แชร์

บทที่ 1481 ทำไปแล้วหรือยังไง

ผู้เขียน: ม่อเยี่ยน
ผิวพรรณอุ่นนุ่มหอมกรุ่น ผมสลวยแขนเนียน ไก่อ่อนอย่างเย่จิ่งหลานจะเคยเจออะไรแบบนี้มาก่อนได้อย่างไร

“เอ่อ...ลั่ว...”

เขาเรียกออกมาด้วยสติที่ยังหลงเหลืออยู่ และในวินาทีถัดมา จากผู้ถูกกระทำก็กลายเป็นผู้กระทำ กดหญิงร่างบางอ่อนหวานคนนี้ไว้ใต้ร่าง ใช้ปลายลิ้นดุนฟันของนางให้เผยอออก จากนั้นก็รุกล้ำเข้าไปในปาก

ลั่วสุ่ยชิงปล่อยให้เขาทำตามใจ ดวงตาทั้งคู่ปิดสนิท แพขนตายาวหนาสั่นพลิ้วตลอดเวลา สีหน้าบนใบหน้านั้นซับซ้อนมากจนยากจะอธิบายเป็นคำพูดได้

กระโปรงสีดำค่อยๆ เลื่อนหล่น เรียวแขนหยกงดงามราวกับหิมะ เย่จิ่งหลานรู้สึกว่าผิวของนางบอบบางดุจแพรไหม กลัวที่จะสัมผัสแรงๆ

อย่างไรก็ตาม ความรู้สึกรักหยกถนอมบุปผาเกิดขึ้นเพียงชั่วครู่ เมื่อเกิดเหตุไม่คาดคิด ก็ควบคุมสถานการณ์ไม่ได้ ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าใด และในที่สุดทุกอย่างก็สงบลง

เมื่อมองไปที่ลั่วสุ่ยชิงซึ่งนอนหมดสติอยู่บนพื้น มีรอยฟกช้ำทั่วร่างกาย เย่จิ่งหลานก็อดไม่ได้ที่จะตบหน้าตัวเอง นี่มันโหดร้ายเกินไปแล้ว

เขารีบอุ้มลั่วสุ่ยชิงไว้บนตัก แล้วสวมเสื้อคลุมให้นาง

ห้วงทะเลแห่งจิตว่างเปล่า ไม่มีเตียงหรือสิ่งใด เย่จิ่งหลานไม่สามารถหาที่ที่เหมาะสมให้นางพักผ่
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
ความคิดเห็น (1)
goodnovel comment avatar
Kungjee Wimonrat S
ได้อ่านวันละ1ตอนถือว่าอัปเดตน้อยมาก
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

บทที่เกี่ยวข้อง

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1482 เจ้าถือซะว่าข้าตาบอด

    แก่นวิญญาณของลั่วสุ่ยชิงสั่นสะเทือนอีกครั้ง กลุ่มพายุสีดำก็หายไปทันที ดูเหมือนนางจะได้รับบาดเจ็บสาหัส มีเลือดออกที่มุมปากอีกแล้ว“ลั่วสุ่ยชิง เจ้าเป็นอะไรไป”เย่จิ่งหลานบีบไหล่ของนาง ผ้าไหมสีดำบนตัวของนางก็หลุดออกไป ไหล่ขาวเนียนราวหิมะก็ปรากฏต่อสายตาของเย่จิ่งหลานเย่จิ่งหลานรีบคลุมตัวนางไว้อย่างรวดเร็ว แต่ไม่นึกว่าดึงขึ้นสูงเกินไป ทำให้ผ้าถูกดึงขึ้นจนเห็นเรียวขางามเย่จิ่งหลานลนลาน ออกแรงดึงลง พรวด ตรงกลางลำตัวก็เปิดออกอีก ตอนนี้ไม่จำเป็นต้องปิดตรงไหนแล้ว มองเห็นได้ชัดเจนจริงแท้แน่นอนลั่วสุ่ยชิงดูหงุดหงิด แต่นางถูกค่ายกลสะท้อนกลับ จึงไม่สามารถออกแรงได้เลย จำต้องปล่อยให้เย่จิ่งหลานกอดเอาไว้“ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร ถือซะว่าข้าตาบอด ข้าไม่เห็นอะไรเลยจริงๆ ข้าจะช่วยรักษาอาการบาดเจ็บให้เจ้าเดี๋ยวนี้”เขาช่วยพยุงลั่วสุ่ยชิง วางมือบนหลังนาง เสื้อผ้าของนางขาดวิ่นไปหมด จึงไม่ได้คลุมส่วนไหนของนางอีก“เจ้าไม่ต้องกังวล ข้าเป็นสุภาพบุรุษ ไม่มีทางแอบดูเด็ดขาด”เย่จิ่งหลานหลับตาข้างหนึ่งลืมตาอีกข้างหนึ่ง ซึ่งไม่ถือว่าเป็นการโกหกทั้งหมดลั่วสุ่ยชิงเม้มริมฝีปากแน่น กัดฟันกรามกรอดนางเหลือเพีย

