“ปีศาจชั่วร้ายบังอาจนัก ถ้ากล้าก็แสดงตัวออกมา แม้จะนานเพียงใดข้าก็จะสู้เจ้าแน่นอน”ในใจของเก่อหงยวนหวาดกลัว ทว่าท่าทางกลับไม่ยอมแพ้ นางยืนเท้าสะเอว ชี้ไปที่ท้องฟ้าและตะโกนด่าลั่นศิษย์คนอื่นๆ ชักกระบี่ยาวออกมา มองดูท้องฟ้าด้วยสีหน้าหวาดกลัวคนโบราณขาดความรู้ เชื่อเรื่องเทพเจ้าและผีสางมาโดยตลอด ไม่นางก็มีคนยอมแพ้ทรุดตัวลงร้องไห้“ระหว่างทางมาที่นี่ได้ยินมาว่าชาวโจวสังหารหมู่ชาวเฟยเหยาเมื่อหลายพันปีก่อน กษัตริย์ของพวกเขาต้องกลายเป็นผีมาแก้แค้น ไม่ว่าเราจะแข็งแกร่งแค่ไหน ก็ไม่สามารถเอาชนะผีได้!”“ใช่แล้ว นั่นคือผีร้ายที่อยู่มานับพันปี แม้ว่าเราจะร่วมมือกัน แต่ยังไม่ใช่คู่ต่อสู้!”ความเข้มแข็งทางจิตใจของทุกคนเริ่มหย่อนยาน ทันใดนั้นก็ตกสู่อำนาจสะกดของค่ายกลนี้ พวกเขาสูญเสียการควบคุมอีกครั้ง ดึงกระบี่ยาวออกมา โจมตีไปยังคนรอบตัวอย่างบ้าคลั่งเฮ่อยวนเต็มไปด้วยความโกรธ ตะโกนด้วยเสียงทุ้ม “อย่ามองขึ้นไปบนฟ้า ทุกสิ่งล้วนเป็นภาพลวงตา ในโลกนี้ไม่ผีสางเทวดา หากราชาแคว้นเฟยเหยากลายเป็นผีจริงๆ ทำไมต้องรอถึงพันปีค่อยกลับมาแก้แค้น!”เหมยชิงเกอจึงกล่าวว่า “ทุกคนรวมตัวกัน รวบรวมสติไว้ อย่าให้ค่ายก
“ในที่สุดก็เต็มใจที่จะปรากฏตัวแล้วงั้นรึ ราชาแคว้นเฟยเหยา?”เสียงของอินชิงเสวียนสงบ ไม่แปลกใจหรือขุ่นเคือง ยังเปี่ยมไปด้วยท่วงท่าของมารดาแห่งแคว้นที่ยิ่งใหญ่ลั่วสุ่ยชิงเดินออกจากเงามืด ดวงตาชัดเจน ร่างสูงโปร่ง พร้อมด้วยความกล้าหาญที่ไม่ด้อยไปกว่าบุรุษเพศ“คิดว่าเจ้าคงรู้ตัวตนของข้ามานานแล้ว เช่นนี้แล้ว เหตุใดจึงต้องเสแสร้งพูดจาอ้อมโลกด้วยเล่า”อินชิงเสวียนยิ้มเล็กน้อย“เจ้าพูดผิดแล้ว ไม่ใช่การเสแสร้งพูดจาอ้อมโลก ทว่าตั้งแต่ต้นจนจบ ข้าถือว่าเจ้าเป็นเพื่อน ความใจกว้างและไม่ยึดติดของเจ้า หาได้ยากในหมู่สตรียุคนี้ ด้วยเหตุนี้ ข้าจึงเข้าใจและเห็นใจ ไม่ได้โกรธเคืองที่เจ้าทำเหมือนแมลงเม่าบินเข้ากองไฟ ทำผิดซ้ำแล้วซ้ำเล่า”“ที่ข้าจะฟื้นฟูแคว้นเป็นความผิดอย่างไร”ลั่วสุ่ยชิงจ้องมองนาง กล่าวด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ“เพราะการฟื้นฟูแคว้นไม่ใช่ความรับผิดชอบของเจ้าเพียงผู้เดียว สงครามระหว่างทั้งสองแคว้นเกี่ยวข้องกับชีวิตและความตายของคนนับหมื่น นี่คือการเข่นฆ่าสังหาร”อินชิงเสวียนก้าวไปข้างหน้า ยืนอยู่ตรงข้ามกับลั่วสุ่ยชิง ทั้งสองเป็นสตรีที่งดงามหยาดเยิ้ม ทั้งสง่างามสูงส่ง แต่ละคนมีข้อดีของตัวเอง
