อินชิงเสวียนจับมือของลั่วสุ่ยชิง และเห็นเส้นสีเขียวโผล่ออกมาจากกลางนิ้วของนางนางกวักมือเข้าไปหยิบขวดน้ำพุวิญญาณออกมาหนึ่งขวด แล้วมอบให้ลั่วสุ่ยชิง“สิ่งนี้อาจช่วยแก้ไขได้ เจ้าลองดู”ลั่วสุ่ยชิงไม่สงสัยเลย เปิดฝาออก แล้วดื่มรวดเดียวสักพักเส้นสีเขียวก็ค่อยๆ หายไปนางโคจรลมปราณอยู่ครู่หนึ่ง ประกบมือคำนับพลางพูดว่า “ขอบคุณมาก”อินชิงเสวียนกล่าวว่า “ไม่ต้องเกรงใจ เรารีบไปกันเถอะ”ลั่วสุ่ยชิงพยักหน้า จากนั้นก็ใช้วิชาตัวเบาติดตามอินชิงเสวียนตรงไปยังเพียวเหมี่ยวอิ๋นเฉิงในเวลาเดียวกัน ได้มีการต่อสู้เริ่มต้นขึ้นในอิ๋นเฉิงคนที่มาก็เหมือนกับพวกคลุ้มคลั่งที่เคยเจอในวันที่เปิดทางสู่วิถีแห่งสวรรค์ ดวงตาทั้งคู่เป็นสีแดงสด เจอใครก็ฆ่าคนนั้น พอสังเกตดูดีๆ ก็จะเห็นว่าคนเหล่านี้ล้วนเป็นศิษย์ที่เฝ้าสำนักของสำนักใหญ่ต่างๆเฮ่อยวนพูดด้วยน้ำเสียงทุ้ม “คิดว่านี่คงเป็นจุดประสงค์หลักของการโจมตีสำนักต่างๆ ของชิงฮุย”เฮ่ออวิ๋นทงหยุดคนหนึ่งด้วยมือเดียว“การต่อสู้ครั้งนี้ เกรงว่าสู้ยาก”เก่อหงยวนกวัดแกว่งกระบี่บังคับให้สองคนล่าถอยกลับ พลางตะโกนด้วยความโกรธ “สู้ยากจริงๆ พวกเราไม่สามารถฆ่าพวกเขาได้ แต
อินชิงเสวียนอดไม่ได้ที่จะมองไปยังลั่วสุ่ยชิง“เจ้าหมายความว่า เขาอยู่ในกลุ่มคนเหล่านี้งั้นหรือ”ลั่วสุ่ยชิงพยักหน้า“เป็นไปได้”อินชิงเสวียนถาม “แล้วจะตรวจสอบได้อย่างไร ใช้กำลังภายในของเจ้า สามารถตรวจจับได้หรือไม่”“ข้าสามารถลองดูได้ แต่เจ้าอย่าหวังมากเกินไป เมื่อพวกเขาทุกคนฟื้นแล้ว ให้เรียกรวมตัวพวกเขา!”เย่จิ่งอวี้พยักหน้า“ได้ แม่นางลั่วเดินทางมาไกล เชิญเดินตามศิษย์ไปยังที่พักก่อนเถิด”ลั่วสุ่ยชิงประกบมือคารวะและจากไปพร้อมกับศิษย์อิ๋นเฉิง หลังจากที่นางจากไปแล้ว เย่จิ่งอวี้ถามว่า “การเดินทางครั้งนี้เป็นอย่างไรบ้าง พบข้อมูลเกี่ยวกับจิ่งหลานหรือไม่”“ไม่มีเลย”อินชิงเสวียนถอนหายใจ และบอกเรื่องที่ตัวเองกับลั่วสุ่ยชิงพบชิงฮุยให้เย่จิ่งอวี้รับรู้เย่จิ่งอวี้ขมวดคิ้ว“ในเมื่อเสวียนเอ๋อร์รู้สึกว่าลั่วสุ่ยชิงรู้สึกสงสารชิงฮุย ทำไมถึงยังเชื่อคำพูดของนางด้วยล่ะ”อินชิงเสวียนยักไหล่“ตอนที่พบชิงฮุย ลั่วสุ่ยชิงไม่ได้แสดงกิริยาอาการอะไรมากนัก อาจเป็นเพราะข้าใช้ความคิดที่ต่ำช้ามาคาดเดาจิตใจของวิญญูชน นับจากวันที่ลั่วสุ่ยชิงเลือกที่จะช่วยเรา ก็ปล่อยวางได้หมดแล้ว”เย่จิ่งอวี้นั่งลงบน