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1483 ใครก็ไม่เสียเปรียบ

    เย่จิ่งหลานถูกตบจนสะดุ้งสุดตัว ปิดหน้า แล้วพูดด้วยสีหน้าน้อยใจ “ยังไม่ได้แต่งงาน เจ้าก็เริ่มใช้ความรุนแรงในครอบครัวแล้ว ถ้าแต่งงานกับเจ้าจริงๆ มิต้องถูกเจ้าทุบตีตายหรอกหรือ”ลั่วสุ่ยชิงยกมือขึ้นอีกครั้ง แต่ก็หมดเรี่ยวแรง และตัวอ่อนปวกเปียกล้มลงอีกเย่จิ่งหลานคลุมตัวให้นาง คุกเข่าแล้วพูดพล่ามไม่หยุด “ผู้หญิงมีความเป็นตัวของตัวเองบ้างก็ดีเหมือนกัน ถ้าอ่อนโยนเกินไปข้ากลับยิ่งไม่ชอบ ตีตัวได้แต่อย่าตบหน้า ต่อไปเจ้าช่วยเปลี่ยนที่ตีได้ไหม”เขาลูบผมของลั่วสุ่ยชิงและพูดว่า “เจ้าอย่าใจร้อน เรื่องลูกๆ พวกเราค่อยปรึกษากันก็ได้ ถ้าเจ้าไม่ชอบมีลูกเยอะ งั้นมีคนเดียวก็ได้ ถึงเป็นดิงค์ (คู่แต่งงานที่มีรายได้ด้วยกันทั้งคู่แต่ไม่มีลูก) ข้าก็ไม่คัดค้าน”เขาไอแห้งๆ แล้วพูดว่า “จริงๆ แล้วนะ ถึงเราสองคนจะมีเซ็กส์กันเจ้าก็ไม่เสียเปรียบหรอก เจ้าเป็นผู้หญิงบริสุทธิ์ ส่วนข้าก็เป็นหนุ่มบริสุทธิ์เช่นกัน ล้วนเป็นครั้งแรกเหมือนกัน อย่าดูถูกกันและกัน ถึงแม้ข้าจะทำไม่ค่อยเก่ง แต่ต่อไปรับรองว่าข้าจะตั้งใจให้มากๆ”ลั่วสุ่ยชิงรู้สึกเหมือนหัวของตัวเองกำลังจะระเบิด แม้ว่านางจะไม่เข้าใจว่าอะไรคือดิงค์อะไรคือมีเซ็กซ์ พู

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1484 ไม่มีงานเลี้ยงใดที่ไม่เลิกรา

    อินชิงเสวียนยิ้ม“ไม่ต้องหรอก เด็กปลอดภัยดี วิ่งตะลอนมาหลายวัน แม่นางลั่วคงจะเหนื่อยแล้ว ตอนนี้ไม่มีอะไรทำ สามารถเติมพลังเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการต่อสู้ในอนาคตได้”“ก็ได้”ลั่วสุ่ยชิงตอบรับ และจากไปด้วยตัวเองเดิมทีนางก็มีนิสัยเย็นชา ดังนั้นอินชิงเสวียนจึงไม่ได้ให้ความสนใจมากนักการตายของชิงฮุยทำให้สถานการณ์สงครามสงบลงชั่วคราว เย่จิ่งอวี้ก็จับตัวทายาทชาวเฟยเหยาที่เหลืออยู่จำนวนมากได้ ในพริบตาเดียวก็ผ่านไปห้าวัน หุบเขาเชื่อมเมฆาได้ฟื้นคืนความสงบสุขในอดีตอย่างสมบูรณ์ ประชาชนจำนวนมากที่อยู่ในอิ๋นเฉิงก็ย้ายกลับถิ่นฐานเดิมสู่เมืองแต่ละแห่งเช่นกันหลังจากมาถึงหุบเขาเชื่อมมเมฆามานาน นี่เป็นครั้งแรกที่ทุกคนรู้สึกผ่อนคลายอย่างเต็มที่ในโถงประชุมเฮ่ออวิ๋นทงลูบเคราแล้วพูดว่า “ดูสถานการณ์ปัจจุบัน แม้ว่าชิงฮุยจะไม่ตาย พลังชีวิตของเขาก็คงได้รับความเสียหายอย่างมาก คงไม่ออกมาสร้างปัญหาอีกในระยะเวลาอันสั้นนี้”ผู้อาวุโสสวีนก็พยักหน้าเช่นกัน“แม้ว่าศาสตร์ยึดร่างจะลึกลับมหัศจรรย์มาก แต่ก็ยังเป็นวิธีที่ท้าทายสวรรค์ ร่างกายของคนธรรมดา หากต้องใช้อาคมเช่นนี้ จะต้องจ่ายค่าตอบแทนมหาศาลแน่นอน”เจ้าส