“วรยุทธ์ของแคว้นเฟยเหยา ในยุคสมัยที่อยู่ห่างไกลออกไปในอนาคตหลายพันปีของข้า มันเป็นเพียงของเล่นไว้ให้เด็กๆ ออกกำลังกายเท่านั้น ไม่มีอะไรลึกลับเลย”เสียงของอินชิงเสวียนดังออกมาจากหมอกสีดำ ทั้งสบายและสงบลั่วสุ่ยชิงแทบไม่อยากเชื่อเลย นี่เป็นเคล็ดวิชาลับที่มีเพียงราชวงศ์เท่านั้นที่รู้ทันใดนั้น นางก็คิดถึงความเป็นไปได้อีกอย่างหนึ่ง“หรือว่าเจ้ามาจากแคว้นเฟยเหยาด้วย? ถ้าเป็นเช่นนั้น ข้าอยากจะร่วมมือกับเจ้า สร้างแคว้นด้วยกัน ถึงอย่างไรการเป็นฮองเฮานั้นไม่ดีเท่ากับการเป็นฮ่องเต้ด้วยซ้ำ ชีวิต ความตายและเกียรติยศของเจ้า ทั้งหมดขึ้นอยู่กับความคิดของเย่จิ่งอวี้ หากเจ้าเป็นราชาแห่งใต้หล้า ที่กุมอำนาจทั้งโลก ผู้ใดจะกล้าดูหมิ่นเจ้า”หากอินชิงเสวียนได้พบกับลั่วสุ่ยชิงเมื่อหนึ่งปีก่อน นางอาจจะเห็นด้วย อำนาจและความครอบงำแห่งราชา เป็นความฝันสูงสุดของผู้หญิงทุกคนในโลกอย่างไม่ต้องสงสัย!แต่ว่า ตอนนี้แตกต่างออกไปแล้วนางมีความรักต่อดินแดนแห่งนี้ ห่วงใยราษฎรเหล่านี้ ย่อมไม่อาจปล่อยให้ใครมาทำลายมันได้!“ไม่ว่าสถานะของข้าจะเป็นเช่นไร โชคชะตาก็อยู่ในมือของข้าเอง ข้ามั่นใจว่าอาอวี้จะไม่ปฏิบัติต่อข้าเช่น
“ยังไม่ถอยอีก ข้ากำลังคุยกับฮองเฮาต้าโจว ไม่มีที่ว่างให้เจ้าขัดจังหวะ!”ทันใดนั้นเสียงของลั่วสุ่ยชิงก็เย็นชา แขนเสื้อพลิ้วไหว หมอกสีดำก็พุ่งออกมาจากฝ่ามือ ชิงฮุยไม่ขยับ เขาบิดข้อมือเบาๆ หมอกสีดำทั้งหมดก็สลายไปเขามองไปที่ลั่วสุ่ยชิงแล้วพูดเบาๆ“ในเมื่อท่านราชารู้ว่านางคือฮองเฮาแห่งต้าโจว กลับยังคงต้องการปล่อยนางไป จะนำเหล่าทายาทชาวเฟยเหยาที่ล้มตายในสงครามไปไว้ที่ใด”“นี่เป็นเรื่องส่วนตัวระหว่างข้ากับนาง ไม่เกี่ยวอะไรกับแคว้น ยิ่งไม่ต้องการให้เจ้าออกความเห็น ออกไปให้พ้น!”ลั่วสุ่ยชิงซัดฝ่ามือออกไปอีกครั้ง เมื่อครู่เป็นเพียงคำเตือน แต่คราวนี้นางโกรธมาก ประการแรกเป็นเพราะชิงฮุยต่อต้านกระบวนท่าของนางได้ และประการที่สอง ในฐานะขุนนาง ชิงฮุยพูดมากเกินไปชิงฮุยลงมืออีกครั้ง ต่อต้านกระบวนท่าของลั่วสุ่ยชิงดวงตาของลั่วสุ่ยชิงเย็นชา“ชิงฮุย หรือว่าเจ้าต้องการกบฏ?”ชิงฮุยถามกลับ “จะว่าเป็นกบฏได้อย่างไร”ลั่วสุ่ยชิงพูดอย่างเย็นชา “เจ้ากล้าไม่เคารพข้า นั่นแสดงว่าเจ้ากำลังกบฏ!”“กระหม่อมภักดีต่อแคว้นเฟยเหยา เป็นเวลาหลายพันปีที่ถือว่าการฟื้นฟูแคว้นเฟยเหยาเป็นภารกิจมาโดยตลอด นี่แหละคือสิ่งที
