แชร์

บทที่ 1470 หุ่นเชิดพิษ

ผู้เขียน: ม่อเยี่ยน
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-11-29 16:01:04
ทั้งสองทะยานร่างไต่ขึ้นไปบนยอดเขาอย่างรวดเร็ว ลมปราณนั้นเป็นเหมือนตาข่ายไร้รูป ที่ไหลทะลักลงมาจากยอดเขาซ้ำแล้วซ้ำเล่า เกี่ยวกระหวัดพันเข้าหาคนทั้งสอง

ลั่วสุ่ยชิงเหวี่ยงกระบี่ตลอดทาง เพื่อตัดพลังที่กระจัดกระจายออกมาเหล่านั้น อินชิงเสวียนตามหลังนางไปติดๆ คอยระวังภัยรอบด้านอยู่เสมอ

บนภูเขาลูกนี้ นางไม่รู้สึกถึงลมปราณของมนุษย์ผู้ใด แต่พลังนี้กลับมีอยู่จริงอย่างยิ่ง

เมื่อเห็นว่ายังอีกหลายร้อยเมตรกว่าจะถึงยอดเขา อินชิงเสวียนจึงเอื้อมมือคว้าแขนเสื้อของลั่วสุ่ยชิง

“นี่ใช่ค่ายกลหรือไม่ ระวังจะถูกหลอก?”

ลั่วสุ่ยชิงหยุดฝีเท้า ขมวดคิ้วและพูดว่า “ข้าไม่เคยเห็นค่ายกลเช่นนี้มาก่อน”

“เช่นนั้นก็ต้องเป็นคน”

ผู้ที่มีกำลังภายในที่แข็งแกร่งเช่นนี้ ต้องเป็นชิงฮุยแน่ๆ

อินชิงเสวียนมีความคิดนี้อยู่ในใจ แต่ไม่ได้พูดออกไป พวกนางตามหามาหลายวันแล้ว ไม่คิดว่ามันจะง่ายขนาดนี้

ลั่วสุ่ยชิงยกกระบี่ยาวในมือขึ้นสูงอีกเล็กน้อย

“จะเป็นคนหรือค่ายกลก็ช่างเถอะ ในเมื่อมาแล้ว ก็ต้องขึ้นไปดู”

“ได้”

อินชิงเสวียนเดินตามหลังลั่วสุ่ยชิงห่างห้าก้าว เวลาในการฟื้นฟูของใบมีดทะมึนแห่งมิติสิ้นสุดลงแล้ว ถ้าเป็นชิงฮุยจริง นางก็ส
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1471 ไสยศาสตร์

    อินชิงเสวียนออกมาจากมิติทันที และต่อสู้กับชายคนนี้พร้อมกับลั่วสุ่ยชิง อย่างไรก็ตาม พลังของชายคนนี้ก็เหมือนกับน้ำที่ไหลลงสู่แม่น้ำหลายร้อยสาย ที่มันไหลบ่าออกมาไม่หยุด ถึงแม้จะใช้กำลังของทั้งสองคนรวมกัน ก็ยังไม่สามารถเอาชนะได้เมื่อเห็นว่าต่อสู้มานานแล้วยังไม่สามารถเอาชนะได้ ลั่วสุ่ยชิงก็ขมวดคิ้วและพูดว่า “หาทางโจมตีเขาบนที่นั่งนั้น ข้าเคยได้ยินเสด็จพ่อบอกว่าพิษนี้แพร่กระจายผ่านดอกไม้ พืช และต้นไม้บนภูเขา มีเถาวัลย์มากมายพันอยู่รอบตัวของเขา ต้องอาศัยการดูดซับพลังงานจากมันแน่ๆ”อินชิงเสวียนมองไปที่คนผู้นั้นด้วยความตกใจ“มีเรื่องแปลกๆ แบบนี้ด้วยรึ เป็นไปได้ไหมที่พิษจะซ่อนอยู่ในดอกไม้ ต้นไม้ และเถาวัลย์เหล่านี้”“เจ้าพูดถูก วิชานี้สูญหายไปนานแล้ว ข้าเคยอ่านเรื่องนี้ในตำราของราชวงศ์เท่านั้น คิดไม่ถึงว่าจะมีคนสามารถทำซ้ำได้อย่างสมบูรณ์แบบ”ลั่วสุ่ยชิงเคยเห็นวิชาต้องห้ามของเฟยเหยาหลายครั้ง ทำให้นางจำต้องคิดมาก ชาวเฟยเหยาที่สามารถอยู่รอดได้จนถึงทุกวันนี้ นอกจากเซี่ยอานซื่อและชิงฮุยแล้ว ก็มีแค่นาง ตอนนี้เซี่ยอานซื่อเสียชีวิตแล้ว เช่นนั้นก็เหลือเพียงชิงฮุยเท่านั้น เขาไม่ใช่บุคคลสำคัญในราชว

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-30
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1 คุณแม่จากต่างมิติ

