แชร์

บทที่ 1399 ค่ายกลลึกลับ

ผู้เขียน: ม่อเยี่ยน
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-10-21 16:00:00
ชายคนนั้นเตรียมการป้องกันอย่างเต็มที่ เมื่อถูกโจมตีอย่างกะทันหัน ก็อดไม่ได้ที่จะตกใจ

“หลี่ชิง เจ้าบ้าไปแล้วหรือ ข้าเป็นคน!”

คนที่ลงมือนั้นบังเอิญเป็นศิษย์น้องของเขา ไม่คาดคิดว่าชายชื่อหลี่ชิงจะดึงกระบี่ออกมาอย่างรวดเร็วและมีพลังมากกว่าปกติหลายเท่า คนที่พูดไม่สามารถขัดขวางได้ จึงถูกแทงที่แขนทันที

“ฉึบ”

เขาสูดปากด้วยความเจ็บปวด ตะโกนอีกครั้ง

“หลี่ชิง เจ้าดูให้ชัดเจน ข้าเป็นศิษย์พี่ของเจ้า”

หลี่ชิงดูเหมือนจะคลุ้มคลั่งไปแล้ว เขาไม่ฟังสิ่งที่อีกฝ่ายพูดด้วยซ้ำ เขากวัดแกว่งกระบี่ฟาดฟันไม่เลือกหน้า

“ข้าจะฆ่าพวกเจ้า ข้าจะฆ่าพวกเจ้า!”

มีคนถามอย่างกังวลว่า “เขาถูกพิษหรือเปล่า”

“ไม่หรอก น้ำที่เราดื่มสามารถรักษาพิษได้หลายร้อยชนิด”

ผู้คุมตราเซี่ยวมีความมั่นใจอย่างมากต่อน้ำพุวิญญาณของลูกสะใภ้

เหมยชิงเกอพลิกฝ่ามือชี้ไปที่บุคคลนั้น

“คุมตัวเขาก่อน”

คนอื่นๆ ก็เริ่มลงมือ ซึ่งหลี่ชิงไม่สามารถต่อสู้กับเหล่ายอดฝีมือได้หลายคนอยู่แล้ว เพียงไม่กี่กระบวนท่า เขาก็ถูกกระแทกลงกับพื้น

ขณะที่ทุกคนกำลังจะถอนหายใจด้วยความโล่งอก จู่ๆ มีคนอีกสองคนในฝูงชนก็คลุ้มคลั่งและตะโกนว่ามีผี

เฮ่อยวนลอยขึ้นไปในอากาศ แ
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1400 ติดอยู่ในค่ายกลพลิกวิกฤตอีกครั้ง

    “ปีศาจชั่วร้ายบังอาจนัก ถ้ากล้าก็แสดงตัวออกมา แม้จะนานเพียงใดข้าก็จะสู้เจ้าแน่นอน”ในใจของเก่อหงยวนหวาดกลัว ทว่าท่าทางกลับไม่ยอมแพ้ นางยืนเท้าสะเอว ชี้ไปที่ท้องฟ้าและตะโกนด่าลั่นศิษย์คนอื่นๆ ชักกระบี่ยาวออกมา มองดูท้องฟ้าด้วยสีหน้าหวาดกลัวคนโบราณขาดความรู้ เชื่อเรื่องเทพเจ้าและผีสางมาโดยตลอด ไม่นางก็มีคนยอมแพ้ทรุดตัวลงร้องไห้“ระหว่างทางมาที่นี่ได้ยินมาว่าชาวโจวสังหารหมู่ชาวเฟยเหยาเมื่อหลายพันปีก่อน กษัตริย์ของพวกเขาต้องกลายเป็นผีมาแก้แค้น ไม่ว่าเราจะแข็งแกร่งแค่ไหน ก็ไม่สามารถเอาชนะผีได้!”“ใช่แล้ว นั่นคือผีร้ายที่อยู่มานับพันปี แม้ว่าเราจะร่วมมือกัน แต่ยังไม่ใช่คู่ต่อสู้!”ความเข้มแข็งทางจิตใจของทุกคนเริ่มหย่อนยาน ทันใดนั้นก็ตกสู่อำนาจสะกดของค่ายกลนี้ พวกเขาสูญเสียการควบคุมอีกครั้ง ดึงกระบี่ยาวออกมา โจมตีไปยังคนรอบตัวอย่างบ้าคลั่งเฮ่อยวนเต็มไปด้วยความโกรธ ตะโกนด้วยเสียงทุ้ม “อย่ามองขึ้นไปบนฟ้า ทุกสิ่งล้วนเป็นภาพลวงตา ในโลกนี้ไม่ผีสางเทวดา หากราชาแคว้นเฟยเหยากลายเป็นผีจริงๆ ทำไมต้องรอถึงพันปีค่อยกลับมาแก้แค้น!”เหมยชิงเกอจึงกล่าวว่า “ทุกคนรวมตัวกัน รวบรวมสติไว้ อย่าให้ค่ายก

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-21
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1401 ลั่วสุ่ยชิงตกตะลึง