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1485 พี่สาวลั่วดูแปลกจัง

    “ไม่คิดจะตามหาชิงฮุยอีกแล้วงั้นหรือ”ลั่วสุ่ยชิงเดินช้าๆ เข้ามาด้วยสีหน้าเย็นชาสาวๆ คุยกัน เย่จิ่งอวี้ไม่อยากฟังมากนัก เขาจึงพูดอย่างอบอุ่น “พวกเจ้าคุยกันเถอะ ข้าจะไปอยู่กับท่านแม่”อินชิงเสวียนยืนตัวตรง“ตั้งแต่เรื่องวิถีสวรรค์มาจนถึงเรืองชิงฮุย สงครามนี้ต่อสู้กันมานานเกินไป อาอวี้ในฐานะผู้ครองแคว้น ไม่สามารถอยู่ในยุทธภพได้นาน หากไม่มีเหตุไม่คาดฝันอะไร วันพรุ่งนี้มะรืนนี้ พวกเราก็อาจจะจากไป ไม่ทราบว่าแม่นางลั่วตั้งใจจะไปที่ใด หากเจ้าไม่มีเป้าหมายที่แน่นอน เจ้าก็ไปเมืองหลวงกับเราได้เช่นกัน”ทันใดนั้นลั่วสุ่ยชิงก็ยิ้มออกมา“ถ้าเจ้าไม่คิดว่าข้าเป็นภาระ เช่นนั้นข้าก็ยินดีมาก”“เราอยู่ด้วยกันมานานขนาดนี้ เราก็ถือว่าเป็นเพื่อนกันแล้ว ระหว่างเพื่อน จะมีคำว่าเป็นภาระได้อย่างไร”ลั่วสุ่ยชิงประกบมือคารวะ“ถ้าอย่างนั้นขอรับคำขอด้วยความยินดี แต่เย่จิ่งหลาน พวกเจ้าจะไม่ตามหาแล้วงั้นหรือ”อินชิงเสวียนถอนหายใจ“ถ้าเขาไม่อยู่ที่นี่ แม้ว่าตามหาทั้งภูเขาและแม่น้ำหลายพันลูก ก็เกรงว่าจะตามหาไม่พบ”นางมองดูท้องฟ้า กระซิบเสียงเบา “ด้วยความสามารถในปัจจุบันของเขา เมื่อเขากลับไปยังที่เดิม จะต้องม

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1486 หรือจะเป็นเขา

    “มีอะไรแปลกรึ”อินชิงเสวียนถามเรื่อยเปื่อย ขณะที่อุ้มเจ้าเด็กอ้วนน้อยไว้ในอ้อมแขนเสี่ยวหนานเฟิงเอียงศีรษะ มองที่นิ้วแง่งขิงอวบๆ และคิดอย่างจริงจังอยู่พักหนึ่ง“มือของพี่สาวลั่วเย็นมาก”อินชิงเสวียนหัวเราะเบาๆ“อาจเป็นเพราะว่าช่วงนี้พี่สาวลั่วเหนื่อยเกินไป ทำให้เลือดลมไหลเวียนไม่สะดวก ไม่มีอะไรหรอก”เสี่ยวหนานเฟิงส่ายหัวโดยเร็ว“ไม่ใช่ เย็นไม่เหมือนเมื่อก่อน”อินชิงเสวียนมองไปที่เจ้าเด็กอ้วนน้อยด้วยความแปลกใจ“เอ่อ แล้วเมื่อก่อนนางเย็นมากหรือเปล่า”อินชิงเสวียนและลั่วสุ่ยชิงไม่เคยสัมผัสตัวกันมาก่อน จึงไม่รู้ว่าอุณหภูมิร่างกายของลั่วสุ่ยชิงเป็นอย่างไรแม้ว่าเสี่ยวหนานเฟิงจะฉลาด แต่ความสามารถในการจัดเรียงคำพูดยังคงมีจำกัด เขาเม้มริมฝีปากแล้วพูดว่า “ก็ไม่เชิง ที่นางตัวเย็นวันนี้ ดูไม่เหมือนนาง”อินชิงเสวียนตกตะลึงเล็กน้อยไม่เหมือนนาง?เสี่ยวหนานเฟิงพูดอย่างดื้อรั้น “ก็คือพี่สาวลั่วไม่เหมือนเดิม”เมื่อฟังเสียงไร้เดียงสาของลูกชาย อินชิงเสวียนก็จำได้ว่าตอนที่นางพบถ้ำ ลั่วสุ่ยชิงก็บังเอิญเดินออกจากถ้ำพอดีความคิดที่น่ากลัวชนิดหนึ่งผุดขึ้นมาในหัว อินชิงเสวียนก็อดไม่ได้ที่จะรู้

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1487 ทำลายไมตรีบุปผาด้วยมือ

    “แม่สามีพาลูกข้าไปแล้ว ข้ามาหาพอดีเลยจะได้อยู่เป็นเพื่อนเจ้า”อินชิงเสวียนวางสุราและอาหารไว้บนโต๊ะหินในลานบ้าน แล้วถอนหายใจกล่าวว่า “เพียงพริบตาเดียวก็อาศัยอยู่ที่นี่มานานกว่าครึ่งปีแล้ว ต้องจากไปอย่างกะทันหัน ยังรู้สึกไม่อยากจากเลย”ลั่วสุ่ยพูดเสียงนิ่ง “ในใต้หล้าไม่มีงานเลี้ยงใดไม่เลิกรา เป็นเรื่องปกติที่เราจะต้องแยกจากกันในที่สุด”อินชิงเสวียนเปิดขวดค็อกเทลแอลกอฮอล์ต่ำ แล้วพูดด้วยรอยยิ้ม “ก็จริง แต่สุดท้ายแล้วมนุษย์ก็เป็นสัตว์ที่ยึดติดกับอารมณ์ พอถึงฤดูใบไม้ร่วงก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกเศร้าโศก เทียบไม่ได้กับความสบายๆ ของแม่นางลั่ว”ลั่วสุ่ยชิงไม่ตอบ นั่งเฉยๆ มองขวดแก้วอย่างเฉยเมย“ค็อกเทล ลองดูสิ”อินชิงเสวียนจิบไปคำหนึ่ง รสสุราไม่แรง มีรสหวานละมุนทันใดนั้นนางก็ฉุกคิดได้อีกเรื่องหนึ่งตัวเองดื่มกินใช้น้ำพุวิญญาณมานาน ร่างกายทนต่อพิษหลายร้อยชนิด แน่นอนว่ายานอนหลับย่อมไม่สามารถทำอะไรนางได้ ลั่วสุ่ยชิงดื่มน้ำพุวิญญาณหลายครั้ง ต้องมีความต้านทานต่อยานอนหลับแน่ๆ ยานอนหลับเหล่านี้ไม่จำเป็นจริงๆจะมอมเหล้าให้เมาคงเป็นไปไม่ได้ ด้วยระดับฌานตบะของนาง แค่โคจรพลังชี่แท้ในร่างกาย ก็สามารถร