    เสียงฟ้าร้องดังกระหึ่ม มาพร้อมอัศนีที่เล่นโลดบนผืนนภาพายุฝนกระหน่ำสาดไปทั่วทั้งตำหนักวังเย็น ประตูไม้ที่แต่เดิมก็ปิดไม่สนิทอยู่แล้ว ชนกระแทกกันอย่างแรงจนเสียงดังสนั่น สาวใช้ในชุดเสื้อผ้าขาดเก่าๆ ใช้ร่างกายตนเองดันประตูไว้อย่างสุดชีวิต พร้อมกับน้ำตาที่ไหลหลั่งอย่างห้ามไม่อยู่เจ้านายใกล้จะคลอดเต็มที ทว่าสภาพอากาศตอนนี้กลับทั้งลมแรงทั้งฝนตกไฉนสวรรค์จึงใจร้ายเฉกเช่นนี้ยายเฒ่าที่ยืนอยู่ข้างขอบเตียงก็ดวงตาแดงก่ำเช่นกันพูดด้วยน้ำเสียงสะอื้นว่า “พระสนม ศรีษะทารกใกล้ออกมาแล้ว ขอเพียงพระองค์ออกแรงอีกนิด ทารกก็จะออกมาแล้ว”บนเตียงมีหญิงสาวใบหน้าซีดขาวราวกับกระดาษผู้หนึ่งนอนราบอยู่ ใบหน้าสวยได้รูปเต็มไปด้วยเม็ดเหงื่อ และท้องที่กลมโตก็เด่นสะดุดตาเป็นอย่างมากเธอใช้กัดริมฝีปากตัวเองอย่างแรง นิ้วมือจิกกับขอบเตียงจนเปลี่ยนเป็นสีขาวซีด เส้นเลือดบนหน้าผากก็ปูดโปนชัดเจนทว่าเพียงเสี้ยววินาทีหญิงสาวก็หมดแรงยายหลี่รีบจับมือเธอเอาไว้ และพูดอย่างยากเย็น “พระสนม โปรดพยายามอีกหน่อยเพคะ ขอเพียงคลอดพระโอรส บางทีพวกเราอาจจะได้ย้ายออกจากวังเย็นก็ได้ ใต้เท้าเองก็จะสามารถกลับเมืองหลวงได้แล้ว”หญิงสาว

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-29
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 2 พระสนมดูแปลกๆ

    อินชิงเสวียนแก้มแดงด้วยความเขิน ตนเองยังไม่มีแม้แต่แฟนหนุ่ม อยู่ดีๆ บอกให้เธอให้นมทารก ไม่ว่าอย่างไรก็รู้สึกแปลกๆ แต่พอเห็นทารกน้อยร้องไห้จนหน้าแดงก่ำ ก็ทนใจร้ายไม่ลง เธอรับทารกน้อยมาด้วยความระวัง กลัวจะเผลอทำเด็กน้อยเจ็บ แต่วินาทีต่อมาก็ตกอยู่ในสถานการณ์น่าอึดอัดทันที เพราะเจ้าของร่างเดิมไม่มีน้ำนมเด็กน้อยดูดดุนไปสักพัก แต่ไม่มีอะไรเข้าปากเลย ทันใดนั้นมือน้อยๆ กำแน่นแล้วเริ่มร้องไห้ ขาเล็กๆ ทั้งสองเตะไปมาราวกับกำลังระบายความไม่พอใจที่มีออกมายายหลี่รีบอุ้มทารกน้อยกลับไป กล่อมเด็กน้อยไปพลางและพูดด้วยความร้อนใจ “ทีนี้ควรจะทำอย่างไรดี พระสนมไม่มีน้ำนม ผู้ใหญ่อย่างเราอดบ้างหิวบ้างไม่เป็นไร แต่องค์ชายยังเด็กขนาดนี้ จะทนไหวได้อย่างไรกัน”เด็กน้อยร้องไห้จนหอบเหนื่อย ทำให้อินชิงเสวียนก็เริ่มร้อนใจขึ้นมาด้วย แต่เมื่อนึกขึ้นได้ว่าในช่องว่างมีภารกิจที่เก็บคะแนนได้ จึงพูดขึ้นทันที “อวิ๋นฉ่าย เจ้าไปข้างนอกเก็บต้นหญ้ามาให้ข้าต้นหนึ่ง”อวิ๋นฉ่ายชะงัก นี่พระสนมร้อนใจจนสับสนเสียแล้วหรือ เก็บต้นหญ้ามาจะมีประโยชน์อะไร?เสียงร้องเด็กน้อยดังสนั่น อินชิงเสวียนก็รู้สึกว้าวุ่นในใจตาม พูดด้วยเสียงที่ด

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-29
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 3 น้ำพุเซียน