    “ในที่สุดก็เต็มใจที่จะปรากฏตัวแล้วงั้นรึ ราชาแคว้นเฟยเหยา?”เสียงของอินชิงเสวียนสงบ ไม่แปลกใจหรือขุ่นเคือง ยังเปี่ยมไปด้วยท่วงท่าของมารดาแห่งแคว้นที่ยิ่งใหญ่ลั่วสุ่ยชิงเดินออกจากเงามืด ดวงตาชัดเจน ร่างสูงโปร่ง พร้อมด้วยความกล้าหาญที่ไม่ด้อยไปกว่าบุรุษเพศ“คิดว่าเจ้าคงรู้ตัวตนของข้ามานานแล้ว เช่นนี้แล้ว เหตุใดจึงต้องเสแสร้งพูดจาอ้อมโลกด้วยเล่า”อินชิงเสวียนยิ้มเล็กน้อย“เจ้าพูดผิดแล้ว ไม่ใช่การเสแสร้งพูดจาอ้อมโลก ทว่าตั้งแต่ต้นจนจบ ข้าถือว่าเจ้าเป็นเพื่อน ความใจกว้างและไม่ยึดติดของเจ้า หาได้ยากในหมู่สตรียุคนี้ ด้วยเหตุนี้ ข้าจึงเข้าใจและเห็นใจ ไม่ได้โกรธเคืองที่เจ้าทำเหมือนแมลงเม่าบินเข้ากองไฟ ทำผิดซ้ำแล้วซ้ำเล่า”“ที่ข้าจะฟื้นฟูแคว้นเป็นความผิดอย่างไร”ลั่วสุ่ยชิงจ้องมองนาง กล่าวด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ“เพราะการฟื้นฟูแคว้นไม่ใช่ความรับผิดชอบของเจ้าเพียงผู้เดียว สงครามระหว่างทั้งสองแคว้นเกี่ยวข้องกับชีวิตและความตายของคนนับหมื่น นี่คือการเข่นฆ่าสังหาร”อินชิงเสวียนก้าวไปข้างหน้า ยืนอยู่ตรงข้ามกับลั่วสุ่ยชิง ทั้งสองเป็นสตรีที่งดงามหยาดเยิ้ม ทั้งสง่างามสูงส่ง แต่ละคนมีข้อดีของตัวเอง

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-22
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1402 เจ้าทำให้ข้าผิดหวัง

    “วรยุทธ์ของแคว้นเฟยเหยา ในยุคสมัยที่อยู่ห่างไกลออกไปในอนาคตหลายพันปีของข้า มันเป็นเพียงของเล่นไว้ให้เด็กๆ ออกกำลังกายเท่านั้น ไม่มีอะไรลึกลับเลย”เสียงของอินชิงเสวียนดังออกมาจากหมอกสีดำ ทั้งสบายและสงบลั่วสุ่ยชิงแทบไม่อยากเชื่อเลย นี่เป็นเคล็ดวิชาลับที่มีเพียงราชวงศ์เท่านั้นที่รู้ทันใดนั้น นางก็คิดถึงความเป็นไปได้อีกอย่างหนึ่ง“หรือว่าเจ้ามาจากแคว้นเฟยเหยาด้วย? ถ้าเป็นเช่นนั้น ข้าอยากจะร่วมมือกับเจ้า สร้างแคว้นด้วยกัน ถึงอย่างไรการเป็นฮองเฮานั้นไม่ดีเท่ากับการเป็นฮ่องเต้ด้วยซ้ำ ชีวิต ความตายและเกียรติยศของเจ้า ทั้งหมดขึ้นอยู่กับความคิดของเย่จิ่งอวี้ หากเจ้าเป็นราชาแห่งใต้หล้า ที่กุมอำนาจทั้งโลก ผู้ใดจะกล้าดูหมิ่นเจ้า”หากอินชิงเสวียนได้พบกับลั่วสุ่ยชิงเมื่อหนึ่งปีก่อน นางอาจจะเห็นด้วย อำนาจและความครอบงำแห่งราชา เป็นความฝันสูงสุดของผู้หญิงทุกคนในโลกอย่างไม่ต้องสงสัย!แต่ว่า ตอนนี้แตกต่างออกไปแล้วนางมีความรักต่อดินแดนแห่งนี้ ห่วงใยราษฎรเหล่านี้ ย่อมไม่อาจปล่อยให้ใครมาทำลายมันได้!“ไม่ว่าสถานะของข้าจะเป็นเช่นไร โชคชะตาก็อยู่ในมือของข้าเอง ข้ามั่นใจว่าอาอวี้จะไม่ปฏิบัติต่อข้าเช่น

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-22
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1403 เข้าสู่ค่ายกล