ในยุคปัจจุบันเย่จิ่งหลานออกจากห้วงทะเลแห่งจิต เขายังคงนอนอยู่กลางถนนบนภูเขา เริ่มรู้สึกเย็นจับขั้วหัวใจอินชิงเสวียนกับเสี่ยวหลานหลานมองหน้ากัน แล้วถอนหายใจพร้อมกัน“ดูเหมือนมันจะไม่ได้ผลนะ”“อื้ม เขาคงกลับไปไม่ได้แล้ว”เสี่ยวหลานหลานลูบคาง สายตาเต็มไปด้วยความเสียใจ“ไม่งั้น คุณมาเป็นนักแสดงที่บ้านเราไหม ผมจะส่งผู้จัดการที่ยอดเยี่ยมที่สุดไปให้ รับรองว่าจะทำให้คุณเป็นซูเปอร์สตาร์ได้”เย่จิ่งหลานลุกขึ้นจากพื้นดิน“ถุย ผมเป็นหมอนะ ใช้วิชาความรู้หาเงิน ไม่พึ่งหน้าตา ตอนนี้ผมมีอย่างอื่นที่ต้องตรวจสอบ ถ้าพวกคุณเห็นผมเป็นเพื่อน งั้นก็ช่วยหาสถานที่เงียบสงบให้ผมพักได้ไหม พร้อมอาหารสามมื้อต่อวันด้วย”อินชิงเสวียนกับเสี่ยวหลานหลานมองหน้ากันอีกครั้ง จากนั้นก็พยักหน้าพร้อมกัน“เรื่องนี้ไม่ใช่ปัญหา”ครึ่งชั่วโมงต่อมา ทั้งสามคนก็มาถึงโรงแรมแห่งหนึ่งในตัวเมืองเสี่ยวหลานหลานโบกมือ แล้วพูดอย่างใจป้ำ “ผมเช่าห้องชุดไว้ให้คุณหนึ่งเดือน คุณอยู่ที่นี่ได้ตามสบาย อีกไม่กี่วันพี่ชิงเสวียนก็ต้องไปถ่ายละคร ถ้ามีเรื่องอะไรคุณสามารถติดต่อผมได้เลย ยังไงซะพวกเราก็เป็นคนเดียวกันในคนละช่วงวัย เรื่องของคุณ
“จะช่วยได้อย่างไร”เย่จิ่งหลานทรุดกายนั่งลงอยู่ข้างนางแก่นวิญญาณของลั่วสุ่ยชิงตัวสั่นเทาอีกครั้ง แล้วเขียนคำว่า “กลับ” บนฝ่ามือของเขา“จะกลับไปได้ยังไง”เย่จิ่งหลานต้องการกลับไปที่ต้าโจวมากกว่าใคร ทุกสิ่งที่นี่ทำให้เขารู้สึกแปลกๆ ราวกับว่าเขาเป็นแขกผู้มาเยือนจริงๆอย่างไรก็ตาม เขาไม่สามารถกลับไปได้!แก่วิญญาณของลั่วสุ่ยชิงไม่สามารถพูดได้ นางดูเหมือนจะประสบกับความเจ็บปวดอย่างมาก และเริ่มสลายไปอีกครั้ง“เกิดอะไรขึ้น ลั่วสุ่ยชิง มีอะไรเกิดขึ้นกับต้าโจวงั้นหรือ”เย่จิ่งหลานกังวลมาก แล้วโคจรลมปราณอีกครั้ง เพื่อช่วยให้แก่นวิญญาณของนางแข็งแกร่งขึ้นลั่วสุ่ยชิงอาจเป็นกุญแจสำคัญในการกลับมาของเขา!หลังจากนั้นไม่นาน ลั่วสุ่ยชิงก็สามารถเพ่งรวมวิญญาณได้ สามารถโคจรลมปราณได้เองเย่จิ่งหลานนั่งอย่างร้อนรนเหมือนใจจะไหม้เป็นจุณ แต่ดันไม่มีวิธีอื่น และไม่มีวิธีที่จะสื่อสารได้ด้วยหรือว่าแก่นวิญญาณจะไม่สามารถพูดได้?แล้วที่นางบอกว่า “ช่วย” มันหมายถึงอะไรเย่จิ่งหลานตะโกนเรียกอีกสองครั้ง ลั่วสุ่ยชิงก็ยังไม่ลืมตาอีกเย่จิ่งหลานทำอะไรไม่ได้ นอกจากนั่งรออยู่ข้างๆเพียงพริบตาก็ผ่านไปคืนหนึ่ง เ
ชิงผิงนิ่งอึ้งเล็กน้อย“ไม่เคยได้ยินเรื่องนี้มาก่อน”ชิงอานชำเลืองมองดูสาวสวยบนถนน พลางพูดว่า “พูดตามหลักเหตุผลแล้ว สิ่งนี้ไม่น่าจะเกิดขึ้นได้ แต่ว่า ทำไมเราถึงมาอยู่ที่นี่ได้”เย่จิ่งหลานกลอกตามองบน“เจ้าถามข้า แล้วข้าจะไปถามใคร”จู่ๆ ชิงอานก็รู้สึกตื่นเต้น“โลกนี้ช่างน่าอยู่จริงๆ บ้านเรือนต่างสร้างสูงเสียดฟ้า”ชิงผิงก็รู้สึกตื่นตาตื่นใจ ไม่รู้ว่าจะมองไปที่ไหน“คุณชายน้อยเย่ ช่วยให้เราได้ลองนั่งรถนั้นด้วยได้ไหม”เย่จิ่งหลานหยิบโทรศัพท์มือถือ แต่พบว่าตัวเองไม่มีเงินหลังจากลังเลซ้ำแล้วซ้ำเล่า เขาก็โทรหาเสี่ยวหลานหลานอย่างไม่อาย“โอนเงินให้ฉันได้ไหม”“ไม่มีปัญหา”หนึ่งนาทีต่อมา เงินจำนวน 250,000 บาทก็ถูกโอนเข้าบัญชีมา“หนึ่งวันมีงบแค่นี้ ถ้าไม่พอ พรุ่งนี้ผมจะโอนให้อีก”เย่จิ่งหลานดูอิจฉาตาร้อน“สมแล้วที่เป็นคุณชายน้อยแห่งตระกูลมหาเศรษฐี เจ๋งมาก!”“ยกย่องเกินไปแล้ว ผมยังต้องทำการบ้าน แค่นี้นะ”เสี่ยวหลานหลานตัดสายโทรศัพท์ โลกนี้ไม่ดีแค่ตรงนี้แหละ ไม่เพียงแต่ต้องทำการบ้านเท่านั้น แต่ยังต้องเรียนพิเศษด้วย ไม่อิสรเสรีเหมือนตอนที่เป็นท่านอ๋องเย่จิ่งหลานยกมือขึ้นเรียกแท็กซ
“แก่นวิญญาณถูกควบคุม?”เย่จิ่งหลานไม่เข้าใจอยู่พักหนึ่งชิงผิงพูดอย่างจริงจัง “ถูกต้อง หรือก็หมายความว่ามีแก่นวิญญาณอีกดวงหนึ่งอยู่ในห้วงทะเลแห่งจิตของแม่นางผู้นี้ ทั้งยังต้องการที่จะหลอมรวมแก่นวิญญาณของนาง และเข้าไปแทนที่โดยสมบูรณ์”ชิงอานกล่าวต่ออีกว่า “เหตุผลที่แก่นวิญญาณของนางอยู่ในห้วงทะเลแห่งจิตของเจ้า ข้าคิดว่ามีความเป็นไปได้สองประการ ประการแรก เจ้าเคยถูกควบคุมมาก่อน ที่นางทำเช่นนี้ก็เพื่อช่วยเจ้า ประการที่สอง ตัวนางคาดการณ์ไว้แต่แรกแล้วว่าตัวเองอาจถูกควบคุม และเศษเสี้ยวแก่นวิญญาณนี้จะเป็นตัวช่วยให้นางสามารถกลับมาควบคุมร่างกายของตัวเองได้อีกครั้ง”สีหน้าของเย่จิ่งหลานเปลี่ยนไปเล็กน้อย เขาสูญเสียความทรงจำส่วนใหญ่ไป งั้นคงเป็นอย่างที่ชิงอานพูดในประการแรก ไม่ว่าเหตุผลใดก็ตามที่ทำให้ลั่วสุ่ยชิงเก็บแก่นวิญญาณไว้ในห้วงทะเลแห่งจิตของเขา เขาก็ต้องพยายามปกป้องมันอย่างเต็มที่สถานการณ์ปัจจุบันยังแสดงให้เห็นว่า หุบเขาเชื่อมเมฆาอาจตกอยู่ในสถานการณ์ที่อันตรายอย่างยิ่งลั่วสุ่ยชิงมีวรยุทธ์ยอดเยี่ยม คนที่สามารถควบคุมนางได้นั้นมีน้อยมาก หนึ่งเดียวที่น่าจะเป็นไปได้ก็คือชิงฮุย คนผู้นี้ลึกล้
ผิวพรรณอุ่นนุ่มหอมกรุ่น ผมสลวยแขนเนียน ไก่อ่อนอย่างเย่จิ่งหลานจะเคยเจออะไรแบบนี้มาก่อนได้อย่างไร“เอ่อ...ลั่ว...”เขาเรียกออกมาด้วยสติที่ยังหลงเหลืออยู่ และในวินาทีถัดมา จากผู้ถูกกระทำก็กลายเป็นผู้กระทำ กดหญิงร่างบางอ่อนหวานคนนี้ไว้ใต้ร่าง ใช้ปลายลิ้นดุนฟันของนางให้เผยอออก จากนั้นก็รุกล้ำเข้าไปในปากลั่วสุ่ยชิงปล่อยให้เขาทำตามใจ ดวงตาทั้งคู่ปิดสนิท แพขนตายาวหนาสั่นพลิ้วตลอดเวลา สีหน้าบนใบหน้านั้นซับซ้อนมากจนยากจะอธิบายเป็นคำพูดได้กระโปรงสีดำค่อยๆ เลื่อนหล่น เรียวแขนหยกงดงามราวกับหิมะ เย่จิ่งหลานรู้สึกว่าผิวของนางบอบบางดุจแพรไหม กลัวที่จะสัมผัสแรงๆอย่างไรก็ตาม ความรู้สึกรักหยกถนอมบุปผาเกิดขึ้นเพียงชั่วครู่ เมื่อเกิดเหตุไม่คาดคิด ก็ควบคุมสถานการณ์ไม่ได้ ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าใด และในที่สุดทุกอย่างก็สงบลงเมื่อมองไปที่ลั่วสุ่ยชิงซึ่งนอนหมดสติอยู่บนพื้น มีรอยฟกช้ำทั่วร่างกาย เย่จิ่งหลานก็อดไม่ได้ที่จะตบหน้าตัวเอง นี่มันโหดร้ายเกินไปแล้วเขารีบอุ้มลั่วสุ่ยชิงไว้บนตัก แล้วสวมเสื้อคลุมให้นางห้วงทะเลแห่งจิตว่างเปล่า ไม่มีเตียงหรือสิ่งใด เย่จิ่งหลานไม่สามารถหาที่ที่เหมาะสมให้นางพักผ่
แก่นวิญญาณของลั่วสุ่ยชิงสั่นสะเทือนอีกครั้ง กลุ่มพายุสีดำก็หายไปทันที ดูเหมือนนางจะได้รับบาดเจ็บสาหัส มีเลือดออกที่มุมปากอีกแล้ว“ลั่วสุ่ยชิง เจ้าเป็นอะไรไป”เย่จิ่งหลานบีบไหล่ของนาง ผ้าไหมสีดำบนตัวของนางก็หลุดออกไป ไหล่ขาวเนียนราวหิมะก็ปรากฏต่อสายตาของเย่จิ่งหลานเย่จิ่งหลานรีบคลุมตัวนางไว้อย่างรวดเร็ว แต่ไม่นึกว่าดึงขึ้นสูงเกินไป ทำให้ผ้าถูกดึงขึ้นจนเห็นเรียวขางามเย่จิ่งหลานลนลาน ออกแรงดึงลง พรวด ตรงกลางลำตัวก็เปิดออกอีก ตอนนี้ไม่จำเป็นต้องปิดตรงไหนแล้ว มองเห็นได้ชัดเจนจริงแท้แน่นอนลั่วสุ่ยชิงดูหงุดหงิด แต่นางถูกค่ายกลสะท้อนกลับ จึงไม่สามารถออกแรงได้เลย จำต้องปล่อยให้เย่จิ่งหลานกอดเอาไว้“ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร ถือซะว่าข้าตาบอด ข้าไม่เห็นอะไรเลยจริงๆ ข้าจะช่วยรักษาอาการบาดเจ็บให้เจ้าเดี๋ยวนี้”เขาช่วยพยุงลั่วสุ่ยชิง วางมือบนหลังนาง เสื้อผ้าของนางขาดวิ่นไปหมด จึงไม่ได้คลุมส่วนไหนของนางอีก“เจ้าไม่ต้องกังวล ข้าเป็นสุภาพบุรุษ ไม่มีทางแอบดูเด็ดขาด”เย่จิ่งหลานหลับตาข้างหนึ่งลืมตาอีกข้างหนึ่ง ซึ่งไม่ถือว่าเป็นการโกหกทั้งหมดลั่วสุ่ยชิงเม้มริมฝีปากแน่น กัดฟันกรามกรอดนางเหลือเพีย
ลั่วสุ่ยชิงพูดอย่างเย็นชา “แม้แต่เป็นฮ่องเต้ข้ายังไม่สนใจด้วยซ้ำ จะสนใจพระชายาอ๋องได้อย่างไร”“พูดมาก็มีเหตุผล งั้นข้ายังมีที่อื่นที่อยากไป”เย่จิ่งหลานค่อยๆ หยัดกายขึ้นนั่ง หยิบแผนที่ออกมาจากอกเสื้อ“ตอนที่ข้ากำลังเดินทางไปตงหลิว พบว่ามีหลายแคว้นอยู่ใกล้เคียง ทำไมเจ้ากับข้าไม่พยายามพิชิตพวกเขาทั้งหมดล่ะ”ลั่วสุ่ยชิงสาดน้ำเย็นใส่เขาทันที“ตอนนี้เจ้ายังมีความสามารถนั้นอยู่รึ?”“หากเจ้าเต็มใจที่จะบ่มเพาะร่างกายและจิตวิญญาณกับข้า บางทีวรยุทธ์ของข้าอาจจะกลับคืน”ลั่วสุ่ยชิงถูกเขาทำให้โกรธจนกำลังภายในพุ่งสูงขึ้น กระทั่งจุดที่ถูกจี้สกัดได้คลายออก นางตบศีรษะเย่จิ่งหลานทันที“ไร้ยางอาย”“เจ้าหายแล้ว?”