    พระสนมในอดีตเป็นคนอ่อนโยน แต่เจ้านายในตอนนี้ให้ความรู้สึกที่ค่อนข้างเย็นชา และที่พวกเธอไม่เข้าใจมากที่สุดก็คือ สิ่งของแปลกๆ เหล่านี้ได้มาจากที่ไหนอินชิงเสวียนเองก็ปวดหัวไม่แพ้กัน เพราะไม่คิดว่าเรื่องราวในนิยายจะเกิดขึ้นกับตัวเองตัวเธอยังเป็นแค่เด็กน้อยที่ยังเรียนไม่จบมหาลัยเลยด้วยซ้ำ ตอนนี้นอกจากต้องเลี้ยงลูกแล้ว ยังต้องเอาชีวิตรอดในวังเย็นเช่นนี้ โจทย์นี้จะยากเกินไปสำหรับเธอแล้วหรือเปล่าโชคยังดีที่สวรรค์ยังมอบโกลด์ฟิงเกอร์*ในตำนานให้เธอ เพียงแค่นึกคิด เธอก็จะเข้าไปในช่องว่างอินชิงเสวียนใช้แรงขุดหลุมเล็กๆ จำนวนหนึ่ง จากนั้นก็นำเมล็ดข้าวสาลี แตงกวาและมะเขือเทศปลูกลงไป ทันใดนั้นก็มีการแจ้งเตือนปรากฏขึ้นตรงหน้าเธอรดน้ำด้วยน้ำพุวิญญาณหรือไม่ไม่ต้องคิดมากกับคำถามนี้เลย เธอเลือกตอบตกลงทันที ทันใดนั้นน้ำจากน้ำพุวิญญาณก็ลอยมารดพืชที่ปลูกไว้อย่างแม่นยำ จากนั้นก็เกิดเรื่องที่ทำให้อินชิงเสวียนต้องตะลึงเมล็ดพันธุ์ที่เพิ่งปลูกไปเมื่อสักครู่งอกเงยและเติบโตให้เห็นกับตา และเพียงพริบตาเดียวก็กลายเป็นสวนเขียวขจีสมแล้วที่เป็นน้ำพุวิญญาณ!อินชิงเสวียนดีใจยกใหญ่ จึงรีบปลูกเพิ่มอีก และเลือก

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-29
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 4 เจ้าหมาน้อย

    ยายหลี่รู้สึกซาบซึ้งอย่างมาก โค้งตัวคำนับและพูดว่า "บ่าวทราบแล้ว แต่ว่าเราควรจะตั้งชื่อให้พระโอรสก่อนไหมเพคะ"เมื่อคิดถึงผู้ชายใจร้ายใจดำคนนั้น อินชิงเสวียนก็รู้สึกเย้ยหยัน"ชื่อว่าหมาน้อยแล้วกัน ชื่อหยาบเลี้ยงโตง่าย"อวิ๋นฉ่ายเอามือปิดปาก แล้วหัวเราะพรวดออกมา"พระสนม มีชื่อแบบนี้ที่ไหนกันเพคะ"ยายหลี่เองก็หัวเราะตาม ชื่อนี้ไม่น่าฟังมากเกินไปแล้วอินชิงเสวียนกลับเข้าห้องไปแล้ว อย่างไรเสียเด็กน้อยก็เป็นลูกของผู้ชายคนนั้น รอได้ออกจากวังแล้ว ค่อยตั้งชื่อใหม่ให้เด็กน้อยแล้วกันตอนนี้เธอก็ไม่อยากเสียเวลาคิดเรื่องนี้ด้วยกลับมาถึงห้อง อินชิงเสวียนก็เข้าไปในช่องว่างอีก เธอดื่มน้ำพุวิญญาณเล็กน้อย แล้วเริ่มเพาะปลูกต่อพื้นที่ในช่องว่างไม้ใหญ่นัก คงราวๆยี่สิบร่องแปลง แต่ละร่องแปลงอย่างมากสุดก็ยาวแค่ยี่สิบเมตร อินชิงเสวียนปลูกผักไปสองแปลง ส่วนที่เหลือเธอปลูกข้าวสาลีตอนที่กลับออกมา ท้องฟ้าก็มืดสนิทแล้วอินชิงเสวียนออกไปดูข้างนอก ก็พบว่ายายหลี่กับอวิ๋นฉ่ายนอนหลับไปแล้วเจ้าหมาน้อยก็เป็นเด็กดีเช่นกัน ตาคู่เล็กหลับพริ้มปิดสนิทตั้งแต่ที่ใช้น้ำพุวิญญาณชงนม เจ้าหมาน้อยก็เปลี่ยนแปลงไปมากเช

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-29
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 5 โชคลาภพิเศษ

    เจ้าหมาน้อยได้ดื่มนมก็เงียบทันทีมือเล็กๆ สองข้างโบกไปมาด้วยความดีใจ เท้าเล็กๆ สีอมชมพูก็เตะเป็นจังหวะเมื่อมองดูเจ้าตัวเล็กที่หลับตาอยู่กำลังดูดจุกนมด้วยความพยายาม อินชิงเสวียนก็อดที่จะรู้สึกในความอัศจรรย์ของชีวิตไม่ได้เด็กตัวเล็กๆ แค่นี้ยังรู้จักพยายามเอาชีวิตรอด ตัวเองในฐานะแม่(ไม่เจ็บท้อง)ของเขา จะต้องพยายามให้มากยิ่งกว่าขณะเดียวกันก็รู้สึกว่าเจ้าตัวเล็กน่ารักน่าเอ็นดูมาก สนุกกว่าหลานชายตัวเองที่อ้าปากเป็นร้องไห้เยอะเลยเธออยากจะอุ้มเด็กน้อย แต่ก็ไม่กล้านัก เธอรู้สึกว่าเด็กน้อยนั้นแขนก็เล็กขาก็เล็ก เปราะบางเกินไป รอให้โตกว่านี้อีกหน่อยค่อยว่ากันดีกว่ากลับมาถึงห้อง อินชิงเสวียนก็เริ่มครุ่นคิดขึ้นมาถ้าอยากออกจากวังก็ต้องมีเงิน มีเงินถึงสามารถผูกสัมพันธ์กับผู้คนและสร้างเครือข่ายต่างๆ ได้ แต่ตอนนี้เธอไม่มีแม้แต่แดงเดียว นี่เป็นปัญหาที่ใหญ่มากตอนย้ายมาวังเย็นเป็นเหตุการณ์ที่ฉุกละหุกมาก เจ้าของร่างเดิมไม่ทันได้เอาอะไรติดตัวมาเลย แม้แต่เสื้อผ้าสำหรับเปลี่ยนก็ยังไม่มี ดังนั้นอย่าพูดถึงของมีค่าเลย ถ้ามีวิธีที่แลกเงินได้ ก็ไม่จำเป็นต้องกินอาหารบูดเน่าทุกมื้อสิ่งที่เธอปลูกในช่อ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-29
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 6 เลี้ยงลูกไว้ทวงบัลลังก์

    อวิ๋นฉ่ายหัวร้อนขึ้นมาทันที ลุกขึ้นแล้วพูดว่า "ไป๋เสวี่ย ทำไมเจ้ามาที่นี่อีกแล้ว เจ้าแย่งเนื้อของพระสนมไม่ได้นะ"เมื่อมองดูไป๋เสวี่ยที่กำลังเคี้ยวเนื้ออย่างเอร็ดอร่อย อินชิงเสวียนรู้สึกไร้คำจะบรรยายเอามากๆเจ้าสุนัขตัวนี้จมูกไวเกินไปแล้ว"มันจะกินก็ให้มันกินเถอะ เรายังมีเนื้ออีกตั้งเยอะ"อวิ๋นฉ่ายรีบปิดฝาหม้อทันที ป้องกันไป๋เสวี่ยกระโดดขึ้นมาแย่งอีกกลิ่นเนื้อหอมยั่วยวน ทำให้ไป๋เสวี่ยร้อนใจจนเดินวนเป็นวงกลม มันตัดสินใจนั่งลง แล้วเอามือประกบชิดกันเป็นท่าไหว้อินชิงเสวียนอินชิงเสวียนคีบเนื้อให้มันอีกชิ้นหนึ่ง หัวเราะพลางดุว่าไปด้วย "เจ้าตัวแสบ เจ้านายของเจ้าขาดเหลือสิ่งใดกัน เจ้าถึงต้องมาแย่งกินกับพวกข้า"อวิ๋นฉ่ายกินไปด้วย และพูดอ้ำอึ้งไปด้วยว่า "ต้องเป็นเพราะเนื้อที่ฝ่าบาทให้ไม่หอมเท่าของพวเราแน่ๆ เลย พระสนม มันอร่อยมากจริงๆ โรตีก็อร่อยเพคะ"เมื่อเห็นยัยหนูยิ้มจนตาหยี อินชิงเสวียนก็อารมณ์ดีมาก"วันหลังพวกเราจะกินของอร่อยทุกวันเลย"ทั้งสามคนกินด้วยตวามไวปานพายุ พริบตาเดียวเนื้อที่ต้มไว้ในหม้อเหลือเพียงไม่มากแล้ว ไป๋เสวี่ยที่อยู่ข้างๆ ก็พลอยได้ลาภปากไปน้อยเช่นกัน มันดีใจจนส่งเส

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-29
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 7 ช่องทางหาเงิน

    ทุกคนต่างก็รู้ว่าเย่จิ่งอวี้รักสุนัขตัวนี้ เหล่าหญิงงามที่เพิ่งเข้าวังต่างก็พยายามเอาอกเอาใจมันเพื่อให้เป็นที่โปรดปราน แต่ไม่ว่าพวกเธอจะใช้วิธีอะไรหลองล่อไป๋เสวี่ย เจ้าสุนัขกลับไม่ยอมใกล้ชิดพวกเธอเลยและเพราะไป๋เสวี่ยมีขนาดตัวใหญ่มาก พวกเธจึงไม่กล้าเข้าใกล้มันมากเช่นกัน เพราะกลัวจะโดนมันกัด คิดไม่ถึงเลยว่าจะมีคนกล้าวาดเขียนบนหน้ามันแบบนี้ หากเป็นฝีมือของหญิงงาม เธอต้องตายแน่คนจำนวนไม่น้อยกำลังรอดูเรื่องสนุกซึ่งรวมถึงหลานสาวแท้ๆ ของไทเฮา ลู่จิ้งเสียน ด้วยซึ่งตอนนี้เธอถูกแต่งตั้งเป็นเสียนเฟย(สนมผู้พร้อมด้วยคุณธรรมปัญญา)แล้วแม้ว่าเธอไม่เคยถูกเย่จิ่งอวี้โปรดปราน แต่ในบรรดาหญิงงามที่มีอยู่เต็มพระราชวังแห่งนี้ เธอก็คือบุปผาที่โดดเด่นที่สุด มีทั้งฐานะและอำนาจ จึงเป็นบุคคลที่เหล่าหญิงงามแย่งกันประจบประแจงเมื่อได้ข่าวเรื่องนี้ ลู่จิ้งเสียนก็หัวเราะด้วยความเยาะเย้ย"ใครหน้าไหนกันที่ไม่ลืมหูลืมตากล้าสบประมาทไป๋เสวี่ยเช่นนี้ คิดจริงๆ หรือว่าทำเช่นนี้แล้วจะสามารถดึงดูดความสนใจของฝ่าบาทได้ ฝันไปเถอะ"ชุ่ยจู๋ที่กำลังนวดขาพูดทันทีว่า "นั่นสิเพคะ ฝ่าบาทออกคำสั่งแล้วว่าหากจับคนๆ นั้นได้จะโบ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-29