“มดเขย่าต้นไม้ ช่างไม่ประเมินความสามารถของตนเลย ไม่ว่าพวกเจ้าจะต่อต้านอย่างไร ก็ไม่สามารถหลีกหนีชะตากรรมที่จะเป็นคนพิการได้ หากสงบสติอารมณ์แต่โดยดี อาจรู้สึกดีขึ้นบ้างก็ได้”เสียงของชิงฮุยดังขึ้นอีกครั้ง น้ำเสียงเรียบนิ่ง ไม่มีแววโกรธเคืองเลย กลับเจือไปด้วยความสงสารเล็กน้อยด้วยซ้ำไม่มีใครสามารถจินตนาการได้ว่า บุคคลเช่นนี้ จะเป็นผู้บงการอยู่เบื้องหลัง ตอนที่อินชิงเสวียนพบเขาครั้งแรกที่เมืองหลวง นางคิดเพียงว่าเขาเป็นนักพรตเต๋าน้อยผู้บริสุทธิ์ผุดผ่อง ไม่คาดคิดว่าจะมีความลับที่ยิ่งใหญ่ และกลอุบายสูงมากเช่นนี้เม็ดเหงื่อได้ปรากฏขึ้นบนจมูกของลั่วสุ่ยชิงเป็นชั้นบางๆ นางพยายามฝืนกำลังภายในของตัวเองจนสุดกำลัง ถามด้วยน้ำเสียงเย็นชา “เคล็ดวิชาลับเช่นนี้ เจ้าเรียนมาจากไหน”ชิงฮุยพูดช้าๆ “แน่นอนว่าราชาพระองค์เก่าถ่ายทอดให้”ลั่วสุ่ยชิงกัดฟันแล้วพูดว่า “ในเมื่อเจ้าเคารพท่านพ่อของข้าในฐานะราชาแคว้น แต่กลับทำร้ายข้า สมควรตายจริงๆ”“ถ้าองค์หญิงเต็มใจฟื้นฟูแคว้นอย่างเต็มที่ กระหม่อมจะไม่กล้าไม่เคารพแม้แต่น้อย แต่จะทำเช่นไรได้ในเมื่อองค์หญิงยังมีความเมตตาแบบสตรี ได้รับอิทธิพลจากฮองเฮาต้าโจวซ้ำแล้ว
อินชิงเสวียนเงยหน้าขึ้นมอง“ข้าจะมีความลับอะไร ถึงทำให้ชาวเฟยเหยากังวลในตัวข้า”ชิงฮุยกล่าวว่า “ตัวอย่างเช่น เหตุใดกำลังภายในของเจ้าจึงเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และมิติวิเศษในตัวของเจ้า...แม้ว่าข้าจะไม่รู้ว่ามันคืออะไร แต่ก็สามารถรับรู้ได้ บางทีสิ่งเหล่านี้ อาจเพียงพอที่จะส่งผลกระทบต่อโชคชะตา แคว้นเฟยเหยารอมาเนิ่นนาน การต่อสู้ครั้งนี้จะต้องประสบความสำเร็จ จะต้องไม่มีคำว่าล้มเหลว!”อินชิงเสวียนเม้มริมฝีปากหัวเราะเบาๆ “ในเมื่อเจ้ารู้ว่ามันเป็นความลับ ข้าจะบอกเจ้าได้อย่างง่ายดายได้อย่างไร เว้นแต่เจ้าจะเต็มใจที่จะปล่อยข้าไป ข้าอาจจะเต็มใจที่จะพิจารณาก็ได้”ชิงฮุยก็ยิ้มเช่นกัน“ไม่เป็นไร ข้ามีความอดทนมากพอ”เมื่อเห็นว่าการสนทนาไม่เป็นไปด้วยดี อินชิงเสวียนก็หลับตาอีกครั้ง ไม่พูดอะไรอีก นางแค่หวังว่าชิงฮุยจะจากไปโดยเร็วราวสามสิบนาที บริเวณโดยรอบกลับมาสงบ แต่ใบหน้าของลั่วสุ่ยชิงกลับซีดเซียวมากขึ้น มีชั้นเหงื่อบางๆ ไหลออกมาบนหน้าผากของนาง“ลั่วสุ่ยชิง เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง”อินชิงเสวียนถามด้วยเสียงแผ่วต่ำกำลังภายในของนางก็สูญเสียไปเช่นกัน แต่ไม่ได้รวดเร็วเช่นนั้น เพื่อไม่ให้ลั่วสุ่ยชิงและ