    “ยังไม่ถอยอีก ข้ากำลังคุยกับฮองเฮาต้าโจว ไม่มีที่ว่างให้เจ้าขัดจังหวะ!”ทันใดนั้นเสียงของลั่วสุ่ยชิงก็เย็นชา แขนเสื้อพลิ้วไหว หมอกสีดำก็พุ่งออกมาจากฝ่ามือ ชิงฮุยไม่ขยับ เขาบิดข้อมือเบาๆ หมอกสีดำทั้งหมดก็สลายไปเขามองไปที่ลั่วสุ่ยชิงแล้วพูดเบาๆ“ในเมื่อท่านราชารู้ว่านางคือฮองเฮาแห่งต้าโจว กลับยังคงต้องการปล่อยนางไป จะนำเหล่าทายาทชาวเฟยเหยาที่ล้มตายในสงครามไปไว้ที่ใด”“นี่เป็นเรื่องส่วนตัวระหว่างข้ากับนาง ไม่เกี่ยวอะไรกับแคว้น ยิ่งไม่ต้องการให้เจ้าออกความเห็น ออกไปให้พ้น!”ลั่วสุ่ยชิงซัดฝ่ามือออกไปอีกครั้ง เมื่อครู่เป็นเพียงคำเตือน แต่คราวนี้นางโกรธมาก ประการแรกเป็นเพราะชิงฮุยต่อต้านกระบวนท่าของนางได้ และประการที่สอง ในฐานะขุนนาง ชิงฮุยพูดมากเกินไปชิงฮุยลงมืออีกครั้ง ต่อต้านกระบวนท่าของลั่วสุ่ยชิงดวงตาของลั่วสุ่ยชิงเย็นชา“ชิงฮุย หรือว่าเจ้าต้องการกบฏ?”ชิงฮุยถามกลับ “จะว่าเป็นกบฏได้อย่างไร”ลั่วสุ่ยชิงพูดอย่างเย็นชา “เจ้ากล้าไม่เคารพข้า นั่นแสดงว่าเจ้ากำลังกบฏ!”“กระหม่อมภักดีต่อแคว้นเฟยเหยา เป็นเวลาหลายพันปีที่ถือว่าการฟื้นฟูแคว้นเฟยเหยาเป็นภารกิจมาโดยตลอด นี่แหละคือสิ่งที

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-22
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1404 แดนศักดิ์สิทธิ์

    “มดเขย่าต้นไม้ ช่างไม่ประเมินความสามารถของตนเลย ไม่ว่าพวกเจ้าจะต่อต้านอย่างไร ก็ไม่สามารถหลีกหนีชะตากรรมที่จะเป็นคนพิการได้ หากสงบสติอารมณ์แต่โดยดี อาจรู้สึกดีขึ้นบ้างก็ได้”เสียงของชิงฮุยดังขึ้นอีกครั้ง น้ำเสียงเรียบนิ่ง ไม่มีแววโกรธเคืองเลย กลับเจือไปด้วยความสงสารเล็กน้อยด้วยซ้ำไม่มีใครสามารถจินตนาการได้ว่า บุคคลเช่นนี้ จะเป็นผู้บงการอยู่เบื้องหลัง ตอนที่อินชิงเสวียนพบเขาครั้งแรกที่เมืองหลวง นางคิดเพียงว่าเขาเป็นนักพรตเต๋าน้อยผู้บริสุทธิ์ผุดผ่อง ไม่คาดคิดว่าจะมีความลับที่ยิ่งใหญ่ และกลอุบายสูงมากเช่นนี้เม็ดเหงื่อได้ปรากฏขึ้นบนจมูกของลั่วสุ่ยชิงเป็นชั้นบางๆ นางพยายามฝืนกำลังภายในของตัวเองจนสุดกำลัง ถามด้วยน้ำเสียงเย็นชา “เคล็ดวิชาลับเช่นนี้ เจ้าเรียนมาจากไหน”ชิงฮุยพูดช้าๆ “แน่นอนว่าราชาพระองค์เก่าถ่ายทอดให้”ลั่วสุ่ยชิงกัดฟันแล้วพูดว่า “ในเมื่อเจ้าเคารพท่านพ่อของข้าในฐานะราชาแคว้น แต่กลับทำร้ายข้า สมควรตายจริงๆ”“ถ้าองค์หญิงเต็มใจฟื้นฟูแคว้นอย่างเต็มที่ กระหม่อมจะไม่กล้าไม่เคารพแม้แต่น้อย แต่จะทำเช่นไรได้ในเมื่อองค์หญิงยังมีความเมตตาแบบสตรี ได้รับอิทธิพลจากฮองเฮาต้าโจวซ้ำแล้ว

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-22
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1405 สถานการณ์ที่ยากจะแก้ไข

    อินชิงเสวียนเงยหน้าขึ้นมอง“ข้าจะมีความลับอะไร ถึงทำให้ชาวเฟยเหยากังวลในตัวข้า”ชิงฮุยกล่าวว่า “ตัวอย่างเช่น เหตุใดกำลังภายในของเจ้าจึงเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และมิติวิเศษในตัวของเจ้า...แม้ว่าข้าจะไม่รู้ว่ามันคืออะไร แต่ก็สามารถรับรู้ได้ บางทีสิ่งเหล่านี้ อาจเพียงพอที่จะส่งผลกระทบต่อโชคชะตา แคว้นเฟยเหยารอมาเนิ่นนาน การต่อสู้ครั้งนี้จะต้องประสบความสำเร็จ จะต้องไม่มีคำว่าล้มเหลว!”อินชิงเสวียนเม้มริมฝีปากหัวเราะเบาๆ “ในเมื่อเจ้ารู้ว่ามันเป็นความลับ ข้าจะบอกเจ้าได้อย่างง่ายดายได้อย่างไร เว้นแต่เจ้าจะเต็มใจที่จะปล่อยข้าไป ข้าอาจจะเต็มใจที่จะพิจารณาก็ได้”ชิงฮุยก็ยิ้มเช่นกัน“ไม่เป็นไร ข้ามีความอดทนมากพอ”เมื่อเห็นว่าการสนทนาไม่เป็นไปด้วยดี อินชิงเสวียนก็หลับตาอีกครั้ง ไม่พูดอะไรอีก นางแค่หวังว่าชิงฮุยจะจากไปโดยเร็วราวสามสิบนาที บริเวณโดยรอบกลับมาสงบ แต่ใบหน้าของลั่วสุ่ยชิงกลับซีดเซียวมากขึ้น มีชั้นเหงื่อบางๆ ไหลออกมาบนหน้าผากของนาง“ลั่วสุ่ยชิง เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง”อินชิงเสวียนถามด้วยเสียงแผ่วต่ำกำลังภายในของนางก็สูญเสียไปเช่นกัน แต่ไม่ได้รวดเร็วเช่นนั้น เพื่อไม่ให้ลั่วสุ่ยชิงและ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-23
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1406 พบกับนักพรตเต๋าอีก