เย่จิ่งหลานมีความสุขมาก เขาพยายามคุกเข่า ฝืนยืนขึ้น ร่างกายโงนเงน ล้มลงตรงหน้าลั่วสุ่ยชิง ฉวยโอกาสกอดเอวของนาง“จอมยุทธ์หญิงลั่ว ข้ายืนไม่ไหว โปรดช่วยพยุงข้าด้วย”ใบหน้าของลั่วสุ่ยชิงเปลี่ยนเป็นสีแดง ยกมือขึ้นผลักเขาลงไปที่พื้น เย่จิ่งหลานล้มหงายหลัง เหมือนกับเต่าที่นอนหงายลั่วสุ่ยชิงอดไม่ได้ที่จะหัวเราะงอหาย เมื่อนางหัวเราะมากพอแล้ว ก็ทรุดตัวนั่งลงบนพื้นอย่างเงียบๆ และบ่นว่า “เสด็จ
อินชิงเสวียนเหลือบมองเย่จิ่งหลานแวบหนึ่ง“แน่นอนว่ามีคนไม่อยากให้เจ้าไป”เมื่อเห็นเย่จิ่งหลานมองมาทางนี้ ลั่วสุ่ยชิงก็เริ่มวิตกกังวล“ปล่อยข้านะ!”อินชิงเสวียนกระตุกมุมปากยิ้มๆ“ถ้าอย่างนั้นก็ต้องถามก่อนว่าเขาเห็นด้วยหรือไม่”เย่จิ่งหลานลุกขึ้นยืนโดยมีพี่ชายช่วยพยุงขึ้นอินชิงเสวียนเดินเข้าไปถาม“เจ้าสบายดีไหม มิติของเจ้า พังจริงๆ หรือ”เย่จิ่งหลานพูดอย่างอ่อนแรง “ยังไงตอนนี้ก็ยังมีลมหายใจอยู่ ถ้ามันไม่พัง ชิงผิงกับชิงอานก็คงไม่ได้ออกมา”อินชิงเสวียนมองเขาด้วยความเห็นอกเห็นใจ“นี่เป็นเรื่องที่ร้ายแรง”เย่จิ่งหลานถามอย่างไร้ยางอาย “เฮ้ นี่เจ้าไม่คิดจะดูแลข้าแล้วรึ”อินชิงเสวียนกระตุกริมฝีปากยิ้มๆ“ก็มีคนรอดูแลเจ้าอยู่ไม่ใช่หรือ เจ้าไปเองสิ อาอวี้ เรากลับไปดื่มสุรากันต่อเถอะ”เย่จิ่งอวี้พยักหน้าและตบไหล่เย่จิ่งหลาน“พวกเราช่วยเจ้าได้แค่นี้”เมื่อเห็นว่าหมู่เมฆหายไป ชาวยุทธ์หลายคนก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก เฮ่อยวนแอบโคจรกำลังภายใน พูดเสียงดัง “ตอนนี้เมื่อวิกฤติคลี่คลายแล้ว เฮ่อยวนจึงจัดงานเลี้ยงอีกครั้ง จัดเลี้ยงส่งเพื่อคลายความกังวลให้แก่เพื่อนพ้องในยุทธภพ!”คราวนี้เป็นกา
ทันทีที่เขาพูดจบ ร่างในชุดสีดำก็เหาะมาจากระยะไกล ลอยอยู่บนอากาศคนผู้นี้รูปร่างโปร่ง ชุดผ้าโปร่งสีดำปลิวไปตามสายลม เรือนผมดำขลับสยายออก ในชั่วพริบตา ร่างนั้นก็ถูกปกคลุมไปด้วยหมอกหนาสีดำเมื่อเห็นคนผู้นี้ เย่จิ่งหลานก็พยายามลุกขึ้นยืน“ลั่วสุ่ยชิง เจ้าบ้าไปแล้วหรือ หนีไป!”ลั่วสุ่ยชิงยกมือขวาขึ้นสู่ท้องฟ้า เผชิญหน้ากับเสียงฟ้าคำรน พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “เย่จิ่งหลาน เจ้าฆ่าพ่อของข้า ถ้าเจ้าตายแบบนี้ จะไม่ดูถูกเจ้าเกินไปหรือ เจ้าควรจะอยู่ในโลกนี้ต่อไป ทนทุกข์ต่อความเจ็บปวดทีละน้อย!”