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1488 จุดประสงค์ของชิงฮุย

    “เจ้าคิดจะทำอะไร”อินชิงเสวียนแสร้งทำเป็นสงบพลางมองไปที่ชิงฮุย“ในเมื่อรู้ว่าข้ามีมิติ แล้วเจ้าคิดว่าจะจัดการกับข้าได้งั้นหรือ”ชิงฮุยกินมันฝรั่งทอดอย่างใจเย็นแล้วพูดช้าๆ “เจ้าซ่อนตัวอยู่ในมิติของเจ้าได้ ข้าจะไม่ขัดขวางเจ้า”อินชิงเสวียนตกตะลึง ดูท่าแล้ว เขาสัมผัสได้ถึงความมั่นใจของนางแล้ว“เมื่อถึงเวลาที่ต้องเข้าไปข้าย่อมเข้าไปเอง อย่าคิดว่าเจ้าจะสามารถควบคุมสถานการณ์โดยรวมได้จริงๆ เพียวเหมี่ยวอิ๋นเฉิงแห่งนี้จะทำให้เจ้ากลับไปไม่ได้อย่างแน่นอน”ชิงฮุยกล่าวว่า “คารมคมคายรังแต่จะทำให้เจ้าเสียพลังงานมากขึ้น ไม่ได้ช่วยอะไร มิสู้มอบอำนาจการควบคุมร่างกายของเจ้ามาแต่โดยดี”“ไร้ยางอาย นี่เจ้าต้องการร่างกายของข้า”อินชิงเสวียนรู้สึกเย็นยะเยือกชิงฮุยหัวเราะเบาๆ“เจ้าคิดมากเกินไป ข้าไม่สนใจเรื่องชายหญิงอีกต่อไป ข้าต้องการร่างกายของเจ้า เพียงเพื่อครอบครองสมบัติในมิติของเจ้า อย่างเช่น น้ำพุวิญญาณ”อินชิงเสวียนจ้องมองชิงฮุยอย่างเคียดแค้นชิงชัง“มิน่าล่ะเจ้าถึงไม่ได้ทำอะไรเลย ที่แท้นี่ก็เป็นเจตนาของเจ้า!”“ถูกต้อง หากไม่ต้องการสิ่งใด การสังหารชาวยุทธ์ที่ประกาศตัวว่าไม่ธรรรมดาเหล่านี้ ก็

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1489 ใช้ไพ่ตายทั้งหมด

    หลังจากที่ชิงฮุยพูดจบ ก็มีเสียงดังขึ้นจากด้านนอกลานบ้าน เจ้าสำนักเฮ่อ เซี่ยวอิ่นหวน ผู้อาวุโสสวี และเจ้าสำนักคนอื่นๆ ต่างก็ปรากฏตัวขึ้นที่ลานบ้าน“คารวะนายท่าน!”ภายใต้สายตาที่ตกตะลึงของอินชิงเสวียน ทุกคนโค้งคำนับ ซึ่งเป็นการคำนับที่ถ่อมตัวและให้ความเคารพสูงสุดชิงฮุยเป่าปากเป็นเสียงแหลมยาวอีกครั้ง ผู้ที่ปรากฏตัวขึ้นก็คือ เย่จิ่งอวี้ เฮ่อฉางเฟิง ต่งจื่ออวี๋ และศิษย์รุ่นเยาว์เหมือนกับเก่อหงยวนอินชิงเสวียนแทบจะไม่เชื่อสายตาตัวเอง เย่จิ่งอวี้สามีของนางกำลังโค้งคำนับให้ชิงฮุยแม้แต่อินชิงเสวียนเองก็รู้สึกเวียนหัว อยากจะคุกเข่าลงคำนับเขาเช่นกัน“ฮ่าฮ่าฮ่า!”ชิงฮุยหัวเราะร่วนอย่างดุเดือด นี่เป็นครั้งแรกที่ใบหน้าของเขาเสียการควบคุม“ทุกสิ่งที่ข้าต้องการ จะเป็นของข้าในที่สุด ผลลัพธ์นี้ แม่นางอินพอใจหรือไม่”อินชิงเสวียนทั้งตกใจและโกรธ“วิกลจริต เจ้าควบคุมพวกเขาเหมือนหุ่นเชิดไร้อารมณ์ บ้านเมืองเช่นนี้ เจ้าได้ไปแล้วจะมีประโยชน์อะไร”ชิงฮุยยิ้มช้าๆ“ใครบอกเจ้าว่าข้าต้องการบ้านเมือง สิ่งที่ข้าต้องการนั้นมันสูงส่งและยิ่งใหญ่กว่านั้น”อินชิงเสวียนถามด้วยความตกใจ “เจ้าต้องการอะไร หรือว่