    “เป็นพวกเจ้านักพรตจมูกวัวอีกแล้ว ข้ามีธุระที่ต้องทำ ไม่มีเวลาทะเลาะกับพวกเจ้า ออกไปให้พ้นทาง ถ้ามีอะไร ก็ให้นักพรตเทียนชิงมาหาข้าเอง”เย่จิ่งหลานร้อนใจดั่งไฟเผา ย่อมไม่อยากมีปัญหามากขึ้นอยู่แล้วหากไม่นับว่าอินชิงเสวียนกับเขาเป็นคนที่ข้ามภพมาเหมือนกัน ลำพังแค่ในราชวงศ์ต้าโจว นางก็มีบทบาทสำคัญเช่นกันก่อนที่จะมาถึงเทือกเขาเชื่อมเมฆา เย่จิ่งหลานยังสามารถแยกตัวเองออกจากผู้คนในยุคนี้ หลังจากนั้นเขาก็รู้สึกได้ว่าเขาได้รวมตัวเข้ากับราชวงศ์ที่แปลกประหลาดนี้อย่างช้าๆ ทำให้เกิดความรู้สึกแปลกๆ และเกิดความรู้สึกของการเป็นเจ้าของโดยอัตโนมัติ จะเอื่อยเฉื่อยเหมือนเมื่อก่อนไม่ได้อีกแล้วนักพรตเต๋าประกบมือไว้อย่างเรียบร้อย ยืนอยู่กลางถนน เสื้อคลุมนักพรตเต๋าสีน้ำเงินเทาดูโทรมเล็กน้อย แต่ถูกซักให้สะอาดมาก ชายเสื้อคลุมถูกลมพัดปลิวว่อน ท่ามกลางสายลมนี้ ทำให้ผู้คนรู้สึกราวกับเป็นเทพเซียนจุติ เขามองเย่จิ่งหลานด้วยสีหน้าสงบ ไม่มีสีหน้าหงุดหงิดแม้แต่น้อย“คุณชายท่านนี้ตามหาใครใช่หรือไม่ อาตมภาพเชี่ยวชาญเรื่องการทำนายดวง อาจช่วยชี้ทางให้ได้”“เจ้าไม่ได้มาตามหาข้างั้นหรือ”เย่จิ่งหลานรู้สึกประหลาดใจเล็

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-23
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1407 ผู้ช่วยที่คาดไม่ถึง

    ในภูเขาลั่วสุ่ยชิงทำตามวิธีทำลายค่ายกลที่อินชิงเสวียนบอก และก็เปิดประตูชีวิตได้จริงๆ เมื่อเห็นหมอกสีดำเหนือศีรษะค่อยๆ สลายไป ทั้งสองก็อดไม่ได้ที่จะมองหน้ากัน และทั้งคู่ต่างก็เห็นความสุขในแววตาของกันและกัน“ออกไปจากที่นี่ก่อน”ลั่วสุ่ยชิงจับข้อมือของอินชิงเสวียน เหาะเหินเดินอากาศออกจากค่ายกลไปแสงระเรื่อของดวงอาทิตย์ที่กำลังตกสะท้อนจากภูเขา อีกคืนหนึ่งกำลังจะผ่านพ้นไปอินชิงเสวียนพะวงเรื่องความปลอดภัยของอิ๋นเฉิง ทันทีที่ยืนนิ่ง ก็โค้งคำนับต่อลั่วสุ่ยชิง“ไม่ทราบว่าแม่นางชิงสามารถตามข้ากลับไปที่อิ๋นเฉิงได้หรือไม่ หากค่ายกลเป็นอย่างที่แม่นางพูดจริงๆ ชาวเมืองอิ๋นเฉิงจะต้องตกอยู่ในอันตรายอย่างแน่นอน”กำลังภายในส่วนใหญ่ของลั่วสุ่ยชิงถูกดูดออกไป นางอ่อนแอมาก ใบหน้าที่ซีดเซียวเต็มไปด้วยเหงื่อนางหายใจเข้าลึกๆ พยักหน้าแล้วพูดว่า “ได้ แต่เกรงว่าฝีเท้าในตอนนี้ของข้าจะไม่เร็วพอ”“ข้าจะให้เจ้าขี่หลัง”อินชิงเสวียนคว้าข้อมือของลั่วสุ่ยชิง กำลังจะอุ้มนางไว้บนหลัง ทันใดนั้นนางก็ได้ยินเสียงถอนหายใจเบาๆพวกเขาทั้งสองมองไปข้างๆ พร้อมกัน และทันใดนั้นก็เห็นชิงฮุยปีนขึ้นบันไดด้วยความเสียใจเล็กน้

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-23

บทล่าสุด

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1511 กระหม่อมคิดถึงท่าน

    เช้าวันรุ่งขึ้นอินชิงเสวียนออกจากตระกูลอินภายใต้สายตาที่ไม่เต็มใจของทุกคน และผู้ที่คุ้มกันนางกลับวังหลวง ก็คืออินสิงอวิ๋นพี่ชายคนโตเขายังคงหล่อเหลา ทว่านิสัยสุขุมเยือกเย็นมากกว่าปีที่แล้วอินชิงเสวียนเปิดม่านเกี้ยว“พี่ใหญ่ได้เชิญหมอหลวงมาตรวจอาการพี่สะใภ้บ้างหรือยัง”อินสิงอวิ๋นยิ้มอย่างอบอุ่น มองอินชิงเสวียนด้วยสายตาแบบเดียวกับเมื่อก่อน มีความเอาใจใส่เล็กน้อย“หาแล้ว คราวนี้ก็ค่อนข้างดี น้ำพุวิญญาณของเจ้า แทบจะให้พี่สะใภ้ดื่มหมด”อินชิงเสวียนพยักหน้า“ควรเป็นเช่นนี้แล้ว พี่สะใภ้อยู่ไกลบ้าน รอนแรมมาไกลกว่าจะถึงตระกูลอินของเรา เราต้องดูแลนางให้ดีที่สุด อย่าปล่อยให้นางอุดอู้อยู่บ้านทั้งวัน ถ้าท่านมีเวลาว่าง ควรพานางไปเดินเล่นบ่อยๆ คนท้องจะรู้สึกหดหู่โดยไม่รู้ตัว ถ้ามีท่านอยู่ข้างๆ บางทีนางอาจรู้สึกดีขึ้นบ้าง”“อืม คราวนี้แหละ ข้าควรจะหาเวลาได้แล้วจริงๆ”อินสิงอวิ๋นถอนหายใจยาวด้วยความโล่งอก มีหรือที่เขาไม่ต้องการใช้เวลากับเป่าเล่อเอ่อร์ให้มากๆ แต่ในวังหลวงมีเรื่องเกิดขึ้นมากมาย จนเขาไม่กล้าที่จะหย่อนยานตอนนี้ฝ่าบาทและน้องสาวกลับเมืองหลวงแล้ว ก็เหมือนมีกระดูกสันหลัง ทายาทเฟย

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1510 อาหารมื้อครอบครัว

    อินชิงเสวียนคำนับทั้งสองคน นางไม่ได้มาจากรัชสมัยนี้ ไม่เห็นความสำคัญของมารยาทระหว่างกษัตริย์และขุนนาง แต่กลับให้ความสำคัญกับจริยธรรมของมนุษย์แม้ว่านางจะยอมรับเหมยชิงเกอ แต่บุญคุณที่ตระกูลอินเลี้ยงดูเจ้าของร่างเดิมมานานกว่าสิบปี ก็ไม่สามารถลืมได้ หากนางไม่รู้สึกขอบคุณผู้มีพระคุณของตัวเอง แล้วจะพูดถึงการมีใจกว้างใหญ่ไพศาลได้อย่างไร“เป็นพ่อหนึ่งวัน ย่อมเป็นพ่อตลอดไป แม่เลี้ยงก็คือแม่แท้ๆ พวกท่านเหมาะสมแล้ว”อินชิงเสวียนมีรอยยิ้มบนใบหน้า แต่น้ำเสียงกลับไม่มีความลังเลแม้แต่น้อยความรู้สึกห่างเหินเล็กน้อยของอินจ้งนั้นหายไปในทันที จับมือนางแน่นๆ“ดี ดี ลูกสาวคนดี!”ซูหมิงหลานก็หลั่งน้ำตาเช่นกัน แม้ว่านางจะได้รับการยอมรับจากครอบครัวแล้ว แต่หากไม่มีอินชิงเสวียน สถานะนี้ก็ไม่สมบูรณ์ อินหลีที่อยู่ข้างๆ ก็กล่าวโน้มน้าวเบาๆ “ท่านพี่พี่สะใภ้ไม่ต้องร้อง หากมีเรื่องอะไรไว้ค่อยกลับไปพูดที่บ้านเถิด เพื่อป้องกันไม่ให้ประชาชนเข้าใจผิดกันไปใหญ่โต”อินจ้งรู้สึกตัวเพราะคำพูดนี้ เห็นผู้คนที่เอาแต่ยืดคอมองมาทางนี้ เขาก็พยักหน้าโดยเร็ว“ถูกต้อง เรากลับไปคุยกันที่บ้านนะ”อินชิงเสวียนดึงเป่าเล่อเอ่อร