เย่จิ่งหลานจะไม่รู้ได้อย่างไรว่าทุกคำที่นางพูดล้วนเป็นพูดด้วยอารมณ์โกรธ ถ้านางไม่มีใจต่อเขา นางจะกลับมาได้อย่างไรอย่างไรก็ตาม ร่างกายของเขาเหมือนกับเส้นบะหมี่ ที่ไม่สามารถยืนตรงได้ จึงไม่สามารถหยุดยั้งลั่วสุ่ยชิงได้เลยเมื่อมองดูร่างเพรียวบางที่ต่อสู้กับฟ้าผ่า พลันรู้สึกเจ็บปวดกระบอกตา หยาดน้ำตาสองหยดร่วงหล่นกลืนหายไปในสายลมในเวลานี้ มีร่างเพรียวอีกร่างหนึ่งลอยออกมา โดยถือวัตถุที่มีลักษณะคล้ายแท่งไม้ขนาดใหญ่อยู่ในมือ มีปลายโค้งยาวมากซึ่งดูแปลกตา“ลั่วสุ่ยชิง ข้าจะใช้สายล่อฟ้าช่วยเจ้า!”ของสิ่งนั้นห
“จิ่งหลาน!”เย่จิ่งอวี้คว้าคอเสื้อของเขารวดเร็ว หลบหลีกการโจมตีได้อย่างหวุดหวิดตูม!อสุนีบาตฟาดเปรี้ยง บนพื้นมีหลุมลึกเกิดขึ้น ทุกคนล้วนหวาดกลัวกับฟ้าที่ผ่าลงมา ต่างใช้วิชาตัวเบาหนีไปทุกทิศทางอินชิงเสวียนถามด้วยความตกใจ “นักพรตเทียนชิง มันเกิดขึ้นได้อย่างไร”นักพรตเทียนชิงขมวดคิ้วกล่าวว่า “ชิงฮุยมาจากแดนศักดิ์สิทธิ์ เย่จิ่งหลานฆ่าเขา ศิลาตอบสวรรค์อาจมองว่าเขาเป็นคนชั่วร้ายมาก และออกจากแดนศักดิ์สิทธิ์ด้วยตัวเอง”เมื่อเห็นว่ายังมีฟ้าผ่าลงมา อินชิงเสวียนพูดอย่างกังวล “ศิลาตอบสวรรค์ไม่แยกแยะผิดถูกเช่นนี้ได้อย่างไร คนที่เย่จิ่งหลานฆ่านั้นคือคนชั่วร้ายจริงๆ ท่านนักพรตสามารถสื่อสารกับศิลาตอบสวรรค์ได้หรือไม่”นักพรตเทียนชิงส่ายศีรษะ“ไม่ได้ ศิลาตอบสวรรค์มีวิธีการตัดสินใจของตัวเอง”“แล้วต้องทำอย่างไรดี”อินชิงเสวียนเป็นกังวล และทันใดนั้นดวงตาก็พลันสว่างขึ้น“เย่จิ่งหลาน เจ้ารีบหลบเข้าไปในมิติเร็ว”เย่จิ่งอวี้พูดอย่างวิตกกังวล “เสวียนเอ๋อร์พูดถูก จิ่งหลาน เจ้าเข้าไปหลบในมิติก่อน”เมื่อเห็นด้วยตาตัวเองว่ามีฟ้าแลบฟ้าผ่าเปล่งแสงแปลบปลาบ เย่จิ่งหลานก็รู้สึกชาดิกไปทั้งหนังศีรษะ หากถูกโ
นอกห้วงทะเลแห่งจิต อินชิงเสวียนมองไปยังลิ่นเซียวที่ประทับฝ่ามืออยู่บนหลังของเย่จิ่งหลานอย่างประหม่า“อาจารย์ ท่านสัมผัสถึงแก่นวิญญาณของเย่จิ่งหลานได้แล้วหรือยัง ตอนนี้เขาเป็นอย่างไรบ้าง”“คงจะสำเร็จแล้ว”ลิ่นเซียวถอนมือออก และแน่นอนว่าเพียงครู่หนึ่ง เย่จิ่งอวี้และคนอื่นๆ ก็รู้สึกตัวขึ้นมาพร้อมกัน“ชิงเสวียน ผู้อาวุโสลิ่น นี่คือ...”“ศิษย์น้อง ทำไมเจ้าถึงมาที่นี่”เฮ่ออวิ๋นทงก็ดูประหลาดใจเช่นกัน“ทำไมพวกเจ้าถึงมาที่นี่กันหมดล่ะ เกิดอะไรขึ้น”ทุกคนสูญเสียความทรงจำในช่วงเวลานั้นไป ต่างเพ่งมองไปยังอินชิงเสวียน“ผู้อาวุโสทุกท่านตกอยู่ภายใต้อาคมของชิงฮุย...”อินชิงเสวียนเล่าสั้นๆ อธิบายสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ ทุกคนตกใจเมื่อรู้ว่าชิงฮุยได้ช่วงงชิงร่างของลั่วสุ่ยชิงไปเมื่อได้ยินว่าเย่จิ่งหลานกลับมาที่เพียวเหมี่ยวอิ๋นเฉิงแล้ว และแก่นวิญญาณก็อยู่ในห้วงทะเลแห่งจิตของลั่วสุ่ยชิง ทุกคนก็เป็นกังวลอีกครั้งทุกคนเบิกตากว้าง มองไปยังเย่จิ่งหลานและลั่วสุ่ยชิงที่กำลังนั่งขัดสมาธิอยู่บนพื้น ไม่มีใครรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นข้างในหลังจากผ่านไปครึ่งชั่วยาม ในที่สุดลั่วสุ่ยชิงก็ลืมตาขึ้น ดวงตาหรี่ลง