บทล่าสุด

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1471 ไสยศาสตร์

    อินชิงเสวียนออกมาจากมิติทันที และต่อสู้กับชายคนนี้พร้อมกับลั่วสุ่ยชิง อย่างไรก็ตาม พลังของชายคนนี้ก็เหมือนกับน้ำที่ไหลลงสู่แม่น้ำหลายร้อยสาย ที่มันไหลบ่าออกมาไม่หยุด ถึงแม้จะใช้กำลังของทั้งสองคนรวมกัน ก็ยังไม่สามารถเอาชนะได้เมื่อเห็นว่าต่อสู้มานานแล้วยังไม่สามารถเอาชนะได้ ลั่วสุ่ยชิงก็ขมวดคิ้วและพูดว่า “หาทางโจมตีเขาบนที่นั่งนั้น ข้าเคยได้ยินเสด็จพ่อบอกว่าพิษนี้แพร่กระจายผ่านดอกไม้ พืช และต้นไม้บนภูเขา มีเถาวัลย์มากมายพันอยู่รอบตัวของเขา ต้องอาศัยการดูดซับพลังงานจากมันแน่ๆ”อินชิงเสวียนมองไปที่คนผู้นั้นด้วยความตกใจ“มีเรื่องแปลกๆ แบบนี้ด้วยรึ เป็นไปได้ไหมที่พิษจะซ่อนอยู่ในดอกไม้ ต้นไม้ และเถาวัลย์เหล่านี้”“เจ้าพูดถูก วิชานี้สูญหายไปนานแล้ว ข้าเคยอ่านเรื่องนี้ในตำราของราชวงศ์เท่านั้น คิดไม่ถึงว่าจะมีคนสามารถทำซ้ำได้อย่างสมบูรณ์แบบ”ลั่วสุ่ยชิงเคยเห็นวิชาต้องห้ามของเฟยเหยาหลายครั้ง ทำให้นางจำต้องคิดมาก ชาวเฟยเหยาที่สามารถอยู่รอดได้จนถึงทุกวันนี้ นอกจากเซี่ยอานซื่อและชิงฮุยแล้ว ก็มีแค่นาง ตอนนี้เซี่ยอานซื่อเสียชีวิตแล้ว เช่นนั้นก็เหลือเพียงชิงฮุยเท่านั้น เขาไม่ใช่บุคคลสำคัญในราชว

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1470 หุ่นเชิดพิษ

    ทั้งสองทะยานร่างไต่ขึ้นไปบนยอดเขาอย่างรวดเร็ว ลมปราณนั้นเป็นเหมือนตาข่ายไร้รูป ที่ไหลทะลักลงมาจากยอดเขาซ้ำแล้วซ้ำเล่า เกี่ยวกระหวัดพันเข้าหาคนทั้งสองลั่วสุ่ยชิงเหวี่ยงกระบี่ตลอดทาง เพื่อตัดพลังที่กระจัดกระจายออกมาเหล่านั้น อินชิงเสวียนตามหลังนางไปติดๆ คอยระวังภัยรอบด้านอยู่เสมอบนภูเขาลูกนี้ นางไม่รู้สึกถึงลมปราณของมนุษย์ผู้ใด แต่พลังนี้กลับมีอยู่จริงอย่างยิ่งเมื่อเห็นว่ายังอีกหลายร้อยเมตรกว่าจะถึงยอดเขา อินชิงเสวียนจึงเอื้อมมือคว้าแขนเสื้อของลั่วสุ่ยชิง“นี่ใช่ค่ายกลหรือไม่ ระวังจะถูกหลอก?”ลั่วสุ่ยชิงหยุดฝีเท้า ขมวดคิ้วและพูดว่า “ข้าไม่เคยเห็นค่ายกลเช่นนี้มาก่อน”“เช่นนั้นก็ต้องเป็นคน”ผู้ที่มีกำลังภายในที่แข็งแกร่งเช่นนี้ ต้องเป็นชิงฮุยแน่ๆอินชิงเสวียนมีความคิดนี้อยู่ในใจ แต่ไม่ได้พูดออกไป พวกนางตามหามาหลายวันแล้ว ไม่คิดว่ามันจะง่ายขนาดนี้ลั่วสุ่ยชิงยกกระบี่ยาวในมือขึ้นสูงอีกเล็กน้อย“จะเป็นคนหรือค่ายกลก็ช่างเถอะ ในเมื่อมาแล้ว ก็ต้องขึ้นไปดู”“ได้”อินชิงเสวียนเดินตามหลังลั่วสุ่ยชิงห่างห้าก้าว เวลาในการฟื้นฟูของใบมีดทะมึนแห่งมิติสิ้นสุดลงแล้ว ถ้าเป็นชิงฮุยจริง นางก็ส