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1509 เข้าสู่เมือง

    ทหารที่อยู่ข้างหน้าเริ่มเข้ามาใกล้มากขึ้นเรื่อยๆ ครั้นแล้วก็มองเห็นชุดเกราะสีแดงรางๆเฉิงเฟิ่งโหลวสะดุ้งเล็กน้อย นี่...อาจเป็นทหารเปลวเพลิงสีชาดของราชาสงครามอาภรณ์ขาวกระมัง?ถ้ามารับเสด็จฮ่องเต้ เหตุใดจึงสวมชุดเกราะ ถืออาวุธหนัก?หรือว่าว่ามีการเปลี่ยนแปลงในเมืองหลวง อ๋องสิบสาม...ก่อกบฏ?มือที่กุมกระบี่ของเฉิงเฟิ่งโหลวสั่นเทา เขาดึงสายบังเหียนออกทันที แม้ว่าเจ้านายกับนายหญิงจะมีทักษะวรยุทธ์สูง แต่มือเดียวสู้มือหลายไม่ได้ ใบหน้าที่อ่อนเยาว์ของเขาดูสิ้นหวัง “ฝ่าบาท เสด็จขึ้นรถม้าเร็วเข้า”เย่จิ่งอวี้หัวเราะเบาๆ แม้ว่าทั่วทั้งโลกจะทรยศเขา แต่เสด็จอาจะไม่มีวันทรยศเขา นี่คือความมั่นใจของเขา การสวมชุดเกราะ ถืออาวุธหนัก ถือเป็นมารยาทสูงสุดของค่ายเปลวเพลิงสีชาดในชั่วพริบตา ทหารม้าขบวนนั้นก็มาถึงเบื้องหน้า พวกเขาควบม้าและเคลื่อนไหวอย่างพร้อมเพรียงกัน จากนั้นแยกออกจากกันเป็นสองทาง เผยให้เห็นร่างที่สวมชุดคลุมสีขาวชายผู้นั้นมีใบหน้าที่หล่อเหลา ท่วงท่าไม่ธรรมดาสามัญ แต่งกายด้วยชุดสีขาวสะอาดราวกับหิมะ และเสื้อผ้าพลิ้วไหวดุจดั่งเทพเซียนเขาพลิกตัวลงจากม้า เดินเร็วๆ ไปที่รถม้า สะบัดเสื้อคล

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1508 กลับสู่เมืองหลวง

    ครึ่งเดือนต่อมา ในที่สุดรถม้าก็มาถึงเมืองหลวงอินชิงเสวียนไม่สามารถทนต่อการโคลงเคลงสั่นสะเทือนได้ นางจึงอยู่ในมิติกับเสี่ยวหนานเฟิงเกือบตลอดเวลาในช่วงเวลาที่อยู่ร่วมกันนี้ นางพบว่าเสี่ยวหนานเฟิงไม่เพียงแต่ฉลาดเท่านั้น แต่ยังเป็นต้นกล้าที่ยอดเยี่ยมในการฝึกฝนวรยุทธ์อีกด้วยอายุยังน้อยไม่เพียงแต่เรียนรู้บทกวีในสมัยถังและซ่ง ยังมีกำลังภายในลึกล้ำน่าประหลาดใจ มือซ้ายสามารถใช้เคล็ดวิชาใจเพียวเหมี่ยวได้ มือขวาใช้เคล็ดวิชาใจตำหนักเทพได้ แม้กระทั่งเรียนรู้วิชาขลุ่ยลวงใจของเจ้าสำนักเซี่ยว อินชิงเสวียนนึกไม่ถึงจริงๆ ว่าช่วงที่นางไม่ได้อยู่กับเสี่ยวหนานเฟิงนั้น เขาได้เรียนรู้วิชามาจากทุกคนรอบตัวเขา“แค่กๆ เจ้า...ชอบฝึกวรยุทธ์หรือเปล่า?”จากมุมมองที่เห็นแก่ตัว อินชิงเสวียนไม่ต้องการให้เสี่ยวหนานเฟิงมีฝีมมือสูงส่งเกินไป ท้ายที่สุดแล้ว ยิ่งมีความสามารถสูง ความรับผิดชอบก็ยิ่งสูงตาม ศาสตร์แห่งราชาต่างหาก คือสิ่งที่เขาควรต้องศึกษาเสี่ยวหนานเฟิงกะพริบตาโตแล้วพูดว่า “ชอบสิ รู้วรยุทธ์ ก็สามารถปกป้องท่านแม่ได้”อินชิงเสวียนกอดลูกชายตัวนุ่มนิ่มและมีกลิ่นหอม แล้วพูดอย่างจริงจัง “ต่อจากนี้ไปสิ่งที่เจ้

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1507 ขอบคุณศิษย์พี่ลิ่น

    ระหว่างเจ้าสำนักเซี่ยวและเจ้าสำนักเฮ่อมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันมาก ทว่าระหว่างเซี่ยวอิ่นหวนและลิ่นเซียวนั้นอยู่ในระดับปานกลาง จนแทบจะไม่มีปฏิสัมพันธ์กันเลยบัดนี้เห็นเขาขวางทาง ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เนื่องจากการตายของศิษย์น้องเฟิ่งอี๋ ทำให้กลายเป็นคนสติเลอะเลือน กระทำการสิ่งใดล้วนไม่ผ่านการใช้ความคิด เป็นเรื่องยากสำหรับคนทั่วไปที่จะเข้าใจทันทีว่าเขามีเจตนาอะไรลิ่นเซียวรู้จักนาง พยักหน้าเบาๆ“เฟิ่งอี๋ตายแล้ว ข้ารู้แล้ว”เซี่ยวอิ่นหวนรู้สึกเจ็บปวดในใจ แต่เดิมก็เจ็บปวดจากการพลัดพรากอยู่แล้ว เมื่อได้ยินเขาพูดถึงศิษย์น้องที่รักดุจน้องสาว หางตาก็เปลี่ยนเป็นสีแดงทันทีริมฝีปากของนางสั่นเทา ลดเสียงลง กดซ่อนความเศร้าไว้ในใจ“ศิษย์พี่ลิ่นควรจะออกมาสู่ความจริงได้แล้ว ถ้าศิษย์น้องอยู่บนสวรรค์มีญาณรับรู้ คงไม่อยากเห็นท่านจมปลักอยู่ที่นี่เพราะนางแน่นอน...”ลิ่นเซียวไม่ต่อคำ แต่พูดต่อว่า “ตาเฒ่าเซี่ยวก็จากไปแล้วเช่นกัน”หัวใจของเซี่ยวอิ่นหวนเจ็บปวดรวดร้าวอีกครั้ง ก้มหน้าสะอื้น“พ่อบุญธรรมเสียชีวิตเพื่อผดุงความยุติธรรมในยุทธจักร ไม่ผิดต่อปณิธานที่ก่อตั้งหอแห่งเสียงศักดิ์สิทธิ์”ลิ่นเซียวย