เย่จิ่งหลานขบกรามแน่น“ข้าสามารถให้ร่างกายแก่เจ้าได้ แต่เจ้าต้องสาบานอย่างจริงจัง ว่าจะไม่ทำร้ายต้าโจว หากผิดคำสาบาน ลูกหลานชาวเฟยเหยาทั้งหมดรวมทั้งตัวเจ้าเอง จะถูกสวรรค์ลงโทษ ไม่ได้ผุดได้เกิดอีกเลย!”ในชีวิตนี้ของเขา เขาได้เป็นหมอที่ตัวเองชอบ ได้ข้ามภพ แถมยังได้ข้ามภพมาเป็นท่านอ๋องที่มีสถานะสูง ได้เดินทางจากการต่อสู้แย่งชิงในวังสู่ยุทธภพ และจากการไร้ชื่อเสียงเรียงนาม มาเป็นยอดฝีมือชั้นหนึ่งในยุทธจักร ยังได้สัมผัสประสบการณ์การปล่อยให้ความคิดไหลไปในทางที่เต็มไปด้วยความเกลียดชังอีกครั้งหนึ่ง พอใคร่ครวญดูแล้ว มันก็คุ้มค่าจริงๆหากเขาสามารถยุติสงครามนี้ด้วยชีวิตของตัวเองได้ เย่จิ่งหลานก็ยินดีที่จะทำเช่นนั้นแม้ว่าเขาจะเป็นคนที่รักตัวกลัวตาย แต่เมื่อเผชิญกับความชอบธรรม เขาก็มีความตระหนักรู้ ในฐานะคนสมัยใหม่ เขาจะต้องไม่แย่กว่าอินชิงเสวียนอย่างแน่นอนยิ่งไปกว่านั้น ยังมีชาดแห่งบาปในร่างกายของเขาที่ยังไม่ถูกกำจัด หากชิงฮุยกล้าใช้ร่างกายของเขาเพื่อฆ่าผู้บริสุทธิ์ตามอำเภอใจ มันจะดึงดูดฟ้าผ่า ผ่าเขาให้เป็นเถ้าถ่านอย่างแน่นอนหลังจากฟังคำพูดของเย่จิ่งหลานแล้ว ชิงฮุยก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะเสี
“ไม่นะ เขาเป็นผู้บริสุทธิ์”ลั่วสุ่ยชิงเหยียดแขนทั้งสองข้างออก และมาขวางอยู่เบื้องหน้าของเย่จิ่งหลานอีกครั้งเสียงดังปัง ลั่วสุ่ยชิงถูกกระแทกห่างออกไปหลายจั้ง และในไม่ช้าก็จมลงไปในหมอกสีดำหนาทึบ“ลั่วสุ่ยชิง ลั่วสุ่ยชิง!”เย่จิ่งหลานเหาะเข้าไปในหมอกสีดำอย่างกระวนกระวายใจ คลำหาลั่วสุ่ยชิง และช่วยพยุงนางลุกขึ้นชิงฮุยเคลื่อนฝีเท้า และมาปรากฏตัวต่อหน้าทั้งสองอีกครั้ง“ลั่วสุ่ยชิง นังสารเลว วันนี้ข้าขอถามเจ้า ต้องการพ่อ หรือผู้ชายคนนี้?”แก่นวิญญาณของลั่วสุ่ยชิงก็ยังสั่นเทา นางกำเสื้อคลุมไว้แน่น มีเส้นเลือดปรากฏขึ้นที่หลังมือนี่เป็นสิ่งที่เลือกยากมากจริงๆไม่อาจปฏิเสธได้ว่า นางตกหลุมรักเย่จิ่งหลานจริงๆไม่รู้ว่าความรู้สึกนี้มาจากไหน แต่มันค่อยๆ ฝังแน่นอยู่ในใจแล้วอาจเป็นเพราะการเข้าฝัน อาจเป็นเพราะตัวเองเคยเดินทางไปกับเขา หรืออาจเป็นเพราะความใกล้ชิดของแก่นวิญญาณของเขา ลั่วสุ่ยชิงไม่สามารถค้นหาติดตามได้อีกแล้วแม้ว่านางจะเป็นสตรีงดงามแห่งสวรรค์ แต่ก็ไม่มีใครที่เข้าตาของนาง แต่ดันเป็นเย่จิ่งหลานผู้ที่พูดเรื่องไร้สาระทั้งวัน ผู้ที่ไม่มีท่าทีจริงจัง กลับกลายเป็นคนที่อยู่ในใจนาง
