุงความยุติธรรมในยุทธจักร ไม่ผิดต่อปณิธานที่ก่อตั้งหอแห่งเสียงศักดิ์สิทธิ์”ลิ่นเซียวย

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1506 เส้นทางที่แตกต่างกัน

    อินชิงเสวียนมอบตั๋วเงินเงินอีกหนึ่งพันตำลึงให้แก่ทั้งสามคน กำชับพวกเขาว่าอย่าใช้ฟุ่มเฟือย หากไม่เจอตัวคน ก็สามารถไปพำนักที่เมืองหลวงได้ทั้งสามพยักหน้าซ้ำๆ ขนของทั้งหมดขึ้นรถม้า และจากไปอย่างมีความสุขอินชิงเสวียนส่ายหัวอย่างช่วยไม่ได้“นิสัยแบบนี้นี่เข้ากับเย่จิ่งหลานได้เป็นอย่างดี”เย่จิ่งอวี้ก็มองไปที่ทั้งสามคน พูดด้วยรอยยิ้ม “ชาวยุทธ์ ก็ควรจะเป็นอิสระไม่ยึดติดอย่างชาวยุทธ์ นี่แหละคือความเป็นตัวของตัวเองที่แท้จริง!”“เช่นนั้นพวกเราก็ควรจากไปอย่างไม่ยึดติดใช่ไหม”อินชิงเสวียนเงยหน้าขึ้น มองไปยังเย่จิ่งอวี้ ทั้งสองตกลงกันไว้ก่อนแล้ว ว่าแทนที่จะรอให้พวกเขาสร่างเมา พลัดพรากจากกันด้วยความเป็นความตาย มิสู้จากไปอย่างเงียบๆ “ข้าเชื่อเมียข้าอยู่แล้ว”เย่จิ่งอวี้ผิวปาก เงาสีขาวสองเงาพุ่งออกมาจากระยะไกล ตามมาด้วยรถม้าอินชิงเสวียนตะโกนอย่างมีความสุข“ไป๋เสวี่ย เสี่ยวไป๋!”ไป๋เสวี่ยกางอุ้งเท้าใหญ่ แล้วกอดเอวของอินชิงเสวียนอย่างเสน่หาเสี่ยวไป๋ก็กลิ้งหน้าถูขาของอินชิงเสวียน ซึ่งเป็นการแสดงความใกล้ชิดกับคนที่หาได้ยากอินชิงเสวียนลูบหัวอันใหญ่โตของไป๋เสวี่ย จากนั้นลูบหัวของเสี่ยวไป๋

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1505 ความรู้สึกที่ไม่สามารถเอ่ยออกมาได้

    เฮ่อซือจวินออกแรงดึงอินชิงเสวียนขึ้นมา แล้วกอดนางไว้ พูดเสียงสะอื้น “เจ้ายอมรับข้า ข้ารู้สึกขอบคุณยิ่งนัก ชั่วชีวิตนี้จะพยายามดูแลสุขภาพของท่านพ่อและน้าเหมยอย่างเต็มที่”อินชิงเสวียนโน้มตัวไปใกล้ใบหน้าของนาง แล้วพูดเสียงอ่อนหวาน “ท่านเป็นพี่สาวต่างแม่ของข้า จะแตกต่างจากพี่สาวแท้ๆ ได้อย่างไร หากท่านอยู่ในอิ๋นเฉิงแล้วรู้สึกเหนื่อยล้า ก็ไปหาข้าที่เมืองหลวงได้ ข้าจะพาท่านท่องเที่ยวให้สำราญใจแน่นอน”เฮ่อซือจวินพยักหน้าโดยเร็ว“ได้ ถ้ามีโอกาส ข้าจะไปหาเจ้าแน่นอน”“สนใจแต่พี่สาวของเจ้าเท่านั้น ไม่ต้องการพี่ชายแล้วหรือ”เฮ่อฉางเฟิงเดินเข้ามาจากประตู สวมเสื้อคลุมใบไผ่สีเขียวที่ขับเน้นให้เขาดูหล่อเหลา สง่า และเป็นวีรบุรุษไม่ธรรมดา“ชิงเสวียนคำนับพี่ใหญ่”อินชิงเสวียนโค้งคำนับ เฮ่อฉางเฟิงก็รีบเอื้อมมือไปช่วยพยุงให้ลุกขึ้น“เจ้ากับข้าเป็นพี่น้อง ไม่ต้องมากพิธี ตั้งใจจะออกเดินทางเมื่อไหร่หรือ”อินชิงเสวียนถอนหายใจ“พรุ่งนี้น่ะ ไม่ว่าเราจะอยู่กี่วันก็ต้องไปอยู่ดี ฮ่องเต้จากเมืองหลวงมานานเกินไปแล้ว ในใจพะวงถึงอยู่ตลอด ถึงเวลาต้องกลับไปดูแลแล้ว”เฮ่อฉางเฟิงก็ตัดใจจากน้องสาวไม่ได้ และยังไม่อ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1504 เศร้าโศกเพราะการจากลา