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1469 เสี่ยง

    ณ เพียวเหมี่ยวอิ๋นเฉิง“อวี้เอ๋อร์ เสวียนเอ๋อร์ไปหลายวันแล้ว เราควรส่งคนออกไปตามหาหรือไม่ ที่ไปด้วยคือลั่วสุ่ยชิงที่มีชีวิตอยู่มานับพันปี วรยุทธ์ของนางไม่ได้อ่อนแอเลย ถ้าเกิดนางเปลี่ยนใจกะทันหัน แล้วลงมือกับเสวียนเอ๋อร์...”เซี่ยวอิ๋นหวนกังวลมากเย่จิ่งอวี้กล่าวว่า “ไม่ต้อง นี่เป็นข้อตกลงระหว่างข้ากับเสวียนเอ๋อร์”“อ้อ ตกลงมันเกิดอะไรขึ้นกันแน่”เซี่ยวอิ๋นหวนรู้ว่าคู่รักหนุ่มสาวมีความสัมพันธ์ลึกซึ้ง หากเป็นในอดีต เย่จิ่งอวี้ต้องออกไปตามหาคนอย่างแน่นอน แต่วันนี้ดูเหมือนเขาจะแตกต่างออกไป ดูท่าทางไม่กระวนกระวายเย่จิ่งอวี้ช่วยพยุงแม่ขานั่งลง เทชาหนึ่งแก้วแล้วยื่นให้เขาจะไม่กระวนกระวายใจได้อย่างไร ทุกชั่วยามทุกนาทีทุกวินาที เขาล้วนเป็นห่วงอินชิงเสวียนตลอดเวลาไม่รู้ว่านางอยู่ที่ไหน ไม่รู้ว่านางจะเผชิญปัญหาแบบไหน แต่ตอนนี้ เขาทำได้เพียงเชื่อในตัวนางเท่านั้น“ลั่วสุ่ยชิงซับซ้อนจริงๆ แม้ว่านางไม่อยากเห็นใต้หล้าที่พังทลาย แต่นางอาจไม่ต้องการจัดการกับชิงฮุยจริงๆ เสวียนเอ๋อร์ออกไปตามลำพังกับนางในครั้งนี้ เพราะต้องการทดสอบนางเป็นครั้งสุดท้าย”เซี่ยวอิ๋นหวนเริ่มวิตกกังวลทันที“แล้วถ้าเ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1468 อย่าได้คืบจะเอาศอก

    “สามวันติดแล้ว ที่ข้าสัมผัสลมปราณของชิงฮุยไม่ได้ หรือว่าเขาจะ...”ที่ด้านบนยอดเขา อินชิงเสวียนหยิบโต๊ะพกพาขนาดเล็กและเบาะที่นั่งสองที่นั่งออกมา ซึ่งบนโต๊ะเต็มไปด้วยน้ำผลไม้และอาหารอร่อยแม้จะบอกว่าออกมาตามหาคน แต่ในเมื่อมีปัจจัยที่อุดมสมบูรณ์เช่นนี้ ทำไมต้องไปทนทุกข์ทรมานโดยไม่จำเป็นล่ะนางหยิบนมพุทราจีนหนึ่งแก้วขึ้นมา แล้วยื่นให้ลั่วสุ่ยชิง“ว่ากันว่าถ้ากินพุทราจีนประจำ จะไม่แก่เร็ว มาลองกัน”ลั่วสุ่ยชิงหยิบขวดโยเกิร์ตขึ้นมาจิบ มันมีรสหวานอมเปรี้ยวและรสชาติค่อนข้างดี ในช่วงไม่กี่วันที่ออกมาข้างนอกกับอินชิงเสวียน สรรหาของมาให้นางกินจนเคยปากหมดแล้ว“เจ้าเป็นผู้หญิงที่แปลกจริงๆ จนป่านนี้แล้ว ยังมีรสนิยมสูงแบบนี้ได้อีก”อินชิงเสวียนเม้มปากเป็นรอยยิ้ม“คนก็เหมือนเหล็ก อาหารก็เหมือนเหล็ก ถ้าไม่กินข้าวสักมื้อจะหิวโหย เมื่อมีปัจจัยที่เพียบพร้อมเช่นนี้แล้ว ย่อมไม่ควรทำให้ตัวเองลำบาก”“ในมิติของเจ้า มีทุกอย่างจริงๆ หรือ”ลั่วสุ่ยชิงรู้แล้วว่าอินชิงเสวียนมีมิติมาด้วย จึงอดไม่ได้ที่จะสนใจใคร่รู้อยู่บ้าง“ประมาณนั้น แต่น่าเสียดายที่คนนอกเข้ามาในมิติของข้าไม่ได้ ไม่อย่างนั้นจะได้ให้เจ้าเ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1467 ฉันอยากกลับไป