บทล่าสุด

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1540 สองพระองค์ครองราชย์ จบบริบูรณ์

    ปีที่สามของการครองราชย์ในราชวงศ์ต้าโจวฮองเฮาให้กำเนิดพระธิดา ได้รับพระราชทานนามว่าองค์หญิงเจ๋อเทียน นามว่าเจิน มีชื่อเล่นว่าฝูเอ๋อร์ในเดือนเก้าของปีเดียวกัน เย่จิ่งอวี้และอินชิงเสวียนปกครองร่วมกัน แบ่งกันปกครองบ้านเมืองและการดำรงชีวิตของผู้คน ราษฎรเคารพทั้งสองในฐานะพระองค์ฝ่ายซ้ายและฝ่ายขวา ประวัติศาสตร์ได้บันทึกช่วงเวลานี้ไว้ด้วยถ้อยคำที่งดงามที่สุด และเรียกช่วงเวลานี้อย่างเคารพว่า ยุคที่สององค์ปกครอง!ห้าปีต่อมา เครื่องกำเนิดพลังงานลมเครื่องแรกปรากฏขึ้นด้วยฝีมือความสามารถของชาวต้าโจว ซึ่งก้าวล้ำหน้าสมัยโบราณที่ล้าหลังไปอย่างมากด้วยก้าวที่ยิ่งใหญ่นักเรียนจากทั่วแคว้นได้แสดงความสามารถ พัฒนาสิ่งที่ล้ำหน้าต่างๆ ผ่านความรู้ทางคณิตศาสตร์ ฟิสิกส์ และเคมีใหม่ล่าสุด บุปผานับร้อยบานสะพรั่งพร้อมกัน ก่อให้เกิดยุครุ่งเรืองของราชวงศ์ต้าโจวตอนนี้อาหารไม่ขาดแคลน ราษฎรไม่ต้องทนทุกข์กับความหิวโหยอีกต่อไป ยิ่งไม่มีการอพยพย้ายถิ่นฐาน โครงการคลองส่งน้ำก็สำเร็จลุล่วง ด้วยการคมนาคมสะดวกระหว่างภาคเหนือและภาคใต้ ก็สามารถแลกเปลี่ยนสิ่งที่ต้องการได้ในที่สุด อ่างเก็บน้ำที่สร้างขึ้นยังสามารถเปลี่ยนเส้นท

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1539 เสวียนเอ๋อร์ขอบคุณเจ้านะ

    ตำหนักจินอู๋อินชิงเสวียนอดทนต่อความเจ็บปวดที่ถาโถมเข้ามาราวกับกระแสน้ำ แต่ไม่กล้าโคจรกำลังภายในต้านทานไว้ เพราะกลัวว่าจะทำร้ายลูกของนางเมื่อเห็นนางกัดริมฝีปากล่างแน่น มีเหงื่อไหลอาบหน้า หัวใจของเย่จิ่งอวี้ก็รู้สึกเหมือนถูกมีดคมๆ นับพันทิ่มแทง รู้สึกเจ็บปวดอย่างยิ่ง“ต้องทำอย่างไรถึงจะช่วยบรรเทาความเจ็บปวดของฮองเฮาได้ ต้องปล่อยให้นางเจ็บปวดทนทุกข์เช่นนี้หรือ”หมอตำแยกล่าวอย่างกล้าหาญว่า “สตรีคลอดบุตรก็เป็นเช่นนี้เพคะ อดทนไว้ แล้วจะดีเอง”เย่จิ่งอวี้พูดด้วยความโกรธ “ฮองเฮาของข้าจะเทียบได้กับสตรีทั่วไปได้อย่างไร รีบหาทางบรรเทาความเจ็บปวดของฮองเฮาเดี๋ยวนี้”“ข้าไม่เป็นไร อาอวี้ออกไปก่อนเถอะ!”เสียงของอินชิงเสวียนนั้นอ่อนแรง แม้จะเป็นสามีภรรยากัน แต่ถูกเห็นเข้าในสถานการณ์เช่นนี้ก็น่าอายอยู่เหมือนกันเย่จิ่งอวี้เดินก้าวเดียวก็ไปถึงเตียง จับมือของนางแน่นๆ แล้วพูดอย่างกระวนกระวายใจ “ข้าไม่วางใจ มีวิธีถ่ายทอดความเจ็บปวดให้ข้าได้ไหม เจ้าอยู่กับลั่วสุ่ยชิงมานานแล้ว ไม่ได้เรียนวิชาอาคมอะไรจากนางบ้างหรือ”อินชิงเสวียนเจ็บปวดเจียนตายอยู่แล้ว เมื่อได้ยินคำนี้ก็ไม่รู้จะหัวเราะหรือร้องไห้ดี