    ในวันที่สอง สำนักในยุทธ์จักรที่นำโดยเฮ่ออวิ๋นทง ต่างกล่าวคำอำลากับเฮ่อยวนเฮ่อยวนนำลูกศิษย์อิ๋นเฉิงส่งกันไปไกลถึงสิบสิบลี้ ในอิ๋นเฉิง เซี่ยวอิ่นหวนจับมือของอินชิงเสวียน“กลับภูเขาคราวนี้ เกรงว่าจะต้องจัดระเบียบยกใหญ่ ไม่รู้จะได้เจอพวกเจ้าอีกเมื่อไร พวกเจ้าต้องดูแลตัวเองให้ดี ปรึกษาหารือกันทุกเรื่อง หากเผชิญหน้ากับเรื่องใด ต้องพูดมันออกไป อย่าเก็บมันไว้ในใจตัวเอง จะได้ไม่เกิดความขุ่นเคืองสะสมมากขึ้นเรื่อยๆ”นางถอนหายใจแล้วพูดว่า “แม้ว่าแม่จะเคยเป็นกุ้ยเฟย แต่ไม่รู้หลักการปกครองบ้านเมือง ความรุ่งเรืองและความเสื่อมของต้าโจวล้วนขึ้นอยู่กับพวกเจ้าแล้ว ด้วยความสามารถและการเรียนรู้ของเจ้าทั้งสอง เชื่อว่าในอีกไม่กี่ปี ก็จะสามารถนำความรุ่งเรืองมาสู่ต้าโจวได้ ถ้าแม่มีเวลาว่าง จะไปหาพวกเจ้ากับจ้าวเอ๋อร์ที่เมืองหลวงย่างแน่นอน”อินชิงเสวียนจับมือเย่จิ่งอวี้ แล้วพูดอ่อนโยน “ท่านแม่วางใจ ข้ากับอาอวี้จะรักษาตัวให้ดีอย่างแน่นอน”อีกด้านหนึ่ง เสี่ยวหนานเฟิงดึงชายเสื้อของเซี่ยวอิ่นหวนอย่างไม่เต็มใจ“ท่านย่าจะไปแล้วหรือ”เซี่ยวอิ่นหวนกอดเสี่ยวหนานเฟิง จูบใบหน้ากลมจ้ำม่ำของเขา แล้วพูดด้วยความรัก “ใช

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1503 เรื่องราวจบลง

    ลั่วสุ่ยชิงพูดอย่างเย็นชา “แม้แต่เป็นฮ่องเต้ข้ายังไม่สนใจด้วยซ้ำ จะสนใจพระชายาอ๋องได้อย่างไร”“พูดมาก็มีเหตุผล งั้นข้ายังมีที่อื่นที่อยากไป”เย่จิ่งหลานค่อยๆ หยัดกายขึ้นนั่ง หยิบแผนที่ออกมาจากอกเสื้อ“ตอนที่ข้ากำลังเดินทางไปตงหลิว พบว่ามีหลายแคว้นอยู่ใกล้เคียง ทำไมเจ้ากับข้าไม่พยายามพิชิตพวกเขาทั้งหมดล่ะ”ลั่วสุ่ยชิงสาดน้ำเย็นใส่เขาทันที“ตอนนี้เจ้ายังมีความสามารถนั้นอยู่รึ?”“หากเจ้าเต็มใจที่จะบ่มเพาะร่างกายและจิตวิญญาณกับข้า บางทีวรยุทธ์ของข้าอาจจะกลับคืน”ลั่วสุ่ยชิงถูกเขาทำให้โกรธจนกำลังภายในพุ่งสูงขึ้น กระทั่งจุดที่ถูกจี้สกัดได้คลายออก นางตบศีรษะเย่จิ่งหลานทันที“ไร้ยางอาย”“เจ้าหายแล้ว?”เย่จิ่งหลานมีความสุขมาก เขาพยายามคุกเข่า ฝืนยืนขึ้น ร่างกายโงนเงน ล้มลงตรงหน้าลั่วสุ่ยชิง ฉวยโอกาสกอดเอวของนาง“จอมยุทธ์หญิงลั่ว ข้ายืนไม่ไหว โปรดช่วยพยุงข้าด้วย”ใบหน้าของลั่วสุ่ยชิงเปลี่ยนเป็นสีแดง ยกมือขึ้นผลักเขาลงไปที่พื้น เย่จิ่งหลานล้มหงายหลัง เหมือนกับเต่าที่นอนหงายลั่วสุ่ยชิงอดไม่ได้ที่จะหัวเราะงอหาย เมื่อนางหัวเราะมากพอแล้ว ก็ทรุดตัวนั่งลงบนพื้นอย่างเงียบๆ และบ่นว่า “เสด็จ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1502 หน้าด้านหน้าทน