    อินชิงเสวียนดึงมือออก“คุณจำคนผิดแล้ว ฉันไม่ใช่เพื่อนบ้านเดียวกันของคุณ แต่เป็นลูกสาวของแม่ทัพแห่งต้าโจว อินชิงเสวียน!”“คุณ คือเจ้าของร่างเดิมของอินชิงเสวียน?”เย่จิ่งหลานมองเธอขึ้นๆ ลงๆ ดวงตาเต็มไปด้วยความประหลาดใจ รูปร่างเหมือนกันทุกประการ แต่หากสังเกตให้ดี จะเห็นได้ว่าเพื่อนบ้านเดียวกันของเขามีพลังความมุ่งมั่นที่ไม่ยอมแพ้ ส่วนผู้หญิงตรงหน้าเขาดูอ่อนโยนและอ่อนแอกว่ามากในเวลาเดียวกัน เขาก็รู้ด้วยว่าทำไมเขาถึงดูคุ้นตากับเด็กน้อยคนนี้ ตอนที่ตัวเองเพิ่งข้ามภพไปยังต้าโจว เขาก็มีรูปร่างหน้าตาลักษณะเหมือนแบบนี้เลยความทรงจำก็เหมือนกับคลื่นทะเล เป็นคลื่นที่ซัดมาระลอกแล้วระลอกเล่า ในที่สุดเย่จิ่งหลานก็ค่อยๆ จำทุกสิ่งที่เกิดขึ้นในต้าโจวได้ทุกคนช่วยกันต่อต้านชิงฮุยในหุบเขาเชื่อมเมฆา แต่แล้วเขาก็กลับมาในเวลานี้ และกลับมาโดยที่ร่างกายสมบูรณ์ครบถ้วนเมื่อนึกถึงความชั่วร้ายและความเจ้าเล่ห์เพทุบายของชิงฮุย เย่จิ่งหลานก็รู้สึกสับสนอย่างอธิบายไม่ถูก“หรือว่าผมข้ามภพมาได้เพราะป้ายตราคำสั่งนี้ ผมต้องรีบกลับไปโดยเร็วที่สุด”เมื่อเห็นท่าทางกังวลอย่างกะทันหันของเย่จิ่งหลาน อินชิงเสวียนก็ตระหนัก

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1466 ความปรารถนาในใจสำเร็จแล้ว

    ไม่ว่าซูเยี่ยจะจำอดีตกับเขาหรือไม่ก็ตาม มันก็ไม่สำคัญสำหรับเย่จิ่งหลานอีกต่อไปแล้วสวรรค์ทำให้เขาได้เจอผู้หญิงคนนี้อีกครั้ง อาจเป็นเพราะต้องการให้เขาได้เห็นโฉมหน้าที่แท้จริงของซูเยี่ย ผู้หญิงประเภทนี้ จริงๆ แล้วมันไม่จำเป็นต้องให้เขาเสียเวลาด้วยซ้ำเขาเพิ่งอายุได้ยี่สิบแปดปี อนาคตยังอีกยาวไกล ซูเยี่ยเป็นเพียบใบไหม้ที่ร่วงไปจากชีวิตของเขา ไม่มีความสำคัญอะไรเลยเย่จิ่งหลานกระตุกมุมปากขึ้นยิ้ม ค่อยๆ รู้สึกปลอดโปร่งใจเขาเดินออกจากสวนสาธารณะอย่างช้าๆ และทันใดนั้นก็มีอีกคำถามหนึ่งผุดขึ้นมาใบหน้านี้ไม่ใช่หน้าตาเดิมของเขา ใครเป็นคนทำศัลยกรรมให้เขา?พลังในร่างกาย มาจากไหนกันแน่แล้วผู้หญิงที่อยู่ในหัวของเขา เป็นใครกันแน่หรือว่าเขาฝึกฝนจนสำเร็จเคล็ดวิชาลับบางอย่าง และผู้หญิงคนนั้นคือแก่นวิญญาณของเขา?เย่จิ่งหลานดึงขอบเอวกางเกงของเขาโดยไม่รู้ตัว ไอ้นั่นยังคงอยู่ตรงนั้น ไม่อย่างนั้นเขาคงคิดว่าตัวเองฝึกฝนวิชาจนกลายเป็นตงฟางปุ๊ป้ายในเรื่องกระบี่เย้ยยุทธจักรแล้วแต่การมีสิ่งเหล่านี้จะมีประโยชน์อะไร เอามาใช้กินใช้ดื่มไม่ได้ ตอนนี้ท้องของเขาร้องโครกคราก แต่ไม่มีเงินอยู่ในกระเป๋าเลยขณะที่

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1465 คนแพศยามักจะสำออยแบบนี้แหละ

    ชายคนนั้นหยิบกระดาษทิชชู่ออกจากกระเป๋า เช็ดนิ้วด้วยความรังเกียจ แล้วเดินจากไปโดยไม่หันกลับมามองซูเยี่ยนั่งบนพื้นร้องไห้เสียงดัง ความฝันที่จะแต่งเข้าไปอยู่ในครอบครัวที่ร่ำรวย ได้พังทลายอีกครั้งมือที่มีเห็นข้อต่อเด่นชัดยื่นออกไปต่อหน้าซูเยี่ยซูเยี่ยเงยหน้าขึ้น แล้วก็เห็นใบหน้าหล่อเหลาราวกับดาราทันทีสิ่งที่ทำให้เธอตื่นเต้นยิ่งกว่านั้นคือ ชายคนนั้นสวมเสื้อผ้าแบรนด์ดัง ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเขามีฐานะที่ดีหากสามารถเกาะเกี่ยวลูกเศรษฐีที่ทั้งหล่อทั้งรวยแบบนี้ได้ ถูกตบหน้าแค่ครั้งเดียวจะเป็นไรไป บางทีนี่อาจเป็นความยากลำบากทั้งหมดที่สวรรค์ส่งมาให้ ที่มาอยู่ที่นี่ ก็เพื่อให้ได้เจอกับคนที่ดีกว่าเธอสูดจมูก จับมือนั้นไว้ เพิ่งยืนขึ้นมาได้ครึ่งตัว มือก็คลายออกซูเยี่ยเสียการทรงตัว และล้มลงกับพื้นอีกครั้งเธอมองเย่จิ่งหลานด้วยความประหลาดใจ ไม่เข้าใจว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่เย่จิ่งหลานยกมุมปากขึ้น คุกเข่าลงต่อหน้าเธอ ถามด้วยรอยยิ้มคล้ายไม่ยิ้ม “รู้สึกยังไงที่ถูกทิ้ง?”“อะไรนะ...คุณหมายความว่ายังไง?”ซูเยี่ยถามด้วยเสียงต่ำ ดวงตาสีแดงทั้งคู่ ทำให้เขาดูมีเสน่ห์มากกว่าเมื่อก่อนนี่ไม่ใช่ฉากที่ป