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1538 ไท่เฟยไท่ผินออกจากวัง

    อินชิงเสวียนอดทนต่อความเจ็บปวดและกล่าวว่า “ฝ่าบาทไม่จำเป็นต้องอยู่ที่นี่ วันนี้เป็นวันแต่งงานของไห่ถัง ในฐานะพี่ชาย ควรเป็นประธานงานแต่งของนางด้วยตนเอง หากไม่มีคนในราชวงศ์ไป ไห่ถังจะผิดหวังได้”แม้น้องสาวจะเป็นญาติ แต่ก็ไม่ชิดเชื้อเท่ากับภรรยา ลูกคนแรกเกิดในตำหนักเย็น ซึ่งทำให้เย่จิ่งอวี้รู้สึกผิดไปครึ่งชีวิตแล้ว ยากนี้เด็กคนนี้คือสมบัติล้ำค่าที่แท้จริงระหว่างพวกเขา ในฐานะพ่อของลูก เขาจะจากไปได้อย่างไรเมื่อเห็นว่าใบหน้าของนางซีด มีเม็ดเหงื่อเม็ดเล็กๆ ผุดพรายขึ้นเต็มขมับของนาง เย่จิ่งอวี้ก็รีบก้าวไปข้างหน้าเพื่อปลอบนาง “ไม่เป็นไร มีแม่ทัพอินและจอมพลกวนอยู่ด้วย ไห่ถังก็ไม่นับว่าเสียเกียรติอะไรนัก”อินชิงเสวียนคว้าแขนของเขา“จะได้อย่างไร หากไม่มีใครจากในวังไป มันจะกลายเป็นปมในใจของไห่ถังอย่างแน่นอน นี่คือวันที่สำคัญที่สุดในชีวิตของนาง”ไม่ว่าอย่างไรเย่จิ่งอวี้ก็ไม่ยอมไป แต่ก็ไม่สามารถปล่อยให้น้องสาวเสียหน้าได้ เขาหรี่ตาลงเล็กน้อย มีความคิดอยู่ในใจ“เจวี๋ยอิ่ง ไปเชิญไท่เฟยไท่ผินทุกท่าน ให้พวกนางออกจากวัง ร่วมงานเสกสมรสขององค์หญิงเดี๋ยวนี้”ทุกคนตกตะลึง ไม่มีใครคาดคิดว่าเย่จิ่งอวี้จ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1537 ฮองเฮาทรงมีพระประสูติการ

    เย่ไห่ถังยังคงมีความสุข แต่จู่ๆ เสียงของหลี่เต๋อฝูก็ทำให้นางรู้สึกไม่พอใจเล็กน้อยเมื่อเปิดประตู เห็นเสด็จพี่และเสด็จพี่สะใภ้ยืนอยู่ที่กลางเรือน น้ำตาก็ไหลออกมาจากดวงตา“ไห่ถังคารวะเสด็จพี่ เสด็จพี่สะใภ้เพคะ!”เย่ไห่ถังกำลังจะคุกเข่าลง แต่เย่จิ่งอวี้ก็ปราดเข้าประคองนางพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “ในฐานะสตรีที่ออกเรือนแล้ว ทุกสิ่งต้องคำนึงถึงสถานการณ์โดยรวม จะทำตัวเหลวไหลซุกซนเหมือนอยู่ในวังไม่ได้ หากใช้ชีวิตนอกวังจนเบื่อแล้ว ก็สามารถกลับมาได้ตลอดเวลา วังหลวงจะเป็นบ้านของเจ้าตลอดไป”อินชิงเสวียนก็ก้าวไปข้างหน้าและพูดว่า “ถ้าพี่รองของข้ารังแกเจ้า เจ้าก็บอกข้าได้เลย ข้าจะทวงความยุติธรรมให้กับเจ้าแน่นอน”ถ้าคนที่เย่ไห่ถังแต่งงานด้วยไม่ใช่อินปู้อวี่ เย่จิ่งอวี้คงพูดคำนี้ไปนานแล้วเย่ไห่ถังสูดจมูก“ขอบพระทัยเสด็จพี่และเสด็จพี่สะใภ้เพคะ ตอนแรกข้าค่อนข้างมีความสุข แต่ตอนนี้ไม่อยากจากไปเลย”เมื่อเห็นว่าจมูกของเย่ไห่ถังแดง กำลังจะร้องไห้อีก เย่จิ่งอวี้จึงตีหน้าขรึมพูดทันที “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ งั้นข้าจะให้คนไปแจ้งอินปู้อวี่ ว่าการแต่งงานครั้งนี้ไม่มีแล้ว หลี่เต๋อฝู!”หลี่เต๋อฝูก็เป็นคนเจ้าเ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1536 องค์หญิงกำลังจะเสกสมรส