    อินชิงเสวียนเหลือบมองเย่จิ่งหลานแวบหนึ่ง“แน่นอนว่ามีคนไม่อยากให้เจ้าไป”เมื่อเห็นเย่จิ่งหลานมองมาทางนี้ ลั่วสุ่ยชิงก็เริ่มวิตกกังวล“ปล่อยข้านะ!”อินชิงเสวียนกระตุกมุมปากยิ้มๆ“ถ้าอย่างนั้นก็ต้องถามก่อนว่าเขาเห็นด้วยหรือไม่”เย่จิ่งหลานลุกขึ้นยืนโดยมีพี่ชายช่วยพยุงขึ้นอินชิงเสวียนเดินเข้าไปถาม“เจ้าสบายดีไหม มิติของเจ้า พังจริงๆ หรือ”เย่จิ่งหลานพูดอย่างอ่อนแรง “ยังไงตอนนี้ก็ยังมีลมหายใจอยู่ ถ้ามันไม่พัง ชิงผิงกับชิงอานก็คงไม่ได้ออกมา”อินชิงเสวียนมองเขาด้วยความเห็นอกเห็นใจ“นี่เป็นเรื่องที่ร้ายแรง”เย่จิ่งหลานถามอย่างไร้ยางอาย “เฮ้ นี่เจ้าไม่คิดจะดูแลข้าแล้วรึ”อินชิงเสวียนกระตุกริมฝีปากยิ้มๆ“ก็มีคนรอดูแลเจ้าอยู่ไม่ใช่หรือ เจ้าไปเองสิ อาอวี้ เรากลับไปดื่มสุรากันต่อเถอะ”เย่จิ่งอวี้พยักหน้าและตบไหล่เย่จิ่งหลาน“พวกเราช่วยเจ้าได้แค่นี้”เมื่อเห็นว่าหมู่เมฆหายไป ชาวยุทธ์หลายคนก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก เฮ่อยวนแอบโคจรกำลังภายใน พูดเสียงดัง “ตอนนี้เมื่อวิกฤติคลี่คลายแล้ว เฮ่อยวนจึงจัดงานเลี้ยงอีกครั้ง จัดเลี้ยงส่งเพื่อคลายความกังวลให้แก่เพื่อนพ้องในยุทธภพ!”คราวนี้เป็นกา

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1501 สายล่อฟ้าปรากฏ

    ทันทีที่เขาพูดจบ ร่างในชุดสีดำก็เหาะมาจากระยะไกล ลอยอยู่บนอากาศคนผู้นี้รูปร่างโปร่ง ชุดผ้าโปร่งสีดำปลิวไปตามสายลม เรือนผมดำขลับสยายออก ในชั่วพริบตา ร่างนั้นก็ถูกปกคลุมไปด้วยหมอกหนาสีดำเมื่อเห็นคนผู้นี้ เย่จิ่งหลานก็พยายามลุกขึ้นยืน“ลั่วสุ่ยชิง เจ้าบ้าไปแล้วหรือ หนีไป!”ลั่วสุ่ยชิงยกมือขวาขึ้นสู่ท้องฟ้า เผชิญหน้ากับเสียงฟ้าคำรน พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “เย่จิ่งหลาน เจ้าฆ่าพ่อของข้า ถ้าเจ้าตายแบบนี้ จะไม่ดูถูกเจ้าเกินไปหรือ เจ้าควรจะอยู่ในโลกนี้ต่อไป ทนทุกข์ต่อความเจ็บปวดทีละน้อย!”เย่จิ่งหลานจะไม่รู้ได้อย่างไรว่าทุกคำที่นางพูดล้วนเป็นพูดด้วยอารมณ์โกรธ ถ้านางไม่มีใจต่อเขา นางจะกลับมาได้อย่างไรอย่างไรก็ตาม ร่างกายของเขาเหมือนกับเส้นบะหมี่ ที่ไม่สามารถยืนตรงได้ จึงไม่สามารถหยุดยั้งลั่วสุ่ยชิงได้เลยเมื่อมองดูร่างเพรียวบางที่ต่อสู้กับฟ้าผ่า พลันรู้สึกเจ็บปวดกระบอกตา หยาดน้ำตาสองหยดร่วงหล่นกลืนหายไปในสายลมในเวลานี้ มีร่างเพรียวอีกร่างหนึ่งลอยออกมา โดยถือวัตถุที่มีลักษณะคล้ายแท่งไม้ขนาดใหญ่อยู่ในมือ มีปลายโค้งยาวมากซึ่งดูแปลกตา“ลั่วสุ่ยชิง ข้าจะใช้สายล่อฟ้าช่วยเจ้า!”ของสิ่งนั้นห

DMCA.com Protection Status