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1464 แพศยาอย่างเธอ

    เย่จิ่งหลานโบกมือ ประตูก็เปิดออกแสงจากด้านนอกประตูส่องเข้าไปในห้องรังสีวินิจฉัย ทุกคนก็เห็นหลี่ไห่ตงนอนอยู่บนพื้นทันที และมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอยภัยนอนระเกะระกะอยู่ข้างๆชายหนุ่มรูปหล่อคนนี้เดินออกไปโดยไม่มีร่องรอยเลือด หรือฝุ่นผงบนร่างกายเลยทุกคนก้าวถอยหลัง มองดูเย่จิ่งหลานด้วยสีหน้าหวาดกลัวเย่จิ่งหลานเดินขึ้นไปที่ลิฟต์โดยไม่หรี่ตามองในช่วงที่เขาถูกบีบให้ออกจากโรงพยาบาลระดับตติยภูมิ แต่ละนาทีแต่ละวินาที เขามักจะจินตนาการถึงการทุบตีหลี่ไห่ตงอย่างรุนแรง ได้ระบายความโกรธ วันนี้ ในที่สุดเขาก็ทำได้แล้ว สำหรับสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต เย่จิ่งหลานไม่อยากคิดอะไรมากเขารีบออกจากโรงพยาบาล มาที่สวนสาธารณะเล็กๆ ใกล้ ๆ มีชายชราคนหนึ่งที่อาบแดดอยู่ เย่จิ่งหลานเหลือบมองเขา และนั่งอีกด้านหนึ่งทั้งสองคนไม่ได้คุยกัน แค่พบกันโดยบังเอิญ ต่างไม่รู้จักกัน และไม่จำเป็นต้องพูดคุยกันเขาค่อยๆ ผ่อนคลายร่างกาย เอนหลังพิงเก้าอี้ หรี่ตาเหมือนที่ชายชราทำ ความอบอุ่นของดวงอาทิตย์ที่ส่องบนร่างกายของเขาช่างทำให้รู้สึกผ่อนคลายจริงๆหลังจากสงบสติอารมณ์ได้แล้ว เย่จิ่งหลานก็คิดถึงเรื่องหนึ่งขึ้นมาพลังลมป

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1463 ฉันชื่อเย่จิ่งหลาน

    ความเจ็บปวดจากไฟฟ้า ทำให้เย่จิ่งหลานกลับมามีสติอีกครั้งหลี่ไห่ตงซ่อนตัวอยู่ข้างหลังเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย เขาไออย่างบ้าคลั่ง และมองไปที่เย่จิ่งหลานด้วยสีหน้าแห่งความเกลียดชัง“ทุบตีมัน ทุบตีมันให้ตาย ตีมันตายแล้วฉันจะรับผิดชอบเอง”เมื่อเห็นว่าเย่จิ่งหลานไม่ขัดขืน เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยก็ยิ่งมีความสุขมากขึ้น กระแสไฟฟ้าสีฟ้าพุ่งใส่ร่างของเย่จิ่งหลาน ทำให้ห้องรังสีวินิจฉัยที่มืดมิดสว่างไสวขึ้นมาเย่จิ่งหลานหลับตา ใช้ประสาทสัมผัสตรวจสอบอย่างระมัดระวัง และยกมุมริมฝีปากขึ้นเล็กน้อยเขาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับร่างกายของตัวเอง แต่สัมผัสได้ ความรุนแรงเท่านี้ไม่สามารถเอาชีวิตเขาได้เลย รู้สึกเหมือนกับถูกแมลงต่อยสองครั้ง ถ้าเขาจะโดนฟ้าผ่า ก็ถือว่าเป็นการได้สัมผัสประสบการณ์ล่วงหน้าเป็นเวลาสิบวินาทีเต็มๆ เขาค่อยๆ ลืมตาขึ้น ดวงตาเรียวแคบของเขาเหมือนถูกรายล้อมไปด้วยงูทองคำพ่นไฟ ดุดันน่าเกรงขาม แม้ในความมืดมิดเช่นนี้ ก็สามารถมองเห็นใบหน้าอันน่าเกลียดของทุกคนได้ชัดเจนเขาอาจจะฆ่าคนไม่ได้ แต่สามารถทุบตีพวกเขาได้ และตราบใดที่พวกเขายังหายใจอยู่ ก็ไม่ถือว่าตายเมื่อนึกถึงสิ่งนี้ เขาก็ค่อ

DMCA.com Protection Status