    ในวันที่หนึ่งเดือนสี่ ลำดับการสอบการต่อสู้ชี้ให้เห็นว่า เฉินเซียงเยว่ที่อินชิงเสวียนสนใจ สอบได้ลำดับหนึ่ง คนผู้นี้หน้าตาดูดุร้ายและน่าเกลียด แต่กลับมีจิตใจอ่อนโยนดังเช่นสตรี ไม่เพียงแต่วรยุทธ์ดีเลิศเท่านั้น แต่ยังเก่งในเรื่องการจัดขบวนทัพด้วย เป็นยอดแม่ทัพที่หาได้ยากนางได้ลำดับหนึ่งก็คือจอหงวนด้านวิชาการต่อสู้ ไม่มีใครไม่ยอมรับเลย แค่ยืนอยู่เฉยๆ ก็ดูฮึกเหิมมีพลังมากกว่าผู้ชายทุกคนในตอนนั้นเด็กผู้หญิงอีกคนหนึ่งแซ่หลิวมีชื่อว่าเยว่ ก็ได้รับเลือกให้ติดอยู่ในสามอันดับแรก รั้งอยู่ในเมืองหลวงฝ่าบาทขานรายชื่อสตรีมามากขนาดนี้ เหล่าขุนนางข้าราชบริพารก็อดไม่ได้ที่จะพูดถึงเรื่องนี้ ต่างรู้สึกว่ามันไม่ถูกต้องตามระเบียบประเพณี แต่ก็กล้าที่จะวิพากษ์วิจารณ์เป็นการส่วนตัวเท่านั้น ต้าโจวในวันนี้เปลี่ยนไปแล้ว ที่ฝ่าบาทยินดีฟังพวกเขา ก็ถือเป็นการให้เกียรติพวกเขาแล้ว หากฝ่าบาทไม่อยากฟัง ถึงพูดมากไปก็ไร้ผลแต่ไม่มีใครกล้าพูดว่าเย่จิ่งอวี้เป็นทรราช ฝ่าบาททรงงานปกครองบ้านเมืองอย่างหนัก แม้ว่าพระองค์จะทรงปฏิรูปครั้งใหญ่ แต่ก็ทำเพื่อประชาชนในราชวงศ์ต้าโจวเท่านั้น ขณะนี้แผ่นดินสงบสุข มีธัญพืชอุดมสมบูรณ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1535 เหลวไหลจริงๆ

    เสียงเรียกว่าท่านพี่นั้นทำให้เย่จิ่งอวี้ใจอ่อนลงมากโข ความโกรธทั้งหมดพลันหายไปอย่างไร้ร่องรอยในทันทีไม่เช่นนั้นจะทำอะไรได้อีก ภรรยาที่เลือกมาเอง มีแต่ต้องตามใจเองเท่านั้น“เจ้าคนโกหกตัวน้อย กลับไปสามีจะคิดบัญชีเจ้าหนักๆ ถอนกำลังภายในของเจ้าออก สามีจะทำแทนเจ้าเอง ประเดี๋ยวจะทำร้ายลูกในท้องเอา”เสียงของเย่จิ่งอวี้เชื่อมโยงเป็นเส้น ไหลผ่านกระทบโสตประสาทของอินชิงเสวียนคำต่อคำอย่างแจ่มชัดนางยกมุมปากขึ้น เผยเป็นรอยยิ้มภาคภูมิใจเมื่อสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของเย่จิ่งอวี้ นางจึงเปิดโสตประสาท เหตุผลที่ขอให้เย่จิ่งอวี้ช่วย ก็เพราะว่ากำลังภายในในร่างกายของนางซับซ้อนเกินไป ยากต่อการควบคุม ในงานที่ละเอียดอ่อนเช่นนี้ จะให้เกิดข้อผิดพลาดไม่ได้เด็ดขาดเย่จิ่งอวี้ไม่เหมือนกัน เขาบำเพ็ญตบะกำลังภายในของหอแห่งเสียงศักดิ์สิทธิ์ ทั้งยังประสานพลังแห่งฟ้าดิน แม้ว่าอินชิงเสวียนจะมีพลังลมปราณของหลายสำนัก แต่ก็ไม่สามารถเทียบกับกำลังภายในอันบริสุทธิ์และทรงพลังของฮ่องเต้ได้ในชั่วพริบตา กำลังภายในดุจธารานิ่งลึกหลั่งไหลเข้ามาจากด้านนอกประตู เหมือนโลกลึกล้ำ โอบกอดและยืดหยุ่น บรรยากาศที่มืดมนในห้องโถงคล้ายจะถูก

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1534 ท่านพี่ช่วยข้าได้ไหม

    “ฟางรั่วเข้าวัง?”เย่จิ่งอวี้หยุดฝีเท้าหลี่เต๋อฝูโค้งคำนับและพูดว่า “กระหม่อมถามองครักษ์ที่เฝ้าหน้าประตูวังแล้ว แม่นางฟางรั่วเข้ามาเมื่อสามชั่วยามที่แล้ว”เจวี๋ยอิ่งคุกเข่าลงและพูดว่า “กระหม่อมเห็นฟางรั่วเข้าไปในตำหนักจินอู๋ แต่ไม่เห็นนางและฮองเฮาออกมา”เย่จิ่งอวี้หรี่ตาลงเล็กน้อย สายตาคล้ายจะสดใสและมืดมน กำลังตกอยู่ในอาการครุ่นคิดด้วยวรยุทธ์ของฟางรั่ว ไม่มีทางเป็นไปได้ที่จะทำอันตรายต่ออินชิงเสวียน นางยังมีใบมีดแห่งมิติอยู่ในมือ แม้ว่าเหล่าเทพเซียนจะลงมาเอง แต่นางก็ยังสามารถต่อสู้ได้จากมุมมองนี้ ควรไม่ใช่การหายตัวไปง่ายๆ นางเรียกฟางรั่วมา ต้องมีเหตุผลอื่นเป็นแน่เจวี๋ยอิ่งโค้งคำนับและถามว่า “ต้องการให้กระหม่อมปิดล้อมพระนคร สืบหาที่อยู่ของฮองเฮาอย่างถี่ถ้วนหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ”เย่จิ่งอวี้เหลือบมองเจวี๋ยอิ่ง“ไม่ต้อง หลี่เต๋อฝู ไปเชิญกวนเซี่ยวเข้ามาด้วย”ครู่ต่อมา กวนเซี่ยวก็วิ่งเหยาะๆ มาถึงประตูตำหนัก ยกเสื้อคลุมขึ้นและคุกเข่าลงกับพื้น“กวนเซี่ยวถวายบังคมฝ่าบาท ฝ่าบาททรง...”เย่จิ่งอวี้ได้ยินเช่นนั้นก็รำคาญ โบกมือห้าม“ตามสบาย เจ้ารู้ไหมว่าทำไมฟางรั่วถึงมาที่วัง”กวนเซี่ยว