“เป็นพวกเจ้านักพรตจมูกวัวอีกแล้ว ข้ามีธุระที่ต้องทำ ไม่มีเวลาทะเลาะกับพวกเจ้า ออกไปให้พ้นทาง ถ้ามีอะไร ก็ให้นักพรตเทียนชิงมาหาข้าเอง”เย่จิ่งหลานร้อนใจดั่งไฟเผา ย่อมไม่อยากมีปัญหามากขึ้นอยู่แล้วหากไม่นับว่าอินชิงเสวียนกับเขาเป็นคนที่ข้ามภพมาเหมือนกัน ลำพังแค่ในราชวงศ์ต้าโจว นางก็มีบทบาทสำคัญเช่นกันก่อนที่จะมาถึงเทือกเขาเชื่อมเมฆา เย่จิ่งหลานยังสามารถแยกตัวเองออกจากผู้คนในยุคนี้ หลังจากนั้นเขาก็รู้สึกได้ว่าเขาได้รวมตัวเข้ากับราชวงศ์ที่แปลกประหลาดนี้อย่างช้าๆ ทำให้เกิดความรู้สึกแปลกๆ และเกิดความรู้สึกของการเป็นเจ้าของโดยอัตโนมัติ จะเอื่อยเฉื่อยเหมือนเมื่อก่อนไม่ได้อีกแล้วนักพรตเต๋าประกบมือไว้อย่างเรียบร้อย ยืนอยู่กลางถนน เสื้อคลุมนักพรตเต๋าสีน้ำเงินเทาดูโทรมเล็กน้อย แต่ถูกซักให้สะอาดมาก ชายเสื้อคลุมถูกลมพัดปลิวว่อน ท่ามกลางสายลมนี้ ทำให้ผู้คนรู้สึกราวกับเป็นเทพเซียนจุติ เขามองเย่จิ่งหลานด้วยสีหน้าสงบ ไม่มีสีหน้าหงุดหงิดแม้แต่น้อย“คุณชายท่านนี้ตามหาใครใช่หรือไม่ อาตมภาพเชี่ยวชาญเรื่องการทำนายดวง อาจช่วยชี้ทางให้ได้”“เจ้าไม่ได้มาตามหาข้างั้นหรือ”เย่จิ่งหลานรู้สึกประหลาดใจเล็
ในภูเขาลั่วสุ่ยชิงทำตามวิธีทำลายค่ายกลที่อินชิงเสวียนบอก และก็เปิดประตูชีวิตได้จริงๆ เมื่อเห็นหมอกสีดำเหนือศีรษะค่อยๆ สลายไป ทั้งสองก็อดไม่ได้ที่จะมองหน้ากัน และทั้งคู่ต่างก็เห็นความสุขในแววตาของกันและกัน“ออกไปจากที่นี่ก่อน”ลั่วสุ่ยชิงจับข้อมือของอินชิงเสวียน เหาะเหินเดินอากาศออกจากค่ายกลไปแสงระเรื่อของดวงอาทิตย์ที่กำลังตกสะท้อนจากภูเขา อีกคืนหนึ่งกำลังจะผ่านพ้นไปอินชิงเสวียนพะวงเรื่องความปลอดภัยของอิ๋นเฉิง ทันทีที่ยืนนิ่ง ก็โค้งคำนับต่อลั่วสุ่ยชิง“ไม่ทราบว่าแม่นางชิงสามารถตามข้ากลับไปที่อิ๋นเฉิงได้หรือไม่ หากค่ายกลเป็นอย่างที่แม่นางพูดจริงๆ ชาวเมืองอิ๋นเฉิงจะต้องตกอยู่ในอันตรายอย่างแน่นอน”กำลังภายในส่วนใหญ่ของลั่วสุ่ยชิงถูกดูดออกไป นางอ่อนแอมาก ใบหน้าที่ซีดเซียวเต็มไปด้วยเหงื่อนางหายใจเข้าลึกๆ พยักหน้าแล้วพูดว่า “ได้ แต่เกรงว่าฝีเท้าในตอนนี้ของข้าจะไม่เร็วพอ”“ข้าจะให้เจ้าขี่หลัง”อินชิงเสวียนคว้าข้อมือของลั่วสุ่ยชิง กำลังจะอุ้มนางไว้บนหลัง ทันใดนั้นนางก็ได้ยินเสียงถอนหายใจเบาๆพวกเขาทั้งสองมองไปข้างๆ พร้อมกัน และทันใดนั้นก็เห็นชิงฮุยปีนขึ้นบันไดด้วยความเสียใจเล็กน้