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1506 เส้นทางที่แตกต่างกัน

    อินชิงเสวียนมอบตั๋วเงินเงินอีกหนึ่งพันตำลึงให้แก่ทั้งสามคน กำชับพวกเขาว่าอย่าใช้ฟุ่มเฟือย หากไม่เจอตัวคน ก็สามารถไปพำนักที่เมืองหลวงได้ทั้งสามพยักหน้าซ้ำๆ ขนของทั้งหมดขึ้นรถม้า และจากไปอย่างมีความสุขอินชิงเสวียนส่ายหัวอย่างช่วยไม่ได้“นิสัยแบบนี้นี่เข้ากับเย่จิ่งหลานได้เป็นอย่างดี”เย่จิ่งอวี้ก็มองไปที่ทั้งสามคน พูดด้วยรอยยิ้ม “ชาวยุทธ์ ก็ควรจะเป็นอิสระไม่ยึดติดอย่างชาวยุทธ์ นี่แหละคือความเป็นตัวของตัวเองที่แท้จริง!”“เช่นนั้นพวกเราก็ควรจากไปอย่างไม่ยึดติดใช่ไหม”อินชิงเสวียนเงยหน้าขึ้น มองไปยังเย่จิ่งอวี้ ทั้งสองตกลงกันไว้ก่อนแล้ว ว่าแทนที่จะรอให้พวกเขาสร่างเมา พลัดพรากจากกันด้วยความเป็นความตาย มิสู้จากไปอย่างเงียบๆ “ข้าเชื่อเมียข้าอยู่แล้ว”เย่จิ่งอวี้ผิวปาก เงาสีขาวสองเงาพุ่งออกมาจากระยะไกล ตามมาด้วยรถม้าอินชิงเสวียนตะโกนอย่างมีความสุข“ไป๋เสวี่ย เสี่ยวไป๋!”ไป๋เสวี่ยกางอุ้งเท้าใหญ่ แล้วกอดเอวของอินชิงเสวียนอย่างเสน่หาเสี่ยวไป๋ก็กลิ้งหน้าถูขาของอินชิงเสวียน ซึ่งเป็นการแสดงความใกล้ชิดกับคนที่หาได้ยากอินชิงเสวียนลูบหัวอันใหญ่โตของไป๋เสวี่ย จากนั้นลูบหัวของเสี่ยวไป๋

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1505 ความรู้สึกที่ไม่สามารถเอ่ยออกมาได้

    เฮ่อซือจวินออกแรงดึงอินชิงเสวียนขึ้นมา แล้วกอดนางไว้ พูดเสียงสะอื้น “เจ้ายอมรับข้า ข้ารู้สึกขอบคุณยิ่งนัก ชั่วชีวิตนี้จะพยายามดูแลสุขภาพของท่านพ่อและน้าเหมยอย่างเต็มที่”อินชิงเสวียนโน้มตัวไปใกล้ใบหน้าของนาง แล้วพูดเสียงอ่อนหวาน “ท่านเป็นพี่สาวต่างแม่ของข้า จะแตกต่างจากพี่สาวแท้ๆ ได้อย่างไร หากท่านอยู่ในอิ๋นเฉิงแล้วรู้สึกเหนื่อยล้า ก็ไปหาข้าที่เมืองหลวงได้ ข้าจะพาท่านท่องเที่ยวให้สำราญใจแน่นอน”เฮ่อซือจวินพยักหน้าโดยเร็ว“ได้ ถ้ามีโอกาส ข้าจะไปหาเจ้าแน่นอน”“สนใจแต่พี่สาวของเจ้าเท่านั้น ไม่ต้องการพี่ชายแล้วหรือ”เฮ่อฉางเฟิงเดินเข้ามาจากประตู สวมเสื้อคลุมใบไผ่สีเขียวที่ขับเน้นให้เขาดูหล่อเหลา สง่า และเป็นวีรบุรุษไม่ธรรมดา“ชิงเสวียนคำนับพี่ใหญ่”อินชิงเสวียนโค้งคำนับ เฮ่อฉางเฟิงก็รีบเอื้อมมือไปช่วยพยุงให้ลุกขึ้น“เจ้ากับข้าเป็นพี่น้อง ไม่ต้องมากพิธี ตั้งใจจะออกเดินทางเมื่อไหร่หรือ”อินชิงเสวียนถอนหายใจ“พรุ่งนี้น่ะ ไม่ว่าเราจะอยู่กี่วันก็ต้องไปอยู่ดี ฮ่องเต้จากเมืองหลวงมานานเกินไปแล้ว ในใจพะวงถึงอยู่ตลอด ถึงเวลาต้องกลับไปดูแลแล้ว”เฮ่อฉางเฟิงก็ตัดใจจากน้องสาวไม่ได้ และยังไม่อ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1504 เศร้าโศกเพราะการจากลา