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1533 เจ้าน่ะ ยังมีนิสัยดื้อรั้นเหมือนเดิม

    “ในเมื่อเจ้าเตรียมตัวพร้อมแล้ว เช่นนั้นก็ตามข้าไปที่อื่น”อินชิงเสวียนดีดปลายเท้าขึ้น ร่างนั้นก็กระโดดออกจากตำหนักจินอู๋ ท่วงท่ากิริยาเบาบางและสง่างาม ราวกับเทพธิดาในวังพระจันทร์ที่ทิ้งร่องรอยความงดงามไว้บนโลกมนุษย์ฟางรั่วติดตามอย่างใกล้ชิด พลางชื่นชมในใจอินชิงเสวียนเป็นคนพิเศษจริงๆ!ราวสิบห้านาที ร่างที่สง่างามทั้งสองก็ปรากฏตัวขึ้นในตำหนักฉือหนิงหลังจากไทเฮาสิ้นพระชนม์ สถานที่แห่งนี้ก็ว่างเปล่า ขณะนี้มีไท่เฟยและไท่ผินเพียงไม่กี่คนที่เหลืออยู่ในวัง ที่พักอาศัยมีมากมาย เหตุผลที่อินชิงเสวียนเลือกสถานที่นี้ ก็เพราะเย่จิ่งอวี้จะไม่มาจากนั้นก็นึกในใจ ครั้นแล้วถังไม้ขนาดใหญ่ก็ปรากฏขึ้นตรงหน้า และในพริบตาเดียว มันก็เต็มไปด้วยน้ำพุวิญญาณที่ใสสะอาด“เข้าไปสิ สิ่งนี้สามารถรับรองความปลอดภัยของเจ้าได้ในระดับสูงสุด”“เพคะ”ฟางรั่วก้าวเข้าไปในถังโดยไม่ลังเลใดๆ แม้เป็นฤดูหนาว น้ำในถังนี้กลับไม่เย็น แต่เต็มไปด้วยความอบอุ่นที่ปกคลุมผิวหนังและเส้นลมปราณทั้งหมดของนางอินชิงเสวียนตามเข้ามา จากนั้นนั่งตรงข้ามนางแม้ว่าจะเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น น้ำพุวิญญาณก็สามารถรับรองความปลอดภัยในชีวิตขอ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1532 คืนชีวิตให้ท่านแล้วจะเป็นไร

    “เจ้าลุกขึ้น ข้าหมายถึงอาจจะทำได้ แต่จะมีโอกาสฟื้นตัวได้มากเพียงใด ข้าก็ไม่แน่ใจ เรื่องนี้ เจ้าควรปรึกษากับกวนเซี่ยวก่อนดีกว่า ถึงอย่างไรเรื่องนี้ก็ไม่ได้เกี่ยวกับเจ้าเท่านั้น แต่ยังเกี่ยวกับเขาด้วย”อินชิงเสวียนพยุงฟางรั่วด้วยมือทั้งสองข้าง และอธิบายข้อดีข้อเสียฟางรั่วพยักหน้า“ข้าเข้าใจ เพียงแต่ สุขภาพของฮองเฮา”อินชิงเสวียนท้องโตขนาดนี้ หากมีอะไรผิดพลาดขึ้นมา นางไม่สามารถรับผิดชอบไหวอินชิงเสวียนยิ้มละไม“ร่างกายของข้าแข็งแรงมาก ไม่เป็นไร เจ้าคิดดีแล้วก็มาหาข้าที่วังหลวงได้เลย”“เพคะ”ขณะที่กำลังคุยกัน ทั้งสองคนก็เดินไปที่แท่นประลองข้างๆ แล้วเห็นเด็กหญิงคนหนึ่งอายุสิบห้าหรือสิบหกปี ถือดาบคู่อยู่ในมือ กระโดดขึ้นลงด้วยท่าทางที่เบาและกล้าหาญ บีบชายที่อยู่ตรงข้ามหลังให้ล่าถอยทีละก้าว จนตกแท่นประลอง ล้มลงต่อหน้าผู้ชม อินชิงเสวียนอดไม่ได้ที่จะชื่นชมมัน“ทำได้ดีมาก!”ใบหน้าของฟางรั่วแสดงถึงความภาคภูมิใจ“เด็กหญิงคนนี้ชื่อหลิวซู่เยว่ เมื่อก่อนเป็นลูกสาวของหัวหน้าคณะละคร นางมีทักษะการต่อสู้อยู่บ้าง หลังจากที่บิดาเสียชีวิต นางไม่สามารถดูแลคณะละครได้ จึงมาที่เมืองหลวง เข้ามาเรี

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status