ชิงฮุยได้รับบาดเจ็บ ทั้งยังมีลั่วสุ่ยชิงที่กำลังต่อสู้กับแก่นวิญญาณของเขา จึงเคลื่อนไหวช้าลิ่นเซียวแทงกระบี่สวน โจมตีจุดถันจงที่อยู่กลางอกของนาง พลังของลั่วสุ่ยชิงถูกยับยั้ง ก้าวหยุดนิ่ง ในเวลาเดียวกัน แก่นวิญญาณของเย่จิ่งหลานก็เข้าสู่ห้วงทะเลแห่งจิตของลั่วสุ่ยชิงในหมอกสีดำ ชายและหญิงกำลังต่อสู้กัน เย่จิ่งหลานหลบเข้าไปในวงการต่อสู้ และช่วยลั่วสุ่ยชิงต่อสู้กับชิงฮุย ชิงฮุยตกตะลึง“เป็นเจ้า!”“ใช่ ข้าเอง!”ขณะที่พูด เย่จิ่งหลานได้ซัดฝ่ามือใส่เขาหลายครั้งแล้วการเข้าร่วมวงการต่อสู้ของเขาทำให้สถานการณ์เปลี่ยนไปทันที ชิงฮุยก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกโกรธตะโกนด้วยความเดือดดาล “ลั่วสุ่ยชิง เจ้าคิดจะช่วยคนนอกจัดการกับข้าจริงๆ อกตัญญู!”ลั่วสุ่ยชิงตกใจเล็กน้อย วิชาฝ่ามือช้าลงครู่หนึ่ง“เจ้าเป็นใครกันแน่”ชิงฮุยคำรามด้วยความโกรธ“เจ้ารู้คำตอบแล้ว ยังต้องการจะถามอีกรึ”ลั่วสุ่ยชิงตัวสั่นเล็กน้อย“จริงหรือ...เป็นท่าน?”เย่จิ่งหลานไม่รู้ว่าทั้งสองกำลังเล่นปริศนาทายคำอะไรอยู่ แค่อยากจะจัดการกับปีศาจชั่วร้ายนี้โดยเร็ว เขาลงมือรวดเร็ว ล้วนหมายไปยังจุดตายของชิงฮุยชิงฮุยบังคับเย่จิ่งหลานใ
ขณะที่อินชิงเสวียนกำลังจะลงมือ ดวงตาของลั่วสุ่ยชิงก็เปลี่ยนไปอีกครั้ง“เขากำลังกลืนกินแก่นวิญญาณของข้า ถ้าเจ้าไม่ลงมือ ข้าก็คงไม่รอดเช่นกัน อินชิงเสวียน เจ้าไม่อยากช่วยสามีและพ่อแม่ของเจ้าหรือ”เมื่อเห็นท่าทางอันเจ็บปวดของลั่วสุ่ยชิง อินชิงเสวียนก็ไม่สามารถตัดสินใจได้ครู่หนึ่งลั่วสุ่ยชิงสามารถทำเพื่อราษฎร ละทิ้งความคิดที่นางยืนหยัดมานับพันปี ไม่ต้องสงสัยเลยว่านางควรค่าแก่การเคารพเพียงใด แต่ถ้านางไม่ตาย จะไม่มีใครรอดชีวิตได้เมื่อกวาดสายตามองไปยังร่างของทุกคนที่เหมือนถูกจี้สกัดจุด อินชิงเสวียนก็กัดฟันกรอด และพิณการเวกก็อยู่ในมือของนางแล้ว“ลั่วสุ่ยชิง ข้าขอสาบานในนามของฮองเฮาต้าโจวว่า หลังจากที่เจ้าเสียชีวิต จะจัดพิธีศพให้เจ้าอย่างสมเกียรติระดับแคว้น”ร่างของเย่จิ่งหลานหายวับ และยืนขวางอยู่ตรงหน้าอินชิงเสวียน“ยัยบ้า ข้าไม่เคยขอร้องอะไรเจ้าเลย คราวนี้ข้าขอร้องล่ะ ช่วยไว้ชีวิตลั่วสุ่ยชิงด้วย!”“เย่จิ่งหลาน เจ้า...”อินชิงเสวียนใช้นิ้วกดสายพิณ แต่ในใจกลับไม่เข้าใจว่า ทำไมจู่ๆ เย่จิ่งหลานถึงมีความรู้สึกลึกซึ้งต่อลั่วสุ่ยชิงขนาดนี้เสื้อยืดสีขาวของเย่จิ่งหลานเปื้อนเลือดแดงฉาน ดวง