    ในวันที่สอง สำนักในยุทธ์จักรที่นำโดยเฮ่ออวิ๋นทง ต่างกล่าวคำอำลากับเฮ่อยวนเฮ่อยวนนำลูกศิษย์อิ๋นเฉิงส่งกันไปไกลถึงสิบสิบลี้ ในอิ๋นเฉิง เซี่ยวอิ่นหวนจับมือของอินชิงเสวียน“กลับภูเขาคราวนี้ เกรงว่าจะต้องจัดระเบียบยกใหญ่ ไม่รู้จะได้เจอพวกเจ้าอีกเมื่อไร พวกเจ้าต้องดูแลตัวเองให้ดี ปรึกษาหารือกันทุกเรื่อง หากเผชิญหน้ากับเรื่องใด ต้องพูดมันออกไป อย่าเก็บมันไว้ในใจตัวเอง จะได้ไม่เกิดความขุ่นเคืองสะสมมากขึ้นเรื่อยๆ”นางถอนหายใจแล้วพูดว่า “แม้ว่าแม่จะเคยเป็นกุ้ยเฟย แต่ไม่รู้หลักการปกครองบ้านเมือง ความรุ่งเรืองและความเสื่อมของต้าโจวล้วนขึ้นอยู่กับพวกเจ้าแล้ว ด้วยความสามารถและการเรียนรู้ของเจ้าทั้งสอง เชื่อว่าในอีกไม่กี่ปี ก็จะสามารถนำความรุ่งเรืองมาสู่ต้าโจวได้ ถ้าแม่มีเวลาว่าง จะไปหาพวกเจ้ากับจ้าวเอ๋อร์ที่เมืองหลวงย่างแน่นอน”อินชิงเสวียนจับมือเย่จิ่งอวี้ แล้วพูดอ่อนโยน “ท่านแม่วางใจ ข้ากับอาอวี้จะรักษาตัวให้ดีอย่างแน่นอน”อีกด้านหนึ่ง เสี่ยวหนานเฟิงดึงชายเสื้อของเซี่ยวอิ่นหวนอย่างไม่เต็มใจ“ท่านย่าจะไปแล้วหรือ”เซี่ยวอิ่นหวนกอดเสี่ยวหนานเฟิง จูบใบหน้ากลมจ้ำม่ำของเขา แล้วพูดด้วยความรัก “ใช

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1503 เรื่องราวจบลง

    ลั่วสุ่ยชิงพูดอย่างเย็นชา “แม้แต่เป็นฮ่องเต้ข้ายังไม่สนใจด้วยซ้ำ จะสนใจพระชายาอ๋องได้อย่างไร”“พูดมาก็มีเหตุผล งั้นข้ายังมีที่อื่นที่อยากไป”เย่จิ่งหลานค่อยๆ หยัดกายขึ้นนั่ง หยิบแผนที่ออกมาจากอกเสื้อ“ตอนที่ข้ากำลังเดินทางไปตงหลิว พบว่ามีหลายแคว้นอยู่ใกล้เคียง ทำไมเจ้ากับข้าไม่พยายามพิชิตพวกเขาทั้งหมดล่ะ”ลั่วสุ่ยชิงสาดน้ำเย็นใส่เขาทันที“ตอนนี้เจ้ายังมีความสามารถนั้นอยู่รึ?”“หากเจ้าเต็มใจที่จะบ่มเพาะร่างกายและจิตวิญญาณกับข้า บางทีวรยุทธ์ของข้าอาจจะกลับคืน”ลั่วสุ่ยชิงถูกเขาทำให้โกรธจนกำลังภายในพุ่งสูงขึ้น กระทั่งจุดที่ถูกจี้สกัดได้คลายออก นางตบศีรษะเย่จิ่งหลานทันที“ไร้ยางอาย”“เจ้าหายแล้ว?”เย่จิ่งหลานมีความสุขมาก เขาพยายามคุกเข่า ฝืนยืนขึ้น ร่างกายโงนเงน ล้มลงตรงหน้าลั่วสุ่ยชิง ฉวยโอกาสกอดเอวของนาง“จอมยุทธ์หญิงลั่ว ข้ายืนไม่ไหว โปรดช่วยพยุงข้าด้วย”ใบหน้าของลั่วสุ่ยชิงเปลี่ยนเป็นสีแดง ยกมือขึ้นผลักเขาลงไปที่พื้น เย่จิ่งหลานล้มหงายหลัง เหมือนกับเต่าที่นอนหงายลั่วสุ่ยชิงอดไม่ได้ที่จะหัวเราะงอหาย เมื่อนางหัวเราะมากพอแล้ว ก็ทรุดตัวนั่งลงบนพื้นอย่างเงียบๆ และบ่นว่า “เสด็จ

DMCA.com Protection Status